IQดี Eqเด่น

IQดี Eqเด่น เพจนี้ให้คำปรึกษาทางด้านสมอง สมาธิสั้น โทร 096-5501185

รู้ ไหม!  กิน อย่างไร ให้ "สมอง" สตรองโลดแล่นแจ่มใส
27/10/2018

รู้ ไหม! กิน อย่างไร ให้ "สมอง" สตรองโลดแล่นแจ่มใส

สมองดีเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ เพราะสมองมีบทบาทต่อการทำงานของอวัยวะ และระบบอื่นๆ ในร่างกาย เช่น ระบบประส....

EF ทักษะการคิดเพื่อชีวิตที่สำเร็จEF (Executive Functions) เป็นกระบวนการทางความคิด (Mental process) ในสมองส่วนหน้า ที่เกี...
26/10/2018

EF ทักษะการคิดเพื่อชีวิตที่สำเร็จ

EF (Executive Functions) เป็นกระบวนการทางความคิด (Mental process) ในสมองส่วนหน้า ที่เกี่ยวข้องกับการคิด ความรู้สึก และการกระทำ เช่น การยั้งใจคิดไตร่ตรอง การควบคุมอารมณ์ การยืดหยุ่นทางความคิด การตั้งเป้าหมาย วางแผน ความมุ่งมั่น การจดจำและเรียกใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดลำดับความสำคัญของเรื่องต่างๆ และการทำสิ่งต่างๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอนจนบรรลุความสำเร็จ ซึ่งเป็นทักษะที่มนุษย์เราทุกคนต้องใช้ มีความสำคัญยิ่งต่อทั้งความสำเร็จในการเรียน การทำงาน รวมทั้งการมีชีวิตครอบครัว ทักษะ EF นี้นักวิชาการระดับโลกชี้แล้วว่า สำคัญกว่า IQ

ทั้งนี้ มีงานวิจัยชัดเจนว่า ช่วงวัย 3-6 ปีนี้ เป็นช่วงเวลาทองของชีวิตในการพัฒนาทักษะ EF ให้กับเด็ก เพราะสมองจะมีการพัฒนาทักษะ EF ได้ดีที่สุดในช่วงเวลานี้ พ้นจากช่วงเวลานี้ไปถึงวัยเรียน วัยรุ่น หรือวัยผู้ใหญ่ตอนต้น แม้จะยังพัฒนาได้ แต่ก็จะไม่ได้ดีเท่ากับช่วงปฐมวัย

Executive Functions (EF) ประกอบด้วยทักษะ 9 ด้าน ประกอบด้วย

1.Working memory ความจำที่นำมาใช้งาน ความสามารถในการเก็บข้อมูล ประมวล และดึงข้อมูลที่เก็บในคลังสมองของเราออกมาใช้ตามสถานการณ์ที่ต้องการ

2.Inhibitory Control การยั้งคิด และควบคุมแรงปรารถนาของตนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม จนสามารถหยุดยั้งพฤติกรรมได้ในกาลเทศะที่สมควร เด็กที่ขาดความยับยั้งชั่งใจ ก็เหมือน “รถที่ขาดเบรก”

3.Shift หรือ Cognitive Flexibility การยืดหยุ่นความคิด สามารถปรับเปลี่ยนความคิดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปยืดหยุ่นพลิกแพลงเป็น เห็นทางออกใหม่ๆ และคิดนอกกรอบ”ได้

4.Focus / Attention การใส่ใจจดจ่อมุ่งความสนใจอยู่กับสิ่งที่ทำอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาหนึ่งๆ โดยไม่วอกแวก

5.Emotional Control การควบคุมอารมณ์ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม จัดการกับความเครียดความเหงาได้ มีอารมณ์มั่นคง และแสดงออกแบบที่ไม่รบกวนผู้อื่น

6.Planning and Organizing การวางแผนและการจัดระบบดำเนินการเริ่มตั้งแต่การตั้งเป้าหมาย การเห็นภาพรวม จัดลำดับความสำคัญ จัดระบบโครงสร้าง จนถึงการแตกเป้าหมายให้เป็นขั้นตอน

7.Self -Monitoring การรู้จักประเมินตนเอง รวมถึงการตรวจสอบการงานเพื่อหาจุดบกพร่อง และรู้ตัวว่ากำลังทำอะไร ได้ผลอย่างไร

8.Initiating การริเริ่มและลงมือทำงานตามที่คิดเมื่อคิดแล้วก็ลงมือทำ ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง

9. Goal-Directed Persistence ความพากเพียรมุ่งสู่เป้าหมาย เมื่อตั้งใจและลงมือทำแล้ว มีความมุ่งมั่นบากบั่น ไม่ว่าจะมีอุปสรรคใดๆก็พร้อมฝ่าฟันจนถึงความสำเร็จ

😍 สถาบันอาร์แอลจี (รักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป) ในฐานะ Content Experts ผู้เชี่ยวชาญเนื้อหาวิชาการ และเป็นผู้นำในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ที่เกี่ยวข้องกับเด็ก สตรี ครอบครัว ผู้สูงวัย ชุมชนและสังคม ได้ทำการจัดการความรู้เรื่อง “Executive Functions (EF)-ทักษะการคิดเพื่อชีวิตที่สำเร็จ” อันเป็นความรู้ที่วงการพัฒนาการเด็กในต่างประเทศกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งในประเทศไทยมี รศ.ดร.นวลจันทร์ จุฑาภักดีกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาและคณะจากศูนย์วิจัยประสาทวิทยาศาสตร์ สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้ศึกษาวิจัยและรวบรวมงานวิจัยจากต่างประเทศ และสถาบันอาร์แอลจีได้จัดการความรู้และพัฒนาให้ความรู้ EF เป็นที่เข้าใจง่าย โดยมุ่งหวังให้พ่อแม่และบุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะปฐมวัยศึกษาสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาเด็กได้อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยมุ่งมั่นว่า EF จะเป็นองค์ความรู้หนึ่งที่จะร่วมส่งเสริมการปฏิรูปการศึกษาของไทยที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้

🎗ด้วยความปรารถนาดีจาก "อเลอไทด์ ALERTIDE"
บำรุงสมองและระบบประสาท ช่วยฟื้นฟูสมองและบำรุงระบบประสาท และช่วยเพิ่มความจำ เสริมสร้างสมาธิ และความสามารถในการเรียนรู้

👉โทร คุณสา 096-5501185

เพื่อปรึกษารายละเอียด

นอนงีบกี่นาที มีผลต่อสมองอย่างไร ?รู้ไหมว่าการนอนด้วยระยะเวลาที่แตกต่างกัน จะมีผลต่อสมองต่างกันไปด้วย มาดูกันว่าคุณควรจะ...
26/10/2018

นอนงีบกี่นาที มีผลต่อสมองอย่างไร ?

รู้ไหมว่าการนอนด้วยระยะเวลาที่แตกต่างกัน จะมีผลต่อสมองต่างกันไปด้วย มาดูกันว่าคุณควรจะนอนนานแค่ไหน กับสถานการณ์ยังไงบ้าง
Sleep Expert หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการพักผ่อนนอนหลับ เปิดเผยว่า ระยะเวลาที่เราหลับ (หรือใช้คำว่างีบ) นั้น จะมีผลกับสมองและร่างกายของคุณแตกต่างกันออกไป ในบางกรณี คุณอาจจะไม่จำเป็นต้องฝืนตื่น เพราะอาจจะงีบแค่ไม่กี่นาทีก็ได้ หรือในบางกรณี คุณอาจจะต้องการนอนหลับลึก จึงจะเหมาะสมกับกิจกรรมหรือสถานการณ์ตรงหน้า

มาเริ่มที่การงีบ แบบ 10 – 20 นาที หรือที่เรียกว่า Power nap จะเหมาะสำหรับการสร้างควาสดชื่นและเพิ่มพลังงานในกรณ๊ที่คุณกำลังทำกิจกรรมที่ใช้แรงมากกว่าใช้สมองจดจำ เช่นการงีบรอเวลาไปเที่ยว หรือการนอนรอแฟนกลับบ้าน. ระยะเวลา 10 – 20 นาทีหรือ Power nap นั้นจะทำให้คุณหลับอยู่ในขั้นเบาสุดของ non-rapid eye movement (NREM) เหมือนการกดปุ่ม Pause ขณะเล่นเกมส์ ทำให้คุณสามารถตื่นขึ้นมาทำกิจกรรมนั้นๆต่อได้ในทันที

30 นาที เป็นระยะเวลาที่ไม่ค่อยจะดีนัก เพราะผลการวิจัยบอกว่าการนอนด้วยเวลาเท่านี้ จะทำให้คุณมีอาการง่วงซึม ปวดหัว เหมือนคน hang ตื่นนอน รู้สึกมึนๆ งงๆ และลุกขึ้นยาก กว่าคุณจะรู้สึกหายง่วงจากการนอน ลองนึกภาพตอนคุณหลับบนรถตู้ หรือรถเมล์ แล้วตื่นตอนถึงที่หมายซิครับ

60 นาที เป็นการนอนที่จะส่งผลดีต่อความจำหลังจากตื่นขึ้นมา จะช่วยให้สมองคุณปลอดโปร่งในระดับนึง ทำให้สามารถจดจำข้อมูลต่างๆได้ดีขึ้น การนอนด้วยเวลาเท่านี้จะทำให้สมองอยู่ในขั้น slow-wave sleep คือหลับลึกในระดับนึงนั่นเอง แต่ข้อเสียก็คือการนอนด้วยเวลาเท่านี้ จะทำให้คุณงัวเงียมาก และตื่นยากพอสมควร เหมาะสำหรับพักผ่อนในขณะที่คุณโหมงานหนักอะไรซักอย่างอยู่ เช่นทำงานส่งลูกค้าแบบหามรุ่งหามค่ำ การอ่านหนังสือสอบข้ามคืน

90 นาที เป็นระยะเวลาการนอนที่สมองจะได้พักผ่อนอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด และมีการเข้าสู่ขั้นตอนของการฝัน ช่วยให้สมองได้พักเต็มที่ และหลังจากตื่นจะมีอารมณ์ดีขึ้น มีความจำที่แม่นยำขึ้น และจินตนาการสร้างสรรค์ทำงานได้เต็มที่ ความสดชื่นจากการนอนด้วยระยะเวลาเท่านี้ จะช่วยให้คุณไม่รู้สึกงัวเงีย เหงาหงอยครับ

ข้อมูลจาก : Unlockmen

“สมองของมนุษย์ถูกใช้เพียงแค่ 5-10% เท่านั้น”ความเชื่อผิดๆ ที่ยังคงมีคนบางคนหลงเชื่ออยู่   #อเลอไทด์หลายคนอาจเคยได้ยินมาว...
26/10/2018

“สมองของมนุษย์ถูกใช้เพียงแค่ 5-10% เท่านั้น”
ความเชื่อผิดๆ ที่ยังคงมีคนบางคนหลงเชื่ออยู่
#อเลอไทด์
หลายคนอาจเคยได้ยินมาว่า เราใช้สมองของเราเพียงแค่ 5-10% เท่านั้น และยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเราสามารถถึงพลังที่หลับใหลของสมองให้ตื่นขึ้นมาถึง 100% ล่ะก็ เราจะมีความสามารถราวกับเป็นซุปเปอร์ฮีโร่เลยทีเดียว แต่ในความเป็นจริงสมองของเราถูกใช้งานทุกส่วนครบ 100% และสมองส่วนใหญ่นั้นทำงานอยู่เกือบตลอดเวลา ซึ่งการกระทำแต่ละอย่างก็จะเกี่ยวข้องกับสมองในส่วนที่แตกต่างกันไปตามหน้าที่

ที่มา : brightside, petmaya

23/10/2018

เด็กๆทานได้ผู้ใหญ่ทานดี

สมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactivity Disorder: ADHD) คือ โรคขาดสมาธิในการจดจ่อตั้งใจทำสิ่งใดให้สำเร็จ ขี้ลืม ไม่ใส...
21/10/2018

สมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactivity Disorder: ADHD) คือ โรคขาดสมาธิในการจดจ่อตั้งใจทำสิ่งใดให้สำเร็จ ขี้ลืม ไม่ใส่ใจคำสั่ง อยู่ไม่นิ่ง ไม่ชอบอยู่กับที่ ไม่อดทน หุนหันพลันแล่น โดยผู้ป่วยอาจเริ่มมีอาการตั้งแต่ช่วงอายุ 3-6 ปี โดยอาการจะแสดงออกอย่างชัดเจนและวินิจฉัยได้ในช่วงอายุ 6-12 ปี เนื่องจากเป็นช่วงที่ต้องเริ่มเข้าโรงเรียน ต้องทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น เริ่มสื่อสารและเข้าสังคม

สมาธิสั้น

ด้านสถิติประเทศไทย จากการศึกษากลุ่มตัวอย่างเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-5 จำนวนกว่า 7,800 คน ในปี 2555 พบว่าความชุกของเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นอยู่ที่ 8.1% โดยพบมากที่สุดในเด็กระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และพบในเด็กชายมากกว่าเด็กหญิงในอัตราส่วน 3:1

ในปัจจุบัน ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการเกิดโรคสมาธิสั้น และแม้ว่าเด็กบางคนอาจมีพฤติกรรมน่าสงสัยที่เข้าข่ายโรคสมาธิสั้น แต่อาจเป็นเพียงพัฒนาการตามช่วงวัยเท่านั้น ซึ่งเด็กที่มีพฤติกรรมตามวัย อย่างซุกซน อยู่ไม่นิ่ง ไม่เชื่อฟัง หากไม่ได้มีอาการตามเกณฑ์วินิจฉัยของโรคสมาธิสั้น แสดงว่าเด็กไม่ได้เป็นโรคสมาธิสั้น อาการจะดีขึ้นหรือหายไปเมื่อโตขึ้นหรือเมื่อเวลาผ่านไป ในขณะที่อาการของเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นจะยังคงอยู่ต่อไปจนโตเป็นผู้ใหญ่ และเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาหรือดูแลอย่างเหมาะสม

IQ คืออะไรIQ ย่อมาจาก Intellingence Quotient ซึ่งถูกคิดค้นขึ้นโดย LM Terman เมื่อปี 1916 โดยหมายถึง ความฉลาดทางเชาว์ปัญญ...
20/10/2018

IQ คืออะไร
IQ ย่อมาจาก Intellingence Quotient ซึ่งถูกคิดค้นขึ้นโดย LM Terman เมื่อปี 1916 โดยหมายถึง ความฉลาดทางเชาว์ปัญญา โดยเฉพาะในเรื่องการคิด ความจำการใช้เหตุผล การคำนวณ และการเชื่อมโยง ซึ่งเป็นศักยภาพหรือความสามารถทางสมองที่แต่ละบุคคลมีติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดโดยถูกกำหนดจากพันธุกรรม จึงสามารถเปลี่ยนแปลงได้ยาก

ที่อยู่

Bangkok

เบอร์โทรศัพท์

0965501185

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ IQดี Eqเด่นผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

ปรึกษาเกี่ยวกับสมองฟรี

สมอง คืออวัยวะสำคัญในสัตว์หลายชนิดตามลักษณะทางกายวิภาค หรือที่เรียกว่า encephalon จัดว่าเป็นส่วนกลางของระบบประสาท คำว่า สมอง นั้นส่วนใหญ่จะเรียกระบบประสาทบริเวณหัวของสัตว์มีกระดูกสันหลัง คำนี้บางทีก็ใช้เรียกอวัยวะในระบบประสาทบริเวณหัวของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอีกด้วย

สมองมีหน้าที่ควบคุมและสั่งการการเคลื่อนไหว, พฤติกรรม และภาวะธำรงดุล (homeostasis) เช่น การเต้นของหัวใจ, ความดันโลหิต, สมดุลของเหลวในร่างกาย และอุณหภูมิ เป็นต้น หน้าที่ของสมองยังมีเกี่ยวข้องกับการรู้ (cognition) อารมณ์ ความจำ การเรียนรู้การเคลื่อนไหว (motor learning) และความสามารถอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการเรียนรู้

สมองประกอบด้วยเซลล์สองชนิด คือ เซลล์ประสาท และเซลล์เกลีย เกลียมีหน้าที่ในการดูแลและปกป้องนิวรอน นิวรอนหรือเซลล์ประสาทเป็นเซลล์หลักที่ทำหน้าที่ส่งข้อมูลในรูปแบบของสัญญาณไฟฟ้าที่เรียกว่า ศักยะงาน (action potential) การติดต่อระหว่างนิวรอนนั้นเกิดขึ้นได้โดยการหลั่งของสารเคมีชนิดต่าง ๆ ที่รวมเรียกว่า สารสื่อประสาท (neurotransmitter) ข้ามบริเวณระหว่างนิวรอนสองตัวที่เรียกว่า ไซแนปส์ สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น แมลงต่าง ๆ ก็มีนิวรอนอยู่นับล้านในสมอง สัตว์มีกระดูกสันหลังขนาดใหญ่มักจะมีนิวรอนมากกว่าหนึ่งร้อยล้านตัวในสมอง สมองของมนุษย์นั้นมีความพิเศษกว่าสัตว์ตรงที่ว่ามีความซับซ้อนและใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับขนาดตัวของมนุษย์