Diamond Pharmacy เพ็ชรรัตน์เภสัช

Diamond Pharmacy เพ็ชรรัตน์เภสัช ร้านยามาตรฐานใหม่ GPP ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 30 ปี

ไข่ถือว่า เป็นของคู่ครัวเลย แต่หลายครั้งที่ซื้อมา บางทีไข่ไก่ก็ยังมีขี้ไก่อยู่ แล้วเราต้องล้างก่อนแช่ตู้เย็นมั้ย เรามาไข...
09/12/2025

ไข่ถือว่า เป็นของคู่ครัวเลย แต่หลายครั้งที่ซื้อมา บางทีไข่ไก่ก็ยังมีขี้ไก่อยู่ แล้วเราต้องล้างก่อนแช่ตู้เย็นมั้ย เรามาไขคำตอบ คลายสงสัยกันดีกว่าครับ
โดยปกติแล้วไข่ไก่นั้น ไม่ควรนำไปล้าง เพราะการล้างไข่จะทำให้สารที่เคลือบเปลือกไข่ตามธรรมชาติหลุดออก และทำให้เชื้อโรคหรือเชื้อจุลินทรีย์ต่าง ๆ ผ่านรูพรุนบนเปลือกไข่เข้าไปในไข่ไก่ได้ง่ายขึ้น

เพราะสารที่เคลือบเปลือกไข่อยู่นั้นจะทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคทะลุผ่านรูพรุน

และก่อนที่ไข่ไก่จะมาถึงมือพวกเรานั้น ฟาร์มหรือโรงงานที่มีมาตรฐาน จะทำการทำความสะอาดอย่างถูกวิธีมาเรียบร้อยแล้ว
แต่ถ้าไม่สบายใจ ในกรณีที่ไข่ไก่เปื้อนขี้ไก่เยอะ ๆ เราก็สามารถทำความสะอาดก่อนนำเข้าตู้เย็นได้ โดยที่ใช้น้ำเปล่าอุณหภูมิ 32-48 องศาเซลเซียส ใช้ผ้าชุบบิดให้มาด ๆ แล้วเช็ดเบา ๆ โดยห้ามขัดหรือถูแรง ๆ แล้วหลังจากเช็ดให้ผึ่งลม หรือทำให้แห้งโดยเร็วที่สุด
ที่ต้องใช้น้ำอุ่นเช็ด เพราะน้ำอุ่นจะทำให้เปลือกไข่ขยายตัวและลดโอกาสที่เชื้อจะผ่านรูพรุนเข้ามาได้มากกว่าน้ำเย็น
และเวลาที่หยิบจับไข่ไก่ดิบให้ล้างมือทุกครั้ง และถ้าจะล้างไข่ไก่ก็ต้องมั่นใจว่า การทำความสะอาดจะไม่ทำให้พื้นอื่น ๆ หรือภาชนะอื่น ๆ ติดสิ่งสกปรกไปด้วย เพราะเปลือกผิวไข่ไก่ก็มีเชื้อแซลโมเนลลา
เพราะฉะนั้น อย่าลืมล้างมือทุกครั้งที่จับไข่ไก่ และไข่ไก่ก็ไม่ควรล้าง หากสกปรกก็สามารถทำตามวิธีข้างต้นได้

ข้อมูลจาก https://www.facebook.com/share/p/1Jt2AQuCc7/

เวลาที่เราร้องไห้แล้วจู่ ๆ น้ำตาไหลเข้าปาก เราก็จะรู้ว่า รสชาติของน้ำตาจะออกเค็มนิด ๆ แต่ทำไมถึงเค็ม และทำไมน้ำตาที่ไหลอ...
07/12/2025

เวลาที่เราร้องไห้แล้วจู่ ๆ น้ำตาไหลเข้าปาก เราก็จะรู้ว่า รสชาติของน้ำตาจะออกเค็มนิด ๆ แต่ทำไมถึงเค็ม และทำไมน้ำตาที่ไหลออกมาจากอารมณ์ที่ต่างกัน ถึงมีรสชาติที่ต่างกัน วันนี้เรามีคำตอบครับ
เวลาที่รู้สึกดีใจหรือเศร้าร่างกายก็จะผลิตน้ำตาออกมา และบางครั้งร่างกายก็สร้างน้ำตาออกมา เพื่อป้องกันฝุ่นละอองหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ดวงตา
แล้วทำไมน้ำตาถึงเค็ม?
โดยปกติ น้ำตาจะประกอบด้วย น้ำ ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักประมาณ 98% และมีสารอื่น ๆ อีก 2% อย่างเช่น เกลือโพแทสเซียม เกลือโซเดียม ทำให้น้ำตานั้นมีรสเค็มนิด ๆ ซึ่งความเค็มของน้ำตาก็ยังสามารถป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อโรคด้วย อีกทั้งในน้ำตามีเอนไซม์ไลโซไซม์ (Lysozyme) ซึ่งก็ช่วยไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ดวงตาด้วยเช่นกัน

และเมื่อต่างอารมณ์รสชาติของน้ำตาก็จะแตกต่างกัน
เพราะเมื่อเราเครียด แล้วร้องไห้ ร่างกายจะปล่อยฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมาด้วย ซึ่งทำให้แคลเซียมในกระแสเลือดเพิ่มมากขึ้นและลดการดูดซึมแคลเซียมในร่างกาย ทำให้เมื่อเราร้องไห้เพราะเครียด น้ำตาก็จะมีความเค็ม

แต่ถ้าร้องไห้ด้วยความดีใจ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเอ็นโดรฟิน (Endorphin) ออกมา ทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลลดลง น้ำตาจากความดีใจเลยไม่ค่อยเค็มเท่าไหร่
และถ้าใครอยากดูแลดวงตา #เพ็ชรรัตน์แนะนำ NEOCA Lutein Complex ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา เสริมประสิทธิภาพในการมองเห็น ช่วยปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้า ช่วยการมองเห็นในที่ที่มีแสงน้อยหรือตอนกลางคืน

ข้อมูลจาก https://www.trueplookpanya.com/dhamma/content/73088

เคยสงสัยกันมั้ยครับว่า ทำไมเราถึงมีน้ำมูกถึงมีหลายสี บางทีสั่งออกมาก็เป็นสีใส ๆ ปกติ แต่บางทีก็เป็นไข้เป็นสีเขียว แล้วแต...
25/11/2025

เคยสงสัยกันมั้ยครับว่า ทำไมเราถึงมีน้ำมูกถึงมีหลายสี บางทีสั่งออกมาก็เป็นสีใส ๆ ปกติ แต่บางทีก็เป็นไข้เป็นสีเขียว แล้วแต่ละสีแตกต่างกันอย่างไร วันนี้มาดูกันครับ

ทำความรู้จักกับน้ำมูก
ในระบบทางเดินหายใจและทางเดินอาหารของคน จะมีเยื่อบุ ซึ่งจะมีต่อมสร้างน้ำมูก เมือก หรือเสมหะ ไม่ว่าจะเป็นจมูก ไซนัส โพรงหลังจมูก ช่องปาก ช่องคอ กล่องเสียง หลอดลม ซึ่งจะเป็นน้ำมูก เมือก หรือเสมหะ ที่ทำหน้าที่ปกป้องอวัยวะภายใต้เยื่อบุจากสารพิษ สิ่งแปลกปลอม หรือสารระคายเคืองต่าง ๆ ทำให้อวัยวะเหล่านี้ มีความชื้นตลอดเวลา ถ้าหากไม่ชุ่มชื้น เยื่อบุที่คลุมอวัยวะต่าง ๆ แห้ง ก็จะทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงขึ้น โดยน้ำมูกจะทำหน้าที่ ดักจับสิ่งต่าง ๆ ที่ปนมากับลมหายใจ เช่น ไรฝุ่น ละอองเกสร หรือสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ หรือแม้แต่ ควัน ฝุ่น เชื้อโรค น้ำมูกก็จะทำหน้าที่ดักจับและขับออก ซึ่งในน้ำมูกยังมีสารต่อต้านเชื้อโรคอีกด้วย

ทำไมน้ำมูกถึงมีหลายสี
สีของน้ำมูกที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเพราะว่า มันขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อโรคหรืออาการของโรคนั้น ๆ
- น้ำมูกสีใส ถือว่าเป็นสีน้ำมูกปกติ ไม่ได้เป็นสัญญาณของโรคร้ายอะไร แต่ร่างกายผลิตออกมา เพื่อล้างสิ่งปกปรกหรือฝุ่นออกจากจมูก แต่หากมีมากเกินไปอาจจะเป็นสัญญาณของโรคภูมิแพ้ หรือบางคนเป็นไข้หวัดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็มีน้ำมูกสีใสได้
- น้ำมูกสีขาว หากน้ำมูกมีลักษณะเหนียว ขาวขุ่น นั่นอาจเป็นเพราะว่า น้ำมูกถูกขังอยู่ในโพรงจมูกนานจากเยื่อบุจมูกบวม ส่วนใหญ่ก็จะมาจากอาการภูมิแพ้ โพรงจมูกบวม หรือเกิดการอักเสบจากเชื้อไวรัส

- น้ำมูกสีเทา อาจเป็นไปได้ของสัญญาณมีริดสีดวงจมูก ซึ่งเกิดจากเยื่อบุจมูกที่บวมออกมาเป็นก้อนในโพรงจมูก หรือไซนัส ซึ่งไม่ใช่ก้อนเนื้อร้าย แต่มักจะเกิดจากการอักเสบเรื้องรังของเยื่อบุจมูก มีสาเหตุจาก โรคจมูกอักเสบ ภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบเรื้องรัง โรคหืด เป็นต้น

- น้ำมูกสีเขียว หรือสีเหลือง ส่วนใหญ่จะเป็นการติดเชื้อในโพรงจมูก โพรงไซนัสจากไวรัสหรือแบคทีเรีย หรือไซนัสอักเสบ นั่นเป็นเพราะว่า ระบบภูมิคุ้มกันจะส่งเซลล์เข้าไปกำจัดแบคทีเรียหรือสิ่งแปลกปลอม เช่น เซลล์เม็ดเลือดขาว รวมทั้งเมือก เอนไซม์ และหนองต่าง ๆ ก็จะรวมตัวกัน เป็นน้ำมูกสีเขียวหรือสีเหลืองได้
- น้ำมูกสีแดง อาจเกิดจากเส้นเลือดฝอยในจมูกแตก ทำให้มีเลือดปนออกมากับน้ำมูก ซึ่งเส้นเลือดฝอยอาจจะแตก เพราะ เกิดการระคายเคือง บาดเจ็บ การอักเสบ เนื้องอก หรือโรคของหลอดเลือด หรือบางทีอาจเกิดจากการที่เยื่อบุจมูกแห้ง

- น้ำมูกสีดำ ส่วนใหญ่จะพบในคนที่สูบบุหรี่ ใช้ยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย หรือคนที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีมลพิษเยอะ ๆ ควันเยอะ ๆ และถ้าหากเป็นสีดำสนิท ต้องระวัง เพราะอาจเกิดจากเชื้อราได้

หากน้ำมูกมีสีผิดปกติ ที่ไม่ใช่สีใส ต่อเนื่องในระยะเวลานาน ๆ ก็ควรไปพบแพทย์ หรือถ้ามีน้ำมูก สีเขียว สีเหลือง สีแดง แล้วมีกลิ่นเหม็น มีอาการไอ เสมหะ ไข้ขึ้น ปวดเมื่อยร่างกาย ก็ควรไปพบแพทย์

แต่สำหรับใครที่อยากล้างจมูก เพราะรู้สึกน้ำมูกข้นเหนียว เจอฝุ่นควันมาทั้งวัน #เพ็ชรรัตน์แนะนำ Klean & Kare อุปกรณ์ล้างจมูก ใช้คู่กับน้ำเกลือ
- ชุดล้างจมูก Nasal Kit (ไซริงค์ล้างจมูก Syringe 20 ml + จุกล้างจมูก)
- Nasal Connect อุปกรณ์ต่อขวดล้างจมูก แบบซิลิโคนที่จะช่วยให้ล้างง่ายขึ้น

ข้อมูลจาก
https://www.vimut.com/article/snot-colors
https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=1169

หลายครั้งที่เรามักเห็นคอนเทนต์โชว์กินปลาดิบ แต่ว่าดันกินปลาดิบที่เป็นปลาน้ำจืด อย่างปลานิล ซึ่งต้องบอกเลยว่าอันตรายและเส...
23/11/2025

หลายครั้งที่เรามักเห็นคอนเทนต์โชว์กินปลาดิบ แต่ว่าดันกินปลาดิบที่เป็นปลาน้ำจืด อย่างปลานิล ซึ่งต้องบอกเลยว่าอันตรายและเสี่ยงมาก ๆ

เพราะในไทยเป็นแหล่งระบาดของพยาธิใบไม้ตับที่พบในปลาน้ำจืด จึงไม่ควรกินปลาน้ำจืดแบบดิบ และหากมีพยาธิใบไม้ตับแฝงมาในปลา ต่อให้ล้างอย่างสะอาดก็ยังมีตัวอ่อนพยาธิแฝงอยู่ข้างในเนื้อปลา

และหากกินตัวอ่อนพยาธิเข้าไป เมื่อถึงลำไส้เล็ก ตัวอ่อนพยาธิจะชอนไชออกจากถุงหุ้มอ่อน ไปยังท่อน้ำดีส่วนปลายที่อยู่ในตับ พยาธิก็จะเจริญเติบโต ทำให้เกิดโรคพยาธิใบไม้ตับ และพยาธิอาจทำให้เกิด ท่อทางเดินน้ำดีอุดตัน การอักเสบที่ท่อน้ำดีซ้ำ ๆ จนอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งท่อน้ำดี
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อพยาธิเจริญเป็นตัวเต็มวัยและวางไข่พยาธิขับออกมากับน้ำและปนออกมากับอุจจาระ หากไม่อุจจาระลงห้องน้ำ และทำธุระลงดิน ไข่พยาธิก็จะแพร่ไปในดินและน้ำ

แต่ทำไมในญี่ปุ่น ปลานิล ที่เรียกว่า “อิซุมิได” ถึงนำมากินดิบได้ นั่นก็เป็นเพราะว่า ญี่ปุ่นมีมาตรฐานการทำฟาร์มแบบพิเศษที่สำหรับผลิตเนื้อและไข่ในเกรดที่กินดิบได้ ซึ่งในไทยนั้นยังไม่มีฟาร์มแบบพิเศษ ทำให้เราไม่ควรทานปลาน้ำจืดแบบดิบ ๆ

ไม่ว่าจะกรณีใด ๆ ก็ตามปลาน้ำจืดไม่ควรกินดิบ ๆ และความเชื่อที่ว่าการบีบมะนาวเป็นการฆ่าตัวอ่อนพยาธินั้น เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะน้ำมะนาวไม่มีผลในการทำลายตัวอ่อนพยาธิ ปลาดิบมันจะมีตัวอ่อนพยาธิใบไม้ตับอาศัยอยู่ที่เนื้อปลา ครีบอก และเกล็ดใต้ครีบ

เพราะฉะนั้น ควรนำมาปรุงสุกทุกครั้งก่อนกินนะครับ
ด้วยความห่วงใยจากเพ็ชรรัตน์เภสัช

ข้อมูลจาก https://thestandard.co/raw-freshwater-fishes-eating/ #:~:text=วันนี้%20(4%20พฤศจิกายน)%20นพ.ธเรศ%20กรัษนัยรวิวงค์%20อธิบดีกรมควบคุมโรค%20กล่าวว่า%20สาเหตุของโรคพยาธิใบไม้ตับเกิดจากกินปลาน้ำจืดเกล็ดขาว.
https://www.thaipbs.or.th/news/content/313084
https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=437

อย่าลืมปิดฝาชักโครก ก่อนกดทุกครั้ง!ทำไมต้องปิดฝาชักโครกก่อนกดที่เราควรปิดนั่นก็เพราะว่า ทุกครั้งเวลาที่เรากดชักโครก เมื่...
18/11/2025

อย่าลืมปิดฝาชักโครก ก่อนกดทุกครั้ง!

ทำไมต้องปิดฝาชักโครกก่อนกด
ที่เราควรปิดนั่นก็เพราะว่า ทุกครั้งเวลาที่เรากดชักโครก เมื่อชักโครกทำการฟลัช (flush) ละอองน้ำจากชักโครกที่มีทั้งสิ่งปฏิกูลและเชื้อโรคจะมีการฟุ้งกระจายขึ้นมา เป็นละอองฝอยกระจายไปทั่วห้องน้ำ ซึ่งมีการพบว่า การกดชักโครก 1 ครั้ง จะทำให้ละอองน้ำกระจาย 5-6 ฟุตหรือ 1.5 เมตรกว่า ๆ และคงค้างอยู่ในอากาศได้นานถึง 2 ชั่วโมง

อย่างบางชักโครกค่อนข้างมีการฟลัช (flush) ที่แรงเป็นลักษณะของ flush valve หรือห้องน้ำสาธารณะ ห้องน้ำห้าง เมื่อทำการกดเชื้อโรคก็สามารถฟุ้งกระจายได้ไกล ในรัศมี 2-3 เมตร หรือกระจายทั่วทั้งห้องน้ำ
อย่างเชื้อโควิดที่ปนเปื้อนกับอุจจาระก็ฟุ้งกระจาย เกิดเป็นละอองฝอย ทำให้เชื้อแพร่กระจายได้
เพราะฉะนั้น ทุกครั้งที่ต้องกดชักโครกควรปิดฝาทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เชื้อโรคกระจาย และถ้ามีแปรงสีฟันที่วางใกล้ ๆ แถวนั้นด้วยก็ยิ่งต้องระวังและไม่ลืมปิดฝา
ซึ่งในห้องน้ำก็ขึ้นชื่อว่า เป็นแหล่งที่สำหรับถ่ายของเสียและมีเชื้อโรคมากมายที่มาจากอุจจาระและปัสสาวะ ยิ่งเป็นห้องน้ำสาธารณะ เราควรที่ต้องยิ่งระวังและอย่าลืมปิดฝาชักโครกก่อนกดทุกครั้ง พร้อมกับล้างมือให้สะอาดหลังจากทำภารกิจเสร็จเรียบร้อย

เชื้อโรคอะไรบ้างที่อยู่ในห้องน้ำ
แล้วในห้องน้ำมีเชื้อโรคอะไรบ้างที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อโรคที่มาอุจจาระ
- เชื้ออีโคไล (Escherichia coli) เป็นเชื้อที่เรามักได้ยินอยู่บ่อย ๆ เพราะเป็นเชื้อที่ทำให้เกิดการท้องเสีย ท้องร่วง
- เชื้อโรคกลุ่มสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) เชื้อตัวนี้จะทำให้เกิดโรคทางผิวหนัง การอักเสบของผิวหนังหรือสร้างสารพิษที่ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษ
- เชื้อเอ็มอาร์เอสเอ Methicilin Resistant Staphylococcus Aureus (MRSA) เชื้อสายพันธุ์ที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ หากเชื้อเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลหรือโดนของมีคมทิ่มตำ เชื้ออาจเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดโรคลิ้นหัวใจอักเสบ และยังทำให้อาหารเป็นพิษได้ หากเอามือที่มีเชื้อตัวนี้ไปหยิบจับของกิน
- เชื้อฟีคัลโคลิฟอร์ม (Faecal coliform bacteria) เป็นเชื้อที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของคน ถ้าเข้าสู่ร่างกายอาจทำให้เกิดอาการถ่ายเป็นน้ำ เป็นมูกเลือดได้
- เชื้อเคล็บซีเอลลา นิวโมเนีย (Klebsiella pneumoniae) เป็นเชื้อที่หากอยู่ในลำไส้จะไม่ได้ก่อให้เกิดอันตราย แต่ถ้าไปอยู่ในที่อื่น ๆ จะก่อให้เกิดอันตรายที่ค่อนข้างร้ายแรง อย่างเช่น ถ้าเชื้อไปอยู่ในปอดก็จะทำให้เกิดปอดอักเสบ อยู่ที่ทางเดินปัสสาวะ ก็จะทำให้ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ หรืออาจติดเชื้อในกระแสเลือดจากเชื้อตัวนี้
- เชื้อคลอสไทรเดียม ดิฟิซายล์ (Clostridium difficile) เชื้อที่ทำให้ท้องร่วงและลำไส้อักเสบ

ถ้าใครอยากให้ที่รองนั่งสะอาด ก็อาจจะพกตัวช่วยอย่าง ไนซ์ สเปรย์แอลกอฮอล์ 75% ติดกระเป๋าเอาไว้ เพราะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการทำความสะอาดมือและพื้นผิวต่าง ๆ แห้งเร็ว ไม่ทิ้งความเหนียว

ข้อมูลจาก
https://www.facebook.com/watch/?v=344993699999054
https://betterteeththailand.com/?p=942
https://www.thaipbs.or.th/news/content/338083
https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/แตงโมรถเข็นกับเชื้อสแต/
https://nih.dmsc.moph.go.th/data/data/fact_sheet/11_57.pdf

จริงหรือหลอก? ที่บอกว่ากินเค็มมาก ๆ ทำตัวบวม จริงหรือหลอก?“จริง” เพราะโดยปกติแล้วโซเดียมจะทำหน้าที่ควบคุมสมดุลของเหลวในร...
16/11/2025

จริงหรือหลอก? ที่บอกว่ากินเค็มมาก ๆ ทำตัวบวม

จริงหรือหลอก?
“จริง” เพราะโดยปกติแล้วโซเดียมจะทำหน้าที่ควบคุมสมดุลของเหลวในร่างกาย หากร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินไป ร่างกายจะดูดซับน้ำเก็บไว้ที่ “ใต้ผิวหนัง” มากขึ้น และทำให้เกิดอาการบวมน้ำได้ โดยร่างกายจะดูดซึมน้ำไว้เพื่อใช้ละลายโซเดียม แต่ใช้เวลานานในการขับออกมา

ยิ่งถ้ากินโซเดียมหรือกินเค็มเกินความต้องการของร่างกาย เป็นเวลาต่อเนื่องนาน ๆ ก็เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคไต โรคความดัน โรคหัวใจและหลอดเลือด ได้ด้วย

วิธีสังเกตเมื่อกินเค็มมากเกินไป จะเป็นอย่างไร?
เวลาที่กินอาหารที่มีรสเค็ม หรือปรุงรสจัด ๆ แล้วมีอาการ ตาบวม ขาบวม นั่นคืออาการจากการที่กินรสเค็มมากเกินไป

หรือแม้แต่กินรสเค็มแล้วรู้สึกหิวน้ำมาก นั่นก็เป็นสัญญาณว่าเริ่มกินเค็มมากเกินไปเช่นกัน และเรายังสามารถสังเกตได้จากปัสสาวะ ถ้าหากพบว่าปัสสาวะมีฟองหรือสีเข้ม แสดงว่า ร่างกายเริ่มมีความเสี่ยงของโรค เพราะเกิดจากการที่กินเค็มจัด
ซึ่งอาหารยอดนิยมที่มีรสชาติเค็มหรือโซเดียมเยอะ เช่น อาหารญี่ปุ่นที่ต้องใช้น้ำจิ้ม เช่น ซูชิ ชาบู หรืออาหารที่เรารู้จักกันดี ปิ้งย่างเกาหลี หมูกระทะ สุกี้ แฮม เบคอน ส้มตำที่ใส่ปู ปลาร้า กะปิ เยอะ ๆ หรืออาหารที่มีส่วนประกอบของชีส สำหรับอาหารเหล่านี้มักจะมีโซเดียมสูง ควรหลีกเลี่ยงและกินแบบนาน ๆ ครั้ง

ส่วนปริมาณที่แนะนำต่อวัน
สำหรับผู้ใหญ่ ปริมาณโซเดีนมต่อวันไม่ควรเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเท่ากับเกลือ 1 ช้อนชา หรือน้ำปลา 4 ช้อนชา โดยที่อย่าลืมดูฉลากโภชนาการก่อนเวลาเลือกซื้อของกิน และพยายามควบคุมปริมาณโซเดียมต่อวัน

ข้อมูลจาก
https://www.tropmedhospital.com/knowledge/sodium01.html
https://www.facebook.com/share/p/1G41oHriPS/
https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/พฤติกรรมการทานอาหารที่/

