Doctor Boyz เสริมจมูก เสริมคาง เสริมหน้าอก ตัดไขมันแก้ม

26/11/2025

🇹🇭 ซีเกมส์ครั้งนี้... ไม่เหมือนเดิม! สถิตินักกีฬาพุ่งทะลุ 12,506 คน แซงเอเชียนเกมส์ไปแล้ว?! 😱 . ปีนี้ไทยเราเอาจริงครับ! ปรับกฎใหม่ 'ล้างบาง' กีฬาพื้นบ้าน ❌ กุน ขแมร์ ❌ โบกาตอร์ เน้นมาตรฐานโอลิมปิกล้วนๆ 🏅 งานนี้ไม่มีปั๊มเหรียญ วัดกันที่ฝีมือเน้นๆ ใครอยากดูสดแบบจุใจ ตามไปที่ TrueVisions Now ได้เลย 📲 . 🤔 ทุกคนคิดว่าการกลับมาเน้น "มาตรฐานสากล" แบบนี้ จะทำให้ซีเกมส์กลับมาขลังขึ้นไหม? คอมเมนต์คุยกับ 'หมอ' หน่อยครับ 👇🏻 . #ซีเกมส์2025 #ซีเกมส์ครั้งที่33 #ข่าวกีฬา #นักกีฬาทีมชาติไทย #สาระความรู้ #หมอขอเล่า

26/11/2025

ภัยเงียบจาก "ภาพสวย" กลางฝูงนก: ทำไมเด็กเล็กถึงเสี่ยง "ปอดอักเสบจากเชื้อรา" (Cryptococcosis)? 🐦🫁

เรามักเห็นภาพความน่ารักของเด็กๆ วิ่งเล่นท่ามกลางฝูงนกพิราบ แต่ในฐานะหมอ... ภาพนี้สร้างความกังวลใจไม่น้อยครับ เพราะภายใต้ความสวยงามนั้น มี "จุลชีพก่อโรค" ที่อันตรายซ่อนอยู่

วันนี้หมอขออนุญาตลงลึกในเชิงการแพทย์ ว่าทำไมนกพิราบถึงเป็นพาหะนำโรคที่น่ากลัวกว่าที่เราคิดครับ

🦠 รู้จักศัตรูตัวร้าย: Cryptococcus neoformans
เชื้อก่อโรคหลักคิอ Cryptococcus neoformans เป็นเชื้อราที่มีความทนทานสูงมาก พบได้ทั่วไปในดิน แต่แหล่งเพาะพันธุ์ชั้นดีที่สุดคือ "มูลนกพิราบ" (Pigeon Droppings/Guano) ครับ

📊 สถิติที่น่าตกใจ (Pathogen Load & Viability)
จากการศึกษาและข้อมูลอ้างอิงระดับโลก (CABI/CDC) พบข้อเท็จจริงที่น่ากลัวคือ:

ความเข้มข้นสูง: ในมูลนกพิราบแห้งเพียง 1 กรัม สามารถพบเซลล์เชื้อราได้สูงถึง 50 ล้านเซลล์ (50,000,000 cells)

ความทนทาน: สปอร์ของเชื้อราสามารถมีชีวิต (Viable) อยู่ในมูลแห้งหรือดินบริเวณนั้นได้นานถึง 2 ปี

🫁 กลไกการก่อโรค (Pathogenesis)
เมื่อเด็กๆ หรือผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำเดินเข้าไปในพื้นที่ที่มีนกเยอะๆ และมีการกระพือปีก จะเกิดกระบวนการดังนี้ครับ:

Inhalation (การสูดดม): สปอร์ขนาดเล็ก (Basidiospores) จะฟุ้งกระจายในอากาศและถูกสูดดมเข้าสู่ทางเดินหายใจ ลงลึกไปถึงถุงลมปอด (Alveoli)

Colonization & Capsule Formation: เมื่อเชื้อลงสู่ปอด เชื้อราตัวนี้มีความพิเศษคือมันจะสร้าง "Polysaccharide Capsule" หรือเกราะหนาหุ้มรอบตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เม็ดเลือดขาว (Macrophage) ของเราจับกินมันได้ง่ายๆ

Infection (การติดเชื้อ):

ในคนปกติ: ร่างกายอาจกำจัดเชื้อได้ หรือเชื้อซ่อนตัวสงบอยู่ (Latent infection)

ในเด็ก/ผู้ภูมิคุ้มกันต่ำ: เชื้อจะแบ่งตัวเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิด "ปอดอักเสบจากเชื้อรา" (Cryptococcal Pneumonia)

🩸 ความเสี่ยงขั้นสูง: การกระจายเข้ากระแสเลือด (Dissemination)
หากปอดไม่สามารถกั้นเชื้อไว้ได้ เชื้อจะเข้าสู่กระแสเลือด (Hematogenous spread) และเนื่องจากเชื้อตัวนี้มีคุณสมบัติชอบระบบประสาท (Neurotropism) มันจึงมักจะเดินทางไปก่อโรคที่ "สมอง" ทำให้เกิด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) ซึ่งอันตรายถึงชีวิต

🤒 อาการต้องสงสัย (Clinical Presentation)
อาการของปอดอักเสบจากเชื้อรา จะต่างจากไข้หวัดทั่วไปตรงที่:

ไอแห้งเรื้อรัง (นานเกิน 2 สัปดาห์)

มีไข้ต่ำๆ หรือไข้สูงเป็นระยะ

หอบเหนื่อย เจ็บหน้าอกเวลาหายใจ

สำคัญ: อาการไม่ดีขึ้นแม้ได้รับยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (Antibiotics) ทั่วไป เพราะยาฆ่าเชื้อทั่วไปฆ่าเชื้อราไม่ได้ ต้องใช้ยาต้านเชื้อรา (Antifungal agents) เฉพาะทางเท่านั้น

🛡️ คำแนะนำจากหมอ

Avoidance: หลีกเลี่ยงการพาบุตรหลานไปอยู่ในที่ที่นกพิราบชุม โดยเฉพาะการให้อาหารนกที่ทำให้เกิดฝุ่นฟุ้งกระจาย

Protection: หากเลี่ยงไม่ได้ การสวมหน้ากากอนามัยช่วยลดปริมาณสปอร์ที่จะสูดดมเข้าไปได้

Hygiene: ล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัสพื้นที่สาธารณะ

รูปสวยอาจถ่ายเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ "ปอด" ของลูกมีคู่เดียวนะครับ

26/11/2025

"เตือนแล้ว = ข่าวปลอม?" เมื่อวิทยาศาสตร์พยากรณ์ ปะทะ นิยามความตื่นตระหนก : บทเรียนราคาแพงจากน้ำท่วมภาคใต้

ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารท่วมท้น พอๆ กับปริมาณน้ำฝน... เรากำลังเจอกับ Paradox (ความย้อนแย้ง) ที่น่าสนใจครับ
เมื่อ "คำเตือน" ล่วงหน้า 1 สัปดาห์ ถูกแปะป้ายว่าเป็น "ข้อมูลบิดเบือน" เพียงเพราะมันดูน่ากลัวเกินจริง... แต่สุดท้าย ธรรมชาติกลับพิสูจน์ว่า คำเตือนนั้นใกล้เคียงความจริงที่สุด
วันนี้หมอขอถอดบทเรียนกรณีศึกษา เพจพยากรณ์อากาศเอกชน vs ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News) เราไม่ได้จะมาหาคนผิด แต่เราจะมาหาคำตอบว่า "เราควรเชื่อใคร?" และ "เขารู้ล่วงหน้าได้อย่างไร?"
🌡️ วิทยาศาสตร์แห่งการหยั่งรู้: NWP คืออะไร?
หลายคนสงสัยว่าทำไมเพจเอกชนถึงกล้าฟันธงล่วงหน้าเป็นสัปดาห์? เขาไม่ได้นั่งทางในครับ แต่เขาใช้ NWP (Numerical Weather Prediction)
มันคือการจำลองโลกทั้งใบลงไปใน Supercomputer ครับ ใส่ค่าอุณหภูมิ ความชื้น ลม จากทุ่นลอยและดาวเทียมทั่วโลก แล้วใช้สมการฟิสิกส์คำนวณออกมาเป็นล้านๆ รูปแบบ
โดยเฉพาะโมเดล ECMWF ของยุโรป ที่วงการอุตุนิยมวิทยายกให้เป็น "King of Models" ในระยะกลาง (3-10 วัน) ซึ่งเคสนี้โมเดลส่งสัญญาณเตือนมาชัดเจนมาก
🚫 ทำไมถึงเป็น "ข่าวบิดเบือน"?
ในมุมมองการจัดการข่าวสาร ภาครัฐอาจมองเรื่อง "การใช้คำ" (เช่น ฝนพันปี) ที่อาจสร้างความตื่นตระหนก (Panic) แต่ในมุมความปลอดภัย "ความตื่นตระหนก" หากมาพร้อมกับ "การเตรียมพร้อม" (Preparedness) อาจดีกว่า "ความนิ่งนอนใจ" หรือไม่?
โพสต์นี้หมอสรุปไทม์ไลน์ และเบื้องหลังวิทยาศาสตร์มาให้อ่านกันชัดๆ ครับ
ใครอยู่ในพื้นที่ประสบภัย หมอขอส่งกำลังใจให้ปลอดภัยทุกคนนะครับ ✌️

#น้ำท่วมภาคใต้ #พยากรณ์อากาศ #หมอบอยเล่าข่าว #วิทยาศาสตร์ #เตือนภัย

29/09/2025

02/01/2024

เสริมคางมาแล้ว คางยาวเหมือนแม่มด !!
ใครที่กำลังจะไปเสริมคาง/แก้คาง ฟังทางนี้ก่อนครับ
#หมอบอย #เสริมคาง #แก้คาง #คางยาว

29/12/2023

ความสวยงามที่แท้จริง!!ของผู้หญิงที่อัปลักษณ์ที่สุดในโลก!?
#หมอบอย

27/12/2023

เสริมจมูกแบบ open ไม่ได้เหมาะกับทุกคน จมูกบางประเภทไม่จำเป็นต้องเสริมแบบ open ก็สามารถสวยได้
#หมอบอย #เสริมจมูก #โอเพ่นปรับโครงสร้าง

25/12/2023

หยุดก่อน! จะมาทำนมเท่าเพื่อนไม่ได้
#หมอบอย #เสริมหน้าอกหมอบอย #เสริมนม #ไขข้อสงสัย #ถามหมอ

22/12/2023

สาวอกห่าง ร่องอกไม่ชิด ฟังทางนี้ !!
#หมอบอย #เสริมหน้าอกหมอบอย #เสริมนม #ไขข้อสงสัย #ถามหมอ

19/12/2023

สาวๆ หลายคนคงสงสัยว่า หน้าอกที่ผู้ชายชอบที่สุด มีลักษณะเป็นอย่างไร วันนี้หมอจะมาตอบคำถามคาใจให้ฟังกัน
#หมอบอย #เสริมหน้าอกหมอบอย #เสริมนม #ไขข้อสงสัย #ถามหมอ

05/12/2023

“สู้ดิวะ” เป็นวลีติดปากของ นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล อาจารย์แพทย์ประจำศูนย์ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “สู้ดิวะ” ที่บอกเล่าเรื่องราวอาการป่วยมะเร็งปอดของตัวเอง

หมอไทป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 4 ทั้งที่เป็นคนชอบออกกำลังกายและดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี โดยเขาเริ่มมีอาการไอเรื้อรังและหายใจไม่สะดวก จึงไปพบแพทย์และตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 4 ในวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

หมอไทได้เปิดเพจเฟซบุ๊ก “สู้ดิวะ” เพื่อเป็นช่องทางในการบอกเล่าเรื่องราวชีวิตและประสบการณ์การต่อสู้กับโรคมะเร็งของเขาให้กับคนทั่วไปได้รับรู้ โดยเขามักจะโพสต์ข้อความและวิดีโอที่เต็มไปด้วยกำลังใจและพลังบวก

เพจ “สู้ดิวะ” ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว มียอดผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ป่วยมะเร็งและคนทั่วไปในการต่อสู้กับโรคร้าย

หมอไทได้จากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ด้วยวัยเพียง 29 ปี

วลี “สู้ดิวะ” ของหมอไท สะท้อนให้เห็นถึงพลังใจและความเข้มแข็งในการต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ไม่ว่าเราจะเผชิญกับปัญหาอะไร เราต้องไม่ย่อท้อ สู้ต่อไปอย่างเต็มความสามารถ

--------------------

ถึงคนที่กำลังเผชิญปัญหา

เราเข้าใจดีว่าสิ่งที่คุณกำลังเผชิญอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ขอให้คุณอย่ายอมแพ้ สู้ต่อไปอย่างเต็มความสามารถ เชื่อเถอะว่าถ้าคุณตั้งใจจริง คุณก็จะสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ไปได้

สุดท้ายนี้ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของ นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล และร่วมส่งต่อพลังบวก ขอให้คุณจำไว้เสมอว่า คุณไม่ได้อยู่คนเดียว มีคนที่รักและเป็นห่วงคุณอยู่เสมอ ให้เราเป็นเพื่อนร่วมทางของคุณในการต่อสู้ครั้งนี้ด้วยกันนะครับ

สู้ดิวะ!