สมองดี ความจำเลิศ ด้วยอเลอไทค์

สมองดี ความจำเลิศ ด้วยอเลอไทค์ ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก สมองดี ความจำเลิศ ด้วยอเลอไทค์, วิตามิน/อาหารเสริม, Bangkok.

22/09/2018

Open the Friends tab in your LINE app, tap the add friends icon inthe top right, select "QR code," and then scan this QR code.

วันนี้แอดมินพามารู้จักโรค LD ในเด็กกันนะคะเด็ก LD หมายถึงเด็กที่บกพร่องทางการเรียนรู้ เนื่องจากมีความผิดปกติของระบบประสา...
11/06/2018

วันนี้แอดมินพามารู้จักโรค LD ในเด็กกันนะคะ

เด็ก LD หมายถึงเด็กที่บกพร่องทางการเรียนรู้ เนื่องจากมีความผิดปกติของระบบประสาทชนิดถาวร ทำให้สมองถูกจำกัดความสามารถในการเรียนรู้ การทำความเข้าใจ หรือการจดจำ เช่น โรคสมาธิสั้น (ADHD) พ่อแม่อาจสังเกตุสัญญาณของความผิดปกติจากการที่เด็กไม่สามารถ จดจ่ออยู่กับสิ่งใดได้นาน มีปัญหาการพูด การอ่าน การเขียน การคำนวณ ส่งผลให้อาจจะมีทักษะการเรียนรู้ด้อยกว่าเด็กวัยเดียวกัน

อาการของเด็ก LD

-ความบกพร่องด้านการเคลื่อนไหว คือความบกพร่องของทักษะการเคลื่อนไหวและประสานงานระหว่างสมองกับอวัยวะเป้าหมาย เด็กอาจใช้งานช้อนส้อม หรือดินสอลำบาก ผูกเชือกรองเท้าด้วยตนเองไม่ได้ พูดติดขัด

-ความบกพร่องด้านการคำนวณ คือความบกพร่องของทักษะทางคณิตศาสตร์ เด็กดาจจดจำตัวเลข ตารางสูตรคูณ นับเลข หรือแก้โจทย์ปัยหาพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ได้ช้าหรือทำไม่ได้เลย

-ความบกพร่องด้านการเขียน อาจมีปัญหาด้านการเขียนหนังสือ การสะกดคำ และไม่สามารถคิดและเขียนไปพร้อมกันได้

-ความบกพร่องด้านภาษา คือความบกพร่องของทักษะการตีความภาษา ส่งผลให้มปัญหาในการอ่านหนังหรือการเขียน เด็กอาจอ่านหนังสือไม่ได้หรืออ่านได้ช้า จับใจความเรื่องที่อ่านไม่ได้ หรือสื่อสารกับผู้อื่นไม่เข้าใจ

-ความบกพร่องด้านการฟัง เด็กได้ยินเสียงเป็นปกติแต่ไม่สามารถตีความได้ ส่งผลให้อาจมีปัญหาในการอ่าน แยกแยะเสียงไม่ได้ จดจำคำพูดไม่ได้ หรือไม่ปฎิบัติตามสิ่งที่ได้ยิน ความบำพร่องด้านการมองเห็น เด็กอาจขาดทักษะในการตีความข้อมูลภาพ ทำให้แยกแยะความแตกต่างระหว่างของ 2 สิ่งไม่ได้หรือทำได้ช้า

-มีปัญหาในการจดจำข้อมูล การอ่าน การเขียน การคำนวณ และทำการบ้านเองไม่ได้ ผู้ปกครองต้องช่วยทำทุกครั้ง

-ไม่ใส่ใจรายละเอียดสิ่งของต่างๆรอบตัว บางรายอาจช่างสังเกตุและให้ความสนใจต่อสิ่งต่างๆ มากเกินไปได้เช่นกัน

-ขาดทักษะการเข้าสังคม

-ไม่เข้าใจและไม่ปฎิบัติตามคำแนะนำหรือคำสั่งสอน

-อวัยวะต่างๆ เคลื่อนไหวไม่ประสานกัน ทำให้อาจมีปัญหาในการเดิน เล่นกีฬา จับดินสอ หรือใช้ช้อนส้อม

-ทำของส่วนตัวหายเป็นประจำ

-แสดงพฤติกรรมต่อต้านหรือมีอารมณ์ก้าวร้าวที่โรงเรียน ไม่อยากไปโรงเรียน ไม่ยอมทำการบ้านหรือกิจกรรมที่ต้องใช้ทักษะบางอย่าง เช่น การอ่าน การเขียน การคำนวณ

หากพ่อแม่ท่านใดมีบุตรหลานที่มีพฤติกรรมแบบนี้ต้องรีบดูแลใส่ใจตั้งแต่ตอนนี้

อยากรู้แก้ไขได้อย่างไร คลิ๊กมาคะ
https://line.me/R/ti/p/%40qbk0105w
ปรึกษาฟรี โทร. 062 7278082

06/06/2018

อนาคตของลูกรักดีแน่ ถ้าพ่อแม่ใส่ใจ
ซนไม่อยู่นิ่ง จำไม่ค่อยได้ เหม่อลอย ไม่สนใจเรียน เกรดตก หงุดหงิดอารมณ์รุนแรง
อยากรู้แก้ไขได้อย่างไร คลิ๊กมาคะ
https://line.me/R/ti/p/%40qbk0105w
ปรึกษาฟรี โทร. 062 7278082

เทคนิคการเรียนเก่ง.1.สมาธิต้องดี2.ขยันฝึกฝน3.หมั่นหาความรู้อยู่เสมอ4.ความเก่งฝึกกันได้แม้สมองไม่ดีแต่เรียนดีได้หากขยัน5....
05/06/2018

เทคนิคการเรียนเก่ง.
1.สมาธิต้องดี
2.ขยันฝึกฝน
3.หมั่นหาความรู้อยู่เสมอ
4.ความเก่งฝึกกันได้แม้สมองไม่ดีแต่เรียนดีได้หากขยัน
5.เรียนเยอะๆแต่สมองรับไม่ได้ใช่ว่าจะเรียนเก่ง
เพราะฉะนั้น ต้องบำรุงสมองเพื่อเพิ่มความจำ
6.พื้นฐานการเรียนสำคัญต้องหมั่นฝึกสมองตั้งแต่เด็กๆ
สนใจทักไลน์หรือโทร.062 7278082
https://line.me/R/ti/p/%40qbk0105w
อเลอไทด์เสริมสมองวันละนิด ชีวิตดีเรียนดีทุกวัน

05/06/2018
04/06/2018
6 เทคนิคเปลี่ยนลูกอารมณ์บูดเป็นคนใหม่        เมื่อกล่าวถึงเด็กอารมณ์ร้าย ขี้โมโห ขึ้งเครียด หรือมักหงุดหงิดกับปัญหาเล็ก ...
03/06/2018

6 เทคนิคเปลี่ยนลูกอารมณ์บูดเป็นคนใหม่

เมื่อกล่าวถึงเด็กอารมณ์ร้าย ขี้โมโห ขึ้งเครียด หรือมักหงุดหงิดกับปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้ว เชื่อว่าพฤติกรรมเหล่านี้คงทำให้พ่อแม่หลายคนลำบากใจอยู่เนือง ๆ วันนี้เราจึงมองหาเทคนิคสำหรับช่วยปรับพฤติกรรมลูกรักมาฝากกันค่ะ ส่วนจะมีแนวทางปฏิบัติอย่างไรบ้างนั้น ลองไปติดตามกันเลยค่ะ

1. หาเวลาคุยกับลูกสองต่อสอง

เมื่อลูกแสดงอาการโกรธเกรี้ยว ผู้ใหญ่หลายคนก็พลอยบันดาลโทสะตามไปด้วย กลายเป็นสงครามย่อย ๆ ระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่สาดใส่กัน ซึ่งโดยมากแล้ว ผู้ใหญ่ชนะ! แต่การจะหาคนชนะคนแพ้จากสถานการณ์ชวนโมโหนี้ดูจะเป็นสิ่งเกินความจำเป็นไปสักหน่อย เพราะปัญหานี้อาจเกิดจากการที่ผู้ใหญ่ไม่ได้ให้เวลากับลูกมากเท่าที่ควรจะเป็น ดังนั้น ก่อนจะโทษลูกว่าสร้างปัญหา ลองหันมามองตัวเองกับสามี หรือภรรยาดูก่อนว่าได้ทำหน้าที่ของพ่อแม่ในการให้ความใกล้ชิด อบรมเลี้ยงดู และรับฟังปัญหาของเขามากพอหรือยัง

2. เปิดใจได้ง่ายที่บ้าน

การสร้างบรรยากาศให้บ้านเป็นสถานที่ที่เด็กสามารถ "เปิดอก" พูดคุยถึงสิ่งที่อึดอัดได้อย่างสะดวกใจสามารถช่วยแก้ปัญหาลูกขี้หงุดหงิดนี้ได้เช่นกัน เพราะเด็กบางคนไม่สามารถระบายความอัดอั้นตันใจให้กับสมาชิกในบ้านฟังได้ ยิ่งหากพูดไปแล้วก็เจอแต่การต่อต้าน หรือไม่ก็มีแต่คนต่อว่า เขาก็จะเก็บความหงุดหงิดนั้นเอาไว้ และยิ่งทำให้เขากลายเป็นเด็กอารมณ์ร้าย (โดยเฉพาะเวลาอยู่บ้าน) มากขึ้น ดังนั้น การปรับบ้านให้เป็นที่ที่พร้อมรับฟังทุกความเห็นจะช่วยให้เด็ก ๆ ได้ระบายความในใจออกมาบ้าง และจะช่วยให้เขาลดความร้ายในอารมณ์ลง

3. หยุดพฤติกรรมไม่ดีด้วยการเพิกเฉย

เมื่อลูกเริ่มร้องโยเย หรือแสดงพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ร้องกรี๊ด กระทืบเท้า สิ่งที่พ่อแม่ต้องระวังก็คือ ไม่ให้ความสำคัญกับพฤติกรรมนั้น ๆ ของลูกจนเกินไป บางทีการทำเพิกเฉยอาจเป็นทางออกที่ดี นั่นจะทำให้เด็กเรียนรู้ว่า การแสดงพฤติกรรมแบบนี้ไม่ทำให้เขาได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่ถ้าพ่อแม่ให้ความสำคัญกับการแสดงออกที่ไม่พึงประสงค์ของลูก เชื่อได้เลยว่า มันจะเกิดขึ้นอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

4. อย่าเพิ่มความเครียดให้บ้าน

เด็กที่โกรธง่าย ไม่พอใจบ่อย ๆ ความรู้สึกเหล่านี้มักจะทำให้เขากลายเป็นคนขึ้งเครียด คิดมาก นั่นยิ่งทำให้ปัญหาด้านอารมณ์ของเด็กแย่ลงไปอีก พ่อแม่อาจช่วยได้โดยการลดความเครียดที่อยู่รอบตัวลูกให้น้อยลง เช่น ลดความคาดหวังที่มีต่อลูกลง ไม่ต้องจัดตารางกิจกรรมให้เขาจนแน่นเอี้ยด ปล่อยให้เขาได้มีเวลาของตัวเองบ้าง นอกจากนั้น พ่อแม่เองก็ไม่ควรแสดงอารมณ์โกรธเกรี้ยวใส่สมาชิกในบ้านบ่อย ๆ ด้วยเช่นกัน

5. ดูแลโภชนาการของลูก

หากเด็กได้รับประทานอาหารไม่อิ่ม หรือไม่เหมาะสมกับวัย ก็มีความเป็นไปได้ที่เขาจะอารมณ์ไม่ดี หงุดหงิดง่าย ดังนั้น การทำให้ท้องลูกอิ่ม แถมเป็นอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยได้มาก ในการสร้างเด็กอารมณ์ดี

6. จัด "ช่วงเปิดใจ"

การเปิดช่วงเวลาพิเศษให้สมาชิกในบ้าน "บ่น ระบาย" เกี่ยวกับบ้านของเขา จะช่วยในการเลี้ยงเด็กขี้โมโหได้เป็นอย่างดี เพราะเด็กจะได้ใช้เวลานี้ บ่น และคุยเกี่ยวกับสิ่งที่รบกวนเขาเวลาที่เขาอยู่ในบ้าน โดยพ่อแม่ควรเปิดโอกาสให้สัก 10 นาทีต่อวัน เมื่อเวลาหมด ก็หยุด แล้วหากมีสิ่งใดยังไม่ได้บอกเล่า ค่อยไปคุยกันใหม่เวลาเดิม พรุ่งนี้

หากตลอดปีที่ผ่านมา คุณพ่อคุณแม่ต้องเหนื่อยใจกับการเลี้ยงลูกน้อยขี้โมโห ลองนำเทคนิคในการรับมือนี้ไปปรับใช้กันดูค่ะ เชื่อแน่ว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน

สารอาหารที่จำเป็นกับสมอง
01/06/2018

สารอาหารที่จำเป็นกับสมอง

สารอาหารที่จำเป็นต่อสมอง

ลูกซนแค่ไหนจัดเป็น “สมาธิสั้น”ความซนกับเด็กมักเป็นของคู่กันจนอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่มองเห็นเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าเด็กซนมาก...
30/05/2018

ลูกซนแค่ไหนจัดเป็น “สมาธิสั้น”

ความซนกับเด็กมักเป็นของคู่กันจนอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่มองเห็นเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าเด็กซนมากเกินไป ไม่อยู่นิ่ง ดูไม่มีสมาธิ หุนหันพลันแล่น จนกระทบต่อการเรียนและความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง นั่นอาจเกิดจาก “โรคสมาธิสั้น” ที่จำเป็นต้องทำการรักษา

โรคสมาธิสั้นเกิดจากความผิดปกติของสมองส่วนหน้า โดยปกติโรคสมาธิสั้นจะมี 3 องค์ประกอบ ได้แก่ ซนมาก สมาธิสั้น และหุนหันพลันแล่น แต่ไม่จำเป็นต้องมีครบทุกสามอย่างนี้ อาจจะมีเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งหรืออาจมีครบทุกอย่างเลยก็ได้ โดยอาการเหล่านี้จะต้องเกิดก่อนอายุ 12 ปี

ซนมาก – เด็กจะวิ่งเล่นในแต่ละวันแบบไม่หยุด ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย มักชอบเล่นอะไรที่เสี่ยงๆ แผลงๆ เล่นแรง ไม่กลัวเจ็บ ยุกยิก อยู่นิ่งไม่ได้ ต้องขยับส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเสมอ นั่งนิ่งๆ ไม่ได้ ต้องผุดลุกผุดนั่ง ทำท่าจะลุกตลอดเวลา เมื่อเข้าโรงเรียนคุณครูมักจะบอกว่าเด็กไม่ยอมเรียน ลุกตลอดเวลา เดินวนในห้อง ในบางรายอาจลงไปนอนกลางห้อง เด็กมักเล่นกับเพื่อนที่โรงเรียนไม่ได้เพราะเล่นแรงมาก ทำให้ไม่มีใครเล่นด้วย

สมาธิสั้น – อาจสังเกตได้จากเมื่อไปโรงเรียนคุณครูจะบอกว่าเหม่อ เรียกชื่อแล้วไม่หัน พูดสั่งให้ทำแล้วไม่ทำตาม ฟังคำสั่งได้ไม่ครบ เนื่องจากเด็กจะฟังประโยคยาวๆ ได้ไม่จบ เพราะใจไม่ได้อยู่กับคนพูด จะจับได้แค่ประโยคแรกๆ ทำให้เรียนได้ไม่ดี ไม่สามารถรับความรู้ใหม่ๆ ได้เต็มที่ ทำงานผิดพลาดบ่อย ทำการบ้านไม่เสร็จ ทำงานตามสั่งไม่ครบ ทำของหายบ่อยๆ เพราะจำไม่ได้ว่าวางไว้ที่ไหน

หุนหันพลันแล่น – เด็กจะไม่รู้จักการรอคอย ต้องตอบโต้ทันที สังเกตได้จากเด็กจะชอบพูดสวน ชอบโพล่งขึ้นมากลางการสนทนา หรือชอบแซงคิว

อย่างไรก็ดี คุณพ่อคุณแม่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าโดยปกติเด็กแต่ละวัยจะมีสมาธิไม่เท่ากันอยู่แล้ว เด็กเล็กจะมีสมาธิสั้นกว่าเด็กโต ในเด็กเล็กๆ ช่วงขวบปีแรกจะมีสมาธิไม่เกิน 2-3 นาที หลังจากนั้นจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คือในช่วง 1-2 ขวบประมาณ 3-5 นาที วัยอนุบาลประมาณ 5-15 นาที และช่วงประถมต้นได้นานถึง 15-30 นาทีขึ้นไป ดังนั้นจะนำเด็กเล็กมาเปรียบเทียบกับเด็กโตไม่ได้

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเป็นโรคสมาธิสั้นควรทำความเข้าใจกับธรรมชาติของโรค และใช้ข้อดีของโรคให้เป็นประโยชน์ เช่น เด็กไม่ชอบอยู่นิ่ง จะกระตือรือร้นอยากทำกิจกรรมต่างๆ อยู่แล้ว ก็พาไปเล่นกีฬานอกบ้าน อยู่โรงเรียนก็ให้ช่วยคุณครูลบกระดาน เดินไปหยิบของให้คุณครู ช่วยคุณครูถือของ เป็นต้น

เรียบเรียงโดย พญ.สุพาพรรณวดี ฟู่เจริญ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก ศูนย์กุมารเวช โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

ปรึกษาฟรีโทร.062 7278082
https://line.me/R/ti/p/%40qbk0105w

Open the Friends tab in your LINE app, tap the add friends icon inthe top right, select "QR code," and then scan this QR code.

28/05/2018

ขอขอบคุณที่ถูกใจสมองดี ความจำเลิศ ด้วยอเลอไทค์ จะมีข้อมูลที่มีประโยชน์มาให้ตลอดนะคะ

Vitamins/supplements

⏭️⏭️  #ไม่น่าเชื่อโรคสมาธิสั้นมีในผู้ใหญ่ด้วยค่ะ👉ทุกวันนี้โรคสมาธิสั้นเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในสังคม เด็กคนไหนดูซนๆ ...
20/05/2018

⏭️⏭️ #ไม่น่าเชื่อโรคสมาธิสั้นมีในผู้ใหญ่ด้วยค่ะ

👉ทุกวันนี้โรคสมาธิสั้นเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในสังคม เด็กคนไหนดูซนๆ ไม่สามารถนั่งอยู่นิ่งๆ ได้ ยุกยิกๆ ครูอนุบาลหรือครูประถมก็จะบอกผู้ปกครองว่าคล้ายเด็กสมาธิสั้นนะ พาไปตรวจกับจิตแพทย์เด็กหน่อยไหม อีกกลุ่มหนึ่งที่ครูมักจะทักผู้ปกครองให้พาไปรักษา ก็คือ #กลุ่มเด็กไฮเปอร์ (Hyperactive) แรงดีไม่มีตก เล่นอะไรแรงๆ โครมคราม ดูเมามันและสะใจกับกิจกรรมที่ได้ทำอะไรแรงๆ มีอีกกลุ่มหนึ่งที่ก็จัดว่าเป็นโรคสมาธิสั้นเช่นกัน คือ #กลุ่มใจลอย ขี้ลืม (Inattentive) ทำอะไรสักพักก็เผลอไปเหม่อ คิดอะไรไปเองในใจ มองอออกนอกหน้าต่างหรือประตู ดูเมฆดูนก ดูดอกไม้อะไรลอยๆ ไปตามเรื่อง เด็กกลุ่มนี้ คุณครูอาจจะไม่ได้เพ่งเล็งมาก เพราะมัวไปจับเด็กกลุ่มแสนซนกับเด็กกลุ่มโครมครามอยู่ (ผมรู้สึกเห็นใจคุณครูยุคนี้มาก ต้องดูเด็กในจำนวนต่อห้องที่เยอะกว่าแต่ก่อน ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงและจัดการดูแลเด็กทุกคนอย่างละเอียด) และบางคนก็เป็นมันทั้งสองแบบ ขึ้นอยู่กับว่าเราเจอเขาในวัยใด เวลาใด
=================================
📌เกณฑ์การวินิจฉัยในปัจจุบันของสมาคมจิตแพทย์อเมริกัน ซึ่งเป็นเกณฑ์วินิจฉัยที่นิยมใช้กันทั่วโลกได้ตกลงว่า โรคสมาธิสั้นในผู้ใหญ่จะวินิจฉัยได้จากอาการต่อไปนี้
=================================
#กลุ่มใจลอยขี้ลืม (Inattentive type) มีอาการเหล่านี้รวมกันมากกว่า 5 อาการขึ้นไป
• ไม่สามารถสนใจในรายละเอียดของกิจกรรมที่ทำ จึงทำกิจกรรมได้ไม่เรียบร้อย ตกหล่นในรายละเอียด
• มีปัญหาในการจดจ่อกับงานหรือกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ เช่น นั่งทำงานหรืออ่านหนังสือได้ไม่นาน
• ดูเหมือนใจลอยหรือคิดอะไรอย่างอื่นเวลาคนพูดด้วย
• ไม่สามารถปฏิบัติตามลำดับขั้นตอน มักตกหล่นข้ามขั้น หรือออกนอกลู่นอกทาง หันเหความสนใจไปสิ่งอื่นได้ง่าย
• มีความยากลำบากในการจัดการงานต่างๆ ให้เป็นระบบ เช่น การเก็บข้าวของเป็นระบบ บริหารเวลาได้ไม่ดี
• มีปัญหากับงานที่ต้องตั้งใจทำ เช่น ทำการบ้าน เขียนรายงาน ทำให้ไม่ชอบ พยายามหลีกเลี่ยง
• เผลอทำของหายบ่อยๆ เช่น เครื่องเขียน อุปกรณ์การเรียน และของใช้ในชีวิตประจำวัน
• ถูกหันเหความสนใจได้ง่ายจากสิ่งแวดล้อมภายนอก
• ขี้หลงขี้ลืมในกิจกรรมประจำวัน เช่น ลืมนัดหมาย ลืมจ่ายเงินตามกำหนด หรือโทรกลับเวลาคนติดต่อมา
================================
#กลุ่มคึกคักไฮเปอร์ (Hyperactive type) มีอากรเหล่านนี้รวมกันมากกว่า 5 อาการขึ้นไป
• อยู่ไม่นิ่ง เช่น นั่งสั่นขา เคาะโน่นเคาะนี่ ขยับตัวบางอย่างตลอดเวลา
• นั่งไม่ค่อยติดที่ในที่ที่ควรต้องนั่งประจำ เช่น โต๊ะเรียน โต๊ะทำงาน
• ชอบวิ่งเล่นหรือปีนป่าย รู้สึกอึกอัดอยากเปลี่ยนอิริยาบถหรือเปลี่ยนสถานที่บ่อยๆ
• ไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ อย่างเงียบสงบได้
• ดูคึกคัก พร้อมจะไปไหนต่อไหนตลอดเวลา
• พูดเยอะ พูดไปได้เรื่อย
• มักตัดบทสนทนา ตอบคำถามโดยที่ยังไม่จบดี หรือแย่งคนอื่นพูด
• มีปัญหาในการรอเข้าคิว ทนรออะไรไม่ค่อยได้
• มักจะเข้าไปยุ่ง แทรกแซงในกิจกรรมคนอื่น เช่น การสนทนา การทำงานกลุ่ม โดยไม่ได้ถามความสมัครใจคนอื่นก่อนอยู่บ่อยๆ
================================
ปรึกษาฟรีโทร.062 7278082

Open the Friends tab in your LINE app, tap the add friends icon inthe top right, select "QR code," and then scan this QR code.

🙏🙏🙏สวัสดีค่ะทุกท่าน เช้าแล้วเรามาหาอาหารที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ต่อสมองให้ลูกทานกันค่ะ===================⏩⏩ #สมองก็คืออ...
20/05/2018

🙏🙏🙏สวัสดีค่ะทุกท่าน เช้าแล้วเรามาหาอาหารที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ต่อสมองให้ลูกทานกันค่ะ
===================
⏩⏩ #สมองก็คืออวัยวะหนึ่งในร่างกาย ที่ทำงานหนักมาก ๆ ส่วนหนึ่ง ดังนั้นสมองจึงจัดว่าเป็นอวัยวะอันดับต้น ๆ ที่ต้องการสารอาหารมาบำรุงอย่างมาก ซึ่งไม่ว่าจะเป็นวัยแรกเกิด วัยเด็ก วัยรุ่น วัยเรียน วัยทำงาน จนถึงวัยสูงอายุ ก็ต้องการสารอาหารบำรุงด้วยกันทั้งนั้น
====================
⏩⏩ #สารอาหารบำรุงสมองเพิ่มพลังความคิด ( )
📍
สารอาหารอันดับ 1 ที่สมองต้องการมาก เพราะ DHA มีส่วนช่วยในการสร้างเครือข่ายเส้นใยประสาท แถมยังเป็นส่วนประกอบหลักของเซลล์สมองและจอประสาทตา จึงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสมองและสายตา
ีมากในอาหารทะเล เช่น ปลาทะเล ปลาแซลมอน ปลาทูน่า สาหร่ายทะเลบางชนิด และน้ำมันที่สกัดจากผลิตภัณฑ์ทางทะเล ซึ่งแน่นอนว่าในหนึ่งวัน เราควรรับประทานหนึ่งในอาหารเหล่านี้ อย่างน้อยหนึ่งมื้อ เพื่อบำรุงสมอง
====================
สอบถามเพิ่มเติมโทร.062 7278082

Open the Friends tab in your LINE app, tap the add friends icon inthe top right, select "QR code," and then scan this QR code.

ที่อยู่

Bangkok

เบอร์โทรศัพท์

0627278082

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สมองดี ความจำเลิศ ด้วยอเลอไทค์ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram