Oh My Gut: ลำไส้แปรปรวน

Oh My Gut: ลำไส้แปรปรวน แอดทำเพจนี้เพื่อแชร์ประสบการณ์ตรงในการคุมอาหารและความรู้เกี่ยวกับอาการลำไส้แปรปรวน

This page was created to share our diet and knowledge about IBS.

ความสำคัญของจุลินทรีย์ในลำไส้?จุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ช่วยรักษาสมดุล ปกป้องร่างกายจากเชื้อโรค สนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน และ...
23/09/2025

ความสำคัญของจุลินทรีย์ในลำไส้?
จุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ช่วยรักษาสมดุล ปกป้องร่างกายจากเชื้อโรค สนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน และลดการอักเสบ นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างวิตามินเคและกรดไขมันสายสั้นที่เสริมความแข็งแรงของผนังลำไส้และลดความเสี่ยงมะเร็งด้วย

โปรไบโอติกส์ช่วยบรรเทา IBS ได้อย่างไร?
โปรไบโอติกส์ คือ จุลินทรีย์ดีที่ช่วยปรับสมดุลในลำไส้ ลดการอักเสบ และเสริมระบบภูมิคุ้มกัน งานวิจัยชี้ว่าการรับประทานโปรไบโอติกส์ช่วยบรรเทาอาการลำไส้แปรปรวน (IBS) และลำไส้อักเสบ (IBD) รวมถึงป้องกันท้องเสียจากการใช้ยาปฏิชีวนะ

อาหารส่งผลต่อจุลินทรีย์ในลำไส้อย่างไร?
อาหารที่รับประทานมีผลมาก เช่น อาหารหวานและอาหารไขมันสูงทำให้จุลินทรีย์ชนิดไม่ดีเพิ่มขึ้น และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น ภาวะดื้อต่ออินซูลิน การใช้ยาปฏิชีวนะก็ลดจุลินทรีย์ดีในลำไส้ได้

แหล่งอาหารโปรไบโอติกส์และพรีไบโอติกส์?
- โปรไบโอติกส์ พบในโยเกิร์ต กะหล่ำปลีดอง กิมจิ ชาหมักคอมบูชา คีเฟอร์
- พรีไบโอติกส์ พบในพืชตระกูลถั่ว ข้าวโอ๊ต กล้วย ผลเบอร์รี่ หน่อไม้ฝรั่ง หัวหอม

ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์โปรไบโอติกส์?
โดยทั่วไปปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ แต่อาจมีอาการท้องเสีย ท้องอืดในช่วงแรก และควรระวังในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือป่วยหนัก ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ โปรไบโอติกส์มีหลายชนิดและแต่ละคนอาจเหมาะกับโปรไบโอติกส์ต่างชนิดกันค่ะ แนะนำปรึกษาแพทย์เฉพาะทางนะคะ

*ขอบคุณข้อมูลจาก BDMSWellness และแหล่งข้อมูลที่อ้างอิงด้วยค่ะ*

#พรีไบโอติกส์ #โปรไบโอติกส์ #ลำไส้แปรปรวน #ท้องอืด #รวมพลคนท้องอืด

ชาวลำไส้แปรปรวนยังบริโภคนมวัวได้นะคะ !!!นมปราศจากแลคโตสเป็นตัวเลือกเครื่องดื่มที่ดีสำหรับผู้ที่แพ้แลคโตสหรือมีปัญหาเกี่ย...
20/07/2025

ชาวลำไส้แปรปรวนยังบริโภคนมวัวได้นะคะ !!!

นมปราศจากแลคโตสเป็นตัวเลือกเครื่องดื่มที่ดีสำหรับผู้ที่แพ้แลคโตสหรือมีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้แปรปรวน (IBS) และต้องการรสชาติของอาหารที่มีส่วนผสมของนม
แลคโตสเป็นน้ำตาลที่พบในผลิตภัณฑ์นม ผู้ที่แพ้แลคโตส เป็นคนที่ขาดเอนไซม์แลคเทส ซึ่งช่วยย่อยสลายน้ำตาลแลคโตสในลำไส้ เมื่อแลคโตสที่ยังไม่ได้ย่อยลงไปในลำไส้ใหญ่ จะดึงน้ำเข้าสู่ลำไส้และสร้างแก๊ส ทำให้เกิดอาการไม่สบายท้อง
นมชนิดนี้เกิดจากการเติมเอนไซม์แลคเทสลงไป เพื่อช่วยย่อยสลายแลคโตสให้เรา และเนื่องจากแลคโตสถูกย่อยสลาย จึงทำให้นมปราศจากแลคโตสมีรสชาติหวานกว่านมปกติเล็กน้อย แต่ปริมาณสารอาหารอื่นๆ ในนมจะไม่เปลี่ยนแปลง คุณจึงยังได้รับประโยชน์ทางโภชนาการเหมือนกับนมปกติ นมวัวเป็นแหล่งโปรตีนและแคลเซียมที่ดี ซึ่งสำคัญต่อการบำรุงกระดูกและกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังมีวิตามินเอ บี ดี ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ซึ่งแต่ละชนิดมีบทบาทในการส่งเสริมสุขภาพโดยรวมของเราค่ะ

Lactose-free milk can be a great beverage option for those who are lactose intolerant or have IBS and are missing the taste of dairy foods.

Lactose is the sugar found in dairy products. For those who are lactose intolerant, they lack the enzyme, lactase, that helps break down this ‘dairy sugar’ in their gut. As the undigested lactose continues to sit in the intestinal tract and reaches the large intestine, it pulls water into the bowel and produces gas that could cause unpleasant gastrointestinal symptoms.

Lactose-free milk is made by adding lactase to the product during manufacturing, so it breaks down the lactose for you! As the lactose is broken down, lactose-free milk has a slightly sweeter taste than its lactose-containing counterpart. During this process, the amount of other nutrients found in milk is not altered, meaning that you can still get the same nutritional benefits from lactose-free milk as you would in regular milk. Dairy milk is a great source of protein and calcium, which are essential for supporting bone and muscle health. Other nutrients found in milk include vitamin A, Bs, D, phosphorus and potassium, which all play different roles in supporting our general wellbeing.

13/07/2025

อรุณสวัสดิ์ชาวลำไส้แปรปรวนค่า
แอดจะมาแชร์การจดบันทึกช่วงแรกของการดูแลอาการลำไส้แปรปรวนให้ดูเร็วๆนี้นะค้า
ขอไปทำการบ้านก่อน☺️

คุณหมออธิบายได้ดีเลยทีเดียว อยากให้ลองฟังกันดูนะคะ
11/07/2025

คุณหมออธิบายได้ดีเลยทีเดียว
อยากให้ลองฟังกันดูนะคะ

รายละเอียดของอาหาร FODMAP ที่ควรหลีกเลี่ยงในคนไข้ IBS สามารถไปดูรายละเอียดได้ตามนี้ครับhttps://www.ibsdiets.org/fodmap-diet/fodmap-food-list/สาม.....

เนื่องจากลำไส้มีตัวรับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไปตามรอบเดือน ได้แก่ ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน งานวิจัยพบว่าผู้หญิงที่เ...
14/05/2025

เนื่องจากลำไส้มีตัวรับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไปตามรอบเดือน ได้แก่ ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน งานวิจัยพบว่าผู้หญิงที่เป็น IBS จะมีลำไส้ที่ไวขึ้นในช่วงเวลาที่มีประจำเดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนลดต่ำสุด ซึ่งมีผลต่อการบีบตัวของกล้ามเนื้อเรียบในลำไส้ ทำให้การเคลื่อนที่ของอาหารในระบบทางเดินอาหารเปลี่ยนแปลงไป และอาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย ท้องผูก หรือปวดท้องมากขึ้นในช่วงประจำเดือน
ดังนั้น สาวๆที่เป็น IBS อาจมีอาการต่างๆแย่ลงในช่วงก่อนและระหว่างมีประจำเดือนได้นะคะ
คำแนะนำสำหรับหญิงที่มีโรคลำไส้แปรปรวน (IBS) และมีประจำเดือน ได้แก่
• ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร เลือกรับประทานอาหารมื้อเล็กลงแต่บ่อยขึ้น หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นอาการ เช่น อาหารแปรรูป คาเฟอีน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารที่ย่อยยากหรือก่อแก๊ส เช่น ถั่ว ผลิตภัณฑ์จากข้าวสาลี
• รับประทานอาหารที่มีเส้นใยละลายน้ำสูง เช่น กล้วย แอปเปิ้ล แครอท และดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยเรื่องท้องผูก และหลีกเลี่ยงเส้นใยไม่ละลายน้ำในช่วงท้องเสีย
• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น โยคะ เดิน วิ่ง หรือว่ายน้ำ เพื่อช่วยลดความเครียดและกระตุ้นระบบขับถ่าย
• ฝึกขับถ่ายเป็นเวลา ไม่อั้นถ่ายเมื่อรู้สึกปวด เพื่อป้องกันอาการท้องผูก
• จดบันทึกอาการเพื่อสังเกตและวางแผนจัดการอาการได้ดียิ่งขึ้น
หากอาการ IBS รุนแรงหรือส่งผลต่อชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม

ขอบคุณข้อมูลจาก และรพ.สมิติเวชค่ะ

สวัสดีค่า เนื่องจากหลังๆมานี้ แอดไม่ค่อยมีเวลา เพราะเป็นแม่บ้านเต็มตัว เลยจะขอมาให้ความรู้จากประสบการณ์และข้อมูลที่เจอไป...
02/05/2025

สวัสดีค่า เนื่องจากหลังๆมานี้ แอดไม่ค่อยมีเวลา เพราะเป็นแม่บ้านเต็มตัว เลยจะขอมาให้ความรู้จากประสบการณ์และข้อมูลที่เจอไปพลางก่อนนะคะ

จากโพสนี้นะคะ….

การวินิจฉัยโรคลำไส้แปรปรวน (IBS) ค่อนข้างท้าทายเพราะไม่มีการตรวจเฉพาะที่สามารถยืนยันโรคนี้ได้โดยตรง แพทย์จะเริ่มจากการซักประวัติอาการ ประวัติทางการแพทย์ และยาที่รับประทาน เพื่อประเมินและคัดกรองโรคอื่นที่อาจมีอาการคล้ายกันก่อน

แพทย์จะสังเกตอาการ "สัญญาณเตือน" ที่อาจบ่งชี้โรคอื่น เช่น
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ประวัติครอบครัวเป็นโรคลำไส้
- เริ่มมีอาการหลังอายุ 50 ปี
- มีเลือดออกทางทวารหนักหรือมีภาวะโลหิตจาง
- ท้องเสียเรื้อรังหรือถ่ายกลางคืน
- อาเจียนซ้ำ ๆ
- มีไข้
- อาการรุนแรงหรือแย่ลงเรื่อย ๆ

แพทย์จะต้องแยกโรคอื่นที่มีอาการคล้าย IBS เช่น โรคซีเลียก (Coeliac Disease), โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory Bowel Disease), และโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis)

การตรวจที่มักพบในท้องตลาดแต่ไม่ได้ช่วยวินิจฉัย IBS จริง ๆ ได้แก่ การตรวจลมหายใจ, การตรวจภูมิแพ้อาหารชนิด IgG, และการตรวจเชื้อแบคทีเรียในอุจจาระ

หากไม่มีสัญญาณเตือนและโรคอื่น ๆ ถูกตัดออกแล้ว แพทย์จะวินิจฉัยว่าเป็น IBS โดยอิงตามกลุ่มอาการ เช่น ปวดท้องสัมพันธ์กับการขับถ่ายที่เปลี่ยนแปลงไป

ถ้าคุณมีอาการทางเดินอาหารหรืออาการที่กล่าวมา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมค่ะ

พอดีมาเจอโพสนี้ ซึ่งเตือนให้ชาว IBS (ลำไส้แปรปรวน) ควรระมัดระวังในการบริโภค เพราะมีคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ถูกกับชาว IBS ค่ะ 1...
19/03/2025

พอดีมาเจอโพสนี้ ซึ่งเตือนให้ชาว IBS (ลำไส้แปรปรวน) ควรระมัดระวังในการบริโภค เพราะมีคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ถูกกับชาว IBS ค่ะ

1. กลุ่มโอลิโกส์ ได้แก่ กระเทียม(รวมถึงสิ่งที่สกัดออกมาจากกระเทียม) หอมใหญ่(รวมถึงสิ่งที่สกัดออกมาจากหอมใหญ่) ข้าวสาลี ข้าวไรย์ ข้าวบาร์เลย์ อินูลิน ชิคโครี(รวมถึงรากและสิ่งที่สกัดออกมา) ฟรุกแตน ฟรุกโกโอลิโกแซคคาไรด์

2. กลุ่มแลคโตส ได้แก่ นม นมผง เนื้อนม

3. กลุ่มโพลิออลส์ ได้แก่ ซอบิทอล แมนนิทอล ไซลิทอล มอลทิทอล ไอโซมอลต์ แลคทิทอล มักพบได้ในพวกหมากฝรั่ง ไอศครีม โยเกิร์ต เบเกอรี่ เป็นต้น

4. กลุ่มฟรุกโตส ได้แก่ น้ำผึ้ง น้ำเชื่อมข้าวโพด น้ำเชื่อมฟรุกโตส น้ำผลไม้ น้ำผลไม้เข้มข้น คริสตัลฟรุกโตส น้ำเชื่อมอากาเว่ น้ำตาลผลไม้ ผลไม้อบแห้ง

แต่ยังไม่หมดนะคะ แต่นี่คือตัวหลักๆที่ทำให้พวกเราชาว IBS มีอาการท้องอืดค่ะ นอกจากพวกขนม นม เนยแล้ว เหล่าผักและผลไม้หลายอย่างเลยที่เราไม่ควรกิน หรือกินในปริมาณน้อยๆ นะคะ

ใครกินอะไรแล้วท้องอืดบ้างคะ มาแชร์กันได้นะค้า 😊

FODMAPs (Fermentable Oligosaccharides, Disaccharides, Monosaccharides, and Polyols) คือ กลุ่มของคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยได้ยา...
21/02/2025

FODMAPs (Fermentable Oligosaccharides, Disaccharides, Monosaccharides, and Polyols) คือ กลุ่มของคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยได้ยากในลำไส้เล็ก ซึ่งประกอบด้วย:
• Oligosaccharides: เช่น ฟรุกแทนและกาแลคโต-โอลิโกแซ็กคาไรด์ พบในข้าวสาลี, หัวหอม, กระเทียม และพืชตระกูลถั่ว
• Disaccharides: เช่น แลคโตส ซึ่งพบในผลิตภัณฑ์นม เช่น นม, โยเกิร์ต และชีส
• Monosaccharides: เช่น ฟรุกโตส ซึ่งมีอยู่ในผลไม้บางชนิด เช่น แอปเปิ้ลและลูกแพร์ รวมถึงน้ำเชื่อมข้าวโพดฟรุกโตสสูง
• Polyols: น้ำตาลแอลกอฮอล์ เช่น ซอร์บิทอลและมานนิโทล มักพบในผลไม้บางชนิดและใช้เป็นสารให้ความหวานในผลิตภัณฑ์ปราศจากน้ำตาล
• Galacto-oligosaccharides (GOS): เป็นกลุ่มย่อยของโอลิโกแซ็กคาไรด์ที่พบในอาหารบางชนิด เช่น ถั่วเหลือง
• Fructo-oligosaccharides (FOS): อีกกลุ่มหนึ่งของโอลิโกแซ็กคาไรด์ที่พบในอาหารเช่น กระเทียมและหัวหอม

การบริโภคอาหารที่มี FODMAP สูงสามารถกระตุ้นอาการ IBS เนื่องจากเมื่อคาร์โบไฮเดรตเหล่านี้ไม่ถูกย่อยในลำไส้เล็ก จะถูกส่งไปยังลำไส้ใหญ่และเกิดการหมัก ส่งผลให้เกิดแก๊สและอาการท้องอืดค่ะ

ดังนั้น การรับประทานอาหารที่มี FODMAP ต่ำ (Low FODMAP Diet) เป็นวิธีการที่ช่วยลดอาการ IBS โดยการหลีกเลี่ยงอาหารที่มี FODMAP สูงเป็นระยะเวลา 2-6 สัปดาห์ เพื่อให้ระบบย่อยอาหารได้พักและบรรเทาอาการ หลังจากนั้นสามารถทดลองกลับไปทานอาหาร FODMAP สูงทีละกลุ่มเพื่อระบุว่าอาหารใดทำให้เกิดอาการบ้าง

การปรับเปลี่ยนนี้ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถจัดการกับอาการได้ดีขึ้น และกลับมาทานอาหารที่หลากหลายได้อีกครั้งเมื่อรู้ตัวว่าอาหารจานไหนที่กระตุ้นอาการค่ะ

ส่วนมื้อกลางวันนี่ แอดไปกินก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟมา หลังจากกินไป 15 นาที ก็ท้องอืดมากเลย สงสัยคงเป็นเพราะซอสเย็นตาโฟแน่ๆ 😅

มื้อเที่ยงของทุกคนเป็นยังไงกันบ้างคะ?

FODMAPs (Fermentable Oligosaccharides, Disaccharides, Monosaccharides, and Polyols) คือ กลุ่มของคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยได้ยา...
21/02/2025

FODMAPs (Fermentable Oligosaccharides, Disaccharides, Monosaccharides, and Polyols) คือ กลุ่มของคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยได้ยากในลำไส้เล็ก ซึ่งประกอบด้วย:
• Oligosaccharides: เช่น ฟรุกแทนและกาแลคโต-โอลิโกแซ็กคาไรด์ พบในข้าวสาลี, หัวหอม, กระเทียม และพืชตระกูลถั่ว
• Disaccharides: เช่น แลคโตส ซึ่งพบในผลิตภัณฑ์นม เช่น นม, โยเกิร์ต และชีส
• Monosaccharides: เช่น ฟรุกโตส ซึ่งมีอยู่ในผลไม้บางชนิด เช่น แอปเปิ้ลและลูกแพร์ รวมถึงน้ำเชื่อมข้าวโพดฟรุกโตสสูง
• Polyols: น้ำตาลแอลกอฮอล์ เช่น ซอร์บิทอลและมานนิโทล มักพบในผลไม้บางชนิดและใช้เป็นสารให้ความหวานในผลิตภัณฑ์ปราศจากน้ำตาล
• Galacto-oligosaccharides (GOS): เป็นกลุ่มย่อยของโอลิโกแซ็กคาไรด์ที่พบในอาหารบางชนิด เช่น ถั่วเหลือง
• Fructo-oligosaccharides (FOS): อีกกลุ่มหนึ่งของโอลิโกแซ็กคาไรด์ที่พบในอาหารเช่น กระเทียมและหัวหอม

การบริโภคอาหารที่มี FODMAP สูงสามารถกระตุ้นอาการ IBS เนื่องจากเมื่อคาร์โบไฮเดรตเหล่านี้ไม่ถูกย่อยในลำไส้เล็ก จะถูกส่งไปยังลำไส้ใหญ่และเกิดการหมัก ส่งผลให้เกิดแก๊สและอาการท้องอืดค่ะ

ดังนั้น การรับประทานอาหารที่มี FODMAP ต่ำ (Low FODMAP Diet) เป็นวิธีการที่ช่วยลดอาการ IBS โดยการหลีกเลี่ยงอาหารที่มี FODMAP สูงเป็นระยะเวลา 2-6 สัปดาห์ เพื่อให้ระบบย่อยอาหารได้พักและบรรเทาอาการ หลังจากนั้นสามารถทดลองกลับไปทานอาหาร FODMAP สูงทีละกลุ่มเพื่อระบุว่าอาหารใดทำให้เกิดอาการบ้าง

การปรับเปลี่ยนนี้ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถจัดการกับอาการได้ดีขึ้น และกลับมาทานอาหารที่หลากหลายได้อีกครั้งเมื่อรู้ตัวว่าอาหารจานไหนที่กระตุ้นอาการค่ะ

ส่วนมื้อกลางวันนี่ แอดไปกินก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟมา หลังจากกินไป 15 นาที ก็ท้องอืดมากเลย สงสัยคงเป็นเพราะซอสเย็นตาโฟแน่ๆ 😅

น่ากลัวเหมือนกันนะคะเนี่ย ใครมีอาการนี่อยู่บ้างคะ
15/02/2025

น่ากลัวเหมือนกันนะคะเนี่ย ใครมีอาการนี่อยู่บ้างคะ

📌 ภาวะ “ผนังลำไส้รั่ว” (𝗟𝗲𝗮𝗸𝘆 𝗚𝘂𝘁 𝗦𝘆𝗻𝗱𝗿𝗼𝗺𝗲)‼️

เคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า.. ประมาณ 𝟳𝟬-𝟴𝟬% ของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอยู่ที่ลำไส้มั้ยครับ❓

ลำไส้ = ศูนย์กลางของระบบภูมิคุ้มกัน (𝗚𝘂𝘁-𝗔𝘀𝘀𝗼𝗰𝗶𝗮𝘁𝗲𝗱 𝗟𝘆𝗺𝗽𝗵𝗼𝗶𝗱 𝗧𝗶𝘀𝘀𝘂𝗲: 𝗚𝗔𝗟𝗧)

ลำไส้มีระบบภูมิคุ้มกันที่เรียกว่า 𝗚𝗔𝗟𝗧 (𝗚𝘂𝘁-𝗔𝘀𝘀𝗼𝗰𝗶𝗮𝘁𝗲𝗱 𝗟𝘆𝗺𝗽𝗵𝗼𝗶𝗱 𝗧𝗶𝘀𝘀𝘂𝗲) ซึ่งเป็นเครือข่ายของเซลล์ภูมิคุ้มกันที่กระจายอยู่ในเนื้อเยื่อลำไส้และทำหน้าที่เป็น “เกราะป้องกัน” จากเชื้อโรค มีองค์ประกอบหลักของภูมิคุ้มกันในลำไส้ได้แก่

👉🏻 𝗣𝗲𝘆𝗲𝗿’𝘀 𝗣𝗮𝘁𝗰𝗵𝗲𝘀 → กลุ่มของเนื้อเยื่อภูมิคุ้มกันในลำไส้เล็กที่ช่วยตรวจจับเชื้อโรค

👉🏻 𝗦𝗲𝗰𝗿𝗲𝘁𝗼𝗿𝘆 𝗜𝗴𝗔 (𝘀𝗜𝗴𝗔) → แอนติบอดีที่ช่วยดักจับเชื้อโรคก่อนที่มันจะเข้าสู่ร่างกาย

👉🏻 𝗗𝗲𝗻𝗱𝗿𝗶𝘁𝗶𝗰 𝗖𝗲𝗹𝗹𝘀 และ 𝗠𝗮𝗰𝗿𝗼𝗽𝗵𝗮𝗴𝗲𝘀 → เซลล์ภูมิคุ้มกันที่คอยกำจัดเชื้อโรค

👉🏻 𝗠𝗶𝗰𝗿𝗼𝗯𝗶𝗼𝗺𝗲 (จุลินทรีย์ในลำไส้) → มีบทบาทสำคัญในการฝึกระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานอย่างเหมาะสม

ถ้าเพื่อนๆ เคยมีอาการท้องอืด ท้องเสียเรื้อรัง ภูมิแพ้ โรคทางผิวหนัง ปวดข้อ หรือแม้แต่ปัญหาสมองล้าแบบไม่มีสาเหตุ นี่อาจจะเป็นสัญญาณบอกว่าร่างกายกำลังเผชิญกับภาวะ 𝗟𝗲𝗮𝗸𝘆 𝗚𝘂𝘁 𝗦𝘆𝗻𝗱𝗿𝗼𝗺𝗲 หรือ “ผนังลำไส้รั่ว” อยู่ก็เป็นได้

แม้ว่าสถานะปัจจุบันของ 𝗟𝗲𝗮𝗸𝘆 𝗚𝘂𝘁 𝗦𝘆𝗻𝗱𝗿𝗼𝗺𝗲 ในวงการแพทย์จะมีหลักฐานว่าผนังลำไส้สามารถ “รั่ว” ได้จริง โดยมีงานวิจัยยืนยันว่าภาวะ 𝗜𝗻𝗰𝗿𝗲𝗮𝘀𝗲𝗱 𝗜𝗻𝘁𝗲𝘀𝘁𝗶𝗻𝗮𝗹 𝗣𝗲𝗿𝗺𝗲𝗮𝗯𝗶𝗹𝗶𝘁𝘆 (ความสามารถของลำไส้ในการป้องกันสารแปลกปลอมลดลง) เกิดขึ้นได้ในโรคบางชนิด เช่น โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (𝗜𝗕𝗗, 𝗖𝗿𝗼𝗵𝗻’𝘀, 𝗨𝗹𝗰𝗲𝗿𝗮𝘁𝗶𝘃𝗲 𝗖𝗼𝗹𝗶𝘁𝗶𝘀), 𝗖𝗲𝗹𝗶𝗮𝗰 𝗗𝗶𝘀𝗲𝗮𝘀𝗲 (แพ้กลูเตน), โรคแพ้ภูมิตัวเอง เช่น 𝗥𝗵𝗲𝘂𝗺𝗮𝘁𝗼𝗶𝗱 𝗔𝗿𝘁𝗵𝗿𝗶𝘁𝗶𝘀, 𝗛𝗮𝘀𝗵𝗶𝗺𝗼𝘁𝗼’𝘀 𝗧𝗵𝘆𝗿𝗼𝗶𝗱𝗶𝘁𝗶𝘀

แต่ “𝗟𝗲𝗮𝗸𝘆 𝗚𝘂𝘁 𝗦𝘆𝗻𝗱𝗿𝗼𝗺𝗲” ยังไม่ได้ถูกยอมรับเป็นโรคทางการแพทย์ โดยวงการแพทย์กระแสหลักมองว่า “𝗟𝗲𝗮𝗸𝘆 𝗚𝘂𝘁” เป็นเพียงผลลัพธ์ของโรคอื่นๆ มากกว่าที่จะเป็นโรคที่เกิดขึ้นเอง

จะมีทางฝั่งของนักวิจัยด้านโภชนาการและเวชศาสตร์ชะลอวัยที่เริ่มยอมรับว่าภาวะนี้อาจเกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรังหลายอย่าง

❓ภาวะผนังลำไส้รั่ว (𝗟𝗲𝗮𝗸𝘆 𝗚𝘂𝘁) คืออะไร

𝗟𝗲𝗮𝗸𝘆 𝗚𝘂𝘁 𝗦𝘆𝗻𝗱𝗿𝗼𝗺𝗲 หรือผนังภาวะลำไส้รั่ว คือสภาวะที่เยื่อบุลำไส้เล็กมีความสามารถในการป้องกันสารแปลกปลอมลดลง ทำให้สารที่ไม่ควรเข้าสู่ร่างกาย เช่น เศษโปรตีนที่ย่อยไม่สมบูรณ์ สารพิษ แบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้ รั่วซึมเข้าไปในกระแสเลือด ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันตื่นตัวเกินไป และเกิดภาวะอักเสบขึ้นทั่วร่างกาย

โดยปกติแล้วเยื่อบุลำไส้เล็ก (𝗜𝗻𝘁𝗲𝘀𝘁𝗶𝗻𝗮𝗹 𝗘𝗽𝗶𝘁𝗵𝗲𝗹𝗶𝘂𝗺) ประกอบไปด้วยเซลล์ที่เชื่อมต่อกันอย่างแน่นหนาด้วย 𝗧𝗶𝗴𝗵𝘁 𝗝𝘂𝗻𝗰𝘁𝗶𝗼𝗻𝘀 ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการดูดซึมสารอาหารและป้องกันสารอันตรายเข้าสู่กระแสเลือด

แต่เมื่อมีภาวะผนังลำไส้รั่ว 𝗧𝗶𝗴𝗵𝘁 𝗝𝘂𝗻𝗰𝘁𝗶𝗼𝗻𝘀 จะอ่อนแอลง และช่องว่างระหว่างเซลล์จะขยายตัว ทำให้สารแปลกปลอมหลุดรอดทะลุผ่านเข้าไปในระบบไหลเวียนโลหิต นำไปสู่ การอักเสบเรื้อรังและโรคเรื้อรังต่างๆ 🤒

🤔 สาเหตุของภาวะลำไส้รั่ว

👉🏻 อาหารที่ก่อให้เกิดการอักเสบและทำลายลำไส้

𝟭) สารต้านอาหาร (𝗔𝗻𝘁𝗶-𝗡𝘂𝘁𝗿𝗶𝗲𝗻𝘁𝘀) ที่เป็นโปรตีนจากพืชบางกลุ่ม เช่น กลูเตน (𝗚𝗹𝘂𝘁𝗲𝗻) และเลคติน (𝗟𝗲𝗰𝘁𝗶𝗻𝘀)

โดยกลูเตน (𝗚𝗹𝘂𝘁𝗲𝗻) จากข้าวสาลีสามารถกระตุ้นการหลั่ง 𝗭𝗼𝗻𝘂𝗹𝗶𝗻 ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำให้ 𝗧𝗶𝗴𝗵𝘁 𝗝𝘂𝗻𝗰𝘁𝗶𝗼𝗻𝘀 ขยายตัวมากเกินไป

ส่วนเลคติน (𝗟𝗲𝗰𝘁𝗶𝗻𝘀) เป็นโปรตีนพืชที่พบมากในพืชตระกูลถั่ว ธัญพืช และมะเขือเทศ โดยเลคตินสามารถจับกับเยื่อบุลำไส้และรบกวนระบบการทำงานของเซลล์ลำไส้

𝟮) น้ำตาลและฟรุกโตส (𝗙𝗿𝘂𝗰𝘁𝗼𝘀𝗲)

น้ำตาลโดยเฉพาะน้ำเชื่อมข้าวโพดฟรุกโตสสูง (𝗛𝗶𝗴𝗵 𝗙𝗿𝘂𝗰𝘁𝗼𝘀𝗲 𝗖𝗼𝗿𝗻 𝗦𝘆𝗿𝘂𝗽) สามารถกระตุ้นการอักเสบในลำไส้และทำให้เกิด 𝗗𝘆𝘀𝗯𝗶𝗼𝘀𝗶𝘀 (ความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้) ก่อให้เกิดการเจริญเติบโตของเชื้อโรคและแบคทีเรียที่ก่อโรค เช่น 𝗖𝗮𝗻𝗱𝗶𝗱𝗮, 𝗛. 𝗽𝘆𝗹𝗼𝗿𝗶, 𝗦𝗜𝗕𝗢

𝟯) น้ำมันพืช (𝗦𝗲𝗲𝗱 𝗢𝗶𝗹) และกรดไขมันโอเมก้า-𝟲 สูง

น้ำมันเมล็ดฝ้าย, น้ำมันเมล็ดฟักทอง, น้ำมันดอกคำฝอย, น้ำมันเมล็ดองุ่น, น้ำมันปาล์ม, น้ำมันถั่วลิสง, น้ำมันรำข้าว, น้ำมันถั่วเหลือง, น้ำมันข้าวโพด, น้ำมันคาโนลา อุดมไปด้วยโอเมก้า-𝟲 ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบในลำไส้และร่างกาย

โอเมก้า-𝟲 สูงมากเกินไปสามารถกระตุ้นการผลิต 𝗟𝗣𝗦 (𝗟𝗶𝗽𝗼𝗽𝗼𝗹𝘆𝘀𝗮𝗰𝗰𝗵𝗮𝗿𝗶𝗱𝗲) ซึ่งเป็นสารพิษจากแบคทีเรียที่สามารถทะลุผ่านผนังลำไส้เข้าสู่กระแสเลือดได้

👉🏻 ความเครียดและปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์

ความเครียดที่สูงทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (𝗖𝗼𝗿𝘁𝗶𝘀𝗼𝗹) ซึ่งมีผลลดการสร้างเมือกเคลือบลำไส้ ทำให้ลำไส้เปราะบางและอักเสบง่าย

การนอนไม่พอสามารถส่งผลกระทบต่อนาฬิกาชีวภาพ (𝗖𝗶𝗿𝗰𝗮𝗱𝗶𝗮𝗻 𝗥𝗵𝘆𝘁𝗵𝗺) ของจุลินทรีย์ในลำไส้ ทำให้เกิดการเสียสมดุล

👉🏻 การใช้ยาและสารเคมี

ยาในกลุ่ม 𝗡𝗦𝗔𝗜𝗗𝘀 เช่น 𝗜𝗯𝘂𝗽𝗿𝗼𝗳𝗲𝗻, 𝗔𝘀𝗽𝗶𝗿𝗶𝗻, 𝗗𝗶𝗰𝗹𝗼𝗳𝗲𝗻𝗮𝗰 สามารถทำลายเยื่อบุลำไส้ได้

ส่วนยาลดกรด 𝗣𝗿𝗼𝘁𝗼𝗻 𝗣𝘂𝗺𝗽 𝗜𝗻𝗵𝗶𝗯𝗶𝘁𝗼𝗿𝘀 - 𝗣𝗣𝗜 ที่ลดกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป ก็จะทำให้การย่อยอาหารเสียสมดุล

🤢 อาการของภาวะผนังลำไส้รั่ว

ภาวะผนังลำไส้รั่วไม่ได้มีอาการเฉพาะเจาะจงกับบริเวณของลำไส้ แต่สามารถเชื่อมโยงกับหลายโรค เช่น

✅ ปัญหาทางเดินอาหาร ได้แก่ ท้องอืด ท้องเสีย ท้องผูกเรื้อรัง
✅ เกิดการแพ้อาหารที่ไม่เคยแพ้มาก่อน เช่น นม ไข่ ถั่วเหลือง หรืออาหารแปลกๆ
✅ อาการทางผิวหนัง ได้แก่ ผื่นแพ้ สิว ผิวหนังอักเสบเรื้อรัง หนังแข็ง สะเก็ดเงิน
✅ มีอาการสมองล้า (𝗕𝗿𝗮𝗶𝗻 𝗙𝗼𝗴) คิดอะไรไม่ออก หลงลืมง่าย
✅ ปวดตามข้อและเกิดการอักเสบเรื้อรัง
✅ มีปัญหาด้านภูมิคุ้มกัน เช่น เป็นหวัดง่าย ภูมิแพ้กำเริบ หรือเกิดภาวะแพ้ภูมิตัวเอง (𝗔𝘂𝘁𝗼𝗶𝗺𝗺𝘂𝗻𝗲)

🔑 แนวทางแก้ไขและฟื้นฟูผนังลำไส้รั่วตามแนวทาง 𝗟𝗼𝘄 𝗖𝗮𝗿𝗯 / 𝗖𝗮𝗿𝗻𝗶𝘃𝗼𝗿𝗲 𝗗𝗶𝗲𝘁

𝟭) ตัดอาหารที่ทำให้ผนังลำไส้อักเสบ

❌ แป้งสาลี กลูเตน น้ำตาล อาหารแปรรูป น้ำมันพืชขวดใส
❌ ผลิตภัณฑ์นมพาสเจอไรซ์ (หากแพ้)
❌ พืชตระกูลถั่ว ถั่วเหลือง ธัญพืช และพืชที่มีเลคตินสูง

𝟮) เน้นอาหารที่ช่วยซ่อมแซมผนังลำไส้

✅ 𝗕𝗼𝗻𝗲 𝗕𝗿𝗼𝘁𝗵 (น้ำซุปกระดูกที่เคี่ยวนาน) อุดมไปด้วย คอลลาเจน, กรดอะมิโนต่างๆ เช่น 𝗚𝗹𝘆𝗰𝗶𝗻𝗲, 𝗣𝗿𝗼𝗹𝗶𝗻𝗲, 𝗟-𝗴𝗹𝘂𝘁𝗮𝗺𝗶𝗻𝗲 ที่จะช่วยซ่อมแซมผนังลำไส้ ลดการอักเสบและเสริมสร้างชั้นเมือกป้องกันลำไส้

✅ ไขมันดีจากสัตว์ เช่น เนยแท้, 𝗚𝗵𝗲𝗲, ไขมันเนื้อ, ไข่แดง ช่วยลดการอักเสบและฟื้นฟูเซลล์เยื่อบุลำไส้ ในไข่แดงมี 𝗣𝗵𝗼𝘀𝗽𝗵𝗼𝗹𝗶𝗽𝗶𝗱𝘀 และ 𝗖𝗵𝗼𝗹𝗶𝗻𝗲 ที่ช่วยสร้างเยื่อหุ้มเซลล์

✅ โปรไบโอติกจากอาหารหมักดอง (ถ้าร่างกายรับได้) กิมจิ มิโสะ นัตโตะ คีเฟอร์ โยเกิร์ต ช่วยเสริมจุลินทรีย์ที่ดี และฟื้นฟูไมโครไบโอมในลำไส้

✅ 𝗟-𝗚𝗹𝘂𝘁𝗮𝗺𝗶𝗻𝗲 และ 𝗭𝗶𝗻𝗰

𝗟-𝗚𝗹𝘂𝘁𝗮𝗺𝗶𝗻𝗲 เป็นกรดอะมิโนที่ช่วยซ่อมแซมผนังลำไส้ ส่วน 𝗭𝗶𝗻𝗰 ช่วยลดการอักเสบและเร่งกระบวนการฟื้นฟู

✅ 𝗖𝗮𝗿𝗻𝗶𝘃𝗼𝗿𝗲 𝗗𝗶𝗲𝘁 🔥🔥🔥

หากต้องการยาแรงเห็นผลไว หายเร็ว แนะนำให้ทานแบบ 𝗖𝗮𝗿𝗻𝗶𝘃𝗼𝗿𝗲 𝗗𝗶𝗲𝘁 ที่เป็นการกินโปรตีนและไขมันจากสัตว์เป็นหลัก ช่วยลดการอักเสบและสร้างสภาวะที่เหมาะสมในการฟื้นฟูลำไส้

ตัดพืชทุกอย่างทิ้งทั้งหมด เป็นการจัดการกับสารต้านอาหาร (𝗔𝗻𝘁𝗶-𝗡𝘂𝘁𝗿𝗶𝗲𝗻𝘁𝘀) จากพืชทุกตัว ไม่ต้องมานั่งเดาสุ่มว่าปัญหาผนังลำไส้รั่วนี้เกิดจากสารต้านอาหารตัวไหน แถมการตัดพืชทิ้งทำให้สามารถลดคาร์บฯ ได้ต่ำมากๆ ช่วยลดการกระตุ้นอินซูลินและลดการอักเสบในลำไส้ได้อย่างดีเยี่ยม

การปรุงรสชาติให้ใช้เกลือธรรมชาติที่ไม่ผ่านกระบวนการ เช่น เกลือชมพู เกลือดำ ดอกเกลือ เกลือสมุทร (ไม่ใช้เกลือป่นผสมไอโอดีน)

ถ้าหากปฏิบัติได้อย่างเคร่งครัด ปัญหาผนังลำไส้รั่ว ภูมิแพ้ ภูมิเพี้ยน ภาวะแพ้ภูมิตัวเองต่างๆ ที่ไม่สามารถหาสาเหตุได้ จะดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ

⭐️ อย่าลืมว่าลำไส้ดี = สุขภาพดี

❤️ ลำไส้จะดีได้ต้องเริ่มจากการทานอาหารที่ดีครับ

#ผนังลำไส้รั่ว
#ลำไส้รั่ว


#ภูมิแพ้
#ผิวหนังอักเสบ
#สะเก็ดเงิน
#หนังแข็ง

#ภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง


สวัสดีวันจันทร์ ชาว IBS ทุกท่านค่าวันนี้ขอมาแนะนำผักและผลไม้บางอย่างที่เหมาะและไม่เหมาะกับชาว IBS ค่ะผักที่เหมาะกับชาว I...
27/01/2025

สวัสดีวันจันทร์ ชาว IBS ทุกท่านค่า

วันนี้ขอมาแนะนำผักและผลไม้บางอย่างที่เหมาะและไม่เหมาะกับชาว IBS ค่ะ
ผักที่เหมาะกับชาว IBS เรา ได้แก่
เห็ดนางรม 1 ถ้วยตวง
กระเจี๊ยบ 70 กรัม
ต้นหอม (ใบเขียวส่วนบน) 75 กรัม
พริกหวานเขียว 75 กรัม
ถั่วแขก 75 กรัม

ผลไม้ที่เหมาะกับชาว IBS เรา ได้แก่
สับปะรด 1 ถ้วยตวง
กีวี่ 2 ลูก
บลูเบอร์รี่ 1 ถ้วยตวง
กล้วยไม่อ่อนไม่แก่ 1 ลูก
ส้มแมนดาริน 1 ลูก

ส่วนผักและผลไม้ที่ไม่เหมาะกับชาว IBS ก็คือ
แอปเปิ้ล
ลูกพีช
เชอร์รี่
มะม่วง
กล้วยหง่อม
เห็ด
ถั่วลันเตา
หน่อไม้ฝรั่ง
หอมใหญ่
พริกหวานแดง

ทั้งนี้ทั้งนั้น แต่ละคนอาจกินได้ในปริมาณที่แตกต่างกันออกไปนะคะ ☺️

ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Oh My Gut: ลำไส้แปรปรวนผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram