Bandon International Hospital : Samui

01/11/2025

ใหม่! WEGO - Slim Care Program 2025 ✨
ปากกาลดน้ำหนักที่ช่วย ‘ปรับสมดุลความอยากอาหาร’
ไม่ใช่แค่ตัวช่วยลดน้ำหนัก แต่ช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมการกินในระยะยาว 💪🏻
>>>> เพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สำรองคิวตอนนี้ รับราคาโปรพิเศษเลยค่ะ ❤️
📞 ปรึกษา สอบถาม และจองคิวที่นี่ | More Information
Facebook : Inbox ได้เลยค่ะ
LINE : https://lin.ee/upmJljk
Tel. 077 - 332 - 706 - 7 | Mobile. 097 - 186 - 3430
เหมาะกับใคร ?
👉 ไม่มีเวลาออกกำลังกาย
👉 คุมอาหารไม่อยู่
👉 ลดหลายวิธี แต่ก็ไม่สำเร็จ
👉 ไลฟ์สไตล์เร่งรีบ ไม่มีเวลา ชอบความสะดวก
Email : bandonh@gmail.com
Google Map : https://surl.li/tvlsgt
#ลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย #ปากกาคุมหิว #ปากกาลดน้ำหนัก #ลดน้ำหนัก #โรงพยาบาลบ้านดอนอินเตอร์เกาะสมุย #ลดน้ำหนักสมุย #ลดน้ำหนักแบบยั่งยืน

29/10/2025

หลายคนไม่รู้ว่าที่หลังเท้าช่วงต้นๆ สามารถคลำชีพจรได้ แต่หากไม่ดูแลสุขภาพชีพจรนี้จะเบาลงเรื่อยๆ จนกระทั่งคลำไม่ค่อยได้ ซึ่งแก้ได้ด้วยการออกกำลังกายตั้งแต่ตอนนี้

ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากหลอดเลือดแดงแถวๆ เท้าเท่าไหร่ แต่มักจะเป็นหลอดเลือดแถวๆ ต้นขอ มีคราบไขมัน (Atherosclerosis) สะสมจนถึงจุดที่เลือกไปเลี้ยงเท้าเบามากแล้ว ภาวะนี้เรียกว่า โรคหลอดเลือดส่วนปลายตีบ (Peripheral arterial disease: ย่อ PAD)


บางคนเดินแล้วปวดขามาก แต่ไม่รู้ไง คิดว่าน่าจะปวดกล้ามเนื้อ แต่ก็เอะใจว่า เอ๊ะ ทำไมเดินไม่เท่าไหร่ก็ปวดเลย แถมพักแล้วหายทันที (Vascular claudication) ถ้ากล้ามเนื้อระบมน่าจะเดินเยอะๆๆ หน่อย และน่าจะหายช้าหน่อย

บางคนเป็นหนักขึ้นจนกระทั่งเริ่มมีผิวหนังเปลี่ยนสี ซีดลง, ขนบริเวณขา-เท้าเริ่มร่วง, เริ่มมีแผลที่หายยากขึ้น ที่ปลายๆ เท้า (Arterial ulcer)


โดยทั่วไปแพทย์จะประเมินโดยการซักประวัติ ตรวจร่างกายโดยการคลำชีพจรนี่แหละค่ะ ตั้งแต่ขาหนีบ หลังเข่า และหลังเท้า จากนั้นจะมีการวัดความดันเลือดข้อเท้าหารด้วยต้นแขน เพื่อหาค่า Ankle-Brachial index (ABI) ซึ่งปกติจะมีค่าประมาณ 1 ถึง 1.4 แต่ค่าที่ลดลงเรื่อยๆ จะบ่งบอกว่าเริ่มมีโรค PAD แล้ว

หากไม่ทำอะไรเลย มีความเสี่ยงที่เราจะค่อยๆ เสียขาไป จนเดินไม่ได้ บางคนซวย จุดตีบเกิดการปริ เกิดลิ่มเลือดอุดเฉียบพลัน ถ้ามาทันแพทย์อาจเปิดหลอดเลือดทัน (Revascularization) แต่ถ้าไม่ทัน ขาดำไปแล้ว อาจต้องตัดขา


โรคมันค่อยเป็นค่อยไป ทีละนิดทีละนิด เหมือนมันให้โอกาสเราเปลี่ยนตัวเองอยู่ทุกวันค่ะ ดังนั้นเปลี่ยนตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อขาของเรากันค่ะ

✅ คุมน้ำหนัก ลดไขมันส่วนเกิน: เพราะไขมันส่วนเกิน จะสร้างการอักเสบเรื้อรังตลอดเวลา เร่งคราบไขมัน
- ลดคาร์บลง แล้วเปลี่ยนเป็นคาร์บเชิงซ้อน
- เลือกไขมันดีที่มี MUFA/PUFA สูง
- กินโปรตีนให้เพียงพอ 1.2 กรัม/น้ำหนักตัวเอง 1 กิโลกรัม
- เพิ่มช่วง Fasting เริ่มต้นที่ตัดขนมจุบจิบระหว่างมื้อ และ เว้นการกินไปเลยจากมื้อเย็นจนถึงมื้อเช้า ทำได้แล้วจะไปทำ IF หรือไม่ ว่ากันอีกที

✅ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แก้ทุกจุด ตั้งแต่เพิ่มตัวสร้างก๊าซ nitric oxide ให้ช่วยดูแลหลอดเลือด, เพิ่ม Treg ช่วยลดสารก่ออักเสบ, แก้เรื่องไขมันส่วนเกิน และอีกสารพัด โดยเริ่มจากแอโรบิก 150 นาที/สัปดาห์ ในระดับปานกลาง (ออกจนมีช่วงเหนื่อย) อย่าลืมมีวันพัก ไม่งั้นบาดเจ็บขึ้นมา หยุดออกยาว

✅ เลิกบุหรี่: บุหรี่เป็นอะไรกับหลอดเลือดขามากๆ เลยค่ะ บุหรี่สร้างสารอนุมูลอิสระจำนวนมาก ที่เร่งการสะสมคราบไขมัน เพราะยิ่งผิวหลอดเลือดอักเสบ ทั้ง LDL และ เม็ดเลือดขาวยิ่งเข้าง่าย แถมยังทำให้ปริง่าย

✅ งดสุรา: เพราะแอลกอฮอล์เผาผลาญที่ตับแล้วได้ Acetaldehyde และสารอนุมูลอิสระ ซึ่งเร่งการเกิดคราบไขมันให้ไวขึ้นมาก

✅ หากเป็นโรคเรื้อรังแล้ว โดยเฉพาะเบาหวาน ความดันสูง ต้องคุมให้เคร่งครัดกว่าเดิมมากๆ ค่ะ


อนาคตเปลี่ยนแปลงได้ และโอกาสที่ให้เราเปลี่ยนมีอยู่ทุกวัน ขอแค่เริ่มทำ สมองมันจะจำเป็นนิสัย และต่อไป ก็ทำได้เอง ดั่งการหายใจ

28/10/2025

https://www.facebook.com/share/p/182hJCbUbr/

📣 ข่าวดีของผู้หญิงไทย
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์
บริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ด้วยเครื่องแมมโมแกรมและอัลตราซาวนด์ ฟรี..‼️
👉 เงื่อนไขการรับบริการ
🔹 ผู้หญิงไทย ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
🔹 มีประวัติญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านม
🔹 มีใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่ามีญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านม
🔹ไม่เคยใช้สิทธิกองทุนตรวจแมมโมแกรมมาก่อนภายใน 2 ปี

#ตรวจคัดกรอง #มะเร็งเต้านม #สถาบันมะเร็งแห่งชาติ

25/10/2025

รู้มั้ยคะ ว่าไขมันในช่องท้องอาจะเป็นเหตุให้เรากินเยอะขึ้น


ก่อนอื่นนิยามศัพท์กันก่อน
ไขมันในช่องท้อง ไม่ใช่ไขมันที่พุงที่คุณกำลังจับอยู่ (SAT)

แต่มันเหมือนคุณมุดเข้าไปท้องเลย โลกมืดๆ ที่ตีล้อมด้วยผนังหน้าท้อง ดินแดนแห่งอวัยวะภายใน ที่ตอนนี้เนื้อเยื่อไขมันในช่องท้อง (VAT) กำลังยึดครอง


เมื่อไม่ดูแลสุขภาพ กินเยอะ + ไม่ออกกำลังกาย จนสะสมไขมันมากขึ้น ไขมันในช่องท้องก็ขยายตัวขึ้นด้วย ซึ่งมันมีความดุร้าย

เบียดกันนิดเดียว ก็เริ่มหลั่งสารก่ออักเสบสารพัดแล้ว เช่น IL-1, TNF-a, resistin ทำให้อักเสบเรื้อรัง และเนื้อเยื่อต่างๆ ดื้ออินซูลิน


และภาวะอักเสบเรื้อรังนี่แหละ มีโอกาสสมองส่วนที่รับรู้ความอิ่ม (Arcuate nucleus - hypothalamus) ได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้สารสร้างความอิ่ม Leptin ที่อยู่ในเลือด ไม่สามารถขนส่งเข้าไปในสมอง ไม่สามารถไปบอกสมองว่า ‘อิ่มได้แล้ว’

เราเรียกว่านี้ว่าภาวะดื้อ Leptin (Leptin resistant)

ทำให้กินเท่าไหร่ ก็ไม่ค่อยอิ่มซักที ทั้งๆ ที่น้ำหนักเกินแล้ว


หยุดภาวะนี้ได้ด้วยการเปลี่ยนตัวตั้งแต่วันนี้
ลดการกินได้แล้ว, เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
คาร์บดี ไม่ขัดสี, ไขมันดี, โปรตีนเพียงพอ
เพิ่มช่วง Fasting ยาวๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

และบอกเลยค่ะว่า ไขมันในช่องท้อง ยุบไปไวกว่าเพื่อนเลย
ยุบไปชนิดที่ไขมันที่พุงยังไม่ทันยุบเลย เพราะมันไวต่อ
การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนมากๆ ค่ะ


สรุป: ไขมันในช่องท้อง ต้นเหตุอักเสบเรื้อรัง จนสมองดื้อ leptin กินเท่าไหร่ไม่อิ่ม หยุดได้ด้วย คุมน้ำหนัก ไขมันในช่องท้องจะหายไปก่อนเลยค่ะ

25/10/2025

น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย

21/10/2025

3 สิ่งที่ตับอ่อนเกลียด รู้ไว้จะได้เลี่ยง

สาเหตุตับอ่อนเกลียด 3 สิ่งนี้เพราะ เป็นตัวจุดชนวนระเบิดตับอ่อน ให้น้ำย่อยรั่วแล้วย่อยตัวเองอย่างอนาถ กลายเป็นภาวะตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน ซึ่งในรายที่เป็นรุนแรง การอักเสบจะรุนแรงมาก น้ำรั่วจนความดันตก ช็อก เสียชีวิตได้

ดังนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะคะ มาลองดูค่ะว่าน้องกลัวอะไร


1. สุรา - โดยเฉพาะแบบดื่มเยอะๆ

แม้ตับจะโดนก่อน แต่ถ้าดื่มระดับนึง (เอาง่ายๆ ระดับเมาน่ะค่ะ) แอลกอฮอล์สามารถมาเผาผลาญที่ตับอ่อนได้ และสร้างพิษ acetaldehyde และ FAEE กระตุ้นให้ระบบบริหารจัดแคลเซียมในเซลล์เสีย จนน้ำย่อยทำงานเอง ย่อยตัวเองค่ะ

โดยทั่วไปมักเจอในรายที่ดื่มจนเมาเกือบทุกวัน และวันเกิดเหตุดื่มเยอะมาก

♥️ งดสุราเถอะค่ะ แต่ถ้างดไม่ได้ก็ค่อยๆ ลดนะคะ


2. นิ่วจากถุงน้ำดี

ต้องกล่าวก่อนค่ะว่า นิ่วมักจะก่อตัวในถุงน้ำดี และมักจะอุดที่ทางออกของถุงน้ำดีนั่นแหละค่ะ ยังไม่มากยุ่งกับตับอ่อน

ซึ่งพอนิ่วมันอุด ก็จะเริ่มมีอาการปวดท้องแถวๆ ลิ้นปี่จนถึงขวาบนแบบตื้อๆ ค้างติดต่อกัน ไม่ใช่ปวดเป็นพักๆ มักสัมพันธ์กับอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่นิ่วจะตกลงไปในถุงแล้วก็หายปวดหัว

แต่ถ้าอุดจนแบบสลัดไม่ออก บางทีมาด้วยถุงน้ำดีอักเสบ (Acute cholecystitis) ปวดท้อง ไข้สูง ซึ่งแพทย์จะพิจารณาผ่าตัดอีกที

แต่ถ้าเวลาผ่านไป เป็นๆ หายๆ จนโครงสร้างท่อน้ำดีมันเปลี่ยน จนนิ่วสามารถหลุดออกมาจากถุงน้ำดีได้ ตกลงไปตามท่อ แล้วมาอยู่ที่ ‘ท่อรวมระหว่างตับอ่อนกับน้ำดี’ (Ampulla of Vater) อันนี้แหละค่ะ สามารถอุดแล้วทั้งน้ำดีและน้ำย่อยตับอ่อน ระบายไม่ออก น้ำย่อยก็ย่อยตับอ่อนได้เลย

ซึ่งปัจจุบันเจอได้ค่อนข้างน้อยลงเยอะ เพราะมักจะตรวจเจอตั้งแต่นิ่วที่ถุงน้ำดี แล้วจัดการตัดถุงน้ำดีไปแล้วค่ะ

♥️ เลี่ยงปัจจัยเกิดนิ่ว เช่น อ้วน, ลดความอ้วนไวเกินไป (มากกว่า 1.5 กิโล/สัปดาห์), ออกกำลังกาย, เปลี่ยนไขมันที่กินเป็นไขมันดี, เพิ่มไฟเบอร์, ถ้ามีอาการปวดท้องแล้ว พบแพทย์เพื่อรีบหาสาเหตุค่ะ


3. ไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง

ถ้าไตรกลีเซอไรด์หลังอดอาหาร 8 ชั่วโมง สูงกว่า 500 เป็นต้นไป มีโอกาสสูงมากที่หลังอาหารซักมื้อจะทะยานไปหลักพัน แล้วจะเริ่มเผาตับอ่อน

เพราะไตรกลีเซอไรด์เป็นเหมือนเชื้อเพลิง ตับอ่อนมีเอนไซม์ lipase ย่อยไตรกลีเซอไดร์จนกรดไขมัน ซึ่งถ้าไตรกลีเซอไรด์มันมาเยอะมาก มันก็จะได้กรดไขมันเยอะมาก ซึ่งกรดไขมันมีฤทธิ์กระตุ้นการอักเสบได้ ทำลายตับอ่อนได้ค่ะ

♥️ ควบคุมการกิน, หากมีภาวะอ้วน ให้ลดน้ำหนักลงค่ะ เพื่อแก้ภาวะดื้ออินซูลิน, ออกกำลังกาย, ตรวจสุขภาพเสมอ

10/10/2025

การออกกำลังกาย หนัก หนักสลับเบา สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 30 - 60 นาที พร้อมการควบคุมอาหาร จะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ลดภาวะการแทรกตัวของไขมันในมวลกล้ามเนื้อ

ออกกำลังกายทุกวันนะคะ เปลี่ยนกล้ามเนื้อที่ฝ่อ แถมเต็มไปด้วยไขมันแทรกทั่วเซลล์อย่างกับวากิว ให้กลายเป็นเตาเผาน้ำตาลและไขมันขนาดใหญ่ พร้อมส่งฮอร์โมนช่วยทั้งร่าง


เรื่องที่มั่นใจว่าทุกคนทราบดีแน่ๆ ว่า ถ้าไม่ออกกำลังกาย แถมชีวิตประจำวันก็นั่งๆ นอนๆ (Sedentary lifestyle) กล้ามเนื้อจะฝ่อ ออกแรงได้น้อย

แต่เชื่อว่าทุกคนไม่รู้ว่า มันจะหนักแบบในภาพค่ะ ใช่ค่ะ มันไม่ใช่แค่ฝ่อ แต่เซลล์กล้ามเนื้อที่ควรจะมีแต่โปรตีนแท้ๆ กลับเต็มไปด้วย ‘คลังเก็บไขมัน’ (Lipid droplet) กระจัดกระจายทั่วเซลล์

ขวางการทำงานกล้ามเนื้อ ขวางปฏิกิริยาเคมีต่างๆ โดยเฉพาะวงจรสัญญาณอินซูลิน บางครั้งก็เก็บไม่อยู่ เพราะกรดไขมันยังทะลักเข้าเซลล์มาเรื่อยๆ สุดท้ายรั่วออกมานอกคลัง เปลี่ยนเป็นสารพิษทำให้ใยกล้ามเนื้ออักเสบอ่อนๆ (Lipotoxicity)


กล้ามเนื้อที่อยู่ในสภาพนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องออกแรงได้น้อย/ล้าไว แต่เราจะสูญเสีย ‘แหล่งสูบน้ำตาลออกจากเลือด’ ไปกว่า 50-70% เลย ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงลอยอยู่ได้นานมาก เกิดพิษต่ออวัยวะต่างๆ ได้ง่ายมาก

แถมไมโตคอนเดรียในเซลล์ก็มีจำนวนน้อย โครงสร้างเสียหายยับเยินจากพิษของไขมัน ผลคือการเผาผลาญไขมันก็ยิ่งแย่ไปอีก ขาดเตาเผาไขมัน ทำให้ที่อ้วนอยู่แล้ว ก็ยิ่งอ้วนง่ายขึ้น


และที่น่าเสียดายที่สุดคือ ขาดแหล่งสร้างฮอร์โมนดีๆ ของร่างกายไป ไม่ว่าจะเป็น
✔️ IL-6, IL-15 ที่คอยเพิ่มเม็ดเลือดขาว Treg ต้านอักเสบ
✔️ ฮอร์โมน Irisin ที่ช่วยเพิ่มสาร BDNF ในสมองเร่งการฟื้นฟู
✔️ Lactate ที่คอยให้แบคทีเรียในลำไส้ใช้เป็นอาหาร เพื่อเติบโตดูแลเรา
✔️ Myonectin ที่ช่วยให้หัวใจอึดทนต่อการขาดเลือดได้ดี


🔮 หรือสรุปก็คือ เสียทั้งกำลัง เสียทั้งแหล่งเคลียร์น้ำตาล เสียทั้งเตาเผาไขมัน และเสียเครือข่ายฮอร์โมน อวัยวะต่างๆ ศักยภาพหายตามมาเป็นลูกโซ่


ดังนั้นลุกมาออกกำลังกาย กู้อาณาจักรกล้ามเนื้อให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งเถอะค่ะ เพราะการออกกำลังกายถือการแก้ตรงจุดเลยค่ะ

เพราะยิ่งออกยิ่งเป็นการซ้อมให้กล้ามเนื้ออยู่ในสภาพ ‘พลังงานต่ำ’ เซนเซอร์วัดพลังงานชื่อ AMPK จะรับรู้ทันที และรีบเปิดมาตรการหาพลังงานมาทดแทน นั่นคือบีบให้กล้ามเนื้อต้องสลายไขมันที่ฝังอยู่ในตัวมาใช้

ซึ่งถ้ากระตุ้นรุนแรงมากพอ กล้ามเนื้อจะใช้วิธีสลายไขมัน ด้วยวิธีพิเศษที่เอาทั้งคลังไขมันปาเข้าถุงย่อยเลย เรียกกลไกนี้ว่า Lipophagy ซึ่งเปิดใช้งานได้สองวิธีหลักๆ เท่านั้นคือ ออกกำลังกายในระดับปานกลาง กับ Fasting


ยังไม่จบเท่านั้น กล้ามเนื้อที่ถูกซ้อมให้ stress จากตอนออกกำลังกาย จะส่งสัญญาณไปเพิ่มการสร้างไมโตคอนเดรีย เพิ่มการซ่อมแซม เพิ่มการรีไซเคิลตัวที่เสียหายมากๆ

สุดท้ายกล้ามเนื้อก็จะเต็มไปด้วยไมโตคอนเดรีย ที่พร้อมไล่เผาผลาญไขมันที่สะสมในตัวเอง และเมื่อเผาหมดแล้ว ก็เผาไขมันในร่างต่อไป เพื่อลดน้ำหนัก

และเซลล์กล้ามเนื้อที่ไร้ไขมันฝังกล้าม ก็กลับมาอีกครั้ง ไม่เกิด stress อีกต่อไป ตอบสนองต่ออินซูลินได้ดี กลับมาเป็นป้อมปราการคอยดูดน้ำตาลเข้าเซลล์ ไม่ให้น้ำตาลมันสูงลอย

แถมยังสร้างสารพัดฮอร์โมนป้องกันโรคสารพัดค่ะ


วันนี้ไม่ออก พรุ่งนี้ก็ต้องออกอยู่ดี เลี่ยงไม่ได้หรอกค่ะ
แต่ถ้าออกวันนี้ มันก็จะเริ่มต้นที่วันนี้เลย
ถ้าไม่ออก มันก็จะผ่านไปเรื่อยๆ แว้บเดียวก็ 1 ปี 5 ปี 10 ปีแล้ว

เริ่มเลยค่ะ แค่ 30 นาทีเท่านี้เอง

08/10/2025

นี่คือภาพหลอดเลือดฝอย ที่มีเซลล์บางชนิดเกาะอยู่ข้างนอก มีผิวเซลล์ยื่นออกไปคล้ายขาโอบหลอดเลือดไว้ นี่คือ Pericyte เซลล์พี่เลี้ยงหลอดเลือด ที่ทยอยตๅยอยู่ทุกวัน หากไม่ดูแลสุขภาพจนดื้ออินซูลิน/น้ำตาลสูงเรื้อรัง


Pericyte จะคอยดูแลช่วยเหลือหลอดเลือดทุกอย่าง ตั้งแต่ช่วยซ่อมแซม ประสานงานการแตกแขนงหลอดเลือด เสริมความแข็งแรง ฯลฯ

แต่เป็นเซลล์ที่ทนพิษจากน้ำตาลได้น้อยมากค่ะ หากกินมาเยอะ + ไม่ออกกำลังกาย วันแล้ววันเล่า สภาพร่างกายจะเริ่มสะสมไขมันมากขึ้นจนร่างกายเริ่มอักเสบอ่อนๆ เริ่มมีการดื้ออินซูลิน เซลล์ต่างๆ ไม่ยอมเอาน้ำตาลเข้าเซลล์

สุดท้ายน้ำตาลในเลือดจะเริ่มสูงขึ้น สูงขึ้น แล้วเริ่มเปลี่ยนเป็นสารพิษ​เช่น AGEs, sorbitol เข้าทำลาย pericyte ทำให้ค่อยๆ ทยอยตๅย

หลอดเลือดที่ปราศจาก pericyte จะอ่อนแอมาก พังง่าย แตกง่าย ฉีกขาดง่าย ทำให้อวัยวะนั้นๆ ได้รับเลือดไม่ดีค่ะ


ควบคุมการกิน เพิ่มช่วง Fasting
เพิ่มเส้นใยอย่างผัก ผลไม้ (หวานน้อย)
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ตรวจสุขภาพประจำด้วยนะคะ

03/10/2025

Invest in Your Health – Get Checked, Stay Safe. 💪🏻❤️
อย่าปล่อยให้โรคเงียบทำงาน เพราะสุขภาพดีไม่มีขาย ต้องเริ่มจากเราใส่ใจ
โปรแกรมตรวจสุขภาพ Health Check-up Program 2025
✅ โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงาน
[Pre-employment Health Check-up Program]
✅ โปรแกรมตรวจสุขภาพ ประจำปี
[Annual Health Check-up Program]
✅ โปรแกรมตรวจสุขภาพวัยทอง
[Menopause Health Check-up Program]
✅ โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน / ก่อนตั้งครรภ์
[Pre-marital / Pre-pregnancy Health Check-up Program]
📞 ติดต่อสอบถาม | Contact Us
Tel. 077 - 332 - 706 - 7 | Mobile. 097 - 186 - 3430
Email : bandonh@gmail.com
แอดไลน์ : https://lin.ee/upmJljk
Google Map : https://surl.li/tvlsgt
#ตรวจเลือด #ตรวจสุขภาพสมุย #ตรวจสุขภาพประจำปี #ตรวจสุขภาพ #โรงพยาบาลบ้านดอนอินเตอร์เกาะสมุย

07/09/2025

Influenza Vaccine 💉
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธ์ุ 2025
ฉีด 1 เข็ม = ลดความเสี่ยงทั้งปี 💪🏻
>> เพียง 550.- บาท เท่านั้น
*ราคาดังกล่าว รวมค่าบริการโรงพยาบาลแล้ว*
1 Dose of Vaccine = Reduced Risk for the Whole Year
>> Only 550.- THB
*The Price Includes Hospital Service Fees*
>> ทำไมต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี
• ป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสที่เปลี่ยนสายพันธุ์ทุกปี
• ลดโอกาสป่วยหนัก ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล
• ลดอัตราการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อน
• กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ครอบคลุมไวรัสแต่ละปี

📞 ติดต่อสอบถาม | Contact Us
Tel. 077 - 332 - 706 - 7 | Mobile. 097 - 186 - 3430
Email : bandonh@gmail.com
แอดไลน์ : https://lin.ee/upmJljk
Google Map : https://surl.li/tvlsgt
#วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่4สายพันธุ์ #ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ #ไข้หวัดใหญ่ #โรงพยาบาลบ้านดอนอินเตอร์เกาะสมุย

12/08/2025

🇬🇧 English:🌅 Welcome to the stunning Maenam Beach on Koh Samui!In this video, we take you on a relaxing 🌴 beach walk from the Maenam Viewpoint all the wa...

13/07/2025

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมา FDA ได้อนุมัติยา Lenacapavir วางจำหน่ายในชื่อ Yeztugo ซึ่งเป็นยาฉีดสำหรับ ป้องกันการติดเชื้อ HIV ที่ใช้เพียงปีละ 2 ครั้ง หรือทุก 6 เดือน ถือเป็นยาตัวแรกที่สามารถป้องกัน HIV ได้ในระยะยาวแบบไม่ต้องกินยาทุกวัน และอาจกลายเป็นหมุดหมายสำคัญในการควบคุมการระบาดของ HIV ในระยะยาว
ที่ผ่านมา ยา PrEP แบบกินรายวันช่วยป้องกันได้ดี แต่ก็มีปัญหาเรื่องวินัยในการกินยา ส่งผลให้ประสิทธิภาพของการป้องกันลดลง การมียาที่ฉีดเพียงสองครั้งต่อปีจึงอาจช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องการกินยา และช่วยให้การป้องกันได้ผลมากขึ้น
บริษัท Gilead ผู้พัฒนายาชนิดนี้ ได้ทำการทดลองและผลปรากฏว่าให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจอย่างมาก โดยในผู้หญิง ยาตัวนี้สามารถลดความเสี่ยงการติดเชื้อ HIV ได้ถึง 96% เมื่อเทียบกับการใช้ยา PrEP แบบที่กินทุกวัน นกลุ่มผู้ชายและ LGBTQ+ พบว่า ยานี้ป้องกันได้ถึง 100%