Healthfocusclinic น.พ.อรรถสิทธิ์ ศักดิ์สุธาพร ประจำ Health Focus Clinic คลินิกดูแลสุขภาพสมัยใหม่สำหรับผู้รักสุขภาพ
(1)

05/11/2025

ปัสสาวะบ่อย-ไม่สุด อาจเป็นเพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนลด!
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมาย
💬Line : https://line.me/R/ti/p/%40214byvpd
🖥Website : https://healthfocusclinic.co.th/
📞Tel : 02-096-4945
📍Location : The Grove Hathairaj (เดอะ โกรพ หทัยราษฏร์)

#หมออรรถ #ฮอร์โมน #เอสโตรเจน #ปัสสาวะบ่อย #ปัสสาวะไม่สุด

🫨😵6 ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิด "ภาวะสมองเสื่อม" โดยไม่รู้ตัว 🧠ภาวะ "สมองเสื่อม" เป็นปัญหาสุขภาพที่ไม่มีใครอยากเผชิญ แต่...
04/11/2025

🫨😵6 ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิด
"ภาวะสมองเสื่อม" โดยไม่รู้ตัว 🧠
ภาวะ "สมองเสื่อม" เป็นปัญหาสุขภาพที่ไม่มีใครอยากเผชิญ แต่รู้ไหมคะว่าในชีวิตประจำวันของเรามีปัจจัยที่อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะนี้โดยไม่รู้ตัวเลย 🤔 มาเรียนรู้กันค่ะว่าสิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยงเพื่อลดความเสี่ยงนี้มีอะไรบ้าง รวมถึงคำแนะนำเพื่อให้คุณสามารถป้องกันตนเองและครอบครัวได้จากภาวะสมองเสื่อมค่ะ ❤️✨
1. ไขมันในเลือดสูง 🩸🍔
การมีไขมันในเลือดสูง ไม่ว่าจะเป็นคอเลสเตอรอลหรือไขมันไม่ดีอื่นๆ อาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูงและโรคไขมันในเลือดสูง ซึ่งสองโรคนี้เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคหลอดเลือดสมอง การมีหลอดเลือดที่ไม่แข็งแรงอาจทำให้การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลง ทำให้เซลล์สมองขาดออกซิเจนและเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อมในระยะยาว
✔️คำแนะนำ: ควบคุมอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอด ไขมันทรานส์ และเนื้อสัตว์ที่มีไขมันมาก ควรทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น และออกกำลังกายเป็นประจำช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือดค่ะ
2. การบริโภคน้ำตาลมากเกินไป 🍰🥤
การทานของหวานมากเกินไปไม่ใช่แค่ทำให้น้ำหนักขึ้นเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงกับภาวะการอักเสบเรื้อรังทั่วร่างกาย รวมถึงสมองด้วยค่ะ การบริโภคน้ำตาลที่มากเกินไปสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อความผิดปกติทางระบบประสาท และทำให้ความสามารถในการคิดและความจำลดลงเรื่อยๆ
✔️คำแนะนำ: ลดการบริโภคน้ำตาลในทุกๆ รูปแบบ ทั้งเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ขนมหวาน และอาหารแปรรูป ลองเปลี่ยนมาทานผลไม้แทนนะคะ หวานธรรมชาติแถมยังมีไฟเบอร์ช่วยให้สุขภาพดีค่ะ
3. การนอนหลับน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อคืน 😴🛌
การนอนหลับไม่เพียงพอ โดยเฉพาะนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อคืนในวัยกลางคน อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะสมองเสื่อมได้ถึง 30% การนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่สมองได้ซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเอง ถ้านอนไม่พอ สมองอาจไม่สามารถกำจัดสารที่ทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมออกจากร่างกายได้
✔️คำแนะนำ: ควรให้ความสำคัญกับการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ พยายามสร้างกิจวัตรการนอนให้เป็นเวลา และหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอนค่ะ
4. การทานอาหารที่เพิ่มการอักเสบในร่างกาย 🌭🍟
อาหารที่กระตุ้นการอักเสบในร่างกายได้แก่ คาร์โบไฮเดรตขัดสี อาหารแปรรูป ไขมันทรานส์ ไขมันอิ่มตัว และแอลกอฮอล์ ซึ่งอาหารเหล่านี้เป็นตัวการที่ทำให้เกิดการอักเสบทั่วร่างกายและสมอง ทำให้เซลล์ประสาทเสื่อมลงเรื่อยๆ และส่งผลต่อความสามารถในการจดจำและการคิดวิเคราะห์
✔️คำแนะนำ: ลดการทานอาหารที่มีการอักเสบสูง หันมาทานอาหารที่ช่วยลดการอักเสบ เช่น ผักผลไม้สด ถั่ว และปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 เพื่อช่วยเสริมสร้างสุขภาพสมองค่ะ
5. การสูบบุหรี่ 🚬❌
การสูบบุหรี่ไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อปอดและหัวใจ แต่ยังทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ การศึกษาพบว่าผู้ที่สูบบุหรี่มีโอกาสเป็นโรคสมองเสื่อมมากกว่าผู้ที่ไม่สูบถึง 30% 🔥 การสูบบุหรี่ทำให้หลอดเลือดแคบลง ส่งผลให้เลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้น้อยลง ทำให้สมองเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น
✔️คำแนะนำ: ลดหรือเลิกการสูบบุหรี่เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สุขภาพสมองและหัวใจของคุณดีขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ในระยะยาวนะคะ
6. ความเหงาและการแยกตัวจากสังคม 😔💔
ความเหงาและการขาดการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของการอักเสบในร่างกายและสมอง ซึ่งการอักเสบเรื้อรังนี้สามารถทำลายเซลล์ประสาทและรบกวนวงจรประสาท ทำให้เสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมในอนาคต การอยู่คนเดียวและขาดการสื่อสารกับคนอื่นๆ อาจส่งผลให้สุขภาพจิตเสื่อมลง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าและวิตกกังวล
✔️คำแนะนำ: ควรหาโอกาสพบปะเพื่อนฝูง พูดคุยกับครอบครัว หรือเข้าร่วมกิจกรรมที่ทำให้คุณรู้สึกมีความสุขและมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นนะคะ การออกไปพบเจอคนอื่นๆ จะช่วยลดความเหงาและทำให้สมองของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เราอาจจะไม่ทันคิดว่าจะมีผลต่อภาวะสมองเสื่อม แต่ความจริงแล้วเป็นสิ่งที่เราควรระวังและใส่ใจให้มากขึ้นค่ะ นอกจากจะหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้แล้ว เราก็ควรหันมาดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหมั่นออกกำลังกาย การทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การนอนหลับให้เพียงพอ รวมถึงการดูแลสุขภาพจิตและการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างอยู่เสมอ สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยลดความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อมได้ทั้งสิ้นค่ะ มาทำให้ชีวิตเราสดใสและมีความสุขในทุกๆ วันเพื่อสุขภาพสมองที่ดีกันนะคะ 😊
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมาย
💬Line : https://line.me/R/ti/p/%40214byvpd
🖥Website : https://healthfocusclinic.co.th/
📞Tel : 02-096-4945
📍Location : The Grove Hathairaj (เดอะ โกรพ หทัยราษฏร์)
_________________________________________________
🔗ทำความรู้จักกับหมออรรถ (อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ)
https://hfocusclinic.com/หมออรรถ-อย่าฝากชีวิตไว้/

🔗ทำไมต้องมาตรวจสุขภาพที่ Health Focus Clinic
https://hfocusclinic.com/ทำไมต้องเรา/

#สมองเสื่อม #ไขมันในเลือดสูง #นอนน้อย #สูบบุหรี่ #ไขมันทรานส์

มือ-เท้าชาบ่อย? เช็กเลย! อาจเป็นสัญญาณ “ขาดวิตามินบี”อาการมือ-เท้าชาเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย อาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ...
03/11/2025

มือ-เท้าชาบ่อย? เช็กเลย! อาจเป็นสัญญาณ “ขาดวิตามินบี”

อาการมือ-เท้าชาเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย อาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นการนั่งหรือนอนในท่าเดิมนานๆ ความดันเลือดต่ำ การไหลเวียนของเลือดไม่ดี หากมือ-เท้าชาเกิดขึ้นบ่อยครั้งอาจเป็นสัญญาณของปัญหาระบบประสาท และการขาดวิตามิน B อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการเหล่านี้
การขาดวิตามิน B โดยเฉพาะวิตามิน B12 มักเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการมือ-เท้าชา เนื่องจากวิตามินนี้มีบทบาทสำคัญในการบำรุงระบบประสาทและการสร้างเซลล์ประสาท เมื่อขาดวิตามิน B12 การผลิตเยื่อหุ้มประสาทจะไม่สมบูรณ์ส่งผลให้การส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ประสาทไม่เต็มประสิทธิภาพทำให้เกิดอาการชาหรือรู้สึกเหมือนมีเข็มแทงที่มือและเท้า
นอกจากนี้วิตามิน B6,B1 ก็มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบประสาทหากขาดวิตามินเหล่านี้อาจทำให้ระบบประสาททำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพและนำไปสู่อาการชาได้
ดังนั้นการเสริมวิตามิน B ก็เป็นวิธีหนึ่งที่ดี โดยอาจเสริมเป็นวิตามิน B100 ที่รวมวิตามิน B ไว้ทุกตัวก็จะช่วยบรรเทาอาการชาและฟื้นฟูระบบประสาทให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมาย
💬Line : https://line.me/R/ti/p/%40214byvpd
🖥Website : https://healthfocusclinic.co.th/
📞Tel : 02-096-4945
📍Location : The Grove Hathairaj (เดอะ โกรพ หทัยราษฏร์)
_________________________________________________
🔗ทำความรู้จักกับหมออรรถ (อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ)
https://hfocusclinic.com/หมออรรถ-อย่าฝากชีวิตไว้/

🔗ทำไมต้องมาตรวจสุขภาพที่ Health Focus Clinic
https://hfocusclinic.com/ทำไมต้องเรา/

#มือชา #เท้าชา #วิตามินบี #วิตามินB

01/11/2025

กินเหมือนเดิมทำไมอ้วนขึ้น?

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมาย
💬Line : https://line.me/R/ti/p/%40214byvpd
🖥Website : https://healthfocusclinic.co.th/
📞Tel : 02-096-4945
📍Location : The Grove Hathairaj (เดอะ โกรพ หทัยราษฏร์)

#หมออรรถ #อ้วนขึ้น #อาหาร #อายุเยอะ

🤎 Zinc แร่ธาตุสำคัญ ที่ระบบภูมิคุ้มกันต้องการ 👍🏿✨Zinc (ซิงค์) แร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกาย “โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกัน” หากร่า...
31/10/2025

🤎 Zinc แร่ธาตุสำคัญ ที่ระบบภูมิคุ้มกันต้องการ 👍🏿
✨Zinc (ซิงค์) แร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกาย “โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกัน” หากร่างกายขาด Zinc จะส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันทำให้ร่างกายติดเชื้อต่างๆ ได้ง่าย 😷
⚠️ ปกติแล้วร่างกายไม่สามารถสร้าง Zinc ขึ้นมาได้เอง จึงจำเป็นต้องได้รับ Zinc จากการรับประทานอาหารหรืออาหารเสริม แนะนำให้รับประทานในฟอร์ม Chelated Zinc เป็นฟอร์มที่ Zinc จับอยู่กับโปรตีน ดูดซึมได้ดี 💊
🍚🥬🥩Zinc ในอาหาร เช่น นม โยเกิร์ต เนื้อหมู ไก่ ปลา หอย ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต เห็ด ถั่ว
✔️ มีบทบาทในการเสริมสร้างเซลล์ระบบภูมิคุ้มกัน (T-cells)
✔️ ช่วยบรรเทาอาการหวัด
✔️ ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสในลำคอและช่องจมูกได้
✔️ ช่วยแก้ปัญหาด้านเส้นผม ผิว เล็บ หรือปัญหาสิว
✔️ ช่วยระบบย่อยอาหาร การดูดซึมสารอาหาร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมาย
💬Line : https://line.me/R/ti/p/%40214byvpd
🖥Website : https://healthfocusclinic.co.th/
📞Tel : 02-096-4945
📍Location : The Grove Hathairaj (เดอะ โกรพ หทัยราษฏร์)
_________________________________________________
🔗ทำความรู้จักกับหมออรรถ (อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ)
https://hfocusclinic.com/หมออรรถ-อย่าฝากชีวิตไว้/

🔗ทำไมต้องมาตรวจสุขภาพที่ Health Focus Clinic
https://hfocusclinic.com/ทำไมต้องเรา/
#ซิงค์ #เสริมภูมิคุ้มกัน

🦠 สุขภาพพังเพราะ “ลำไส้ไม่สมดุล”ภาวะเสี่ยงที่หลายคนอาจมองข้ามในร่างกายของเรามีจุลินทรีย์และแบคทีเรียอาศัยอยู่หลายล้านล้า...
30/10/2025

🦠 สุขภาพพังเพราะ “ลำไส้ไม่สมดุล”
ภาวะเสี่ยงที่หลายคนอาจมองข้าม

ในร่างกายของเรามีจุลินทรีย์และแบคทีเรียอาศัยอยู่หลายล้านล้านเซลล์ โดยเฉพาะในบริเวณลำไส้ ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพและระบบทางเดินอาหาร แต่ถ้าแบคทีเรียเหล่านี้ขาดสมดุล ไม่ว่าจะมีจำนวนมากหรือน้อยเกินไป อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่คาดไม่ถึงได้เลยค่ะ วันนี้เรามาดูกันว่าภาวะลำไส้ขาดสมดุลนั้นเสี่ยงต่อโรคอะไรบ้าง และเราจะป้องกันได้อย่างไรบ้างนะคะ 😊

🔬 “แบคทีเรียในลำไส้” สำคัญแค่ไหน?
ในลำไส้ของคนเรามีแบคทีเรียอยู่มากถึง 100 ล้านล้านตัว! แบคทีเรียเหล่านี้มีทั้งประเภทที่เป็นมิตรและแบคทีเรียก่อโรค โดยแบคทีเรียในลำไส้แบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้ค่ะ

1. โพรไบโอติก (Probiotic) เป็นแบคทีเรียที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกาย มีบทบาทสำคัญในการสร้างสมดุลระบบย่อยอาหารและเสริมสร้างสุขภาพโดยรวม โพรไบโอติกช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อโรค กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยการดูดซึมสารอาหารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างแบคทีเรียในกลุ่มนี้ เช่น Lactobacillus และ Bifidobacterium ซึ่งสามารถพบได้ในอาหารหมักดอง โยเกิร์ต และนมเปรี้ยวค่ะ เมื่อโพรไบโอติกมีจำนวนเพียงพอ ลำไส้จะทำงานได้อย่างราบรื่น ระบบขับถ่ายดีขึ้น ภูมิคุ้มกันแข็งแรง และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ

2. จุลินทรีย์ก่อโรค (Pathogen)
เป็นแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากมีจำนวนมากเกินไป จะทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะลำไส้ไม่สมดุลและนำไปสู่การเจ็บป่วยได้ โดยเชื้อก่อโรคเหล่านี้มักมาจากอาหารปนเปื้อนหรือการติดเชื้อ เช่น เชื้อซัลโมเนลลา (Salmonella) และอีโคไล (E. coli) ซึ่งก่อให้เกิดโรคทางเดินอาหารรุนแรง เมื่อจุลินทรีย์ก่อโรคมีจำนวนมากเกินไปในลำไส้ จะทำให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น ท้องเสียเรื้อรัง ลำไส้อักเสบ หรืออาการอื่นๆ ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพระยะยาว

โดยหากแบคทีเรียในลำไส้มีความสมดุล นั่นหมายถึงการมีจุลินทรีย์ชนิดดีในปริมาณที่เหมาะสม และจุลินทรีย์ชนิดไม่ดีอยู่ในระดับต่ำ ร่างกายก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งช่วยในเรื่องการย่อยอาหาร การดูดซึมสารอาหาร และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น แต่เมื่อใดที่แบคทีเรียในลำไส้ขาดสมดุล อาจนำไปสู่ความผิดปกติของระบบต่างๆ ในร่างกาย และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายแรงตามมาได้นั่นเองค่ะ

⚠️ 5 โรคเสี่ยงหากจุลินทรีย์ในลำไส้ไม่สมดุล?
1️⃣ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบจากการติดเชื้อ 🦠
เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือปรสิต โดยเฉพาะเชื้อซัลโมเนลลา (Salmonella) และอีโคไล (E. coli) ที่ปนเปื้อนมากับอาหารหรือน้ำ ทำให้มีอาการท้องเสียรุนแรง คลื่นไส้ และปวดท้อง

2️⃣ ภาวะซึมเศร้าหรือความวิตกกังวล 😢
หลายคนไม่รู้ว่าลำไส้เชื่อมโยงกับสมองอย่างใกล้ชิด หากแบคทีเรียในลำไส้ขาดสมดุล อาจทำให้ระดับฮอร์โมนเซโรโทนิน (ฮอร์โมนแห่งความสุข) ลดลง ส่งผลต่ออารมณ์ ทำให้เครียด วิตกกังวล หรือแม้แต่มีภาวะซึมเศร้าได้ค่ะ

3️⃣ ภาวะอ้วนและโรคเมตาบอลิก ⚖️
การที่แบคทีเรียไม่สมดุลส่งผลโดยตรงต่อการเผาผลาญพลังงาน ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะอ้วน ไขมันสะสม และโรคเบาหวานประเภท 2

4️⃣ โรคผิวหนังและภูมิแพ้ผิวหนัง 🌸
ภาวะลำไส้รั่วซึม (Leaky Gut) จากแบคทีเรียไม่สมดุลทำให้สารพิษเล็ดลอดออกมาสู่ร่างกาย เกิดการอักเสบ ส่งผลให้เป็นโรคผิวหนัง เช่น สิว ผื่นแพ้ และผิวพรรณหมองคล้ำ อีกทั้งยังทำให้ผิวดูแก่ก่อนวัยได้ด้วยค่ะ

5️⃣ โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ 🎗️
เชื้อแบคทีเรียบางชนิด เช่น เชื้อฟิวโซแบคทีเรียม (Fusobacterium) และโพรวิเดนเซีย (Providencia) เป็นตัวการสำคัญที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ นอกจากนี้ การบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปหรืออาหารปิ้งย่างบ่อยๆ ก็เป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อโรคชนิดนี้

🌿 วิธีรักษาสมดุลแบคทีเรียในลำไส้
▪️ พักผ่อนให้เพียงพอ 😴
นอนหลับอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน จะช่วยให้ระบบลำไส้ฟื้นตัว ลดโอกาสการอักเสบ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของลำไส้ให้ดีขึ้น

▪️ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 🏃‍♀️
การออกกำลังกาย 30 นาทีต่อวัน ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารและเพิ่มแบคทีเรียดีในลำไส้ อีกทั้งยังช่วยลดการเติบโตของแบคทีเรียชนิดไม่ดี

▪️ ลดอาหารรสจัดและอาหารแปรรูป ❌
อาหารเผ็ดจัด เค็มจัด หรืออาหารสำเร็จรูปที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ล้วนทำร้ายเยื่อบุลำไส้และทำให้แบคทีเรียในลำไส้เสียสมดุล ควรหลีกเลี่ยงและเลือกทานอาหารที่สดใหม่แทนค่ะ

▪️ เพิ่มอาหารที่มีโพรไบโอติก 🥛
รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโพรไบโอติก เช่น โยเกิร์ต กิมจิ นมเปรี้ยว และชีส เพื่อช่วยเพิ่มแบคทีเรียดีให้กับลำไส้ หรือหากมีข้อจำกัดในการทานอาหารเหล่านี้ สามารถรับประทานในรูปแบบอาหารเสริม Probiotic ได้เช่นกัน

▪️ ดื่มน้ำให้เพียงพอ 💧
น้ำช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น และยังช่วยล้างสารพิษในลำไส้ ทำให้จุลินทรีย์ที่ดีเจริญเติบโตได้อย่างเหมาะสม

✨ การดูแลสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้จึงเป็นเรื่องสำคัญมากนะคะ เพราะมันส่งผลต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิต และกระบวนการแก่ชราของเราโดยตรง ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพียงเล็กน้อย ก็สามารถช่วยป้องกันโรคต่างๆ ได้ในระยะยาวค่ะ 💪❤️

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมาย
💬Line : https://line.me/R/ti/p/%40214byvpd
🖥Website : https://healthfocusclinic.co.th/
📞Tel : 02-096-4945
📍Location : The Grove Hathairaj (เดอะ โกรพ หทัยราษฏร์)
_________________________________________________
🔗ทำความรู้จักกับหมออรรถ (อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ)
https://hfocusclinic.com/หมออรรถ-อย่าฝากชีวิตไว้/

🔗ทำไมต้องมาตรวจสุขภาพที่ Health Focus Clinic
https://hfocusclinic.com/ทำไมต้องเรา/

#ลำไส้ไม่สมดุล

29/10/2025

รู้ไหมว่า...มะเร็ง “ต้องใช้เหล็ก” ในการโต ❗ยิ่งร่างกายมีเหล็กมาก (โดยเฉพาะค่า Ferritin สูง) มะเร็งยิ่งมีพลังสร้างหลอดเลือดใหม่ ขยายตัวเร็วขึ้น ⚠️

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมาย
💬Line : https://line.me/R/ti/p/%40214byvpd
🖥Website : https://healthfocusclinic.co.th/
📞Tel : 02-096-4945
📍Location : The Grove Hathairaj (เดอะ โกรพ หทัยราษฏร์)

#หมออรรถ

💊🧬คีเลตแมกนีเซียม (Chelated Magnesium)ดีกว่าแมกนีเซียมทั่วไปอย่างไร?แมกนีเซียม (Magnesium) หนึ่งในแร่ธาตุที่มีความสำคัญ ...
28/10/2025

💊🧬คีเลตแมกนีเซียม (Chelated Magnesium)
ดีกว่าแมกนีเซียมทั่วไปอย่างไร?

แมกนีเซียม (Magnesium) หนึ่งในแร่ธาตุที่มีความสำคัญ สามารถพบได้ในทุกเซลล์ของร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณกระดูก เป็นแร่ธาตุที่ร่างกายคนเราขาดไม่ได้ หนึ่งในประเภทของแมกนีเซียมตัวเลือกยอดนิยมคือ คีเลตแมกนีเซียม

🧬คีเลตแมกนีเซียม คืออะไร? ต่างกับแมกนีเซียมทั่วไปอย่างไร?

คีเลตแมกนีเซียม เป็นแมกนีเซียมรูปแบบหนึ่งที่จับการสารคีเลต ซึ่งสารคีเลตส่วนใหญ่จะยึดเหนี่ยวกับโมเลกุลอินทรีย์ เช่น กรดอะมิโน ด้วยการสร้างพันธะแบบนี้เปรียบเสมือนมีตัวช่วยนำพาแมกนีเซียมผ่านเข้าไปได้ง่ายขึ้น จึงยิ่งทำให้แมกนีเซียมถูกดูดซึมได้ง่ายและร่างกายได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ เมื่อเทียบกับแมกนีเซียมทั่วไปที่ไม่มีการสร้างพันธะดังกล่าว

👍ประโยชน์ของคีเลตแมกนีเซียม
1️⃣ บรรเทาอาการปวดไมเกรน
โดยงานวิจัยพบว่า ผู้ที่ปวดหัวไมเกรนจะมีระดับแมกนีเซียมในร่างกายต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ
และข้อมูลจากงานวิจัยในมนุษย์บางฉบับพบว่าการใช้แมกนีเซียมช่วยลดจำนวนวันหรือจำนวนครั้งของการปวดศีรษะไมเกรนต่อเดือนลงได้ร้อยละ 22-43 ซึ่งมากกว่ายาหลอกอย่างมีนัยสำคัญ แต่อาจสรุปได้ว่าการใช้แมกนีเซียมเพื่อป้องกันการเกิดอาการปวดไมเกรนนั้นอาจได้ประโยชน์สำหรับบางคน

ดังนั้นก่อนการเลือกทานแมกนีเซียมควรศึกษาถึงปัจจัยเสี่ยงและขอคำปรึกษาจากแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อรับทราบข้อมูลประกอบการตัดสินใจ

2️⃣ ช่วยการนอนหลับ
แมกนีเซียมนั้นมีส่วนช่วยควบคุมสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับการนอน ช่วยทำให้มีคุณภาพการนอนหลับที่ดีขึ้น นอกจากนั้นงานวิจัยบางชิ้นยังบ่งชี้ว่าการบริโภคแมกนีเซียมที่มากขึ้นโดยเฉพาะในผู้หญิง สามารถช่วยให้รู้สึกง่วงและหลับน้อยลงในเวลากลางวันอีกด้วย

3️⃣ลดการเกิดตะคริว
ตะคริว หรือ ภาวะหดเกร็งของกล้ามเนื้ออย่างกระทันหัน ซึ่งแมกนีเซียมจะทำหน้าที่เข้าไปช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อและหลอดเลือด อาการตะคริวถึงแม้จะไม่ส่งผลอันตรายร้ายแรงอย่างมากต่อร่างกาย แต่ก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงขึ้นได้เช่น หากเกิดตอนว่ายน้ำ ออกกำลังกาย หรือตอนขับรถ

⛔หากร่างกายขาดแมกนีเซียม จะเกิดอะไรขึ้น?
🔸ส่งผลต่อสมอง รู้สึกวิตกกังวล กระสับกระส่าย ปวดไมเกรนบ่อย
🔸ส่งผลต่อกล้ามเนื้อ รู้สึกเกิดอาการปวดบริเวณขา น่อง หลัง และตึงเครียดบริเวณคอ บ่า ไหล่
🔸ส่งผลต่อหัวใจ เกิดการเต้นผิกปรกติ
🔸ส่งผลต่อฝ่ามือและเท้า อาจเกิดอาการเย็นวาบ เกิดตะคริว
🔸ภูมิคุ้มกันลดต่ำลง ป่วยง่ายขึ้น
🔸นอกจากนี้ยังมีโอกาสเสี่ยงกับกระดูกพรุน หรือเปราะ กระดูกอ่อนไม่แข็งแรง เหมือนกับการขาดแคลเซียม ซึ่งแพทย์พบว่าหากใครที่มีปริมาณแมกนีเซียมในร่างกายที่ต่ำ ก็มีโอกาสที่แคลเซียมในร่างกายต่ำลงไปด้วย
⬇️ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร่างกายมีปริมาณแมกนีเซียมลดลง
⚠️สิ่งที่ควรระวังก็คือ การรับประทานอาหารจำพวกแป้งที่ผ่านการขัดสีเป็นประจำ รวมทั้งอาหารที่มีไขมันสูง การดื่มน้ำอัดลม น้ำหวาน หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ และอาจรวมถึงผู้ที่รับประทานยาในบางประเภท เช่น ยาขับปัสสาวะ
🥛 แหล่งของแมกนีเซียมตามธรรมชาติ
- ธัญพืช 🫘 เช่น เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง อัลมอนด์ ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เต้าหู้ขาว
- ผักใบเขียวและผลไม้ต่างๆ 🥦 เช่น อะโวคาโด กล้วย
- นมและผลิตภัณฑ์จากนม, ดาร์กช็อกโกแลต
✅ปริมาณของแมกนีเซียมที่ควรได้รับในแต่ละวัน
มีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับเพศ อายุ และสภาพร่างกาย ซึ่งปริมาณ แมกนีเซียมที่ควรรับประจำวันของคนไทยอายุ 19 ปีขึ้นไปคือ 240 - 320 มิลลิกรัมต่อวัน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมาย
💬Line : https://line.me/R/ti/p/%40214byvpd
🖥Website : https://healthfocusclinic.co.th/
📞Tel : 02-096-4945
📍Location : The Grove Hathairaj (เดอะ โกรพ หทัยราษฏร์)
_________________________________________________
🔗ทำความรู้จักกับหมออรรถ (อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ)
https://hfocusclinic.com/หมออรรถ-อย่าฝากชีวิตไว้/

🔗ทำไมต้องมาตรวจสุขภาพที่ Health Focus Clinic
https://hfocusclinic.com/ทำไมต้องเรา/

#แมกนีเซียม

27/10/2025

สายทอดต้องฟัง! น้ำมันแบบไหนกินแล้วดีต่อใจ
#หมอปิงHealthFocus #ของทอด #น้ำมัน

💧นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม!หลายคนอาจคิดว่า “นิ่วในไต” หรือ “นิ่วในทางเดินปัสสาวะ” เป็นเรื่องไกลตัว...
26/10/2025

💧นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม!

หลายคนอาจคิดว่า “นิ่วในไต” หรือ “นิ่วในทางเดินปัสสาวะ” เป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆ แล้วใกล้กว่าที่คิด เพราะพฤติกรรมในชีวิตประจำวันหลายอย่าง เช่น การดื่มน้ำน้อย ทานอาหารไม่สมดุล หรือการได้รับแคลเซียมไม่ถูกวิธี ล้วนเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดนิ่วได้โดยไม่รู้ตัว
😖 สัญญาณเตือนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
◾ปวดรุนแรงบริเวณเอวด้านหลัง หรือปวดบิดๆ เป็นพักๆ
◾ปัสสาวะแสบขัด เจ็บเวลาถ่าย
◾สีปัสสาวะเปลี่ยน เช่น เหลืองเข้มหรือมีสีแดงปนเลือด
◾คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีไข้ร่วมด้วย
อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณว่าในระบบทางเดินปัสสาวะของคุณมี “นิ่ว” กำลังก่อตัวอยู่
🩺 ทำไมนิ่วถึงเกิดขึ้นได้?
หนึ่งในสาเหตุหลักคือ การมีแคลเซียมในปัสสาวะมากเกินไป
เมื่อร่างกายขับแคลเซียมออกมาทางปัสสาวะมากผิดปกติ จะทำให้เกิดการตกผลึกของสารบางชนิด เช่น แคลเซียมออกซาเลต หรือแคลเซียมฟอสเฟต จนกลายเป็น “นิ่ว” ได้ในที่สุด
💡 ป้องกันนิ่วได้อย่างไร?
1️⃣ ดื่มน้ำให้มาก
น้ำคือกุญแจสำคัญในการป้องกันนิ่ว!
การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยเจือจางแร่ธาตุในปัสสาวะ ทำให้โอกาสการตกผลึกลดลง ควรดื่มน้ำวันละ 1.5 – 2 ลิตร หรือมากกว่านั้นตามกิจกรรมในแต่ละวัน
2️⃣ คุมปริมาณเนื้อสัตว์
โปรตีนจากเนื้อสัตว์มากเกินไป จะทำให้ปัสสาวะเป็นกรด ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการก่อตัวของนิ่ว
3️⃣ เสริม “วิตามิน K2” อย่างถูกวิธี
หลายคนทานแคลเซียมหรืออาหารที่มีแคลเซียมสูงเพื่อบำรุงกระดูก แต่หาก ขาดวิตามิน K2 แคลเซียมเหล่านั้นอาจไม่ถูกนำไปใช้สร้างกระดูก กลับลอยอยู่ในกระแสเลือดและถูกขับออกทางปัสสาวะแทน
ส่งผลให้ ความเสี่ยงในการเกิดนิ่วเพิ่มขึ้น
วิตามิน K2 มีบทบาทสำคัญในการ “นำแคลเซียมไปที่กระดูก” และ “ป้องกันไม่ให้แคลเซียมสะสมผิดที่” เช่น ในหลอดเลือดหรือทางเดินปัสสาวะ
4️⃣ เพิ่มผักในทุกมื้อ
ผักใบเขียวให้ “วิตามิน K1” ซึ่งจุลินทรีย์ดีในลำไส้จะเปลี่ยนเป็น “วิตามิน K2” ได้ตามธรรมชาติ ดังนั้นการทานผักเยอะขึ้นจึงช่วยให้ร่างกายมีวิตามิน K2 เพียงพอโดยไม่ต้องพึ่งอาหารเสริมเสมอไป
การป้องกันนิ่วในทางเดินปัสสาวะไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่
✅ ดื่มน้ำให้มาก
✅ ลดการทานเนื้อสัตว์
✅ ใส่ใจวิตามิน K2
✅ ทานผักให้มากขึ้น
เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดโอกาสเกิดนิ่วได้อย่างมาก และยังช่วยให้กระดูกแข็งแรง หลอดเลือดดี สุขภาพโดยรวมดีขึ้นอีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมาย
💬Line : https://line.me/R/ti/p/%40214byvpd
🖥Website : https://healthfocusclinic.co.th/
📞Tel : 02-096-4945
📍Location : The Grove Hathairaj (เดอะ โกรพ หทัยราษฏร์)
_________________________________________________
🔗ทำความรู้จักกับหมออรรถ (อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ)
https://hfocusclinic.com/หมออรรถ-อย่าฝากชีวิตไว้/

🔗ทำไมต้องมาตรวจสุขภาพที่ Health Focus Clinic
https://hfocusclinic.com/ทำไมต้องเรา/

#นิ่วในทางเดินปัสสาวะ

สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหารและพนักงานHeal...
25/10/2025

สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์
น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
เป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหารและพนักงาน
Health Focus Clinic

😷🤒🤧 ภูมิคุ้มกันตก เสี่ยงป่วยง่าย ผลกระทบเมื่อ Probiotics ไม่เพียงพอ 💢⚠️ป่วยบ่อย⚠️อ่อนเพลีย⚠️ภูมิแพ้ ไอ จาม⚠️ท้องอืด ท้อง...
25/10/2025

😷🤒🤧 ภูมิคุ้มกันตก เสี่ยงป่วยง่าย ผลกระทบเมื่อ Probiotics ไม่เพียงพอ 💢

⚠️ป่วยบ่อย
⚠️อ่อนเพลีย
⚠️ภูมิแพ้ ไอ จาม
⚠️ท้องอืด ท้องเสีย ท้องผูก

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางครั้งเราถึงป่วยบ่อย รู้สึกอ่อนเพลีย หรือร่างกายดูเหมือนไม่แข็งแรง ทั้งที่ไม่ได้มีโรคร้ายแรงอะไร คำตอบอาจซ่อนอยู่ในลำไส้ของคุณ เพราะลำไส้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของระบบย่อยอาหารเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกด้วย ซึ่งมากกว่า 70% ของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายนั้นอยู่ที่ลำไส้ โดยลำไส้เป็นแหล่งรวมจุลินทรีย์นับล้านล้านตัว แบ่งออกเป็นทั้งจุลินทรีย์ที่ดีและจุลินทรีย์ที่อาจก่อให้เกิดโรค หากความสมดุลของจุลินทรีย์เหล่านี้ถูกทำลาย เช่น การขาด Probiotics หรือจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ร่างกายก็จะเผชิญกับปัญหาสุขภาพหลายประการ ซึ่ง Probiotics ทำหน้าที่เหมือนทหารที่ช่วยปกป้องลำไส้จากเชื้อโรค ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และป้องกันการอักเสบในร่างกาย หาก Probiotics ในลำไส้ลดลงอาจส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เกิดภาวะภูมิแพ้ได้ง่ายขึ้น ส่งผลต่อการย่อยอาหารทำให้ท้องอืด ท้องเสีย หรือท้องผูก การเสริม Probiotics ให้เพียงพอทำได้ผ่านอาหาร เช่น โยเกิร์ต กิมจิ เทมเป้ หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร การดูแลลำไส้ให้แข็งแรงไม่เพียงแต่ช่วยลดโอกาสป่วย แต่ยังเสริมสร้างชีวิตที่เต็มไปด้วยพลังอีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมาย
💬Line : https://line.me/R/ti/p/%40214byvpd
🖥Website : https://healthfocusclinic.co.th/
📞Tel : 02-096-4945
📍Location : The Grove Hathairaj (เดอะ โกรพ หทัยราษฏร์)
_________________________________________________
🔗ทำความรู้จักกับหมออรรถ (อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ)
https://hfocusclinic.com/หมออรรถ-อย่าฝากชีวิตไว้/

🔗ทำไมต้องมาตรวจสุขภาพที่ Health Focus Clinic
https://hfocusclinic.com/ทำไมต้องเรา/

#จุลินทรีย์ที่ดี #ป่วยบ่อย #ระบบภูมิคุ้มกัน #ลำไส้ #ท้องเสีย #ท้องอืด

ที่อยู่

The Grove Hathairaj 88 หมู่ 11 Hathairat Rd. , Lat Sawai
Lam Luk Ka
12150

เวลาทำการ

จันทร์ 08:30 - 17:30
อังคาร 09:00 - 17:30
พุธ 09:00 - 17:30
พฤหัสบดี 08:30 - 17:30
ศุกร์ 08:30 - 17:30
เสาร์ 08:30 - 17:30
อาทิตย์ 08:30 - 17:30

เบอร์โทรศัพท์

+6620964945

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Healthfocusclinicผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

ประเภท