Sand Tray Play ก็ดี Therapy ก็ได้

Sand Tray Play ก็ดี Therapy ก็ได้ การบำบัดในถาดทรายสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ นำสืบปมค้างใจ เชื่อมโยงจิตใต้สำนึกเพื่อให้จิตสำนึกไปต่อกับชีวิต
(1)

การบำบัดในถาดทราย Sand Tray Therapy เป็นศาสตร์การบำบัดที่มีมานานกว่า 90 ปีแล้ว ใช้ได้ทั้งกับเด็ก ในแง่การส่งเสริมพัฒนาการ การจัดการความคิด ความรู้สึก และกับผู้ใหญ่ ในแง่การปรึกษาและสุขภาพจิต โดยใช้ทรายและของเล่น (วัตถุสัญลักษณ์) ประกอบการบำบัด ใช้ได้ทั้งในฟอร์มการเล่นบำบัด ศิลปะบำบัด จิตบำบัด การปรึกษา และโค้ช เน้นทำงานกับจิตใต้สำนึก , สมองซีกขวา เกี่ยวกับรูปภาพและสัญลักษณ์ อารมรณ์ และการเยียวยาบาดแผลทางจิตใจ ปมในใจ

อ่านต่อ บทความที่จิตแพทย์กล่าว https://thepotential.org/life/sand-tray-therapy/

ถ้ายังไม่รู้ปมตนเอง มาเล่นถาดทราย อาจเห็นร่องรอยปมค้างใจที่ไม่รู้ตัว ครับhttps://www.facebook.com/share/p/1HJYztRJWB/
09/12/2025

ถ้ายังไม่รู้ปมตนเอง มาเล่นถาดทราย อาจเห็นร่องรอยปมค้างใจที่ไม่รู้ตัว ครับ

https://www.facebook.com/share/p/1HJYztRJWB/

สมองจะ “ไม่สร้างนิสัยใหม่” ถ้าเรายังใช้เชื้อเพลิงจากปมในใจ
(ทำไม เทคนิคการจัดการเวลา เคล็ดลับต่างๆมันจะใช้ไม่ได้ผลเลย ถ้าเราไม่แก้ปัญหาข้างในตัวเราก่อน )
เมื่อวานวันหยุด เบ้นนั่งดูอันนี้มาคือแบบดีมากๆ คลิปยาวมาก 2 ชั่วโมงกว่า จนอธิบาย เรื่องนึงที่สงสัยมานานคือ
"ทำไมเราจะไม่มีทาง Copy productivity system คนอื่นไม่ได้"
หลายคนสงสัยว่า
ทำไมเราพยายามเปลี่ยนนิสัยมานาน แต่ชีวิตไม่ขยับสักที
อ่านหนังสือ ทำ Planner ลงคอร์ส productivity
แต่พอเหนื่อยๆ มากๆ ก็กลับไปเป็นคนเดิมตลอด ไม่เห็นจะดีขึ้นเลย
Dr. Alok Kanojia (Dr.K) อธิบายแกอธิบายได้ดีมากว่า:
ถ้าระบบประสาทของเรายังขับเคลื่อนด้วย “ปมในใจวัยเด็ก”
สมองจะไม่ยอมสร้างนิสัยใหม่ให้เราหรอก มันยังอยู่ในโหมดเอาตัวรอด
และสิ่งที่ผลักเราทุกวันนี้ อาจไม่ใช่ความอยากโต
แต่คือ "Toxic Fuel" ที่เราพกมาตั้งแต่เด็ก
และสิ่งที่ผลักคุณอยู่ตอนนี้ อาจไม่ใช่วินัย
แต่คือ บาดแผลวัยเด็กที่ยังไม่ถูกเยียวยา
มันต้องเข้าใจตรงนี้กันก่อนที่เราจะเสียเวลาทั้งชีวิตไปพัฒนาผิดจุด
#อ่านจบปุ๊ปเก่งขึ้นปั๊ป
----------------------------
[1] Toxic Fuel คือพลังงานจาก trauma (แผลใจ) ที่ผลักให้เราต้องเป็นคนเก่ง แต่ทำลายเราจากข้างใน
Dr. K ยกตัวอย่างคนไข้ของเขาขึ้นมา
คนที่สร้างชีวิตขึ้นมาจากศูนย์ภายใน 4 ปี
แต่พอสำเร็จกลับรู้สึก “ว่างเปล่า เหมือนไม่ใช่ตัวเอง”

เพราะเขาไม่ได้ขับเคลื่อนด้วย curiosity(ความอยากรู้)
แต่ใช้ anger ,shame ,fear ,loneliness ,childhood wounds
(ความโกรธ ความอาย ความกลัว ความเหงา ปมในเด็ก)
เป็น “เชื้อเพลิง( Fuel)” ขับเคลื่อนชีวิตเราทั้งหมด
Dr. K เรียกสิ่งนี้ว่า Toxic Fuel (เหมือนพลังงานแบบไม่ดี)
เพราะมันคือพลังงานที่ “ยืมมาจากความเจ็บปวด”
รุนแรงจริง พาไปไกลจริง แต่…ทำลายตัวเราเองไปพร้อมกัน
-----------------
[2] สมองในโหมด survival = ไม่เรียนรู้อะไรใหม่
Dr. K อธิบายว่า trauma ทำให้สมองต้องอยู่ใน fight-or-flight ตลอดเวลา
เพราะระบบประสาทคิดว่า “เราไม่ปลอดภัย”
เมื่อเป็นแบบนี้:

-Prefrontal Cortex (เหตุผล) ถูกปิด
-Amygdala (ภัยคุกคาม) คุมเกมชีวิตเรา
-สมองเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน
-คิดสั้นลง ตอบสนองแบบ reactive
-ไม่มี bandwidth สำหรับการเปลี่ยนแปลงนิสัย
A brain stuck in survival mode cannot self-start
สมองที่อยู่ในโหมดเอาตัวรอด จะเริ่มอะไรใหม่ไม่ได้เลย
----------------
[3] ทำไมเราทำงานหนักแต่ไม่เคยรู้สึก “พอ”?
Dr. K อธิบายว่า trauma ทำให้คน “วิ่งหาความปลอดภัย”
ไม่ใช่วิ่งหาความสำเร็จ
ดังนั้น pattern จะเป็นแบบนี้:

1.ทำงานหนักเพื่อพิสูจน์ว่า “ฉันไม่ไร้ค่า”
2.กลัวล้มเหลว เพราะ ล้มเหลว = จะโดนทิ้ง
3.ขยันเพื่อกลบความอายหรือความไม่พอ
4.หยุดไม่ได้ เพราะ “หยุด = อันตรายไม่ปลอดภัย”
5.ยิ่งสำเร็จ ยิ่งรู้สึกปลอม (imposter)
นี่คือ Toxic Fuel 100%
มันคือการ “ใช้ชีวิตเพื่อแก้ปมในวัยเด็ก” แบบที่เราเข้าใจมาตลอดว่าเราเป็นคนขยัน เป็นคนเก่ง เป็นคนสำเร็จ
---------------
[4] ถ้าไม่รู้สึก “ปลอดภัย” สมองจะไม่ให้เราเปลี่ยนตัวเอง
Dr. K แกบอกว่า
ก่อนจะพูดถึง productivity, habit formation, self-discipline อะไรก็ตาม
"ต้องสร้างความปลอดภัยให้ระบบประสาทก่อน"

เพราะสมองมีลำดับความสำคัญแบบนี้:
Stage A : เอาตัวรอดก่อน
Stage B : พอรอดแล้ว ถึงเริ่มอยากเรียนรู้เพิ่ม
Stage C : พอเรียนรู้แล้ว เราก็จะเติบเติบโต
แต่คนยุคนี้ทำตรงกันข้าม
เราบังคับตัวเองให้โต ทั้งที่ระบบประสาทยัง “กลัวตาย” อยู่ข้างใน
เขาเลยบอกว่า
“You can’t out-discipline your nervous system.”
(คุณไม่มีทางมีวินัยไปชนะระบบประสาทที่ยังไม่ปลอดภัยได้)
และนี่แหละคือเหตุผลว่าทำไม

-เราพยายามเริ่มนิสัยใหม่แต่ไม่รอด
-เราวางแผนชีวิตแต่ทำได้วันเดียว
-เราอยากโฟกัสแต่ใจวอกแวกทั้งวัน
-เราอยากนิ่งแต่สมองเหมือนมีมอเตอร์ติดอยู่ตลอดเวลา
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะเรา “ไม่เก่งพอ”
แต่เพราะ สมองยังคิดว่าโลกไม่ปลอดภัย
--------------------------------
[5] ทำไมคนเก่งหลายคน “ยิ่งได้ ยิ่งไม่รู้สึกดี”?

Dr. K บอกว่า มีคนไข้จำนวนมากเก่งแบบมหาศาล
เป็น Founder, เป็น VP, เป็นคนที่ society ยอมรับ
แต่ทุกคนมี ปัญหาเดียวกัน ปมเดียวกัน
"ไม่ว่าจะสำเร็จแค่ไหน ก็ยังรู้สึกกลวงอยู่ดี"
เพราะ trauma ไม่เคยถูกแตะ มันแค่ถูกกลบด้วย ความสำเร็จ
และสมองก็เรียนรู้อะไรแบบผิดๆ เช่น:
ถ้าอยากให้คนรัก = ก็ต้องทำงานหนัก
ถ้าอยากปลอดภัย = ก็ต้องเก่งขึ้นอีก
ถ้าอยากมีคุณค่า = ก็ต้องไม่แพ้
พอได้ “สิ่งนั้น” มา มันเลยไม่เคยเติมเต็มเรา
เพราะเราไม่ได้อยากได้มันแต่แรก
[เราวิ่งเพราะ กลัว ไม่ใช่เพราะ อยาก]
นี่คือ Toxic Fuel ในรูปแบบที่ชัดเจนที่สุด
สำเร็จมากขึ้น แต่รู้สึกน้อยลง ; (
----------------------------
[6] แล้วเราจะเปลี่ยนเชื้อเพลิงได้ยังไง?
Dr. K ไม่สอนให้ “Hard core แบบ เฆี่ยนวินัย”
55555 แบบบังคับตัวเองให้เก่งเหมือน David Goggins
แต่สอนสิ่งตรงกันข้ามคือ
ให้ระบบประสาทรู้สึกปลอดภัยก่อน
เขาบอกว่าการเปลี่ยนพฤติกรรมจริง ๆ มาจาก 3 อย่าง
1. Safety
ทำให้ร่างกายรู้ว่า “ไม่ต้องหนีแล้ว”
เช่น นอนให้พอ, ลดสิ่งกระตุ้น, ลดความกดดันที่ไม่จำเป็น
2. Awareness
นั่งกับความคิดตัวเอง 5 -10 นาที
ดูว่าอะไรขับเคลื่อนในใจเรา
ดูว่าเราเหนื่อยเพราะงาน หรือเหนื่อยเพราะปมในใจ
นี่คือการเปิด ACC (anterior cingulate cortex) ส่วนควบคุมตัวเอง
ที่ทำให้เราหยุดโหมด นี้ได้
3. Processing
มอง trauma ปมเราแบบตรงไปตรงมา
ยอมรับมัน แทนที่จะกดไว้หรือทำเป็นไม่รู้
เพราะถ้าไม่ process มัน มันจะคุมชีวิตเราตลอด
------------------------------------
[7] เป้าหมายที่แท้จริง จะค่อยๆ โผล่มาเอง
หนึ่งในประโยคที่เบ้นชอบมากของ Dr. K คือ
“When your fuel changes, your goals change.”
เมื่อเชื้อเพลิงข้างในเปลี่ยน เป้าหมายในใจก็เปลี่ยน
เขาเล่าว่า พอคนไข้เริ่มหายจาก trauma
สิ่งที่เคย “อยากได้มากๆ” จะจางหายไปเอง
เพราะมันไม่ใช่ความต้องการของเราตั้งแต่แรก
แต่คือกลไกการเอาตัวรอด
ในทางกลับกัน
เป้าหมายที่แท้จริงจะเริ่มชัดขึ้น เรียบง่ายขึ้น สงบขึ้น
ไม่ต้องใช้ความกลัวมาเป็นตัวผลักอีกต่อไป
นี่คือ Healthy Fuel
ที่ขับเคลื่อนด้วย curiosity, purpose, และความสงบจากข้างใน
-------------------
#สรุปแบบลงดาบ
ผมนึกถึงตัวเองสมัยเป็นเด็กเริ่มทำงานใหม่ๆ ทำธุรกิจแรกๆ
ไม่เคยเริ่มทำธุรกิจออกมาจาก ความอยากรู้ หรือพลังงานดีๆเลย เบ้นเต็มไปด้วย Toxic Fuel
ตอนนั้นเบ้นอยู่ใน Status ที่เพื่อนๆรอบตัวบอกว่า "โครตจะ Productive"
ตื่นตี 5 มาวิ่งทุกวัน อ่านหนังสือ ปีนึง 52 เล่ม พัฒนาตัวเองตลอดเวลา ทำงาน 7 วัน/สัปดาห์ ไม่หยุดติดต่อกัน 4 ปี
แต่ถ้าวันนี้มองย้อนกลับไป Drive ของเราคือปมในใจเราที่ต้องการ
การยอมรับจากสังคม ลึกๆรู้สึกไม่มีค่า
พอวันหยุด ไม่ทำงานปั๊ป เอาละ 555555
เริ่มรู้สึกไม่ดีละ เริ่มเกลียดตัวเอง เกลียดวันหยุด ถึงขนาดเคยตั้ง
Club ทำงานวันหยุด แล้วชมกันเองในกลุ่มด้วย ใครหยุดงานโดน Bully ใครป่วยโดนปรับ 5555555
แต่สุดท้ายสิ่งนั้นอยู่ได้ 4 ปี เราก็เริ่ม Burnout ทำงานหนัก แต่ข้างในสับสนตัวเอง ยิ่งทำยิ่งรู้สึกไม่มีคุณค่า
พอทำไปสักพักมันจะเริ่มติดคิดอะไรไม่ออก ธุรกิจก็ไม่โตอีกเลย
เราไม่ต้องเลิกพัฒนา แต่ต้องเลิกใช้เชื้อเพลิงผิด
สิ่งที่ Dr. K สอนคือ "ไม่ต้องหยุดพัฒนา แต่ต้องเปลี่ยนเชื้อเพลิง"
จาก anger(ความโกรธ) → เป็น awareness (การรับรู้)
จาก shame(ความอาย) → เป็น self-compassion (ความเห็นใจ)
จาก fear(ความกลัว) → เป็น safety (รู้สึกปลอดภัย)
จาก childhood wounds(ปมวัยเด็ก) → เป็น healing (การรักษา)
เราจะยังพัฒนาเหมือนเดิม แต่จะพัฒนาแบบที่ ไม่ต้องแลกหัวใจตัวเองไปด้วย
ผมเชื่อว่าคนที่อ่านโพสต์นี้
กำลังอยู่ในจุดที่ พร้อมจะเปลี่ยนเชื้อเพลิงในชีวิตแล้วจริงๆ
นี่แหละคือจุดที่ชีวิตเริ่มเดินด้วยความสงบ ไม่ใช่หนีจากตัวเราเอง
และเป็นจุดที่นิสัยใหม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง
โดยไม่ต้องฝืน ไม่ต้องเฆี่ยน ไม่ต้องพิสูจน์ใครทั้งนั้น
ผมหวังว่าเรื่องนี้จะช่วยสร้างวันของคุณ

น่าสนใจครับ
07/12/2025

น่าสนใจครับ

ครูฤทธิ์และครูน้ำ ร่วมกันเป็นวิทยากรจัดอบรมหัวข้อ การสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางจิตใจสำหรับผู้เรียนที่มีความหลากหลาย และ เทคน...
06/12/2025

ครูฤทธิ์และครูน้ำ ร่วมกันเป็นวิทยากรจัดอบรมหัวข้อ การสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางจิตใจสำหรับผู้เรียนที่มีความหลากหลาย และ เทคนิคการส่งเสริมพฤติกรรมเชิงบวกในเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

ผู้เข้าร่วมอบรมเป็นคุณครู 200 คน โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า พระรามห้า

https://www.facebook.com/share/p/1Fbjvaomy3/
04/12/2025

https://www.facebook.com/share/p/1Fbjvaomy3/

เปิดรับสมัครแล้วค่า (..›ᴗ‹..)
เวิร์คช้อป The Toy Compass 🧭: Finding My Safe Haven in Play

ชวนค้นหา “พื้นที่ปลอดภัยทางจิตใจของเรา” ผ่านการใช้ของเล่นเป็นเข็มทิศนำทาง ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกันในวงเล็กๆ เพื่อค้นหาว่า "พื้นที่ปลอดภัยทางจิตใจ" ของเราหน้าตาเป็นยังไง คล้ายหรือแตกต่างจากของคนอื่นยังไงบ้าง และสำรวจไปด้วยกันว่าอะไรคือสิ่งที่จะช่วยให้สามารถสร้างพื้นที่นั้นขึ้นมาได้ในชีวิตจริงของเรา ♡

เวิร์คช้อปนี้เหมาะกับใครบ้าง?

⟡ คนที่อยากเข้าใจความหมายของ “พื้นที่ปลอดภัยทางจิตใจ” ให้ชัดขึ้น
⟡ คนที่อยากเรียนรู้การสร้างพื้นที่ปลอดภัยเพื่อดูแลใจของตัวเอง
⟡ คนที่อยากมาพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองกันในวงเล็กๆ
⟡ คนที่แค่อยากมาลองเล่นสนุกดู ♡ॢ₍⸍⸌̣ʷ̣̫⸍̣⸌₎

—-
📍 Location : Studio No.12 ย่านพระราม 9 - ดินแดง
🚇 Transport: MRT ลงสถานีพระราม 9 ออกประตู 1 แล้วต่อรถสาธารณะเข้ามาในซอย

📅 Date: วันเสาร์ที่ 10 มกราคม 2569
⏰ Time: 14:00-16:00 น. (2 ชม.)

💌 Special Price: 490 บาท สำหรับกิจกรรมแรกของเพจเรา (จากราคาเต็ม 590 บาท) / คน
รับผู้เข้าร่วมสูงสุด 6 ที่นั่งเท่านั้น ◡̈

หมายเหตุ ⭑.ᐟ
ทางผู้จัดกิจกรรมขอ "สงวนสิทธิ์ในการคืนเงิน" ในกรณีที่ผู้เข้าร่วมลงทะเบียนแล้วแต่ไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมได้ แต่หากกิจกรรมจำเป็นต้องยกเลิกด้วยเหตุผลจากทางผู้จัดเอง จะดำเนินการคืนเงินค่าเข้าร่วมให้เต็มจำนวนค่ะ

—-
นำกิจกรรมโดย อายและป่าน ผู้ก่อตั้งเพจ Heart&Haven นักออกแบบกระบวนการส่งเสริมการเดินทางภายในเพื่อการดูแลสุขภาวะทางจิตใจ

สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Inbox ค่ะ

03/12/2025

(ปิดรับสมัครครับ)

รับสมัครผู้ใช้บริการเคสอาสา 2 ราย จ 8 ธค 68
สนใจปรึกษา/เล่นถาดทราย ฟรี 2 ชม.
สถานที่ รามอินทรา 34 กทม

เงื่อนไข
-นักเรียนคอร์สถาดทรายของครูฤทธิ์เป็นผู้ให้บริการ
-ครูฤทธิ์เป็นอาจารย์นิเทศก์ และผู้รับผิดชอบกิจกรรม อยู่ด้วยตลอดในห้องเดียวกัน
-ครูฤทธิ์พูดคุยกับผู้ใช้บริการช่วง 15-20 นาทีสุดท้าย
-วัตถุประสงค์กิจกรรม เพื่อฝึกให้นักเรียนมีความสามารถมากขึ้น
-ผู้ใช้บริการอนุญาตให้บันทึกภาพถาดทรายได้

รอบ 10-12น รับเฉพาะบุคคลที่เป็นพ่อแม่ (ปิดรับสมัครครับ)

รอบ 14-16น รับบุคคลทั่วไป อายุมากกว่า 21 ปี (ปิดรับรอบนี้ มีผู้สมัครใน 3 นาทีที่โพสต์)

สนใจทักแชทเพจนะครับ

แนวซาเทียร์ในถาดทรายครับhttps://www.facebook.com/share/17hCm7HiSw/
25/11/2025

แนวซาเทียร์ในถาดทรายครับ

https://www.facebook.com/share/17hCm7HiSw/

Bangkok Psychological Services (BPS) is a private psychological and therapy practice founded in 2015, owned and headed by therapy psychologist/psychotherapist Dr. Natalie Chantagul. BPS provides a full range of psychological and therapy services for both adults and children.

ขำ
13/11/2025

ขำ

31/10/2025

คอร์สสอนใช้ถาดทราย รุ่นถัดไป(ถัดจากที่ประกาศล่าสุด) 26-30 มค ใครสนใจ แจ้งมานะครับ ด่วนๆ

31/10/2025

พอเห็นเป็นถาดทรายแล้วมันง่ายมากเลยที่จะบอกเรื่อง นพลักษณ์ว่า ลักษณ์ A ปีก B หรือ ลักษณ์ B ปีก A

อะไรเป็นหลัก อะไรเป็นรอง

กรณีสับสนลักษณ์ว่า ลักษณ์ X หรือ Y
ก็มีข้อมูลหลักฐานการเล่นที่ตอบได้พอสมควร
และตอบได้ว่า ทำไมถึงเข้าใจว่าเป็น X (แต่หลักฐานจำนวนมากกว่า บอก Y)

บางกรณีก็ต้องใช้ทฤษฎีอื่นๆ ประกอบการอธิบายด้วย

แต่เครื่องมือนี้ไม่ได้ตอบได้ 100% บางรายต้องเล่นมากกว่า 1 ถาด ถึงจะมีหลักฐานมากพอสรุป

คอร์สสอนใช้ถาดทรายและของเล่นประกอบการปรึกษาสำหรับวัยรุ่นผู้ใหญ่ครับIntegrating Sand Tray into Counseling  # 19Basic and ...
18/10/2025

คอร์สสอนใช้ถาดทรายและของเล่นประกอบการปรึกษาสำหรับวัยรุ่นผู้ใหญ่ครับ

Integrating Sand Tray into Counseling # 19
Basic and Intermediate Level for working with Adolescents and adults
เวิร์กชอป การใช้การเล่นทรายและวัตถุสัญลักษณ์ประกอบการปรึกษา สำหรับนักวิชาชีพ และนักเรียนรู้ เพื่อทำงานกับวัยรุ่นและผู้ใหญ่ รุ่น 19

*******************
ถ้าอยากทำงานแนวจิตใจกับคนอื่น แต่ไม่ถนัดพูดคุย แล้วก็ไม่ได้เก่งศิลปะด้วย ลองอ่านดูก่อน

การเล่นในถาดทรายแนวที่ครูฤทธิ์ใช้ เล่นง่าย แค่ หยิบ จับ วาง ใครๆ ก็เล่นได้ เล่นให้ได้ผ่อนคลายน่ะ ได้อยู่แล้ว แต่จะพาเล่นอย่างไรให้ทำงานกับจิตใจมากกว่า ผ่อนคลาย เชิญคอร์สนี้ครับ
*******************
การบำบัดในถาดทราย เป็นศาสตร์ที่มีมานานกว่า 90 ปีแล้ว ใช้การเล่นทรายและวัตถุสัญลักษณ์ (ของเล่น) ประกอบการบำบัด ใช้ได้ทั้งสำหรับเด็กเล็กจนถึงผู้ใหญ่ ทำได้ในฟอร์มของการเล่นบำบัด ศิลปะบำบัด โค้ชชิ่ง และการปรึกษา จิตบำบัดได้
การบำบัดในถาดทราย เน้นทำงานกับจิตใต้สำนึกและสมองซึกขวา โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับภาพสัญลักษณ์และอารมณ์ความรู้สึก เพราะจิตใต้สำนึก ปรากฏออกมาให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านภาพสัญลักษณ์ที่แสดงออกผ่านวัตถุสัญลักษณ์ (ของเล่น) โดยที่ขณะเล่น ผู้เล่นเองก็ไม่รู้ตัวได้
ข้อดีของการเล่นทรายและวัตถุสัญลักษณ์ เมื่อเทียบกับศิลปะแขนงอื่นๆ คือ ช่วยลดปัญหากรณีผู้ใช้บริการมองตนเองวาดรูปไม่สวย ทำศิลปะไม่เป็น เพราะแค่เลือก หยิบวัตถุสัญลักษณ์มาวางในถาดทราย เท่านั้นเอง ง่ายมากๆ

ครูฤทธิ์ นักบำบัดในถาดทราย Professional Certificate in Creative Arts Therapy ให้บริการการบำบัดในถาดทราย มา 7 ปี แล้ว มีประสบการณ์ ประมาณ 3800 ชั่วโมง ที่จะนำมาใช้ถ่ายทอดในเวิร์กชอปนี้
*******************
เกี่ยวกับเวิร์กชอปนี้
เวิร์กชอป “การใช้การเล่นทรายและวัตถุสัญลักษณ์ประกอบการปรึกษา สำหรับนักวิชาชีพ และนักเรียนรู้ เพื่อทำงานกับวัยรุ่นและผู้ใหญ่” ไม่ใช่เวิร์กชอปสอนการบำบัด แต่เป็นเวิร์กชอปที่เน้นฝึกปฏิบัติเข้มข้น เพื่อให้พร้อมต่อการนำไปใช้งานกับคนอื่น ชวนคนอื่นเล่น ครอบคลุมหลักการสำคัญ ทฤษฏี ประสาทวิทยาสมอง การเตรียมความพร้อมก่อนทำงาน ขั้นตอนปฏิบัติ เทคนิควิธีการรายละเอียดต่างๆ ในเชิงปฏิบัติ รวมถึง การฝึกปฏิบัติ กันเองอย่างเข้มข้น

กระบวนการเรียนรู้ในเวิร์กชอปนี้ เน้นการลงมือทำ มีประสบการณ์ตรง การอภิปราย และการฝึกฝนปฏิบัติรายบุคคลอย่างเข้มข้น มี supervision
เวิร์กชอปนี้ไม่ได้ใช้แนวทาง Satir แต่ใช้ 5 แนวทาง และ 3 เสาหลัก
5 แนวทาง คือ THAI-N ได้แก่ Trauma-informed, Human Development, Art and Play based therapy , Integrated unconcious to concious และ Narrative
3 เสาหลัก คือ (จากทั้งหมด 6 เสาหลักที่ครูฤทธิ์ใช้ทำงาน) ได้แก่ การเล่นอิสระ การเล่นแบบกำหนดหัวข้อ การเล่นแบบเน้นเทคนิค
จบคอร์สแล้ว ผู้เข้าร่วมอบรม มีโอกาสที่จะ
- เพิ่มความ"มั่นใจ" ในการชวนผู้ใช้บริการเล่น
- ชวนเล่นให้ “ได้ใจ" ผู้ใช้บริการ (บันเทิงก็บันเทิงได้ใจ / สำรวจประเด็นก็สำรวจให้สนุก น่าค้นหา/ ให้ได้ผลในเชิงเยียวยา ก็แตะให้ถึง (กรณีผู้เข้าร่วมอบรมเป็นนักเยียวยา นักบำบัดอยู่แล้ว) )
- "ดื่มด่ำ" กับความสุนทรีย์ในการนำพาการเล่น ได้อย่างมีชั้นเชิงและเป็นอิสระ
- เห็นแนวทาง"พัฒนา" สไตล์การชวนเล่นเป็นของตนเอง ไม่ใช่ก๊อปปี้สไตล์ครูฤทธิ์
- "รักษา" เลเวลของการเล่นให้อยู่ในระดับขอบเขตความสามารถของตนเอง ไม่ยากเกินไป
- "รับมือได้" เมื่อสถานการณ์และอะไรไม่ตรงตามตำรา
- "ไปต่อได้" อย่างเป็นรูปธรรม แม้ว่าผู้ใช้บริการแทบไม่ได้พูดคุยเลยก็ตาม
กำหนดการพอสังเขป
Day1 เล่นประสบการณ์ตรง
Day2 เรียนรู้เบื้องหลังกระบวนการ + เล่นประสบการณ์ตรง + จับคู่ฝึกทักษะการชวนเล่น (1)
Day 3 จับคู่ฝึกทักษะการชวนเล่น (2)
Day 4 สังเกตการณ์ครูฤทธิ์ชวนเล่นเคสจริง และถอดบทเรียนร่วมกัน
Day 5 จับคู่ฝึกทักษะการชวนเล่น (3)
ตัวอย่างหัวข้อหน่วยการเรียนรู้
14 กระบวนท่าการชวนคุยชวนเล่น, ศิลปะการฟังจับประเด็นและกำหนดหัวข้ออย่างแคบและอย่างกว้าง รวมถึงการประเมินความเสี่ยงของหัวข้อ, ดวงจิตดั่งผ้าม่านและด้ายแดง , 14 อย่างที่ต้องตระหนักรู้ขณะให้บริการ, กราฟความสัมพันธ์ระหว่างปมและภาพสัญลักษณ์ที่ปรากฏในถาดทราย, ปมค้างใจต่างมิติเวลาในหนึ่งถาดทราย, 15 ประเภทฉากและถาดทราย, 16 วิธีเลือกวัตถุสัญลักษณ์, รูปแบบการเปลี่ยนแปลงสภาวะจิตลงในถาดทราย, ขนาดของถาดทรายที่แท้จริง, เฟสและลำดับการเล่น, เทคนิคการเล่นในถาดทรายแบบง่าย ไม่จำเป็นต้องมีของเล่นเยอะ
*******************
คุณสมบัติผู้เข้าร่วมอบรม
นักวิชาชีพ และนักเรียนรู้ , นักวิชาชีพ ได้แก่ นักจิตวิทยาสาขาต่างๆ นักจิตวิทยาประจำโรงเรียน โค้ช กระบวนกร ฟา ครู พยาบาล ส่วนนักเรียนรู้ คือ ผู้สนใจเรียนรู้ในศาสตร์หลากหลาย ค้นหาแนวทางที่ใช่สำหรับตนเอง และอื่นๆ (พูดคุยกับครูฤทธิ์ก่อนได้)
ผู้เข้าร่วมอบรมต้องอนุญาตให้ตนเองเล่นได้, มีความสามารถในการประคับประคองจิตใจตนเองตลอดคอร์ส และทำตามกติกาเบื้องต้นได้
ผู้เข้าร่วมอบรมเรียนรู้ผ่านเรื่องราวชีวิตของตนเองและผู้เข้าร่วมอบรมคนอื่นๆ
เวิร์กชอปนี้ เน้นออกแบบมาให้ทำงานกับวัยรุ่น และผู้ใหญ่ แต่ก็ใช้กับเด็กเล็ก เด็กโต ได้ระดับหนึ่ง หากนักวิชาชีพเน้นทำงานกับเด็ก ก็สามารถมาเรียนรู้ได้ มีหลักการใหญ่ๆ ที่ใช้กันได้อยู่ และได้เห็นด้วยว่าถาดทรายทำงานกับสัญลักษณ์ในจิตใจส่วนลึกได้อย่างไร
*******************
วันเวลา : ทั้งหมด 5 วัน ได้แก่ วันที่ 5-9 มกราคม เวลา 10.00-17.00น. แต่เผื่อเวลาเลิกไว้ด้วย ครูฤทธิ์มักจะแถมเป็นประจำ อาจถึง 18.00น. หรือมากกว่าได้
สถานที่ : บ้านครูฤทธิ์ รามอินทรา 34 กทม.
ค่าใช้จ่าย : 15000 บาท ราคารวมเอกสาร อาหารว่าง แต่ไม่รวมอาหารกลางวัน และไม่ได้ให้วัตถุสัญลักษณ์และถาดทรายกลับบ้าน
รับจำนวนไม่เกิน 5 คน
(รับจำนวนคนน้อย เพื่อต้องการคงคุุณภาพการอบรม)
*******************
รู้จักครูฤทธิ์และการบำบัดในถาดทรายเบื้องต้น ผ่านบทสัมภาษณ์ Manageronline
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9650000043934
รีวิวการบริการแบบสาระสำคัญ
เห็นบรรยากาศสถานที่อบรม
https://youtu.be/eW8bgHTkMGw
*******************
สนใจสมัคร ติดต่อ เพจ FB : Sand Tray Play ก็ดี Therapy ก็ได้
#เล่นทราย #การเล่นในถาดทราย #การบำบัดในถาดทราย #ถาดทรายบำบัด #วัตถุสัญลักษณ์ ็ดีtherapyก็ได้

06/10/2025

คอร์สสอนใช้ถาดทรายกับวัยรุ่นผู้ใหญ่ ประกอบการปรึกษา จัดรุ่นต่อไป 5-9 ม.ค.

แล้วจะประกาศรายละเอียดเร็วๆนี้ ครับ

ที่อยู่

ซ. รามอินทรา 34 ถ. อยู่เย็น แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว
Bangkok
10230

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 20:00
อังคาร 09:00 - 20:00
พุธ 09:00 - 20:00
พฤหัสบดี 09:00 - 20:00
ศุกร์ 09:00 - 20:00
เสาร์ 13:00 - 20:00
อาทิตย์ 09:00 - 20:00

เบอร์โทรศัพท์

879947750

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Sand Tray Play ก็ดี Therapy ก็ได้ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram