08/08/2020
พระอวโลกิเตศวร พระโพธิสัตว์แห่งความเมตตากรุณา พระนามท่านมีความหมายว่า “ผู้สดับฟังอย่างลึกซึ้ง”
มหาโยคีผู้ทรงตบะเดชะแห่งหิมาลัย ผู้ตั้งใจมุ่งสู่การหลุดพ้น ได้ปรากฏนิมิตว่า องค์อวโลกิเตศวรเสด็จมาประทับ ณ ฟากหนึ่งของแม่น้ำสินธุ เพื่อรอถ่ายทอดโยคะเพื่อการหลุดพ้นแก่ท่าน
มหาโยคีจึงเร่งออกเดินทางพร้อมศิษย์ในทันที ด้วยเกรงว่าจะคลาดจากการได้สักการะพระองค์
ณ ริมฝั่งแม่น้ำสินธุซึ่งมีเรือข้ามฟากอยู่เพียงลำเดียว ปรากฏร่างของหญิงชราซูบผอมนอนป่วยร้องครางด้วยพิษไข้ ร่างกายนางมีน้ำหนองไหลเยิ้มส่งกลิ่นเหม็นชวนคลื่นไส้ โยคีหนุ่มเห็นแล้ว จึงเอ่ยต่อมหาโยคีว่า ตนอยากจะอยู่ดูแลรักษาพยาบาลให้นางก่อน
“ศิษย์รัก หนทางอันประเสริฐกว่ารอเราอยู่เบื้องหน้าที่อีกฟากของแม่น้ำนี้ เป้าหมายสำคัญของเราคือการบรรลุถึงการหลุดพ้น หญิงชรานี้ป่วยไข้ก็ด้วยวิบากกกรรมเก่าของนางเอง อีกทั้ง เราทั้งสองเป็นผู้ถือสมณเพศ ไม่ควรที่จะแตะต้องร่างกายของสตรี เรารีบขึ้นเรือไปสักการะพระมหาโพธิสัตว์เถิด หากช้ากว่านี้ อาจจะพลาดโอกาสอันเป็นมหามงคลได้”
แม้มหาโยคีจะกล่าวย้ำถึงสามครั้ง แต่โยคีหนุ่มกลับยืนกรานถึงสามครา มหาโยคีจึงตัดใจขึ้นเรือจากไป ทิ้งศิษย์ตนไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำนั้น
ฝ่ายโยคีหนุ่มได้รักษาพยาบาลหญิงชรานั้นอย่างเต็มกำลัง เขาสละน้ำดื่มที่พกติดตัวมาสำหรับตนเองให้นางดื่ม ถอดผ้าจีวรไปชุบน้ำจากแม่น้ำ มาเช็ดล้างร่างกายของนางจนสะอาดโดยมิได้รังเกียจ ออกเดินหาสมุนไพรรากไม้มาปรุงเป็นยารักษานาง เวลาผ่านไปเนิ่นนานกระทั่ง นางจะทุเลาอาการและมีกำลังพูดคุยกับเขาได้
“สาธุเจ้า โยคีผู้ประเสริฐ ข้าได้ข่าวว่าองค์อวโลกิเตศวรเจ้าเสด็จมาโปรดสัตว์ที่ฟากโน้นของแม่น้ำสินธุ จึงตั้งใจว่าจะไปกราบสักการะพระองค์สักครั้งก่อนตายให้ได้ จึงยอมกัดฟันลากสังขารที่ป่วยไข้เรื้อรังนี้มา”
“พอดีเลย อาตมาเองก็ตั้งใจจะเดินทางไปกราบพระองค์เช่นกัน อาตมาจะทำให้ท่านสมปรารถนาให้ได้”
เมื่อปราศจากเรือข้ามฟาก โยคีหนุ่มจึงแบกร่างหญิงชราขึ้นขี่หลังใช้ผ้าจีวรผูกมัดร่างนางไว้ให้แน่น แล้วว่ายข้ามแม่น้ำไปโดยไม่ลังเล เขารู้สึกหวาดเกรงต่อกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากนั้น และห่วงความปลอดภัยของหญิงชราด้วย แม้โยคีหนุ่มจะมั่นใจในพละกำลังของตน แต่ก็ไม่อาจวางใจในโชคชะตาและกระแสน้ำได้ เขาจึงตั้งสมาธิจิตระลึกถึงองค์อวโลกิเตศวร เพื่อขอประทานพลังแก่เขาให้ข้ามฟากได้สำเร็จ และขจัดความกลัว ความลังเลฟุ้งซ่านต่างๆที่รบกวนเขา โดยการสวดบทหฤทัยมนตราแห่งพระอวโลกิเตศวร
“โอม มณี ปัทเม ฮุม ”
โยคีหนุ่มสวดท่องมหามนตราขณะว่ายน้ำไปตลอดทาง เมื่อไปถึงกลางแม่น้ำ คลื่นกระแสน้ำลูกใหญ่ได้กระแทกคนทั้งสองอย่างแรง ร่างของทั้งสองจมดิ่งลงไป โยคีหนุ่มตั้งสติ รวบรวมพลังพาตนเองผุดพ้นขึ้นมาเหนือผิวน้ำได้สำเร็จ แต่ที่หลังเขาปราศจากหญิงชรานั้นเสียแล้ว
เขาดำผุดขึ้นลงค้นหาหญิงชราอยู่หลายครั้ง แต่กลับไม่เจอ กระแสน้ำยังคงพัดแรง แต่เขากลับไม่หยุดดำค้นหาร่างของนาง ทันใดนั้น กระแสน้ำก็สงบนิ่งลง และปรากฏเสียงร้องเรียกเขาดังก้องมาจากฟากฟ้าเบื้องบน
โยคีหนุ่มได้เห็นร่างหญิงชราลอยอยู่บนท้องฟ้า ค่อยๆกลายเป็นองค์อวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ผู้ประทับอยู่บนบัลลังค์ดอกบัว ฉัพพรรณรรังสีของพระองค์เจิดจ้าครอบคลุมทั่วทั้งบริเวณ ด้วยแสงนั้น ทำให้ร่างกายเขาลอยอยู่กับผิวน้ำได้โดยไม่ต้องออกแรงว่ายพยุงตัวแต่อย่างใด
“เธอประหลาดใจอันใด ในเมื่อเธอเรียกหาฉัน เธอก็ได้พบฉัน”
โยคีหนุ่มประหลาดใจว่าเหตุไฉนพระองค์จึงอยู่ที่นี่ ในร่างของหญิงชรา มิใช่ประทับอยู่ ณ อีกฟากของแม่น้ำสินธุ
“ฉันไม่ได้ดำรงอยู่ที่ฟากโน้นหรือฟากนี้ของแม่น้ำสายไหน
ฉันไม่ได้อยู่ก่อนหรือหลังเวลาใด แต่ฉันดำรงอยู่ที่นี่ในปัจจุบันขณะเวลานี้
ฉันดำรงอยู่กับเธอมาโดยตลอด เช่นเดียวกับที่ฉันดำรงอยู่กับครูของเธอมาตลอดเช่นกัน เสียดายเพียง ครูของเธอนั้นเต็มไปด้วยมายาคติแห่งสังโยชน์ จึงทำให้เขามองไม่เห็นฉัน
ปุถุชนเข้าใจว่าการสักการะบูชาที่แท้คืออะไร?
เข้าใจว่าการแสวงหาการบรรลุธรรมเป็นฉันใด ?
สิ่งนั้นไม่ใช่จุดหมายปลายทางเบื้องหน้าไกลตัว แต่กลับเป็นทุกขณะที่ดำรงอยู่
ดูก่อนโยคี เมื่อเธอสวดภาวนาบทหฤทัยมนตรานั้น ฉันอยู่กับเธอ
แต่เมื่อเธอตัดสินใจไม่ขึ้นเรือไป และอยู่ช่วยเหลือหญิงชราผู้นั้น เมื่อนั้น เธอได้กลายเป็นฉันแล้ว”
กล่าวจบ แสงประภัสสรแห่งพระองค์ก็สุกสว่างเจิดจ้าเป็นที่สุด แล้วจึงค่อยๆจางหายไป ท้องฟ้าแจ่มใส ร่างของโยคีหนุ่มพลันข้ามมาอยู่บนอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบ
วันที่ 8 เดือน 8 วันสำเร็จมรรคผลแห่ง
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ ผู้บำเพ็ญเมตตาบารมีอันไพศาลไร้ประมาณ ช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้รอดพ้นจากบ่วงมารแลวัฏสงสาร ผู้ประกาศปณิธานธรรม ตราบใดสัตว์โลกทั้งปวงยังไม่หลุดพ้น เราจักไม่ขอสู่นิพพาน
ขอศานติ ไมตรี อภัยทาน จงมีแด่ทุกท่าน ณ ช่วงเวลาที่ชาวโลกกำลังเผชิญบททดสอบที่ท้าทายที่สุด
-------------------------------
ภาพประกอบ : พระอวโลกิเตศวรปางพันกร วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ จ.กาญจนบุรี