18/11/2025
#การทานยาสมุนไพร
#ควรปรึกษาแพทย์แผนไทย
หญิง 32 ปี กินยาหม้อเองแก้ปวดเมื่อย ต่อมากลัวติดยา หยุดเอง คลื่นไส้ เวียนหัว ตัวเย็น วูบตึงไป มา รพ. พบความดันต่ำมาก อยู่ภาวะช็อกใกล้เสียชีวิต
⚠️ ยาหม้อในเคสนี้ชาวบ้านทำกันเอง ไม่ได้ถูกจำหน่ายโดยแพทย์ แพทย์แผนจีน/แพทย์แผนไทยประยุกต์
หญิงวัย 32 ปี ปวดเมื่อยง่าย มีคนแนะนำให้กิน “ยาหม้อสมุนไพรทำเอง” จากร้านใกล้บ้าน บอกว่ากินแล้วหายปวด หายอักเสบ นอนดีแรงดี
กินไปเรื่อยๆ 6 เดือนกว่า เธอรู้สึกดีขึ้นมาก เข่าที่มีปวดๆ บ้างก็หายไปเลย อะไรจะวิเศษขนาดนี้ จนวันหนึ่ง อ่านนู่นอ่านนี่ในโซเชี่ยล แล้วเริ่มกลัวว่าจะ “ติดยา”
เลยตัดสินใจหยุดแบบหักดิบทันที
คืนก่อนเหตุการณ์ เริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบาย หน้ามืด เวียนหัว คลื่นไส้ คิดว่าไม่น่าใช่อะไรใหญ่โต ก็เลยนอนพัก
เช้าวันถัดมา สามีได้ยินเสียงร่างกายล้มกระแทกพื้น ทั้งห้องเงียบกริบ เข้าไปดูแล้วพบว่าเธอนอนนิ่ง ตัวชื้นเย็น เหมือนจะหมดสติ ปลุกยังไงก็ไม่ค่อยตอบสนอง พูดไม่เป็นคำ มือเท้าเย็นเฉียบ จึงรีบพาไป รพ.
ที่ห้องฉุกเฉิน: ตัวเย็น ความดันต่ำมาก (68/40 mmHg), ชีพจรพุ่งไป 130 bpm, ใบหน้าคือเริ่มกลม อ้วนลงพุงมาก ลายม่วงๆ (ตามภาพ) ผลน้ำตาลปลายนิ้วต่ำ
หลังจากให้น้ำเกลือไปปรากฎว่าความดันยังไม่ขึ้น เลยให้ยา Hydrocortisone ซึ่งเป็นสเตียรอยด์ไปเลย และรักษาผลแล็บอื่นๆ อีก ซึ่งภายหลังสามีถึงมาบอกว่าคนไข้กินยาหม้อสมุนไพร ซึ่งก็สอดคล้องกับอาการทุกอย่างเลย
ปล. เคสนี้มีลำดับ timeline การเจาะแล็บค่อนข้างซับซ้อน ขอเล่าเท่านี้ค่ะ
——————-
ผู้ป่วยมีภาวะที่เรียกว่า ต่อมหมวกไตสภาพวิกฤติ (Adrenal crisis) ขาดฮอร์โมน cortisol ที่คอยเพิ่มน้ำตาล คอยเพิ่มโทนของหลอดเลือดแดง คอยกดสารก่ออักเสบ
ดังนั้นพอ cortisol ต่ำเลยทำให้
✔️ ตับสร้างน้ำตาลลดลง จนต่ำ
✔️ ความต้านทานหลอดเลือดลดลง ความดันตกลง เลือดไปเลี้ยงสมองน้อยจนวูบ
✔️ สารก่ออักเสบทะยานสูงขึ้น จนเกิดอาการที่ไม่จำเพาะพวกเวียนหัว คลื่นไส้
ซึ่งสาเหตุมาจากการที่คนไข้ได้รับ สเตียรอยด์จากยาหม้อที่กินเอง แบบไม่คุมโดสเลย กินติดต่อมาสองเดือน จนเริ่มมีการสะสมไขมันส่วนเกินในแนวแกนกลาง จนเห็นหน้ากลมแล้ว (Moon face) เริ่มมีท้องแตกลายจาก สเตียรอยด์สลายคอลลาเจนจนผิวบาง
จุดสำคัญที่สุดคือ พอร่างกายรับรู้ว่ามี สเตียรอยด์ที่ทำงานแทน cortisol แล้ว ระบบควบคุมการหลั่ง cortisol ทั้งหมด (HPA-axis) จะโดนกด แล้วค่อยๆ หยุดทำงาน
ดังนั้นพอคนไข้หยุดกินเฉียบพลัน จึงไม่มีทั้งสเตียรอยด์จากยาหม้อ และไม่มีทั้ง cortisol คนไข้เลยขาด cortisol เฉียบพลัน จึงเกิดอาการดังกล่าว
ดังนั้นไม่ควรกินอะไรแปลกๆ จนกว่าจะระบุได้ว่ามันคืออะไร หลายพื้นที่ยังมีการต้มสเตียรอยด์กินเอง เพราะมันช่วยแก้ปวดเมื่อย แก้ข้ออักเสบได้ทันควัน แต่ภาวะแทรกซ้อนที่ตามมานั้นมหาศาล เพราะไม่มีการคุมขนาดโดส จะหยุดก็ไม่มีการค่อยๆ หยุด เพราะถ้าเป็นแพทย์ดูแล จะมี step การหยุดโดยค่อยๆ ลดขนาดยาค่ะ
ปล. ภาพประกอบไม่ได้มาจากเคสนี้ แต่ใกล้เคียงกัน