ช้อปสุขภาพ "สมองดี ความจำดี เรียนไว"

ช้อปสุขภาพ "สมองดี ความจำดี เรียนไว" "ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร/วิตามินแบบครบ?

เพื่ออนาคตของลูก ใส่ใจดูแลด้วยสารสกัดบำรุงสมองและระบบประสาทเพื่อเติมไฟให้กับสมอง ความจำดี คิดเร็ว เรียนไวกับ "อเลอไทด์"
21/09/2018

เพื่ออนาคตของลูก ใส่ใจดูแลด้วย

สารสกัดบำรุงสมองและระบบประสาท
เพื่อเติมไฟให้กับสมอง ความจำดี คิดเร็ว เรียนไว

กับ "อเลอไทด์"

มั่นใจในการสอบ วิตามินบำรุงร่างกายก่อนนอนอย่างละ 1 เม็ดสมองโล่งปลอดโปร่งมั่นใจในการสอบ

สนใจสั่งซื้อโทร
087-086-2721 อุทัย
097-194-280-9 วิชิต

คลิ๊กดูข้อมูลเพิ่มเติม
https://line.me/R/ti/p/%40ods7901q

มั่นใจในการสอบ วิตามินบำรุงร่างกายก่อนนอนอย่างละ 1 เม็ดสมองโล่งปลอดโปร่งมั่นใจในการสอบ  สนใจสั่งซื้อโทร 087-086-2721 อุท...
21/09/2018

มั่นใจในการสอบ วิตามินบำรุงร่างกายก่อนนอนอย่างละ 1 เม็ดสมองโล่งปลอดโปร่งมั่นใจในการสอบ

สนใจสั่งซื้อโทร
087-086-2721 อุทัย
097-194-280-9 วิชิต

คลิ๊กดูข้อมูลเพิ่มเติม
https://line.me/R/ti/p/%40ods7901q

18/09/2018

ก่อนไปสอบน้องฝ้าย
เพิ่มพลัง เติมไฟให้สมองด้วย"อเลอไทด์"

สอบวิชาใหนก็สบาย....

 #กาบา (GABA: Gamma aminobutyric acid)  คือ ? กาบา (GABA: Gamma aminobutyric acid) เป็นสารสื่อประสาทที่ทำงานเป็นตัวต้านก...
14/09/2018

#กาบา
(GABA: Gamma aminobutyric acid) คือ ?


กาบา (GABA: Gamma aminobutyric acid) เป็นสารสื่อประสาทที่ทำงานเป็นตัวต้านกระแสประสาทจึงช่วยลดการกระตุ้นการทำงานของเซลล์สมอง เซลล์สมองจึงเกิดสมดุลในการทำงาน ส่งผลให้สมองลดการตื่นตัวเกินเหตุ ทำให้สมองเกิดความสงบ ลดความวิตกกังวล เพิ่มการเข้าใจการรับรู้ และยังช่วยควบคุมการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ จึงช่วยให้ร่างกายเกิดการผ่อนคลาย การนอนหลับ นอกจากนั้นยังเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเซลล์สมอง และอาจสัมพันธ์กับการทำงานของฮอร์โมนจากต่อมไพเนียลที่ชื่อว่า Melatonin ที่ควบคุมการนอนหลับหรือภาวะกลางวันกลางคืนของร่างกาย

ทั้งนี้ การทำงานของGABA ต้องอาศัย ตัวรับกาบา(GABA receptor ย่อว่า GABA R) ที่มีกระจายอยู่ตามเนื้อเยื่อ/อวัยวะต่างๆ แต่ที่มีมากที่สุดคือ อยู่ในอวัยวะระบบประสาทส่วนกลาง

GABA receptor: ตัวรับ(Receptor)คือสารที่สามารถรับสัญญาณจากสารต่างๆเพื่อให้สารนั้นๆทำงานได้และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ “ตัวรับกาบา (GABA receptor)” คือสารเคมีที่จะทำให้ GABA สามารถทำงานได้และทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวรับกาบา มี 2 ชนิด คือ GABA-A และ GABA-B

ก. GABA-A receptor ย่อว่า GABA AR อีกชื่อ คือ Ionotropic receptor ส่วนใหญ่จะมีในระบบประสาทส่วนกลางมีหน้าที่ต้าน/ยังยั้งการทำงานของสารสื่อประสาท GABA/เพิ่มการทำงานของ GABA receptor

ข. GABA-B receptor ย่อว่า GABA BR อีกชื่อคือ Metabotropic receptor เป็นตัวรับที่มีอยู่ในระบบประสาทส่วนกลางรวมถึงในระบบประสาทอัตโนมัติ ทำหน้าที่ยับยั้งการทำงานของ GABA receptor

Cr. หาหมอ
_____________
"Alertide"

" ช่วยปรับสมดุลสารสื่อประสาทในสมอง" >>> ช่วยฟื้นฟู บำรุง และพัฒนาเซลล์สมอง
>>>ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ เพิ่มทักษะ เพิ่มความจำ ช่วยให้มีสมาธิจดจ่อ >>>และช่วยให้ผ่อนคลาย

__________________

 #เบต้ากลูแคนเป็นไปได้อย่างไรที่จะมีสารตัวหนึ่งช่วยทั้งผิวพรรณทั้งต้านมะเร็งอีกด้วย เพราะฟังดูเป็นคนละเรื่องกันเลยแต่มีส...
14/09/2018

#เบต้ากลูแคน

เป็นไปได้อย่างไรที่จะมีสารตัวหนึ่งช่วยทั้งผิวพรรณทั้งต้านมะเร็งอีกด้วย เพราะฟังดูเป็นคนละเรื่องกันเลย

แต่มีสารชนิดนี้จริงๆ ชื่อว่า เบต้า กลูแคน (Beta glucan)

ผู้รักสุขภาพลองมาทำความรู้จักสารนี้กันหน่อย

แท้ที่จริงสารนี้ก็คือน้ำตาลเชิงซ้อนชนิดหนึ่งที่เรียงตัวกันเป็นโพลีแซกคาไรด์ ซึ่งก็คือเส้นใยในธรรมชาตินั่นเอง

มันอาจเรียงตัวกันยาวหรือกว้างใหญ่ขนาดไหนแล้วแต่สถานการณ์ ด้วยเพียงแต่เอาโมเลกุลของกลูโคสมาเกาะกัน แล้วผลที่ได้จากการเกาะกันนั้นก็เกิดคุณสมบัติต่างกันทั้งการละลายน้ำ ความหนืด รวมทั้งปฏิกิริยาทางชีวเคมีที่แตกต่างกันต่อร่างกาย

เบต้ากลูแคนที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้วก็คือเซลลูโลสของต้นพืช รำข้าว ผนังเซลล์ของยีสต์ เห็ด รา และแม้กระทั่งเปลือกของแบคทีเรีย

เบต้ากลูแคนถูกเอามาใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น เป็นเส้นใยอาหาร หรือแม้กระทั่งเอามาเป็นหัวเชื้อเพื่อหมักแอลกอฮอล์

โอ๊ตเป็นแห่งของเบต้ากลูแคนชนิดละลายน้ำที่พบมากสุด

ต่อมาก็คือยีสต์และเห็ดซึ่งมีการวิจัยพบบทบาทต่อภูมิต้านทานร่างกายอย่างสำคัญ

มีการค้นพบว่าเบต้ากลูแคนชนิดละลายน้ำมีบทบาทต่อสุขภาพน้อยกว่าชนิดไม่ละลายน้ำ

การที่มันมีคุณสมบัติแตกต่างกันเป็นเพราะตำแหน่งบนโมเลกุลของน้ำตาลตำแหน่งไหนที่เป็นฝ่ายยื่นแขนออกไปจับกับโมเลกุลข้างๆ

เช่น พบว่าการเกาะกันที่ตำแหน่ง beta 1,3/1,4 ทำให้มันละลายน้ำแต่มีผลต่อร่างกายน้อยลง

ถ้าเทียบกับการเกาะกันที่ตำแหน่ง beta 1,3/1,6 ซึ่งทำให้มันละลายน้ำ แล้วมีผลต่อสุขภาพทั้งกระตุ้นภูมิต้านทาน ควบคุมคอเลสเตอรอล ไปจนถึงความสวยงามของผิวพรรณด้วย

เบต้ากลูแคนที่นำมาสกัดเป็นสารเสริมมีประโยชน์ต่อสุขภาพนั้น ทำมาจากผนังเซลล์ของเห็ดชิตาเกะ (Saccharomyces cerevisiae) ให้สารชนิด beta 1,3/1,6 มีผลดีต่อภูมิต้านทานอย่างมาก

ส่วนที่สกัดจากโอ๊ตและข้าวบาเลย์เป็นชนิด beta 1,3/1,4 ไม่ได้กระตุ้นภูมิต้านทาน แต่ช่วยลดคอเลสเตอรอลได้

ทำงานผ่านเม็ดเลือดขาว
เม็ดเลือดขาวของเราคือกองทัพป้องกันประเทศ แบ่งเป็นหลายกรมกอง บางชนิดทำหน้าที่ปล่อยสารพิษใส่ผู้รุกราน บางชนิดเข้าไปเขมือบกิน

พบว่าบนผนังของเม็ดเลือดขาวทั้งนิวโทรฟิลมีหน้าที่กำจัดแบคทีเรีย แมโครฟาจคอยเขมือบกินและเก็บกวาดขยะ และ NK cell คอยต่อต้านมะเร็ง ต่างก็มีปุ่มรับที่พร้อมจะตอบสนองต่อสารเบต้ากลูแคน

ดังนั้น เมื่อรับเบต้ากลูแคนเข้าไป เซลล์เม็ดเลือดขาวเหล่านี้ก็ตื่นตัวขึ้นมาทำงาน แต่เป็นการตื่นตัวที่สามารถควบคุมได้ ไม่กลายเป็นภูมิต้านทานไวเกิน

เมื่อศึกษาต่อไปพบว่า ปุ่มรับบนแมโครฟาจชื่อ Dectin-1 จะจับกับ beta 1,3/1,6 จากนั้นเข้าแมโครฟาจก็จะแบ่งตัวไปทำหน้าที่ทำความสะอาดตามเยื่อบุภายในของอวัยวะต่างๆ เช่น ถุงลมปอด ท่อตับ ผิวหนัง ไต เลือด เยื่อบุลำไส้ เยื่อหุ้มข้อ

Cr. มติชน สุดสัปดาห์
_____________
"Alertide"

" ช่วยปรับสมดุลสารสื่อประสาทในสมอง" >>> ช่วยฟื้นฟู บำรุง และพัฒนาเซลล์สมอง
>>>ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ เพิ่มทักษะ เพิ่มความจำ ช่วยให้มีสมาธิจดจ่อ >>>และช่วยให้ผ่อนคลาย

__________________

 #ช่วยบำรุงดูแลอาการต่างๆของสมองและปรับสมดุลระบบประสาทของสมองสามารถทานได้ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุที่มีอาการในแต่ล...
14/09/2018

#ช่วยบำรุงดูแลอาการต่างๆของสมองและปรับสมดุลระบบประสาทของสมอง

สามารถทานได้ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ
ที่มีอาการในแต่ละช่วงอายุ

#สมองอ่อนล้า สมองตื้อ มึนงง ไม่ปลอดโปร่ง
คิดถึง อเลอไทด์ Alertide อาหารที่สมองต้องการ

หากคุณมีอาการ
😵คิดช้า
😵หลงๆ
😵ลืมๆ
😵ป้ำๆ
😵เป๋อๆ
😵สมองตื้อ มึนงง

#มาติดหลอดไฟให้สมองกันด้วยอาหารสมอง "อเลอไทด์"

อเลอไทด์ ALERTIDE ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุง สมองและระบบประสาท

ดูแลสมอง...กับนวัตกรรมใหม่ที่ไม่เคยสัมผัส

>>เหมาะสำหรับ

เรื่องใกล้ตัวที่คุณไม่ควรมองข้าม...กับลูกน้อยคลิ้กดูข้อมูลhttps://bit.ly/2Mq6CZI
10/09/2018

เรื่องใกล้ตัวที่คุณไม่ควรมองข้าม...กับลูกน้อย

คลิ้กดูข้อมูล
https://bit.ly/2Mq6CZI

พ่อแม่หวั่น...น้องเป็นสมาธิสั้น!!!น้องติดโทรศัพย์มากไม่สนใจเรื่องการบ้าน พ่อแม่ต้องคอยจี้คอยถามตลอดว่ามีการบ้านมามั๊ยไม่...
05/09/2018

พ่อแม่หวั่น...น้องเป็นสมาธิสั้น!!!

น้องติดโทรศัพย์มากไม่สนใจเรื่องการบ้าน พ่อแม่ต้องคอยจี้คอยถามตลอดว่ามีการบ้านมามั๊ย
ไม่ยอมกินข้าว ไม่สนใจอะไรเลย...
อยู่แต่กับโทรศัพย์ทั้งวันการเรียนก็ไม่ค่อยสนใจ

เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับผมเองที่ไม่รู้จะแก้ไขกับลูกได้อย่างไร???
#ความเป็นพ่อเป็นแม่ก็รักลูกไม่อยากดุมากก็ปล่อยตามใจจนเคย

แต่อยู่ๆผมก็ได้รู้จักกับพี่ท่านหนึ่ง ได้แนะนำให้ผมทดลองทาน"อเลอไทด์" ดูเพราะเขาให้ลูกเขาทานอยู่ประจำ

#ด้วยความที่ผมไม่รู้จะแก้ไขยังไงแล้วคิดว่าจะลองดูก็ไม่เสียหายจึงลองสั่งมาให้ลูกทาน 1 กล่อง

#ผมแปลกใจมากครับน้องเปลี่ยนไปดูร่าเริงยิ้มแย้มแล้วก็ดูมีสมาธิในการเรียนมากขึ้นเชื่อฟังเวลาเราพูดบอกมากขึ้นและทำการบ้านที่ได้รับมาโดยไม่ต้องคอยบอกคอยถามอีกทำให้ผมสบายใจขึ้นมากและสั่งเพิ่มมาให้น้องทานต่อเนื่องทันทีครับ

"รักลูกให้ถูกทาง มอบสิ่งดีๆให้กับลูกน้อยของเรานะครับ" "อเลอไทด์" ตอบโจทย์คุณได้

สั่งซื้อ/สอบถามข้อมูลโทร
097-194-2809 คุณวิชิต
087-086-2721 คุณอุทัย

คลิกเพื่อนไลน์แอด

Open the Friends tab in your LINE app, tap the add friends icon inthe top right, select "QR code," and then scan this QR code.

ดูแลลูกน้อยด้วย "อเลอไทด์"บำรุงสมองเพิ่มความรู้ความจำ ด้วยอเลอไทด เรื่องสมองต้อง"อเลอไทด์" ⚓✔Alertide ✔ช่วยในการบำรุงสมอ...
03/09/2018

ดูแลลูกน้อยด้วย "อเลอไทด์"

บำรุงสมองเพิ่มความรู้ความจำ ด้วยอเลอไทด
เรื่องสมองต้อง"อเลอไทด์" ⚓✔Alertide ✔

ช่วยในการบำรุงสมอง ช่วยเรื่องความจำ และการเรียนรู้ การสร้างความจำ รักษาความจำ รวมถึงช่วยฟื้นฟูเซลล์สมองที่เสียหาย หรือเสื่อมสภาพให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์

สรรพคุณ

➡ช่วยฟื้นฟูความจำและบำรุงสมอง
➡ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
➡ช่วยขจัดสารพิษจากตับ

➡ต้านเซลล์มะเร็ง ลดความเสี่ยงของการเป็นโรค
➡ช่วยส่งเสริมการทำงานของต่อมหมวกไต ต่อมใต้สมอง
➡บำบัดรักษาการอักเสบของเส้นประสาทในสมอง
➡ช่วยบำรุงประสาทและสมองช่วย

➡เพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้
➡ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
➡เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในเม็ดเลือดขาว

➡ช่วยกระตุ้นการหลั่งโกร๊ธฮอร์โมน
➡ช่วยแก้ไขอารมณ์ ซึมเศร้า
➡ช่วยฟื้นฟูความจำ
➡ช่วยป้องกันสมองและตับจากการถูกทำลายจากการดื่มแอลกอฮอล์ ยา และ การสูบบุหรี่

➡ช่วยผ่อนคลายความเครียด
➡ทำให้สมาธิดีขึ้น คิดอ่านได้ดีขึ้น
➡เพิ่มคุณภาพการหลับ ช่วยให้นอนหลับได้สนิทขึ้น
➡ช่วยป้องกัน มะเร็งต่างๆ ลดอาการภูมิแพ้และไข้หวัด
➡ช่วยให้มีสมาธิในการเรียน การทำงาน จดจ่อกับสิ่งนั้นๆได้นานยิ่งขึ้น

➡ช่วยเรื่องติดอ่าง
➡ช่วยเรื่องสมาธิสั้นในเด็ก
☑เลขที่ อย. 10-1-06045-1-0040
☑รับรองฮาลาล

✔ขนาดบรรจุ 30 เม็ด
✔วิธีรับประทาน 1 เม็ด/วัน หลังอาหาร
✔ข้อแนะนำ เพื่อต้องการเห็นผลเร็ว ตวรรับประทานวันล่ะ 2-3 เม็ด

ปรึกษาโทร 097-194-2809 คุณวิชิต

03/09/2018

ข้อมูลดีๆสำหรับลูกรักอย่ามองข้ามนะครับ....

สมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactivity Disorder: ADHD) คือ โรคขาดสมาธิในการจดจ่อตั้งใจทำสิ่งใดให้สำเร็จ ขี้ลืม ไม่ใส่ใจคำสั่ง อยู่ไม่นิ่ง ไม่ชอบอยู่กับที่ ไม่อดทน หุนหันพลันแล่น โดยผู้ป่วยอาจเริ่มมีอาการตั้งแต่ช่วงอายุ 3-6 ปี โดยอาการจะแสดงออกอย่างชัดเจนและวินิจฉัยได้ในช่วงอายุ 6-12 ปี เนื่องจากเป็นช่วงที่ต้องเริ่มเข้าโรงเรียน ต้องทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น เริ่มสื่อสารและเข้าสังคม

ด้านสถิติประเทศไทย จากการศึกษากลุ่มตัวอย่างเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-5 จำนวนกว่า 7,800 คน ในปี 2555 พบว่าความชุกของเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นอยู่ที่ 8.1% โดยพบมากที่สุดในเด็กระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และพบในเด็กชายมากกว่าเด็กหญิงในอัตราส่วน 3:1

ในปัจจุบัน ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดโรคสมาธิสั้น และแม้ว่าเด็กบางคนอาจมีพฤติกรรมน่าสงสัยที่เข้าข่ายโรคสมาธิสั้น แต่อาจเป็นเพียงพัฒนาการตามช่วงวัยเท่านั้น ซึ่งเด็กที่มีพฤติกรรมตามวัย อย่างซุกซน อยู่ไม่นิ่ง ไม่เชื่อฟัง หากไม่ได้มีอาการตามเกณฑ์วินิจฉัยของโรคสมาธิสั้น แสดงว่าเด็กไม่ได้เป็นโรคสมาธิสั้น อาการจะดีขึ้นหรือหายไปเมื่อโตขึ้นหรือเมื่อเวลาผ่านไป ในขณะที่อาการของเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นจะยังคงอยู่ต่อไปจนโตเป็นผู้ใหญ่ และเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาหรือดูแลอย่างเหมาะสม

อาการของสมาธิสั้น

อาการของผู้ที่เป็นโรคสมาธิสั้นอาจยังคงอยู่ตลอดจนเข้าสู่วัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ โดยรูปแบบอาการอาจเปลี่ยนแปลงไปบ้างเล็กน้อยตามวัย และตามการรักษาดูแลที่ผู้ป่วยได้รับ หรืออาจยังมีบางอาการที่ยังคงอยู่และกระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวัน

การแสดงพฤติกรรมของโรคสมาธิสั้นมี 2 รูปแบบหลัก คือ การขาดสมาธิในการจดจ่อหรือตั้งใจทำสิ่งใด และการอยู่ไม่นิ่งและมีความหุนหันพลันแล่น โดยเด็กอาจมีพฤติกรรมรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง แต่มักปรากฏพฤติกรรมทั้ง 2 รูปแบบรวมกัน โดยพฤติกรรมเหล่านั้นจะเป็นอุปสรรคที่ส่งผลให้เกิดความยุ่งยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน การเรียน การเข้าสังคมและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล

อาการที่พบในเด็กและวัยรุ่น

ด้านการขาดสมาธิจดจ่อตั้งใจ

ไม่ตั้งใจฟัง ไม่สนใจในขณะที่มีคนพูดด้วย
ไม่ทำอะไรไปตามขั้นตอน ชอบทำอะไรง่าย ๆ รวบรัด
ไม่ชอบทำอะไรเป็นเวลานาน ๆ มักเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอย่างอื่นแทน
ไม่ชอบเรียนรู้เรื่องที่ต้องใช้เวลา เช่น การอ่านเรื่องยาว ๆ
มองข้ามเรื่องสำคัญ ไม่ใส่ใจรายละเอียด จนเกิดความผิดพลาดบ่อย ๆ
มักลืมอุปกรณ์เครื่องใช้หรือสิ่งของจำเป็น เช่น ลืมดินสอ ยางลบ ปากกา หนังสือ ตอนมาโรงเรียน
มักลืมสิ่งที่ต้องทำหรือที่ได้รับมอบหมาย เช่น ลืมทำการบ้าน ลืมการนัดหมาย
วอกแวกง่ายเมื่อมีสิ่งเร้ามากระตุ้น หรือมีความคิดอื่นมากระตุ้นในขณะทำกิจกรรมใด ๆ อยู่
จัดลำดับความสำคัญไม่เป็น เรียงลำดับสิ่งที่ควรทำไม่ได้
บริหารจัดการเวลาได้ไม่ดี ไม่สามารถทำงานเสร็จตามกำหนดการ
หลีกเลี่ยงและไม่ชอบงานที่ต้องใช้ความพยายามมาก ๆ อย่างการทำการบ้าน การเขียนรายงานหรือเรียงความ
มีปัญหากับการทำงานตามกำหนด หรือการเรียน การเล่น กิจกรรมอะไรก็ตามที่ต้องทำตามกฎระเบียบหรือกรอบคำสั่ง
ด้านการตื่นตัว อยู่ไม่นิ่ง และหุนหันพลันแล่น

พูดมาก พูดไม่หยุด
นั่งนิ่งอยู่กับที่นาน ๆ ไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ
ว่องไว เคลื่อนไหวรวดเร็ว ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
มีปัญหาเกี่ยวกับการรอ ไม่ชอบการรอคอย
ลุกออกจากที่นั่งบ่อย ๆ ในสถานการณ์ที่ควรนั่ง เช่น ขณะกำลังอยู่ในชั้นเรียน ขณะอยู่ที่ทำงาน
ลุกลี้ลุกลน กระสับกระส่าย จนมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อสถานการณ์
ไม่สามารถทำกิจกรรมหรืองานอดิเรกได้เงียบ ๆ ตามลำพัง
พูดโต้ตอบสวนขึ้นมาในขณะที่อีกฝ่ายยังพูดหรือถามไม่จบ ไม่รอให้ผู้อื่นพูดจบแล้วค่อยพูด
พูดแทรกหรือรบกวนในขณะที่ผู้อื่นกำลังพูดหรือทำกิจกรรมใด ๆ อยู่
อาการที่พบในผู้ใหญ่

ประมาทเลินเล่อ ขาดความใส่ใจในรายละเอียด
ขี้หลงขี้ลืม
ร้อนรน กระสับกระส่าย อยู่ไม่สุข
อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย
ใจร้อน ไม่มีความอดทน
ใช้ชีวิตบนความเสี่ยง ประมาท ขับรถเร็ว
ไม่สามารถจัดการกับความเครียดได้ หรือจัดการได้ไม่ดี
ชอบพูดโพล่งออกมา ไม่ชอบการทนอยู่เงียบ ๆ
พูดแทรก ไม่รอให้ถึงจังหวะหรือลำดับของตนเอง
มักทำงานผิดพลาดอยู่เสมอ
มีปัญหาเรื่องการจัดการ การจัดลำดับความสำคัญ และการบริหารเวลา
มักเริ่มทำงานใหม่โดยที่ยังไม่ได้ทำงานเดิมให้สำเร็จลุล่วง
สาเหตุของสมาธิสั้น

ปัจจุบัน สาเหตุของการเกิดโรคสมาธิสั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่กำลังมีการศึกษาปัจจัยเสี่ยงที่อาจเป็นเหตุให้เด็กเป็นโรคสมาธิสั้น หรือเด็กอาจเป็นโรคสมาธิสั้นจากหลายปัจจัยเหล่านี้รวมกัน ได้แก่

พันธุกรรม ผลการค้นคว้าชี้ว่า ผู้ป่วยโรคสมาธิสั้นมักมีพ่อแม่หรือญาติพี่น้องที่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดป่วยเป็นโรคนี้เช่นกัน ดังนั้น จึงมีแนวโน้มที่โรคสมาธิสั้นจะส่งต่อกันผ่านทางพันธุกรรม

โครงสร้างสมอง อาจเป็นโครงสร้างแต่กำเนิด หรืออาจเกิดจากการได้รับบาดเจ็บกระทบกระเทือนทางสมองตั้งแต่ในครรภ์ หรือในช่วงที่เป็นเด็กเล็ก
จากการสแกนสมองคนทั่วไปเทียบกับผู้ป่วยโรคสมาธิสั้น พบว่าพื้นที่บางส่วนของสมองผู้ป่วยโรคสมาธิสั้นมีขนาดเล็กกว่า และบางส่วนก็มีขนาดใหญ่กว่า รวมทั้งการขาดความสมดุลของระดับสารสื่อประสาทในสมอง ซึ่งอาจส่งผลให้เป็นโรคสมาธิสั้น

การตั้งครรภ์และการคลอด ผู้เป็นแม่อาจสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือใช้สารเสพติดในขณะตั้งครรภ์ หรืออาจอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ และเต็มไปด้วยมลภาวะ จึงรับเอาสารพิษเข้าสู่ร่างกายจนมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์ รวมไปถึงการคลอดก่อนกำหนด และการมีน้ำหนักตัวแรกเกิดต่ำ

สภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ ผู้ป่วยอาจได้รับสารพิษและสารเคมีที่เป็นอันตรายเข้าสู่ร่างกายในขณะที่ยังเป็นเด็กเล็ก เช่น ได้รับสารตะกั่วเข้าไปในร่างกายเป็นปริมาณมาก

ส่วนความเชื่อที่ว่า การดูโทรทัศน์และการเล่นวิดีโอเกมจะทำให้เด็กเป็นโรคสมาธิสั้นนั้น ยังไม่มีผลการค้นคว้าที่ยืนยันได้แน่ชัดในปัจจุบัน แต่มีความสัมพันธ์กันอย่างชัดเจนระหว่างเด็กสมาธิสั้นกับวิดีโอเกมคือ การดูรายการโทรทัศน์บางอย่างหรือการเล่นเกมบางเกมจะตอบสนองต่อความต้องการของเด็กสมาธิสั้นที่ไม่สามารถมีสมาธิจดจ่อสนใจอยู่กับสิ่งใดนาน ๆ ทำอะไรฉาบฉวย ปุบปับ แล้วก็เลิกสนใจไป

อย่างไรก็ตาม แม้ไม่มีการอธิบายเชิงสาเหตุ แต่การให้เด็กดูโทรทัศน์ เล่นเกม หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างพอดีทั้งด้านปริมาณและระยะเวลา ย่อมเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการเลี้ยงดูเด็ก

การวินิจฉัยสมาธิสั้น

หากเข้าข่ายน่าสงสัยของโรคสมาธิสั้น ควรสังเกต บันทึกอาการ แล้วจึงไปพบแพทย์ โดยการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมาธิสั้น ผู้ป่วยต้องมีอาการอยู่ในเกณฑ์วินิจฉัยในด้านการขาดสมาธิจดจ่อตั้งใจ หรือในด้านการตื่นตัวอยู่ไม่นิ่งหุนหันพลันแล่น มีอาการแสดงทั้งที่บ้าน ที่โรงเรียน ที่ทำงาน หรือต่อเพื่อน ต่อครอบครัว อย่างน้อย 2 สถานการณ์ขึ้นไป จนสร้างความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน หรือการเข้าสังคม และอาการที่พบต้องไม่ใช่ผลข้างเคียงหรือภาวะของการป่วยโรคทางจิตเวชอื่นใด

เกณฑ์วินิจฉัยโรคสมาธิสั้นตามคู่มือการวินิจฉัยและสถิติความผิดปกติทางจิต ฉบับล่าสุด (Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders) คือ

ด้านการขาดสมาธิจดจ่อตั้งใจ มีอาการ 6 ข้อขึ้นไปในเด็กถึงวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 16 ปี หรือมีอาการ 5 ข้อขึ้นไป ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 17 ปีขึ้นไป

มักจะล้มเหลวในการทำงานที่ต้องใช้สมาธิ ต้องใส่ใจรายละเอียด เกิดความผิดพลาดอันเป็นผลมาจากความประมาท ทั้งที่โรงเรียน ที่ทำงาน หรือการทำกิจกรรมใด ๆ เสมอ
มักมีปัญหาในการจดจ่อตั้งใจทำตามกำหนดการ หรือการเข้าร่วมกิจกรรมเสมอ
มักไม่สนใจฟังแม้มีคนกำลังคุยด้วยอยู่ข้างหน้า
มักไม่ทำอะไรตามขั้นตอน และไม่สามารถทำงานที่โรงเรียน ทำงานบ้าน หรือหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วง เช่น ขาดการมุ่งความสนใจ หรือพยายามหลีกเลี่ยงการทำตามขั้นตอน
มักมีปัญหาในการบริหารจัดการสิ่งที่ต้องทำหรือกิจกรรมที่ต้องทำ
มักจะหลีกเลี่ยง ไม่ชอบ หรือไม่เต็มใจทำตามกำหนดการที่ต้องใช้ความพยายามและความอดทนสูงในช่วงเวลานาน ๆ เช่น งานที่ได้รับมอบหมายที่โรงเรียนและการบ้าน
มักจะลืมสิ่งของจำเป็นในการเรียน การทำงาน หรือการทำกิจกรรม เช่น อุปกรณ์ในการเรียน ดินสอ หนังสือ เครื่องมือต่าง ๆ กระเป๋าสตางค์ กุญแจ เอกสาร แว่นตา โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
ใจลอย วอกแวกง่าย ขาดสมาธิจดจ่อสนใจ
มักลืมสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน
ด้านการตื่นตัว อยู่ไม่นิ่ง หุนหันพลันแล่น มีอาการ 6 ข้อขึ้นไปในเด็กถึงวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 16 ปี หรือ มีอาการ 5 ข้อขึ้นไป ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 17 ปีขึ้นไป

มักอยู่ไม่สุข อยู่ไม่นิ่ง กระดิกมือหรือเท้าตลอด นั่งนิ่งอยู่กับที่ไม่ได้
มักลุกออกจากที่นั่งในสถานการณ์ที่ไม่ควรลุกออกไป
มักวิ่งไปรอบ ๆ หรือปีนป่ายซุกซนในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสมในวัยเด็ก หรือรู้สึกอึดอัดกระสับกระส่ายในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่
มักไม่สามารถเล่นหรือทำกิจกรรมสันทนาการอย่างเงียบ ๆ ได้
มักจะตื่นตัวหรือลุกลี้ลุกลนตลอดเวลา
มักจะพูดมาก พูดไม่หยุด
มักจะพูดตอบสวนคำถาม ไม่รอให้ถามคำถามให้จบก่อน
มักมีปัญหาเกี่ยวกับการรอให้ถึงจังหวะหรือลำดับของตนเอง
มักรบกวนหรือก้าวก่ายเรื่องของผู้อื่น หรือขัดจังหวะในระหว่างบทสนทนา
ทั้งนี้ ผู้ป่วยสมาธิสั้นสามารถป่วยด้วยอาการด้านการขาดสมาธิจดจ่อตั้งใจ หรือด้านการตื่นตัว อยู่ไม่นิ่ง หุนหันพลันแล่นด้านใดด้านหนึ่งเพียงด้านเดียว หรืออาจป่วยด้วยอาการทั้ง 2 ด้านร่วมกัน โดยอาการดังกล่าวจะต้องเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ขึ้นไป

การรักษาสมาธิสั้น

โดยทั่วไป สามารถรักษาอาการสมาธิสั้นให้ดีขึ้น และลดพฤติกรรมที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตลง แต่ไม่ได้ทำให้อาการหายขาดไปได้อย่างถาวร โดยการรักษาที่มีประสิทธิผลสูงสุด คือ รักษาด้วยยาควบคู่กับการบำบัด

การรักษาด้วยยา จะช่วยปรับอาการและพฤติกรรมให้เด็กมีสมาธิจดจ่อได้ดียิ่งขึ้น และช่วยลดอาการอยู่ไม่นิ่งหุนหันพลันแล่นลง เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถปรับตัว และใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข

กลุ่มยาที่ใช้รักษาโรคสมาธิสั้นในประเทศไทย ได้แก่ กลุ่มยากระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งจะออกฤทธิ์ต่อสารสื่อประสาทภายในสมองส่วนที่ควบคุมสมาธิ ความคิดและพฤติกรรม อย่างโดปามีน และนอพิเนฟรีน เช่น ยาเมทิลเฟนิเดต (Methylphenidate) ที่ใช้กับเด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีไปจนถึงวัยรุ่น และอะโทม็อกซีทีน (Atomoxetine) ใช้กับเด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ ออกฤทธิ์ต่างจากยาตัวอื่น คือ ไม่ได้กระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง แต่จะยับยั้งการดูดกลับสารนอร์อะดรีนาลีน ทำให้เพิ่มจำนวนสารนอร์อะดรีนาลีนที่ช่วยควบคุมอาการหุนหันพลันแล่นและเพิ่มการจดจ่อสมาธิของเด็ก

ส่วนยาบางกลุ่มที่ออกฤทธิ์ต่อระดับสารโดปามีนและสารนอร์อะดรีนาลีนในสมอง ที่อาจส่งผลต่อการรักษาโรคสมาธิสั้น ได้แก่ โคลนิดีน (Clonidine) และยาต้านเศร้า (Antidepressant) แต่เป็นยาที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่า และมีข้อมูลการค้นคว้าเกี่ยวกับยาในทางการรักษาโรคสมาธิสั้นน้อยมาก จึงไม่ควรเป็นยาหลักที่ถูกนำมารักษาอาการสมาธิสั้น

การใช้ยารักษาเด็กสมาธิสั้นต้องเป็นไปตามใบสั่งจากแพทย์เท่านั้น โดยเด็กควรรับประทานยาอย่างถูกต้องตามวิธีและตามปริมาณที่แพทย์กำหนด และต้องไปพบแพทย์เพื่อติดตามผลการรักษาอยู่เสมอ

การเข้ารับการบำบัด เด็กควรรับการบำบัดเพื่อเรียนรู้และปรับพฤติกรรมควบคู่ไปกับการรับยา ทั้งเพื่อรักษาบรรเทาอาการสมาธิสั้น และอาการที่อาจเกิดขึ้นร่วมกับโรคสมาธิสั้น อย่างปัญหาทางอารมณ์ ความวิตกกังวล เป็นต้น

วิธีต่าง ๆ ที่เด็กควรเข้ารับการบำบัดภายใต้การดูแลของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่

การให้ความรู้ทางสุขภาพจิต (Psychoeducation) เป็นวิธีการที่ให้เด็กกล้าที่จะเผชิญหน้าและพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเป็นโรคสมาธิสั้น เพื่อให้เด็กทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรค และหาวิธีรับมือกับอาการที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม
พฤติกรรมบำบัด (Behavior Therapy) เป็นการวางแผนจัดการกับพฤติกรรมที่เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ ผู้ปกครองและครูควรช่วยกันดูแลและปรับพฤติกรรมของเด็ก เช่น การให้รางวัลหรือคำชมเมื่อเด็กมีพฤติกรรมที่เหมาะสม และการลงโทษหรือยึดของที่เด็กชอบเมื่อเด็กมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทำให้เด็กเรียนรู้ที่จะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ไม่ดีและเลือกที่จะกระทำพฤติกรรมในด้านดี
การเข้าโปรแกรมฝึกหัดและการให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง โดยกลุ่มผู้ปกครองของเด็กสมาธิสั้น หรือผู้ที่ดูแลเด็กจะได้เข้ากลุ่มเพื่อศึกษาทำความเข้าใจเด็กสมาธิสั้น ฝึกหัดดูแลและรับมือพฤติกรรมของเด็กสมาธิสั้น
การบำบัดโดยการปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioral Therapy: CBT) นักบำบัดจะพูดคุยให้ผู้ป่วยทำความเข้าใจถึงโรคและอาการที่เผชิญอยู่ แล้วร่วมวางแผนหาทางแก้ไขรับมือกับอาการที่เกิดขึ้น เพื่อปรับมุมมองความคิดที่จะแสดงความรู้สึกต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ให้เหมาะสม และลดพฤติกรรมที่สร้างปัญหาลง อาจทำการบำบัดทั้งแบบรายบุคคลและแบบกลุ่ม
การฝึกทักษะสังคม พ่อแม่ของเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นสามารถฝึกให้เด็กเรียนรู้การปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมตามสถานการณ์ต่าง ๆ
การรับประทานอาหาร ผู้ป่วยสมาธิสั้นควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดีต่อสุขภาพและเสริมสร้างสมดุลของสารเคมีภายในร่างกาย เพราะการรับสารอาหารบางประเภทอาจกระตุ้นให้เกิดอาการอยู่ไม่นิ่งหรือหุนหันพลันแล่น เช่น สารปรุงแต่งในอาหาร สีผสมอาหาร น้ำตาล และคาเฟอีน ดังนั้น ผู้ป่วยควรสังเกตและบันทึกข้อมูลอาหารที่รับประทาน และอาการที่เกิดขึ้นหลังรับประทานอาหารแต่ละชนิด ก่อนไปพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการควบคุมอาหาร

ภาวะแทรกซ้อนของสมาธิสั้น

ผู้ป่วยสมาธิสั้นจะได้รับผลกระทบในด้านการใช้ชีวิต การเรียน การทำงาน การเข้าสังคม และความสัมพันธ์ เนื่องจากผู้ป่วยจะมีอารมณ์และการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จึงอาจเป็นเหตุให้เกิดความล้มเหลวในการเรียน การทำงาน ความสัมพันธ์ หรืออาจเกิดอุบัติเหตุที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้

นอกจากปัญหาและความยากลำบากในการดำเนินชีวิตประจำวัน ผู้ป่วยอาจมีแนวโน้มที่จะดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้สารเสพติด ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ และปัญหาด้านอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ตามมา

การป้องกันสมาธิสั้น

เนื่องด้วยสาเหตุของการเกิดโรคสมาธิสั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด การป้องกันการเกิดโรคสมาธิสั้นจึงทำได้โดยการลดความเสี่ยงของปัจจัยด้านต่าง ๆ ตั้งแต่เด็กยังอยู่ในครรภ์ ได้แก่

ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา และไม่ใช้สารเสพติดในขณะตั้งครรภ์
หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี หรือการอยู่ในบริเวณที่มีมลพิษและสารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น ตะกั่ว ทั้งในขณะที่ตั้งครรภ์ ตลอดจนช่วงระยะที่เด็กเกิดและเติบโต
ในด้านการป้องกันไม่ให้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคสมาธิสั้นแสดงอาการที่ไม่พึงประสงค์ ผู้ป่วยต้องได้รับการรักษาและการดูแลอย่างถูกวิธี เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถปรับพฤติกรรมและรับมือกับสถานการณ์ที่แตกต่างได้อย่างเหมาะสม แสดงพฤติกรรมในด้านที่ดีเพิ่มมากขึ้น และลดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ลง

cr: POBPAB.COM

 #ลูกทานแล้วได้อะไรบ้าง??🎉สารสกัดจากพรมมิ ฟื้นฟูความจำชะลอความเสื่อมของสมอง🎉น้ำมันตับปลา เพิ่มประสิทธิภาพเซลล์สมอง🎉เบต้า...
01/09/2018

#ลูกทานแล้วได้อะไรบ้าง??

🎉สารสกัดจากพรมมิ ฟื้นฟูความจำชะลอความเสื่อมของสมอง
🎉น้ำมันตับปลา เพิ่มประสิทธิภาพเซลล์สมอง
🎉เบต้ากลูแคน ให้สมองผ่อนคลาย
🎉โคลีน ไบร์ทาเทรต กระตุ้นสมองให้พัฒนาความจำ
🎉แอล ไทโรซีน คลายเครียดฟื้นฟูความจำ
🎉 แอล ธีอะนีน กระตุ้นจดจำได้อย่างดี
🎉แอล ซิลเทอีน เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
🎉โปรตีนจากถั่วเหลือง ทำให้สมองตื่นตัวพร้อมในการเรียนรู้
🎉ทอรีน สร้างการทำงานของระบบประสาทและสมอง
🎉วิตามินบี1 บี6 และบี12 ความจำเสริมสร้างเสริมระบบประสาท

ปรึกษาข้อมูล/สอบถาม
โทร.. 087-086-2721 คุณอุทัย

 #เช็คด่วนน้องมีอาการแบบนี้ใหม✅ อาการของ LD บกพร่องในการเรียนรู้☑️มีปัญหาในการจดจำข้อมูล การอ่าน การเขียน การคำนวณ และทำ...
01/09/2018

#เช็คด่วนน้องมีอาการแบบนี้ใหม

✅ อาการของ LD บกพร่องในการเรียนรู้

☑️มีปัญหาในการจดจำข้อมูล การอ่าน การเขียน การคำนวณ และทำการบ้านเองไม่ได้ ผู้ปกครองต้องช่วยทำทุกครั้ง
☑️เข้าใจความคิดที่เป็นนามธรรมได้ยาก
ไม่ใส่ใจรายละเอียดของสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ทว่าบางรายอาจช่างสังเกตและให้ความสนใจต่อสิ่งต่าง ๆ มากเกินไปได้เช่นกัน
☑️ขาดทักษะการเข้าสังคม
ไม่เข้าใจและไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำหรือคำสั่งสอน
อวัยวะต่าง ๆ เคลื่อนไหวไม่ประสานงานกัน ทำให้อาจมีปัญหาในการเดิน เล่นกีฬา จับดินสอ หรือใช้ช้อนส้อม
☑️ไม่เข้าใจแบบแผนของเวลา
☑️ทำของใช้ส่วนตัวหายเป็นประจำ
☑️แสดงพฤติกรรมต่อต้านหรือมีอารมณ์ก้าวร้าวที่โรงเรียน
☑️ไม่อยากไปโรงเรียน ไม่ยอมทำการบ้านหรือกิจกรรมที่ต้องใช้ทักษะบางประการ เช่น การอ่าน การเขียน การคำนวณ เป็นต้น

อย่าลืมสังเกตุน้องๆเด็กๆหากมีอาการเหล่านี้ รีบพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ

📌ทางออกที่คุณแม่ท่านหนึ่งประทับใจ อเลอไทด์
น้องไม่ชอบทำการบ้าน อ่านหนังสือไม่ออก พอทานอเลอไทด์แล้ว พฤติกรรมน้องเปลี่ยนไป เริ่มมีสมาธิจดจ่อระบายสีได้สวยงามกว่าเดิม (น้องอายุ 5 ขวบ)

สอบถามข้อมูลโทร 097-194-2809 คุณวิชิต

ที่อยู่

24/272
Bangkok
10510

เบอร์โทรศัพท์

0971942809

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ช้อปสุขภาพ "สมองดี ความจำดี เรียนไว"ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง ช้อปสุขภาพ "สมองดี ความจำดี เรียนไว":

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

สมองดี เพิ่มความจำ ลดความเครียด บำรุงระบบประสาท สมาธิสั้น จำยาก ลืมง่าย อัลไซเมอร์ เส้นเลือดในสมอง ตีบ-ตัน

ผลิตภัณฑ์ “อเลอไทด์” ช่วยอะไรบ้าง

บำรุงสมอง เสริมสร้างความจำชลอการเสื่อมของสมอง

เพิ่มความจำ เพิ่มประสิทธิภาพในการส่งกระแสไฟฟ้าในเซลล์สมอง

อัลไซเมอร์ กระตุ้นความจำส่งผลให้สามารถจดได้ดีขึ้น