รู้ทันโรคสตรี กับหมอจูรี่, Bangkok (2025)

17/11/2025

"เดอร์มอยด์ซีสต์" ภัยเงียบที่เจอตอนตรวจสุขภาพ และการผ่าตัดแผลเล็ก
จากโพสต์ที่แล้ว ที่หมอบอกว่า "เดอร์มอยด์ซีสต์" มักไม่มีอาการ...
แต่เราจะมีอาการเมื่อเกิดภาวะแทรกซ้อน (ซึ่งน่ากลัวตรงนี้ค่ะ) เช่น เกิดการบิดขั้ว, ติดเชื้อ หรือถุงน้ำแตก โดยจะมีอาการเตือนดังนี้

• ปวดหน่วงๆ ในท้องน้อย หรือ อุ้งเชิงกราน
• คลำพบก้อนได้ในท้องน้อย
• ปวดท้องเฉียบพลัน (มักเกิดจากการบิดขั้ว, แตก หรือติดเชื้อ)

ด้วยความที่ปกติไม่มีอาการ หลายคนจึงตรวจพบเจอโดยบังเอิญจากการ "ตรวจสุขภาพประจำปี" หรือการ "ตรวจอัลตราซาวด์" ค่ะ นี่จึงเป็นเหตุผลที่หมอย้ำเสมอว่าการตรวจภายในและอัลตราซาวด์ประจำปีสำคัญมาก

สำหรับการรักษา วิธีการหลักคือ "การผ่าตัด" เพื่อนำถุงน้ำออกค่ะ
แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ ปัจจุบันมีนวัตกรรมการผ่าตัดส่องกล้อง (Laparoscopic Surgery) ที่แผลมีขนาดเล็กมาก ร่วมกับเทคโนโลยีกล้อง 4K หรือ 3D ที่ช่วยให้หมอมองเห็นรอยโรคได้คมชัด ทำให้การผ่าตัดแม่นยำยิ่งขึ้น ผู้ป่วยจึงใช้ระยะเวลาพักฟื้นไม่นาน และสามารถลุกเดินได้ตั้งแต่วันแรกที่ผ่าตัดเลยค่ะ......................
แอดมินหมอจูรี่.....................

17/11/2025

ปวดท้องหน่วงๆ อย่าเพิ่งคิดว่าโดนคุณไสย! มารู้จัก "เดอร์มอยด์ซีสต์"
สวัสดีค่ะ...อาการปวดท้องหน่วงๆ ที่หาสาเหตุไม่เจอ บางทีก็ไม่ใช่เรื่องลี้ลับนะคะ แต่อาจเป็นโรคที่ผู้หญิงหลายคนไม่คุ้นชื่อ นั่นคือ "ถุงน้ำเดอร์มอยด์" (Dermoid Cyst) ค่ะ

โรคนี้เป็นถุงน้ำชนิดหนึ่งที่เกิดจากเซลล์ที่สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดต่างๆ ได้ มักพบที่บริเวณรังไข่ของผู้หญิงค่ะ ความแปลกของมันคือ เมื่อผ่าออกมาดู ข้างในอาจพบเป็นเซลล์ไขมัน เส้นผม หรือแม้แต่กระดูกอ่อน!
"เดอร์มอยด์ซีสต์" มักพบในผู้หญิงอายุน้อย และข่าวดีคือมีโอกาสกลายเป็นมะเร็งต่ำมาก (ประมาณ 0.2 – 1%) ค่ะ

แต่ส่วนที่ "น่ากังวล" ที่สุดก็คือ...โดยส่วนมากมักไม่มีอาการใดๆ เลย ไม่มีประจำเดือนผิดปกติ แต่จะมาแสดงอาการเมื่อเกิดภาวะแทรกซ้อน ซึ่งอันตรายมากค่ะ

เดี๋ยวโพสต์หน้าหมอจะมาเล่าให้ฟังว่า อาการแบบไหนที่บ่งบอกว่ามีภาวะแทรกซ้อน และเราจะตรวจเจอได้อย่างไรนะคะ......................
แอดมินหมอจูรี่.....................