เวลาออกกำลังกายมาเหนื่อย ๆ หรือร้อน ๆ เหงื่อออกแล้ว พอเจอกับพัดลม เราก็ชอบพัดลมจ่อตัว ให้คายร้อน แต่บนโลกโซเชียลกลับเคยม...
09/11/2025

เวลาออกกำลังกายมาเหนื่อย ๆ หรือร้อน ๆ เหงื่อออกแล้ว พอเจอกับพัดลม เราก็ชอบพัดลมจ่อตัว ให้คายร้อน แต่บนโลกโซเชียลกลับเคยมีข่าวว่า “เปิดพัดลมต่อตัว จะทำให้เกิดภาวะร่างกายขาดน้ำ เหนื่อยง่าย อิดโรย” ซึ่งข่าวหรือบทความดังกล่าวนั้น ไม่เป็นความจริง

เพราะการเสียน้ำของร่างกายผ่านทางเหงื่อมาก ๆ จนเกิดภาวะขาดน้ำนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการโดนพัดลมเป่าร่างกาย การที่พัดลมจ่อและเป่า หรือลมพัดผ่านร่างกาย ทำให้เหงื่อที่ออกระเหยได้เร็วขึ้น เพราะเกิดการระบายความร้อนและรักษาอุณหภูมิ
เพราะฉะนั้น พัดลมจ่อ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ร่างกายขาดน้ำ แต่อะไรบ้างที่เป็นสาเหตุของการที่ทำให้ร่างกายขาดน้ำ
- การดื่มน้ำน้อยเกินไป หรือไม่พอต่อความต้องการของร่างกาย
- การเสียเหงื่อจากการออกกำลังกาย และจากอาการไข้สูง หรือภาวะติดเชื้อ
- อากาศที่ร้อน
- ท้องเสีย อาเจียน
- เด็กทารกและผู้สูงอายุ เสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำได้ง่าย เพราะร่างกายมีปริมาณน้ำไม่มาก
ซึ่งอาการเบื้องต้นที่รุนแรงไม่มาก คือ
- รู้สึกกระหายน้ำ
- ตาแห้ง ปากแห้ง ผิวแห้ง
- เหงื่อออกน้อย
- ปัสสาวะน้อยกว่าปกติ
- ท้องผูก
- มึนงง ปวดหัว คลื่นไส้ เจียน
แต่ถ้ามีอาการเหล่านี้ถือว่าขาดน้ำอย่างรุนแรงและอันตราย
- กระหายน้ำอย่างรุนแรง
- ปัสสาวะน้อยและสีเข้ม หรือไม่มีปัสสาวะ
- อ่อนเพลีย
- มีไข้
- หัวใจเต้นแรงเร็ว หายใจหอบถี่
- ช็อก หมดสติ

เพราะฉะนั้นเห็นแบบนี้แล้ว การเปิดพัดลมจ่อตัวไม่ได้อันตราย แต่การดื่มน้ำไม่พอ คือสาเหตุที่ทำให้ร่างกายขาดน้ำจนอิดโรย
ดังนั้นอย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายนะครับทุกคน
ด้วยความห่วงใยจากเพ็ชรรัตน์เภสัช

ข้อมูลจาก https://www.antifakenewscenter.com/ผลิตภัณฑ์สุขภาพ/ข่าวปลอม-อย่าแชร์-เปิดพัดลมจ่อตัวทำให้เกิดภาวะร่างกายขาดน้ำ-เหนื่อยง่าย-อิดโรย/
https://www.paolohospital.com/th-TH/rangsit/Article/Details/บทความไลฟ์สไตล์/ภาวะขาดน้ำ----อันตรายกว่าที่คิด-
https://www.phyathai.com/th/article/3704-ภาวะขาดน้ำ_ไม่ใช่เรื?srsltid=AfmBOoq896yMiVZSDX42r6wVQTeeYHI9BaqJ8uzQcoHCzONMtXpVCzn4

หลายคนอาจจะคิดว่าการที่หูแว่ว ตาฝาด เหมือนเห็นพลังงานบางอย่างตลอดเวลา อาจจะคิดว่าเห็นผี หรือมีพลังวิเศษแต่แท้จริงแล้วร่า...
06/11/2025

หลายคนอาจจะคิดว่าการที่หูแว่ว ตาฝาด เหมือนเห็นพลังงานบางอย่างตลอดเวลา อาจจะคิดว่าเห็นผี
หรือมีพลังวิเศษแต่แท้จริงแล้วร่างกายอาจมีปัญหา แทนที่จะไปหาหมอดู หมอผี หมอศาสตร์ต่าง ๆ ให้ลองไปหาคุณหมอหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาลดูดีกว่า เพราะอาจมีโรคเกี่ยวกับสมอง ไม่ว่าจะเป็นโรคเนื้องอกในสมองหรือโรคทางจิตเวชที่ระบบสมองมีการทำงานผิดปกติหรือที่เรียกว่า อาการหลอน
ซึ่งอาการหลอนมีดังนี้
- มองเห็นภาพหลอน คือ อาการที่ทำให้มองเห็นหรือเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง อาจจะเห็นภาพ แสง รูปภาพ หรือคน ที่ผู้อื่นไม่สามารถมองเห็นได้
- หูแว่ว คือ อาการที่ได้ยินเสียงดังมาจากภายนอก ส่วนใหญ่มักจะได้ยินเสียงคนคุยกันหรือเป็นเสียงที่บอกให้ทำบางสิ่งบางอย่าง
- ได้กลิ่นแปลก คือ อาการที่ได้กลิ่นโดยไม่มีสาเหตุกลิ่นนั้นจากสภาพแวดล้อม เช่น กลิ่นไหม้ กลิ่นเหม็นเน่า
- ประสาทหลอนทางการรับรส คือ อาการที่อาจรับรู้รสชาติที่ไม่พึ่งประสงค์ แม้จะไม่ได้กินหรือดื่มอะไร
- ประสาทหลอนทางการสัมผัส คือ อาการที่รู้สึกเหมือนโดนสัมผัสหรือมีอะไรอยู่บนผิวหนัง
อย่างที่บอกว่า อาการหลอนเหล่านี้ อาจจะไม่ใช่อาการเห็นพลังงานบางอย่าง แต่สาเหตุอาจจะ...
- โรคเนื้องอกในสมอง ก็มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดหัวรุนแรง คลื่นไส้อาเจียน เห็นภาพซ้อน เดินเซ อารมณ์แปรปรวนง่าย ชักและกระตุก มีปัญหาด้านการสื่อสารหรือพูด อ่อนแรง
- โรคเกี่ยวกับทางระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสัน สมองเสื่อม หรือลมชัก
- โรคสมองอักเสบจากภูมิคุ้มกันเอ็มเอ็มดีเอ เกิดจากการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายโดยเนื้องอก ก็จะมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้ ปวดหัว อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ในระยะต่อมาจะมีอาการทางประสาท ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวให้ปกติได้ เช่น นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย หูแว่ว เห็นภาพหลอน ก้าวร้าว ชัก เคี้ยวปาก แลบลิ้น เป็นต้น
- โรคทางจิตเวช เช่น โรคจิตเภท ซึมเศร้า ไบโพลาร์
- การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ หรืออดนอนติดต่อกันเป็นเวลานาน
- การใช้ยาบางชนิด
- สารเสพติดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ซึ่งหากใครหรือมีคนใกล้ตัวมีอาการหลอน หรืออาการเหล่านี้ อย่าเพิ่งคิดว่า พวกเขาไม่ปกติหรือมีพลังวิเศษ ควรรีบพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลนะครับ
ด้วยความห่วงใยจากเพ็ชรรัตน์เภสัช
ข้อมูลจาก
https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/อาการหลอน-หูแว่ว-เห็นผี/
https://www.petcharavejhospital.com/en/Article/article_detail/Autoimmune-Encephalitis-Symptoms-Similar-to-Possessed-by-Ghost/Autoimmune-Encephalitis-Symptoms-Similar-to-Possessed-by-Ghost
https://www.thonburihospital.com/10-brain-tumor-warning-signs/ #:~:text=การมองเห็นที่ผิด,ลานสายตาแคบลง

ช่วงหน้าหนาวผิวและปากก็จะแห้งแตกได้ง่ายกว่าปกติ ด้วยความชื้นในอากาศที่ลดลง ทำให้ผิวขาดน้ำได้ง่าย ผิวแห้งกร้าน ปากแตก วัน...
04/11/2025

ช่วงหน้าหนาวผิวและปากก็จะแห้งแตกได้ง่ายกว่าปกติ ด้วยความชื้นในอากาศที่ลดลง ทำให้ผิวขาดน้ำได้ง่าย ผิวแห้งกร้าน ปากแตก วันนี้ #เพ็ชรรัตน์แนะนำ เลยยกทัพสกินแคร์ไว้สู้หนาว ไม่หวั่นผิวแห้ง ปากแตก

เริ่มที่ #เพ็ชรรัตน์แนะนำ ลิปมันบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้น ไม่แห้งแตก

Pharmapure maxi lip ลิปมันที่ช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้น พร้อมเติมเต็มร่องลึกให้ดูอิ่มเอิบ ด้วยส่วนผสมมอยเจอร์ไรเซอร์ธรรมชาติเข้มข้น 6 ชนิด
ลิปแคร์เภสัชกร ตลับชมพู ลิปมันที่ช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้น มาพร้อมกลิ่นหอมผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ คุณภาพเกินราคา เป็นลิปมันที่กันตาย ใช้ง่าย พกพาสะดวก

ต่อด้วยสกินแคร์ดูแลผิวหน้า

Provamed Bio-Retinol Anti Aging Serum
ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้ดูกระชับ กระจ่างใส ริ้วรอยดูจางลง และเรียบเนียน ด้วย Bio-retinoid สารสกัดจากธรรมชาติ และ Retinol microphere พร้อมเทคโนโลยี Encapsulation
ใช้คู่กับ Provamed Bio-Retinol Anti Aging Cream ที่เสริมดูแลผิวอย่างอ่อนโยน ฟื้นบำรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์ ลดเลื้อนริ้วรอย ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นยาวนาน

และไม่ลืมดูแลผิวกาย กับทัพสกินแคร์บำรุงผิวกาย
Pharmapure Body Lotion Hydrating Milk pH5
โลชั่นน้ำนมที่มีสารอาหารบำรุงผิวนานาชนิด ทั้งวิตามินบี 5 วิตามินอี โจโจบาออยล์ และอีกมากมาย ที่ช่วยถนอมผิวให้นุ่มชุ่มชื้น เรียบเนียน เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ผิวแพ้ง่าย

Cetaphil Moisturizing Cream
ครีมบำรุงเนื้อครีมเข้มข้น เหมาะสำหรับผิวแห้งถึงผิวแห้งมาก ผิวบอบบาง แพ้ง่าย ช่วยฟื้นคืนผิวนุ่มชุ่มชื้นและคงความชุ่มชื้นผิวยาวนาน และช่วยฟื้นฟูความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิวอย่างสมบูรณ์

PharmaPure Primrose E Cream ที่มีน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส, วิตามินอี, วิตามินบี5, สารสกัดอะโลเวรา และ alltantoin ช่วยให้ผิวที่แห้งกร้านกลับมาเนียนนุ่มชุ่มชื้น ลดรอยดำจากสิว และลดการอักเสบของผิวหนัง

เข้าหนาวแล้ว หลายคนก็จะสงสัยว่า เอ๊ะ สรุปแล้ว เราต้องฉีดพวกวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพื่อป้องกันมั้ย หรือว่าไม่ต้องฉีดก็ได้ งั้...
02/11/2025

เข้าหนาวแล้ว หลายคนก็จะสงสัยว่า เอ๊ะ สรุปแล้ว เราต้องฉีดพวกวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพื่อป้องกันมั้ย หรือว่าไม่ต้องฉีดก็ได้ งั้นรามาดูกันดีกว่า

ในช่วงหน้าหนาว เราควรที่วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ เพื่อป้องกันและไม่ให้อาการของโรคไข้หวัดใหญ่นั้นรุนแรงเมื่อเราติดโรคขึ้นมา
แล้วทำไมถึงควรฉีดในช่วงนี้ เพราะหน้าหนาวเป็นช่วงที่อากาศเย็นลงจากเดิมและในบางพื้นที่อาจจะเย็นลงโดยเฉียบพลัน ทำให้อุณหภูมิในร่างกายต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เกิดโรคได้ง่ายกว่าปกติ โดยโรคที่มากับหน้าหนาว ได้แก่ ไข้หวัด, ไข้หวัดใหญ่, ปอดบวม ปอดอักเสบ, ไข้หัด, อีสุกอีกใส และอุจจาระร่วง

ซึ่งอย่างโรคไข้หวัดใหญ่ก็มีวัคซีนป้องกัน 4 สายพันธุ์ รวมทั้งโรคปอดอักเสบ ไข้หัด อีสุกอีใส ก็มีวัคซีนป้องกัน

โดยกลุ่มที่ควรฉีดวัคซีนป้องกันอย่างยิ่งคือ
- เด็กๆ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น หอบหืด โรคหัวใจ เบาหวาน ปอดเรื้อรัง
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ที่ต้องอยู่ใกล้ชิดผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น ผู้ดูแลเด็ก ผู้ดูแลผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ในบ้านมีเด็ก มีผู้สูงอายุ

ก็อย่าลืมไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดและโรคที่มากับหน้าหนาวกันนะครับ ส่วนใครที่มองหาตัวช่วยที่เอาไว้เสริมภูมิต้านทานไว้สู้กับโรคต่าง ๆ #เพ็ชรรัตน์แนะนำ DQ Cherry-C Plus ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เชอร์รี่-ซี พลัส ที่เป็นวิตามินซีเข้มข้นจากธรรมชาติ อย่างผลอะเซโรลาเชอร์รี่ พร้อมผสมซิตรัสไบโอฟาโวนอยส์เมล็ดทับทิมและเบต้าแคโรทีน ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรง อีกทั้งยังมีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระ และให้ผิวพรรณสดใส

ข้อมูลจาก https://www.thonburibamrungmuang.com/five-winter-diseases-you-must-be-aware-of/
https://www.phyathai.com/th/article/2352-เตือนภัย__โรคยอดฮิต_ในหน?srsltid=AfmBOorQUVrFZp8LvmQqdkQzblzuLEfmmpuzYLuwMnG7z4IQl3QMQe22

สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนน...
25/10/2025

สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์
น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ข้าพระพุทธเจ้า เพ็ชรรัตน์เภสัช

ที่อยู่

189 ตรอกวังหลัง ถนนวังหลัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย
Bangkok
10700

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Diamond Pharmacy เพ็ชรรัตน์เภสัชผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram