Happybook Public สำนักพิมพ์แห่งความสุข
จากใจถึงใจ

09/11/2025

นักเขียน
ยิ่งเขียน ยิ่งเก่ง
ยิ่งแก่ ยิ่งเก๋า

ฉันเป็นมนุษย์ประเภทที่ไม่เจ็บปวดหากต้องอยู่ตามลำพัง ฉันอยากนั่งอ่านหนังสือเงียบๆคนเดียว หรือทุ่มสมาธิให้กับเพลงที่ฟัง แท...
09/11/2025

ฉันเป็นมนุษย์ประเภทที่ไม่เจ็บปวดหากต้องอยู่ตามลำพัง ฉันอยากนั่งอ่านหนังสือเงียบๆคนเดียว หรือทุ่มสมาธิให้กับเพลงที่ฟัง แทนการใช้เวลาร่วมกับผู้อื่น

"ฉันอยู่ตามลำพัง ฉันคิดหาเรื่องทำคนเดียวได้ไม่ยากเลย"..

- Haruki Murakami

- Japanese writer

ความพังจากการขายดี:⬜️❤️ สิบวันที่ผ่านมาร้านหนังสือออนไลน์มียอดจากการสั่งซื้อหนังสือเล่มหนึ่งเยอะมากๆ บางที่แพคหนังสือกัน...
09/11/2025

ความพังจากการขายดี:⬜️❤️ สิบวันที่ผ่านมาร้านหนังสือออนไลน์มียอดจากการสั่งซื้อหนังสือเล่มหนึ่งเยอะมากๆ บางที่แพคหนังสือกันวันละพันเล่มต่อวัน ที่แย่ๆ ก็วันเป็นร้อย กระแสจากเล่มงานวายที่เด็กไทยฮิตมากตอนนี้

เรื่องมีอยู่ว่าพองานมันขายดีจนพิมพ์ไม่ทันบางทีก็สั่งเกินเอาไว้เลยเพราะคิดว่ามันไหลแน่เพราะมีท่าทีว่าไปไม่หยุด ยอดจากทางบ้านส้ม และ Tiktok หนังสือพิมพ์ทีเลยมีเป็นหลักหมื่น

ช่วงเวลาเดียวกันนั่นเองเราจะเห็นร้านไหนก็โชว์แต่ขายหนังสือเล่มนี้ จนมีบางร้านเรียกลูกค้าด้วยการขายหนังสือปกนี้เหลืออยู่ 60 บาท จากเกือบสี่ร้อย (แต่มีข้อแม้ว่าต้องซื้อหนังสือเล่มอื่นของตัวเองมูลค่าหลักพันถึงจะซื้อเล่มนี้ได้ในราคานี้ )

มีการงัดการตลาดมาใช้หลายวิธีการ รวมถึงสงครามราคา

ความพังอยู่ตรงที่ทุกวันนี้คนใจร้ายเยอะครับ และแพลตฟอร์มก็เอาใจผู้บริโภคมากๆ ท้ายที่สุดไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ออเดอร์ที่สั่งเข้ามากลายเป็นยอดลม เพราะมีการยกเลิกในเวลาต่อมาของคามือร้านหนังสือ …และเคสแบบนี้ร้านหนังสือต้องซื้อสดมาล้วนๆ

ของคามือ พัสดุตีกลับ บางเคสหนังสือมีตำหนิจากการขนส่ง หนังสือเสื่อมสภาพ แน่นอนมันขายไม่ได้ราคาเดิม ร้านหนังสือต้องแบกรับอะไรตรงนี้ หนังสือก็คืนไม่ได้ ซื้อมาแล้วก็อยู่แบบนั้นคามือไปอีกนาน

ได้ยินข่าวเราได้แต่ฝากร้องขอพี่น้อง ถ้าไม่คิดรับก็อย่าได้เล่นกับอะไรแบบนี้เลยครับ หลายร้านเห็นโอกาสนี้คือทางออก เอาเงินมาซื้อหนังสือเยอะๆ เพราะมองว่ามันคือทางรอด …ถ้าไม่ได้คิดซื้ออย่าไปกดเล่นสั่งซื้อเลยครับ ร้านหนังสือในประเทศที่คนอ่านเท่าหยิบมือ โดยมากก็ร่วงตายตามธรรมชาติอยู่แล้ว อย่าได้เร่งให้มันตายเร็วไปกว่าเดิมเลย

ทราบข่าวมาแล้วก็เศร้า โดนกันไปไม่น้อยเลย ขอให้ทุกอย่างดีขึ้นและผ่านพ้นกันไปนะครับ

⬜️🟥: ป๋าโต้ง Zombie Books

อย่ารู้สึกผิดกับ “กองดองหนังสือ” เพราะการซื้อหนังสือคือการสร้างห้องสมุดส่วนตัว ที่กระตุ้นให้เราอยากอ่านไปตลอดชีวิตทุกคนท...
09/11/2025

อย่ารู้สึกผิดกับ “กองดองหนังสือ” เพราะการซื้อหนังสือคือการสร้างห้องสมุดส่วนตัว ที่กระตุ้นให้เราอยากอ่านไปตลอดชีวิต
ทุกคนที่รักหนังสือคงรู้ดีว่า การเดินเข้าร้านหนังสือมักไม่จบลงแค่การ “ดูเล่น” เพราะเราเดินออกมาพร้อมหนังสือใหม่หลายเล่ม ทั้งที่บนชั้นบ้านยังมีกองหนังสือที่ยังไม่ได้เปิดอ่าน รอเราอยู่อีกเพียบ ทำให้หลายคนเกิดความรู้สึกผิดจากการ “การดองหนังสือ” มากไป
อย่างไรก็ตาม นักสถิติชื่อดังชาวอเมริกันเชื้อสายเลบานอน นัสซิม นิโคลัส ทาเล็บ (Nassim Nicholas Taleb) บอกว่า “เราไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดต่อกองดองหนังสือขนาดนั้น” เพราะหนังสือที่ยังไม่ได้อ่านเหล่านั้นคือสิ่งที่เขาเรียกว่า “Antilibrary” หรือ “ห้องสมุดของหนังสือที่ยังไม่ได้อ่าน” ซึ่งมันไม่ใช่สัญลักษณ์ของความขี้เกียจเลย ตรงกันข้าม มันคือ “สัญลักษณ์ของความอยากรู้อย่างไม่สิ้นสุด”
ทาเล็บยกตัวอย่างนักเขียนและนักปราชญ์ชาวอิตาลีชื่อดัง อุมแบร์โต เอโก (Umberto Eco) เจ้าของห้องสมุดส่วนตัวที่มีหนังสือกว่า 30,000 เล่ม ซึ่งไม่ได้อ่านทั้งหมด
เวลามีแขกมาที่บ้าน หลายคนทึ่งกับจำนวนหนังสือและคิดว่ามันสะท้อนความรู้ของเอโก แต่ความจริงคือ เอโกเองก็รู้ว่าเขาอ่านไม่หมดแน่ ๆ เขาคำนวณคร่าว ๆ ว่าตลอดชีวิต (อายุ 10–80 ปี) หากอ่านวันละหนึ่งเล่ม ก็จะได้เพียง 25,200 เล่มเท่านั้น ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับหนังสือเป็นล้านเล่มในห้องสมุดมหาวิทยาลัย
สิ่งนี้สะท้อนว่า “มนุษย์ยังมีสิ่งที่ไม่รู้มากกว่าสิ่งที่รู้ ซึ่งหนังสือที่ยังไม่ได้อ่านคือสัญลักษณ์ของความไม่รู้ แต่ถ้าคุณรู้ว่าคุณไม่รู้ คุณก็ฉลาดกว่าคนส่วนใหญ่แล้ว”
ทาเล็บมองว่า สิ่งสำคัญคือหนังสือที่ยังไม่เปิดอ่านคือแรงผลักให้เราอยากรู้ อยากเรียนรู้ต่อไป และเตือนให้เราถ่อมตนทางปัญญา เพราะห้องสมุดที่เราอ่านจบหมดแล้ว มักกลายเป็นแค่ “ของสะสมโชว์อีโก้” มากกว่าเป็นคลังความรู้ที่มีชีวิต แต่ในทางกลับกัน ห้องสมุดที่เต็มไปด้วยหนังสือที่เรายังไม่ได้อ่าน จะกระตุ้นให้เราตื่นเต้นที่จะเลือกหยิบอ่าน และเป็นเหมือนอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้เราไม่ละทิ้งการอ่านไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
สอดคล้องงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า “บ้านที่มีหนังสือเยอะ” ส่งผลดีต่อพัฒนาการของคนในบ้าน โดยเด็กที่โตมาในบ้านที่มีหนังสือระหว่าง 80–350 เล่ม มักมีทักษะการอ่าน การคิดเลข และการใช้เทคโนโลยีดีกว่าคนทั่วไป
ทุกครั้งที่สายตาเหลือบเห็นกองหนังสือเหล่านั้น เราอาจรู้สึกตื่นเต้นได้เหมือนตอนเดินเข้าไปในร้านหนังสือ หรือห้องสมุดตอนเด็ก ๆ ความรู้สึกที่ว่า “ยังมีอะไรอีกมากให้เราได้ค้นพบ” ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ควรอยู่ติดตัวเราไปตลอดชีวิต

#อ่านหนังสือ #กองดอง
“ติดตามข่าวสารที่จะจุดประกายความคิด ให้ความหวังกับผู้คนและสังคม ได้ที่สำนักข่าว SPRiNG”

ความกลัวไม่ใช่ศัตรูมันคือสัญญาณว่าคุณกำลังจะเติบโตหากสิ่งที่คุณทำไม่ทำให้ใจเต้นแรงแปลว่าคุณยังอยู่ในเขตปลอดภัยเกินไปก้าว...
09/11/2025

ความกลัวไม่ใช่ศัตรู
มันคือสัญญาณว่าคุณกำลังจะเติบโต
หากสิ่งที่คุณทำไม่ทำให้ใจเต้นแรง
แปลว่าคุณยังอยู่ในเขตปลอดภัยเกินไป
ก้าวออกจากความกลัวทีละนิด
แล้วคุณจะรู้ว่าโลกใบนี้… ใหญ่กว่าที่คิดมากนัก

- Michael Jordan
#ลุงตี่inspiration #ลุงตี่สร้างแรงบันดาลใจ #คำคมชีวิต #ชีวิตคิดบวก

09/11/2025

กฏแรงดึงดูด
มีจริงส่งผล
เฉพาะคนลงมือทำ
และไม่ยอมแพ้!

"หมอนทอง" อีกหนึ่งบทเรียนชีวิตที่สู้เพื่อฝัน..สู้แม้วันที่รู้ตัวดีว่าไม่มีอะไรที่พร้อมเลย...
08/11/2025

"หมอนทอง" อีกหนึ่งบทเรียนชีวิตที่สู้เพื่อฝัน..สู้แม้วันที่รู้ตัวดีว่าไม่มีอะไรที่พร้อมเลย...

พญาอินทรีอักษร 'รงค์ วงษ์สวรรค์ เป็นคนสร้างศัพท์ใหม่ 'ญาติน้ำหมึก' หมายถึงนักเขียนนักอ่านที่อยู่ในวงการเดียวกัน รักเขียน...
07/11/2025

พญาอินทรีอักษร 'รงค์ วงษ์สวรรค์ เป็นคนสร้างศัพท์ใหม่ 'ญาติน้ำหมึก' หมายถึงนักเขียนนักอ่านที่อยู่ในวงการเดียวกัน รักเขียนรักอ่านเหมือนกัน แม้ไม่ได้เจอหน้ากันโดยตรง ก็สนิทสนมกันดั่งญาติ รักกันผ่านตัวหนังสือ
ผมพบญาติน้ำหมึก บินหลา สันกาลาคีรี ครั้งแรกที่สวนทูนอิน นิวาสสถานของพญาอินทรีอักษรที่เชียงใหม่ บินหลา 'บิน' มากับจักรยานคู่ชีพของเขา เราพบกัน --- หากใช้คำของเขา --- "เราพบกันเพราะหนังสือ" เพราะหากเราคนใดคนหนึ่งไม่เขียน ก็คงไม่มีโอกาสพบกัน
คิดย้อนหลังดูก็ประหลาด เราคล้ายกันหลายอย่าง อย่างแรก เราต่างฝันอยากพบพญาอินทรีอักษร และได้พบเพราะ 'รงค์ วงษ์สวรรค์ รู้จักบินหลาจากเรื่องจักรยาน (หลังอาน) และรู้จักผมจาก ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน บนหน้ามติชนสุดสัปดาห์เหมือนกัน
โลกของคนเขียนหนังสือวนเวียนในพื้นที่เดิมๆ เราพบกันหลายครั้งตามงานหนังสือ ไม่ค่อยคุยกัน ผมไม่ค่อยคุยกับใครอยู่แล้วโดยนิสัย บินหลาทำงานให้มติชน ผมก็เป็น --- หากใช้คำของเขา --- เป็น 'guest writer' ของมติชน เพราะนักเขียนคือผู้เดินทาง ฝากตัวหนังสือไว้ตามเวทีต่างๆ
พื้นเพของเราต่างเริ่มต้นที่สงขลา (เขาเรียนชั้นประถมเดียวกับน้องสะใภ้ของผม) เข้ากรุง เข้าจุฬาฯ เขียนหนังสือ เดินทาง เขียนหนังสือ เดินทาง เขียนหนังสือ บินสวนทางกันบ้างบางครา ต่างแสวงหาตำแหน่งของเราเองในโลกศิลปะ บินไปทีละหลา
เราผ่านเวทีรางวัลวรรณกรรมเดียวกัน ต่างสนใจเรื่องชีวิตผู้คน สังคม ประวัติศาสตร์ ฯลฯ เหมือนกัน ต่างเดินทางเข้าหาพื้นที่ภายในของเราเหมือนกัน
บินหลาเคยกล่าวว่า “มนุษย์ไม่ได้เรียนรู้จากสิ่งที่คนอื่นสอน แต่เรียนรู้จากสิ่งที่ตัวเองตกผลึก" ผมเห็นด้วย
นานปีให้หลัง เราพบว่าเรายังคงวนเวียนอยู่ในโลกหนังสือ ไม่ยอมย้ายไปที่วงการอื่น ราวกับสนามแม่เหล็กของโลกหนังสือทรงพลังดึงดูดให้ไม่ไปไหน
เขาให้สัมภาษณ์ว่า “ผมไม่เคยถามตัวเองว่าเขียนหนังสือไปทำไม การเขียนหนังสือเป็นการยังชีพอย่างหนึ่งที่ผมทำได้และเลือกทำ"
“เส้นทางสายนี้เดินยาก เป็นทางกันดาร ทางขรุขระ น้อยคนจะเดิน" เช่นกัน ผมเห็นด้วย
โลกหนังสือดูเหมือนแคบลงทุกวัน ญาติน้ำหมึกอาจดูน้อยลง แต่บินหลาทำให้ผมยังเชื่อว่า นักเขียนยังสามารถบินไปทีละหลาในโลกหนังสือที่หลายคนเห็นว่ามันแคบและล้าสมัยแล้ว ทว่าในสายตาของเรา โลกหนังสือนี้กว้างใหญ่ไพศาลไปชิดนิรันดร
วินทร์ เลียววาริณ
7 พฤศจิกายน 2568

พญาอินทรีอักษร 'รงค์ วงษ์สวรรค์ เป็นคนสร้างศัพท์ใหม่ 'ญาติน้ำหมึก' หมายถึงนักเขียนนักอ่านที่อยู่ในวงการเดียวกัน รักเขียนรักอ่านเหมือนกัน แม้ไม่ได้เจอหน้ากันโดยตรง ก็สนิทสนมกันดั่งญาติ รักกันผ่านตัวหนังสือ

ผมพบญาติน้ำหมึก บินหลา สันกาลาคีรี ครั้งแรกที่สวนทูนอิน นิวาสสถานของพญาอินทรีอักษรที่เชียงใหม่ บินหลา 'บิน' มากับจักรยานคู่ชีพของเขา เราพบกัน --- หากใช้คำของเขา --- "เราพบกันเพราะหนังสือ" เพราะหากเราคนใดคนหนึ่งไม่เขียน ก็คงไม่มีโอกาสพบกัน

คิดย้อนหลังดูก็ประหลาด เราคล้ายกันหลายอย่าง อย่างแรก เราต่างฝันอยากพบพญาอินทรีอักษร และได้พบเพราะ 'รงค์ วงษ์สวรรค์ รู้จักบินหลาจากเรื่องจักรยาน (หลังอาน) และรู้จักผมจาก ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน บนหน้ามติชนสุดสัปดาห์เหมือนกัน

โลกของคนเขียนหนังสือวนเวียนในพื้นที่เดิมๆ เราพบกันหลายครั้งตามงานหนังสือ ไม่ค่อยคุยกัน ผมไม่ค่อยคุยกับใครอยู่แล้วโดยนิสัย บินหลาทำงานให้มติชน ผมก็เป็น --- หากใช้คำของเขา --- เป็น 'guest writer' ของมติชน เพราะนักเขียนคือผู้เดินทาง ฝากตัวหนังสือไว้ตามเวทีต่างๆ

พื้นเพของเราต่างเริ่มต้นที่สงขลา (เขาเรียนชั้นประถมเดียวกับน้องสะใภ้ของผม) เข้ากรุง เข้าจุฬาฯ เขียนหนังสือ เดินทาง เขียนหนังสือ เดินทาง เขียนหนังสือ บินสวนทางกันบ้างบางครา ต่างแสวงหาตำแหน่งของเราเองในโลกศิลปะ บินไปทีละหลา

เราผ่านเวทีรางวัลวรรณกรรมเดียวกัน ต่างสนใจเรื่องชีวิตผู้คน สังคม ประวัติศาสตร์ ฯลฯ เหมือนกัน ต่างเดินทางเข้าหาพื้นที่ภายในของเราเหมือนกัน

บินหลาเคยกล่าวว่า “มนุษย์ไม่ได้เรียนรู้จากสิ่งที่คนอื่นสอน แต่เรียนรู้จากสิ่งที่ตัวเองตกผลึก" ผมเห็นด้วย

นานปีให้หลัง เราพบว่าเรายังคงวนเวียนอยู่ในโลกหนังสือ ไม่ยอมย้ายไปที่วงการอื่น ราวกับสนามแม่เหล็กของโลกหนังสือทรงพลังดึงดูดให้ไม่ไปไหน

เขาให้สัมภาษณ์ว่า “ผมไม่เคยถามตัวเองว่าเขียนหนังสือไปทำไม การเขียนหนังสือเป็นการยังชีพอย่างหนึ่งที่ผมทำได้และเลือกทำ"

“เส้นทางสายนี้เดินยาก เป็นทางกันดาร ทางขรุขระ น้อยคนจะเดิน" เช่นกัน ผมเห็นด้วย

โลกหนังสือดูเหมือนแคบลงทุกวัน ญาติน้ำหมึกอาจดูน้อยลง แต่บินหลาทำให้ผมยังเชื่อว่า นักเขียนยังสามารถบินไปทีละหลาในโลกหนังสือที่หลายคนเห็นว่ามันแคบและล้าสมัยแล้ว ทว่าในสายตาของเรา โลกหนังสือนี้กว้างใหญ่ไพศาลไปชิดนิรันดร

วินทร์ เลียววาริณ
7 พฤศจิกายน 2568

เห็นเขามีดราม่ากันใน X ครับคิดว่านอกจากความบันเทิงแล้วเราจะได้อะไรจากนิยายที่เราอ่านบ้างครับ    มีงานวิจัยในปี ค.ศ. 2013...
07/11/2025

เห็นเขามีดราม่ากันใน X ครับ

คิดว่านอกจากความบันเทิงแล้วเราจะได้อะไรจากนิยายที่เราอ่านบ้างครับ

มีงานวิจัยในปี ค.ศ. 2013 ซึ่งตีพิมพ์ใน Science ได้มอบหมายให้ผู้คนอ่านหนังสือหลายประเภท ทั้ง วรรณกรรม, นิยายทั่วไป, non-fiction หลังจากนั้นก็ให้มีการทดสอบ "Theory of Mind" ซึ่งเป็นการทดสอบความเห็นอกเห็นใจที่มีต่อผู้อื่น ผลปรากฏออกมาว่า ผู้ที่อ่านวรรณกรรม มีพัฒนาการในเรื่องความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากที่สุด

หรือจะเป็นการศึกษาในปี ค.ศ. 2014 ที่พบว่า นักเรียนทั้งในสหราชอาณาจักรและอิตาลี มีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อพยพ ผู้ลี้ภัย ชาวเกย์และเลสเบี้ยน มากขึ้นหลังจากได้อ่าน Harry Potter

Sarah Knorath นักวิจัยจาก Lilly Family School of Philanthropy at Indiana University กล่าวไว้ ซึ่งสรุปได้ว่า การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เป็นสิ่งที่จูงใจให้เกิดพฤติกรรมการแบ่งปัน การเป็นอาสาสมัคร การช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งการเห็นอกเห็นใจก็เป็นผลมาจากการอ่านหนังสือนั่นเอง

สำหรับผมแล้ว เมื่อเราอ่านวรรณกรรมดีๆ ผู้เขียนจะสามารถทำให้เรากลายไปเป็นตัวละครได้จริงๆ เข้าใจสิ่งที่ตัวละครต้องพบเจอ ย่อมไม่แปลกที่เราจะเห็นอกเห็นใจตัวเองที่ต้องไปอยู่ในสถานการณ์เดียวกับตัวละคร และความเห็นอกเห็นใจนี้เองจะช่วยยึดโยงไม่ให้สังคมไม่พังทลายไปเพราะความที่คิดถึงแต่ตัวเองของมนุษย์ นั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำไมเราถึงต้องอ่านนิยาย

----------

เห็นเขามีดราม่ากันใน X ครับ

คิดว่านอกจากความบันเทิงแล้วเราจะได้อะไรจากนิยายที่เราอ่านบ้างครับ

มีงานวิจัยในปี ค.ศ. 2013 ซึ่งตีพิมพ์ใน Science ได้มอบหมายให้ผู้คนอ่านหนังสือหลายประเภท ทั้ง วรรณกรรม, นิยายทั่วไป, non-fiction หลังจากนั้นก็ให้มีการทดสอบ "Theory of Mind" ซึ่งเป็นการทดสอบความเห็นอกเห็นใจที่มีต่อผู้อื่น ผลปรากฏออกมาว่า ผู้ที่อ่านวรรณกรรม มีพัฒนาการในเรื่องความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากที่สุด

หรือจะเป็นการศึกษาในปี ค.ศ. 2014 ที่พบว่า นักเรียนทั้งในสหราชอาณาจักรและอิตาลี มีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อพยพ ผู้ลี้ภัย ชาวเกย์และเลสเบี้ยน มากขึ้นหลังจากได้อ่าน Harry Potter

Sarah Knorath นักวิจัยจาก Lilly Family School of Philanthropy at Indiana University กล่าวไว้ ซึ่งสรุปได้ว่า การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เป็นสิ่งที่จูงใจให้เกิดพฤติกรรมการแบ่งปัน การเป็นอาสาสมัคร การช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งการเห็นอกเห็นใจก็เป็นผลมาจากการอ่านหนังสือนั่นเอง

สำหรับผมแล้ว เมื่อเราอ่านวรรณกรรมดีๆ ผู้เขียนจะสามารถทำให้เรากลายไปเป็นตัวละครได้จริงๆ เข้าใจสิ่งที่ตัวละครต้องพบเจอ ย่อมไม่แปลกที่เราจะเห็นอกเห็นใจตัวเองที่ต้องไปอยู่ในสถานการณ์เดียวกับตัวละคร และความเห็นอกเห็นใจนี้เองจะช่วยยึดโยงไม่ให้สังคมไม่พังทลายไปเพราะความที่คิดถึงแต่ตัวเองของมนุษย์ นั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำไมเราถึงต้องอ่านนิยาย

----------


ig : https://www.instagram.com/read_lak/

อ้างอิง : https://www.discovermagazine.com/mind/how-reading-fiction-increases-empathy-and-encourages-understanding?fbclid=IwAR0G7SF_X9XJp0t5mrvKQM66nLAiSOEAoc7ElhoxayLnV9EP07GNgmlS_zg

‘งานทั้ง 10 ของนักเขียน’ ที่ บินหลา สันกาลาคีรี ฝากไว้ก่อนจากลาทีม happening ขอแสดงความเสียใจและอาลัยต่อการจากไปของ วุฒิ...
07/11/2025

‘งานทั้ง 10 ของนักเขียน’ ที่ บินหลา สันกาลาคีรี ฝากไว้ก่อนจากลา

ทีม happening ขอแสดงความเสียใจและอาลัยต่อการจากไปของ วุฒิชาติ ชุ่มสนิท นักเขียนที่ใช้นามปากกาว่า บินหลา สันกาลาคีรี
-
บินหลา สันกาลาคีรี เป็นนักเขียนมากฝีมือที่มีผลงานหนังสือหลายเล่มเป็นที่จดจำของนักอ่าน เช่น คิดถึงทุกปี, บินทีละหลา, รวมเรื่องสั้น คิดถึงทุกปี, หลังอาน, เราพบกันเพราะหนังสือ ฯลฯ และ เจ้าหงิญ หนังสือรวมเรื่องสั้นทั้ง 8 เรื่องของเขา ยังได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ของประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2548 อีกด้วย

เขายังมีอีกหนึ่งบทบาทที่สำคัญของแวดวงวรรณกรรมคือ การนำนิตยสาร ไรท์เตอร์ ที่มีสโลแกนว่า ‘โลกนักอ่าน บ้านนักเขียน ห้องเรียนนักฝัน’ กลับมาอีกครั้ง แล้วเป็นบรรณาธิการร่วมกับ วรพจน์ พันธุ์พงศ์ และ พรชัย วิริยะประภานนท์
ในช่วงที่เขาทำนิตยสาร ไรท์เตอร์นี้เอง happening มีโอกาสสัมภาษณ์เขาลงนิตยสาร happening ฉบับที่ 60 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ซึ่งเขาพูดถึง ‘งาน’ ที่นักเขียนควรทำ 10 ข้อ เราจึงขอใช้ช่วงเวลานี้นำสิ่งที่เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้เพื่อเข้าใจมุมมองการเป็นนักเขียนของเขากัน

1. นักเขียนต้องออกกำลังกาย เพื่อรักษาสมอง

2. นักเขียนควรมีพจนานุกรมในการเลือกเฟ้นคำ

3. ศึกษาประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และภาษาอังกฤษ

4. คุณต้องอ่าน คุณต้องเสพศิลปะ

5. คุณต้องตระหนักรู้ว่า คุณเป็นส่วนหนึ่งของสังคม

6. นักเขียนต้องเดินทาง การเดินทางเป็นการเรียนรู้จากตัวเอง ช่วยหัดตัดสินใจ หัดคิด หัดมอง

7. นักเขียนต้องฝึกให้เยอะ มันเป็นการฝึกเลือกคำ ยิ่งฝึกมากเท่าไหร่ การเลือกก็ยิ่งเข้าใกล้ความเป็นจริงมาก

8. แสวงหาบรรณาธิการให้เจอ นอกเหนือจากการได้การชี้นำ การชี้แนะการเขียนที่ถูกต้องแล้ว คุณจะแสวงหาความนอบน้อมข้างในของตัวเองเจอเหมือนกัน

9. การรักใครสักคน ทุกอารมณ์เป็นเรื่องของพลังจากข้างใน ทุกอารมณ์ช่วยมนุษย์ส่งพลังออกมาได้อยู่แล้ว แต่อารมณ์รักส่งเยอะที่สุด

10. ถึงคุณจะรักใครสักคน คุณก็ต้องอยู่คนเดียวให้เป็น ในแต่ละวันเรามีความพร้อมที่จะคุยกับคนอื่น ทำให้ทำงานยาก นักเขียนต้องทำงานคนเดียว ต้องพร้อมที่จะคุยกับตัวเอง

ด้วยความอาลัยและระลึกถึง
ทีม happening

#บินหลาสันกาลาคีรี

‘งานทั้ง 10 ของนักเขียน’ ที่ บินหลา สันกาลาคีรี ฝากไว้ก่อนจากลา

ทีม happening ขอแสดงความเสียใจและอาลัยต่อการจากไปของ วุฒิชาติ ชุ่มสนิท นักเขียนที่ใช้นามปากกาว่า บินหลา สันกาลาคีรี
-
บินหลา สันกาลาคีรี เป็นนักเขียนมากฝีมือที่มีผลงานหนังสือหลายเล่มเป็นที่จดจำของนักอ่าน เช่น คิดถึงทุกปี, บินทีละหลา, หลังอาน, เราพบกันเพราะหนังสือ ฯลฯ และ เจ้าหงิญ หนังสือรวมเรื่องสั้นทั้ง 8 เรื่องของเขา ยังได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ของประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2548 อีกด้วย

เขายังมีอีกหนึ่งบทบาทที่สำคัญของแวดวงวรรณกรรมคือ การนำนิตยสาร ไรท์เตอร์ ที่มีสโลแกนว่า ‘โลกนักอ่าน บ้านนักเขียน ห้องเรียนนักฝัน’ กลับมาอีกครั้ง แล้วเป็นบรรณาธิการร่วมกับ วรพจน์ พันธุ์พงศ์ และ พรชัย วิริยะประภานนท์
ในช่วงที่เขาทำนิตยสาร ไรท์เตอร์นี้เอง happening มีโอกาสสัมภาษณ์เขาลงนิตยสาร happening ฉบับที่ 60 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ซึ่งเขาพูดถึง ‘งาน’ ที่นักเขียนควรทำ 10 ข้อ เราจึงขอใช้ช่วงเวลานี้นำสิ่งที่เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้มาลงให้อ่านกันอีกครั้ง เพื่อที่จะเข้าใจมุมมองการเป็นนักเขียนของเขากัน

1. นักเขียนต้องออกกำลังกาย เพื่อรักษาสมอง

2. นักเขียนควรมีพจนานุกรมในการเลือกเฟ้นคำ

3. ศึกษาประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และภาษาอังกฤษ

4. คุณต้องอ่าน คุณต้องเสพศิลปะ

5. คุณต้องตระหนักรู้ว่า คุณเป็นส่วนหนึ่งของสังคม

6. นักเขียนต้องเดินทาง การเดินทางเป็นการเรียนรู้จากตัวเอง ช่วยหัดตัดสินใจ หัดคิด หัดมอง

7. นักเขียนต้องฝึกให้เยอะ มันเป็นการฝึกเลือกคำ ยิ่งฝึกมากเท่าไหร่ การเลือกก็ยิ่งเข้าใกล้ความเป็นจริงมาก

8. แสวงหาบรรณาธิการให้เจอ นอกเหนือจากการได้การชี้นำ การชี้แนะการเขียนที่ถูกต้องแล้ว คุณจะแสวงหาความนอบน้อมข้างในของตัวเองเจอเหมือนกัน

9. การรักใครสักคน ทุกอารมณ์เป็นเรื่องของพลังจากข้างใน ทุกอารมณ์ช่วยมนุษย์ส่งพลังออกมาได้อยู่แล้ว แต่อารมณ์รักส่งเยอะที่สุด

10. ถึงคุณจะรักใครสักคน คุณก็ต้องอยู่คนเดียวให้เป็น ในแต่ละวันเรามีความพร้อมที่จะคุยกับคนอื่น ทำให้ทำงานยาก นักเขียนต้องทำงานคนเดียว ต้องพร้อมที่จะคุยกับตัวเอง

ด้วยความอาลัยและระลึกถึง
ทีม happening

#บินหลาสันกาลาคีรี

ถ้าคุณ“ไม่ยอมแพ้”คุณก็จะ“ไม่มีวันแพ้” - คมสันต์ ลี (ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ บริษัท Flash Express)
06/11/2025

ถ้าคุณ
“ไม่ยอมแพ้”
คุณก็จะ
“ไม่มีวันแพ้” - คมสันต์ ลี (ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ บริษัท Flash Express)

ถ้าคุณ
“ไม่ยอมแพ้”
คุณก็จะ
“ไม่มีวันแพ้” - คมสันต์ ลี (ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ บริษัท Flash Express)

#บทความ #แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต #ข้อคิด #คำคม

ที่อยู่

1/141 ต. ท่าวังตาล อ. สารภี จ. Chiang Mai
Chiang Mai
50140

เบอร์โทรศัพท์

+66930785999

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Happybook Publicผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

happybook

องค์กรแห่งความสุข