17/11/2025

"อาย ไม่กล้าตรวจ" ภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน...อย่าปล่อยไว้จนต้องผ่าตัด
ปัญหาหนึ่งที่หมอพบบ่อยเกี่ยวกับ "ภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน" คือ แม้ว่าภาวะนี้มักพบในคนสูงอายุ (แต่ก็เกิดในวัยอื่นได้นะคะ) หลายท่านมักจะ "อาย" และไม่กล้ามาพบแพทย์ในช่วงแรกๆ ค่ะ

หลายครั้งกว่าจะมาพบหมอ มดลูกก็หย่อนออกมาเยอะแล้ว หรือมีอาการปัสสาวะเล็ด ท้องผูกเรื้อรัง จนกระทบการใช้ชีวิต ซึ่งเมื่อมาในระยะที่รุนแรง ก็อาจจะต้องจบด้วยการรักษาโดยการ "ผ่าตัด"

หมอจึงอยากย้ำความสำคัญของการตรวจสุขภาพค่ะ...
• อย่าลืมตรวจร่างกาย และ ตรวจภายในประจำปี
• และถ้ามีอาการผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นอาการหน่วงท้องน้อย คลำเจอก้อน หรือมีปัญหาการกลั้นปัสสาวะ/อุจจาระ ควรไปพบสูตินรีแพทย์ ทันทีนะคะ

การตรวจพบเร็ว รักษาได้เร็ว และอาจไม่ต้องผ่าตัดเสมอไปค่ะ......................
แอดมินหมอจูรี่.....................

17/11/2025

4 สัญญาณ "อุ้งเชิงกรานหย่อน" คุณกำลังมีอาการเหล่านี้หรือไม่?

ต่อจากโพสต์ที่แล้ว ที่เราทำความรู้จักภาวะ "อุ้งเชิงกรานหย่อน" กันไปแล้ว วันนี้เรามาทบทวนอาการกันนะคะ ว่าสัญญาณเตือนแบบไหน ที่บ่งบอกว่าเราอาจกำลังมีภาวะนี้

เนื่องจากภาวะนี้คือการที่อวัยวะหย่อนลงมา อาการที่แสดงออกมาจึงสัมพันธ์กัน ดังนี้ค่ะ

• รู้สึกเหมือนมีก้อน : คลำหรือรู้สึกถึงก้อนโป่งออกมาในช่องคลอด หรือบางครั้งอาจมียื่นออกมาจากช่องคลอดเลย
• รู้สึกหน่วงหนัก : มีความรู้สึกหน่วงๆ หนักๆ ในช่องคลอด ไม่สบายตัว
• อาการทางปัสสาวะ : กลั้นปัสสาวะได้น้อยลง มีปัสสาวะเล็ด ราด (โดยเฉพาะเวลาไอ จาม) หรือรู้สึกปัสสาวะบ่อยขึ้น
• อาการทางอุจจาระ : มีอาการท้องผูกเรื้อรัง หรือในบางรายอาจถึงขั้นกลั้นอุจจาระไม่ได้

หากคุณมีอาการเหล่านี้ อย่าเพิ่งตกใจ แต่ก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นะคะ......................
แอดมินหมอจูรี่.....................

17/11/2025

"อุ้งเชิงกรานหย่อน" ไม่ต้องอายุมากก็หย่อนได้! รู้จักภาวะนี้กันค่ะ

สวัสดีค่ะ...วันนี้หมอมีเรื่องสำคัญมาเตือนกันค่ะ หลายคนคิดว่า "อุ้งเชิงกรานหย่อน" หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่า "กระบังลมหย่อน" เป็นเรื่องของคนสูงอายุเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว...ไม่ต้องอายุมากก็หย่อนได้นะคะ

ภาวะนี้ เกิดจากกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่พยุงอวัยวะในอุ้งเชิงกรานของเรามีความแข็งแรงน้อยลง ทำให้ไม่สามารถพยุงอวัยวะให้อยู่กับที่ได้เหมือนเดิม และเกิดการหย่อนตัวลงมาด้านล่างค่ะ

แล้วอวัยวะในอุ้งเชิงกรานมีอะไรบ้าง? ก็ประกอบไปด้วย
• กระเพาะปัสสาวะ
• มดลูกและช่องคลอด
• ลำไส้ตรง (ส่วนปลายของลำไส้ใหญ่)

ดังนั้น เมื่ออวัยวะเหล่านี้หย่อน ช่องคลอดก็จะหย่อนตาม จนอาจดึงกระเพาะปัสสาวะหรือลำไส้ส่วนปลายให้หย่อนลงมาด้วย
เดี๋ยวโพสต์หน้า เรามาเช็กอาการที่บ่งบอกภาวะนี้กันนะคะ......................
แอดมินหมอจูรี่.....................

17/11/2025

อันตรายแค่ไหน? ถ้าปล่อย 'ช็อกโกแลตซีสต์' ไว้ไม่รักษา
"ปวดท้องเมนส์ เดี๋ยวก็หาย" หลายคนอาจคิดแบบนี้ แต่ถ้าอาการปวดนั้นเกิดจากภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือ ช็อกโกแลตซีสต์ การปล่อยทิ้งไว้อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายกว่าที่คิดค่ะ
ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดตามมาได้ เช่น

• เกิดพังผืดในช่องท้อง หรืออุ้งเชิงกราน พังผืดเหล่านี้เองที่เป็นสาเหตุของอาการ "ปวดท้องน้อยเรื้อรัง" แม้จะไม่ได้อยู่ในช่วงมีประจำเดือนก็ตาม
• พังผืดทำให้มีบุตรยาก พังผืดอาจรัดจนทำให้ท่อนำไข่ตีบตัน ขัดขวางการตั้งครรภ์ หรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการท้องนอกมดลูก นอกจากนี้ยังทำให้ตัวอ่อนฝังตัวในมดลูกได้น้อยลงด้วยค่ะ
• พังผืดกดรัดท่อไต ในบางกรณีที่รุนแรง พังผืดอาจไปกดรัดท่อไต ทำให้ท่อไตบวม และนำไปสู่ภาวะไตบวมได้

หมอขอย้ำอีกครั้งนะคะว่า อาการปวดท้องไม่ได้บ่งบอกถึงโรคนี้อย่างเดียว และการวินิจฉัยโรคต้องดูหลายอย่างประกอบกัน ทั้งอาการ, การตรวจร่างกาย และการอัลตราซาวนด์

เมื่อได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องแล้ว คุณหมอจึงจะพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมในแต่ละบุคคลต่อไปค่ะ อย่ากลัวที่จะมาตรวจนะคะ......................
แอดมินหมอจูรี่.....................

17/11/2025

5 สัญญาณเตือน! "ปวดท้องแบบนี้" อาจใช่...ช็อกโกแลตซีสต์
หลังจากที่เรารู้จักกันไปแล้วว่าช็อกโกแลตซีสต์คืออะไร วันนี้เรามาทบทวนอาการที่เกิดขึ้นได้ หากเรามีภาวะนี้กันนะคะ

ต้องบอกก่อนว่า อาการแสดงในแต่ละคนอาจมีมากน้อยแตกต่างกันไป บางคนอาจมีอาการน้อยมาก แต่บางคนก็มีอาการชัดเจน ที่พบได้บ่อย มีดังนี้ค่ะ

• ปวดท้องน้อยเวลามีประจำเดือน และมักจะปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ เดือน จนต้องกินยาแก้ปวด หรือยาแก้ปวดก็เอาไม่อยู่
• ปวดบริเวณอื่นร่วมด้วย ไม่ได้ปวดแค่ท้องน้อย แต่อาจปวดร้าวไปหลัง เอว หรือก้นกบ เวลามีประจำเดือน
• อาการทางลำไส้ช่วงมีประจำเดือน เช่น ท้องอืด ท้องเสีย หรือรู้สึกปวดมากเวลาถ่ายอุจจาระ
• มีอาการปวดในอุ้งเชิงกรานขณะมีเพศสัมพันธ์
• มีภาวะมีบุตรยาก พยายามตั้งครรภ์แล้วแต่ไม่สามารถตั้งครรภ์เองตามธรรมชาติได้

อย่างที่หมอบอกว่า อาการเหล่านี้อาจคล้ายกับโรคอื่นได้ แต่หากคุณมีอาการข้อใดข้อหนึ่ง โดยเฉพาะอาการปวดท้องประจำเดือนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ควรนิ่งนอนใจนะคะ......................
แอดมินหมอจูรี่.....................

17/11/2025

สวัสดีค่ะ...วันนี้หมอจะมาพูดถึงหนึ่งใน 3 โรคยอดฮิตที่ผู้หญิงหลายคนกังวล นั่นคือ "ช็อกโกแลตซีสต์" (Chocolate Cyst) ค่ะ

หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ แต่ทราบไหมคะว่าจริงๆ แล้ว "ช็อกโกแลตซีสต์" ที่เราเรียกกันติดปากนั้น ก็คือ ถุงน้ำรังไข่ที่เกิดจากภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) นั่นเองค่ะ

ภาวะนี้คือการที่เยื่อบุโพรงมดลูกไปเจริญเติบโตนอกโพรงมดลูก ซึ่งในกรณีนี้คือไปเกิดเป็นถุงน้ำ (ซีสต์) ขึ้นที่รังไข่ และสาเหตุที่ได้ชื่อนี้ ก็เพราะข้างในถุงน้ำนั้นเป็นของเหลวที่เกิดจากเลือดเก่าๆ ที่สะสมอยู่ จนมีสีเข้มข้นคล้ายช็อกโกแลตเหลวค่ะ

แม้จะเป็นโรคฮิต แต่หลายคนก็มักจะสับสนอาการกับโรคอื่นๆ ซึ่งก็ไม่แปลกนะคะ เพราะอาการปวดท้องเหมือนกัน อาจจะเกิดจากคนละโรคก็ได้ การวินิจฉัยจึงสำคัญมากค่ะ
เดี๋ยวโพสต์หน้าเรามาทบทวนอาการที่พบบ่อยกันนะคะ......................
แอดมินหมอจูรี่.....................

17/10/2025

ปวดท้องจากไข่ตก… ทำยังไงดี 🤔

แล้วถ้าเรามีอาการปวดกลางรอบเดือนที่คาดว่าเป็นอาการปวดจากไข่ตก เราจะสามารถดูแลตัวเองยังไงได้บ้าง ไม่ยากเลยค่ะ

🌸 นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ประคบอุ่น การแช่หรืออาบน้ำอุ่นจะช่วยให้ผ่อนคลายได้

🌸 ใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เช่น บูเฟ่น พอนสแตน เพื่อลดอาการปวด ลดกลไกการอักเสบ สามารถใช้เป็นระยะเวลาสั้นๆ 1-2วัน อาการจะดีขึ้นเอง

แต่อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตอาการเหล่านี้ด้วย

💥 อาการปวดเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ กินยาแก้ปวดไม่ดีขึ้น

💥 มีอาการอื่นร่วม เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ตกขาวผิดปกติปริมาณมาก ประจำเดือนผิดปกติ

ถ้ามีอาการดังกล่าวควรไปพบแพทย์นะคะ เพราะการปวดอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น ปีกมดลูกอักเสบ ถุงน้ำรังไข่แตก เป็นต้น

การปวดจากการตกไข่นั้นไม่อันตราย แต่ในบางคนที่มีอาการทุกเดือนจนรบกวนชีวิตประจำวัน เราก็มีวิธีป้องกันการปวดจากการตกไข่ได้

หลักการก็คือต้องยับยั้งไม่ให้มีการตกไข่นั่นเองค่ะ

👉 วิธีที่ง่ายที่สุดคือการ "กินยาเม็ดคุมกำเนิด"

เนื่องจากกลไกออกฤทธิคือ ยาจะยับยั้งการตกไข่เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ เมื่อไม่มีการตกไข่ เราจึงไม่ต้องปวดท้องกลางรอบเดือนไปด้วย

👩‍⚕️ ปัจจุบัน ยาเม็ดคุมกำเนิดค่อนข้างหาซื้อง่าย
ยาคุมรุ่นใหม่ สามารถเลือกแบบฮอร์โมนต่ำ มีผลข้างเคียงน้อยลง
บางชนิดยังช่วยลดสิว ลดหน้ามัน น้ำหนักไม่ขึ้นอีกด้วย สามารถปรึกษาการเลือกยาคุมกับเนิดกับเภสัชกรที่ร้านขายยา หรือสูตินรีแพทย์ใกล้บ้านได้นะคะ
......................
แอดมินหมอจูรี่.....................

17/10/2025

ปวดท้องจากไข่ตก
ปวดได้ทุกกลางรอบเดือนสลับกันไปเดือนละข้าง

เคยเป็นมั้ยคะ มีอาการปวดท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่ง เป็นช่วงกลางรอบเดือน บางเดือนก็ปวดด้านซ้าย บางเดือนก็ปวดข้างขวา

ภาวะหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการแบบนี้ได้ก็คือ “การปวดท้องจากไข่ตก (Ovulation pain)”

กลไกธรรมชาติของผู้หญิงวัยเจริญพันธ์นั้น ทุกๆกลางรอบเดือนจะมีการตกไข่ คือฟองไข่ที่โตเต็มที่หลุดออกมาจากรังไข่เพื่อเตรียมรับการปฏิสนธิจากเชื้ออสุจิ หากไม่ได้มีการปฏิสนธิ ฟองไข่นี้ก็จะหลุดสลายไปเอง ฟองไข่นี้มีขนาดเล็กมากนะคะ ประมาณ 1มม.เท่านั้น

สาเหตุที่บางคนมีอาการปวดเวลาไข่ตก อาจเกิดจาก

- ตอนที่ฟองไข่กำลังจะหลุดออกมา มีการตึงยืดของไข่ทำให้ปวด

- หลังจากไข่ตกแล้วจะมีของเหลวหรือเลือดปริมาณเล็กน้อยออกมาด้วย สารเหล่านี้ไประคายเคืองช่องท้อง ทำให้มีอาการปวด

ลัษณะอาการปวดจากการตกไข่

1. ปวดด้านในด้านหนึ่งของอุ้งเชิงกรานหรือท้องน้อย

2. ปวดหน่วงๆตื้อๆคล้ายตอนปวดประจำเดือน

3. มักมีอาการปวดขึ้นฉับพลันทันที เป็นเพียงไม่กี่ชั่วโมงแล้วดีขึ้น

4. อาจมีเลือดออกทางช่องคลอดเล็กน้อย หรือตกขาวได้ในช่วงนั้น

5. อาการปวดมักสลับข้างในแต่ละเดือน แต่บางคนอาจปวดข้างเดียวกันเป็นเวลาหลายเดือน

การปวดตามรอบเดือนจากการตกไข่นั้น สามารถเกิดได้ตามธรรมชาติของผู้หญิง มักไม่ได้มีอาการรุนแรง และไม่อันตรายอะไรค่ะ

เดี๋ยวบทความหน้า หมอจะเล่าให้ฟังเรื่องการดูแลตัวเองถ้ามีอาการแบบนี้ให้ฟังกันนะคะ
......................
แอดมินหมอจูรี่......................

17/10/2025

เนื้องอกมดลูก ... เจอบ่อยขนาดนี้ มันเกิดจากอะไรกันแน่

ถ้าพูดถึงโรคเนื้องอกมดลูก คาดว่าผู้หญิงเราต้องเคยได้ยินกันบ้างนะคะ ไม่ว่าจะคนรอบข้าง คนรู้จักเป็น หรือแม้กระทั่งตัวเองกำลังเป็นอยู่ก็ตาม

จริงๆแล้วเนื้องอกมดลูกเป็นเนื้องอกที่พบได้ค่อนข้างบ่อยนะคะ
ประมาณกันว่าถ้าเราเอาผู้หญิงอายุ 35ปีขึ้นไปมาอัลตราซาวน์ จะพบเนื้องอกมดลูกถึง 25-30% เลยทีเดียว แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเนื้องอกที่ไม่มีอาการหรือมีขนาดเล็กที่สามารถใช้การติดตามอัลตราซาวน์ได้ มีเพียงประมาณ1ใน3 เท่านั้น ที่มีอาการจากเนื้องอกหรือจำเป็นต้องได้รับการรักษาค่ะ

เจอได้บ่อยขนาดนี้ คงสงสัยกันว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไรกันนะ?

เนื้องอกมดลูกเกิดจากเซลกล้ามเนื้อมดลูกที่แบ่งตัวผิดปกติกลายเป็นก้อนเนื้องอกขึ้นมา ไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนว่าทำไมมันถึงแบ่งตัวแบบนั้น แต่ก็พบว่ามีปัจจัยบางอย่าง ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของการมีเนื้องอกได้

1. กรรมพันธุ์ หากมีประวัติคุณแม่หรือพี่สาวน้องสาวมีเนื้องอกมดลูก เราก็จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นได้

2. เริ่มมีประจำเดือนเร็วหรือหมดประจำเดือนช้า

3. มีภาวะอ้วน

4. ได้รับอาหารที่มีเอสโตเจนสูงเป็นเวลานานๆ เช่นกินเนื้อสัตว์จำพวก red meat เยอะ, กินโปรตีนถั่วเหลืองสกัดเข้มข้นที่มีไฟโตเอสโตรเจนสูง

นอกจากนี้แล้ว ปัจจัยเสริมอื่นๆที่อาจมีผลได้ เช่น กินผักไฟเบอร์น้อย ขาดวิตามินดี ดื่มแอลกอฮอล์จัด หรือขาดการออกกำลังกาย

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่ามีปัจจัยเหล่านี้แล้วจะมีเนื้องอกมดลูกเสมอไปนะคะ เป็นเพียงปัจจัยเสี่ยงเท่านั้นค่ะ

หากต้องการตรวจวินิจฉัยเนื้องอกมดลูก ควรไปพบสูตินรีแพทย์ และรับการตรวจอัลตราซาวน์นะคะ
......................
แอดมินหมอจูรี่......................

24/09/2025

เนื้องอกในโพรงมดลูก เนื้องอกเล็กๆแต่ก่อปัญหาได้มาก

บางคนคงเคยได้ยินว่ามีเนื้องอกมดลูก 5ซม.แต่ไม่มีอาการยังไม่ต้องผ่าตัด ในขณะที่บางคนมีเนื้องอกแค่ 2ซม. แต่มีอาการเยอะ ประจำเดือนออกมากจนซีด หรือปวดประจำเดือนจนต้องนอนโรงพยาบาลฉีดยาแก้ปวดก็มี

ทำไมอาการถึงได้ต่างกันขนาดนั้น ส่วนหนึ่งก็ขึ้นกับตำแหน่งของเนื้องอกนั่นเอง

เนื้องอกของกล้ามเนื้อมดลูก แบ่งตามตำแหน่งของเนื้องอกได้ 3ประเภท

1. เนื้องอกในโพรงมดลูก

2. เนื้องอกในชั้นกล้ามเนื้อมดลูก

3. เนื้องอกที่ผิวมดลูก

ถ้าเป็นเนื้องอกที่ผิวมดลูกก็จะมีอาการน้อยที่สุดค่ะ มักไม่มีผลต่อประจำเดือน คนไข้จะมาหาหมอตอนที่เนื้องอกโตขึ้นมากจนไปเบียดกระเพาะปัสสาวะหรือลำไส้แล้ว

ส่วนเนื้องอกในโพรงมดลูก และในชั้นกล้ามเนื้อมดลูก จะมีอาการมากกว่า

โดยเฉพาะ “เนื้องอกในโพรงมดลูก”

ประจำเดือนของเรานั้น เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกที่ลอกตัวออกมาพร้อมเลือดในแต่ละเดือน เมื่อมีเลือดออก มดลูกก็จะบีบตัวเพื่อให้เลือดหยุด แต่เนื้องอกในโพรงมดลูก จะไปขวางการบีบตัวของมดลูก ทำให้เลือดออกมากและนานกว่าปกติ นอกจากนั้น การที่มดลูกพยายามบีบตัว ก็จะทำให้เราปวดประจำเดือนมากนั่นเอง

คนที่มีเนื้องอกที่ผิวมดลูกขนาดใหญ่อาจจะไม่มีอาการอะไร แต่เนื้องอกในโพรงมดลูกแค่ 2ซม. ก็ทำให้มีประจำเดือนออกมากจนซีด โลหิตจางได้เลยล่ะค่ะ

การรักษาเนื้องอกในโพรงมดลูกนั้น จะใช้การผ่าตัดเป็นหลัก
......................
แอดมินหมอจูรี่......................

รู้ทันโรคสตรี กับหมอจูรี่

17/11/2025

17/11/2025

17/11/2025

17/11/2025

17/11/2025

17/11/2025

17/11/2025

17/11/2025

17/10/2025

17/10/2025

17/10/2025

24/09/2025

ที่อยู่

เบอร์โทรศัพท์

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

ทางลัด

แชร์

ประเภท