เว็บไซต์คืออะไร?

https://www.facebook.com/557182454633694/

หมอปุ๊ก for kids and family

หน้าหลัก
ประเทศไทย
Bangkok
หมอปุ๊ก for kids and family

คลินิกกระตุ้นพัฒนาการ ฝึกพูด โรคสมาธิสั้น ออทิสติก พัฒนาการช้า ปัญหาอารมณ์และพฤติกรรม การเลี้ยงดู พญ.ดวงรัตน์ วังเกล็ดแก้ว
กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
Cert. Med.
(222)

in Ped.Psych. The Royal Alexandra Children's Hospital at Westmead. Sydney, Australia. Cert.in Child and Adolescent Mental Health, NSW Institue of Psychiatry, Parramatta, Australia.

ประสบการณ์การทำงาน
-หัวหน้ากลุ่มงานโรงเรียนพ่อแม่ สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต
-อาจารย์ประจำสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล
-อาจารย์พิเศษหลักสูตรมหาบัณฑิตจิตวิทยาเด็ก วัยรุ่นและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล

สถานที่ปฏิบัติงานในปัจจุบัน กรุณาโทรนัดหมายได้ที่
1) รพ.นวเวช เบอร์โทร 02-4839999 ต่อแผนกสุขภาพเด็กดี เวลา 9.00-20.00 น. ทุกวัน
2) คลินิกประสานมิตร โดย หมอปุ๊ก for kids and family เบอร์โทร 02-3278152 เวลา 13.00-20.00 น. ทุกวัน เว้นวันพุธ
3) รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์
แผนกศูนย์เด็กพิเศษ เบอร์โทร 02-3789125 เวลา 9.00-20.00 น. ทุกวัน

การบริการ
-รับปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น ปัญหาพัฒนาการเด็ก โรคสมาธิสั้น ปัญหาการเรียน พฤติกรรมดื้อ ต่อต้าน ก้าวร้าว กังวล ซึมเศร้าในเด็ก
-ตรวจวัดประเมินไอคิว แอลดี และตรวจสภาพจิตโดยนักจิตวิทยาคลินิก
-ให้บริการทั้งแบบรายบุคคล รายครอบครัว หรือแบบไพรเวทกรุ๊บ -ผปค.จัดกลุ่มมาเรียนกับคุณหมอปุ๊กโดยตรงโดยนัดเวลาเรียนล่วงหน้า
-บริการแบบออนไลน์และพบหน้า

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
morpookdoctorforkids@gmail.com
Line id : morpookforkids

27/11/2025

ราคาพิเศษ #แพคเกจวัคซีนแรกเกิด - 1ปี พร้อมรับส่วนลดค่าประเมินพัฒนาการเด็กด้วยเครื่องมือ Denver 2 โดยนักจิตวิทยาพัฒนาการเด็ก ที่ #คลินิกเด็กประสานมิตร ถนนฉลองกรุง ลาดกระบัง
📍ช่องทางติดต่อ

🚩พ่อแม่และผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานเข้ารับการตรวจ #ประเมินพัฒนาการรอบด้าน และตรวจวินิจฉัย #โรคสมาธิสั้น #โรคออทิสติก #ปัญหาพฤติกรรมเด็ก สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางการสื่อสารดังต่อไปนี้

1. โทร. 02 3278152 (ทุกวันตั้งแต่เวลา 12:00 - 20:00 น. ยกเว้นวันพุธคลินิกปิดทำการ)

2. สอบถามได้ที่ คลินิกเด็กประสานมิตร เพียงคลิก https://page.line.me/prasarnmitkids

🚩คลินิกเด็กประสานมิตร ตั้งอยู่บนใกล้ตลาดวีร์มาร์เก็ต ถนนฉลองกรุง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ

🏁เดินทางโดยใช้ Google Map เพียงคลิก 😀 https://maps.app.goo.gl/RUSY4UcmeYGfKSUM9

21/11/2025

คุณพ่อท่านหนึ่งถามมาว่าในการเลี้ยงดูลูก จะรู้ได้อย่างไรว่า #เมื่อไหร่ควรพาลูกไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเด็ก หมอว่าเป็นคำถามที่สำคัญมากนะคะ เพราะการที่พ่อแม่ หรือผู้ปกครองมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้ แล้วหมั่นสังเกตพฤติกรรม อารมณ์ หรือพัฒนาการของเด็กในชีวิตประจำวัน มีการสอบถามจากครูเรื่องการใช้ชีวิตของเด็กที่โรงเรียน ทั้งเรื่องการเรียน การเข้าสังคมกับเพื่อนๆ และหากพบว่าเด็กมีความผิดปกติอย่างที่หมอจะเล่าให้ฟัง ก็ควรพาเด็กไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเด็กเพื่อสาเหตุและให้การดูแลรักษาต่อไปค่ะ

สัญญาณเบื้องต้นว่าเด็กอาจมีปัญหาด้านพัฒนาการ พฤติกรรม และอารมณ์
🧠1. #ด้านพัฒนาการล่าช้า (Developmental Delay)
( ) พูดคำเดี่ยวไม่ได้เมื่ออายุ 18 เดือน
( ) พูดเป็นประโยคสั้นไม่ได้เมื่ออายุ 2 ขวบ
( ) ไม่สบตา ไม่ยิ้มตอบ ไม่สนใจคนรอบข้าง
( ) ไม่เล่นสมมติ เช่น เล่นของเล่นเป็นตัวแทนคน/สิ่งของ
( ) เดินช้ากว่า 18 เดือน
( ) ไม่ตอบสนองเมื่อตามชื่อ

🧒2. #ด้านพฤติกรรม (Behavior)
( ) อยู่ไม่นิ่ง วอกแวกง่าย ทำกิจกรรมได้น้อยกว่า 5-10 นาที
( ) วิ่งซนมากเกินไปแม้ในสถานการณ์ที่ควรนั่งนิ่ง
( ) ไม่เชื่อฟัง ดื้อ ต่อต้านเกินวัย
( ) พฤติกรรมซ้ำๆ เช่น แกว่งมือ เดินวน หมุนของ
( ) ชอบอยู่คนเดียว ไม่สนใจเล่นกับเด็กคนอื่น

😦 3. #ด้านอารมณ์ (Emotion)
( ) อารมณ์เปลี่ยนแปลงเร็ว หงุดหงิดง่าย โมโหรุนแรง
( ) มีอาการเศร้า เงียบ ถอนตัว ไม่อยากพูดกับใคร
( ) กลัวหรือวิตกกังวลมากเกินไป เช่น กลัวไปโรงเรียน
( ) มีพฤติกรรมทำร้ายตัวเอง เช่น ตีหัว ทุบตัว กัดมือ

📣 4. #ด้านสังคมและการสื่อสาร (Social/Communication)
( ) ไม่เข้าใจคำสั่งง่ายๆ ตามวัย
( ) ไม่สามารถเล่าเรื่องราวหรือความรู้สึกของตนเองได้
( ) ไม่เข้าใจมุกตลกหรือการพูดเป็นนัย
( ) ไม่เข้าใจการผลัดกันเล่น หรือรอคิว

🏫5. #ด้านการเรียนรู้และการเรียน (Learning)
( ) มีปัญหาในการอ่าน เขียน หรือคำนวณ
( ) ทำการบ้านไม่ได้แม้จะพยายาม
( ) ครูแจ้งว่าเด็กไม่มีสมาธิ ไม่ตั้งใจเรียน หรือรบกวนในห้องเรียน
( ) คะแนนด้านวิชาการต่ำกว่ามาตรฐาน

หรือหากคุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองรู้สึกเหนื่อยท้อแท้ มีความยากลำบากในการเลี้ยงดูเด็ก ไม่มั่นใจในพฤติกรรมของเด็ก หรือมีคำถามเกี่ยวกับพัฒนาการ หมอว่าควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเด็กตั้งแต่แรกที่เห็นปัญหา ก็จะช่วยทั้งเราและเด็กให้ได้รับการดูแลรักษาอย่างตรงจุดและทันเวลาค่ะ

ด้วยความห่วงใย
พญ.ดวงรัตน์ วังเกล็ดแก้ว หมอปุ๊ก for kids and family

📍🚩พ่อแม่และผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานเข้ารับการตรวจประเมินและวินิจฉัยอาการของปัญหาพัฒนาการ พฤติกรรม และอารมณ์ของเด็ก สามารถสอบถามเพิ่มเติมและนัดหมายได้ที่ช่องทางการสื่อสารดังต่อไปนี้

1. โทร. 02 3278152
(เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 12:00 - 20:00 น. ยกเว้นวันพุธคลินิกปิดทำการ)

2. สอบถามได้ที่ คลินิกเด็กประสานมิตร เพียงเพิ่มเพื่อนในไลน์ https://page.line.me/prasarnmitkids

🚩คลินิกเด็กประสานมิตร ตั้งอยู่บนใกล้ตลาดวีร์มาร์เก็ต ถนนฉลองกรุง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ

🏁เดินทางโดยใช้ Google Map เพียงคลิก 😀 https://maps.app.goo.gl/RUSY4UcmeYGfKSUM9

12/11/2025

https://www.facebook.com/share/1AAhT6DJ52/

07/11/2025

#เมื่อไหร่ควรพาลูกไปตรวจเรื่อง " #พูดช้า" หรือ "การสื่อสารผิดปกติ"
ปัญหาพัฒนาการด้านการพูดและการสื่อสารช้าหรือผิดปกติของเด็ก เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พ่อแม่ต้องให้ความสำคัญ เพราะเด็กต้องรู้จักพูดสื่อสารได้ตามวัยให้คนอื่นเข้าใจความคิด ความรู้สึกและความต้องการของเด็ก

มีการศึกษาพบว่าหากเด็กมีพัฒนาการด้านการพูดและการสื่อสารที่ช้าหรือผิดปกติจะส่งผลเสียต่อพัฒนาการด้านอื่นไปด้วย เช่น พัฒนาการด้านสติปัญญา, พัฒนาการด้านอารมณ์และทักษะการเข้าสังคม
•
อ้างอิงข้อมูลจาก www.uptodate.com ปี 2022 ในหัวข้อ
"Indications for speech and language evaluation in children"
หรือ "ข้อบ่งชี้ในการพาเด็กไปตรวจประเมินด้านการพูดและการใช้ภาษา"
พบว่าสัญญาณเตือนที่ควรพาลูกมาประเมินกับผู้เชี่ยวชาญพัฒนาการเด็ก มีดังนี้
1. มีความกังวลในเรื่องพัฒนาการด้านการพูดและการใช้ภาษาทั้งจากพ่อแม่, ผู้ปกครอง, ครู หรือ คนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับเด็ก
2. พูดช้าเมื่อเทียบกับเด็กวัยเดียวกันหรือมีการหยุดชะงักของพัฒนาการ
3. ยังน้ำลายไหล ไม่สมวัย
4. มีปัญหาการดูด การเคี้ยว หรือการกลืน
5. มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวของริมฝีปาก ลิ้น หรือขากรรไกร
6. ที่อายุ 9 เดือน ไม่ส่งเสียงอ้อแอ้
7. ที่อายุ 15 เดือน ไม่พูดคำแรก
8. ที่อายุ 18 เดือน ไม่มีคำพูดที่มีความหมายที่เข้าใจได้
9. ที่อายุ 24 เดือน ไม่พูดคำ 2 พยางค์ติดกัน
10. ที่อายุ 24 เดือน พ่อแม่ ผู้ปกครอง ฟังเด็กพูดแล้วไม่ค่อยเข้าใจ
11. ที่อายุ 36 เดือน คนอื่นฟังเด็กพูดแล้วไม่ค่อยเข้าใจ
12. มีพูดติดอ่าง
13. เด็กมีความกังวล ยุ่งยากใจเกี่ยวกับปัญหาการพูดของตัวเอง
14. เด็กโดนเพื่อนล้อเรื่องการพูด
15. เด็กหลบเลี่ยงการพูด
16. เด็กมีคำศัพท์ที่จะใช้พูด แต่ไม่ได้ใช้คำศัพท์นั้นในการสื่อสารกับคนอื่นให้เข้าใจได้
17. การใช้ภาษามีความสับสนและผิดปกติ ไม่สามารถสื่อสารแสดงความคิดได้อย่างชัดเจน
18. เด็กไม่สามารถทำตามคำสั่งได้โดยไม่ใช้กิริยาท่าทางแนะให้เด็กเห็นแล้วจึงเข้าใจคำสั่ง
19. สูญเสียพัฒนาการทางภาษาไป
20. ที่อายุ 5-6 ปี เด็กมีความจำไม่ดี ลืมง่าย ได้หน้าลืมหลัง
•
ทั้ง 20 ข้อนี้ก็เป็นข้อสังเกตให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง นำไปใช้สังเกตและติดตามพัฒนาการด้านการพูดและภาษาของลูกหลานนะคะ
•
และอย่างที่บอกไว้ข้างต้น หากมีความผิดปกติตามนี้ข้อใดข้อหนึ่งก็ควรจะปรึกษากุมารแพทย์ที่ดูแลเด็กอยู่ เพราะโดยทั่วไปเด็กๆจะได้รับวัคซีนและมีการตรวจประเมินพัฒนาการตามช่วงวัยที่มารับวัคซีนกันอยู่แล้ว หากพ่อแม่ ผู้ปกครองมีข้อสงสัยใดๆ อย่าเก็บไว้ในใจ ควรรีบหยิบยกขึ้นมาถามเจ้าหน้าที่พยาบาลหรือแพทย์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนของปัญหาจะดีที่สุด
ในทางพัฒนาการเด็ก จะมีวลีที่กล่าวไว้ว่า
"Early detection, early intervention"
ซึ่งหมายถึง ภาวะทางพัฒนาการเด็ก ยิ่งรู้เร็ว และได้รับการกระตุ้นเร็ว จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

ด้วยความห่วงใย
หมอปุ๊ก
พญ.ดวงรัตน์ วังเกล็ดแก้ว

-------------------------------
*คลินิกเด็กประสานมิตรมีบริการ #ประเมินพัฒนาการเด็ก #ประเมินสมาธิเด็ก #ประเมินทักษะทางอารมณ์และสังคม เด็กอายุ 2 -8 ปี โดย #นักจิตวิทยาพัฒนาการ พร้อมรับคำแนะนำในการเลี้ยงดูที่ช่วยกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการ เพิ่มสมาธิเพื่อให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ เติบโตอย่างที่ได้รับการเติมเต็มศักยภาพ

@คำถาม :
#เด็กลักษณะไหนสมควรได้รับการประเมินพัฒนาการแบะสมาธิ
@คำตอบ :
เด็กทุกคนในทุกช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิด - 8 ปี ควรได้รับการประเมินพัฒนาการและสมาธิอย่างน้อย 1 ครั้ง และติดตามประเมินต่อเนื่องตามช่วงวัย เพื่อที่คุณพ่อคุณแม่จะได้ทราบระดับพัฒนาการของลูกน้อยว่ามีพัฒนาการสมวัย/พัฒนาการช้า หรือมีพัฒนาการเร็วด้านไหน
*
@ #ทำไมพ่อแม่ต้องรู้ระดับพัฒนาการของลูก?
คำตอบคือ พ่อแม่จะได้เข้าใจและวางแผนการเลี้ยงดูให้เหมาะสมกับระดับพัฒนาการ จะได้รู้ว่าลูกเรามีพัฒนาการด้านไหนที่จะต้องกระตุ้นเพิ่ม ตรงไหนที่ดีแล้วและต้องส่งเสริมต่อไป หรือตรงไหนที่เริ่มเป็นปัญหา จะได้เข้าไปแก้ไขให้ลูกน้อยแต่เนิ่นๆ ไม่ปล่อยปัญหาไว้

@เด็กยิ่งโต ยิ่งกระตุ้นพัฒนาการให้ขึ้นยากค่ะ
"เพราะสมองลูกจะพัฒนาเติบโตมากที่สุดในชีวิต
คือช่วงตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของคุณแม่จนถึงอายุ 6 ปี"
และนี่คือเวลาทองของชีวิตลูกค่ะ

"เรื่องพัฒนาการเด็ก ยิ่งใส่ใจ ส่งเสริมในช่วงวัยนี้
ยิ่งได้ผลดี เพราะสมองเรียนรู้เร็วที่สุด"

*หากต้องการให้ลูกน้อยเข้ารับการประเมินพัฒนาการรวมถึงรับคำแนะนำเรื่องแนวทางการเลี้ยงดูลูกให้มีพัฒนาการและสมาธิดีเยี่ยมสมวัย ลูกเติบโตขึ้นไปอย่างมีไอคิว อีคิวที่ดี มีทักษะจัดการอารมณ์และสังคมสมวัย สามารถแสกน qr code แอดไลน์จากในเพจ หรือแอดไลน์ไอดี เป็นเพื่อนกับคลินิกเด็กประสานมิตรเพื่อติดต่อนัดหมายกับแอดมินเพจ หรือจะสอบถามโดยตรงได้ที่คลินิกเด็กประสานมิตร เบอร์ 02-3278152 เวลา 13.00-20.00 น. ทุกวัน เว้นวันพุธ คลินิกปิดทำการค่ะ

ด้วยความปรารถนาดี
แอดมินเพจ หมอปุ๊ก for kids and family

📍Contact us

🚩พ่อแม่และผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานเข้ารับการตรวจประเมินพัฒนาการเรื่องการพูดและการสื่อสาร ตรวจภาวะออทิสติก หรือตรวจวินิจฉัยโรคสมาธิสั้น สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางการสื่อสารดังต่อไปนี้

1. โทร. 02 3278152 (ทุกวันตั้งแต่เวลา 12:00 - 20:00 น. ยกเว้นวันพุธคลินิกปิดทำการ)

2. สอบถามได้ที่ คลินิกเด็กประสานมิตร เพียงคลิก https://page.line.me/prasarnmitkids

🚩คลินิกเด็กประสานมิตร ตั้งอยู่บนใกล้ตลาดวีร์มาร์เก็ต ถนนฉลองกรุง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ

🏁เดินทางโดยใช้ Google Map เพียงคลิก 😀 https://maps.app.goo.gl/RUSY4UcmeYGfKSUM9

#คลินิกเด็กประสานมิตร
#หมอปุ๊กforkidsandfamily
#เด็กสมาธิสั้น #รักษาเด็กสมาธิสั้น #คลินิกรักษาเด็กสมาธิสั้น #สงสัยว่าลูกเป็นสมาธิสั้น
#เด็กไฮเปอร์ #เด็กซน #ยาสมาธิสั้น #เลี้ยงลูกสมาธิสั้น #เลี้ยงลูกซนสมาธิสั้น
#เด็กพูดช้า #พัฒนาการภาษา #พัฒนาการด้านการพูด #วิธีสังเกตเด็กพูดช้า #การสื่อสารผิดปกติ #ลูกพูดช้า #ฝึกพูด #คลินิกกระตุ้นพัฒนาการ #คลินิกเด็กประสานมิตร

06/11/2025

วัคซีนป้องกันโรคร้าย ไอพีดีในเด็ก
ทางเลือกใหม่ การป้องกันที่คุ้มค่า
ครอบคลุม 13 สายพันธุ์ที่พบมากในเด็กไทย พร้อมผลการศึกษายืนยัน…

✅ ป้องกันได้ถึง 13 สายพันธุ์ ของเชื้อก่อโรค ไอพีดี
✅ ภูมิขึ้นดีทุกสายพันธุ์ มีความปลอดภัย
✅ ราคาย่อมเยากว่า

🩺 ปรึกษาคุณหมอเพื่อวัคซีนป้องกันลูกน้อยวันนี้ ในราคาที่ทุกครอบครัวเข้าถึงได้
ด้วยความห่วงใย
แอดมินเพจ หมอปุ๊ก for kids and family

01/11/2025

แอดมินนำตัวอย่างข้อมูลอาการและพฤติกรรมของเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น ที่ผู้ปกครองที่พาลูกมารักษาโรคกับทาง #คลินิกเด็กประสานมิตร มาฝากคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ
โดยตัวอย่างเคสนี้เป็นกรณีที่ครูที่โรงเรียนแจ้งกับผู้ปกครองว่าเด็กไม่มีสมาธิในการเรียน ลุกเดินไปมา วอกแวกง่ายตามสิ่งเร้าภายนอก โดยครูได้แนะนำให้ผู้ปกครองพาเด็กมาปรึกษาแพทย์ และผู้ปกครองก็เปิดใจยินดีทำตามคำแนะนำของคุณครูจนเด็กได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป

แอดมินขอนำข้อมูล #หลักเกณฑ์การวินิจฉัยโรคสมาธิสั้น ( ) ตามเกณฑ์ DSM-5 มาฝากผู้ปกครอง ดังนี้
การวินิจฉัยโรคจะพิจารณาจากอาการขาดสมาธิ หรืออาการซน/หุนหันพลันแล่น ซึ่งต้องมีอาการอย่างน้อย 6 อาการจากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง (หรือทั้งสองกลุ่มสำหรับผู้ใหญ่อายุ 17 ปีขึ้นไป)

โดยอาการต้องเกิดขึ้นอย่างน้อย 2 สถานที่ เช่น บ้านและโรงเรียน และในกิจกรรมอื่นๆ
-อาการเกิดขึ้นก่อนอายุ 12 ปี และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในด้านสังคม การศึกษา หรือการทำงานอย่างชัดเจน

ลักษณะอาการ
โรคสมาธิสั้น (ADHD) ตามเกณฑ์การวินิจฉัย DSM-5 ของสมาคมจิตแพทย์อเมริกัน ประกอบด้วย 3 กลุ่มอาการหลัก คือ
1. อาการขาดสมาธิ (inattention)
2. อาการซน อยู่ไม่นิ่ง (hyperactivity)
3. อาการหุนหันพลันแล่น (impulsiveness)
ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

-อาการขาดสมาธิ (inattention) แสดงออกให้เห็นอย่างน้อย 6อาการ จาก 9 อาการ ดังนี้
1. ละเลยในรายละเอียด หรือทำผิดด้วยความเลินเล่อ
2. มีความยากลำบากในการตั้งสมาธิ 3. ดูเหมือนไม่ฟังเมื่อมีคนพูดด้วย
4. ทำตามคำสั่งไม่จบ หรือทำกิจกรรมไม่เสร็จ
5. มีความยากลำบากในการจัดระเบียบงานหรือกิจกรรม
6. หลีกเลี่ยงที่จะทำกิจกรรมที่ต้องใช้ความพยายาม
7. ทำของหายบ่อย
8. มักวอกแวกง่าย ตามสิ่งเร้าภายนอก
9. มักลืมกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำสม่ำเสมอ

-อาการซน อยู่ไม่นิ่ง (hyperactivity) และอาการหุนหันพลันแล่น (impulsiveness) แสดงออกให้เห็นอย่างน้อย 6อาการ จาก 9 อาการ ดังนี้
1. ยุกยิก ขยับตัวไปมา
2. นั่งไม่ติดที่ มักต้องลุกเดินไปมา
3. มักวิ่งวุ่น หรือปีนป่าย ในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม
4. ไม่สามารถเล่นเงียบ ๆ ได้
5. เคลื่อนไหวไปมา คล้ายติดเครื่องยนต์ตลอดเวลา
6. พูดมากเกินไป
7. พูดโพล่งขึ้นมา ก่อนถามจบ
8. มีความยากลำบากในการรอคอย
9. ขัดจังหวะ หรือสอดแทรกผู้อื่น ในวงสนทนาหรือในการเล่น

อาการดังกล่าวข้างต้น เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับระดับอายุและพัฒนาการ อาการคงอยู่อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 6 เดือน และส่งผลรบกวนหรือลดคุณภาพในการเรียน การเข้าสังคม หรือการทำงานและการทำกิจกรรม

นอกจากนี้ โรคสมาธิสั้น ยังแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ
1. แบบอาการเด่นชัดด้านขาดสมาธิ
2. แบบอาการเด่นชัดด้านซน อยู่ไม่นิ่ง และหุนหันพลันแล่น
3. แบบผสม

#แนวทางการดูแลรักษา
การดูแลเด็กสมาธิสั้น ต้องอาศัยความร่วมมือกันจากหลายฝ่าย ทั้ง คุณครู หมอ พ่อแม่ ช่วยกันประคับประคองจิตใจ ให้เด็กสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ยับยั้งควบคุมตนเองได้มากขึ้น มีสมาธิจดจ่ออยู่กับกิจกรรมที่ทำได้นานขึ้น และมีสุขภาพจิตที่ดี

แนวทางการดูแลรักษาเด็กสมาธิสั้น ประกอบด้วย
•การรักษาด้วยยา
•การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม
•การดูแลด้านจิตใจ
และการช่วยเหลือด้านการเรียน

นอกจากข้างต้นแล้ว การส่งเสริมกิจกรรมนันทนาการและเสริมสร้างทักษะ เช่น ดนตรี กีฬา และศิลปะ สามารถช่วยให้เด็กมีพื้นที่ในการเรียนรู้และแสดงออกมากขึ้น เสริมสร้างความภาคภูมิใจ และเด็กได้ปลดปล่อยพลังงานส่วนเกินออกในทางที่สร้างสรรค์ กิจกรรมเหล่านี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาสมาธิสั้นได้โดยตรง แต่ช่วยเสริมในการดูแลรักษาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

หากผู้ปกครองท่านใดที่กำลังสงสัยว่าบุตรหลานของท่านควรมาพบแพทย์เพื่อหาแนวทางการแก้ไข หรือเพื่อทำการรักษาอย่างต่อเนื่องหรือไม่ สามารถพิจารณาจากข้อมูลข้างต้นที่แอดมินนำมาฝากได้เลยค่ะ

ด้วยความปรารถนาดี
แอดมินเพจ หมอปุ๊ก for kids and family

📍Contact us
🚩พ่อแม่และผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานเข้ารับการตรวจประเมินและวินิจฉัยอาการของโรคสมาธิสั้น สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางการสื่อสารดังต่อไปนี้

1. โทร. 02 3278152 (ทุกวันตั้งแต่เวลา 12:00 - 20:00 น. ยกเว้นวันพุธคลินิกปิดทำการ)

2. สอบถามได้ที่ คลินิกเด็กประสานมิตร เพียงคลิก http://page.line.me/prasarnmitkids

🚩คลินิกเด็กประสานมิตร ตั้งอยู่บนใกล้ตลาดวีร์มาร์เก็ต ถนนฉลองกรุง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ

🏁เดินทางโดยใช้ Google Map เพียงคลิก 😀 https://maps.app.goo.gl/RUSY4UcmeYGfKSUM9

#โรคสมาธิสั้น #การวินิจฉัยโรคสมาธิสั้น #รักษาสมาธิสั้น #คลินิกรักษาสมาธิสั้น #สงสัยลูกสมาธิสั้น #สมาธิสั้น

16/10/2025

แอดมินนำรีวิวของผู้ปกครองที่พาลูกมารักษาโรคสมาธิสั้นกับทางคลินิกเด็กประสานมิตรมาฝากผู้ปกครองทางแฟนเพจหมอปุ๊กกันค่ะ

ไม่มีผู้ปกครองท่านใดต้องการให้บุตรหลานของท่านเป็นโรคสมาธิสั้นหรือมีความผิดปกติทางพัฒนาการในด้านอื่นๆ แต่หากเรามีความรู้ ความเข้าใจ และเมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติของพฤติกรรมเด็ก และพาลูกหลานเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเด็ก เพื่อที่เด็กจะได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องและทันเวลา ก็จะทำให้ลูกสามารถพัฒนาตัวเองไปสู่ศักยภาพที่ควรจะเป็นของเขาค่ะ

วันนี้แอดมินจึงขอนำข้อมูลเกี่ยวกับโรคสมาธิสั้นมาฝากผู้ปกครองเพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับโรคสมาธิสั้นมากขึ้นค่ะ

#โรคสมาธิสั้น Attention-Deficit/Hyperactivity Disorder ( ) เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของการทำงานของสมอง โดยเฉพาะสมองส่วนหน้า
ลักษณะอาการที่สังเกตเห็น คือ
-ขาดสมาธิ ไม่มีสมาธิจดจ่อในการทำงาน
-ขาดความละเอียดรอบคอบทำงานหรือทำการบ้านไม่เสร็จ
-วอกแวกง่าย
-หลงลืมบ่อย
-ยุกยิก อยู่ไม่นิ่ง
-วิ่งหรือปีนป่ายในสถานการณ์ หรือสถานที่ที่ไม่เหมาะสม
-หุนหันพลันแล่น
-ทำอะไรเงียบๆไม่ได้ ชอบส่งเสียงดัง
-พูดมาก พูดไม่หยุด
-พูดแทรก โพล่งคำตอบโดยไม่รอให้ถามจบ ใจร้อน
และไม่ทนต่อการรอคอย

ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลกระทบต่อการเรียน การทำงานและการเข้าสังคมในปัจจุบันและอนาคต

*โดยอาการจะพบก่อนเด็กอายุ12 ปี และอาการต้องเกิดอย่างน้อย 2 แห่ง เช่น ที่บ้าน ที่โรงเรียน เป็นต้น เด็กคนนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นโรคสมาธิสั้น ซึ่งจำเป็นต้องส่งตรวจทางการแพทย์ต่อไป*

หากผู้ปกครองท่านใดที่กำลังสงสัยว่าบุตรหลานของท่านควรมาพบแพทย์เพื่อหาแนวทางการแก้ไข หรือเพื่อทำการรักษาอย่างต่อเนื่องหรือไม่ สามารถพิจารณาจากข้อมูลข้างต้นที่แอดมินนำมาฝากได้เลยค่ะ

📍Contact us

🚩พ่อแม่และผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานเข้ารับการตรวจประเมินและวินิจฉัยอาการของโรคสมาธิสั้น สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางการสื่อสารดังต่อไปนี้

1. โทร. 02 3278152 (ทุกวันตั้งแต่เวลา 12:00 - 20:00 น. ยกเว้นวันพุธคลินิกปิดทำการ)

2. สอบถามได้ที่ คลินิกเด็กประสานมิตร เพียงคลิก https://page.line.me/prasarnmitkids

🚩คลินิกเด็กประสานมิตร ตั้งอยู่บนใกล้ตลาดวีร์มาร์เก็ต ถนนฉลองกรุง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ

🏁เดินทางโดยใช้ Google Map เพียงคลิก 😀 https://maps.app.goo.gl/RUSY4UcmeYGfKSUM9

ด้วยความปรารถนาดีจากแอดมินเพจ หมอปุ๊ก for kids and family

#รักษาโรคสมาธิสั้น #คลินิกเด็กประสานมิตร #โรคสมาสั้น #เด็กซนอยู่ไม่นิ่ง #เด็กสมาธิสั้น #คลินิกรักษาโรคสมาธิสั้น

16/10/2025

🥰👩‍⚕️คุณพ่อคุณแม่รู้ไหมคะว่าพัฒนาการทางภาษาของเด็กเป็นสิ่งที่เด็กต้องเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมซึ่งเกิดจากการเลี้ยงดู ไม่ใช่ว่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ยิ่งในเด็กที่มีพัฒนาการทางภาษาล่าช้าหรือผิดปกติ เช่น #เด็กพูดช้า , #เด็กออทิสติก หรือเด็กพูดได้ก็จริงแต่พูดได้น้อยไม่สมวัย หรือเด็กไม่ค่อยสนใจฟังเวลาคนคุยด้วย ก็ยิ่งต้องการการกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการทางภาษามากกว่าเด็กปกติ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่และผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิด เด็ก จึงเป็นคนสำคัญในการกระตุ้น ส่งเสริมและช่วยเหลือให้เด็กมีพัฒนาการทางภาษาที่ปกติ สมวัย โดยต้อฃส่งเสริมทั้งเรื่องความเข้าใจภาษา การใช้ภาษาท่าทาง และการพูด

•โดยในระยะแรกที่เด็ก ยังไม่เริ่มพูด ถ้าเด็กยังมีความสามารถในการฟังและเข้าใจภาษาไม่สมวัย ควรเริ่มต้น ฝึกให้เด็กรู้จักหัดฟัง มีสมาธิ ตั้งใจฟังคำพูดของเรา ให้ฝึกทำตามคำสั่งง่าย ๆ ฝึกให้เด็กรู้จักสนใจทำเลียนแบบให้ได้ก่อนที่จะข้ามไปฝึกให้เด็กพูดตาม

วันนี้ มาดูคำแนะนำที่คุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ใหญ่ใกล้ชิดสามารถช่วยกระตุ้นและส่งสริมพัฒาการด้านภาษาให้กับลูกหลานที่บ้านได้ค่ะ

1. #พูดในสิ่งที่เด็กกำลังสนใจอยู่ ทำอย่าฃสม่ำเสมอในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยให้เด็กเรียนรู้ภาษาจากสิ่งรอบตัว
ซึ่งการเรียนรู้นั้นจะเกิดขึ้นได้ดีเมื่อเสียงที่ได้ยินตรงกับสิ่งที่เด็กกำลังให้ความสนใจอยู่ เช่น เมื่อเด็กกำลังกินอาหาร พ่อหรือแม่คุยบรรยายลักษณะอาหารนั้น ให้เน้นคำบางคำ ที่เป็นเสียงที่คิดว่าเด็กจะสนใจฟังและออกเสียงได้ "น้ำ" "ดื่มนม" "ตักข้าว" เป็นต้น

2. #ฝึกให้เด็กทำตามคำสั่ง โดยในช่วงแรกถ้าเด็กไม่ยอมทำ ให้พ่อแม่จับมือเด็กทำ พร้อมกับพูดไปด้วย เพื่อช่วยให้เด็กเข้าใจในสิ่งที่พ่อแม่พูด เช่น "ใช้ช้อนตักข้าว" "ยกแก้วน้ำ ดื่ม"

3. #ในเด็กที่กำลังหัดพูดเด็กหลายคนมีภาษาเด็กๆซึ่งฟังไม่รู้เรื่อง ให้พ่อแม่พยายามคาดเดาว่า เด็กหมายความว่าอย่างไร หรือต้องการอะไร แล้วพูดแทนเด็ก เพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ภาษาพูดที่ใช้ในการสื่อความหมายได้อย่างถูกต้อง เช่น "หนูอยากไปกับแม่" "หนูอยากได้รถไฟสีแดง"

4. #พยายามให้เด็กออกเสียงคำต่างๆ ที่มีเสียงพยัญชนะ ที่เด็กพูดได้ โดยในระยะเริ่มแรก ได้แก่เสียง พยัญชนะ "ม", "พ", "บ", "ป" เป็นต้น อาจจะให้เด็กพูดตามเเพื่อเลียนแบบ จนในที่สุดสามารถพูดได้เองอย่างถูกต้อง

5. #ในเด็กเล็กต่ำกว่า 3 ปี ควรงดหน้าจอ ในเด็กวัยอนุบาล ให้เวลาในการดูหน้าจอตามลำพังของเด็กไม่เกิน 30 นาที/วัน เพราะเด็กเรียนรู้ภาษาจากหน้าจอได้ไม่ดีเท่ากับการได้พูดคุยกับพ่อแม่ หรือผู้ใหญ่ใกล้ชิดผ่านการใช้ชีวิตประจำวัน

6. #ควรพูดคุยและเล่นกับเด็กให้มาก ให้เด็กมองหน้าสบตา สอนคำศัพท์ต่างๆ เช่น ฝึกชี้และบอกชื่ออวัยวะ ฝึกชี้รูปภาพ และบอกชื่อรูปภาพต่าง ๆ ระหว่างการอ่านนิทาน การเล่นกับลูก การทำกิจวัตรประจำวัน

ลองนำไปใช้กับลูกหลานที่บ้านดูนะคะ น่าจะทำให้เด็กๆมีพัฒนาการด้านภาษาและการสื่อสารที่ดีสมวัย
แต่หากพ่อแม่ ผู้ปกครองมีความกังวลใจเรื่องพัฒนาการด้านภาษาหรือการสื่อสาร หรือทักษะทางสังคมของลูกน้อย สามารถเข้ารับการประเมินพัฒนาการด้านการพูด การสื่อสาร และทักษะทางสังคม กับนักจิตวิทยาพัฒนาการที่คลินิกเด็กประสานมิตรได้ค่ะ

📍Contact us
🚩พ่อแม่และผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานเข้ารับการตรวจประเมินพัฒนาการด้านการพูด การสื่อสาร และทักษะทางสังคม สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

1. โทร. 02 3278152 (ทุกวันตั้งแต่เวลา 12:00 - 20:00 น. ยกเว้นวันพุธคลินิกปิดทำการ)

2. สอบถามได้ที่ คลินิกเด็กประสานมิตร เพียงคลิก https://page.line.me/prasarnmitkids

🚩คลินิกเด็กประสานมิตร ตั้งอยู่บนใกล้ตลาดวีร์มาร์เก็ต ถนนฉลองกรุง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ

🏁เดินทางโดยใช้ Google Map เพียงคลิก 😀 https://maps.app.goo.gl/RUSY4UcmeYGfKSUM9

14/10/2025

#วัคซีนป้องกันโรคร้าย #ไอพีดีในเด็ก PCV13 ทางเลือกใหม่ การป้องกันที่คุ้มค่า
ครอบคลุม 13 สายพันธุ์ที่พบมากในเด็กไทย พร้อมผลการศึกษายืนยัน…

✅ ป้องกันได้ถึง 13 สายพันธุ์ ของเชื้อก่อโรค ไอพีดี
✅ ภูมิขึ้นดีทุกสายพันธุ์ มีความปลอดภัย
✅ ราคาย่อมเยากว่า

🩺 ปรึกษาคุณหมอเพื่อวัคซีนป้องกันลูกน้อยวันนี้ ในราคาที่ทุกครอบครัวเข้าถึงได้

ด้วยความห่วงใย
แอดมินเพจ หมอปุ๊ก for kids and family

📍Contact us

🚩พ่อแม่และผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานเข้ารับวัคซีนป้องกันเชื้อไอพีดี 13 สายพันธุ์ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางการสื่อสารดังต่อไปนี้

1. โทร. 02 3278152 (ทุกวันตั้งแต่เวลา 12:00 - 20:00 น. ยกเว้นวันพุธคลินิกปิดทำการ)

2. สอบถามได้ที่ คลินิกเด็กประสานมิตร เพียงคลิก https://page.line.me/prasarnmitkids

🚩คลินิกเด็กประสานมิตร ตั้งอยู่บนใกล้ตลาดวีร์มาร์เก็ต ถนนฉลองกรุง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ

🏁เดินทางโดยใช้ Google Map เพียงคลิก 😀 https://maps.app.goo.gl/RUSY4UcmeYGfKSUM9

13/10/2025

#ลูกไม่กล้าบอกความต้องการหรือความรู้สึกตัวเอง ควรทำอย่างไร

คำถามนี้มาจากผู้ปกครองท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นอีกปัญหาที่พบบ่อยมากในเด็กหลายคนเลยค่ะ การที่ลูกไม่กล้าพูดความต้องการหรือความรู้สึกตัวเอง อาจมาจากความไม่มั่นใจ กลัวถูกตำหนิ หรือยังไม่คุ้นเคยกับการสื่อสารความต้องการและความรู้สึกอย่างปลอดภัย

สิ่งที่พ่อแม่สามารถช่วยได้ คือการสร้าง “พื้นที่ปลอดภัยทางใจ” และสอนทักษะการสื่อสารความต้องการ และความรู้สึก อย่างค่อยเป็นค่อยไป

หมอมีคำแนะนำในการช่วยให้ลูกกล้าสื่อสารความรู้สึกและความต้องการของตัวเอง ดังนี้
1. #พ่อแม่เป็นตัวอย่างที่ดี
พ่อแม่ควรแสดงออกความรู้สึกของตนเองอย่างเหมาะสม
เช่น “แม่รู้สึกดีใจมากที่หนูช่วยเก็บของเล่น” หรือ “วันนี้แม่เหนื่อยนิดหน่อย เลยอยากพักสักแป๊บนะ”
เด็กจะเรียนรู้ว่า การพูดถึง ความรู้สึก เป็นเรื่องปกติ

2. #ให้ความสำคัญกับการฟัง

เวลาเขาพูด แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ ก็ควรตั้งใจฟัง ไม่รีบตัดสิน

3. #ใช้น้ำเสียงอ่อนโยนและสบตา เพื่อให้เด็กรู้สึกว่า “สิ่งที่เขาพูดมีค่า”

4. #ใช้คำถามปลายเปิดในการคุยกับลูก

แทนที่จะถามว่า “ชอบไหม” (ตอบแค่ใช่/ไม่) ลองถามว่า “ลูกคิดยังไงกับสิ่งนี้” หรือ “หนูอยากให้เป็นแบบไหน”
คำถามปลายเปิดจะช่วยกระตุ้นให้เด็กได้ฝึกพูดอธิบายความคิดและความรู้สึกได้

5. #ให้เด็กได้เลือกเอง เล็ก ๆ น้อย ๆ

เช่น เลือกเสื้อผ้าใส่เอง เลือกว่าจะกินผลไม้ชนิดไหน เลือกว่าจะอ่านหนังสือเล่มไหน

ทำให้เขารู้สึกว่าความเห็นตัวเองมีคุณค่า

6. #ยืนยันความรู้สึกของลูก (Validation)

แม้จะไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรม แต่ควรยอมรับความรู้สึก เช่น “แม่เข้าใจนะว่าหนูโกรธที่ไม่ได้เล่นต่อ”
"หนูเสียใจที่หนูไม่ได้ไปกับคุณพ่อ"

สิ่งนี้ช่วยให้เขารู้ว่าการมีอารมณ์ไม่ผิด การเกิดความรู้สึกเป็นเรื่องธรรมชาติ

7. #ฝึกการสื่อสารเชิงบวก

ใช้เกม บัตรคำรูปภาพ หรือการเล่านิทานให้ลูกฝึกบอกว่า “ถ้าเป็นตัวละครนี้ หนูจะรู้สึกยังไง”

8. #ทำให้การพูดความรู้สึกเป็นเรื่องสนุกและปลอดภัย

เสริมกำลังใจทุกครั้งที่ลูกกล้าแสดงออก

9. #ชมเชยอย่างเฉพาะเจาะจง เช่น “แม่ดีใจที่หนูกล้าบอกว่าไม่ชอบแบบนั้น”

คำชมช่วยเสริมความมั่นใจให้กล้าพูดอีกครั้ง

"สิ่งสำคัญคือความสม่ำเสมอ "
เด็กจะค่อย ๆ กล้าเปิดใจมากขึ้น เมื่อมั่นใจว่าพ่อแม่รับฟังโดยไม่ตัดสิน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ คำแนะนำของหมอ ลองนำไปปรับใช้กับลูกดูนะคะ ลูกจะค่อยๆกล้าเปิดใจ บอกความต้องการและความรู้สึกได้ดีขึ้นค่ะ

ด้วยความห่วงใย
พญ. ดวงรัตน์ วังเกล็ดแก้ว
--------------------------------------------
📍Contact us

🚩พ่อแม่และผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานเข้ารับการตรวจประเมินและวินิจฉัยอาการของโรคสมาธิสั้น หรือตรวจประเมินพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก ที่คลินิกเด็กประสานมิตร สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางการสื่อสารดังต่อไปนี้

1. โทร. 02 3278152 (ทุกวันตั้งแต่เวลา 12:00 - 20:00 น. ยกเว้นวันพุธคลินิกปิดทำการ)

2. สอบถามได้ที่ คลินิกเด็กประสานมิตร เพียงคลิก https://page.line.me/prasarnmitkids

🚩คลินิกเด็กประสานมิตร ตั้งอยู่บนใกล้ตลาดวีร์มาร์เก็ต ถนนฉลองกรุง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ

🏁เดินทางโดยใช้ Google Map เพียงคลิก 😀 https://maps.app.goo.gl/RUSY4UcmeYGfKSUM9

10/10/2025

#เด็กสมาธิสั้น โตขึ้นแล้ว หายได้เองหรือไม่ มาฟังคำตอบจาก #คุณหมอปุ๊ก กันค่ะ
แอดมินเพจ หมอปุ๊ก for kids and family

#โรคสมาธิสั้น #รักษาสมาธิสั้น #คลินิกเด็กประสานมิตร #เด็กซนไม่นิ่ง #ขาดสมาธิ #ไฮเปอร์

--------------------------------------------------
📍Contact us

🚩พ่อแม่และผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานเข้ารับการตรวจประเมินและวินิจฉัยอาการของโรคสมาธิสั้น สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางการสื่อสารดังต่อไปนี้

1. โทร. 02 3278152 (ทุกวันตั้งแต่เวลา 12:00 - 20:00 น. ยกเว้นวันพุธคลินิกปิดทำการ)

2. สอบถามได้ที่ คลินิกเด็กประสานมิตร เพียงคลิก https://page.line.me/prasarnmitkids

🚩คลินิกเด็กประสานมิตร ตั้งอยู่บนใกล้ตลาดวีร์มาร์เก็ต ถนนฉลองกรุง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ

🏁เดินทางโดยใช้ Google Map เพียงคลิก 😀 https://maps.app.goo.gl/RUSY4UcmeYGfKSUM9

ที่อยู่

คลินิกเด็กประสานมิตร 141 ถนนฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง
Bangkok
10520

เบอร์โทรศัพท์

+6623278152

เว็บไซต์

facebook.com

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ หมอปุ๊ก for kids and familyผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง หมอปุ๊ก for kids and family:

ชื่อ:

ที่อยู่อีเมล์:

ข้อความ:

ทางลัด

ที่อยู่
เบอร์โทรศัพท์
แจ้งเตือน
ติดต่อ การปฏิบัติ
อ้างสิทธิ์หรือรายงานรายการ

ต้องการให้ธุรกิจของคุณ การปฏิบัติ ขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง คลินิก ใน Bangkok?

แชร์

ประเภท

กุมารแพทย์

Our Story

เพจนี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจของหมอปุ๊กในการบอกต่อความรู้และประสบการณ์ที่ผ่านมาจากการทำงานดูแลรักษาเด็กๆ ได้ทำหน้าที่หมอเด็กดูแลรักษาเด็กที่มีปัญหาความเจ็บป่วยทางกาย และปัญหาทางจิตใจ นอกจากนี้แล้วหมอยังได้ดูแลเด็กที่มีปัญหาทางด้านพัฒนาการต่างๆ รวมไปถึงปัญหาการเลี้ยงดูและปัญหาครอบครัวที่ส่งผลกระทบมาถึงตัวเด็กในที่สุด

หมอหวังว่าสิ่งที่หมอจะคุยสื่อสารกันในเพจนี้ จะเป็นประโยชน์แก่คุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ที่สนใจ ได้นำไปปรับใช้กับลูกหลานและคนในครอบครัว เพื่อนำไปสู่สุขภาวะทางกายและใจที่สมบูรณ์ของทุกคนในบ้าน และโดยเฉพาะที่สำคัญ นั่นก็คือ เกิดผลดีต่อเด็กๆ ลูกๆหลานๆที่รักของพวกเราทุกคน ไม่มากก็น้อยนะคะ

ด้วยความปรารถนาดีจากหมอปุ๊กค่ะ😍

หมอปุ๊ก: