Rjuvej Clinic ฤชุเวชคลินิกฯ

Rjuvej Clinic ฤชุเวชคลินิกฯ ฤชุเวชคลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต? by alternative therapists.

ฤชุเวชคลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์
รักษาโรคในระบบกล้ามเนื้อ อาทิเช่น ปวดคอ, ปวดหลัง, ปวดเข่า, กล้ามเนื้ออ่อนแรง ฯลฯ อาการบาดเจ็บการเล่นกีฬา ออกแบบโปรแกรมฟื้นฟูร่างกาย และจำหน่ายยาสมุนไพรในราคาย่อมเยา

เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ ๐๘.๐๐-๑๖.๐๐ น.
โทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ ๐๘๗-๐๕๕-๓๕๒๒ :)

Rjuvej, Appiled Thai Traditional Medicine Clinic, commitment is to provide you with the holistic treatment for musculoskeletal conditions, sports injuries and etc. We also supply the high quality of Thai herbs to patients with resonable price.

เลขที่ใบอนุญาต 10108003560

05/04/2022

สิ่งที่หลายคนได้ยิน และสิ่งที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับวัคซีนโควิด

1.ไปฉีดวัคซีนมา นี่บวมทั้งตัวไม่หายเลยนะ 6 เดือนแล้ว

ตอบ : ต้องประเมินว่าเป็นผลข้างเคียงวัคซีนจริงหรือไม่ ซึ่งพบน้อยมาก ผู้ป่วยรายนี้ดื่มเหล้ามากมาตลอด ไม่เคยสังเกตอาการตัวเอง เมื่อรับวัคซีนจึงได้คำแนะนำสังเกตอาการหลังรับวัคซีน จึงรู้ว่าตัวเองมีอาการบวม ๆ ยุบ ๆ คิดว่าเป็นจากวัคซีน เมื่อตรวจแล้วจึงพบโรคตับแข็งเรื้อรัง

2.ฉีดวัคซีนแล้วความดันโลหิตขึ้นสูง ก่อนหน้านี้ปกติดี

ตอบ : การรณรงค์เข้ารับวัคซีน ทำให้คนที่ไม่เคยทราบว่าตัวเองเป็นโรคได้เข้าสู่การคัดกรองพื้นฐานมากขึ้น ทำให้พบโรคซ่อนเร้นมากขึ้น โรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่ไม่มีอาการใด ๆ และผู้ป่วยรายนี้ตรวจพบอาการและอาการแสดงของโรคความดันโลหิตสูงเรื้อรังมานาน สรุปว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูงมานานแต่เพิ่งมาพบจากการตรวจก่อนเข้ารับวัคซีน

3.มีโรคประจำตัวมาก อย่าไปรับวัคซีนนะ หลายคนที่มีโรคมาก ๆ รับวัคซีนแล้วแย่ลง

ตอบ : กลุ่มคนที่มีโรคประจำตัวมาก มีโอกาสแย่ลงหรือเสียชีวิตสูงกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว ไม่ว่าจะรับวัคซีนหรือไม่ก็ตาม ผลการศึกษาออกมาว่ากลุ่มคนเป็นโรคประจำตัว ได้รับวัคซีนโควิดแล้วตายลดลง เมื่อเทียบกับคนมีโรคประจำตัวที่ไม่ฉีดก็จริง แต่ถ้าไปเทียบกับกลุ่มประชากรทั้งหมดที่รวมคนสุขภาพดีด้วย อย่างไรคนที่มีโรคประจำตัวหลายโรคก็เสียชีวิตและอาการแย่ลงมากกว่าคนที่ปรกติอยู่ดีครับ

4.ไม่ไปฉีดแล้วเข็มสาม ข้างบ้านไปฉีดก็ยังติด อยู่ดี ๆ ก็พอแล้ว ไปฉีดก็มีไข้อีก ไม่เอาหรอก

ตอบ : การรับวัคซีนเข็มสาม เป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่ตกลงตามเวลา เพื่อให้ระดับภูมิสูงพอที่จะไม่ป่วยรุนแรง ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อของแต่ละคนได้ (ถึงฉีดสี่เข็มก็ป้องกันได้น้อยมาก) หน้าที่ของวัคซีนคือ ลดการป่วยแบบรุนแรงและลดการตายจากโรค ไม่ใช่ลดการติดเชื้อ และปัจจุบันแนะนำรับวัคซีน mRNA เป็นเข็มกระตุ้นครับ

5.ยังไม่ฉีดเข็มแรกเลย ไม่ได้พบปะใคร ทำงานในไร่นา ไม่ต้องฉีดก็ได้

ตอบ : ในสถานการณ์การระบาดระดับ pandemic คือระบาดทั่วโลกและนับได้ว่าทุกคนรอบตัวสามารถนำโรคมาสู่เราได้หมด และยังควบคุมโรคได้ไม่สมบูรณ์ การรับวัคซีนยังสำคัญมาก การติดต่อสื่อสารและสังคม สามารถเกิดการติดต่อได้รวดเร็ว โอกาสที่เราจะรอดพ้นการติดเชื้อมีน้อย การป้องกันโรครุนแรงด้วยการรับวัคซีนจึงสำคัญมาก

6.ฉีดวัคซีนโควิดแล้ว ไม่ต้องรับวัคซีนอื่นก็ได้

ตอบ : ไม่ได้ !! วัคซีนโรคใดก็ป้องกันแค่โรคนั้นครับ สองปีนี้อุบัติการณ์โรคติดต่อระบบทางเดินหายใจลดลง เพราะเราใช้มาตรการสวมหน้ากาก-ล้างมือ-เว้นระยะห่าง ไม่ได้หมายถึงวัคซีนโควิดจะไปกันโรคอื่นได้ หากครบกำหนดหรือถึงเกณฑ์ที่ควรรับวัคซีนใด ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อกำหนดเวลาที่เหมาะสมเช่น เว้นห่างกัน 2-4 สัปดาห์ แต่อย่างไรตารางวัคซีนที่แต่ละคนต้องฉีด ก็ไม่ควรเลื่อนครับ

7.ยังไม่อยากพาคนที่รักไปรับวัคซีน มีข่าวผลข้างเคียงออกมาเยอะ

ตอบ : วัคซีนทุกชนิดมีผลข้างเคียงจริง ไม่เพียงวัคซีนโรคโควิดแต่รวมไปถึงทุกวัคซีน แต่เกือบทั้งหมดไม่รุนแรงและจัดการได้ดี ส่วนที่รุนแรงจะไม่เกิดสัดส่วนที่ทางการแพทย์นานาชาติยอมรับได้ และหากเราคิดสัดส่วนผลข้างเคียงต่อปริมาณการฉีดในสถานการณ์จริง จะพบว่าน้อยกว่ากลุ่มศึกษาวัคซีนในตอนวิจัยเสียอีก เพียงแต่กลุ่มที่ปรกติดีไม่ได้รับการนำเสนอในพื้นที่ข่าว

8.ป่วยเป็นโควิดแล้ว มีภูมิแล้ว ไม่ต้องรับวัคซีนก็ได้

ตอบ : หลังการป่วยโควิดจะมีระดับภูมิคุ้มกันสูงอยู่ แต่ไม่สามารถทราบได้แน่ชัดว่าจะสูงนานเพียงใดและระดับภูมิคุ้มกันนั้นเป็นภูมิคุ้มกันที่ให้ปกป้องร่างกายในอนาคตด้วยสัดส่วนแค่ไหน การคาดเดาลำบากนี้เป็นความไม่แน่นอนที่ใช้ยากในทางป้องกันโรค แต่การรับวัคซีนได้รับการศึกษาถึงการป้องกันโรคที่ชัดเจนกว่า ดังนั้นหลังป่วยจึงยังต้องรับวัคซีนครับ

9.ระยะหลังไม่ค่อยมีรายงานผลข้างเคียงจากวัคซีนแล้ว

ตอบ : ยังมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นและได้รับการรายงาน บันทึกอย่างเป็นระบบจากหน่วยงานเฝ้าระวัง ด้วยอัตราการเกิดที่พอ ๆ กับช่วงแรกและไม่ต่างจากงานวิจัย (ซึ่งน้อยมาก) อย่างไรการเข้ารับวัคซีนยังคงต้องเฝ้าสังเกตอาการข้างเคียงแทรกซ้อนเสมอและหากมีผลข้างเคียงที่สงสัยให้ไปพบแพทย์พร้อมแจ้งวันเวลาและชนิดวัคซีนที่ฉีดให้คุณหมอทราบด้วยครับ

10.สรุปว่าต้องฉีดไปอีกกี่เข็ม

ตอบ : ยังบอกไม่ได้ แต่ ณ ปัจจุบันคำแนะนำคือ วัคซีนมาตรฐานสองเข็ม (ของบางยี่ห้อหนึ่งเข็ม) และเข็มกระตุ้นอย่างน้อยหนึ่งเข็ม ส่วนเข็มกระตุ้นที่สอง (เข็มสี่) ยังรับรองการใช้ในบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยโรคระบบภูมิคุ้มกัน เพราะการคิดประโยชน์-โทษ-ค่าใช้จ่าย แล้วคุ้มค่าคุ้มทุน ส่วนในอนาคตคงต้องติดตามสถานการณ์การระบาดและคำประกาศจากองค์การอนามัยโลกต่อไป

ปล. ลิเวอร์พูลคือทีมอันดับหนึ่งในตารางพรีเมียร์ลีก ณ เวลาปัจจุบัน

18/03/2022

เรียนอายุรศาสตร์จากซูเปอร์มาร์เก็ต : ทำไมผ้าอนามัยแบบสอดแนะนำไม่ให้ใช้เกิน 8 ชั่วโมง

เย็นวันหนึ่ง หลังจากซื้อของจำเป็นในซูเปอร์มาร์เก็ตเรียบร้อย ก็เดินดูสินค้าใหม่ ๆ ไปเรื่อย เมื่อถึงสินค้าชนิดนี้ ซึ่งสัดส่วนการตลาดน่าจะน้อยกว่าแบบปรกติทั่วไปหลายเท่า มันใช้ยากหรือไง เลยหยิบมาศึกษา พบว่ามีคำแนะนำการใช้ข้อหนึ่งคือ ไม่ควรใส่ค้างไว้นานกว่า 8 ชั่วโมง ก็เกิดคำถามว่าทำไม ใส่นานกว่านั้นจะเกิดอะไร ไปค้น ๆ อ่าน ๆ ก็มีความรู้มาฝากกันครับ

คำแนะนำนี้พบจากหน่วยงานสุขภาพทั่วโลก วารสารทางการแพทย์เกี่ยวกับสุขภาพสตรี คำแนะนำของศูนย์ควบคุมโรคที่อเมริกา (ที่ทำงานของเอซิโอและทีฟา) และมีรายงานผลจากการสอดผ้าอนามัยนานเกิน 8 ชั่วโมงใน lancet และ JAMA นับว่าสำคัญมากทีเดียวที่ผู้ใช้ผ้าอนามัยแบบสอดควรทราบ

สอดไว้นานเกิน 8 ชั่วโมง (ตัวเลข 8 ชั่วโมงมาจากค่าเฉลี่ยการรายงานผู้ป่วยที่เกิดอันตราย) จะเพิ่มโอกาสภาวะช็อกติดเชื้อจากสารพิษของแบคทีเรีย (toxic shock syndrome : TSS) ที่เป็นภาวะรุนแรงมากที่สุดอันหนึ่งของอายุรศาสตร์วิกฤต และเราเรียกชื่อ TSS จากการสอดผ้าอนามัยแบบนี้ว่า menstrual toxic shock syndrome (MTSS)

TSS เกิดจากการกระตุ้นปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันของร่างกายที่มากมายมหาศาล จากการกระตุ้นจากส่วนของแบคทีเรียที่เรียกว่า super-antigen กับเซลล์ภูมิคุ้มกันชนิด T-cell กระตุ้นแบบไม่เฉพาะตัวและกระตุ้นทั่วไปหมด ทำให้เกิดปฏิกิริยาอักเสบมากมายมหาศาล มากกว่าช็อคติดเชื้อเสียอีก คราวนี้เรามาดูลักษณะสำคัญของ TSS ตามเกณฑ์มาตรฐานของศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐที่ใช้เป็นเกณฑ์การวินิจฉัยในปัจจุบัน

1.ความดันโลหิตซิสโตลิก (ตัวบน) ต่ำว่า 90

2.พบอวัยวะที่เกี่ยวข้องมีผลกระทบหรือล้มเหลวอย่างน้อย 2/6 อย่าง

- ค่าครีอะตินีนของไตเกิน 2 หรือมากกว่าเดิม 2 เท่า

- เกล็ดเลือดต่ำว่าแสน หรือมีภาวะ DIC หรือสารการแข็งตัวเลือดไฟบริโนเจนต่ำ

- ค่า AST,ALT มากกว่าสองเท่าของค่าสูงสุดหรือมากกว่าสองเท่าจากเดิม

- มีภาวะหายใจล้มเหลว ARDS

- มีผื่นผิวหนังทั่วตัวและผิวหนังลอกเป็นวงกว้าง

- มีการตายของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง

3.ตรวจพบหลักฐานของเชื้อโรคที่ทำให้เกิด TSS

การรักษาต้องรวดเร็ว เต็มพิกัด ทั้งการช่วยหายใจ ให้สารน้ำ ยากระตุ้นความดัน ยาฆ่าเชื้อ (clindamycin+betalactam) และสุดท้ายคือให้แอนติบอดี IVIG เพื่อไปจับสารพิษของแบคทีเรีย

ความเกี่ยวเนื่องกับผ้าอนามัยแบบสอดคือ ในช่องคลอด จะมีแบคทีเรีย streptococcus เป็นจำนวนมาก และแบคทีเรีย streptococcus นี้เป็นหนึ่งในแบคทีเรียที่ทำให้เกิด TSS ได้

จากรายงานผู้ป่วยและรวบรวมหลักฐานพบว่า ผู้ที่เป็น MTSS มักจะสอดผ้าคาไว้นาน โดยเฉพาะสอดข้ามคืนที่นอนยาวนานกว่า 8 ชั่วโมง หรือสอดคาไว้นานเกินกำหนด มากกว่า 6 ชั่วโมง หรือไม่อ่านคำแนะนำข้างซอง โดยสามปัจจัยนี้เพิ่มโอกาสการเกิด MTSS มากกว่าคนที่ใช้ผ้าอนามัยแบบสอดที่ปฏิบัติถูกต้อง ถึง 2.2 เท่าเลยทีเดียว และมีนัยสำคัญทางสถิติ

อีกประการที่เกี่ยวข้องแต่หลักฐานน้อยกว่า คือ ผ้าอนามัยแบบสอดที่ซึมซับดีเป็นพิเศษจะสะสมแบคทีเรียในช่องคลอดและมีโอกาสเกิด MTSS สูงกว่าแบบซึมซับธรรมดา

จึงเป็นที่มาและคำแนะนำให้เปลี่ยนผ้าอนามัยแบบสอดทุก 3-4 ชั่วโมง อย่าสอดนานเกิน 8 ชั่วโมง และปฏิบัติตามคำแนะนำข้างซองอย่างเคร่งครัด และออกมาเป็นข้อกำหนดในการจดทะเบียนว่าแบบสอดจะต้องมีเกณฑ์ของสารดูดซึมเป็นอย่างไรอีกด้วย

เดินซื้อของก็ตั้งคำถามเรียนรู้อายุรศาสตร์ได้นะครับ

22/02/2022

วันนี้ (21 ก.พ.65) นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัด สธ.ระบุ ผู้ติดเชื้อ #โควิด19 ในไทยคาดการณ์ว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้แนวโน้มยังคงทรงตัวในระดับสูง วันนี้ทุกจังหวัดจะยกระดับเตือนภัยโควิด-19 เป็นระดับ 4 ขอให้ประชาชนงดเดินทางไปสถานที่เสี่ยง งดร่วมกลุ่มสังสรรค์ WFH ชะลอการเดินทางข้ามพื้นที่

23/09/2021
26/08/2021

HEADLINE: สภากาชาดไทย เผยวิกฤตขาดเลือดครั้งใหญ่ วอนผู้สุขภาพแข็งแรงบริจาคเลือดอย่างเร่งด่วน
วันนี้ (26 สิงหาคม) รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด การบริจาคโลหิตทั่วประเทศลดลงอย่างมาก วิกฤตในครั้งนี้รุนแรงกว่าในรอบปีที่ผ่านมา จากกราฟเป็นข้อมูลการบริจาคโลหิตทั่วประเทศ พบว่าการบริจาคลดลง ซึ่งในภาวะปกติจะเห็นว่าต้องมีโลหิตรักษาผู้ป่วยเดือนละ 200,000 ยูนิต โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้รับโลหิตจากการบริจาคเพียง 149,384 ยูนิต มีการขาดแคลนสะสมยาวนานมากกว่า 5 เดือน จึงมีผู้ป่วยที่ต้องเลื่อนการผ่าตัดและการรักษาพยาบาลออกไปอีกเป็นจำนวนมากเฉลี่ยวันละ 8,000 ยูนิต แต่สามารถจ่ายโลหิตให้ได้เฉลี่ย 2,300 ยูนิตต่อวัน (28%) ซึ่งสถานการณ์ขาดแคลนโลหิตนี้จะส่งผลอันตรายแก่ชีวิตได้
1. ผู้ป่วยโรคเลือด ซึ่งจำเป็นต้องรับโลหิตครั้งละ 1-2 ยูนิต ทุก 3-4 สัปดาห์ หากไม่ได้รับโลหิตผู้ป่วยจะมีภาวะซีด อ่อนเพลีย มีปัญหาในการดำรงชีวิต
2. ผู้ป่วยผ่าตัด ผู้ป่วยมะเร็ง ที่จะต้องถูกชะลอการรักษาออกไปอย่างไม่มีกำหนด
3. ผู้ป่วยอุบัติเหตุ ที่จำเป็นต้องใช้โลหิตในการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน เช่น เลือดออกในสมอง มีภาวะเลือดออกในช่องอกหรือช่องท้อง หรือผู้ป่วยกระดูกหัก ซึ่งมีเกือบทุกวัน และเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องการโลหิตจำนวนมาก
ต้องยอมรับว่าเนื่องจากสถานการณ์โควิด ส่งผลให้คนมาบริจาคโลหิตลดน้อยลงอย่างชัดเจน แต่ว่าการใช้โลหิตในการรักษาพยาบาลยังคงมีอย่างต่อเนื่องทุกวันจนเกิดภาวะขาดแคลนเลือดทั่วประเทศ ถึงเวลาแล้วที่จะคนไทยต้องช่วยกัน วอนผู้ที่มีสุขภาพดี หรือผู้ที่ครบกำหนดบริจาคโลหิต 3 เดือนแล้ว บริจาคโลหิตอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยผู้ป่วยทั่วประเทศ สามารถบริจาคได้ ณ โรงพยาบาลประจำจังหวัดที่เปิดรับบริจาคโลหิตทั่วประเทศ ใกล้ที่ไหนบริจาคที่นั่น ในพื้นที่ของตนเอง เพื่อความสะดวกปลอดภัยของท่านผู้บริจาค
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/


—————————————————

ไม่พลาดข่าวไฮไลต์ประจำวัน มาเป็นเพื่อนกับ THE STANDARD WEALTH ในไลน์ คลิก https://lin.ee/xfPbXUP

23/07/2021

ปืนแอลกอฮอล์ ไร้ประโยชน์แถมเสี่ยงอันตราย
เห็นว่าช่วงนี้เริ่มฮิตปืนแอลกอฮอล์ ขายกันเกลื่อน ซึ่งตอนแรกเราก็สนใจ และมีเพื่อนๆบอกให้ซื้อมาลองกันอยู่ แต่หลังจากหาข้อมูลแล้ว ต้องรีบเอามาบอกเพื่อนๆว่า อย่าหาทำ อย่าเอามาใช้สำหรับฆ่าเชื้อจะดีกว่า
การทำงานของปืนแอลกอฮอล์ก็คือการใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ดูดแอลกอฮอล์ขึ้นมาแล้วแปลงให้เป็นสเปรย์พ่นออกมา การทำงานแบบนี้ย่อมทำให้เกิดความร้อนของตัวมอเตอร์ และเสี่ยงเกิดประกายไฟจากแอลกอฮอล์ที่กระเซ็นไปโดนอีกด้วย
ทำไมถึงบอกว่า "ไร้ประโยชน์ แถมเสี่ยง"
1. การพ่นสเปรย์ ไม่ได้ช่วยทำให้เชื้อโรคตายได้ แต่กลับมีความเสี่ยงที่จะเพิ่มความฟุ้งกระจายของเชื้อโรคในอากาศ
วิธีทำความสะอาดที่เหมาะกับแต่ละพื้นผิว : https://bit.ly/3wZPbBJ
กรมควบคุมโรคแนะฯ ไม่ควรฉีดพ่นละอองฝอย เสี่ยงฟุ้งกระจาย : https://bit.ly/3eN4WFC
2. แสงสีฟ้าปลายกระบอกที่อ้างว่าเป็น UV ไม่น่าจะใช้ UV จริงหรือไม่ได้มาตรฐาน และต่อให้เป็นรังสี UV จริง การฉายเพียงชั่วครู่ก็ไม่เป็นผล เพราะจากการศึกษาเชื้อโรคจะตายต่อเมื่อได้รับแสงนานถึง 10 นาที

และโดยปกติแสง UV ที่ถูกนำเอามาฆ่าเชื้อนี้จะต้องเป็น UV-C เท่านั้น ซึ่งอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์ หากฉายลงมือเปล่าหรือโดนผิวหนังโดยตรง มีเสี่ยงต่อโรคมะเร็งผิวหนัง หรือทำให้แสบร้อนได้อีกต่างหาก
การฆ่าเชื้อด้วยรังสี UVC : https://bit.ly/3kM0bjv

3. ด้วยความที่ปืนมีการใช้กระแสไฟฟ้าเป็นตัวฉีดออกมา และส่วนมากที่ขายๆกัน มักจะดูงานประกอบไม่ดีนัก ซึ่งมีโอกาสที่สายไฟจะมีการลัดวงจรขึ้นมาได้ แล้วตัวแอลกอฮอล์ที่ฉีดออกมาเป็นละอองก็ติดไฟง่ายแสนง่าย ทำให้มีความเสี่ยงสูง หากสองสิ่งนี้มาเจอกัน และเราก็ไม่ค่อยจะอยากรู้ด้วยว่ามันจะเป็นยังไง

แต่ก็มีคนลองทดสอบให้ดูอยู่นะ เข้าไปดูกันได้ที่
ทดลองปืนพ่นไอน้ำใส่แอลกอฮอล์ : https://youtu.be/CaSEL139i1w

สรุป
ถ้าต้องการฆ่าเชื้อ ใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชู่ชุบแอลกอฮอล์หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ เช็ดบนพื้นผิวต่างๆ และกดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือก่อนหยิบจับ หรือกินอะไรทุกครั้ง จะเหมาะสมกว่า แต่ถ้าซื้อมาแล้วอยากเอามาฉีดพ่นจริงๆ ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อ ตามปริมาณที่แนะนำข้างขวดน้ำยาที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะจะดีกว่านะ

#ลองให้ #ไม่คิดจะลอง #ปืนพ่นฆ่าเชื้อ #ปืนแอลกอฮอล์

17/05/2021

กทม. ขยายเวลา ปิดสถานที่ถึง 31พฤษภาคม 2564

ประกอบด้วย
1.โรงเรียน สถาบันการศึกษา สถาบันกวดวิชา
2.ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานบันเทิง สถานบริการ อาบอบนวด
3.โรงภาพยนตร์ โรงละคร สถานที่แสดงมหรสพ หรือการละเล่นสาธารณะ
4.สวนน้ำ สวนสนุก สนามเด็กเล่น สวนสัตว์
5.ลานสเก็ตทุกประเภท สนุกเกอร์ บิลเลียด โบว์ลิ่ง ตู้เกม
6.ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต
7.สระว่ายน้ำสาธารณะ ฟิตเนส
8.สถานที่จัดนิทรรศการ ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม พิพิธภัณฑ์ สถานที่ให้บริการห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง
9.ห้องสมุดสาธารณะ ห้องสมุดชุมชน ห้องสมุดเอกชน
10.สถานที่รับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กก่อนวัยเรียน ยกเว้นในโรงพยาบาล
11.สนามมวย โรงเรียนสอนมวย โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ สนามม้า
12.ร้านทำเล็บ ร้านสักหรือเจาะผิวหนัง
13.สถาบันลีลาศหรือสอนลีลาศ
14.ศูนย์พระเครื่อง สนามพระเครื่อง
15.สถาบัน/คลินิกเสริมความงาม คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม และลดน้ำหนัก
16.ร้านสปา นวดเพื่อสุขภาพ และนวดเพื่อเสริมความงาม
17. สนามกีฬา และสนามแข่งขันทุกประเภท
18.สวนสาธารณะ

เปิดได้แต่มีข้อจำกัดใช้บริการ
1.ร้านเสริมสวย เปิดได้เฉพาะ สระ ตัด ซอย และต้องไม่มีผู้นั่งรอในร้าน
2.ร้านอาหาร นั่งทานในร้านได้ในสัดส่วน25% จนถึง 21.00น. และขายยกลับบ้านได้ถึง 23.00 น.
3.ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดิน เปิดขายได้ตั้งแต่ 4.00-23.00น.

ที่อยู่

169 ซ. ทุ่งเศรษฐี แยก 24 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ
Bangkok
10250

เวลาทำการ

จันทร์ 08:00 - 16:00
อังคาร 08:00 - 16:00
พุธ 08:00 - 16:00
พฤหัสบดี 08:00 - 16:00
ศุกร์ 08:00 - 16:00
เสาร์ 08:00 - 16:00
อาทิตย์ 08:00 - 16:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Rjuvej Clinic ฤชุเวชคลินิกฯผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง Rjuvej Clinic ฤชุเวชคลินิกฯ:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

Our Story

ฤชุเวชคลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์ รักษาโรคในระบบกล้ามเนื้อและกระดูก อัมพฤกษ์-อัมพาต อาการบาดเจ็บการเล่นกีฬา ออกแบบโปรแกรมฟื้นฟูร่างกาย และจำหน่ายยาสมุนไพรในราคาย่อมเยา เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 08.16.00 น. สอบถามรายละเอียด โทร 087-055-3522 :) Rjuvej, Appiled Thai Traditional Medicine Clinic, commitment is to provide you with the holistic treatment for musculoskeletal conditions, sports injuries and etc. by alternative therapists. We also supply the high quality of Thai herbs to patients with reasonable price. เลขที่ใบอนุญาต 10111000363