ศูนย์พัฒนาสมองอัจฉริยะ 064-1493659

ศูนย์พัฒนาสมองอัจฉริยะ 064-1493659 ครูสลาแนะนำ เด็กไทยฉลาดได้ ด้วยอเลอไทด์

ศูนย์พัฒนาสมองอัจฉริยะ มุ่งเน้นพัฒนาเซลสมองของเด็กในวัยเรียนเพื่อช่วยเพิ่มพลังการเรียนรู้ สมาธิ ความจำ และปรับสมดุลระบบเส้นประสาทต่างๆ ตลอดจนปรับสมดุลของสภาวะจิต ให้นิ่งสงบมากขึ้นส่งผลให้ระยะยาว เด็กจะมีการพัฒนาทั้ง IQ และ EQ ดีมากขึ้น พร้อมก้าวสู่วัยต่อไป

ฉันมีผู้ติดตามถึง 1.4 หมื่น คนแล้ว! ขอบคุณทุกคนที่ช่วยสนับสนุนฉันมาโดยตลอด ฉันคงมาถึงจุดนี้ไม่ได้หากไม่มีพวกคุณทุกคน 🙏🤗🎉
23/12/2023

ฉันมีผู้ติดตามถึง 1.4 หมื่น คนแล้ว! ขอบคุณทุกคนที่ช่วยสนับสนุนฉันมาโดยตลอด ฉันคงมาถึงจุดนี้ไม่ได้หากไม่มีพวกคุณทุกคน 🙏🤗🎉

ธ สถิตในใจตราบนิจนิรันดร์ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหาร และพนักงาน ศูนย์พัฒนาสมอ...
13/10/2023

ธ สถิตในใจตราบนิจนิรันดร์
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหาร และพนักงาน ศูนย์พัฒนาสมองอัจฉริยะ

เลี้ยงลูกชายอย่างไร ให้เขาเป็นสุภาพบุรุษ
29/03/2023

เลี้ยงลูกชายอย่างไร ให้เขาเป็นสุภาพบุรุษ

25/05/2022

🎯แบบเรา ต้องฝึกสมองกันบ้าง 🔥หาครบได้ป่าว

10 นิสัยร้าย ๆ ... ทำลายสมอง !!!------------------------------------1. งดอาหารเช้า(สารอาหารเลี้ยงสมองไม่พอ)2. อดนอน(เซลล...
08/04/2022

10 นิสัยร้าย ๆ ... ทำลายสมอง !!!
------------------------------------
1. งดอาหารเช้า
(สารอาหารเลี้ยงสมองไม่พอ)
2. อดนอน
(เซลล์สมองตาย)
3. กินของหวานมากไป
(ขัดขวางการพัฒนาสมอง)
4. กินอาหารมากเกินไป
5. เครียด ฟุ้งซ่าน
6. สูบบุหรี่
(สาเหตุสมองฝ่อ)
7. ไม่ชอบคิด ไม่ค่อยพูด
8. มลภาวะ สูดอากาศพิษมาก
(สมองเสื่อม)
9. ใช้สมองในขณะที่ไม่สบาย
10. นอนคลุมโปง
(ออกซิเจนไม่พอ)
-----------------------------------
สุดยอดอาหารบำรุงสมอง
1. ชาสด
- ดื่มแล้วมีสมาธิ พัฒนาความจำ
2. น้ำทับทิม
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ
3. บลูเบอร์รี่
- เพิ่มความจำ เรียนรู้เร็ว
4. อโวคาโด
- ไฟเบอร์สูง บำรุงสมอง
5. แซลมอน
- โอเมก้า 3 พัฒนาสติปัญญา
-----------------------------------
ที่มา : ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ
-----------------------------------

ด้วยความปรารถนาดีจาก #ศูนย์ดูแลเด็กสมาธิสั้น

สนับสนุนโดยผลิตภัณท์อเลอไทด์ ช่วยฟื้นฟู ดูแล บำรุง สมองและระบบประสาท ช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้ ช่วยให้มีสมาธิในการเรียนการทำงาน ลดภาวะสมาธิสั้น

ติดต่อสอบถามและรับคำปรึกษาฟรี / สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
แอดมิน โทร : 064-149-3659

ติดตามแฟนเพจ เราได้ที่
www.facebook.com/adhdcarecenter/

IN BOX เพื่อแชทกับแอดมินได้โดยตรงค่ะ
http://m.me/adhdcarecenter/

คลิ๊กลิงค์เพื่อแอดไลน์แชทรับคำปรึกษาฟรี
https://goo.gl/yz29Lp
Line ID:

เมื่อลูกย่างเข้าสู่วัยรุ่น : พ่อแม่หลายคนอาจกลุ้มใจหรือรู้สึกหงุดหงิดที่ลูกซึ่งเคยว่านอนสอนง่ายเริ่มโต้เถียง ไม่เชื่อฟัง...
24/03/2022

เมื่อลูกย่างเข้าสู่วัยรุ่น : พ่อแม่หลายคนอาจกลุ้มใจหรือรู้สึกหงุดหงิดที่ลูกซึ่งเคยว่านอนสอนง่ายเริ่มโต้เถียง ไม่เชื่อฟัง และแสดงพฤติกรรมหลายอย่างที่ทำให้พ่อแม่รู้สึกเป็นห่วง กังวล หรือ รู้สึกขัดหู ขัดตา ขัดใจ

พ่อแม่หลายคนแสดงออกถึงความห่วงใยลูก ด้วยคำพูดบ่น ว่าตักเตือน ตัวอย่างคำพูดที่พ่อแม่มักจะพูดบ่อยๆ เช่น

" อย่าเที่ยวให้มันมากนะ ดูหนังสือซะบ้าง "

" เพื่อนฝูงน่ะ เลือกคบที่ดีๆ มั่ง ไม่ใช่คบแต่ที่เลวๆ เอาแต่มั่วสุมกัน "

" ช่วยกันบ้างสิ งานบ้านน่ะ ต่อไปพ่อแม่ไม่อยู่ไม่มีใครมาคอยช่วยเหลือเก็บกวาดแล้วนะ "

คำพูดเหล่านี้ แม้จะพูดด้วยความห่วงใยและปราถนาดี แต่ผลที่ได้รับ คือ ลูกวัยรุ่นกลับโต้ตอบด้วยความไม่พอใจ ความโกรธ หรือ ถ้อยคำรุนแรงและไม่ทำตาม

ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ หากพ่อแม่มีความเข้าใจธรรมชาติของลูกวัยรุ่น และมีวิธีที่ชาญฉลาดในการพูดคุย การสอน และ การเตือนลูกวัยรุ่น

#วิธีการสอนลูกวัยรุ่นให้ได้ผล
แสดงความพร้อมที่จะเป็นที่ปรึกษาของลูกวัยรุ่น
สิ่งที่พ่อแม่ทุกคนควรจะกระทำเมื่อลูกเข้าวัยรุ่นก็คือ บอกพวกเขาว่ามีอะไรให้ปรึกษาได้ พ่อแม่พร้อมจะเข้าใจและรับฟังลูกเสมอ พ่อแม่ควรแสดงความใส่ใจลูกด้วยการสังเกตว่าลูกมีสีหน้าท่าทางไม่สบายใจหรือไม่ ทักทายลูกว่ามีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าอยากจะเล่าให้พ่อแม่ฟังไหม แต่ถ้าลูกไม่อยากพูดก็ไม่คาดคั้น ทว่าเมื่อไรลูกมีท่าทีอยากพูดหรืออยากเล่าอะไรให้พ่อแม่ฟัง พ่อแม่ควรแสดงความกระตือรือร้น ให้ความสำคัญ และรับฟังเขาทันที

1.รับฟังลูกวัยรุ่นอย่างใส่ใจและเปิดใจ
ช่องว่างระหว่างวัยจะลดลงได้ด้วยการรับฟังอย่างเข้าใจ พ่อแม่ควรรับฟังลูกในทุกเรื่องราวอย่างใส่ใจ การที่จะเป็นผู้ฟังที่ดีได้นั้น พ่อแม่จะต้องเป็นคนมีเหตุผลและอดทนที่จะรับฟังลูกขณะที่ลูกพูด แม้ว่าสิ่งที่ลูกพูดอาจไม่เข้าท่า อาจดูไร้สาระ ไร้เหตุผลในความคิดของพ่อแม่ พ่อแม่ก็ต้องเปิดใจรับฟัง พยายามเข้าใจเรื่องราว เข้าใจว่าความคิดและความรู้สึกของลูก โดยไม่ด่วนสรุป ไม่ตัดสิน หรือรีบสั่งสอน ซึ่งจะทำให้ลูกคิดว่า พ่อแม่ไม่ฟังและไม่อยากพูดต่อ

2.กระตุ้นให้ลูกวัยรุ่นได้แสดงความคิดเห็น
การที่จะกระตุ้นให้ลูกวัยรุ่นได้พูดคุยแสดงความคิดเห็น ควรใช้คำถามประเภทปลายเปิดเพื่อกระตุ้นให้ลูกเล่า เช่น

“เรื่องมันเป็นอย่างไร”
“คำพูดอะไรของเพื่อนที่ทำให้ลูกโกรธ”
“ลูกโต้ตอบเพื่อนอย่างไรเมื่อเพื่อนล้อเลียนลูก”
รวมทั้งการพูดถึงความรู้สึกของลูกตามที่พ่อแม่รับรู้และเข้าใจ เช่น

“ลูกเสียใจที่เพื่อนเข้าใจลูกผิด”
“ลูกหัวเสียที่เพื่อนไม่ช่วยงานในกลุ่ม”
ซึ่งคำพูดเช่นนี้จะทำให้ลูกรู้สึกว่าพ่อแม่พร้อมจะรับฟังให้ความสำคัญกับตนเองและทำให้ลูกอยากเล่าเรื่องราวมากขึ้น

3.ให้ความเห็น คำแนะนำ และข้อเสนอแนะต่างๆ แทนการสั่งให้ลูกวัยรุ่นทำ

พ่อแม่สามารถให้ความคิดเห็น คำแนะนำ และข้อเสนอในเรื่องต่างๆ แก่ลูกวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การคบเพื่อน การปรับตัว แต่ควรเป็นลักษณะการแลกเปลี่ยน คือ ให้โอกาสลูกวัยรุ่นได้พูดถึงข้อคิดเห็นและมุมมองของลูกก่อน แล้วพ่อแม่ก็แสดงความคิดเห็นทั้งในแง่ที่พ่อแม่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของลูก ซึ่งการที่พ่อแม่ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้และสามารถให้ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะอีกด้านหนึ่งที่เป็นเหตุเป็นผลมาจากความห่วงใยและปรารถนาดี

การเป็นฝ่ายรับฟังและยอมรับลูกวัยรุ่นก่อน จะทำให้ลูกเปิดใจรับฟังพ่อแม่และยินดีปฏิบัติตามมากกว่าวิธีการสั่งให้เขาทำแบบนั้นแบบนี้ ซึ่งมักตามมาด้วยท่าที่ต่อต้านไม่เชื่อฟังและขัดแย้งกัน

5.สอนลูกวัยรุ่นในบรรยากาศแบบสบายๆ

เคล็ดลับที่สำคัญ คือ หาโอกาสที่จะสอนในบรรยากาศที่ดีการสอนเรื่องอะไรก็ตามอย่าสอนหรือพูดคุยอย่างเป็นทางการเพราะลูกวัยรุ่นจะไม่เชื่อฟังอาศัยสอนอ้อม ๆ จากข่าวสารต่างๆเช่นจากการดูละครทีวีหนังสือพิมพ์รายการวิทยุโทรทัศน์ควรพูดคุยด้วยอารมณ์ขันและพยายามรับฟังความเห็นของเขารวมทั้งเปิดโอกาสให้เขาได้แสดงความเห็นในเรื่องราวต่างๆเป็นประจำฟังลูกวัยรุ่นให้มากและพยายามสอดแทรกข้อคิดเห็นต่างๆร่วมกันเมื่อลูกวัยรุ่นเริ่มคุ้นเคยก็พร้อมจะรับฟังมากขึ้น

6.พูดคุย และ สอนเฉพาะเรื่องที่จำเป็น

ลูกวัยรุ่นต้องการความเป็นส่วนตัว เรื่องบางเรื่องที่ลูกวัยรุ่นอาจไม่อยากให้รับรู้ ถ้าเห็นว่าไม่ร้ายแรงหรือไม่เป็นอันตรายก็ไม่ควรซักไซร้มากเกินไป เช่น ลูกชายอาจจะไม่อยากเล่าเรื่องสาวๆ บางคนที่เขาสนิท เพราะบางครั้งการพูดหรือซักถามด้วยความเป็นห่วงของพ่อแม่ อาจกลายเป็นเรื่องน่ารำคาญ และส่งผลให้ลูกวัยรุ่นไม่อยากพูดคุยกับพ่อแม่

ที่มา : เอกสารแผ่นพับ เรื่อง "คุยกับลูกวัยรุ่น"

โดย : กลุ่มงานสังคมสงเคราะห์ / สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์

🔰ปัจจัยที่สำคัญต่อการพัฒนาสมองและส่วนสูงในช่วงวัยปีทอง1. ฮอร์โมน ที่ช่วยด้านการพัฒนาการเจริญเติบโตตามปกติไม่มีโรคภัยเรื้...
04/03/2022

🔰ปัจจัยที่สำคัญต่อการพัฒนาสมองและส่วนสูงในช่วงวัยปีทอง

1. ฮอร์โมน ที่ช่วยด้านการพัฒนาการเจริญเติบโตตามปกติไม่มีโรคภัยเรื้อรังที่มีผลต่อการพัฒนาโครงสร้างของเด็ก

2. พันธุกรรมความสูงของพ่อแม่ปู่ย่าตายาย เป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดความสูงของบุตรหลานในอนาคต

3. โภชนาการเด็กในวัยปีทอง ต้องได้รับการพัฒนาการด้านโภชนาการอย่างเต็มที่โดยควรได้รับสารอาหารที่เหมาะสม ไม่มากไม่น้อยจนเกินไปและรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

4. การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

⏩⏩⏩⏩⏩⏩⏩⏩⏩

ด้วยความปรารถนาดีจาก #ศูนย์ดูแลเด็กสมาธิสั้น

สนับสนุนโดยผลิตภัณท์อเลอไทด์ ช่วยฟื้นฟู ดูแล บำรุง สมองและระบบประสาท ช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้ ช่วยให้มีสมาธิในการเรียนการทำงาน ลดภาวะสมาธิสั้น

ติดต่อสอบถามและรับคำปรึกษาฟรี / สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
แอดมิน โทร : 064-149-3659

ติดตามแฟนเพจ เราได้ที่
www.facebook.com/adhdcarecenter/

IN BOX เพื่อแชทกับแอดมินได้โดยตรงค่ะ
http://m.me/adhdcarecenter/

คลิ๊กลิงค์เพื่อแอดไลน์แชทรับคำปรึกษาฟรี
https://goo.gl/yz29Lp
Line ID:

👑สอนให้คิด พัฒนาเด็กฉลาดและดีการเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กฉลาดและดี พ่อแม่คือส่วนสำคัญที่สุดที่จะกำหนดพฤติกรรมและท่าทีของลูก ว...
13/02/2022

👑สอนให้คิด พัฒนาเด็กฉลาดและดี
การเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กฉลาดและดี พ่อแม่คือส่วนสำคัญที่สุดที่จะกำหนดพฤติกรรมและท่าทีของลูก วันนี้ มีเคล็ดลับการสอนให้รู้จักคิดเป็นการพัฒนาที่ทำให้เด็กฉลาด และเป็นคนดีด้วย
⌚การสอนลูกให้รู้จักคิด คือ การสอนทักษะชีวิตอย่างหนึ่งในการทำความเข้าใจสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัว มีความคิดเห็นและท่าทีที่เหมาะสมต่อสิ่งนั้นๆ หรือเหตุการณ์นั้นๆ ซึ่งจะนำไปสู่การดำเนินชีวิตที่ฉลาดและดีงาม การพัฒนาทักษะทุกอย่างเกิดจากการทำซ้ำอย่างต่อเนื่อง เรียนรู้จากความผิดพลาด จนกลายเป็นความรู้ความชำนาญในเรื่องนั้นๆ กระบวนการคิดและการแสดงความคิดเห็นก็เช่นกัน เพราะสมองยิ่งได้ใช้ ได้คิดมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งพัฒนาไปได้มากขึ้นเท่านั้น การเปิดโอกาสให้ลูกคิดและแสดงออก มีขั้นตอนเริ่มต้นง่ายๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนทำได้ คือ การฟังลูกให้มาก
🔰การฟัง ที่จะช่วยให้ลูกได้ฝึกคิด เริ่มจากการให้ความสนใจเต็มที่ เมื่อพูดคุยหรือเล่นกับลูกโดยตั้งใจฟังลูกด้วยความกระตือรือร้น ซึ่งเด็กจะรับรู้ได้จากสีหน้า แววตาและท่าทางของพ่อแม่ เมื่อลูกแสดงความคิดเห็นก็ควรฟังโดยไม่ด่วนตัดสินผิดถูก แต่ทำความเข้าใจและชวนให้ลูกคิดต่อ หรือสังเกตเพิ่มเติมจากสถานการณ์จริง การฟังลูกให้มาก เป็นการแสดงความสนใจที่มีประสิทธิภาพมาก พฤติกรรมไหนที่ได้รับความสนใจ พฤติกรรมนั้นก็จะมากขึ้น ลูกจึงชอบคิด ชอบบอกให้รู้ว่าเขาคิดอะไรมากขึ้น
การที่จะมีโอกาสฟังลูกได้มาก พ่อแม่ก็ต้องให้เวลาในการพูดคุยและเล่นกับลูกให้มากด้วย การใช้เวลากับลูก อาจทำได้ผ่านการทำกิจวัตรประจำวัน การอ่านหนังสือให้ลูกฟัง การเล่นกับลูกตามวัยและการร่วมกิจกรรมหรือการพาไปดูสิ่งแปลกใหม่ ซึ่งนอกจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกได้เพิ่มพูนประสบการณ์ที่หลากหลายแล้ว ลูกยังได้เรียนรู้จากการเห็นมาก สัมผัสมาก ทำมาก ย่อมทำให้ลูกได้พัฒนาแนวคิดอย่างหลากหลายด้วย ทำให้สติปัญญาดีขึ้น นอกจากนี้ การใช้คำถามกระตุ้นให้คิด โดยเริ่มตั้งแต่คำถามให้สังเกต ทบทวนความจำ หรือบอกความหมาย ไปจนถึงคำถามที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การให้เปรียบเทียบ ให้อธิบายหรือให้บอกขั้นตอนหรือเหตุผล
ทั้งนี้ การสนับสนุนให้ลูกเรียนรู้ ต้องรู้ใจลูกด้วย รู้ใจหมายถึง รู้ลักษณะพัฒนาการตามวัย การเรียนรู้ที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย และลักษณะเฉพาะตัวของลูกเรา ลูกอาจจะเป็นเด็กที่เคลื่อนไหวเยอะ ชอบกิจกรรมทางร่างกาย หรือลูกเป็นเด็กที่ค่อยๆ คิด ค่อยทำ ดังนั้น พ่อแม่ก็ต้องปรับกิจกรรมและความคาดหวังให้เหมาะกับลูกด้วย นอกจากนี้ พ่อแม่อาจอ่านอาการของลูกว่า ลูกเริ่มเบื่อแล้ว หรืออาจไม่พร้อมคุยหรือเรียน จะเห็นว่าการจะรู้ใจลูกได้ ก็ต้องหมั่นสังเกตอารมณ์ของลูก ฟังลูกให้มาก บางครั้งพ่อแม่ไม่ได้ “รู้ใจ” ลูก แต่กลับ “เดาใจ” ลูก มักคิดแทนลูกไปเสียทุกเรื่อง โดยคิดว่าถ้าเราชอบหรือรู้สึกเช่นนั้น ลูกก็น่าจะชอบและคิดเช่นเดียวกันด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก :
อ.พญ.ศศิธร จันทรทิณ
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช

ด้วยความปรารถนาดีจาก #ศูนย์ดูแลเด็กสมาธิสั้น

สนับสนุนโดยผลิตภัณท์อเลอไทด์ ช่วยฟื้นฟู ดูแล บำรุง สมองและระบบประสาท ช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้ ช่วยให้มีสมาธิในการเรียนการทำงาน ลดภาวะสมาธิสั้น

ติดต่อสอบถามและรับคำปรึกษาฟรี / สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
แอดมิน โทร : 064-149-3659

ติดตามแฟนเพจ เราได้ที่
www.facebook.com/adhdcarecenter/

IN BOX เพื่อแชทกับแอดมินได้โดยตรงค่ะ
http://m.me/adhdcarecenter/

คลิ๊กลิงค์เพื่อแอดไลน์แชทรับคำปรึกษาฟรี
https://goo.gl/yz29Lp
Line ID: Magicbrain Ayiti

ผู้ที่จะประสบความสำเร็จและได้การยอมรับในสังคมนั้น ไม่ได้มีแค่ความสามารถทางสติปัญญาที่ดี (IQ) เพียงอย่างเดียว หากแต่ต้องม...
30/01/2022

ผู้ที่จะประสบความสำเร็จและได้การยอมรับในสังคมนั้น ไม่ได้มีแค่ความสามารถทางสติปัญญาที่ดี (IQ) เพียงอย่างเดียว หากแต่ต้องมีการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ที่ดีควบคู่กันไปด้วย จึงจะเป็นคนที่มีคุณภาพ หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งย่อมทำให้การพัฒนาไม่เป็นไปอย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งพ่อแม่สามารถช่วยให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีได้ผ่านการเลี้ยงดูและการสร้างกิจกรรมที่เหมาะกับเด็กในแต่ละช่วงวัย แล้วจะทราบได้อย่างไรว่าเด็กมีระดับ IQ และ EQ เป็นอย่างไร สามารถตรวจวัดได้ดังนี้

🔵การวัด EQ (Emotional Quotient)
การวัด EQ หรือ การวัดความฉลาดทางอารมณ์เป็นการวัดความสามารถทางอารมณ์ ซึ่งมีผลต่อการดำเนินชีวิตอย่างสร้างสรรค์และมีความสุข การวัด EQ เพื่อให้ทราบว่าบุคคลนั้นมีระดับ ศักยภาพของตนเองอยู่ในระดับใดบ้าง ได้แก่

◽การควบคุมตนเอง
◽ความเห็นใจผู้อื่น
◽ความรับผิดชอบ
◽แรงจูงใจ
◽ความสามารถในการตัดสินใจ และการแก้ปัญหา
◽ความสามารถในการสร้างสัมพันธภาพ
◽ความภูมิใจในตนเอง
◽ความพึงพอใจในชีวิต
◽ความสุขสงบทางใจ
เพื่อเป็นการพัฒนาและการใช้ศักยภาพตนเองในการดำเนินชีวิตประจำวัน ครอบครัว การเรียน การทำงานและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข และประสบความสำเร็จในชีวิต

⚪ควรจะวัด EQ เมื่อใด
1.เมื่อต้องการทราบศักยภาพของตนเอง เพื่อพัฒนาและปรับปรุงการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี
2.เมื่อตรวจพบแล้วว่ามี IQ ดี แต่มีปัญหาในการปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่น เช่น พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน ครู หรือ คู่สมรส เป็นต้น
3.เมื่อมีความผิดปกติทางพฤติกรรมและอารมณ์ เช่น ก้าวร้าว การควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมไม่เหมาะสม พฤติกรรมรุนแรง เข้ากับเพื่อนหรือครูไม่ได้ อดทนรอคอยไม่เป็น เห็นแก่ตัว ไม่รู้จักแบ่งปัน ทำงานเป็นทีมได้ อิจฉาผู้อื่น แยกตัว ซึมเศร้าและไม่มีความสุข ในการดำเนินชีวิตประจำวัน เป็นต้น

🔴การวัด IQ (Intelligence Quotient)
การวัด IQ หรือการวัดความฉลาดทางสติปัญญาหรือทางเชาวน์ปัญญาเป็นวิธีการหนึ่งของการทดสอบทางจิตวิทยา ซึ่งต้องทำการทดสอบโดยนักจิตวิทยาคลินิกที่ผ่านการฝึกอบรมเฉพาะทาง การวัด IQ ช่วยบอกให้ทราบถึง ความสามารถเด่น หรือความบกพร่องในการกระทำบางสิ่งบางอย่าง บ่งบอกถึงลักษณะเฉพาะตัววิธีการคิดแก้ปัญหา การตัดสินใจ และวิธีการทำงานรวมทั้งบอกถึงความผิดปกติบางประการที่มีผลต่อการวินิจฉัยทางแพทย์ต่อไป

การวัด IQ เป็นการวัดความสามารถของบุคคลนั้น ซึ่งแต่ละบุคคลจะทำได้ดีมากหรือน้อยเท่าใด ขึ้นอยู่กับความพร้อมของร่างกาย ภาวะทางจิตใจและอารมณ์ หรือแม้กระทั่งความเจ็บป่วย ดังนั้นคนที่ขาดสมาธิ มีความวิตกกังวล และไม่มีความพร้อมในขณะนั้น ก็จะทำได้ไม่เต็มที่

⚪การวัด IQ ควรวัดตอนอายุ 2-70 ปี และ

1.ในคนปกติที่ต้องการจะทราบระดับความสามารถทางสติปัญญาว่าอยู่ในระดับเท่าใด ช่วยให้ทราบถึงความสามารถเด่นหรือด้อยของบุคคล เพื่อปรับปรุง และเป็นแนวทางในการวางแผนการศึกษาให้เหมาะสมกับความสามารถของบุคคลนั้น
2.เมื่อมีปัญหาทางการเรียน หรือเมื่อผลการเรียนลดลงไปกว่าเดิม เพื่อให้ทราบว่าเชาวน์ปัญญาของบุคคลในขณะนั้นสอดคล้องกับความสามารถที่แสดงออกมาหรือไม่
3.เมื่อมีปัญหาทางด้านพฤติกรรมและอารมณ์ เช่น สมาธิสั้น เหม่อลอย ความจำไม่ดี ดูดนิ้ว ปัสสาวะรดที่นอน ดึงผม มีลักษณะก้าวร้าว เอาแต่ใจตนเอง พูดปด ขโมย ควบคุมอารมณ์ และพฤติกรรมไม่ได้ ทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น แยกตัว ซึมเศร้า หนีโรงเรียน รวมทั้งการปรับตัวในชีวิตประจำวันแย่ไปกว่าเดิม เพื่อช่วยในการวินิจฉัยว่าสาเหตุมาจากบุคคลมีเชาวน์ปัญญาต่ำหรือเป็นโรคทางจิตเวช
4.เมื่อมีปัญหาด้านกฎหมาย เพื่อยืนยันว่าบุคคลนั้นมีความสามารถทางเชาวน์ปัญญาต่ำหรือไม่ ควรมีผู้คุ้มครองดูแลผลประโยชน์แทนหรือไม่
5เมื่อมีปัญหาทางด้านการแพทย์ เช่น ในเด็กหญิงที่มีเชาวน์ปัญญาต่ำ ไม่สามารถดูแลตนเองได้ บางกรณีผู้ปกครองมีความจำเป็นต้องทำหมันให้ หรือบางรายที่มีอุบัติเหตุหรือพยาธิสภาพทางสมองต้องผ่าตัด ก็จะมีการทดสอบ IQ ก่อนและหลังผ่าตัดสมอง

ด้วยความปรารถนาดีจาก #ศูนย์ดูแลเด็กสมาธิสั้น

สนับสนุนโดยผลิตภัณท์อเลอไทด์ ช่วยฟื้นฟู ดูแล บำรุง สมองและระบบประสาท ช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้ ช่วยให้มีสมาธิในการเรียนการทำงาน ลดภาวะสมาธิสั้น

ติดต่อสอบถามและรับคำปรึกษาฟรี / สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
แอดมิน โทร : 064-149-3659

ติดตามแฟนเพจ เราได้ที่
www.facebook.com/adhdcarecenter/

IN BOX เพื่อแชทกับแอดมินได้โดยตรงค่ะ
http://m.me/adhdcarecenter/

คลิ๊กลิงค์เพื่อแอดไลน์แชทรับคำปรึกษาฟรี
https://goo.gl/yz29Lp
Line ID:

การใช้โทรศัพท์ส่งผลให้เด็กเป็นโรคสมาธิสั้นปัจจุบันสมาร์ทโฟนเป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไป ผู้คนส่วนใหญ่มีสมาร์ทโฟนเป็นของตนเองแล...
10/11/2021

การใช้โทรศัพท์ส่งผลให้เด็กเป็นโรคสมาธิสั้น
ปัจจุบันสมาร์ทโฟนเป็นสิ่งที่พบได้ทั่วไป ผู้คนส่วนใหญ่มีสมาร์ทโฟนเป็นของตนเองและในผู้ปกครองบางคนใช้สมาร์ทโฟนเพื่อลดการรบกวนของลูก เนื่องจากต้องทำงานหรือมีสิ่งที่ต้องทำ ดังนั้นการลดการรบกวนของลูกที่ได้ผลดีมากที่สุดคือ การยื่นสมาร์ทโฟนให้ลูกเล่น

นักวิจัยเชื่อว่ามีความสัมพันธ์กันระหว่างการใช้สมาร์ทโฟนกับโรคสมาธิสั้น มีเด็กที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมาธิสั้นเพิ่มมากขึ้นทำให้นักวิจัยตั้งข้อสงสัยว่าเทคโนโลยีการใช้สมารืทโฟนที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลกระทบต่อระดับความสนใจและสมาธิของเด็กและวัยรุ่น ซึ่งการวิจัยแสดงให้เห็นว่าเด็กที่เล่นเกมส์บนโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนมีความเสี่ยงต่อโรคสมาธิสั้นเพิ่มขึ้น ดังนั้นผู้ปกครองควรกำหนดเวลาการใช้โทรศัพท์มือถือให้แก่เด็กและคอยสอดส่องสิ่งที่เด็กเล่น เด็กจะไม่รู้สึกว่าถูกลงโทษหากมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ทำ
วิธีแก้เด็กสมาธิสั้นมีวิธีไหนบ้าง?
วิธีแก้อาการสมาธิสั้นในเด็ก (ADHD หรือ ADD) มีหลายวิธีที่นิยมใช้ในการรักษา ซึ่งล้วนส่งเสริมความสามารถในการจดจ่อและควบคุมพฤติกรรมหุนหันพลันแล่นของเด็กให้ดียิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น



1. การใช้ยาแก้สมาธิสั้น

2. การรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ

3. การเล่นและการออกกำลังกาย

4. การใช้ธรรมชาติบำบัด

5. การนอนหลับที่มีคุณภาพ

6. การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อแก้สมาธิสั้น


การเสริมสร้างสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งในวิธีแก้ไขเด็กสมาธิสั้น ที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านการเข้าสังคมและใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นของเด็กที่สมาธิสั้นรวมถึงช่วยลดความตึงเครียดและความยุ่งยากที่อาจะเกิดขึ้นกับทั้งตัวเด็กและครอบครัวของพวกเขาด้วย

ด้วยความปรารถนาดีจาก #ศูนย์ดูแลเด็กสมาธิสั้น

สนับสนุนโดยผลิตภัณท์อเลอไทด์ ช่วยฟื้นฟู ดูแล บำรุง สมองและระบบประสาท ช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้ ช่วยให้มีสมาธิในการเรียนการทำงาน ลดภาวะสมาธิสั้น

ติดต่อสอบถามและรับคำปรึกษาฟรี / สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
แอดมิน โทร : 064-149-3659

ติดตามแฟนเพจ เราได้ที่
www.facebook.com/adhdcarecenter/

IN BOX เพื่อแชทกับแอดมินได้โดยตรงค่ะ
http://m.me/adhdcarecenter/

คลิ๊กลิงค์เพื่อแอดไลน์แชทรับคำปรึกษาฟรี
https://goo.gl/yz29Lp
Line ID:

สร้างความฉลาดให้ลูกน้อย ด้วยวิธีง่ายๆค่ะ
10/06/2021

สร้างความฉลาดให้ลูกน้อย ด้วยวิธีง่ายๆค่ะ

9 เทคนิคง่ายๆ👉ให้ลูกเรียนเก่งขึ้น

สร้างความฉลาดให้กับลูก
👉คือฝึกให้ลูกต้องมีการ
🔹️ฝึกให้มีสมาธิ
🔹️ฝึกการวางแผนล่วงหน้า
🔹️ฝึกระเบียบวินัย
🔹️ฝึกการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
🔹️ฝึกความรับผิดชอบ
🔹️ฝึกควบคุมตนเอง

และการเตรียมความพร้อมให้ลูก ตั้งแต่ก่อนเข้าโรงเรียน ได้ ซึ่งมี

9 เทคนิคช่วย😍ให้ลูกเรียนเก่งขึ้น😍

🔹️.ยอมรับและเข้าใจในสิ่งที่ลูกเป็นทั้งข้อดีและข้อด้อย

🔹️.ร่วมมือกันวางแผนเพื่อลูก แบ่งหน้าที่ช่วยเหลือกันในการดูแลลูกด้านต่างๆ

🔹️.พ่อแม่และครูต้องเป็นทีมเดียวกัน เพื่อติดตามการเรียนและปัญหาของลูก

🔹️.ให้ลูกค้นหาสิ่งใหม่ๆ ค้นหาสิ่งที่ลูกชอบ ช่วยให้ลูกกล้าคิดกล้าทำ

🔹️.คอยให้กำลังใจ เพราะกำลังใจจากพ่อแม่เป็นสิ่งช่วยกระตุ้นให้ลูกพยายามในสิ่งที่ทำอยู่ แต่ไม่ควรปล่อยให้ลูกอยู่กับสิ่งที่ทำไม่ได้นานเกินไป

🔹️.ลดการเปรียบเทียบกับลูกคนอื่นๆ

🔹️.ฝึกให้ช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจำวัน

🔹️. ฝึกให้เกิดความเคยชินและเรียนรู้เรื่องการช่วยเหลือคนอื่น

🔹️.ฝึกระเบียบวินัย ให้รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด.

🌄พ่อแม่ถือเป็นบุคคลสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนให้เด็กประสบความสำเร็จในชีวิต ให้ฝึกลูกก่อนลูกจะที่เข้าโรงเรียน เท่านี้ลูกก็จะเป็นเด็กที่เรียนเก่งและมีความรับผิดชอบต่อตัวเอง

ขอบคุณบทความจาก
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผอ.สถาบันราชานุกูล

ด้วยความปรารถนาดีจาก #ศูนย์ดูแลเด็กสมาธิสั้น

สนับสนุนโดยผลิตภัณท์อเลอไทด์ ช่วยฟื้นฟู ดูแล บำรุง สมองและระบบประสาท ช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้ ช่วยให้มีสมาธิในการเรียนการทำงาน ลดภาวะสมาธิสั้น

ติดต่อสอบถามและรับคำปรึกษาฟรี / สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
แอดมิน โทร : 064-149-3659

ติดตามแฟนเพจ เราได้ที่
www.facebook.com/adhdcarecenter/

IN BOX เพื่อแชทกับแอดมินได้โดยตรงค่ะ
http://m.me/adhdcarecenter/

คลิ๊กลิงค์เพื่อแอดไลน์แชทรับคำปรึกษาฟรี
https://goo.gl/yz29Lp
Line ID:

ฝึกสมองลูกให้ฉลาด 👇👇
08/05/2021

ฝึกสมองลูกให้ฉลาด 👇👇

3 เทคนิค👉ฝึกสมองลูกให้ " ฉลาด"
ลูกเก่ง ฉลาด สมองดี พ่อแม่มีแต่ปลื้มกับภูมิใจ ในทางกลับกัน ถ้าลูกเรียนอะไรก็จำไม่ได้ ไม่เข้าใจ คิดวิเคราะห์อะไรก็ไม่เป็น พ่อแม่ย่อมทุกข์ใจ

ใครที่ลูกเป็นอย่างหลังและกำลังหาวิธีที่จะทำให้ลูกเป็นเด็กเก่ง ฉลาด
มีเทคนิคง่ายๆ มาฝาก

😃 1.เล่นเกมฝึกการจำภาพ
โดยหาภาพต่างๆ เช่น ภาพการ์ตูน ภาวพวิว ภาพสัตว์ ภาพดอกไม้ หรือภาพอะไรก็ได้ มาเล่นเกมฝึกการจำภาพ การฝึกการจำภาพจะทำให้เขาได้ใช้สมองซีกที่เป็นส่วนของจินตนาการต่างๆ ทำให้เขาเกิดความคิดสร้างสรรค์ การจดจำต่างๆ ได้ดี และมีพัฒนาการที่ดีขึ้น

😃 2.ใช้คำถามเพื่อฝึกความคิดของลูกให้เขาได้รู้จักการคิดวิเคราะห์ คิดหาเหตุผลต่างๆ ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และถ้าเป็นมันเกิดขึ้นแบบนี้ มันดีหรือไม่ดียังไง ผลดีที่ได้นั้นจะเป็นแบบไหน อย่างไรบ้าง วิธีนี้จะทำให้เขารู้จักคิดวิเคราะห์ หาเหตุผลต่างๆ

😃 3.ฝึกให้ได้ใช้ประสบการณ์จริงๆ ถ้าเด็กได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ประสบการณ์ตรงนั้นจะทำให้เขาเกิดการเรียนรู้ที่ดีที่สุด

"อย่างเช่น อยากให้ลูกเรียนรู้คณิตศาสตร์ ก็จะให้เงินลูก 20 บาทแล้วไปปล่อยเขาไว้ในเซเว่น ลูกจะซื้ออะไรก็สุดแต่เขา แต่่วิธีนี้ทำให้เขาเรียนรู้การนับเงิน การทอนเงิน การบวกเลข"

พ่อแม่ที่กำลังมีลูกอยู่ในวัยเรียนโดยเฉพาะวัยอนุบาลถึงประถมต้น ลองนำเทคนิคทั้ง 3 นี้ไปใช้ฝึกสมองลูกดูครับความฉลาดและอัจฉริยภาพของลูกอยู่แค่เอื้อม

ด้วยความปรารถนาดีจาก #ศูนย์ดูแลเด็กสมาธิสั้น

สนับสนุนโดยผลิตภัณท์อเลอไทด์ ช่วยฟื้นฟู ดูแล บำรุง สมองและระบบประสาท ช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้ ช่วยให้มีสมาธิในการเรียนการทำงาน ลดภาวะสมาธิสั้น

ติดต่อสอบถามและรับคำปรึกษาฟรี / สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
แอดมิน โทร : 064-149-3659

ติดตามแฟนเพจ เราได้ที่
www.facebook.com/adhdcarecenter/

IN BOX เพื่อแชทกับแอดมินได้โดยตรงค่ะ
http://m.me/adhdcarecenter/

คลิ๊กลิงค์เพื่อแอดไลน์แชทรับคำปรึกษาฟรี
https://goo.gl/yz29Lp
Line ID:

ที่อยู่

242 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี
Bangkok
10510

เบอร์โทรศัพท์

+66641493659

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ศูนย์พัฒนาสมองอัจฉริยะ 064-1493659ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง ศูนย์พัฒนาสมองอัจฉริยะ 064-1493659:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram