08/07/2020
โรคกระดูกในน้องหมา ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม
กระดูก อีกหนึ่งอวัยวะสำคัญที่ช่วยรองรับโครงสร้างทั้งหมดของร่างกายเอาไว้ ทำหน้าที่ค้ำจุนให้ร่ายกายของน้องหมาสามารถเคลื่อนไหวได้เป็นปกติ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง กระโดด ฯลฯ แน่นอนว่าเมื่อน้องหมาอายุเพิ่มมากขึ้น อาการเสื่อมต่างๆ ภายในร่างกายย่อมปรากฏ กับกระดูกเองก็ไม่ต่างกัน จะเกิดอะไรขึ้นหากกระดูกที่คอยค้ำจุนร่างกายของน้องหมาเกิดปัญหาขึ้นมา? วันนี้คุณหมอมี 3 โรคเกี่ยวกับกระดูกในน้องหมาที่อยากให้คุณพ่อคุณแม่เฝ้าระวังเอาไว้ค่ะ
1. โรคกระดูกพรุน ไม่ใช่แค่คนที่เป็นโรคกระดูกพรุนได้ น้องหมาเองก็สามารถเป็นได้เช่นเดียวกัน ซึ่งเกิดจากการที่น้องหมาได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะในกลุ่มของแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่ไม่สมดุล มักเกิดในน้องหมาที่ถูกเลี้ยงดูด้วยเนื้อเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยฟอสฟอรัส ในขณะที่มีปริมาณแคลเซียมไม่เพียงพอ เมื่อร่างกายของน้องหมาได้รับแคลเซียมต่ำ จะทำให้ต่อม parathyroid ทำการผลิตฮอร์โมน parathyroid มากขึ้น เพื่อรักษาสมดุลของแคลเซียมและฟอสฟอรัสในระบบเลือด ส่งผลให้แคลเซียมที่อยู่ในกระดูกถูกดึงออกมาใช้ เมื่อแคลเซียมที่เป็นโครงสร้างสำคัญของกระดูกถูกสลายไป น้องหมาจึงกลายเป็นโรคกระดูกพรุนในที่สุดค่ะ
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าภาวะกระดูกพรุนนี้เกิดจากการที่น้องหมาได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ การให้น้องได้รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุนได้ ทั้งนี้การได้รับแคลเซียมในปริมาณที่มากเกินไป ก็อาจทำให้น้องหมาเกิดโรคอื่นๆ ได้ เช่น นิ่วชนิด Calcium Oxalate, โรคข้อสะโพกเจริญผิดปกติ ฯลฯ อย่างไรแนะนำให้พาน้องหมาไปตรวจสุขภาพกับคุณหมอเพื่อตรวจวัดระดับแคลเซียมในเลือดก่อนจะดีกว่าค่ะ
2. โรคมะเร็งกระดูก เป็นความผิดปกติที่สามารถพบได้ทั้งในคนและน้องหมา แต่สามารถพบในน้องหมาได้บ่อยกว่า ซึ่งยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัด แต่คาดว่าพันธุกรรม, อาหาร, การเลี้ยงดู, การได้รับสารอนุมูลอิสระต่างๆ รวมไปถึงการปลูกถ่ายกระดูก อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งในกระดูกได้ โดยสามารถเกิดได้ที่บริเวณกระดูกขาหลัง, ขาหน้า, ซี่โครง, กระดูกเชิงกราน, กะโหลก, ขากรรไกร และกระดูกสันหลัง ทำให้น้องหมามีอาการเจ็บปวดขา ขาบวม โดยเฉพาะบริเวณใกล้หัวไหล่หรือข้อศอก ซึ่งสามารถสังเกตได้จากการที่น้องหมาไม่ยอมใช้ขาลงน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็นการลุกขึ้นยืน เดิน หรือวิ่ง
สำหรับการรักษา โดยมากแล้วมักจะตัดเอาก้อนมะเร็งออกไป นั่นหมายความว่าหากน้องหมาเป็นมะเร็งที่ขา ก็จำเป็นต้องตัดขาน้องหมาออกไป เพื่อไม่ให้เชื้อมะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและการแพร่กระจายของมะเร็งด้วย โดยอาจทำร่วมกับการให้ยาเคมีบำบัดและการฉายรังสี เพื่อจำกัดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง ทั้งนี้การให้น้องหมาได้กินอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ก็อาจเป็นอีกหนทางหนึ่งที่สามารถยับยั้งไม่ให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตขึ้นได้เช่นเดียวกันค่ะ
3. โรคข้อกระดูกเสื่อม เกิดได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดทางพันธุกรรม, อายุที่เพิ่มมากขึ้น, น้ำหนักตัวที่มากเกินไป และภาวะที่ไม่สมดุลระหว่างมวลกล้ามเนื้อและการเจริญของระบบกระดูก ทำให้ข้อต่อมีรูปร่างและการเคลื่อนของข้อผิดปกติ กระดูกต้นขาไม่สามารถสวมเข้ากับเบ้าสะโพกได้พอดี นำไปสู่การอักเสบถาวร พบบ่อยในน้องหมาสายพันธ์ใหญ่ (โดยเฉพาะสายพันธุ์แท้) ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตอาการของน้องหมาได้จาก การที่น้องเริ่มทรงตัวได้ไม่ดีและยืนขาสั่น, มีอาการร้องเจ็บเวลาลุกขึ้น, นั่ง หรือนอนบนพื้นได้ลำบาก, เริ่มเดินขาหลังปัดไปปัดมา เดินขึ้นลงบันไดไม่สะดวก และมีกล้ามเนื้อฝ่อลีบ เนื่องจากใช้ขาหลังได้น้อยลง
สำหรับการรักษานั้นมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรง โดยสามารถให้ยาในกลุ่ม NSAID (Non – Steroidal Anti-Inflammatory Drugs) เพื่อบรรเทาอาการปวด, การทำกายภาพบำบัดเพื่อคงสภาพกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อต่อ ให้ยังคงมีความแข็งแรง, การให้น้องหมาได้รับโภชนาการที่เหมาะสม อย่างกลูโคซามีน เพื่อช่วยต้านการอักเสบ ทำให้น้องหมามีอาการเจ็บปวดน้อยลง ช่วยฟื้นฟูสุขภาพข้อต่อของน้องหมาได้อย่างเป็นธรรมชาตินั่นเอง
โรคกระดูกทั้ง 3 โรคนี้ต่างเป็นภัยเงียบที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยทราบ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ทำให้น้องหมาทรมานไม่น้อย เพื่อป้องกันไม่ให้โรคต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้นกับน้องหมาสุดที่รักของเรา การพาน้องหมาไปพบกับคุณหมอเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยให้เราสามารถวางแผนการดูแลน้องหมาได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการเลือกใช้โภชนบำบัด ด้วยการให้น้องทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็จะช่วยให้น้องปลอดภัยจากโรคต่างๆ เหล่านี้ได้เช่นเดียวกันค่ะ
ด้วยความปรารถนาดีต่อเพื่อนตัวน้อย
Intervetta Thailand นำภาพและข้อความมาจากเวปไซป์นี้ครับ