Family2kid

08/10/2023

08/10/2023

เห็นเพื่อนอวดลูกหน้าเฟส
นี่ก็อยากอวดบ้าง
1.นอนเก่ง
2.ต่อรองเก่ง

06/10/2023

อย่าให้อ่านให้ท่องอย่างเดียว
เพราะการสอนด้วยวิธี “ลงมือทำ”
ช่วยให้เด็กจำ และนำไปใช้ได้มากที่สุด❤️

04/10/2023

เลี้ยงเคร่ง ลูกก็เครียด
เลี้ยงปล่อย
ลูกก็ไม่มีจุดหมาย
ชีวิตมนุษย์แม่ไม่ง่ายเลย😩

03/10/2023

เลี้ยงลูกเหนื่อยแล้ว อย่าลืมดูแลสุขภาพใจตัวเองด้วยนะแม่💙

30/09/2023

แต่ก่อนอยากเป็น
แม่ที่ดี ตอนนี้ขอเป็น
แค่แม่ธรรมดา
ที่ได้นอนบ้าง พอละ🥱

17/09/2023

#เหนื่อยใจสอนตั้งหลายครั้งแล้ว_ทำไมไม่ลูกจำ!

ประโยคคุ้นๆ ประโยคคลาสสิก
ที่หลายคนเคยได้ยินตอนเด็กๆ
หรือไม่ตอนนี้ ก็ดันกลายเป็นคนพูดประโยคนี้เสียเอง

“ก็สอนไปตั้งหลายทีแล้ว
ไม่ใส่ใจหล่ะสิ ก็เลยจำไม่ได้!”
“ตกลงแกโง่จริงๆใช่มั้ย”
“สอนจนปากเปียก ยังทำไม่ได้อีก”

ถ้าใครมาพูดแบบนี้กับเรา
ฟังกี่ทีก็เจ็บ แล้วถ้าเราพูดกับลูกหล่ะ
คุณว่าเค้าจะรู้สึกยังไง☹️

🚩ความจริงที่หมออยากเล่าก็คือ
การเรียนรู้ ของมนุษย์ทุกคน
มันมีกระบวนการธรรมชาติอยู่
เราเรียกว่า กรวยแห่งการเรียนรู้
The Cone of Learning
(ภาพประกอบในคอมเม้น)

เวลาที่เราอยากเรียนอะไรสักอย่าง
การที่เราอ่าน หรือฟัง สักครั้ง
มนุษย์จะจำมันได้แค่ 5-10%เท่านั้นเอง

นั่นแปลว่า สิ่งที่คุณสอน หรือบอกลูก 100 รอบ เค้าก็จะจำมันได้นะ
…..จำได้ 5% นั่นแหละ…….
แถมเป็นความจำระยะสั้นแบบ
short term memory ซะด้วย

เอาง่ายๆคือ 5%นั้นหน่ะ
นอนหนึ่งตื่น เช้าขึ้นมาก็ลืมแล้วจ้ะแม่
แล้วยิ่งตอนที่คุณสอน เค้ากำลังง่วง กำลังหิว 100%ที่คุณสอน
อาจจะเหลือ แค่2 % อู้วหูวว🥲

ถ้าเราสอนด้วย ทำให้ดูด้วยหล่ะ
ยกตัวอย่าง สอนบวกเลข
แม่บวกให้ดูด้วยเลย นับนิ้วให้ดูด้วย
ลูกจะจำเพิ่มขึ้นมาได้อีกหน่อย
ก็อยู่ที่ประมาณ 30%

ระดับนี้ น่าจะพอมีเค้ารางๆในหัวแหละ
ว่าแม่กับครู สอนอะไรมาบ้าง
แต่ก็อาจจะไม่พอทำข้อสอบ
หรือใช้งานจริง

นี่ก็ยังไม่ผ่านการตัดเกรดเลยค่ะ
ทำไงหล่ะทีนี้…..

ถ้าคุณอยากให้ลูกเรียนได้ดี
หมอจะบอกเคล็ดเรียนดีให้ค่ะ❤️

คือ
1.คุณต้องสอนก่อน
2.พาเค้าทำลงมือทำ
3.สุดท้ายให้เค้าทำเอง

จับมือทำเลย เพราะมันเป็นวิธีการเรียนรู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุด📌

คุณจะสอนบวกเลข หาบล็อกไม้มา
ลองเอามานับ ให้ได้จับได้กำ
ลงมือเขียนคำตอบ ด้วยตัวเอง
ให้ประสาทสัมผัส หู ตา มือ ทุกส่วน
ได้ทำงานร่วมกัน

สมองเค้าจะมี input สมองเค้าจะเริ่มประมวลผลได้
สอนให้ฟัง - ทำให้ลูกดู -แล้วลงมือทำทำแบบนี้ซ้ำบ่อยๆ

🚩วิธีนี้ทำให้เด็กมีความเข้าใจกับบทเรียนได้มากถึง 90%
เราเรียกกระบวนการนี้ว่า active learning

ซึ่งการศึกษาจริงๆ
ควรมาถึงจุดนี้ในทุกวิชา
ไม่ใช่แค่การเรียนในโรงเรียนเท่านั้นนะ
แต่ควรใช้กับการเรียนรู้ทุกเรื่องในชีวิตประจำวันเลย

เช่น สอนลูกทำความสะอาดบ้าน
ก็ใช้หัดทำจริงๆ
สอนลูกล้างผัก ปอกไข่ อะไรพวกนี้
ก็ใช้กระบวนการเดียวกันนี่แหละ

ส่วนใหญ่ก็ต้องลงมือทำกับหลายครั้งนะ ทำซ้ำๆนี่ปกติมากเพราะเรา และลูก กำลังฝึกฝนไงคะ
เราก็ฝึกเป็นผู้สอน
ส่วนลูกก็ฝึกเป็นผู้เรียน

🚩ทีนี้เวลาที่สอนแล้วลูกไม่จำ
เราจะได้ลองมองย้อนดูซิว่า
เรากำลังสอนอะไรที่ไม่มีประสิทธิภาพ อยู่รึเปล่า

สอนแล้วเหนื่อยเปล่า…..
คือคนสอนก็เหนื่อย คนเรียนก็เหนื่อย
บรรยากาศในบ้านอย่างกับไฟ
เอาใหม่ค่ะ เอาใหม่ ด้วยกัน✅

ถ้าคุณไม่รู้มาก่อนไม่ผิดหรอก
หมอเองก็เพิ่งรู้
แต่ตอนนี้พอรู้แล้ว 
เธอ…ชีวิตในการสอนลูกมันผ่อนคลายขึ้นมากจริงๆ

เลยอยากแชร์ให้คนอื่นรู้บ้าง

ชีวิตเราดี ชีวิตลูกก็ดีขึ้น
เพราะเค้าเรียนทัน
มีความสุขกับการเรียนทุกวันไงหล่ะ❤️

ถ้าคุณคิดว่ามีประโยชน์ ฝาก แชร์ให้เพื่อนที่มีลูก
หรือคนที่ต้องสอนใครซ้ำๆได้ฟังบ้าง

เราจะได้มีเวลาดีๆ
เมื่อเราต้องสอนลูกบ้างเนอะ❤️
#หมอฟ้าเลี้ยงลูก

#สอนลูกให้ฉลาดและมีความสุข

13/09/2023

13/09/2023

#ใครจะรู้จริงๆแล้วลูกเราก็อาจเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งก็ได้

เมื่อพูดถึงความฉลาดของมนุษย์ หลายคนมักจะเข้าใจว่า เด็กที่เรียนได้คะแนนดี สอบได้เกรดสูงๆก็แปลว่า เด็กคนนั้นฉลาด
ในขณะที่เด็กที่ทำคะแนนสอบได้ไม่ดี กลับถูกตีตราว่าเป็นเด็กเรียนอ่อน พัฒนาได้ช้า

ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เพราะเราอาจมองข้าม อัจฉริยภาพของเด็กๆหลายคนไปเลย

ซึ่งความจริงแล้ว ความฉลาด ไม่ได้มีเพ๊ยงด้านเดียว อย่างที่เราเข้าใจกันทั่วไป

ศาสตราจารย์โฮวาร์ด การ์ดเนอร์ (Howard Gardner) นักจิตวิทยา มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด
ได้พยายามอธิบายให้เห็นถึงความสามารถที่หลากหลาย

โดยเรียกทฤษฎีนี้ว่า
“ ทฤษฎีพหุปัญญา ” (Theory of Multiple Intelligences) กล่าวว่า

“สติปัญญาของมนุษย์มีหลายด้านที่มีความสำคัญเท่าเทียมกัน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะโดดเด่นในด้านไหนบ้าง แล้วแต่ละด้านผสมผสานกัน แสดงออกมาเป็นความสามารถในเรื่องใด เป็นลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละคนไป”

ซึ่งศาสตราจารย์โฮวาร์ด การ์ดเนอร์ ได้ให้รายละเอียดถึงความฉลาดด้านต่างๆไว้ อย่างน้อย 8 ด้าน

1. ปัญญาด้านภาษา (Linguistic Intelligence) คือ ความสามารถในการใช้ภาษารูปแบบต่างๆ ตั้งแต่ภาษาพื้นเมือง จนถึงภาษาอื่นๆ ผู้ที่มีปัญญาด้านนี้โดดเด่น ก็มักเป็น กวี นักเขียน นักพูด นักหนังสือพิมพ์ ครู ทนายความ หรือนักการเมือง

2. ปัญญาด้านตรรกศาสตร์และคณิตศาสตร์ (Logical-Mathematical Intelligence)
คือ ความสามารถในการคิดแบบมีเหตุและผล การคิดคำนวณทางคณิตศาสตร์ ผู้ที่มีความฉลาดด้านนี้ มักเป็น นักบัญชี นักสถิติ นักคณิตศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ นักเขียนโปรแกรม หรือวิศวกร

3. ปัญญาด้านภาพ และมิติ (Visual-Spatial Intelligence) คือ ความสามารถในการรับรู้ทางสายตาได้ดี สามารถมองเห็นพื้นที่ รูปทรง ระยะทาง และตำแหน่ง ผู้ที่มีความฉลาดด้านนี้ มักเป็น จิตรกร วาดรูป ระบายสี เขียนการ์ตูน นักออกแบบ ช่างภาพ หรือสถาปนิก เป็นต้น

4. ปัญญาด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว (Bodily Kinesthetic Intelligence) คือ ความสามารถในการควบคุมและแสดงออกซึ่งความคิด ความรู้สึก โดยใช้อวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงความสามารถในการใช้มือผู้ที่มีความฉลาดด้านนี้ มักเป็น นักกีฬา นักแสดง นักเต้น

5. ปัญญาด้านดนตรี (Musical Intelligence) คือ ความสามารถทางดนตรี ทั้งการได้ยิน การรับรู้ การจดจำ และการแต่งเพลง สามารถจดจำจังหวะ ทำนอง ผู้ที่มีความฉลาดด้านนี้ มักเป็น นักดนตรี นักประพันธ์เพลง หรือนักร้อง

6. ปัญญาด้านมนุษยสัมพันธ์ (Interpersonal Intelligence) คือ ความสามารถในการเข้าใจผู้อื่น มีความไวในการสังเกต สีหน้า ท่าทาง น้ำเสียง ของผู้อื่นและตอบสนองอย่างเหมาะสม คนกลุ่มนี้มักจะสร้างมิตรภาพได้ง่าย สามารถจูงใจผู้อื่นได้ดี
ผู้ที่มีความฉลาดด้านนี้ มักเป็นครู อาจารย์ ผู้ให้คำปรึกษา นักการฑูต พนักงานต้อนรับ ประชาสัมพันธ์ นักการเมือง หรือนักธุรกิจ

7. ปัญญาด้านการเข้าใจตนเอง (Intrapersonal Intelligence) คือ ความสามารถในการรู้จัก ตนเอง สามารถเท่าทันตนเอง ควบคุมการแสดงออกอย่างเหมาะสมตามกาลเทศะ มองตนเองตามความเป็นจริง รู้ถึงจุดแข็ง จุดอ่อนของตนเอง สำหรับผู้ที่มีปัญญาด้านนี้โดดเด่น มักจะเป็นนักคิด นักปรัชญา

8. ปัญญาด้านธรรมชาติวิทยา (Naturalist Intelligence) คือ ความสามารถในการรู้จัก และเข้าใจธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง เข้าใจปรากฏการณ์ธรรมชาติ มีความสามารถในการแยกแยะประเภทของสิ่งมีชีวิต ทั้งพืชและสัตว์ ผู้ที่มีความฉลาดด้านนี้ มักเป็น นักธรณีวิทยา นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย หรือนักสำรวจธรรมชาติ
จะเห็นได้ว่า แท้จริงแล้ว ความฉลาด หรือความเป็นอัจฉริยภาพนั้นสามารถมีได้หลากหลาย บางคนอาจมีหลายอย่างประกอบกัน ซึ่งแต่ละด้าน ล้วนพัฒนามาเป็นอาชีพ และทักษะได้ทั้งสิ้น

ในฐานะพ่อแม่ เรามีโอกาสใกล้ชิดลูกมากที่สุด เราควรใช้โอกาสนี้ เพื่อส่งเสริมลูกในสิ่งที่เค้าถนัด หรือทำได้ดี

แน่นอนว่า การเรียนในโรงเรียนยังคงมีความสำคัญ แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง

อย่าให้คะแนนหรือ เกรด มาเป็นตัวตัดสินความฉลาดของลูกเลยค่ะ

❤️เปิดใจให้กว้าง ลูกยังมีโอกาสพัฒนาได้อีกมาก ใครจะรู้ จริงๆแล้ว ลูกเราก็อาจเป็น อัจฉริยะคนหนึ่ง ก็ได้นะ

#หมอฟ้าเลี้ยงลูก

04/09/2023

3ทุ่มยังไม่ยอมอาบน้ำ
ไม้เรียวในมือ
ก็ว้าวุ่นเลยทีนี้

04/09/2023

30/08/2023

เห็นผมสีอ่อนที่เสื้อสามี
อย่าเพิ่งวู่วาม
เช็คผมหงอกตัวเองก่อน
#เลี้ยงลูกจนลืมย้อมผม😅