Dcenter-ดีเซ็นเตอร์

04/12/2025

เมื่อฤดูหนาวกำลังใกล้จะมาเยือน ลมหนาวเย็น ๆ มักมาพร้อมกับเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ซึ่งจะทำให้หลาย ๆ คนไม่สบาย ในฤดูนี้จะมีโรคอะไรที่ควรระวังบ้างมาติดตามกันเลย #ผลิตภัณฑ์ยา #สาระความรู้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ #ฤดูหนาว #โรคหวัด #โรคภูมิแพ้ #โรคต่อมทอนซิลอักเสบ

สามารถติดตามบทความดี ๆ ต่อได้ที่ >>https://oryor.com/media/infoGraphic/media_printing/2013

ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารสุขภาพดี ๆ จาก อย. มาเป็นเพื่อนไลน์กับเราได้ที่ TikTok : เพียงแค่คลิก https://www.tiktok.com/

28/10/2025

กระดูกพรุน คือภาวะที่เนื้อกระดูกบางลงจากปกติ ความแข็งแรงของกระดูกลดลง ทำให้กระดูกหักง่าย พบมากในผู้สูงอายุโดยเฉพาะผู้หญิงที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป โดยเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนพันธุกรรม การขาดวิตามินดี การได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ

สำหรับกาแฟนั้นมีกาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ ซึ่งกาเฟอีนเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสัมพันธ์กับภาวะกระดูกพรุนเนื่องจากมีผลขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย และเพิ่มการขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะ ซึ่งอาจส่งผลต่อแคลเซียมในกระดูกก็จริง แต่ไม่ได้มีผลกระทบที่รุนแรงจนสามารถสรุปได้อย่างชัดเจนว่า การได้รับกาเฟอีนจากการดื่มกาแฟเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะกระดูกพรุน

ดังนั้น กาแฟไม่ใช่สาเหตุหลักถ้าดื่มตามปกติ แต่อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้กระดูกบาง หากดื่มในปริมาณมาก แนะนำให้อ่านฉลากปริมาณกาเฟอีนที่ควรได้รับต่อวัน คือไม่เกินวันละ 300 – 400 มิลลิกรัมกรณีเป็นกาแฟสำเร็จรูปพร้อมดื่มชนิดเหลว หรือประมาณ 3 แก้ว โดยกาแฟ 2 ช้อนชา ผสมน้ำ 150 มิลลิลิตร มีปริมาณกาเฟอีนประมาณ 100 มิลลิกรัม นอกจากนี้แล้วควรระมัดระวังการได้รับน้ำตาล และครีมที่มากเกินพอดีจากการดื่มกาแฟ เพราะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคหลอดเลือดหัวใจ

อย่างไรก็ตาม สามารถดูแลตัวเองเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะกระดูกพรุนได้ โดย

- รับประทานแคลเซียมให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง
- ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

#อย #กระดูกพรุน #กาเฟอีน #กาแฟ #ผลิตภัณฑ์อาหาร #แคลเซียม #ออกกำลังกาย #ผู้สูงอายุ

08/10/2025

อย. ร่วมขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงสาธารณสุข

ร่วมรณรงค์ให้คนไทยกินเค็มน้อยลง ลดโซเดียม โดยเฉพาะพฤติกรรมชอบเติมเครื่องปรุงรส เช่น น้ำปลาเกลือ ซอสปรุงรส ผงชูรส อีกทั้งชอบรับประทานอาหารแปรรูป อาหารกึ่งสำเร็จรูป และขนมกรุบกรอบ ที่อาจส่งผลทำให้เกิดปัญหาสุขภาพหลายอย่างตามมา เช่น โรคไตเรื้อรัง

เราสามารถควบคุมปริมาณโซเดียมง่าย ๆ โดยการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice) เป็นทางเลือกที่จะช่วยลดและควบคุมปริมาณโซเดียมในผลิตภัณฑ์อาหารนั้น โดยองค์การอนามัยโลก หรือ WHO กำหนดมาตรฐานว่า ควรบริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเทียบเท่าเกลือ 1 ช้อนชา หรือ 5 กรัมต่อวัน

#อย #ลดโซเดียม #สัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ #โรคไตเรื้อรัง #องค์การอนามัยโลก

07/10/2025

เจ็บป่วยเล็กน้อย ใช้สิทธิ 30 บาทรักษาทุกที่ ได้ที่ร้านยาดีเซ็นเตอร์

30 บาทรักษาทุกที่ ทางเลือกใหม่ สำหรับอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย สะดวก ไม่ต้องรอคิวนาน ลดความแออัดในโรงพยาบาล พบเภสัชกรได้ตามเวลาที่สะดวกที่ร้านยา

32 กลุ่มอาการ มีอะไรบ้าง
ทั้งนี้ 32 กลุ่มอาการที่ร้านยา สามารถให้บริการแก่ผู้มีสิทธิบัตรทองที่เป็นไปตามแนวทาง และมาตรฐานการให้บริการทางเภสัชกรรมปฐมภูมิโดยสภาเภสัชกรรมนั้น ประกอบด้วย
1.เวียนศีรษะ 2.ปวดหัว 3.ปวดข้อ/ปวดกล้ามเนื้อ 4.ปวดฟัน 5.ปวดประจำเดือน 6.ปวดท้อง 7.ท้องเสีย 8.ท้องผูก/ริดสีดวงทวาร 9.ปัสสาวะแสบขัด 10.ตกขาว
11.แผล 12.ผื่นผิวหนัง 13.อาการทางตา 14.อาการทางหู 15.ไข้ ไอ เจ็บคอ 16.ติดเชื้อโควิด 17.น้ำมูก คัดจมูก 18.มีแผลในปาก 19.ตุ่มน้ำใสที่ปาก 20.แผลน้ำร้อนลวกไม่รุนแรง
21.อาการคันผิวหนัง/ศีรษะ 22.อาการจากพยาธิ 23.อาการจากหิด เหา 24.ฝี หนองที่ผิวหนัง 25.อาการชา/เหน็บชา 26.อาการนอนไม่หลับ 27.เมารถ เมาเรือ 28.เบื่ออาหารโดยไม่มีโรคร่วม 29.คลื่นไส้ อาเจียน 30.อาการแพ้ยา/แพ้อาหารเล็กน้อย/แมลงกัดต่อย 31.อาการเจ็บป่วยจากการสูบบุหรี่ และ 32.เหงือกอักเสบ/มีกลิ่น

เงื่อนไขการเข้ารับยาไม่มีค่าใช้จ่าย
1. เป็นคนไทยผู้มี สิทธิบัตรทอง
2. มีอาการเจ็บป่วยทั่วไปครอบคลุม 32 อาการเท่านั้น
3. ผู้รับบริการที่อายุมากกว่า 7 ปีจำเป็นต้องใช้บัตรประชาชนจริงเท่านั้น ไม่สามารถใช้สำเนาบัตรประชาชน ภาพถ่ายหรือบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ในแอปฯ ThaiID ได้
4. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี (ยังไม่มีบัตรประชาชน) ต้องใช้เอกสารสูติบัตรตัวจริงหรือสำเนาก็ได้ และผู้ปกครองต้องติดบัตรประชาชนตัวจริงมาด้วย
5. เภสัชกรจะจ่ายยาให้เฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บป่วยเท่านั้น และจะจ่ายยาตามแนวทางการใช้ยาที่สมเหตุสมผลเท่านั้น
6. หากไม่มีอาการเจ็บป่วย จะไม่มีการจ่ายยา
7. ผู้ป่วยไม่สามารถเลือกยาเองได้

ขั้นตอนการใช้ สิทธิบัตรทอง ที่ร้านยา
1. แสดงบัตรประชาชนที่ร้านยาที่มีสัญลักษณ์ “ร้านยาคุณภาพของฉัน” หรือ “30 บาท รักษาทุกที่”
2. เภสัชกรจะทำการตรวจสอบ สิทธิบัตรทอง และเสียบบัตรประชาชนของผู้รับบริการเพื่อยืนยันตัวตน
3. เภสัชกร จ่ายยาและให้คำแนะนำการใช้ยา เพื่อบรรเทาอาการเบื้องต้น พร้อมให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว
4. เมื่อครบ 3 วัน เภสัชกรจะโทรติดตามอาการผู้ป่วย

พิกัดร้าน: https://maps.app.goo.gl/A4kn6biU11Ct7NNo9?g_st=ipc

05/10/2025

เจ็บป่วยเล็กน้อย ใช้สิทธิ 30 บาทรักษาทุกที่ ได้ที่ร้านยาดีเซ็นเตอร์

30 บาทรักษาทุกที่ ทางเลือกใหม่ สำหรับอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย สะดวก ไม่ต้องรอคิวนาน ลดความแออัดในโรงพยาบาล พบเภสัชกรได้ตามเวลาที่สะดวกที่ร้านยา

32 กลุ่มอาการ มีอะไรบ้าง
ทั้งนี้ 32 กลุ่มอาการที่ร้านยา สามารถให้บริการแก่ผู้มีสิทธิบัตรทองที่เป็นไปตามแนวทาง และมาตรฐานการให้บริการทางเภสัชกรรมปฐมภูมิโดยสภาเภสัชกรรมนั้น ประกอบด้วย
1.เวียนศีรษะ 2.ปวดหัว 3.ปวดข้อ/ปวดกล้ามเนื้อ 4.ปวดฟัน 5.ปวดประจำเดือน 6.ปวดท้อง 7.ท้องเสีย 8.ท้องผูก/ริดสีดวงทวาร 9.ปัสสาวะแสบขัด 10.ตกขาว
11.แผล 12.ผื่นผิวหนัง 13.อาการทางตา 14.อาการทางหู 15.ไข้ ไอ เจ็บคอ 16.ติดเชื้อโควิด 17.น้ำมูก คัดจมูก 18.มีแผลในปาก 19.ตุ่มน้ำใสที่ปาก 20.แผลน้ำร้อนลวกไม่รุนแรง
21.อาการคันผิวหนัง/ศีรษะ 22.อาการจากพยาธิ 23.อาการจากหิด เหา 24.ฝี หนองที่ผิวหนัง 25.อาการชา/เหน็บชา 26.อาการนอนไม่หลับ 27.เมารถ เมาเรือ 28.เบื่ออาหารโดยไม่มีโรคร่วม 29.คลื่นไส้ อาเจียน 30.อาการแพ้ยา/แพ้อาหารเล็กน้อย/แมลงกัดต่อย 31.อาการเจ็บป่วยจากการสูบบุหรี่ และ 32.เหงือกอักเสบ/มีกลิ่น

เงื่อนไขการเข้ารับยาไม่มีค่าใช้จ่าย
1. เป็นคนไทยผู้มี สิทธิบัตรทอง
2. มีอาการเจ็บป่วยทั่วไปครอบคลุม 32 อาการเท่านั้น
3. ผู้รับบริการที่อายุมากกว่า 7 ปีจำเป็นต้องใช้บัตรประชาชนจริงเท่านั้น ไม่สามารถใช้สำเนาบัตรประชาชน ภาพถ่ายหรือบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ในแอปฯ ThaiID ได้
4. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี (ยังไม่มีบัตรประชาชน) ต้องใช้เอกสารสูติบัตรตัวจริงหรือสำเนาก็ได้ และผู้ปกครองต้องติดบัตรประชาชนตัวจริงมาด้วย
5. เภสัชกรจะจ่ายยาให้เฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บป่วยเท่านั้น และจะจ่ายยาตามแนวทางการใช้ยาที่สมเหตุสมผลเท่านั้น
6. หากไม่มีอาการเจ็บป่วย จะไม่มีการจ่ายยา
7. ผู้ป่วยไม่สามารถเลือกยาเองได้

ขั้นตอนการใช้ สิทธิบัตรทอง ที่ร้านยา
1. แสดงบัตรประชาชนที่ร้านยาที่มีสัญลักษณ์ “ร้านยาคุณภาพของฉัน” หรือ “30 บาท รักษาทุกที่”
2. เภสัชกรจะทำการตรวจสอบ สิทธิบัตรทอง และเสียบบัตรประชาชนของผู้รับบริการเพื่อยืนยันตัวตน
3. เภสัชกร จ่ายยาและให้คำแนะนำการใช้ยา เพื่อบรรเทาอาการเบื้องต้น พร้อมให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว
4. เมื่อครบ 3 วัน เภสัชกรจะโทรติดตามอาการผู้ป่วย

พิกัดร้าน: https://maps.app.goo.gl/A4kn6biU11Ct7NNo9?g_st=ipc

29/09/2025

การเปลี่ยนยี่ห้อยาเม็ดคุมกำเนิดไม่ใช่เรื่องยาก แต่ควรทำอย่างถูกวิธีเพื่อให้ร่างกายปรับตัวได้ดีและยังคงประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ หากคุณกำลังคิดจะเปลี่ยนยี่ห้อยาคุมกำเนิด อย. มีคำตอบ มาติดตามกันเลย #อย #ผลิตภัณฑ์ยา #ยาเม็ดคุมกำเนิด #เปลี่ยนยี่ห้อ

สามารถติดตามบทความและข้อมูลอ้างอิงต่อได้ที่..>>https://oryor.com/media/infoGraphic/media_printing/2399

ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารสุขภาพดี ๆ จาก อย. มาเป็นเพื่อนไลน์กับเราได้ที่ TikTok : เพียงแค่คลิก https://www.tiktok.com/

29/09/2025

วันที่ 29 กันยายน
วันหัวใจโลก🫀
โรคหัวใจ ถือเป็นโรคอันดับต้นๆ ที่ทำให้คนเสียชีวิต
และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องดูแลสุขภาพหัวใจของตัวเราเอง
และคนที่เรารัก
#วันหัวใจโลก
#โรคหัวใจ
#โรคหัวใจและหลอดเลือด
#สาธารณสุขพิษณุโลก

25/09/2025

ยา B5 หรือ "บีไฟว์" คืออะไร?
ชื่อสามัญ: Trihexyphenidyl
ใช้ทางการแพทย์: รักษาโรคพาร์กินสัน และบรรเทาอาการข้างเคียงจากยาจิตเวช เช่น อาการกล้ามเนื้อเกร็ง
🔬 กลไกการออกฤทธิ์ของ B5
ในสมอง มี 2 สารสื่อประสาทหลัก ที่คุมการเคลื่อนไหว
- Dopamine → ทำให้การเคลื่อนไหวสมดุล
- Acetylcholine → กระตุ้นการหดเกร็งของกล้ามเนื้อใน โรคพาร์กินสัน → Dopamine ลดลง แต่ Acetylcholine ยังทำงานเต็มที่ → เกิด อาการสั่น เกร็ง เคลื่อนไหวช้า
B5 จะไปต้าน Acetylcholine ทำให้สมดุลกับ Dopamine ดีขึ้น → กล้ามเนื้อคลายลง อาการสั่น-เกร็งลดลง
⚠️ผลข้างเคียงตามระบบ
1) ระบบประสาทส่วนกลาง (CNS)
อาการ: drowsiness, delirium, amnesia, visual/auditory hallucinations หรือในบางคนเกิด psychosis.
กลไก: ยา B5 เป็น tertiary amine ที่เข้าสมองได้ดี → บล็อก muscarinic M1 (รวมถึง M4 ในบางวงจร) ใน cortex/hippocampus ซึ่ง ACh ในบริเวณนี้จำเป็นสำหรับความจำและการรับรู้ เมื่อถูกตัดการส่งสัญญาณ → เกิดการลดความสามารถในการรับรู้ + การหลุดจากความเป็นจริง (anticholinergic delirium) และเมื่อขนาดสูงจะเกิด hallucination/psychosis ได้.
2) ระบบออโตโนมิก (peripheral parasympathetic)
- ปาก/คอแห้ง (xerostomia)
- ตามัว/มองไม่ชัด (blurred near vision) + ม่านตาขยาย (mydriasis)
- ท้องผูก (constipation)
- ปัสสาวะคั่ง (urinary retention)
3) ระบบหัวใจ-หลอดเลือด
- หัวใจเต้นเร็ว (tachycardia)
- ความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจผิดจังหวะในผู้มีโรคหัวใจ/ใช้ร่วมยากระตุ้น
4) ภาวะชัก (seizure) และผลระยะยาวทางสมอง
🌿ถ้ากินพร้อม “น้ำกระท่อม” — จะเกิดอะไร
กระท่อมส่วนใหญ่เป็น partial µ-opioid receptor agonist และยังมีผลต่อตัวรับอื่น (α2-adrenergic, serotonin/dopamine receptors) — ให้ทั้งฤทธิ์ “กระตุ้น/ยาชา/เคลิ้ม” ขึ้นกับขนาด
🧪เสริมฤทธิ์กดระบบประสาท + B5 ทำให้เกิด delirium และเคลิ้ม → รวมกันอาจทำให้หมดสติ หรือหายใจล้มเหลว (โดยเฉพาะเมื่อมียาอื่นร่วม เช่น แอลกอฮอล์/benzodiazepine/opioid).
😵‍💫อาการสับสนและประสาทหลอน รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงชักและอาการหัวใจผิดปกติ
#หมอยาเพ้อเจ้อ 👨‍⚕️
#น้ำกระท่อม #ยาเสพติด

01/09/2025

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันฝุ่น PM 2.5 อย่างไร ถึงจะปลอดภัยจากฝุ่น และไม่เกิดอันตรายกับเรา มาดูกันเลย #อย #ผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ #ฝุ่น .5 #ป้องกันฝุ่น #ผลิตภัณฑ์ป้องกันฝุ่น #ฝุ่นPM2.5 #หน้ากากป้องกันฝุ่น #หน้ากากอนามัย #หน้ากากN95

สามารถติดตามบทความและข้อมูลอ้างอิงต่อได้ที่..>>https://oryor.com/media/infoGraphic/media_printing/2394

ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารสุขภาพดี ๆ จาก อย. มาเป็นเพื่อนไลน์กับเราได้ที่ TikTok : เพียงแค่คลิก https://www.tiktok.com/

26/08/2025

ในแต่ละวันร่างกายควรได้รับสารไอโอดีนในปริมาณที่เหมาะสม วันนี้ อย. จะมาแนะนำ 4 เค็ม ในการเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ปรุงรสและเกลือเสริมไอโอดีน #อย #ผลิตภัณฑ์อาหาร #ไอโอดีน #ผลิตภัณฑ์ปรุงรสเสริมไอโอดีน #เกลือเสริมไอโอดีน

สามารถติดตามบทความและข้อมูลอ้างอิงต่อได้ที่..>>https://oryor.com/media/infoGraphic/media_printing/2393

ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารสุขภาพดี ๆ จาก อย. มาเป็นเพื่อนไลน์กับเราได้ที่ TikTok : เพียงแค่คลิก https://www.tiktok.com/

26/08/2025

25 สิงหาคม ของทุกปีตรงกับ“วันแห่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” กำเนิดเมนูฮิต พร้อมวิธีกินให้ดีต่อสุขภาพ กินอย่างไรให้เหมาะสม ไปดูกันวันนี้เรามีคำตอบ #ผลิตภัณฑ์อาหาร #อย #สัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ #บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป #ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมบริโภค #อาหารกึ่งสำเร็จรูป

“บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” จัดเป็นอาหารชนิดหนึ่งที่คนไทยนิยมรับประทานมาอย่างยาวนาน เพราะราคาถูก สะดวก อร่อย เก็บไว้ได้นาน และมีหลากหลายรสชาติให้เลือก และอย่างที่รู้กันดีอยู่ว่า…การรับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นประจำอาจไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพเพราะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบ 5 หมู่ หรืออาจได้รับโซเดียมมากเกินไป กลายเป็นโทษหรือเป็นโรคต่าง ๆ ที่ไม่ดีตามมาได้ แต่หากเรารับประทานอย่างเหมาะสมก็สามารถที่จะเป็นหนึ่งในอาหารที่มอบประโยชน์ให้กับร่างกายได้เช่นเดียวกัน

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จะมีส่วนประกอบหลัก ได้แก่ แป้ง ไขมัน และเครื่องปรุง ซึ่งพบว่าในเครื่องปรุงนั้นจะมีปริมาณโซเดียมสูง โดยปริมาณโซเดียมที่แนะนำให้บริโภคไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน ดังนั้นการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นประจำ หรือบริโภคเกินวันละ 1 ซอง โดยไม่ลดการบริโภคโซเดียมที่ได้รับจากอาหารอื่นลง อาจทำให้ได้รับโซเดียมมากเกินความต้องการของร่างกาย และหากใส่เครื่องปรุงรสต่าง ๆ ซึ่งมีโซเดียมเป็นส่วนประกอบเพิ่มเติม เช่น น้ำปลา ซอสปรุงรส ฯลฯ ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคไต และโรคหัวใจ มากขึ้น นอกจากนี้การบริโภคโดยที่ไม่ได้เติมไข่ ผัก และเนื้อสัตว์เพิ่มเข้าไปอาจทำให้ขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายได้เช่นกัน

วิธีการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอย่างเหมาะสม

- อ่านฉลากบนบรรจุภัณฑ์เสมอ เพราะฉลากโภชนาการจะบอกถึงปริมาณของสารอาหารที่ได้รับจากการรับประทานอาหารนั้น และควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์โภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ” เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการลดปริมาณโซเดียมน้อยกว่าสูตรปกติทั่วไป

- ควรใส่เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ไข่ และผัก ลงไปด้วย เพื่อเพิ่มสารอาหารให้ครบ 5 หมู่ แม้ว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบางชนิดจะมีผักหรือเนื้อสัตว์อบแห้งอยู่ในส่วนประกอบ แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

- ไม่รับประทานบ่อยจนเกินไป หรือติดต่อกันเป็นประจำ โดยเฉพาะในเด็ก เพราะอาจทำให้ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารชนิดอื่นครบถ้วน ระยะยาวอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางด้านร่างกาย ทำให้ร่างกายเติบโตไม่เต็มที่

02/08/2025