ศูนย์โรคตาโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์-วัดไร่ขิง สาขา สุขุมวิท MIEC

03/12/2025

📢 ประกาศวันหยุด ประจำเดือนธันวาคม 2568
📌 หยุดทั้งหมด 3 วัน

🗓️ วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม 2568
✨ วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

🗓️ วันพุธที่ 10 ธันวาคม 2568
⚖️ วันรัฐธรรมนูญ

🗓️ วันพุธที่ 31 ธันวาคม 2568
✨ วันสิ้นปี

09/11/2025

กรมการแพทย์
ให้บริการ "Premium Clinic"
คลินิกบริการพิเศษในเวลาราชการ

03/11/2025

📣 ประกาศรับสมัครงาน

🗓️ รับสมัครตั้งแต่วันที่ 10 - 18 พฤศจิกายน 2568

💌 ยื่นใบสมัครพร้อมหลักฐานได้ด้วยตนเอง ในวันและเวลาราชการ

💌 กรอกใบสมัครพร้อมแนบหลักฐาน และสแกนเอกสารส่งมาที่ E-mail : hr.metta123@gmail.com

💌 กรอกใบสมัครพร้อมแนบหลักฐาน ส่งไปรษณีย์แบบด่วนพิเศษ (EMS) มาที่งานทรัพยากรบุคคล (สมัครงาน) โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) 52 หมู่ 2 ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210

30/10/2025

✨ มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพตา แนะนำพบจักษุแพทย์ 👀

#ไม่หลงเชื่อผลิตภัณฑ์เกินจริง #การดูแลสุขภาพดวงตา
#ตรวจเช็กสม่ำเสมอ #ใช้คอนแทคเลนส์อย่างถูกวิธี

บทความโดย : นายแพทย์วีรภัทร อุดมวงศ์ (จักษุแพทย์ด้านกระจกตา)
https://www.facebook.com/share/1PxSARsyUQ/?mibextid=wwXIfr

รพ.เมตตาฯ แนะ! ดูแลสุขภาพตา ตรวจเช็ก เลือกใช้ และรู้เท่าทัน

กรมการแพทย์โดย รพ.เมตตาประชารักษ์(วัดไร่ขิง) ชวนดูแลสุขภาพดวงตาที่เป็นอวัยวะสำคัญและบอบบางที่ปัจจุบันอินเตอร์เน็ตมีความสำคัญมาก การใช้สายตาจ้องมองจออาจเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ แต่การใช้สายตาติดต่อกันเป็นระยะเวลานานมักทำให้รู้สึกเคืองตาหรือปวดตา และการดูแลรักษาความสะอาดของดวงตาหากมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตาเช่น ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่สวมใส่คอนแทคเลนส์ ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง

นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่ในการรับภาพและส่งต่อข้อมูลไปยังสมองเพื่อใช้ในการรับรู้และเรียนรู้สิ่งรอบตัว การดูแลรักษาดวงตาจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะในปัจจุบันที่สิ่งแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงและเต็มไปด้วยปัจจัยเสี่ยง เช่น มลพิษทางอากาศ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) รวมทั้งสิ่งแปลกปลอมที่สามารถเข้าสู่ดวงตาได้ง่าย การตรวจสุขภาพตาเป็นประจำอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง จะช่วยวินิจฉัยความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก เช่น โรคต้อหิน ต้อกระจก หรือภาวะจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งหากได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที จะช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียการมองเห็นได้

นายแพทย์กิตติวัฒน์ มะโนจันทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวเพิ่มว่า นอกจากนี้ การใช้คอนแทคเลนส์ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในด้านความสวยงามและเพื่อแก้ไขปัญหาสายตา จำเป็นต้องใช้อย่างถูกต้องและปลอดภัย หากขาดการดูแลที่เหมาะสมอาจทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อที่กระจกตาได้ สิ่งสำคัญในผู้ใช้คอนแทคเลนส์ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของจักษุแพทย์และปฏิบัติด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด คือ ล้างมือก่อนใส่และถอดเลนส์ เปลี่ยนน้ำยาล้างเลนส์ทุกครั้ง ไม่ใส่นอน และไม่ควรใส่นานเกินวันละ 8-12 ชั่วโมง ในส่วนของการโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่อ้างสรรพคุณเกินจริงในการรักษาหรือป้องกันโรคตา เช่น การกล่าวอ้างว่าสามารถรักษาต้อหินหรือ ทำให้สายตากลับมาเป็นปกติได้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวไม่มีหลักฐานทางวิชาการรองรับและอาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจคลาดเคลื่อนจนละเลยการเข้ารับการตรวจรักษาที่ถูกต้อง การดูแลสุขภาพตาที่ถูกต้องควรปรึกษาจักษุแพทย์ และรับการรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์ ไม่ควรเชื่อถือเพียงคำโฆษณา

นายแพทย์วีรภัทร อุดมวงศ์ จักษุแพทย์ด้านกระจกตา กล่าวเสริมว่า ดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญที่มีความบอบบาง การจะนำสิ่งแปลกปลอมใดๆเข้าไปสัมผัสดวงตา ควรคำนึงถึงความปลอดภัยและทำอย่างระมัดระวัง หากจำเป็นต้องนำสิ่งแปลกปลอมไปสัมผัสกับดวงตา เช่น คอนแทคเลนส์ ควรปรึกษาจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง ในยุคปัจจุบันที่สภาพแวดล้อมรอบตัว เต็มไปด้วยมลภาวะ เช่น ฝุ่น PM 2.5 ทำให้คนส่วนใหญ่มักมีความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับดวงตา เช่น เคืองตาเหมือนมีผงในตา คันตา ตาแดง ตามัวเป็นๆ หายๆ ด้วยความเข้าใจว่าไม่เป็นอะไรมาก ไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ทำให้หลายคนมองหาทางลัด อาหารเสริม หรือสารเหลวนำมาใช้หยอดตา คิดว่าอาการต่างๆดีขึ้นได้ ซึ่งอาจจะได้รับอิทธิพลจากโฆษณาที่เกินความจริง เมื่อมีการซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมาลองใช้ ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจไม่ใช่อย่างที่คาดหวัง ต้องเสียเงินจำนวนมาก และถ้าร้ายกว่านั้นอาจเกิดการบาดเจ็บที่ดวงตา ได้รับผลกระทบและผลเสียอย่างถาวร จะดีกว่าหรือไม่ ถ้าเมื่อเกิดความผิดปกติของดวงตา แล้วรีบพบจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการตรวจตาและรับคำแนะนำในการดูแลรักษาสุขภาพดวงตาที่ถูกวิธี ได้รับยาหยอดตาหรือ น้ำตาเทียม ที่มีการรับรองว่าได้มาตรฐาน ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการรักษาดวงตาของเรา และทำให้ดวงตากลับมาใช้งานได้อย่างดีปกติและปลอดภัย หากมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพตา แนะนำพบจักษุแพทย์ หลีกเลี่ยงการซื้ออาหารเสริม หรือนำสารใดๆที่ไม่ได้รับการรับรองมาหยอดตา เพื่อสุขภาพดวงตาที่ดี ด้วยความห่วงใยจาก รพ เมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง)
***************************************************
#ไม่หลงเชื่อผลิตภัณฑ์เกินจริง #การดูแลสุขภาพดวงตา #ตรวจเช็กสม่ำเสมอ #ใช้คอนแทคเลนส์อย่างถูกวิธี -ขอขอบคุณ-
30 ตุลาคม 2568

นายแพทย์วีรภัทร อุดมวงศ์
จักษุแพทย์ด้านกระจกตา

25/10/2025

07/10/2025

📣 ประกาศรับสมัครงาน ศูนย์โรคตา โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) สาขาสุขุมวิท 🏥

🗓️ รับสมัครตั้งแต่วันที่ 14 - 22 ตุลาคม 2568

ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร 📍

• เภสัชกร 1 อัตรา
• พยาบาลวิชาชีพ 2 อัตรา
• ผู้ช่วยพยาบาล 1 อัตรา
• พนักงานช่วยเหลือคนไข้ 1 อัตรา
• นักจัดการงานทั่วไป 1 อัตรา

💌 ยื่นใบสมัครพร้อมหลักฐานได้ด้วยตนเอง ในวันและเวลาราชการ

💌 กรอกใบสมัครพร้อมแนบหลักฐาน และสแกนเอกสารส่งมาที่ E-mail : hr.metta123@gmail.com

💌 กรอกใบสมัครพร้อมแนบหลักฐาน ส่งไปรษณีย์แบบด่วนพิเศษ (EMS) มาที่งานทรัพยากรบุคคล (สมัครงาน) โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) 52 หมู่ 2 ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210

03/10/2025

📢 ประกาศวันหยุด ประจำเดือนตุลาคม 2568
📌 หยุดทั้งหมด 2 วัน

🗓️ วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม 2568
✨ วันนวมินทรมหาราช

🗓️ วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม 2568
👑 วันปิยมหาราช

01/10/2025

มือถือกับดวงตาเด็กๆ พ่อแม่ควรรู้ก่อนให้ลูกใช้

กรมการแพทย์โดย รพ.เมตตาประชารักษ์(วัดไร่ขิง) มีความห่วงใยสายตาของลูกน้อยจากคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟนที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น อีกทั้งยังนิยมใช้เป็นสื่อหนึ่งในการเพิ่มทักษะต่างๆให้แก่เด็ก การใช้อุปกรณ์เหล่านี้มีข้อแนะนำเพื่อให้เด็กไม่เกิดปัญหาที่จะตามมาโดยเฉพาะปัญหาสุขภาพของดวงตา เช่น อาการปวดศีรษะ ปวดตา ตาแห้ง เคืองตา และตามัว สายตาสั้นก่อนวัย รวมถึงภาวะ จิตสังคมขาดสายใยผูกพันระหว่างคนในครอบครัวได้

นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ในยุคดิจิทัลโทรศัพท์มือถือไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสื่อสาร แต่ยังกลายเป็นสิ่งใกล้ตัวของเด็กๆ หลายครอบครัว ไม่ว่าจะใช้เพื่อความบันเทิง การเรียนรู้ หรือการติดต่อกับคนรอบข้าง อย่างไรก็ตาม การให้เด็กเล็กใช้มือถือนั้นมีทั้ง ผลดี และ ผลเสีย โดย เฉพาะต่อ “ดวงตา” ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญที่กำลังพัฒนา หากปล่อยให้ใช้เกินความเหมาะสม ย่อมส่งผลเสียต่อสายตา สมาธิ การนอน และพัฒนาการทางร่างกาย การสร้างสมดุลด้วยการจำกัดเวลา พักสายตา และส่งเสริมการเล่นกลางแจ้ง จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับสายตาและสุขภาพของเด็กน้อยในยุคดิจิทัล

นายแพทย์กิตติวัฒน์ มะโนจันทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวเพิ่มว่า เด็กเป็นกลุ่มเป้าหมายหนึ่งที่สำคัญจากการที่สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตใช้งานไม่ยากมีซอฟต์แวร์น่าใช้ดึงดูดการใช้งาน นอกจากนี้ผู้ปกครองยังนิยมใช้เป็นสื่อหนึ่งในการเพิ่มทักษะต่างๆ ให้แก่เด็กโดยอาจขาดความรู้เท่าถึงต่อโทษที่จะตามมาโดยเฉพาะปัญหาสุขภาพตาพบว่าเด็กมักใช้เวลาวันละประมาณ 7 ชั่วโมงไปกับสื่อ เอนเตอร์เทน อีกด้านของสติปัญญาการพัฒนาทางอารมณ์และสังคมพบว่าการใช้สื่อต่างๆ เป็นเวลานานส่งผลต่อความตั้งใจเรียนที่โรงเรียนลดลง พฤติกรรมการกินการนอนผิดไปและเกิดโรคอ้วนตามมา ปัญหาทางตาที่พบจากการใช้สื่ออุปกรณ์เหล่านี้ได้แก่ปวดศีรษะ ปวดตา ตาแห้ง เคืองตา ตามัว และเสี่ยงสายตาสั้นก่อนเวลาอันควร

แพทย์หญิงจิราภา ทรงเพ็ชร์มงคล แพทย์เฉพาะทางด้านจักษุวิทยาเด็กและตาเข กล่าวเสริมว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องของแสงสีฟ้าที่พบได้จากมือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์แสงสีฟ้ามีความกระเจิงแสงทำให้เกิดความไม่สบายตาในการมองและอาจมีผลต่อคุณภาพการนอนหลับ ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยรองรับว่า แสงสีฟ้าก่อโรคต่อดวงตาชัดเจน เพราะฉะนั้นแว่นตาตัดแสงสีฟ้า อาจจะมีประโยชน์ในแง่ช่วยให้มองภาพสบายตามากขึ้น มีคำถามว่าลูกน้อยควรใช้เวลาหน้าจอเท่าไรต่อวัน จักษุแพทย์แนะว่าหากเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 2 ปี ไม่ควรใช้เวลาหน้าจอเลย และในช่วงอายุ 2-5 ปี ใช้เวลาหน้าจอไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน และในช่วงอายุ 6 ปี ขึ้นไปควรใช้เวลาหน้าจอไม่ควรเกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน สำหรับคำแนะนำในการดูแลลูกน้อยในขณะใช้หน้าจอ คือ 1). ควรพักสายตาเมื่อลูกน้อยใช้หน้าจอ โดยใช้หลัก 20-20-20 โดยพักจากหน้าจอทุก 20 นาที พักสายตาโดยมองวัตถุที่ไกลออกไปประมาณ 20 ฟุต และพักเป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาที 2). ปรับแสงสว่างให้เพียงพอ วางหน้าจอคอมพิวเตอร์ ห่างประมาณ 25 นิ้ว ปรับหน้าจอความเข้ม ความสว่างให้พอดี 3).การใช้น้ำตาเทียม อาจมีประโยชน์สำหรับกรณีมีอาการตาแห้งร่วมด้วย และ4). ควรพบจักษุแพทย์ หาก ลูกน้อยมีอาการกระพริบตาบ่อย มองภาพไม่ชัด มีตาเข ปวดศีรษะ แต่ทั้งนี้เพื่อสุขภาพกายที่ดี ลดเสี่ยงสายตาสั้นและเพื่อให้เกิดการพัฒนาของสติปัญญา ทางจิตใจ อารมณ์ และสังคมแนะนำให้เด็กๆ มีกิจกรรมกลางแจ้งหรืออ่านหนังสือ และที่สำคัญสมองเด็กมีพัฒนาการที่เร็วมากในช่วงอายุ 2-3 ขวบ ปีแรก จึงควรให้เด็กๆ ได้เรียนรู้จากการมีปฎิสัมพันธ์กับพ่อแม่ดีกว่าจอคอมพิวเตอร์ วิธีสังเกตถ้าเด็กในปกครองมีอาการ เช่น อาจจะบ่นปวดตาหรือแสบตา ตาแดง กระพริบตาบ่อย หรือเอามือขยี้ตาควรรีบพบจักษุแพทย์ทันที
***************************************************
# รพ.เมตตา (วัดไร่ขิง) #สายตาลูกน้อย #จอคอม แท็บเล็ต มือถือ #ปวดศีรษะปวดตา ตาแห้ง ขยี้ตา -ขอขอบคุณ-
1 ตุลาคม 2568

แพทย์หญิงจิราภา ทรงเพ็ชร์มงคล
แพทย์เฉพาะทางด้านจักษุวิทยาเด็กและตาเด็ก