09/11/2020
ถึงแม้ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นการจะยังไม่ประกาศออกมา แต่ทั่วโลกก็ทราบแล้วว่านายโจ ไบเดน คือว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐอเมริกา🇺🇸 ทุบสถิติเป็นผู้สมัครที่ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุด (Poppular Vote) ในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ🎉 วันนี้พี่เลยจะมาเปิดนโนบายของผู้นำคนใหม่ว่ากระทบกับ SME ไทยอย่างไร❓
🎯ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานไม่ต่ำกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ฯ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน พลังงานสะอาด ขยายเครือข่าย 5G และสนับสนุนสวัสดิการด้านสุขภาพ
✅ผลดีต่อไทย เพิ่มโอกาสส่งออกสินค้าเกี่ยวกับเหล็กและผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์เพื่อผลิตพลังงานสะอาดอย่างโซล่าร์เซลล์และไดโอด รวมถึงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์โทรคมนาคม และอุปกรณ์โทรศัพท์
🎯เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2564 น่าจะเติบโตจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 3%
✅ผลดีต่อไทย การส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ ปี 2564 ฟื้นตัวแรงที่ 10%-12% มีมูลค่าการส่งออก 36,700-37,300 ล้านดอลลาร์ฯ
🎯นโยบายด้านการค้าระหว่างประเทศและสงครามการค้ากับจีนสงบชั่วคราว
✅ผลดีต่อไทย
1. ลดความรุนแรงการกีดกันการค้ากับไทย โดยไทยน่าจะได้ต่ออายุสิทธิ GSP
2. ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ดังนี้
2.1) สินค้าส่งออกไปตลาดจีนโดยเฉพาะสินค้าวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลาง เช่น เม็ดพลาสติก ยางพารา เคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า และผลไม้
2.2) สินค้าส่งออกไปตลาด CLMV ที่เศรษฐกิจฟื้นตัวตามจีน เช่น สินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน
3. หากสหรัฐฯ สร้างพันธมิตรได้ จะเกิดการเบี่ยงเบนการค้าของไทยจากจีนไปยังประเทศที่เป็นปลายทางการลงทุนใหม่ของนักลงทุนต่างชาติ เช่น ยุโรป อินเดีย ซึ่งไทยมีโอกาสส่งสินค้าไปสนับสนุนการผลิตบางรายการในตลาดพันธมิตร
💔ผลเสียต่อไทย
1. หากสหรัฐฯ กลับมาเข้า CPTPP, TTIP (ความตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-EU) จะยิ่งทำให้ไทยหลุดออกจากห่วงโซ่การผลิตโลก เสียโอกาสผลิตและส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และเสียโอกาสรับเม็ดเงินลงทุนใหม่ๆ
2. ไทยอาจไม่ได้ประโยชน์ในการรับเงินลงทุนจากการกระจายฐานการผลิตเท่ากับเวียดนาม เพราะไทยไม่ได้อยู่ในเกมของสหรัฐฯ และไทยต้องปรับตัวเพื่อแข่งกับสินค้าเวียดนาม
ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
#ผลเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา