04/12/2025
👃🤧บทความเรื่อง โรคภูมิแพ้และภาวะสมาธิสั้น
โดย พญ.อัญชลี เสนะวงษ์ กุมารแพทย์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน โรงพยาบาล BNH
หลักฐานจากการศึกษาหลายฉบับชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างโรคภูมิแพ้กับความผิดปกติทางพัฒนาการ เช่น Attention-Deficit/Hyperactivity Disorder; ADHD และ Autism Spectrum Disorder; ASD
Systematic review และ meta-analysis ในปี ค.ศ. 2025 ได้รวบรวมงานวิจัยทั้งหมด 18 ฉบับ รวมจำนวนผู้เข้าร่วม 4,289,444 ราย เพื่อประเมินความสัมพันธ์ระหว่างโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis; AR) และโรคสมาธิสั้น ADHD ผลการวิเคราะห์พบว่า ผู้ป่วย AR มีความเสี่ยงต่อการเกิด ADHD เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีค่า Odds Ratio (OR) = 1.83 (95% CI: 1.37–2.43) ในทิศทางกลับกัน ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น ADHD ก็มีโอกาสพบ AR สูงกว่าประชากรทั่วไปเช่นกัน โดยมี OR = 1.38 (95% CI: 1.11–1.72) สะท้อนความสัมพันธ์สองทาง (bidirectional association) ระหว่างทั้งสองภาวะ จากข้อมูลพบว่า ผู้หญิงที่เป็น AR มีความเสี่ยงพัฒนา ADHD มากกว่าผู้ชาย อย่างมีนัยสำคัญ โดยมี OR = 1.86 (95% CI: 1.43–2.43) และเด็กอายุ ≤8 ปี ที่มีภาวะ AR พบว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิด ADHD สูงกว่าเด็กอายุมากกว่า 8 ปี โดยมี OR = 1.75 (95% CI: 1.14–2.69)
การศึกษาretrospective ขนาดใหญ่ จากอิสราเอล (Nemet et al., 2022) เปรียบเทียบ เด็ก 117,022 คนที่มีโรคภูมิแพ้อย่างน้อย 1 ชนิด (asthma, rhinitis, conjunctivitis, skin, food, drug allergy) กับเด็ก 116,968 คนที่ไม่มีโรคภูมิแพ้ ระยะติดตามเฉลี่ย 11.6 ปี พบเด็กที่มีโรคภูมิแพ้มีความเสี่ยงสูงขึ้นชัดเจนในการเกิด ADHD; Odds Ratio (OR) = 2.45 (95% CI: 2.39–2.51), p < 0.0001 และ ความเสี่ยงต่อ ASD; OR = 1.17 (95% CI: 1.08–1.27), p < 0.0001
การศึกษาจากประเทศไทย (Suwan et al., 2011) ศึกษากลุ่มผู้ป่วย ADHD จำนวน 40 ราย เทียบกลุ่มควบคุม 40 ราย ทำ skin prick test เปรียบเทียบการแพ้สารก่อภูมิแพ้ พบว่า เด็ก ADHD มีผล skin prick test positive สูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ คือ ADHD: 67.5% vs Control: 45.0%, p = 0.043 โดยเป็น Allergen: D. farinae 42.5%, D. pteronyssinus 40.0%, Bermuda grass 37.5%, และ American cockroach 35.0% สรุปว่าเด็ก ADHD มีอัตราการแพ้สารก่อภูมิแพ้สูงกว่าประชากรทั่วไป
💥กลไกที่อาจอธิบายการเชื่อมโยงนี้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นร่วมกันได้ ได้แก่
1. ปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมร่วมกัน
ข้อมูลสนับสนุนว่าทั้งสองกลุ่มโรคอาจมีรากฐานทางพันธุกรรมและปัจจัยแวดล้อมร่วมกัน
1.1 ปัจจัยจากมารดา (Maternal Factors) ได้แก่ ความเครียด ซึมเศร้า หรือความวิตกกังวลในระหว่างตั้งครรภ์, ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (GDM), หรือ ประวัติโรคภูมิแพ้ในมารดา ปัจจัยเหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและระบบประสาทของทารก ส่งผลต่อการพัฒนา neural circuits และเพิ่มความเสี่ยงของทั้งโรคภูมิแพ้และความผิดปกติด้านพฤติกรรมในอนาคต
1.2 Microbiome & Gut Dysbiosis ก่อให้เกิด การอักเสบของระบบภูมิคุ้มกัน (Immune Dysregulation) และ ผลกระทบต่อการทำงานของระบบประสาท (Affected neural circuits) ข้อมูลสนับสนุนว่า gut–brain axis มีผลต่อทั้งภูมิแพ้และ ADHD โดย dysbiosis ส่งผลต่อสารสื่อประสาท เช่น serotonin และกระบวนการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับสมอง
1.3 Environmental Factors อาหาร, มลภาวะ, และสารก่อการระคายเคืองจากสิ่งแวดล้อม มีส่วนทำให้เกิด Immune Dysregulation ส่งผลร่วมต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ และอาจเกี่ยวข้องกับการพัฒนา neurodevelopmental disorders ผ่านการกระตุ้นการอักเสบและ microglia activation
2. การอักเสบจาก mast cell และไซโตไคน์ การรบกวนของ blood–brain barrier (BBB)
มีกลไกที่อาจเกี่ยวข้อง ได้แก่ การกระตุ้น mast cell, ระดับไซโตไคน์อักเสบสูง โดยเฉพาะกลุ่ม Th2 (เช่น IL-1β, IL-6, IL-17) และเคโมไคน์ (CXCL8, CCL2). ปัจจัยเหล่านี้สามารถกระตุ้น microglia, mTOR และก่อให้เกิดการอักเสบในสมอง นำไปสู่ความผิดปกติด้านพฤติกรรมและการทำงานของระบบประสาท ปัจจัยการอักเสบจากภูมิแพ้อาจลดความสมบูรณ์ของ BBB ทำให้สารที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสารสื่อประสาท เช่น norepinephrine สามารถเข้าสู่สมองและเปลี่ยนแปลง การทำงานของระบบประสาทได้
3. ความเครียดและการรบกวนการนอน
ผู้ป่วยภูมิแพ้ มักมีความเครียดหรือความวิตกกังวลสูง อีกทั้งโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้สามารถทำให้เกิดคุณภาพการนอนลดลง ส่งผลให้เกิดความอ่อนล้าในเวลากลางวัน, สมาธิลดลง, ความจำและการควบคุมพฤติกรรมแย่ลง การขาดการนอนเรื้อรังอาจกระทบสมองส่วน frontal cortex, cingulate cortex, striatum และบริเวณที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมสมาธิ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีความผิดปกติในผู้ป่วย ADHD
4. ปัจจัยระดับโมเลกุล (Epigenetics & Mitochondrial Dysfunction)
Epigenetics และ DNA methylation มีผลต่อการเปิด–ปิดยีนที่เกี่ยวข้องกับภูมิแพ้และพัฒนาการสมอง และ Mitochondrial Dysfunction ส่งผลต่อพลังงานระดับเซลล์ประสาท ทำให้เกิดความผิดปกติของ neural circuits มีบทบาทร่วมในการเกิดแพ้และ ADHD/ASD
📝ข้อเสนอแนะต่อเวชปฏิบัติ
• แพทย์ควรตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่าง AR กับ ADHD และบูรณาการข้อมูลนี้ในการวางแผนการรักษา
• ในผู้ป่วย AR ควรให้การรักษาอย่างจริงจังเพื่อลดความเสี่ยงของภาวะสมาธิสั้น
• ในผู้ป่วย ADHD ควรคัดกรองอาการ AR ร่วมด้วย และรักษาอย่างเหมาะสมเพื่อลดผลกระทบต่อพฤติกรรมและการเรียนรู้ของผู้ป่วย
📙เอกสารอ้างอิง
1. Chua Regena Xin Yi , Tay Michelle Jia Yu , Ooi Delicia Shu Qin , Siah Kewin Tien Ho , Tham Elizabeth Huiwen , Shek Lynette Pei-Chi , Meaney Michael J. , Broekman Birit F. P. , Loo Evelyn Xiu Ling . Understanding the Link Between Allergy and Neurodevelopmental Disorders: A Current Review of Factors and Mechanisms. Frontiers in Neurology. Volume 11. 2021
2. Jingxuan Wei, Yang Li, Qiuye Wu, Bingbing Lei, Xiongbin Gui. Bidirectional association between allergic rhinitis and attention-deficit/hyperactivity disorder: A systematic review and meta-analysis. Journal of Affective Disorders. Volume 369. 2025. Pages 499-507. ISSN 0165-0327. https://doi.org/10.1016/j.jad.2024.10.032.
3. Nemet S, Asher I, Yoles I, Baevsky T, Sthoeger Z. Early childhood allergy linked with development of attention deficit hyperactivity disorder and autism spectrum disorder. Pediatr Allergy Immunol. 2022 Jun;33(6):10.1111/pai.13819. doi: 10.1111/pai.13819. PMID: 35754118; PMCID: PMC9328193.
4. Suwan P, Akaramethathip D, Noipayak P. Association between allergic sensitization and attention deficit hyperactivity disorder (ADHD). Asian Pac J Allergy Immunol. 2011 Mar;29(1):57-65. PMID: 21560489.
5. Wang, LJ., Yu, YH., Fu, ML. et al. Attention deficit–hyperactivity disorder is associated with allergic symptoms and low levels of hemoglobin and serotonin. Sci Rep 8, 10229 (2018). https://doi.org/10.1038/s41598-018-28702-5