Yotsineeclinic Thailand

Yotsineeclinic Thailand ความสวยเริ่มได้ที่ ยศสินีคลินิก

ดึงผมจนผมร่วง อาการที่ดูเหมือนธรรมดาซึ่งหลายคนอาจเคยมีอาการเหล่านี้จนควบคุมตัวเองไม่ได้ อย่าชะล่าใจไป เพราะอาจเป็นสัญญาณ...
13/05/2024

ดึงผมจนผมร่วง อาการที่ดูเหมือนธรรมดาซึ่งหลายคนอาจเคยมีอาการเหล่านี้จนควบคุมตัวเองไม่ได้ อย่าชะล่าใจไป เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรค Trichotillomania ที่อันตรายกว่าที่คิด

แนวทางการรักษาผมร่วง ผมบาง ที่ไหนดี กดLinkด้านล่างได้เลยค่ะ
https://www.yotsineeclinic.net/รักษาผมร่วง-ผมบาง

Trichotillomania หรือ โรคดึงผม เป็นโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยมีพฤติกรรมดึงผมตัวเองออกโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือแม้กระทั่งหัวล้านได้ โดยอาการนี้ ผู้ป่วยมักรู้ตัวว่าการดึงผมนั้นไม่ดี แต่ก็อดไม่ได้ที่จะดึง อาจดึงผมจนหนังศีรษะล้านเป็นจุดๆ รู้สึกอาย รู้สึกผิด และเกิดอาการวิตกกังวลขึ้นมาพร้อมๆ กัน และที่สำคัญ โรค Trichotillomania สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย จึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งภาวะที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก

สาเหตุของโรค Trichotillomania นั้นยังไม่มีการเปิดเผยออกมาอย่างแน่ชัด แต่เชื่อกันว่าเกิดจากปัจจัยหลายๆ อย่างร่วมกัน เช่น
1.พันธุกรรม
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยทางจิตเวชส่วนมาก ก็มักจะได้รับผลพวงมาจากพันธุกรรม ซึ่งถ้าหากพ่อ แม่ หรือคนในครอบครัวมีประวัติการเป็นโรค Trichotillomania มาก่อน ก็ส่งผลให้ผู้ป่วยเองมีพฤติกรรมการดึงผมตัวเองจนผมร่วงได้
2.ปัจจัยทางจิต
ผู้ป่วยโรค Trichotillomania มักมีปัญหาทางจิตอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล หรือโรคย้ำคิดย้ำทำ ไม่พึงพอใจในภาพลักษณ์ของตนเอง หรือเกิดจากความเครียด วิตกกังวล หรือเหตุการณ์ทางอารมณ์ที่รุนแรง อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการดังกล่าวได้
3.พฤติกรรม
การดึงผมอาจเริ่มต้นจากพฤติกรรมการดึงผมเล่น หรือการกัดเล็บ พอเมื่อเวลาผ่านไป พฤติกรรมเหล่านี้ก็กลับกลายเป็นพฤติกรรมที่ไม่สามารถควบคุมได้ และอาจทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม สาเหตุต่างๆ ที่ได้กล่าวไปข้างต้นนั้นเป็นเพียงข้อสันนิษฐานของแพทย์เท่านั้น เพราะในปัจจุบันยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้อย่างแน่ชัดว่าเกิดจากอะไรกันแน่ แต่คาดว่าเป็นผลมาจากปัจจัยในเรื่องของความผิดปกติทางอารมณ์และจิตใจดังที่กล่าวไปข้างต้น

โรค Trichotillomania มีอาการเบื้องต้นอย่างไร?
-ดึงผมตัวเองออกบ่อยๆ จนส่งผลต่อหนังศีรษะ ทำให้ผมร่วงเป็นหย่อมๆ
-รู้สึกอยากดึงผมจนอดไม่ได้
-พยายามหยุดดึงผม แต่ทำไม่ได้
-รู้สึกอาย รู้สึกผิด และวิตกกังวล ไม่กล้าที่จะพบแพทย์
-หลีกเลี่ยงการพบปะผู้คน ไม่กล้าเข้าสังคม เนื่องจากอาย
ในเรื่องของรูปลักษณ์
-รู้สึกพึงพอใจหรือโล่งใจหลังจากดึงผม
-พยายามซ่อนพฤติกรรมดึงผมจากผู้อื่น
-รู้สึกละอายหรือรู้สึกผิดเกี่ยวกับพฤติกรรมดึงผม

อันตรายจากโรค Trichotillomania
การที่เราดึงผมตนเองบ่อยๆ อาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อที่หนังศีรษะหรือผิวหนังบริเวณที่ดึงออกมาได้ และอาจทำให้สูญเสียผมในบริเวณนั้นอย่างถาวร ไม่สามารถเกิดใหม่ขึ้นมาได้อีก และถึงแม้ว่าโรค Trichotillomania จะไม่ได้ส่งผลอันตรายอะไรต่อร่างกายมากนัก แต่มักจะมีภาวะแทรกซ้อนที่ตามมาได้ เช่น ผู้ป่วยมักจะพยายามหลีกเลี่ยงการเข้าสังคมหรือพบปะผู้คน เพื่อปกปิดบริเวณผมที่ร่วงเป็นหย่อมๆ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาพลักษณ์ บุคลิก และการเข้าสังคม ส่งผลต่อความสัมพันธ์กับผู้อื่นและหน้าที่การงานของตนเองด้วย

วิธีการรักษาปัญหาผมร่วง ปัญหาหนังศีรษะ จากโรค Trichotillomania
รู้หรือไม่ว่าปัญหาหนังศีรษะหรือผมร่วงที่เกิดจากพฤติกรรมการดึงผมบ่อยๆนั้น หากมีการดึงผมของตนเองอย่างต่อเนื่องผมที่หลุดร่วงออกไปเป็นหย่อมๆ จะไม่สามารถกลับมาเกิดขึ้นมาได้อีก นั่นจึงทำให้หนังศีรษะของเราดูล้าน และบางลงมากกว่าเดิม ซึ่งแนวทางในการรักษาที่ดีที่สุดคือ การรักษาจากทางคลินิกรักษาผมร่วงโดยตรง เนื่องจากทางคลินิกจะใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในการรักษาที่ดีกว่าการรักษาด้วยยาต่างๆ

ที่ ยศสินี คลินิก เป็นคลินิกรักษาผมร่วง ที่มีเครื่องมือและเทคโนโลยีในการรักษาผมร่วงโดยเฉพาะ โดยทำการตรวจสอบสภาพหนังศีรษะของคุณอย่างละเอียด เพื่อการรักษาผมบาง ผมร่วงได้อย่างตรงจุด โดยมีเทคนิคการรักษา 6 ประเภท ได้แก่
1.Dermoscope คือการเครื่องวิเคราะห์ตรวจหาสาเหตุของผมร่วงโดยผ่านกล้องจุลทรรศน์
2.Hair process การฉีดวิตามินฟื้นฟูสภาพเส้นผมเข้าสู่รากผมโดยตรงป้องกันการหลุดร่วงของผม
3.Hair Balancing Hormone การฉีดวิตามินปรับสมดุลย์ฮอร์โมนเข้าสู่รากผมป้องกันการหลุดร่วง
4.Growth Factor Therapy ฉีดเข้าสู่รากผมป้องกันการหลุดร่วง กระตุ้นผมขึ้นใหม่เหมาะสำหรับผมร่วง รักษาผมบาง จากสาเหตุผมร่วงจากกรรมพันธุ์
5.Injection for Hair Loss การฉีดตัวยา รักษาผมร่วงสูตรของแพทย์เฉพาะตามการวินิจฉัยโรคผมร่วงรายบุคคล
6.Light and LASER แสงเลเซอร์ลดการหลุดร่วงของเส้นผมกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตมาที่หนังศีรษะ เพิ่มความแข็งแรงของเซลล์รากผม ได้ผลดีในโรคผมที่ขาดการบำรุงหรือรักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล ได้ผลดีมากหากทำควบคู่กับโปรแกรม Hair process

รักษาปัญหาผมร่วง กับ ยศสินี คลินิกรักษาผมร่วง
ติดต่อเรา
https://www.yotsineeclinic.net/
Phone : +66 (0)2 458 2836
E-mail : yotsineeclinic@gmail.com
Line :

ปัญหาผมร่วง สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่หนึ่งในวิธีแก้ไขที่ดีที่สุด คือการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิต และการรักษาโ...
06/05/2024

ปัญหาผมร่วง สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่หนึ่งในวิธีแก้ไขที่ดีที่สุด คือการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิต และการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง จะทำให้ปัญผมร่วงลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แนวทางการรักษารักษาผมร่วง ที่ไหนดี กด Link ด้านล่างได้เลยค่ะ
https://www.yotsineeclinic.net/รักษาผมร่วง-ผมบาง

ผมร่วง เป็นปัญหาที่พบบ่อยมากไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง โดยอาจเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น กรรมพันธุ์ ความเครียด การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และการขาดสารอาหาร เป็นต้น แม้ว่าผมร่วงนั้นจะไม่ใช่ปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง แต่ก็อาจส่งผลต่อความมั่นใจและคุณภาพชีวิตของผู้ที่กำลังประสบปัญหานี้ได้

หากพูดถึงแนวทางในการรักษา มีหลายวิธีที่สามารถช่วยรับมือกับผมร่วงได้ อย่างการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตอย่างเหมาะสม ก็เป็นหนึ่งในวิธีการรับมือกับปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ ยศสินี คลินิกรักษาผมร่วง จะพาทุกท่านไปดูวิธีการแก้ปัญหาผมร่วง ที่เริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเรากันค่ะ

ปัญหาผมร่วงเกิดจากอะไร
1.กรรมพันธุ์
เรียกได้ว่าเป็นสาเหตุหลักของผมร่วงเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะในเพศชาย ซึ่งมักจะเริ่มมีอาการตั้งแต่อายุยังน้อย และจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น
2.ฮอร์โมน
การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย เช่น สตรีที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือวัยหมดประจำเดือน อาจทำให้เกิดปัญหาผมร่วงได้
3.ความเครียด
ความเครียดทางร่างกายและจิตใจสามารถส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และยังเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผมร่วงได้เช่นกัน
4.เกิดจากโรคบางชนิด
โรคบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์ โรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคมะเร็ง และการติดเชื้อบางชนิด อาจทำให้เกิดปัญหาผมร่วงตามมาได้
5.การใช้ยาบางชนิด
การใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษาโรคมะเร็ง ยารักษาโรคซึมเศร้า และยาคุมกำเนิด ก็มีส่วนที่ทำให้เกิดปัญหาผมร่วงได้ ซึ่งเป็นผลมาจากการออกฤทธิ์ของยานั่นเอง
6.การใช้สารเคมี
การทำผมด้วยความร้อน การใช้สารเคมี ทำสีผม และการดึงรั้งเส้นผมมากเกินไป อาจทำให้เส้นผมเสียหายและหลุดร่วงได้ รวมไปถึงการดูแลเส้นผมอย่างผิดวิธี เข่น การสระผมด้วยน้ำร้อน ก็จะทำให้ผมร่วงได้มากกว่าปกติ แถมยังขาดและแห้งเสียง่ายอีกด้วย

วิธีการแก้ปัญหาผมร่วง ที่สามารถเริ่มต้นได้ด้วยตนเอง
หลายคนที่กำลังประสบพบเจอกับปัญหาผมร่วงอยู่ อาจเกิดความวิตกกังวลมาก จนพยายามหาผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาใช้ แต่สุดท้ายกลับไม่ได้ช่วยอะไรแถมยังทำให้ผมแห้งเสียและร่วงหนักมากกว่าเดิม เพราะยิ่งใช้สารเคมีกับผม ก็จะทำให้เส้นผมอ่อแอลงไปเรื่อยๆ ดังนั้น หากพบปัญหาดังกล่าว ควรเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดำเนินชีวิตของตนเองก่อน โดยสามารถทำได้ 5 วิธี ดังนี้
1.การปรับเปลี่ยนอาหารและโภชนาการให้เหมาะสม
บริโภคอาหารที่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม เช่น โปรตีน ไบโอติน วิตามินบี แร่ธาตุต่างๆ โดยเน้นอาหารประเภทผัก ผลไม้ ธัญพืช ไข่ ปลา นม และเนื้อสัตว์ อีกทั้งยังเป็นการปรับสมดุลภายใน ทำให้ร่างกายได้ฟื้นฟูและได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ ซึ่งก็ส่งผลต่อสุขภาพผมของเราด้วยเช่นกัน
2.การลดความเครียด
ความเครียดทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจนั้นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาผมร่วง ดังนั้นการจัดการความเครียดจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำสมาธิ และปรับเปลี่ยนวิธีคิดในแง่บวก จะช่วยลดความเครียดได้
3.หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนและสารเคมีกับเส้นผม
การใช้ความร้อนสูงจากเครื่องหนีบผม เครื่องม้วนผม หรือการไดร์ผมยาวนานเกินไป รวมถึงการย้อมและการทำสารเคมีกับเส้นผมมากเกินไป จะทำให้เส้นผมเสียหายและหลุดร่วงได้ นอกจากนี้ การดูแลเส้นผมแบบผิดๆ เช่น สระผมด้วยน้ำร้อน หรือหวีผมแรงเกินไป ก็มีส่วนทำให้เส้นผมหลุดร่วงได้ง่ายกว่าเดิมเช่นกัน ดังนั้น ควรสระผมด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ ใช้แปรงหวีผมที่ไม่ทำร้ายเส้นผม หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนและสารเคมีกับเส้นผม และไม่ควรมัดผมเป็นเวลานานจนเกินไป
4.ปรับรูปแบบการนอนหลับให้เหมาะสม
การพักผ่อนน้อย ก็ส่งผลกระทบต่อสุขภาพเส้นผมได้เช่นเดียวกัน การนอนหลับให้เพียงพอประมาณ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน จะช่วยให้ร่างกายสามารถสังเคราะห์โปรตีนได้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองในระหว่างการพักผ่อนด้วย
5.จัดการกับความเครียดจากฮอร์โมน
ความผิดปกติของฮอร์โมนเพศ ฮอร์โมนไทรอยด์ และฮอร์โมนอื่นๆ สามารถนำไปสู่ปัญหาผมร่วงได้ การปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาหรือปรับสมดุลฮอร์โมนจึงเป็นสิ่งจำเป็น

ทางเลือกในการรักษาปัญหาผมร่วงกับคลินิกรักษาผมร่วงโดยแพทย์ด้านเส้นผมโดยเฉพาะที่ ยศสินี คลินิก ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมโดยเฉพาะ เป็นคลินิกรักษาผมร่วง รักษาผมบางที่ดูแลรักษาปัญหาด้านเส้นผมอย่างครบวงจรตั้งแต่การค้นหาสาเหตุ ไปจนถึงปลูกผมใหม่ ด้วยวิธีการที่ได้ผลและทันสมัยที่สุด โดยมีแนวทางการรักษา 6 รูปแบบ ได้แก่
1.Dermoscope คือการเครื่องวิเคราะห์ตรวจหาสาเหตุของผมร่วงโดยผ่านกล้องจุลทรรศน์
2.Hair process การฉีดวิตามินฟื้นฟูสภาพเส้นผมเข้าสู่รากผมโดยตรงป้องกันการหลุดร่วงของผม
3.Hair Balancing Hormone การฉีดวิตามินปรับสมดุลย์ฮอร์โมนเข้าสู่รากผมป้องกันการหลุดร่วง
4.Growth Factor Therapy ฉีดเข้าสู่รากผมป้องกันการหลุดร่วง กระตุ้นผมขึ้นใหม่เหมาะสำหรับผมร่วง รักษาผมบาง จากสาเหตุผมร่วงจากกรรมพันธุ์
5.Injection for Hair Loss การฉีดตัวยา รักษาผมร่วงสูตรของแพทย์เฉพาะตามการวินิจฉัยโรคผมร่วงรายบุคคล
6.Light and LASER แสงเลเซอร์ลดการหลุดร่วงของเส้นผมกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตมาที่หนังศีรษะ เพิ่มความแข็งแรงของเซลล์รากผม ได้ผลดีในโรคผมที่ขาดการบำรุงหรือรักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล ได้ผลดีมากหากทำควบคู่กับโปรแกรม Hair process

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สอดคล้องกับข้อแนะนำข้างต้น ช่วยให้สามารถรับมือกับปัญหาผมร่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงป้องกันการหลุดร่วงของเส้นผมในระยะยาว อย่างไรก็ตาม หากปัญหายังคงดำเนินต่อไป การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถนำไปสู่การรักษาที่ตรงจุดได้มากยิ่งขึ้น

ติดต่อเรา
https://www.yotsineeclinic.net/
Phone : +66 (0)2 458 2836
E-mail : yotsineeclinic@gmail.com
Line :

ปัญหาหลุมสิว นอกจากจะส่งผลเสียต่อใบหน้าแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อจิตใจของเราอีกด้วย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบที่รุนแรง จึงต้องมี...
05/04/2024

ปัญหาหลุมสิว นอกจากจะส่งผลเสียต่อใบหน้าแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อจิตใจของเราอีกด้วย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบที่รุนแรง จึงต้องมีวิธีการรักษาหลุมสิวอย่างถูกวิธี
แนวทางรักษาหลุมสิว ที่ไหนดี กด Link ด้านล่างได้เลยค่ะ
https://www.yotsineeclinic.net/รักษาหลุมสิว

ผลกระทบจากปัญหาสิวและหลุมสิว เรียกได้ว่ามีความรุนแรงมากกว่าที่เราคาดคิด เพราะนอกจากจะส่งผลเสียต่อใบหน้าของเราแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อจิตใจได้อีกด้วย ผู้ที่มีปัญหาเหล่านี้และยังไม่สามารถแก้ไขได้ ก็มักจะเกิดความวิตกกังวลและท้อแท้จากการที่รักษาเท่าไห ร่ก็ไม่หาย ขาดความมั่นใจ ไม่กล้าออกไปเผชิญโลกภายนอก สุดท้ายก็จะก่อให้เกิดปัญหา สุขภาพจิตตามมา ในบทความนี ยศสินี คลินิก ได้รวบรวมเทคนิคการเสริมสร้างความมั่นใจการเอาชนะปัญหาทางจิตใจ รวมถึงวิธีการรักษาหลุมสิวอย่างถูกต้องเพื่อที่จะได้หาแนวทางการรักษาและหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดหลุมสิวได้

หลุมสิว เกิดจากอะไร?
หลุมสิว (Atrophic Scars) เกิดจากการที่ร่างการมีการสร้างกระบวนการเพื่อรักษาตัวเองหลังเกิดบาดแผล หรือ มีการอักเสบ ขึ้นกับร่างกาย ในผิวชั้นที่ลึกลงไป จากการการกดหรือบีบสิวโดยร่างกายจะรักษาด้วยการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อขึ้นมาสมานแผล แต่เนื่องจากการสร้างคอลลาเจนไม่สมบูรณ์จึงเกิดเป็นพังผืดขึ้นมาดึงรั้งทำให้ผิวหนังยุบลงไป จนเกิดเป็นหลุม สิวนั่นเอง

ผลกระทบทางจิตใจ จากรอยหลุมสิว
จากผลสำรวจทางออนไลน์ BSF พบว่ามีผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวมากมาย ร่วมตอบแบบสอบถาม ซึ่งผลกระทบจากหลุมสิวของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป ดังนี้
- ร้อยละ 70 กล่าวว่า รอยหลุมสิว ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจมากที่สุด
- ร้อยละ 56 กล่าวว่า รอยหลุมสิว ส่งผลกระทบต่อการเข้าสังคม
- ร้อยละ 42 กล่าวว่า รอยหลุมสิว ส่งผลกระทบต่อการทำงานนอกจากนี้ ในแบบสอบถามยังมีการระบุรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมอีกว่า ผู้ที่มีปัญหาสิวและหลุมสิวนั้นเกิดความวิตกกังวลอย่างรุนแรง จนเกิดปัญหาสุขภาพจิต โดยเริ่มต้นจากการปลีกตัวออกจากสังคม ไม่ออกไปใช้ชีวิต ไม่อยากพบปะผู้คน เก็บตัว และนำไปสู่การทำร้ายตนเองในที่สุด

วิธีการเสริมสร้างความมั่นใจจากปัญหาหลุมสิวและการอยู่ร่วมกับรอยหลุมสิว ปัญหาหลุมสิว เรียกได้ว่าเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และถือเป็นเรื่องปกติของ ร่างกายมนุษย์ ซึ่งในปัจจุบันได้มีวิธีการรักษาหลุมสิวมากมายและสามารถช่วยได้จริง สำหรับใครที่มองหาแนวทางการรักษา แนะนำให้เข้าปรึกษากับแพทย์ผิวหนังโดยตรง เพื่อที่แพทย์จะได้ประเมินความรุนแรงและพิจารณาหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมต่อไป และในระหว่างการรักษาหลุมสิวก็จะต้องใช้เวลาเช่นกัน ดังนั้น ในระหว่างที่ผิวกำลังถูกซ่อมแซม เรามีทริคการเสริมสร้างความมั่นใจจากปัญหาหลุมสิวและการอยู่ร่วมกับรอยหลุมสิ้ว ดังนี้
- เปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เปลี่ยนมุมมองการคิดใหม่ "เพราะนี่คือร่างกายของเรา และไม่ได้มีใครมาสนใจเรามากขนาดนั้น" ดังนั้น เลิกคิดลบ แล้วออกไปทำสิ่งที่เราอยากจะทำ ออกไปเที่ยว ออกไปข้างนอก ใช้ชีวิตให้มีความสุขหลุมสิวเป็นปัญหาผิวที่หลายคนเผชิญ อย่าให้มันบั่นทอนความมั่นใจของคุณ จงจำไว้ว่า คุณค่าของคุณไม่ได้ถูกกำหนดโดยรอยแผลเป็นบนใบหน้า แต่มาจากภายใน โดยการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต ตั้งแต่การตื่นนอน การใช้เวลาในการพักผ่อน การรับประทานอาหาร หันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย ดื่มน้ำเยอะๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งนอกจากจะทำให้ร่างกายปรับตัวได้ดีขึ้น สุขภาพดีขึ้น และลดปัญหาสิวแล้ว ยังช่วยทำให้สภาพจิตใจของเราดีขึ้นด้วย
- การแต่งหน้าช่วยอำพรางหลุมสิวได้ เลือกเทคนิคที่เหมาะกับคุณ เช่น การเลือกใช้รองพื้น หรือแป้งฝุ่นเนื้อละเอียดเพื่อปิดบังรอยหลุมสิว หรือการดูแลสุขภาพผิวให้แข็งแรง เลือกครีมที่มีส่วนผสมที่ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็น ก็ช่วยให้หลุมสิวดูติ้นขึ้นได้เป็นต้น
ปัญหาหลุมสิว เป็นปัญหาที่ถึงแม้เราจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่เราสามารถรักษาและ ป้องกันได้ อย่าเพิ่งวิตกกังวลใจไป เพราะปัจจุบันได้มีแนวทางการรักษาหลุมสิวมากมาย และ วิธีการรักษาที่ดีที่สุดคือการปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยเฉพาะ เพื่อรักษาด้วยหัตถการ เช่น การเลเซอร์ หรือการฉีดฟิลเลอร์

เทคนิคการรักษาหลุมสิวที่ ยศสินี คลินิก
สำหรับการรักษาหลุมสิว สามารถทำได้หลายวิธี ในการเลือกวิธีการรักษาจะต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ได้แนวทางการรักษาที่เหมาะสมตามสภาพผิวและระดับความรุนแรงของหลุมสิว ของแต่ละบุคคล
1. Organic Peel
Organic Peel เป็นการทำทรีตเมนต์ที่มีความปลอดภัยและอ่อนโยนต่อผิว ด้วยสารสกัดแบบออแกนิคอย่าง Jasmonic acid และสารสกัดต่างๆ อาทิ เกลือแร่ วิตามิน กรดอะมิโน และซิตริก ที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อสิวและผลัดสิวอุดตันให้หลุดออก พร้อมยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นอีกด้วย
2. การทำเลเซอร์
การทำเลเซอร์ที่ ยศสินี คลินิก มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 แบบ คือ
LASER FRAXE : เป็นการรักษาหลุมสิวด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์แบบใหม่ล่าสุดทรงประสิทธิภาพในการทำให้ใบหน้าเรียบเนียน ปราศจากรอยหลุมสิวและรูขุมขน โดยเลเซอร์จะทำการผลัดผิวเสียชันลึกที่สุดให้หลุดออกอย่างทั่วถึง เห็นผล ตั้งแต่การทำในครั้งแรก
3. Derma Crystal
Derma Crystal เป็นเทคนิคการรักษาหลุมสิวด้วยผลึกเกร็ดอัญมณี เพื่อผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ใต้ชั้นผิว เผยผิวที่กระจ่างใส อีกทั้งยังเป็นการกรอ
รุมันกระซับขั้นีวามละเอียดสูงซึ่มีส่วนช่วยในการรักษาหุมสิวท่าให้ผิวเรียบเนียน
4. การฉีดฟิลเลอร์ (Hyaluronic Acid)
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นการฉีดสาร Hyaluronic Acid ลงไปใต้ชั้นผิวหนังบริเวณที่เป็นหลุมสิว เพื่อเติมเต็มหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้นหลังจากการทำเสร็จทันที เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน อีกทั้งยังไม่ทิ้งรอยแผลอีกด้วย
ยศสินี คลินิก คลินิกเฉพาะทางด้านความงามและผิวพรรณ คัดสรรเฉพาะตัวยาและเครื่องมือ ที่ได้ผล มีมาตรฐานที่วงการแพทย์ให้การยอมรับ เน้นการรักษาที่เห็นผลมีประสิทธิภาพ ด้วยเครื่องมือที่ได้มาตรฐานและรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมากว่า 17 ปี

ติดต่อ ยศสินี คลินิก
https://www.yotsineeclinic.net/
Phone: 02 458 2836
E-mail : yotsineeclinic@gmail.com
Line :

ฝ้ากับกระต่างกันอย่างไร พร้อมวิธีป้องกันและแนะนำพิกัดเลเซอร์ฝ้า กระ ที่ไหนดี          ฝ้าจะเป็นปื้นสีเข้มขนาดใหญ่ มีหลาย...
27/02/2024

ฝ้ากับกระต่างกันอย่างไร พร้อมวิธีป้องกันและแนะนำพิกัดเลเซอร์ฝ้า กระ ที่ไหนดี
ฝ้าจะเป็นปื้นสีเข้มขนาดใหญ่ มีหลายสีตั้งแต่อ่อนไปจนถึงเข้ม ขอบเขตไม่ชัดเจน ขณะที่กระจะเป็นจุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงเข้มกระจายอยู่ทั่วไปหน้าและบริเวณร่างกาย
เมื่อต้องตัดสินใจว่าจะเลือกเลเซอร์ฝ้า กระ ที่ไหนดี
อ่านต่อ กด link ด้านล่าง
https://www.yotsineeclinic.net/เลเซอร์รักษาฝ้า

ฝ้าและกระเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยและทำให้เราเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะเป็นปัญหาผิวที่ทำให้เกิดรอยด่างดำบนใบหน้า แต่หลายคนอาจสับสนระหว่างฝ้ากับกระเนื่องจากปัญหาผิวทั้ง 2 ประเภทนี้มีความคล้ายคลึงกัน บทความของเราวันนี้จึงจะอธิบายความแตกต่างระหว่างฝ้าและกระ รวมไปถึงวิธีการป้องกัน แนวทางรักษา และแนะนำว่าควรเลือกเลเซอร์ฝ้า กระ ที่ไหนดี
ฝ้าคืออะไร
ฝ้า คือ ปัญหาความผิดปกติของผิวหนังที่เกิดเป็นลักษณะรอยปื้นสีน้ำตาล มักเกิดบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก คาง และมักพบในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ มีขอบเขตการเกิดไม่ชัดเจน อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่ไปกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีเมลานินมากขึ้นเมื่อผิวหนังสัมผัสแสงแดด เกิดจากการสัมผัสแสงแดดจัด เกิดจากพันธุกรรม เกิดจากยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด ยาฮอร์โมน ยาต้านเศร้า รวมถึงไปปัจจัยอื่น ๆ อย่าง ความเครียด การนอนหลับไม่เพียงพอ ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ เป็นต้น
วิธีป้องกันฝ้าสามารถทำได้โดยหลีกเลี่ยงแสงแดด หมั่นทาครีมกันแดดเป็นประจำ กินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผัก ผลไม้ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และควบคุมความเครียดเนื่องจากความเครียดส่งผลต่อฮอร์โมนของเรา
ส่วนการรักษาฝ้าเองก็สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของกรดไกลโคลิก กรดอะเซลาอิก ไฮโดรควิโนน การทาครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินซี อาร์บูติน ไนอะซินาไมด์ การกินยาที่มีส่วนผสมของกรดทรานซามิก ทรานซามิก รวมถึงการใช้วิธีเลเซอร์ แต่ก็ต้องเลือกว่าจะเลเซอร์ฝ้า กระ ที่ไหนดีเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดด้วย
กระคืออะไร
กระ คือ จุดด่างดำบนผิวหนัง มักมีสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงน้ำตาลเข้ม มีขนาดเล็ก ขอบเขตชัดเจนต่างจากฝ้า มักพบกระบนใบหน้า ลำคอ ไหล่ แขน ขา
สาเหตุของกระเองก็เกิดได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น พันธุกรรมเพราะคนที่มีญาติเป็นกระ มักมีโอกาสเป็นกระมากกว่าคนทั่วไป เกิดจากการสัมผัสแสงแดดโดยไม่ป้องกัน เกิดจากฮอร์โมนกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีออกมาผิดปกติ เกิดจากการกินยาบางชนิด และปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ
วิธีป้องกันกระนั้นคล้ายกับการป้องกันฝ้าคือหมั่นหลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดดเป็นประจำ กินอาหารที่มีประโยชน์ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหมั่นทำจิตใจให้ร่าเริงไม่เครียด
ส่วนการรักษากระเองก็คล้ายกับการรักษาฝ้า คือสามารถทำได้ทั้งการทาครีมที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน กรดไกลโคลิก กรดอะเซลาอิก การกินยาที่มีส่วนผสมของกรดทรานซามิก ทรานซามิก รวมถึงการเลือกเลเซอร์ แต่จะเลเซอร์ฝ้า กระ ที่ไหนดีต้องเลือกคลินิกให้ดีเช่นกัน
โดยสรุปฝ้าแตกต่างจากกระที่ลักษณะการเกิด โดยฝ้าจะเป็นปื้นสีเข้มขนาดใหญ่ มีหลายสีตั้งแต่อ่อนไปจนถึงเข้ม ขอบเขตไม่ชัดเจน ขณะที่กระจะเป็นจุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงเข้มกระจายอยู่ทั่วไปหน้าและบริเวณร่างกาย
เลเซอร์ฝ้า กระ ที่ไหนดี? แนวทางการเลือกคลินิกเลเซอร์ ฝ้า กระให้ปลอดภัย มั่นใจก่อนใช้บริการ
1. ใบอนุญาต
เมื่อต้องตัดสินใจว่าจะเลือกเลเซอร์ฝ้า กระ ที่ไหนดี อย่างแรกที่ต้องพิจารณาคือการเลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลอย่างถูกต้อง เชื่อถือได้ และสามารถตรวจสอบได้
2. แพทย์ผู้ทำการรักษา
ปัจจุบันคลินิกเสริมความงามแทบทุกแห่งมีการแนะนำแพทย์ผู้ทำการรักษาเอาไว้อย่างชัดเขนว่าคือใคร มีประวัติการทำงานและผลงานที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง หากต้องการเลือกเลเซอร์ฝ้า กระ ที่ไหนดีควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้มีความชำนาญด้านผิวหนังที่มีประสบการณ์สูง
3. เครื่องเลเซอร์
เครื่องเลเซอร์เองก็เป็นปัจจัยหลักที่เราต้องพิจารณา โดยศึกษาหรือหาข้อมูลก่อนว่าคลินิกแห่งนั้น ๆ ใช้เครื่องเลเซอร์ที่ทันสมัย ได้มาตรฐานหรือไม่
4. รีวิวจากผู้ใช้จริง
โลกของเราทุกวันนี้สามารถค้นหารีวิวจากผู้ใช้จริงได้ไม่ยาก ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจว่าจะเลือกเลเซอร์ฝ้า กระ ที่ไหนดี ลองอ่านรีวิวจากประสบการณ์จริงของผู้ที่ไปใช้บริการมาก่อนเพื่อให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
5. ราคาและการบริการ
อย่าลืมเปรียบเทียบราคาของคลินิกหลาย ๆ แห่งเพื่อให้สามารถตัดสินใจเลือกคลินิกที่มีราคาค่าบริการอยู่ในงบประมาณที่เราตั้งไว้ รวมถึงการบริการต่าง ๆ ทั้งก่อนและหลังการรักษา
6. สถานที่
สถานที่ตั้งของคลินิกใครว่าไม่สำคัญ เราควรเลือกคลินิกที่เดินทางง่าย สะดวกสำหรับเรา เพราะการเลเซอร์ฝ้ากระนั้นไม่ได้เห็นผลในครั้งเดียวแม้จะรู้สึกว่าผิวใสและเนียนนุ่มขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกก็ตาม อย่างน้อยก็อาจต้องเลเซอร์ 4 – 6 ครั้งขึ้นไปฝ้ากระจึงจะจางลง ดังนั้นเลือกคลินิกที่เดินทางสะดวกสำหรับเราจะดีที่สุด
ปัญหาฝ้าและกระเป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนหมดความมั่นใจแถมยังรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ทำให้แต่งหน้ายากขึ้น เพราะฉะนั้นใครที่มีปัญหาผิวประเภทนี้กวนใจอยู่ อย่าลืมหันมาป้องกันด้วยตัวเองร่วมไปกับการรักษาอย่างถูกวิธีโดยผู้ชำนาญการ ส่วนใครกำลังมองหาว่าจะเลเซอร์ฝ้า กระ ที่ไหนดีก็สามารถนำแนวทางการเลือกคลินิกของเราไปใช้ตัดสินใจได้เลย

เลเซอร์ฝ้า กระ ที่ไหนดี? เลเซอร์ที่ยศสินี คลินิก มั่นใจ เชื่อถือได้
หากใครกำลังคิดว่าจะเลือกเลเซอร์ฝ้า กระ ที่ไหนดี ยศสินี คลินิกพร้อมให้บริการ เราคือคลินิกผู้มีความชำนาญปัญหาด้านผิวพรรณแบบครบวงจร มีบริการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ และปัญหาผิวอื่น ๆ และมีประสบการณ์สูง รักษาโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้มาตรฐานสากล นอกจากนี้เรายังรับปรึกษาปัญหาผิวและผม และออกแบบโปรแกรมการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้การรักษาเหมาะสมกับคุณมากที่สุด
ติดต่อ ยศสินี คลินิก
https://www.yotsineeclinic.net/
Phone : +66 (0)2 458 2836,
E-mail : yotsineeclinic@gmail.com
Line :

กระ คือหนึ่งในปัญหาผิวที่ทำให้หลายคนหมดความมั่นใจ ลองมาดูสาเหตุที่ทำให้เกิดกระบนใบหน้า พร้อมแนะนำพิกัดรักษากระ ที่ไหนดี ...
13/02/2024

กระ คือหนึ่งในปัญหาผิวที่ทำให้หลายคนหมดความมั่นใจ ลองมาดูสาเหตุที่ทำให้เกิดกระบนใบหน้า พร้อมแนะนำพิกัดรักษากระ ที่ไหนดี

รักษากระ ที่ไหนดี. อ่านต่อ กด Link ด้านล่าง
https://www.yotsineeclinic.net/เลเซอร์กระเนื้อ

กระ เป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่บางคนอาจมองว่าเป็นเสน่ห์แบบสายฝอ แต่การมีกระมากเกินไปก็ส่งผลต่อความมั่นใจของบางคนได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นก่อนเลือกรักษากระ ที่ไหนดี เรามีดู 7 พฤติกรรมที่ทำแล้วเสี่ยงต่อการเกิดกระบนใบหน้ากันก่อนดีกว่า
กระ คืออะไร
กระ เป็นจุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงน้ำตาลเข้ม เกิดจากความผิดปกติในการสร้างเม็ดสีบนผิวที่ถูกแสงแดด สามารถเกิดขึ้นได้บริเวณหน้าผาก ข้างแก้ม ดัง้จมูก ไปจนถึงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยมักจะเกิดกับผู้ที่มีสีผิวอ่อนมากกว่าผิวสีเข้ม นอกจากนี้ยังมีโอกาสเกิดขึ้นตามกรรมพันธุ์และจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนด้วย
พฤติกรรมที่ทำให้เกิดกระบนใบหน้าแบบไม่รู้ตัว
1. พักผ่อนไม่เพียงพอ
การพักผ่อนมีส่วนสำคัญเป็นอันดับแรก ๆ สำหรับคนที่อยากมีผิวกระจ่างใส เพราะการพักผ่อนน้อยเป็นสาเหตุของผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส เกิดริ้วรอยก่อนวัย อีกทั้งยังทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานไม่ปกติ ส่งผลต่อฮอร์โมน ทำให้เมลานินที่ทำหน้าที่สร้างเม็ดสีทำงานผิดปกติจนเป็นที่มาของการเกิดกระบนผิวของเราได้
2. ไม่ทาครีมกันแดด
ก่อนเลือกรักษากระ ที่ไหนดี เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าแสงแดดคืออีกสาเหตุหลักของการเกิดกระ เพราะเมื่อผิวได้รับรังสียูวีจากแสงแดดเป็นปริมาณมาก จะเกิดการกระตุ้นให้เมลานินสร้างเม็ดสีขึ้นมาเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด อาจเกิดการกระจายของเม็ดสีไม่สม่ำเสมอจนกลายเป็นกระบนผิว ดังนั้นหากไม่ทาครีมกันแดดหรือไม่ปกป้องผิวจากแสงแดดภาวะกระบนผิวก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น ไม่ว่าจะรักษาที่ไหนก็อาจไม่ได้ผลลัพธ์เท่าที่ควร ดังนั้นจึงต้องหมั่นปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างสม่ำเสมอ
3. ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
คนวัยทำงานอาจมีพฤติกรรมเสี่ยงทำให้เกิดกระโดยไม่รู้ตัว นั่นคือการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เพราะแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ทำให้เกิดความร้อนสะสมบริเวณใบหน้าจนทำปฏิกิริยากับเมลานินและเม็ดสีผิวจนอาจกระตุ้นให้สร้างเม็ดสีผิดปกติ กลายเป็นที่มาของกระในที่สุด ดังนั้นควรหาวิธีลดการนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ รวมถึงการทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอในวันทำงานจะดีกว่า
4. ใช้เครื่องสำอางอันตราย
เครื่องสำอางอันตรายหมายถึงเครื่องสำอางและสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีรุนแรง เช่น น้ำหอม สี สารกันเสีย พาราเบน เป็นต้น โดยสารเหล่านี้นั้นไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย หากใช้ทาผิวติดต่อกันอาจทำให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง และเป็นที่มาของปัญหาผิวอย่างฝ้า กระ หรือจุดด่างดำ ดังนั้นก่อนเลือกรักษากระ ที่ไหนดี อันดับแรกเราต้องเลิกใช้เครื่องสำอางหรือสกินแคร์อันตรายเหล่านี้และหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนกับผิวมากกว่า
5. ไม่ทำความสะอาดผิวอย่างเหมาะสม
ในแต่ละวันใบหน้าของเราเต็มไปด้วยฝุ่น ควัน สิ่งสกปรกต่าง ๆ มากมาย รวมถึงครีมและเครื่องสำอางที่อาจตกค้างอยู่บนใบหน้า ดังนั้นหากไม่ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างเหมาะสม สิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อุดตันอยู่จะไปกระตุ้นเมลานินให้สร้างเม็ดสีเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเลือกรักษากระ ที่ไหนดีก็ไม่เห็นผล ดังนั้นอย่าลืมให้ความสำคัญกับเรื่องความสะอาดของผวิด้วย
6. เครียดตลอดเวลา
ใครทำงานหนัก เรียนหนัก หรือมีอารมณ์เครียดตลอดเวลาก็เป็นพฤติกรรมที่ทำให้เกิดกระเช่นกัน เพราะความเครียดส่งผลให้ฮอร์โมนของเราแปรปรวน เป็นที่มาของการผลิตเม็ดสีผิดปกติจนทำให้เกิดริ้วรอย จุดด่างดำ รวมถึงกระในที่สุด
7. กินยาคุมฮอร์โมนสูง
ยาคุมกำเนิดเป็นยาที่ส่งผลต่อฮอร์โมนตามธรรมชาติของร่างกายโดยตรง ดังนั้นหากกินยาคุมที่มีปริมาณฮอร์โมนสูงติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ๆ ก็อาจทำให้ผิวเกิดฝ้าและกระง่ายขึ้น แต่สำหรับกระที่เกิดจากสาเหตุนี้เมื่อเราลดการกินยาคุมหรือเลือกกินยาคุมฮอร์โมนต่ำ รอยฝ้ากระก็จะจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนยาคุมหรือเลือกยาคุมที่เหมาะสมควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรอีกครั้ง
ปัญหากระบนผิวไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะเราสามารถรักษาได้ด้วยการปรับพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ เลี่ยงการทำพฤติกรรมที่ทำให้เกิดกระ รวมถึงหมั่นดูแลผิวอย่างเหมาะสมโดยเฉพาะการทำความสะอาดผิวและปกป้องผิวจากแสงแดดอยู่เสมอ นอกจากนี้การเลือกรักษากระ ที่ไหนดีที่มีเทคโนโลยีการรักษากระบนผิวโดยเฉพาะก็มีส่วนช่วยแก้ปัญหากระบนผิวหน้าและร่างกายได้เช่นกัน

รักษากระ ที่ไหนดี? เลือกรักษาที่ยศสินี คลินิกที่แพทย์มีความชำนาญ ด้านปัญหาผิวโดยตรงและดูแลผิวให้ทุกเคส
หากคุณคือหนึ่งในผู้ที่มีปัญหาเรื่องกระและกำลังมองหาว่าจะเลือกรักษากระ ที่ไหนดี เลือกยศสินี คลินิกไม่ผิดหวัง เพราะเราคือผู้ชำนาญเรื่องปัญหาผิวพรรณแบบครบวงจร รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำและปัญหาผิวอื่น ๆ โดยแพทย์ด้านความงามโดยเฉพาะ รวมถึงบริการให้คำปรึกษาปัญหาด้านผิวพรรณและเส้นผมแบบครบวงจร ทำการรักษาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ปลอดภัย เห็นผลชัดเจนด้วยการแนะนำโปรแกรมการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล การันตีการรับรองมาตรฐานสากลในวงการแพทย์โดยเฉพาะ

รักษากระ ที่ไหนดี? ปรึกษาปัญหาเรื่องฝ้า กระ ผิวพรรณ และเส้นผม ติดต่อ ยศสินี คลินิก
https://www.yotsineeclinic.net/
Phone : +66 (0)2 458 2836,
E-mail : yotsineeclinic@gmail.com
Line :

สาเหตุของการเกิดฝ้า รู้ไว้ก่อน ป้องกันได้ พร้อมแนะนำพิกัดรักษาฝ้า ที่ไหนดี    รักษาฝ้า ที่ไหนดี ก่อนฝ้าตัวร้ายมาเยือนผิว...
30/01/2024

สาเหตุของการเกิดฝ้า รู้ไว้ก่อน ป้องกันได้ พร้อมแนะนำพิกัดรักษาฝ้า ที่ไหนดี รักษาฝ้า ที่ไหนดี ก่อนฝ้าตัวร้ายมาเยือนผิวหน้า

ฝ้า คือปัญหาผิวที่สร้างความหนักใจให้ใครหลายคน มาดู 5 สาเหตุของการเกิดฝ้า พร้อมแนวทางดูแลรักษาและแจกพิกัดรักษาฝ้า ที่ไหนดี
อ่านต่อ.......กด Link ด้านล่าง
https://www.yotsineeclinic.net/เลเซอร์รักษาฝ้า

ฝ้า เป็นปัญหาผิวที่คนไทยคุ้นเคยดี เพราะฝ้ามักมาพร้อมกับแสงแดดจัดที่คนเมืองร้อนอย่างเราต้องเผชิญตลอดวัน แต่รู้ไหมว่านอกจากแสงแดดแล้ว ยังมีสาเหตุอื่นเป็นตัวการทำให้เกิดฝ้าบนผิวของเราอีกด้วย ลองมาดู 5 สาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้า ปัญหาผิวตัวร้ายหนักใจใครหลายคน วิธีป้องกันและรักษา พร้อมแนะนำพิกัดว่าควรรักษาฝ้า ที่ไหนดี
ฝ้าคืออะไร มีลักษณะอย่างไร
ฝ้า (Melasma หรือ Chloasma) คือ ปัญหาผิวที่มักเกิดขึ้นบนใบหน้า มีลักษณะเป็นปื้นสีน้ำตาลไปจนถึงสีดำ เกิดขึ้นบ่อยบริเวณที่สัมผัสกับแสงแดดมาก ๆ เช่น โหนกแก้ม หน้าผาก ขมับ ปีกจมูก และเหนือริมฝีปาก มักพบบ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และพบได้มากในช่วงวัย 30 – 40 ปี
ฝ้าเกิดจากเซลล์เม็ดสีทำงานมากกว่าปกติจนสร้างเม็ดสีบริเวณนั้นออกมามากกว่าเดิม ทำให้เม็ดสีที่อยู่บริเวณผิวชั้นบนสุดมีสีเข้มและมีขอบชัดเจน ฝ้าบริเวณนี้เรียกว่าฝ้าตื่น ส่วนเม็ดสีที่อยู่ใต้ชั้นหนังกำพร้าลงมาและตกค้างอยู่ในชั้นหนังแท้มักจะมีขอบไม่ชัด มีสีน้ำเงินอมม่วง จะเรียกว่าฝ้าลึก
5 สาเหตุของการเกิดฝ้า ปัญหาหนักใจของคนรักผิว
1. แสงแดด
แสงแดดเป็นสาเหตุหลักของการเกิดฝ้า เพราะรังสี UVA, UVB และ Visible light ที่มาพร้อมแสงแดดนั้นไปกระตุ้นการทำงานของเม็ดสีเมลาโทนินบริเวณผิวหนังของเรา โดยเฉพาะส่วนที่สัมผัสกับแสงแดดโดยตรง จนทำให้เกิดภาวะสร้างเม็ดสีมากผิดปกติ เป็นที่มาของการเกิดฝ้าในที่สุด
2. พันธุกรรม
เชื่อว่าพันธุกรรมมีส่วนในการเกิดฝ้ากว่า 50% หากคนในครอบครัวเป็นฝ้า ก็มีโอกาสที่จะเกิดฝ้ากับเราได้ด้วยเช่นกัน หากเป็นฝ้าเพราะสาเหตุนี้อาจต้องลองเลือกให้ดีว่าจะรักษาฝ้า ที่ไหนดีที่สามารถรักษาฝ้าจากพันธุกรรมได้
3. ฮอร์โมน
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนในภาวะต่าง ๆ ของร่างกายมีส่วนกระตุ้นให้เกิดฝ้าอย่างที่เราอาจจะคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นช่วงตั้งครรภ์ การกินยาคุมกำเนิด หรือภาวะวัยทอง ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงอาจไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสีผิวให้ทำงานผิดปกติ ทำให้เกิดฝ้าหรือมีส่วนทำให้สีผิวเข้มกว่าเดิม
4. ความเครียด
ความเครียดมีส่วนสำคัญต่อฮอร์โมนในร่างกาย ดังนั้นหากเราอยู่ในช่วงที่มีภาวะเครียดมาก ๆ ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไปก็ส่งผลต่อการเกิดฝ้าและปัญหาผิวอื่น ๆ เช่นกัน ดังนั้นหากเรารู้ตัวว่าเป็นฝ้าเพราะความเครียด ก่อนเลือกรักษาฝ้า ที่ไหนดีอาจต้องพยายามจัดการความเครียดด้วยตัวเองก่อน
5. ปัจจัยอื่น ๆ
นอกจากสาเหตุที่กล่าวมาแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อย่างเช่น มลภาวะ การใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน และการใช้ยาบางชนิดที่มีส่วนไปกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีเมลานินบนผิวหนัง สิ่งเหล่านี้ก็เป็นสาเหตุกระตุ้นให้เกิดฝ้าเช่นกัน
วิธีป้องกันการเกิดฝ้า
วิธีป้องกันการเกิดฝ้าที่ดีที่สุดวิธีแรกคือการเลี่ยงแสงแดดจัด โดยเฉพาะแดดช่วงเวลา 10.00 – 16.00 น. นอกจากนี้ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF เพียงพอในทุกวันและทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงหากต้องออกไปกลางแจ้ง รวมถึงใช้อุปกรณ์อื่นช่วย เช่น ร่มกันแสง UV สวมหมวก เสื้อแขนยาว เป็นต้น
นอกจากการทาครีมกันแดดแล้ว อย่าลืมดูแลผิวหน้าให้แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นการเติมวิตามินให้ผิวทั้งการกินอาหารที่มีประโยชน์ การกินอาหารเสริมวิตามิน หรือการดริปวิตามินให้ผิว ไปจนถึงการทาครีมที่ช่วยบำรุงผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ
ที่สำคัญอย่าลืมดูแลผิวจากภายใน ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับให้เพียงพอ การออกกำลังกาย การดูแลอารมณ์ให้ร่าเริงแจ่มใส ไม่เครียด และการดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 1 – 2 ลิตรต่อวัน ก็จะช่วยให้ผิวแข็งแรงและสุขภาพดีอย่างที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว
การรักษาฝ้ามีวิธีอะไรบ้าง และจะเลือกรักษาฝ้า ที่ไหนดี
1. รักษาด้วยยา
ปัจจุบันยารักษาฝ้ามีมากมายหลายชนิด แม้จะให้ผลช้าแต่ผลข้างเคียงก็ต่ำและปลอดภัย มีหลักการทำให้ฝ้าจางลงด้วยการยับยั้งการสร้างเม็ดสีของเมลาโทนิน แต่หากหยุดยาเมื่อไรฝ้าก็มีโอกาสกลับคืนมาได้อีกครั้ง
2. รักษาด้วยการเลเซอร์
การเลเซอร์เป็นนวัตกรรมการแพทย์เพื่อความงามที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การรักษาฝ้ามีประสิทธิภาพ ซึ่งหลักการของการเลเซอร์รักษาฝ้าคือการผลิตแสงเลเซอร์ที่ช่วยรักษาฝ้า กระ หรือปัญหาสีผิวบนใบหน้าไม่สม่ำเสมอ หรือรอยโรคที่เกิดจากความผิดปกติของเม็ดสี นอกจากนี้การเลเซอร์ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวด้วย
3. การลอกฝ้า
การลอกฝ้าหรือ Peeling เป็นกระบวนการลอกเม็ดสีเมลาโทนินที่มีความเข้มออกจากชั้นผิว ค่อย ๆ เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใส ทำให้ฝ้าแลดูจางลง
เลือกคลินิกรักษาฝ้า ที่ไหนดี
ปัจจุบันมีคลินิกเสริมความงามมากมายที่มีแนวทางการดูแลและรักษาสำหรับผู้ที่มีปัญหาฝ้าบนใบหน้าโดยเฉพาะ แต่หากเรายังไม่มั่นใจและอยากรู้ว่าจะเลือกรักษาฝ้า ที่ไหนดี ลองนำแนวทางนี้ไปเป็นตัวช่วยตัดสินใจเลือกคลินิกให้ถูกใจกันได้เลย
1. มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
เชื่อว่าสิ่งแรกที่ทำให้เราเลือกคลินิกรักษาฝ้าสักแห่งต้องมาจากความมั่นใจและความน่าเชื่อถือ เพราะฉะนั้นอย่าลืมเลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลถูกต้องตามกฎหมาย ได้มาตรฐานตามที่กระทรวงสาธารณะสุขกำหนดไว้
2. ความสะอาดและมาตรฐานของสถานที่
คลินิกต้องมีความสะอาด สถานที่อย่างห้องปฏิบัติการและเครื่องมือต้องทันสมัย มีมาตรฐาน
3. แพทย์มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญ
แพทย์ประจำคลินิกต้องมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
4. ราคาและการบริการ
การจะเลือกรักษาฝ้า ที่ไหนดีนั้น ราคาและการบริการทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการรักษาย่อมเป็นตัวเลือกที่ควรนำมาพิจารณาเสมอ
5. รีวิวจากลูกค้าจริง
ปัจจุบันโลกออนไลน์สามารถค้นหาข้อมูลรีวิวจากลูกค้าของคลินิกที่เราสนใจได้ไม่ยาก ลองอ่านรีวิวจากลูกค้าที่มาใช้บริการจริงเพื่อประกอบการตัดสินใจใช้บริการก่อนทุกครั้ง
ฝ้าเป็นปัญหาที่อาจรักษายาก สร้างความหนักใจและทำให้หลายคนไม่มั่นใจในตัวเอง ดังนั้นการทำความเข้าใจสาเหตุของการเกิดฝ้าเพื่อป้องกันและรักษาจึงเป็นแนวทางแรกสู่การมีผิวสวย สุขภาพดี นอกจากนี้การเลือกรักษาฝ้า ที่ไหนดี ที่มีมาตรฐาน น่าเชื่อถือ และเข้าใจถึงปัญหาฝ้าอย่างแท้จริงก็จะช่วยให้เราสามารถรักษาปัญหาฝ้าบนใบหน้าอย่างได้ผลเพื่อให้กลับมามีความมั่นใจและกู้คืนผิวสวยใสได้อีกครั้ง
รักษาฝ้า กระ โดยผู้เชี่ยวชาญ เลือกรักษาที่ยศสินี คลินิก
ยศสินี คลินิก คือคลินิกผู้เชี่ยวชาญเรื่องปัญหาผิวพรรณแบบครบวงจร ก่อตั้งโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม เส้นผมและผิวพรรณ เรารักษาฝ้าด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย ปลอดภัย และเห็นผลได้ชัดเจนตามแต่ละบุคคล พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องการดูแลตัวเองหลังรักษาเพื่อให้การรักษาฝ้าแต่ละครั้งมีประสิทธิภาพมากที่สุด
นอกจากนี้เรายังเป็นคลินิกรักษาผมร่วง รักษาผมบาง ดูแลปัญหาด้านเส้นผมและหนังศีรษะ มีประสบการณ์ทั้งด้านผิวและเส้นผมมานานกว่า 17 ปี พร้อมให้บริการด้วยยาและเทคโนโลยีมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับในวงการแพทย์โดยเฉพาะ

ติดต่อ ยศสินี คลินิก
https://www.yotsineeclinic.net/
Phone : +66 (0)2 458 2836,
E-mail : yotsineeclinic@gmail.com
Line :

ที่อยู่

ซีคอนบางแค ชั้น 3
Bangkok

เบอร์โทรศัพท์

024582836

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Yotsineeclinic Thailandผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram