Crystal CT Scan by Crystal Pet Hospital

Crystal CT Scan by Crystal Pet Hospital CT Scan 128 slice for Pets Cafe' & CT scan Center

 #เมื่อน้องหมากินยาฆ่าหญ้า #กลูโฟซิเนตก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผมเขียนเรื่องนี้เพราะได้รับแรงบันดาลใจมาจากเคส  #น้องไมกี้ ท...
03/11/2025

#เมื่อน้องหมากินยาฆ่าหญ้า
#กลูโฟซิเนต

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผมเขียนเรื่องนี้เพราะได้รับแรงบันดาลใจมาจากเคส #น้องไมกี้ ที่เผลอไปกินยาฆ่าหญ้าชนิดนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ

ปกติเคสไมกี้จะมาตรวจเลือดที่ผมเป็นประจำผมจึงมีผลเลือดน้องตอนสุขภาพดี แล้วนำมาเทียบได้หลังจากน้องไมกี้ป่วย...ช่วงที่น้องป่วยจากการกินยาฆ่าหญ้านี้ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีจาก รพ.สัตว์อารักษ์ แต่ผมได้มีตัวอย่างเลือดไมกี้มาช่วง 5 วันหลังกินยาฆ่าหญ้าและเมื่อ 2 วันก่อนน้องมาตรวจเลือดที่ผมหลังกินยาฆ่าหญ้าไปนาน 1 เดือนครึ่ง

#แล้วผมพบอะไรถึงอยากมาเล่าในวันนี้

ผมเห็นผลบางอย่างที่ผิดปกติทั้งๆที่ผ่านมา 1 เดือนครึ่งนั่นคือ
- ปริมาณเม็ดเลือดแดงที่ยังน้อยกว่าตอนไมกี้สุขภาพดี
- ปริมาณเกล็ดเลือดกี่กลับสู่ระดับปกติของไมกี้แล้ว (ปกติของไมกี้จะมีเกล็ดเลือดที่ 1 แสนปลายๆไม่ถึง 2 แสนนะ) แต่กลับพบว่า %iPF สูง ---> จึงทำให้รู้ว่า #มีการกดไขกระดูก
- #พบการขาดธาตุเหล็ก ---> Ret-Y, Ret-He ต่ำกว่าตอนสุขภาพดีมาก จึงไม่แปลกที่ขนร่วงหรือขนขึ้นยาก แต่จากจุดนี้ทำให้ผมได้รู้ต่อว่า...

#กลูโฟซิเนตทำให้เซลล์ไม่แบ่งตัวโดยเฉพาะเซลล์ที่แบ่งตัวได้เร็ว เห็นคำตอบของเรื่องทั้งหมดแล้วใช่ไหมครับ ผมถึงได้แรงบันดาลใจมาเขียนเล่าเรื่องให้พ่อแม่หมา ให้หมอๆได้เข้าใจยาฆ่าหญ้าชนิดนี้มากขึ้น

ทุกอย่างที่ไมกี้มีอาการตอนนี้มาจากยาฆ่าหญ้านี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะทำไมท้องเสียบ่อย ทำไมฉีดยาแล้วเป็นแผล ทำไมขาดธาตุเหล็ก และอื่นๆ

เมื่อเซลล์ไม่สามารถแบ่งตัวทำงานได้ปกติ โดยเฉพาะเซลล์ที่แบ่งตัวเร็ว แบ่วตัวทุกวัน เช่น ขน ลำไส้ ผิวหนัง ---> ผลคือ กินไรไปลำไส้ก็ดูดซึมสารอาหาร แร่ธาตุได้น้อยลง ---> ค่า Total Protein จะลดลง (เมื่อเทียบกับตอนสุขภาพดี) ธาตุเหล็กก็ไม่สามารถดูดซึมได้ดีพอ---> เม็ดเลือดแดง รวมถึงลูกของเม็ดเลือดแดงจึงไม่สมบูรณ์ ลำไส้ที่แบ่งตัวซ่อมตัวเองไม่ได้ดีพอก็ทำให้ถ่ายเหลวเรื่อยๆ เห็นไหมครับว่านี่เป็นความรู้ชั้นดีมากที่ไม่อาจหาที่ไหนได้ และไม่ได้เจอบ่อยๆ

มาทำความรู้จักคำว่า LD50 กันนิด มันย่อมาจาก Lethal dose ที่โดสที่ทำให้หนูทดลองลาก่อน ตุยได้ ส่วนเลข 50 คือ โดสเท่านี้หนู 50 จาก 100 ตัว...กลับบ้านเก่า

คราวนี้มาดูว่าเมื่อ LD50 ในสารนี้อยู่ที่ 200-300 mg/kg แต่ในขวดแสดงฉลากความเข้มข้นไว้ที่ 15% W/V ผมก็จะสรุปง่ายให้ฟังเลยว่าหมาๆน้ำหนักเท่าไรกินมันแล้วตุยเย่..❌️

หมาหนัก 5 kg 1,000 mg ต้องกินเพียว 6.7 mL (≈ 6.7 cc)
หมาหนัก 10 kg 2,000 mg ต้องกิน 13.3 mL (≈ 13.3 cc)
หมาหนัก 20 kg 4,000 mg ต้องกิน 26.7 mL (≈ 26.7 cc)
หมาหนัก 30 kg 6,000 mg ต้องกิน 40.0 mL (≈ 40.0 cc)

#ดังนั้นจะเห็นได้ว่าน้องไมกี้ถึงไม่ตุยหรอก เพราะปริมาณยาที่เกาะบนใบหญ้ามันไม่มีทางเยอะพอที่จะทำให้ไปสวรรค์...แต่...

LD₅₀ เป็นค่าทางพิษวิทยาเชิงสถิติ #ไม่ใช่ขนาดที่ทำให้เกิดอาการ *** #ดังนั้นหมามักมีอาการพิษผลข้างเคียงที่ได้ตั้งแต่ปริมาณต่ำกว่า LD₅₀ มาก☠️*** (บางครั้งเป็นเศษส่วนของ LD₅₀) ขึ้นกับพันธุ์ สภาพร่างกาย สารเสริมหรือสารพาหะในสูตร และทางเข้าร่างกาย (กิน/สัมผัส/สูด)

เมื่อกินไปแล้วไม่มี Antidote ( #ไม่มีสารแก้พิษ) เพราะฉนั้นหมอต้องรักษาตามอาการ

ดังนั้นหลังจากนี้น้องไมกี้ก็เข้าสู่ช่วงการฟื้นฟูร่างกายนั่นเองครับ....

ขอบคุณน้องไมกี้ที่ทำให้ผมได้เข้าใจยาชนิดนี้มากขึ้นและเป็นประโยชน์มากๆเพราะเป็นข้อมูลที่ไม่ใช่จะหามาได้ง่ายๆเลย

 #กรุ๊ปเลือดในสุนัข #สุนัขกรุ๊ปเลือดบวกแต่ทำไมเคสแบบนี้ต้องใช้กรุ๊ปลบอย่าลืมว่าการตรวจกรุ๊ปเลือดสุนัขไม่ใช่แค่ดูว่าบวกหร...
14/10/2025

#กรุ๊ปเลือดในสุนัข
#สุนัขกรุ๊ปเลือดบวกแต่ทำไมเคสแบบนี้ต้องใช้กรุ๊ปลบ

อย่าลืมว่าการตรวจกรุ๊ปเลือดสุนัขไม่ใช่แค่ดูว่าบวกหรือลบเท่านั้น แต่ยังต้องดู “ #ความเข้มของแถบ” ด้วย เพราะนั่นคือสิ่งที่ช่วยให้การถ่ายเลือดปลอดภัยและช่วยชีวิตน้องหมาได้จริง ๆ 🐾

🩸 เข้าใจเรื่องกรุ๊ปเลือดสุนัข (DEA 1) แบบง่าย ๆ

ในสุนัข เขาจะมีระบบกรุ๊ปเลือดที่เรียกว่า DEA (Dog Erythrocyte Antigen) ซึ่งตัวหลักที่สำคัญที่สุดคือ DEA 1 เพราะเป็นตัวที่ทำให้เกิด "การแพ้เลือด" ถ้าถ่ายเลือดผิดกรุ๊ป

🧪 เวลาเราตรวจด้วยชุดทดสอบ Alvedia BT DEA 1 จงจำไว้ก่อนว่าตรงช่อง C ทุกเคสต้องขึ้นเสมอ ือControl

การแปลผลบริเวณช่อง DEA 1

ถ้าขึ้นแถบสีเข้มชัดเจนที่ตำแหน่ง DEA 1 ➜ แปลว่า DEA 1 Positive (DEA 1.1) หมายถึงเป็นกรุ๊ปเลือดบวกชัดเจน #ความเข้มแถบที่ขึ้นคือปริมาณแอนติเจน

ถ้าไม่ขึ้นแถบเลย (ขาวสนิท) ➜ แปลว่า DEA 1 Negative หรือเรียกว่า #เลือดลบ คือ #ไม่มีแอนติเจน DEA 1 อยู่ในเม็ดเลือดแดงเลย

แต่ถ้า ขึ้นแถบสีจาง ๆ บริเวณช่อง DEA ➜ นี่แหละที่เรียกว่า.... ⚠️ “Weak DEA 1 Positive” หรือ “DEA 1.2” คือ #มีปริมาณแอนติเจนอยู่บ้าง

🩸 แล้ว DEA 1.2 คืออะไร?
- มันคือกรณีที่สุนัขมีแอนติเจน DEA 1 บนผิวเม็ดเลือดแดง “เพียงเล็กน้อย” เลยทำให้เส้นขึ้นจาง ๆ แบบเห็นไม่ชัดเหมือนกรณีบวกเต็มที่ #ซึ่งเคสแบบนี้แหละที่ต้องระวัง ⛔️

💬 ดังนั้นถึงแม้ผลตรวจ “ทางเทคนิค” จะตีความว่า เป็นบวก (+) แต่ในทางคลินิกเราจะถือว่า “เสี่ยงต่อการเกิดปฏิกิริยาหลังถ่ายเลือด (transfusion reaction)” ...เพราะถ้าได้รับเลือดจากสุนัขที่เป็น DEA 1+ เข้ม (** สำคัญมาก) #เขามีโอกาสแพ้เลือดสูงและเลือดที่ให้ไปจะตกเร็วมาก

✅ สรุปคำแนะนำง่าย ๆ

> ถ้าผลตรวจขึ้นแถบสีจาง (DEA 1.2)
💡 ควรใช้เลือดจากสุนัขที่เป็น DEA 1– (Negative) เท่านั้น เพราะจะปลอดภัยกว่าแล ลดโอกาสการเกิดภาวะ hemolysis หรือการแพ้เลือดหลังถ่ายเลือด ❤️

🐶 ตัวอย่างจากภาพ

Babo: ขึ้นจางๆ → DEA 1.2 → ควรใช้เลือด DEA-negative
เพราะหากให้กรุ๊ปบวกที่เข้ม (DEA 1.1) สุนัขที่รับเลือดจะแพ้แอนติเจนปริมาณที่มากของหมาตัวผู้ให้เลือดได้

Nanoi: แถบที่ 2 ไม่ขึ้น → DEA ลบ (Negative) เคสนี้สามรถให้เลือดใครก็ได้แต่หากจะรับเลือด #ต้องรับเฉพาะลบเท่านั้น

DEA ลบ ถือเป็น Universal คือให้ใครก็ได้ทั้งบวกและลบ

Steve: แถบชัดเจนมาก → DEA 1+ เข้ม (Positive แท้จริง) → แบบนี้หากเป็นผู้ให้เลือดจะสามารถให้ได้เฉพาะผู้รับที่ผลเป็นบวกเข้มเท่านั้น แต่หากเป็นผู้รับเลือดเขาสามารถรับได้ทั้งบวกและลบ

#ดังนั้นจงจำไว้เสมอว่าหากพบแถบสีขึ้นจางๆก็ควรใช้เลือดลบจะปลอดภัยกว่ามาก เพราะเลือดลบไม่มีแอนติเจน***

และสิ่งสำคัญอีกอย่างคือเครื่องตรวจกรุ๊ปเลือดบางยี่ห้อให้ผลกรุ๊ปเลือดลวงด้วยข้อจำกัดบางอย่างของเครื่อง เพราะมีสุนัขหลายตัวกรุ๊ปลบแต่เครื่องนึกว่าเป็นบวก

ประกาศแจ้ง...ทาง รพ.ขอลดช่องทางกรติดต่อทาง Inbox แล้วใช้เพียง Line Ad เป็นหลัก โดยท่านสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่Line id. :...
10/10/2025

ประกาศแจ้ง...ทาง รพ.ขอลดช่องทางกรติดต่อทาง Inbox แล้วใช้เพียง Line Ad เป็นหลัก โดยท่านสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่
Line id. : (มี @ นำหน้า)
location : https://maps.app.goo.gl/Kb7dQTKkSLxQnJq77

 #มาลองอ่านความคิดเห็นบางส่วนจากผู้เข้าฟังที่ผมสอนการแปลผลเลือด เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมาครับ #อยากเปลี่ยนการส...
05/10/2025

#มาลองอ่านความคิดเห็นบางส่วนจากผู้เข้าฟังที่ผมสอนการแปลผลเลือด เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมาครับ

#อยากเปลี่ยนการสอนในมหาวิทยาลัย
#ผมจะพาคุณก้าวสู่โลกใหม่ของการแปลผลเลือด

หากมีเวลาและสถานทีจะจัดการสอนออกเป็น 4 parts
1. พื้นฐาน CBC ประมาณ 4 ชม.
2. การเลือกค่า Blood chem กับโรคต่างๆ + Blood gas สัก 4 ชม.
3. integrate การใช้ CBC + new parameters กับโรคต่างๆแบบบูรณาการ 4 ชม.
4. แปลผลในเคสจริง 5 ชม. รวมถึงฝึกแปลใบผลเลือดของเครื่องหลายๆยี่ห้อ

ถ้าผมได้สอนแบบนี้น่าจะดี.....😁😆

ระวังแต่อย่าตื่นตระหนกจนเกินเหตุ รู้ไหมว่าปีนึงเราฆ่าหมาผิดตัว  #ฆ่าหมาที่ไม่ได้เป็นแล้วส่งหัวไปตรวจหาเชื้อผิดพลาดกี่ตัว...
26/09/2025

ระวังแต่อย่าตื่นตระหนกจนเกินเหตุ รู้ไหมว่าปีนึงเราฆ่าหมาผิดตัว #ฆ่าหมาที่ไม่ได้เป็นแล้วส่งหัวไปตรวจหาเชื้อผิดพลาดกี่ตัว

จากตัวเลขด้านล่างมีสัตว์ส่งตรวจ 4746 ตัว แต่พบเชื้อหมาบ้าจริงๆแค่ 226 ตัวเท่านั้น

#มีสัตว์ตายฟรีโดนตัดหัวทั้งๆที่ปกติถึง4520ตัว...จากการวิตกเกินเหตุ

พาสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีน และ #ราชการควรเปลี่ยนชื่อโรคเพราะมันเป็นได้ทุกสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม

#ควรเปลี่ยนชื่อจากพิษสุนัขบ้าเป็นชื่อไรก็ได้....

 #อยากรู้อยากถามว่าเสต็มเซลล์มีประโยชน์กับลูกเราจริงหรือ  #ตอบข้อสงสัยทุกคำถามเสาร์ที่ 27 กันยายนนี้ 10.30-13.30 ที่ Ico...
12/09/2025

#อยากรู้อยากถามว่าเสต็มเซลล์มีประโยชน์กับลูกเราจริงหรือ

#ตอบข้อสงสัยทุกคำถาม

เสาร์ที่ 27 กันยายนนี้ 10.30-13.30 ที่ Icon Siam

💙✨ From Science to Care: Stem Cells for Your Beloved Pets จากวิทยาศาสตร์สู่การดูแล: สเต็มเซลล์เพื่อสัตว์เลี้ยงที่รักของคุณ ✨💙 มิติใหม่ของความรักและสุขภาพสำหรับน้องหมาน้องแมว 🐶🐱

📌 งานสัมมนาพิเศษที่จะพาคุณพ่อคุณแม่มารู้จักกับ“การเก็บสเต็มเซลล์ในสัตว์เลี้ยงและการใช้สเต็มเซลล์ในสัตว์เลี้ยง” โดยสัตวแพทย์และนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญ

📅 วันเสาร์ที่ 27 กันยายน 2568
🕜 เวลา 10.30 – 13.30 น.
📍 Meeting room 4-5 ชั้น 7 Icon Siam

10.30 - 11.00 ลงทะเบียน
11.00 - 12.00 ฟังสัมนาเกี่ยวกับสเต็มเซลล์เพื่อสัตว์เลี้ยงที่รักของคุณ
12.00 - 13.30 ถาม-ตอบ ลุ้นรับรางวัลเก็บสเต็มเซลล์ฟรี

👉 ลงทะเบียนเข้าร่วมงานฟรี! (จำกัด 100 ท่าน)
ตั้งแต่วันนี้–25 กันยายน 68 (หรือปิดรับลงทะเบียนเมื่อมีผู้ลงทะเบียนครบตามจำนวน)

🔗 สแกน QR code เพื่อแอดไลน์ หรือคลิกลิงก์เพื่อลงทะเบียน >> https://forms.gle/u4L8AmzpyDSC2dde9

#บอกเลยว่าใครมางานนี้ได้ลุ้นรางวัลงามๆ

เสาร์ 27 กันยายน นี้....ตอบทุกคำถามเรื่องของ Stem Cell ในสัตว์เลี้ยง ณ ห้อง Meeting room 4-5     รับ 100 คน พาน้องหมาไปไ...
09/09/2025

เสาร์ 27 กันยายน นี้....ตอบทุกคำถามเรื่องของ Stem Cell ในสัตว์เลี้ยง ณ ห้อง Meeting room 4-5

รับ 100 คน พาน้องหมาไปได้นะแต่ต้องใส่รถเข็น....กำหนดการคร่าวๆ 10.30-13.30 น.

แล้วจะมาแจ้งรายละเอียดนะครับ แล้วจะทำไลน์แอดให้ผู้สนใจเข้าฟังลงทะเบียน ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย


  #เคยเรียนแล้วให้ทำตารางแบบนี้ใช่ไหม... #ทำแล้วแต่ไม่รู้ต้องรักษายังไง #แล้วจะแก้ไขให้ยาไรดีน้าาาา #โครงการป่าล้อมเมือง...
01/09/2025


#เคยเรียนแล้วให้ทำตารางแบบนี้ใช่ไหม...
#ทำแล้วแต่ไม่รู้ต้องรักษายังไง
#แล้วจะแก้ไขให้ยาไรดีน้าาาา
#โครงการป่าล้อมเมืองเพื่อเปลี่ยนแนวการสอนในมหาวิทยาลัย

✨ บทนำ : การแปลผล Blood Gas (เน้น VBG)

ปัจจุบันการตรวจ Blood Gas Parameters ในใบรายงานมีค่ามากกว่า 40 ค่า สิ่งสำคัญลำดับแรกก่อนการตีความ คือ การแยกให้ออกว่าค่าใดเป็นตัวแทนของเรื่องอะไร
Pressure (ความดัน) → pCO₂, pO₂

Concentration (ความเข้มข้น) → HCO₃⁻, Base Excess, Lactate (หน่วย mmol/L)

Content (ปริมาณจริง) → cO₂, DO₂, O₂cap, CcO₂ (หน่วย mL O₂/dL blood)

อย่างไรก็ตาม แม้ค่าเหล่านี้จะเป็นหัวใจในการแปลผล แต่สิ่งที่มีผลต่อความถูกต้องอย่างมากคือขั้นตอนก่อนตรวจ ได้แก่

การเลือกไซริงค์หรือขวดเก็บที่ถูกต้อง

การไล่อากาศออกจากหลอด

การผสม (mix) ตัวอย่างให้ทั่วถึง

เวลาที่ใช้ในการส่งตรวจหลังเก็บเลือด

การใส่อุณหภูมิของสัตว์ที่ถูกต้องขณะเก็บตัวอย่างเลือด ( #หลายที่ไม่ให้ความสำคัญถือว่าพลาดมาก)

รวมถึงชนิดและเทคโนโลยีของเครื่องตรวจ

ปัจจัยเหล่านี้ล้วนทำให้ผลตรวจเปลี่ยนไปได้หากไม่ได้ควบคุมให้เหมาะสม

ในทางปฏิบัติจริง โดยเฉพาะในโรงพยาบาลสัตว์ การเจาะเลือดแดง (ABG) ไม่สะดวกและมีข้อจำกัดหลายประการ เช่น ความเจ็บปวดของสัตว์ ความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน และความชำนาญของผู้เจาะ ดังนั้นการใช้ Venous Blood Gas (VBG) จึงกลายเป็นเครื่องมือที่ “ใกล้เคียง” และมีความหมายมากในการประเมินสภาวะผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็น

การติดตามภาวะกรด–ด่าง

การประเมินการเผาผลาญ (metabolism)

การดู tissue perfusion และ shock

รวมถึงการใช้ร่วมกับพารามิเตอร์อื่น ๆ เพื่อประเมินการทำงานของหัวใจและเนื้อเยื่อ

แม้ว่า VBG จะไม่สามารถทดแทน ABG ได้ทุกสถานการณ์ (เช่น การประเมินการแลกเปลี่ยนออกซิเจนที่ปอดโดยตรง) แต่ VBG ก็สามารถตอบโจทย์ทางคลินิกที่เราต้องการส่วนใหญ่ได้ และสะดวกต่อการใช้จริงในสัตว์เลี้ยงมากกว่า

ดังนั้น เนื้อหาต่อจากนี้ เราจะ เน้นการอ่านค่าและการแปลผลจาก VBG เป็นหลัก พร้อมชี้ให้เห็นจุดแข็ง–ข้อจำกัด เพื่อให้เข้าใจทั้งเชิงตัวเลขและเชิงสรีรวิทยาอย่างแท้จริง

บทที่ 1 : พื้นฐาน Blood Gas

✅ เข้าใจให้ตรง....Blood Gas ไม่ได้เป็นเพียงแค่การ “ดูการทำงานของปอดกับไต” อย่างเดียว แต่จริง ๆ คือ การประเมินสมดุลกรด–ด่าง และการแลกเปลี่ยนก๊าซของร่างกายโดยรวม

ปอด (Respiratory system):
ควบคุมการขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) → มีผลโดยตรงต่อค่า pCO₂ และภาวะกรด–ด่างแบบ Respiratory acidosis/alkalosis

ไต (Renal system):
ควบคุมการขับกรด (H⁺) และการเก็บ–ปล่อย Bicarbonate (HCO₃⁻) → มีผลต่อค่า HCO₃⁻ และภาวะ Metabolic acidosis/alkalosis

เนื้อเยื่อและการไหลเวียน (Tissue perfusion):
มีผลต่อการใช้ออกซิเจน (O₂), การสร้างกรดแลกติก (Lactate) และภาวะ shock → ตรงนี้คือสิ่งที่ Venous Blood Gas (VBG) สะท้อนได้ดีมาก

• ความต่าง ABG vs VBG
• ABG → ปอดทำงานยังไง, oxygenation
• VBG → tissue ใช้ O₂ ยังไง, metabolic status
• ค่าแต่ละตัวคืออะไร
• pH, pCO₂, HCO₃⁻, Base Excess (BE), Lactate
• pO₂, SO₂, O₂ Content (cO₂)
• เข้าใจว่า บางค่า “วัดจริง” (measured) เช่น pH, pO₂, pCO₂
และบางค่า “คำนวณ” (calculated) เช่น HCO₃⁻, BE, SaO₂ เป็นต้น

📌 Point :
- ค่าไหนได้จากการคำนวณ ค่าไหนได้จากการวัดจริง
- ABG = input (ปอดให้ O₂)
- VBG = output (เนื้อเยื่อใช้ O₂)
-----------------------

บทที่ 2 : Acid–Base Disorders #บทนี้ถือว่าเรียนจบก็จบระดับพื้นฐานเท่านั้นนะ

❣️ Step 1: ดู pH → รู้ว่าเป็นกรด (Acidosis) หรือด่าง (Alkalosis)

❣️ Step 2: ดู pCO₂ (ระบบปอด)

ถ้า pH ↓ (Acidosis) แต่ pCO₂ ↑ → Respiratory Acidosis

ถ้า pH ↑ (Alkalosis) แต่ pCO₂ ↓ → Respiratory Alkalosis
👉 pH กับ pCO₂ จะเปลี่ยน “สวนทางกัน”

❣️ Step 3: ดู HCO₃⁻ (ระบบไต)

ถ้า pH ↓ (Acidosis) และ HCO₃⁻ ↓ → Metabolic Acidosis

ถ้า pH ↑ (Alkalosis) และ HCO₃⁻ ↑ → Metabolic Alkalosis
👉 pH กับ HCO₃⁻ จะเปลี่ยน “ไปทางเดียวกัน”

❣️ Step 4: ประเมินว่ามีการ ชดเชย (compensation) หรือไม่ เช่น ถ้าเป็น metabolic acidosis → pCO₂ มักจะลดลงตามเพื่อชดเชย เป็นต้น

✨ ตัวอย่าง

Metabolic Acidosis จาก sepsis:
pH ↓, HCO₃⁻ ↓, และ pCO₂ ↓ (ปอดช่วยชดเชย)

Respiratory Alkalosis จากหอบ:
pH ↑, pCO₂ ↓, HCO₃⁻ อาจลดลงเล็กน้อยถ้าเป็นเรื้อรัง (ไตชดเชย)

✨ ต่อยอด Step 4 (Compensation → Anion Gap)

หลังจากเรารู้แล้วว่าเป็น Metabolic Acidosis (pH ↓, HCO₃⁻ ↓)
👉 เราสามารถถามต่อว่า “Acidosis นี้มาจากกรดที่เพิ่มขึ้น หรือจากการสูญเสีย HCO₃⁻ ?”

ตรงนี้แหละที่ Anion Gap (AG) เข้ามาช่วย

ถ้า AG สูง → แสดงว่ามี กรดใหม่เพิ่มเข้ามา ในร่างกาย

เช่น Lactic acidosis, Ketoacidosis, Uremia, Poisoning

ถ้า AG ปกติ (Hyperchloremic Metabolic Acidosis) → แสดงว่ามี การสูญเสีย HCO₃⁻ โดยตรง

เช่น ท้องเสีย, Tubular acidosis

📌 Point :

การประเมินการชดเชย (compensation)
ถ้ามี ค่า Anion Gap → ใช้แยกสาเหตุของ Metabolic Acidosis ได้ชัดเจนขึ้น

AG สูง = กรดใหม่เข้ามา

AG ปกติ = สูญเสีย HCO₃⁻

Base Excess — -b vs

BE (หรือ Base deficit ถ้าค่าเป็นลบ หรือด่างหายไป) = ปริมาณกรด/ด่างที่ต้องเติมให้เลือดกลับสู่ pH 7.40 ที่ pCO₂ 40 mmHg

ช่วงปกติ ≈ −3 ถึง +3 mEq/L

ชนิดของ BE ที่เครื่องรายงาน

BE-b (Blood Base Excess): คำนวณบนสมมติฐานในเลือดทั้งหมด → ไวต่อ Hb/Hct มากกว่า

BEecf (Extracellular Fluid Base Excess): ปรับให้แทน ช่องนอกเซลล์ทั้งระบบ (ECF) → ใช้ประเมินภาวะเมตาบอลิกจริงในร่างกายได้ดีกว่าเวลาให้สารน้ำ/ไบคาร์บ

📌 Point :

ถ้าเครื่องมีทั้งสองค่า ให้ อ้างอิง BEecf เป็นหลัก สำหรับการประเมินความรุนแรง และการคำนวณยาที่ต้องแก้ไข

การแปลผลเร็ว

BEecf < −3 = มี metabolic acidosis (ถ้าต่ำกว่า −6 ถือว่าปานกลางถึงรุนแรง)

BEecf > +3 = มี metabolic alkalosis หรือการชดเชยระยะยาวของ respiratory acidosis

BE-b กับ BEecf ไปคนละทาง? → นึกถึงผลจาก Hb/Hct ผิดปกติ, hemodilution/hemoconcentration

ใช้ตัดสินใจรักษา (ผมไม่ได้สอนคำนวณยาในนี้นะ)

Acidosis (BEecf ≤ −6): แก้สาเหตุหลักก่อน (shock/sepsis/renal) + ให้สารน้ำเหมาะสม

พิจารณา NaHCO₃ เมื่อ pH < 7.10 หรือ BEecf < −10 และมีภาวะคุกคามชีวิต

Alkalosis (BEecf ≥ +6): แยก chloride-responsive vs unresponsive

Cl⁻ ต่ำ/สูญเสียกรดทาง GI/diuretic → ให้ 0.9% NaCl, KCl แทน

ถ้า Cl⁻ ปกติ/สูง ให้หาสาเหตุฮอร์โมน/แร่ธาตุ (hypokalemia, hyperaldosteronism ฯลฯ)

📌 Point :

BEecf = ของจริงทั้ง ECF → ตัดสินใจใช้ยาแก้ไข

BE-b = ไวต่อ Hb/Hct → ช่วยตีความร่วม

-------------------------

บทที่ 3 : Oxygenation & Ventilation (Vet version – VBG)

บนใบรายงาน pO₂ จะหมายถึง PaO₂ ถ้าเป็น ABG และหมายถึง PvO₂ ถ้าเป็น VBG (ดูที่ specimen type)

#หลังจากนี้ไปในแต่ละบทเรียนจะเป็นการเรียนรู้เพื่อนำไปรักษาจริง
#หลายๆค่าคุณหมออาจไม่เคยเห็นแต่ให้รู้ไว้เถอะสำคัญทุกค่า

1. หลักการวัด Oxygenation

โดยทั่วไป Oxygenation ต้องใช้ค่าในเลือดแดง (ABG) เช่น PaO₂, SaO₂ แต่ในคลินิกสัตว์ ABG ทำได้ยาก → เรามักใช้ VBG (เจาะจากหลอดเลือดดำ) มาช่วยประเมินร่วมกับ clinical sign

pO₂ (PvO₂) ใน VBG ต่ำกว่าหลอดเลือดแดงเสมอ (ปกติ ~25–45 mmHg ในหมาแมว)
👉 ดังนั้น ไม่ใช้ PvO₂ เพื่อตัดสินภาวะ hypoxemia โดยตรง

📌 Point :

❌ อย่าพยายามใช้ PvO₂ ตัดสิน hypoxemia เด็ดขาด เดี๋ยวหลงทาง
✔️ สิ่งที่ควรใช้คือ SvO₂, Lactate, SpO₂ และ clinical sign

สิ่งที่ใช้ได้จาก VBG คือ SvO₂ ปกติ: 60–80%

ถ้าต่ำ

23/08/2025

#เธอถามเราตอบ

อธิบายเปรียบเทียบ Polysulfate vs vs (cord blood) แต่ละอย่างคืออะไรมาเปรียบเทียบให้ฟัง

---

🔹 1. Pentosan Polysulfate (PPS)

ที่มา: เป็นสารกึ่งสังเคราะห์ (semi-synthetic polysaccharide)

กลไกหลัก:

กระตุ้น chondrocyte ให้สร้าง proteoglycan → ซ่อม cartilage

เพิ่ม synovial fluid viscosity

ต้านการอักเสบ (anti-inflammatory, ลด cytokines บางชนิด)

เพิ่ม microcirculation ในข้อต่อ → ลดภาวะ hypoxia ใน cartilage

ผลลัพธ์:

ลดการเสื่อมของข้อ

ชะลอ progression ของ OA (osteoarthritis) หรือข้อเสื่อม

ออกฤทธิ์ทั้งบรรเทาอาการและฟื้นฟูบางส่วน คือส่วนที่ยังคงมีกระดูกอ่อนเหลืออยู่

การใช้: ฉีดเป็นคอร์ส (เช่น 4-6 ครั้ง, ห่างกันสัปดาห์ละ 1ครั้งและห่างออกเป็นเดือนละครั้ง)

---

🔹 2. Librela (Bedinvetmab)

ที่มา: Monoclonal antibody จาก Zoetis

กลไกหลัก:

จับกับ NGF (Nerve Growth Factor)

ป้องกันการกระตุ้น TrkA receptor บนปลายประสาท → ตัดสัญญาณปวด

ผลลัพธ์:

ลดอาการปวดเรื้อรังชัดเจน

ช่วยให้ mobility ดีขึ้น

ไม่ซ่อมแซมโครงสร้างข้อ (symptomatic treatment)

การใช้: ฉีดเดือนละครั้ง

---

🔹 3. Exosome จาก MSCs (Cord blood derived)

ที่มา: สกัดจาก mesenchymal stem cells ของสายสะดือ (cord blood)

กลไกหลัก:

Immunomodulation → ลด pro-inflammatory cytokines (TNF-α, IL-1β, IL-6) เพิ่ม IL-10

กระตุ้น chondrocyte proliferation และซ่อม cartilage

กระตุ้น angiogenesis ที่สมดุล (ฟื้นฟู ไม่ใช่สร้างพยาธิสภาพ)

ส่งสัญญาณซ่อมแซมเนื้อเยื่อผ่าน miRNA, growth factors

ผลลัพธ์:

ลดการอักเสบ + ซ่อม cartilage จริง

อาจมีผลยาวนานกว่า เพราะเป็นการเปลี่ยน microenvironment ของข้อ

การใช้: ยังอยู่ในเชิงวิจัยและ clinical trial มากกว่าการใช้ทั่วไป

📌 ภาพรวม:

Pentosan = “ยาเก่าแต่ดี...หมอไทยไม่รู้จัก” → ชะลอโรค + ฟื้นฟูบางส่วน

Librela = “ยาใหม่” → ลดปวดเฉียบพลัน แต่ไม่ซ่อมข้อ

Exosome (Cord blood MSCs) = “อนาคตมี่น่าลอง” → regenerative จริง ลดอักเสบ + ซ่อม cartilage

ที่อยู่

เลขที่ 102/1 รามอินทรา 34 แยก 14
Bangkok
10220

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 21:00
อังคาร 09:00 - 21:00
พุธ 09:00 - 21:00
พฤหัสบดี 09:00 - 21:00
ศุกร์ 09:00 - 21:00
เสาร์ 09:00 - 21:00
อาทิตย์ 09:00 - 21:00

เบอร์โทรศัพท์

+66614049495

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Crystal CT Scan by Crystal Pet Hospitalผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง Crystal CT Scan by Crystal Pet Hospital:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

ประเภท