02/12/2025
แม่หมวยคนสวย มาเช็คแผลผ่าคลอดค่ะ หน้าหนูโหด แต่อยู่ในโหมดฟรุ้งฟริ้งนะคะ😘😘😘
🐶✨ “การคลอดยากในสุนัข” และการตัดสินใจผ่าคลอด
การคลอดลูกของสุนัขส่วนใหญ่เป็นไปตามธรรมชาติ แต่บางครั้งอาจเกิด ภาวะคลอดยาก (Dystocia) ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉิน หากช้าอาจทำให้ลูกและแม่สุนัขเสียชีวิตได้ค่ะ
สัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่า “แม่สุนัขอาจคลอดยาก”
• เบ่งแรงนานเกิน 30–60 นาที แต่ไม่มีลูกออก
• เบ่งอ่อนๆ นานเกิน 2–3 ชั่วโมง
• มีน้ำคร่ำ/เลือดสีเขียวคล้ำออกมา แต่ลูกยังไม่คลอด
• ลูกตัวแรกไม่ออกภายใน 2 ชั่วโมงหลังเริ่มเบ่ง
• ลูกออกบางส่วนแล้วติด ไม่สามารถดึงออกได้
• แม่สุนัขอ่อนแรง มีไข้ หอบ เหม่อลอย
• ท้องใหญ่ผิดปกติ คาดว่าลูกตัวใหญ่หรือติดขัด
หากพบอาการใดอาการหนึ่ง แนะนำให้รีบพบสัตวแพทย์ทันทีค่ะ
🩻 ทำไมถึงเกิด “คลอดยาก”?
• ลูกตัวใหญ่เกินไป
• ลูกอยู่ในท่าผิดปกติ
• ช่องเชิงกรานแม่แคบ
• มดลูกบีบตัวไม่ดี (uterine inertia)
• แม่สุนัขอายุมาก หรือสุขภาพไม่พร้อม
• ตั้งท้องหลายตัวมากหรือน้อยเกินไป
🏥 เมื่อไหร่ต้อง “ผ่าคลอด”?
การผ่าคลอดมักแนะนำในกรณีต่อไปนี้
• แม่สุนัขเบ่งนานเกินเกณฑ์แล้วลูกไม่ออก
• มีสัญญาณ fetal distress (ลูกขาดออกซิเจน)
• ลูกติดออกบางส่วน
• แม่สุนัขหมดแรง / ภาวะฉุกเฉิน เช่น ความดันต่ำ น้ำตาลต่ำ
• เคยผ่าคลอดมาก่อนและโอกาสคลอดเองต่ำ
• สุนัขบางสายพันธุ์ที่มักคลอดยาก เช่น ปอม ชิวาวา บูลด็อก ปั๊ก
👍การผ่าคลอดปลอดภัยไหม?
การผ่าคลอดถือเป็น การช่วยชีวิตทั้งแม่และลูก
ในคลินิกจะมีการ
• ตรวจสภาพแม่สุนัข
• เจาะเลือดวัดน้ำตาล/แคลเซียม
• X-ray ดูจำนวนลูกและตำแหน่ง
• ใช้ยาสลบที่ปลอดภัยสำหรับแม่และลูก
• มีทีมช่วยกระตุ้นลูกหลังคลอดทุกตัว
หลังผ่าคลอด แม่สุนัขจะฟื้นตัวเร็ว และลูกสามารถเข้าเต้าได้ทันทีหากแข็งแรงค่ะ