30/10/2014
#การรักษาเส้นเลือดขอดและเส้นเลือดฝอยที่ขา
โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง แพทย์หญิงวลัยลักษณ์
#สาเหตุของเส้นเลือดขอดและเส้นเลือดฝอยที่ขา เส้นเลือดขอดและเส้นเลือดฝอยที่ขา เกิดจากการที่มีความดันในเส้นเลือดฝอยบริเวณนั้นๆสูงเป็นเวลานาน ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของลิ้น (Valve) ของเส้นเลือดนั้น มีผลทำให้เส้นเลือดขยายตัว พองออก จนเห็นเป็นเส้นนูน, ฝอย หรือโป่งพองเขียวๆ อาจมีจำนวนมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความรุนแรงที่เป็น มักจะพบในอาชีพที่ต้องยืนหรือนั่งติดต่อกันเป็นเวลานาน คนอ้วน เนื้องอกในช่องท้อง การตั้งครรภ์ นอกจากนี้ฮอร์โมน และกรรมพันธุ์ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดเส้นเลือดขอดและเส้นเลือดฝอยที่ขาได้
#วิธีการรักษาเส้นเลือดขอดและเส้นเลือดฝอยที่ขา
เส้นเลือดฝอยและเส้นเลือดขอดที่ขาขนาดไม่ใหญ่สามารถรักษาได้ด้วยวิธี #เป็นการฉีดยาเข้าไปในเส้นเลือดที่ผิดปกติ โดยตัวยาที่ฉีดเข้าไปจะไปทำลายเส้นเลือดที่มีปัญหา การรักษาต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ย 3-4 ครั้งต่อข้าง แต่ละครั้งห่างกัน 1.5 - 2 เดือน ยกเว้นในคนไข้ที่เป็นมากอาจจะต้อง ฉีดจำนวนครั้งมากกว่านี้ (กรณีที่เป็นเส้นเลือดขอดขนาดใหญ่จำเป็นต้องรักษาโดยวิธีการผ่าตัด) พบอาการข้างเคียงน้อยมาก ขึ้นอยู่กับชนิดและความเข้มข้นของยา เช่นอาจมีอาการคัน, ปวดบริเวณที่ฉีด, บางคนมีรอยคล้ำตามแนวเส้นเลือดที่ฉีด ซึ่งจะค่อยๆเลือนหายไปเอง
#ข้อแนะนำหลังการฉีดยาเพื่อรักษาเส้นเลือดขอด
• สวมถุงน่องสำหรับเส้นเลือดขอดพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของยาฉีดให้ได้ผลดี และควรสวมติดต่อกันอย่างน้อย 5-7 วัน (ยกเว้นกรณีอาบน้ำให้ถอดออกได้)
• ควรเดินอย่างต่อเนื่องประมาณ 30 นาทีทันทีหลังการฉีดยาเพื่อให้ยากระจายตัวได้ดี
• รับการรักษาเส้นเลือดขอดอย่างต่อเนื่อง
#การรักษาเส้นเลือดขอดและเส้นเลือดฝอยที่ขา #ควรได้รับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง (Dermatologist)
• การรักษาเส้นเลือดขอดที่ขา ไม่ใช่การรักษาเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยลดอาการต่างๆของโรคได้เช่น ปวดเมื่อย, ตะคริว, เหน็บชา หรือรู้สึกหนัก ๆ ที่ขา ปวดกล้ามเนื้อในเวลากลางคืน, อาการบวมของขารวมทั้งผื่นคันเรื้อรัง และรอยดำที่บริเวณที่เป็น เป็นต้น เพื่อป้องกันการเกิดเส้นเลือดขอดซ้ำ ควรป้องกันและหลีกเลี่ยงหรืดลดปัจจัยที่กระตุ้นการเกิดเส้นเลือดขอดโดยการใส่ถุ่งนองสำหรับเส้นเลือดขอดในการณีที่ต้องยืนหรือนั่งเป็นระยะเวลานาน