Jaidee clinic ใจดีคลินิกเวชกรรม รักษาโรคทั่วไป โ?

01/12/2025

🧠 ภาวะสิ้นยินดี (Anhedonia)

หนึ่งในอาการของโรคซึมเศร้าที่ “เปลี่ยนโลกทั้งใบ” ทำให้รู้สึกว่าความสุขหายไปหมด และเลิกทำกิจกรรมแทบทุกอย่าง แม้แต่สิ่งที่เคยชอบ
(Loss of interests: หนึ่งใน major criteria ของการวินิจฉัย)

แต่รายละเอียดของอาการนี้อาจต่างกันไปในแต่ละคน เพราะวงจรประเมินความพอใจในสมองมีหลายชุด ทำงานซับซ้อน คนไข้แต่ละคนจึงเล่าอาการออกมาไม่เหมือนกัน บางคนเป็นครบหลายแบบพร้อมกันด้วย

—————————————-

1️⃣ วงจรรางวัล (Reward system – VTA → NAcc)

เซลล์ประสาทจากก้านสมอง (VTA) ส่ง dopamine
ไปกระตุ้นศูนย์ประสานแรงจูงใจ (NAcc)
ซึ่งเป็นวงจรที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด

หน้าที่หลัก
✔️ ทำให้เรารู้สึกพอใจ
✔️ ทำให้ “อยากทำอีก”
✔️ เป็นหัวใจของแรงจูงใจ (motivation)

เมื่อวงจรนี้ทำงานน้อยลงแบบที่พบในโรคซึมเศร้า
→ ทำอะไรก็ไม่รู้สึกพอใจเหมือนเดิม
→ แม้กิจกรรมที่เคยชอบก็ “ดีใจไม่ขึ้น”
→ แรงจูงใจในการทำซ้ำหายไป

—————————————

2️⃣ ศูนย์ประเมินคุณค่าของรางวัล (Orbitofrontal Cortex – OFC)

OFC คือจุดที่คอย “ตีราคา” ให้กับสิ่งที่เราทำ
ว่าคุ้มไหม? ให้ความรู้สึกดีมากกว่าอย่างอื่นไหม?

ในโรคซึมเศร้า OFC มักทำงานต่ำลง หรือประเมินมูลค่ารางวัลผิดเพี้ยน
→ ทุกอย่างดูไม่คุ้ม
→ ไม่มีสิ่งไหน “ดูดึงดูด” พอที่จะลงมือทำ
→ จึงไม่เลือกทำอะไรเลย เพราะรู้สึกว่ามันเหมือนกันหมด

—————————————

3️⃣ วงจรกดความพอใจ (Antireward system – Lateral Habenula)

หน้าที่หลักของส่วนนี้คือกดการทำงานวงจรรางวัลในข้อ 1
และลดแรงจูงใจเมื่อสมองตีความว่าสิ่งนั้นไม่ดีหรือไม่คุ้ม (negative prediction error)

ปกติมันช่วยให้เราหยุดทำสิ่งที่อาจเป็นภัย เพื่อให้โฟกัสกับการเอาตัวรอด

แต่ในโรคซึมเศร้า LHb มักทำงานมากเกินไป
→ จำลองโลกให้เต็มไปด้วยสัญญาณลบ
→ คาดการณ์ล่วงหน้าว่า “ยังไงก็ไม่ดีแน่”
→ เลยไม่เริ่มทำอะไรตั้งแต่แรก

—————————————

แม้กลไกจะต่างกัน แต่ผลลัพธ์คล้ายกัน

คือ เลิกทำกิจกรรมทุกอย่างที่เคยทำ
✔️ บางคน “อยากทำแต่ทำไม่ลง” (motivation deficit)
✔️ บางคน “ทำแล้วก็ไม่รู้สึกดี” (hedonic deficit)

แต่อาการนี้ ดีขึ้นได้เมื่อได้รับการรักษาค่ะ
ทั้งยา ทั้งจิตบำบัด และการฟื้นสมองด้วยกิจกรรมที่เหมาะสม เช่น ออกกำลังกาย

01/12/2025

ปัญหาหนึ่งที่ทำให้ปัญหาด้านความจำบางคนฟื้นช้า เพราะ Hippocampus ไม่ได้ฝ่อจุดเดียว แต่ถนนทางออกชื่อ Fornix มันก็เสียหายไปด้วย

การจะฟื้นเลยต้องฟื้นทั้งระบบ ต้องใช้เวลาค่ะ


Fornix คืออะไร?

มันเป็นคล้ายๆ ถนนหลวงที่รวมเซลล์ประสาทจำนวนมหาศาลที่พุ่งออกมาจาก Hippocampus ค่ะ
🚙 นำข้อมูลความจำที่เข้ารหัสไว้ ส่งไปยังวงจร Papez เพื่อสร้างความจำระยะยาว
🚙 ส่งสัญญาณควบคุมด้าน ‘อารมณ์’ กับสมองส่วนอื่นๆ
🚙 ส่งสัญญาณมุ่งตรงไปยัง Nucleus accumbens จุดที่สร้างแรงจูงใจ

ดังนั้น หน้าที่ของ Fornix เป็นคล้ายๆ ถนนตัวเชื่อมให้ส่วนต่างๆ ประสานงานได้ถูกต้องค่ะ เหมือนทางหลวงระหว่างเมืองหลวง ที่ควบคุมทั้ง “ความจำ + บริบท + อารมณ์”
เชื่อมวงจรความสุขกับความจำ → ทำให้บางประสบการณ์มี “คุณค่า”


ตัวอย่างเช่น กินอาหารที่ชอบแล้วรู้สึกอร่อย และอยากกินอีก อันนี้ผลจากวงจร reward ธรรมดาๆ

แต่มันยังทำให้รู้สึกถึงอดีตที่เคยกินอาหารนี้กับคนที่เรารัก ความทรงจำต่างๆ หวนขึ้นมา นั่นแหละค่ะ หนึ่งในสัญญาณที่ Forxnia ประสานให้



ซึมเศร้าทำอะไรกับ Fornix?

งานวิจัยปี 2023 (7T MRI) พบว่า:
☑️ ฉนวนไมอิลินของ Fornix ลดลง อย่างมีนัยสำคัญในผู้ป่วยซึมเศร้า
☑️ สาเหตุ: การอักเสบเรื้อรังจากเซลล์ไมโครเกลีย + ฮอร์โมน cortisol สูง
☑️ ไมอิลิน = เดิมช่วยให้สัญญาณเดินเร็ว
→ ดังนั้นพอขาดไมอิลิน = ถนนขรุขระเดินช้า

ผลเมื่อ Fornix พัง
🔴 จำสิ่งใหม่ยากขึ้น การเรียนแย่ลง การทำงานแย่ลง
🔴 ความทรงจำดีๆ ไม่รู้สึกดีเท่าเดิม
🔴 เจอเรื่องดี ก็ไม่รู้สึกสุข ซึ่งเสริมความเสียหายที่
reward system ที่เจอในซึมเศร้าเช่นกัน



แต่มันซ่อมได้ค่ะ เพราะว่าปัญหามันเป็นเรื่องความเสียหายของถนน ไม่ใช่ถนนขาด ดังนั้นเมื่อรักษาซึมเศร้า → สมองสร้าง BDNF มากขึ้น, การอักเสบลดลง
Fornix ก็จะกลับมามีฉนวนใหม่อีกครั้งค่ะ แต่ต้องใช้เวลาค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ

01/12/2025

หากเป็นซึมเศร้าแล้ว
ยาคือจุดเริ่มต้นที่ควรเริ่ม

แต่มันไม่ใช่ทุกสิ่ง ต้องแทบจะปรับทุกจุกในชีวิตเลย ให้ทุกอย่างมุ่งสู่การงอกของเซลล์ประสาทกลับมาให้ทำงานได้ด้วยตัวมันเองค่ะ

01/12/2025

🌙 Sleep Debt: หนี้การนอนที่สมองต้องจ่ายคืน
วิทยาศาสตร์ของการนอนไม่พอสะสม กับผลต่อสมาธิ อารมณ์ และระบบภูมิคุ้มกัน

เคยไหม…นอนน้อยแค่ 2–3 วัน แต่สมองช้า เหมือนแบตเหลือ 5% ตลอดเวลา?

ความจริงคือ “การนอนไม่พอ” ไม่ได้หายไปเอง — สมองจำเป็นต้อง “ชำระคืน” เหมือนหนี้ที่ดอกเบี้ยเพิ่มทุกวัน

💡 ข้อมูลงานวิจัยใหม่จาก Yale และ Frontiers in Neuroscience พบว่าการนอนไม่พอสะสม

ผลกระทบต่อสมอง & สมาธิ
ระบบ “Glymphatic” ที่ทำความสะอาดของเสียในสมองลดลง ทำให้สารพิษ เช่น Beta-amyloid สะสมมากขึ้นซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความจำเสื่อมหรือโรคสมองได้

การทำงานด้านความจำ Working Memory และสมาธิได้รับผลกระทบชัดเจน เช่น งานวิจัยพบว่า หลังนอนไม่พอ 36 ชั่วโมง พบคลื่นสมอง ERP ที่เกี่ยวข้องกับ working memory มีความผิดปกติ

งานวิจัยพบว่า ผู้ที่นอนเฉลี่ยน้อยกว่า 7 ชั่วโมง/คืน มีโอกาสพบรอยโรคสมอง (white-matter hyperintensities) ที่สัมพันธ์กับโรคหลอดเลือดสมองและภาวะสมองเสื่อม

ผลต่ออารมณ์ จิตใจ
การนอนไม่พอมีผลให้ระบบควบคุมอารมณ์ของสมอง สมองส่วน Prefrontal Cortex และ Amygdala ทำงานไม่สัมพันธ์กัน อารมณ์แปรปรวนง่าย

นอกจากนี้ การนอนน้อยยังทำให้ระบบควบคุมน้ำตาล ฮอร์โมน cortisol และระบบประสาทซิมพาเทติกถูกกระตุ้น ส่งผลให้ความตึงเครียดในชีวิตประจำวันสูงขึ้น
ผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน

การนอนน้อยหรือนอนไม่เพียงพอยังส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง ได้แก่ ลดกิจกรรมของ natural killer (NK) cells, ส่งผลให้การผลิต antibody หลังวัคซีนลดลง

การนอนไม่พอทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะอักเสบเรื้อรัง (elevated cytokines เช่น IL-6, TNF-α) ซึ่งเชื่อมโยงกับความเสี่ยงโรคหัวใจ เบาหวาน และโรคทางสมอง เซลล์ภูมิคุ้มกันในสมองเคลื่อนที่ผิดปกติ ทำให้เกิด “ภาวะอักเสบเงียบ”

🧠 ผลลัพธ์ของการนอนไม่พอ ร่างกายไม่เพียงแต่รู้สึกเหนื่อย แต่สมาธิสั้นลง ความจำถดถอย อารมณ์ไม่นิ่ง และภูมิคุ้มกันพังโดยไม่รู้ตัว

☁️ วิธี “ปลดหนี้การนอน” อย่างได้ผล
ตั้งเป้านอน 7–9 ชม. ต่อคืน สำหรับผู้ใหญ่ โดยหลีกเลี่ยงนอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมงเป็นประจำ

รักษาเวลานอน–ตื่นให้คงที่ แม้วันหยุด เพื่อรักษานาฬิกาชีวิต (circadian rhythm)

ลดแสงจอก่อนนอนอย่างน้อย 30 นาที

เลี่ยงคาเฟอีน / แอลกอฮอล์ก่อนนอน เพราะอาจรบกวนคุณภาพการนอนและหยุดวงจรการนอนลึก

เพิ่ม “การนอนกู้คืน” (Recovery Sleep) ในคืนต่อมาหลังอดนอน ควรเข้านอนเร็วขึ้น 1 ชม.

เคลื่อนไหว เบาๆ ในวันที่รู้สึกตื่นตัวน้อย เช่น เดินเร็ว โยคะ หรือ stretch ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนและลดความอ่อนล้า

สังเกตสัญญาณเตือน เช่น อารมณ์เหวี่ยง จำไม่แม่น หรือเจ็บป่วยง่าย — คือสัญญาณว่าร่างกายกำลัง “ทวงหนี้การนอน”

✨ “การนอน” ไม่ใช่รางวัลหลังเหนื่อย แต่คือ “เงื่อนไขพื้นฐานของสมองที่ดี”
เพราะทุกครั้งที่เราหลับ สมองกำลังซ่อมแซมตัวเองเพื่อเริ่มต้นใหม่ในวันรุ่งขึ้น

📚 แหล่งที่มา:
Hershner & Chervin, The consequences of sleep deprivation on cognitive performance, PMC (2022)
Garbarino et al., Sleep and immune health, PMC (2022)
Yale School of Medicine (2024) "Poor sleep may increase markers of poor brain health"
Frontiers in Neuroscience (2020) "Effects of sleep loss on working memory and emotion regulation"


#เรียนจากคนรู้จริง

01/12/2025

เป็นซึมเศร้าแล้ว มีใครมาพูดอะไรซักอย่าง แล้วเราก็พยายามจำ พอเวลาผ่านไปไม่ถึงนาทีก็ลืมละ ว่าเขาพูดอะไรมานะ เหมือนมันไม่เข้าหัวเลย

ลักษณะแบบนี้เรียกว่า Working memory พังจ้า มันเป็นระบบความจำชั่วคราวที่เก็บไว้ใน dorsolateral prefrontal cortex (dlPFC) สมองส่วนตรรกะนั่นแหละค่ะ

แล้ว Hippocampus ที่สร้างจำไม่พังเหรอ?
อ๋อ พังไปก่อนแล้วจ้า รายนั้นคือไว้สร้างความจำระยะยาวฝังไว้ที่ cortex ซึ่งทำให้อ่านหนังสือ เรียนรู้อะไรแทบไม่เข้าหัวเลย นึกอะไรจากความจำยาวกว่า 1 นาทีนั้นก็ไม่ค่อยออก

สรุปคือ พังทั้งจำแบบสั้นมากๆ จำยาวๆ นั่นแหละ
ที่สำคัญคือ อาจจะมัวแต่เหม่อลอยเปิดโหมด DMN จนไม่ได้รับ ‘สาร’ เข้ามาแต่แรกก็ได้

ก็เลยเป็นที่มาว่าทำไมเน้นย้ำเสมอว่า ให้รีบเข้ารับการรักษา หากเจอผลข้างเคียงรีบกลับไปพบจิตแพทย์เพื่อให้ปรับยาหรือเปลี่ยนตัวยา อย่างน้อยอาการดิ่งดีขึ้นบ้าง ความจำพอใช้ขึ้นมาได้บ้าง มันพอจะใช้ชีวิต พอขุดตัวเองไปออกกำลังกาย ไปดูแลตัวเองด้านอื่นได้แล้วค่ะ

29/11/2025

สมองส่วนใด ชอบขยันทำงานมากกว่าปกติ
ตอบ: Amygdala - จากคนปกติ เป็นคนคิดลบวนไปวนมา

เครียดเรื้อรัง —> ชาวบ้านฝ่อ ส่วนมันขยันขึ้น
ซึมเศร้า —> มันก็ฝ่อนะ แต่มันยังขยันทั้งๆ ที่ฝ่อได้

หน้าที่หลักคือเจ้าแห่งการคิดลบ พร้อมกับประสานส่วนคิดลบเหมือนกันอย่าง sgACC หรือประสานส่วนเหมือนโหมดระวังภัยกังวลอย่าง BNST/PAG

ปกติจะโดนคุมโดย Prefrontal cortex (PFC) ถ้าหลุดการควบคุมก็ชิบหๅย


เป็นหนึ่งในตัวที่ทำให้วันที่เราแย่ แมร่งแย่ขึ้นไปอีก
เป็นหนึ่งในตัวที่ทำให้ช่วงที่เครียดเรื้อรัง แมร่งเครียดขึ้นไปอีก

และเป็นหนึ่งในตัวที่ทำให้ตอนเป็นซึมเศร้า ดิ่งวนไป สารอะไรเข้ามาก็คิดลบไปหมด ความจำที่ว่าเหมือนเสื่อม แต่ดันจำเรื่องลบๆ แม่น เพราะอะมิกมันช่วย


ย้ำอีกทีว่าสุขภาพจิตสำคัญมาก
เพราะ amygdala จ้องจะเล่นคุณอยู่
เพราะมันอยากให้คุณกำจัดปัญหาและภัยของคุณให้ได้
(ซึ่งหลายปัญหา มันไม่ได้แก้ง่ายอย่างงั้นเว้ย ไอ้อะมิก)


ปล. ถ้า Hippocampus ขยันได้เท่าเมิงนะอะมิก ป่านนี้ไปอ๊อกฟอร์ดละ

25/11/2025

สมองส่วนใด เปราะบางสุดเป็นอันดับต้นๆ
ตอบ: Hippocampus - จากคนปกติ เป็นคนเบลอ จำยาก นึกไม่ออก

เครียดเรื้อรัง —> ฝ่อ
ความดันตก วิกฤติ บลาๆ —> ฝ่อ
ซึมเศร้า —> ฝ่อ
ซึมเศร้านาน —> ฝ่อหนัก

แล้วคือทำหน้าที่สำคัญอีกนะ
- สร้างความจำระยะยาว
- ประสานความเครียดและกังวล
- นึกความจำ

เป็นตัวแบกตอนเราเรียน ทำงาน และใช้ชีวิตสารพัด

ดังนั้นสุขภาพจิตสำคัญมาก เหตุผลหนึ่งก็เพราะ
ปกป้อง Hippocampus อันแสบบอบบางนี่แหละ

25/11/2025

สุดยอดวัฏจักรอุบาทว์
ซึมเศร้า กวนการนอนจนนอนยาก
อดนอน สร้างสภาพที่ซึมเศร้าแย่

จึงไม่แปลกที่จิตแพทย์มักให้ยาช่วยนอนเสริมไปด้วยระหว่างรักษา และค่อยถอนออกเมื่อดีขึ้น

24/11/2025

เครียดเรื้อรัง ไม่ใช่แค่สารตั้งต้นของซึมเศร้า/กังวล/แพนิก ด้วยตัวมันเองก็ทำให้สมองหลายจุดมีการเปลี่ยนแปลงแล้วค่ะ

“สุขภาพจิตเป็นสิ่งสำคัญ”
ได้ยินกับเต็ม social media ก็ขอยืนยันอีกว่า
โคตรสำคัญ มันแทบจะเปลี่ยนพฤติกรรมและวิถีชีวิตเราเลย


เครียด = สภาวะที่ร่างกาย set ขึ้นมาให้เตรียมพร้อมกับภัยที่เข้ามา โดยทั่วไปเป็นโหมดที่ดี สมองจริงจัง โฟกัส ร่างกายทุกส่วนเตรียมพร้อม แบบชั่วคราว แล้วกลับสู่สภาวะปกติ แม้ปัญหาจะยังมีบ้าง แต่สมองสงบได้ ปล่อยวางตอนนั้นได้

เครียดเรื้อรัง = เปิดโหมดสู้ stress ตลอดเวลา มักเจอในช่วงมรสุมชีวิต, เจอเหตุการณ์รุนแรงที่กระบต่อจิตใจ, หรือแม้กระทั่งสะสมปัญหาเรื้อรังที่รู้ว่าแก้ไม่ได้แน่ๆ


เหตุที่เครียดเรื้อรังอันตราย นั่นเพราะมีโอกาสสูงที่ระบบหลั่งฮอร์โมนความเครียดคือ adrenaline และ cortisol รัน cycle ผิดปกติ, สูงลอย/สูงนาน

โดยเฉพาะระบบ cortisol ถ้าสูงนานๆ บางทีมันปิดโหมด negative feedback เลย ซึ่งเป็นระบบที่คอยหยุดการหลั่ง ทำให้หลั่งนานไปอีก


ผลที่สำคัญที่ตามมาคือ
▪️ทำให้เซลล์ประสาทหลายจุดฝ่อลง เชื่อมต่อน้อยลง
▪️ทำให้วงจรที่เกี่ยวกับ stress เชื่อมแน่นขึ้น รุนแรงขึ้น
▪️หากรุนแรงพอ ปลุก microglia ในสมองมาหลั่งสารอักเสบช่วยทำลายด้วย


ดังนั้นเครียดเรื้อรัง = สมองโดนทำร้าย นี่เรื่องจริง
สรุปให้ฟังค่ะว่า ที่ไหนโดนบ้าง


1️⃣ Hippocampus:

ส่วนหน้า (aHPC): ประสานความเครียด, เปิดระบบเตือนภัย
ส่วนหลัง (dHPC): สร้างความจำระยะยาว ฝังใน cortex

ผลเครียดเรื้อรัง:
หน้าทำงานมาก - ช่วงเครียด กังวลมากขึ้น สลัดออกไม่ได้
หลังทำงานน้อย - จำอะไรไม่ค่อยได้ เรียนก็ไม่จำ นึกไม่ค่อยออก


2️⃣ dorsolateral PFC (dlPFC)

หน้าที่: วางแผน, ตัดสินใจ, สร้างความจำชั่วคราว (working memory)

ผลเครียดเรื้อรัง ทำงานลดลง: วางแผนแทบไม่ได้ ตัดสินใจใช้เวลา ให้จำอะไรสั้นๆ แล้วกลับมาทวนใหม่ ไม่ถึงนาที ลืมจ้า


3️⃣ ventromedial PFC (vmPFC)

หน้าที่: คอยควบคุมอารณ์, ยับยั้ง amygdala

ผลเครียดเรื้อรัง ทำงานลดลง: คุมอารมณ์ได้ยาก เจอสิ่งลบแล้ว อารมณ์ทางลบเกิดขึ้นง่าย อาจจะเป็นเชิงโกรธ หรือเศร้าก็ได้


4️⃣ anterior cingulate cortex (ACC)

หน้าที่: ตรวจจับความขัดแย้ง (Conflict monitoring)

ผลเครียดเรื้อรัง ทำงานผิดปกติ: ตรวจจับแต่สิ่งลบ แล้วเปิดโหมดแก้ไขตลอด เข้าสู่ภาวะโฟกัส/จริงจังตลอด


5️⃣ Amygdala

หน้าที่: ประมวลผลสิ่งเชิงลบ สร้างอารมณ์เชิงลบโดยเฉพาะความกลัว

ผลเครียดเรื้อรัง ทำงานหนักขึ้นมาก: สร้างอารมณ์ลบง่าย โดยเฉพาะโซนทางกลัว กลัวผลที่จะเกิดขึ้น กลัวนั่นกลัวนี่ ทำให้ไม่กล้าเริ่มอะไร


6️⃣ Anterior insula

หน้าที่: รับรู้ความรู้สึกภายในร่างกาย/ภายในอวัยวะภายใน

ผลเครียดเรื้อรัง ทำงานผิดปกติ: รับรู้แรงเต้นหัวใจ รับรู้การหายใจมากขึ้น เกินความจำเป็น บางคนรู้สึกได้เลยว่าใจกำลังเต้นตึกๆๆๆ บางคนก็เปลี่ยนไปเป็นแพนิกเรียบร้อย


7️⃣ Reward system (VTA - NAcc)

หน้าที่: รับสัญญาณที่เห็น/กระทำที่ประเมินแล้วว่าชอบ มาสร้างแรงจูงใจ

ผลเครียดเรื้อรัง ทำงานลดลง: ทำสิ่งที่ชอบแล้วได้ความพอใจน้อยลง แรงจูงใจในการทำน้อยลง


และยังมีอีกหลายจุดนะคะ

ถึงแม้ว่ามันจะดูโดนเยอะ แต่ความรุนแรงมันจะไม่ได้เยอะมาก หลายๆ ลักษณะก็ค่อนข้างทับซ้อนกับซึมเศร้าและวิตกกังวล จะว่าเป็นลักษณะเวอร์ชันเบาก็ได้


ดังนั้นหาวิธีลดระดับความเครียดลงเสมอ
ในแบบฉบับของตัวเอง

✅ หายใจช้าและลึก: บางคนช่วยได้มาก เพราะมันช่วยเพิ่ม parasympathetic มาเบรกภาวะตื่นตัวลง
✅ เดินธรรมดา 10-15 นาที: เออ เดินไปเหอะ หลายครั้ง ความคิดมันก็แล่นมา แล้วก็คิดได้เอง อย่านั่งกุมหัวอยู่เฉยๆ
✅ ลุกไปออกกำลังกายเลย: อันนี้ทำยาก แต่ถ้าทำได้ มีโอกาสลดได้สูงมาก เพราะระหว่างออกกำลังกายมีเหล่า endocannabinoid มาช่วยค่ะ
✅ เขียนสิ่งที่กังวลลงไป: วิธีนี้จะไม่ได้ลดทันที แต่ช่วยฝึกให้ PFC กลับมาลองใช้งานมากขึ้น บางครั้งการเห็นปัญหาภาพรวม เราอาจจะรู้ตัวเองว่า เราคิดมากเกินไปเองหรือไม่
✅ คุยกับคนที่เป็น safezone ของเรา (ถ้ามี): ส่วนตัวแนะนำว่า ให้เราใช้วิธีบนๆ ไว้ให้ดีระดับนึงก่อนนะคะ แล้วไปคุย การคุยมันจะ smooth แล้วช่วยได้ อีกฝ่ายก็ไม่โดน toxic อยู่ไปด้วยกันนานๆ
✅ ปิด social media: อันนี้จะดีมาก ถ้าจุดกระตุ้นอยู่ในนั้น social detox ยาวๆ ไปเลย หลายคนสุขภาพจิตกลับมาโคตรดี แต่มันทำไม่ได้ทุกคน เพราะบางคนใช้ social media ทำมาหาแดรก
✅ ฟังเพลงช่วยได้มาก แต่หลีกเลี่ยงเพลงที่ trigger นะ


แต่ใครเล่าจะตัดสินใจว่านี่คือเครียดเรื้อรัง
หรือเป็นโรคจิตเวชไปแล้ว

ดังนั้นถ้าไม่ไหวจริงๆ พบจิตแพทย์ประเมินเถอะจ้า

23/11/2025

ซึมเศร้า บางคนมีพฤติกรรมเลี่ยงแทบทุกสิ่ง เพราะสมองส่วน Lateral habenula ทำงานรุนแรง เลือกที่จะเลี่ยง เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเจอสิ่ง trigger


เวลาเราคิดจะทำกิจกรรมอะไรก็ตาม
หากสมองส่วนลิมบิกประชุมกันแล้ว พบว่าเป็น

✅ สิ่งที่ชอบ: จะสั่งให้วงจร reward system ทำงาน (VTA - NAcc) ส่งผลให้มีแรงจูงใจที่อยากทำ ทำแล้วชอบ อยากทำอีก

🚫 สิ่งที่ไม่ชอบ: จะสั่งให้สมองส่วน Lateral habenula (LHb) รีบยับยั้ง reward system ทำให้เกิดผลตรงข้ามคือ ไม่มีแรงจูงใจ ไม่อยากทำอีก
(บางบทความจะเรียกวงจรนี้ว่า antireward system)


ในคนที่เป็นซึมเศร้านั้นจะผิดปกติทั้งสองจุดเลยค่ะ

⚫ วงจร reward system ทำงานลดลง: เจอสิ่งที่โอเค สิ่งที่ชอบ แล้วไม่มีแรงจูงใจ ไม่มียินดีใดๆ เกิดภาวะสิ้นยินดี (Anhedonia) ซึ่งกล่าวไปในบทความที่แล้ว

🔴 สมอง Lateral habenula ทำงานมากขึ้น: เจอสิ่งที่ไม่ชอบ หรือแม้กระทั่งสิ่งที่ ‘เฉยๆ’ จะส่งสัญญาณรุนแรงมาก ทำให้ยิ่งเกิดอารมณ์เชิงลบ บางครั้งก็ดิ่งไปเลย

เหมือนมันทำให้เราหยุดที่จะสำรวจโลกทั้งใบตรงหน้า
เพื่อปกป้องเราสุดๆ แต่สุดโต่งไปหน่อย


ผลคือ สมองพฤติกรรมส่วนอื่นๆ ตอบสนองต่อความรู้สึกโดยการสร้างพฤติกรรมหลีกหนี (Avoidant behavior) เลี่ยงแทบทุกกิจกรรม เหมือนสมองมันตีตรานำมาก่อนเลยว่า ฉันจะเจออะไรลบแน่ๆ “โดยไม่รู้ตัว” เลยกลัวผลลบที่จะเกิด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นด้วยไม่รู้ตัว เหมือนสมองมายับยั้งไว้ก่อนสามัญสำนึกจะรู้ว่าหลีกเลี่ยงเพราะอะไร

เลยทำให้เริ่มหลีกหนีจากสังคม เพื่อนชวนไปไหนก็ไม่ไป ไม่ใช่แค่ไม่สุข แต่รู้สึกตรงข้ามเลย (ทั้งๆ ที่ลึกๆ อยากคุยกับเพื่อน), บางเคสก็เลี่ยงการพูดคุยไปเลย มาทักทายยังเลี่ยงเลย และไม่ใช่แค่เรื่องสังคมนะคะ ยังลามไปถึงกิจกรรมอื่นๆ รวมถึงแผนที่จะทำด้วย


👥 คนที่เป็นสาย extravert จะเห็นความแตกต่างชัดเจนค่ะ คือจากแนวๆ พบปะสังสรรค์จะหายวับไปเลย

ส่วนสาย introvert จะยิ่งหนักขึ้น ปกติก็โดนสูบ energy ไปอยู่แล้วเวลาคุยกับใคร อันนี้คือเลี่ยงแทบจะ 100% เลย


ผลคือจะทำให้ขาดการปฏิสัมพันธ์กับสังคม (Social intervention) ซึ่งเป็นหนึ่งในการรักษาโรคซึมเศร้าด้วย คือบางคนแม้กระทั่งคนสนิทยังเลี่ยงเลยค่ะ, หลายครั้งก็ส่งผลถึงหน้าที่การงาน สารพัด


⚠️ ดังนั้นโรคซึมเศร้าต้องรีบรักษานะคะ
มันเหมือนปิดสมองหลายจุดไปเลย ใช้ชีวิตลำบากมากค่ะ


ปล. Lateral habenula ยังมีบทบาทเรื่อง ดิ่งมาก กับ ความคิดทำร้ายตัวเองด้วย อนาคตจะมาเล่าค่ะ สมองส่วนนี้แทบไม่มีใครพูดถึงเลย

21/11/2025

ใครพบว่าตัวเองเหมือนจะเป็น
พบจิตแพทย์เพื่อวินิจฉัยนะคะ

ที่อยู่

อาคารพาณิชย์ BIZPOINT 2
Chiang Mai
50100

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 19:30
อังคาร 09:00 - 19:30
พุธ 09:00 - 19:30
พฤหัสบดี 09:00 - 19:30
ศุกร์ 09:00 - 19:30
เสาร์ 09:00 - 12:00

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Jaidee clinicผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง Jaidee clinic:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram