U QMAC รักษากรดไหลย้อน

U QMAC รักษากรดไหลย้อน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรักษาอาการกรดไหลย้อน โรคกระเพาะ

31/08/2023

U QMAC ดูแลทั้ง 6 เรื่อง อาการกรดไหลย้อน

กรดไหลย้อน กับ อาการไอเรื้อรังอาการไอ สำลักน้ำลาย หรือหายใจไม่ออกในเวลากลางคืน เกิดจากกรดไหลลงไปในหลอดลม ทำให้หลอดลมอักเ...
30/07/2023

กรดไหลย้อน กับ อาการไอเรื้อรัง

อาการไอ สำลักน้ำลาย หรือหายใจไม่ออกในเวลากลางคืน เกิดจากกรดไหลลงไปในหลอดลม ทำให้หลอดลมอักเสบ และ มีการหดตัวของหลอดลม ที่มักเป็นในเวลากลางคืน

✅ วิธีแก้
เวลานอนจึงควรหนุนหัวเตียงให้ สูงขึ้น เริ่มประมาณ 1/2-1 นิ้วจากพื้นราบก่อน โดยใช้วัสดุรองขาเตียง เช่น ไม้ อิฐ แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้น อย่ายกศีรษะให้สูงขึ้น โดยการใช้หมอนรองศีรษะ เพราะจะทำให้ความดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้น ถ้านอนพื้น หรือไม่สามารถยกเตียงได้ ให้หาแผ่นไม้ ขนาดเท่าฟูก รองใต้ฟูก แล้วใช้ไม้ หรืออิฐ ยกแผ่นไม้ดังกล่าวขึ้น

#แสบร้อนกลางอก #ไอเรื้อรัง #กรดไหล #แผลในกระเพาะอาหาร ย้อน #โรคกรดไหลย้อน #กรดไหลย้อนหายได้ #จุกเสียดแน่นท้อง #จุกคอ

อาการแพนิคมีอะไรบ้างมือสั่น  เท้าสั่น เหงื่อแตกวิงเวียน ใจสั่นแน่นหน้าอก หายใจขัดอึดอัด ตัวชาควบคุมตัวเองไม่ได้ #อาการข้...
29/07/2023

อาการแพนิคมีอะไรบ้าง
มือสั่น เท้าสั่น เหงื่อแตกวิงเวียน ใจสั่น
แน่นหน้าอก หายใจขัดอึดอัด
ตัวชาควบคุมตัวเองไม่ได้ #อาการข้างเขียงกรดไหลย้อน #แสบร้อนกลางอก #จุกคอ #จุกเสียดแน่นท้อง #แผลในกระเพาะอาหาร #โรคกรดไหลย้อน #กรดไหลย้อนหายได้ #กรดไหล #ไอเรื้อรัง แพนนิค

รู้หรือไม่ โรคกรดไหลย้อน อันตรายถึงชีวิต
30/06/2023

รู้หรือไม่ โรคกรดไหลย้อน อันตรายถึงชีวิต

เช็ค 5 อาการสัญญาณเตือน"โรคกรดไหลย้อน" โรคยอดฮิตชีวิตคนทำงาน หากเป็นแล้วควรปฏิบัติตัวอย่างไรไม่ให้อาการก.....

28/06/2023

มาฟื้นฟูตับอ่อนกันเถอะค่ะ

กรดไหลย้อน อะไรที่ห้ามกิน
04/06/2023

กรดไหลย้อน อะไรที่ห้ามกิน

พฤติกรรมบางอย่าง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดกรดไหลย้อนขึ้นคอได้ ตัวอย่างเช่น>ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม>ไม่ทา...
02/06/2023

พฤติกรรมบางอย่าง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดกรดไหลย้อนขึ้นคอได้ ตัวอย่างเช่น

>ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
>ไม่ทานอาหารก่อนนอน ควรทานเสร็จอย่างน้อย 2 ชั่วโมงค่อยเข้านอน
>หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดจัด อาหารมัน และอาหารที่มีกรดสูง
>หลีกเลี่ยงการทานช็อกโกแลต รวมถึงมินต์ และอาหารที่มีรสมินต์
>หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา โซดา เป็นต้น
>ลดความเครียด พยายามอย่าเครียดเกินไป
ไม่สวมเสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป
>งดดื่มแอลกอฮอล์
>เลิกสูบบุหรี่

29/05/2023

โรคกรดไหลย้อนเกิดจากพฤติกรรม.
การปรับพฤติกรรมสิ่งสำคัญที่สุด

10/05/2023

เช็กแบบไหนใช่อาการกรดไหลย้อน

10/05/2023

แสบท้อง ลมดัน กินเผ็ดไม่ได้
ปรึกษาอาการกรดไหลย้อน 0996188562

โรคกรดไหลย้อน เป็นโรคที่พบได้บ่อยสำหรับบุคคลที่อยู่ในวัยทำงาน หากมีการรักษาที่ถูกต้อง มีการดูแลสุขภาพที่ดี ก็สามารถหายขา...
10/05/2023

โรคกรดไหลย้อน เป็นโรคที่พบได้บ่อยสำหรับบุคคลที่อยู่ในวัยทำงาน หากมีการรักษาที่ถูกต้อง มีการดูแลสุขภาพที่ดี ก็สามารถหายขาดได้ โดยเบื้องต้นต้องแยกให้ออกว่า ตัวเองอยู่ในภาวะของโรคกรดไหลย้อน หรือโรคกระเพาะอาหาร เพราะบางครั้งจะไม่สามารถแยกออกได้

ความแตกต่างระหว่างผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร หรือผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน

โรคกระเพาะอาหารจะแสดงอาการทางบริเวณช่องท้อง ตรงลิ้นปี่ หากใครมีอาการปวดจุก แน่น ตรงลิ้นปี่ แสดงว่าเป็นกระเพาะอาหาร หากเป็นโรคของกรดไหลย้อน จะมีอาการที่ทรวงอก เพราะหลอดอาหารอยู่ที่ทรวงอก ผู้ที่มีอาการแสบ ร้อน เจ็บ บริเวณที่ทรวงอก ซึ่ง 2 โรคนี้เกิดจากภาวะเป็นกรดที่เหมือนกัน หากเกิดกับหลอดอาหาร เรียกว่าภาวะกรดไหลย้อน หากเกิดจากกระเพาะอาหาร เรียกว่าโรคกระเพาะอาหาร โดยโรคกระเพาะอาหารจะมีอาการปวดก่อนทานอาหาร และหลังทานอาหาร แต่โรคกรดไหลย้อนจะเกิดหลังจากที่รับประทานอาหารแล้ว 30 – 60 นาที เพราะมีอาหารในกระเพาะอาหารแล้วไหลย้อนไปที่หลอดอาหารได้ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการได้
โดยภาวะกรดไหลย้อนจะมีอาการเรอเปรี้ยว แสบร้อนบริเวณคอ ถ้าเป็นโรคกระเพาะอาหารจะมีอาการคลื่นไส้ หรืออาเจียน

กลุ่มที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคกรดไหลย้อน ได้แก่
1.ผู้ที่มีโรคอ้วน เกินมาตรฐาน
2.ผู้ที่ดื่มสุรา กาแฟ
3.ผู้ที่สูบบุหรี่
4.สตรีที่ตั้งครรภ์ เนื่องจากมีความดันในช่องท้องที่สูงขึ้น ทำให้เกิดมีภาวะของกรดไหลย้อนได้
5.ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
6. โรคหนังแข็ง จะมีการเคลื่อนไหวของหลอดอาหาร มีภาวะหูรูดของหลอดอาหารผิดปกติ ก็จะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงของโรคกรดไหลย้อนมากขึ้น ทั้งนี้กรดไหลย้อนเกิดขึ้นในทุกวัย

สาเหตุของโรค
1.หูรูดส่วนล่างของหลอดอาหารเสื่อม
2.กระเพาะอาหารบีบตัวลดลง
3.โรคอ้วน ในความอ้วนมีความดันในช่องท้องที่สูงกว่าคนปกติทั่วไป
4.การตั้งครรภ์ เนื่องจากในภาวะครรภ์ที่ใหญ่ขึ้น จึงทำให้เกิดความดันในกระเพาะเพิ่มขึ้นไปด้วย
5.รับประทานยาบางชนิด ยาบางประเภทสามารถออกฤทธิ์ให้กระเพาะอาหาร มีการหลั่งกรดเพิ่มขึ้น
6.การสูบบุหรี่ จะทำให้เกิดกรดมาก
7.ความเครียด

อาการกรดไหลย้อน
1.แสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ จากนั้นลามมาบริเวณหน้าอกหรือลำคอ ซึ่งอาการจะชัดเจนมากขึ้นหลังจากการทานอาหารมื้อหนัก
2. เรอมีกลิ่นเปรี้ยว เนื่องจากกรดซึ่งเป็นน้ำที่มีรสเปรี้ยวหรือรสขมไหลย้อนขึ้นมายังปาก

อาการสำคัญที่ควรพบแพทย์
หากอาการไม่รุนแรงมาก ให้รักษาตัวได้ที่บ้าน อาจซื้อยาตามร้านขายยาได้

แต่หากมีอาการดังต่อไปนี้ควรพบแพทย์ เพราะอาจมีโรคแทรกซ้อนได้เพราะบางทีอาจไม่ใช่โรคกรดไหลย้อนได้
1.เป็นครั้งหนึ่งนานๆ มีการไหลย้อนแต่ละครั้งที่มีอาการรุนแรง ทำให้คุณภาพชีวิตเสียไป เป็นอยู่บ่อย นานอาเจียนเป็นเลือดบ่อย
2.น้ำหนักลดลงโดยไม่ได้ตั้งใจ
3.เบื่ออาหาร
4.กลืนเจ็บ
5.กลืนติด
6.กลืนลำบาก
7.ถ่ายเป็นเลือด

??การวินิจฉัยและการรักษา

1.ซักประวัติ คนไข้ต้องมีอาการของโรคที่แน่ชัดคือภาวะแสบร้อนหน้าอก แน่นหน้าอก หรือเรอเปรี้ยว

2.ตรวจร่างกาย ในกรณีที่สงสัย หรือต้องการการยืนยันว่ามีภาวะกรดไหลย้อนหรือเปล่า อาจจะมีการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมด้วยการส่องกล้อง ตรวจทางเดินอาหาร ตรวจความเป็นกรดความเป็นด่างของหลอดอาหารจะเป็นสิ่งที่ยืนยัน โดยปกติที่ทำในเวชปฎิบัติ จะดูจากอาการและการตรวจร่างกายเท่านั้น

ในกรณีที่ต้องส่องกล้องตรวจทางเดินอาหารหรือหลอดอาหาร เมื่อภาวะแทรกซ้อน หรือมีอาการที่ไม่แน่ชัดว่า เป็นจากโรคหรือภาวะกรดไหลย้อนหรือเปล่า อาทิ มีอาการกลืนติด กลืนเจ็บ มีน้ำหนักตัวลดลง หรือที่สงสัยหรืออาเจียนเป็นเลือด จำเป็นต้องส่องกล้องตรวจทางเดินอาหาร เพื่อยืนยันถึงภาวะของโรคกรดไหลย้อน

สำหรับผู้ที่ต้องเตรียมตัวส่องกล้อง
แพทย์จะใช้ยาลดความเจ็บปวด ด้วยการฉีดยา พ่นสเปรย์ที่คอ ไม่ได้ใช้หัตถการที่น่ากลัวหรือมีความเสี่ยง ดังนั้นผู้ที่มีอายุน้อยหรือมากก็สามารถส่องกล้องตรวจได้ ช่วงเวลาในการตรวจส่องกล้องประมาณ 5- 10 นาที

แนวทางการรักษา
ให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ด้วยการดูแลตัวเอง ในกรณีที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว อาทิ ทานอาหารให้ช้าลง จากที่เคยทานมื้อใหญ่ๆ ให้ทานมื้อเล็กๆ ลดการดื่มกาแฟ แอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ แต่ยังมีอาการปวดมากขึ้น หรือไม่มาก ถึงแม้จะทานยาลดกรดแล้ว แต่มีอาการปวดรุนแรงมากขึ้น หลังจากตรวจวินิจฉัยของแพทย์ยืนยันแล้วว่าเป็นกรดไหลย้อน ผู้ป่วยอาจได้รับการผ่าตัด
ซึ่งในปัจจุบันการผ่าตัดไม่ค่อยใช้กันเท่าไหร่ เพราะว่าจะทำในกรณีความรุนแรงของโรคเท่านั้น การใช้ยาลดกรดจึงเป็นการรักษาที่สำคัญที่สุด

การป้องกัน
1.ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ผู้ที่มีภาวะอ้วนควรลดน้ำหนัก เพื่อลดภาวะหรือความเสี่ยงที่ทำให้เกิดความดันในช่องท้องที่สูงขึ้น ทำให้เกิดมีการไหลย้อนของกรด ไปที่หลอดอาหารได้ งดอาหารบางชนิด อาทิ อาหารมัน อาหารทอด ปิ้ง ย่าง อาหารที่มีรสชาติเผ็ด เปรี้ยว เค็มจัด ที่เป็นตัวที่ทำให้เกิดภาวะกรดไหลย้อนได้
2.หลีกเลี่ยง เครื่องดื่ม ชา กาแฟ น้ำอัดลม เบียร์ สุรา
3.ทานอาหารแล้ว ไม่ควรเข้านอนทันที ควรเว้นวรรค 2-3 ชั่วโมง ก่อนเข้านอน ให้เอนกายให้สูงประมาณ 6-10 นิ้ว เพื่อลดภาวะการเกิดกรดไหลย้อนของกรดจากกระเพาะอาหารได้
4.งดการสูบบุหรี่
5.ทานอาหารให้พอดี
6.ผ่อนคลายความเครียด

ขอขอบคุณข้อมูลจาก: รศ.นพ. ธเนศ ชิตาพนารักษ์ อาจารย์หน่วยวิชาระบบทางเดินอาหาร ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มช.
ด้วยความปรารถนาดีจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ที่อยู่

Chon Buri
20180

เบอร์โทรศัพท์

+66628193365

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ U QMAC รักษากรดไหลย้อนผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง U QMAC รักษากรดไหลย้อน:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram