04/10/2016
เรื่อง การกินน้ำปั่น นี้เป็นการแชทของครูเริญ รร วิเชียรชมกับเพื่อนซึ่งถามมาว่า ตำรา ยาอัยการสุรินทร์ มีใบไม้ ผักสดอะไรบ้าง เขาสนใจ เพราะ เป็นเบาหวาน มานานแล้ว กินยาเบาหวาน จนไตจะเสื่อมแล้ว หาข้อมูลให้ด้วยนะคะ ให้คิดว่า สร้างบุญกุศลก็แล้วกัน
น้ำปั่น ใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน รักษาโรคร้ายหายขาดทุกโรค
โดย สุรินทร์ วัตตธรรม
เป็นบทความที่ทุกคนตั้งคำถามว่า ใช้ใบไม้อะไร ผักประเภท ไหนกินแล้วหายทุกโรค จริงหรือไม่
จริงครับ โดยเฉพาะโรค NCDS (โรค ที่ไม่แพร่โดยเชื้อโรค) แต่เป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการกิน กินมากเกินไป ปกติให้กินเพียง 80% ของความหิว “กินน้อยตายยาก กินมากตายไว” เพราะกินมากตับ ไต ทำงานหนัก เสื่อมเร็ว
โรค NCDS ได้แก่โรคมะเร็ง, เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, ไขมันตัวเลวสูง, ไตเสื่อม, ภูมิแพ้, แพ้ภูมิตัวเอง (โรคพุ่มพวง), เส้นโลหิตสมองตีบ, เส้นโลหิตหัวใจตีบ, เข่าอักเสบ, ซึมเศร้า ก็มีส่วน เลือดข้นผิดปกติ, ตับอักเสบเรื้อรัง ซึ่งโรค NCDS ก่อเกิดจาก การกินน้ำตาลมากเกินไป ปกติคนที่ไม่เป็น เบาหวานกินน้ำตาล ได้วันละไม่เกิน 6 ช้อนชา น้ำตาลในเลือด มีครึ่งช้อนชา
ฉะนั้นควรเลี่ยงการกิน น้ำตาลเกิน แม้กระทั่งผลไม้ หวานก็ไม่ควรกินประจำเพราะอาจเป็นเบาหวานได้เช่นกัน
โรคมะเร็งเป็นโรคร้าย ที่มักเกิดจาก
1) กินโปรตีนสูงประจำ
2) ไม่กินผักและผลไม้
3) เครียดเป็นประจำ
4) นอนดึก (นอนหลัง 02.00 น. บ่อยๆ )
โรคมะเร็ง ไม่มียารักษา การให้ คีโม ก็ดี ฉายแสง ก็ดี เป็นการยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งเท่านั้น ไม่ใช่การรักษา ให้หายขาด เมื่อ ฉีดคีโม อีกประมาณ ๒ ปี ก็กลับมา เป็นใหม่ ปกติ อนุมูลอิสระ (Free Radical) ที่ก่อให้เกิดมะเร็งมีอยู่ทุกคน หากร่างกายแข็งแรงและไม่เข้าองค์ประกอบข้างต้น ก็จะไม่ป่วยเป็นมะเร็ง
สำหรับโรคเบาหวาน เกิดจากการกินน้ำตาลมาก เกินไป คนบางคนกินน้ำตาลเกินถึง 10,000% สมัยก่อนโรคเบาหวานกับโรคมะเร็งไม่มีใครรู้จัก เพิ่งแพร่ระบาดจากพฤติกรรมการกิน เมื่อโลกเจริญขึ้นผลิตอาหารที่มากด้วยน้ำตาล โฆษณาชวนกินของอร่อยซึ่งเปี่ยมด้วยน้ำตาลกินหวานสะสมจนต่อม Islet of langer ham ในตับอ่อนผลิอินซูลินมากเกินไปจนเกิดความเสื่อม ผลิตได้น้อยลงหรือผลิตไม่ได้ น้ำตาลที่กินเข้าไปก็นำไปใช้ไม่หมด น้ำตาลส่วนเกินนี้เองที่ก่อให้เกิดโรค NCDS
คนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานมักแถมอีก 3 โรค ได้แก่ความดันโลหิตสูง, ไขมันตัวเลวสูง และโรคไตเสื่อม (ค่าไตปกติ 0-1.25) ยาเบาหวาน ความดันและลดไขมันล้วนทำให้ไตเสื่อม หากรับยาไปนานๆจะทำให้ไตเสื่อมถึงขนาดฟอกไต ซึ่งทรมานมาก
คนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานหากคุมน้ำตาลได้ดี ทำให้อวัยวะทุกส่วนเสื่อมช้าลงก็จริงแต่ไตเสื่อม ไม่มีอะไรยับยั้ง ผู้ป่วยเบาหวานส่วนใหญ่จึงกลัวถูก ฟอกไต เพราะคนที่ฟอกไตจะมีชีวิตอย่างทรมาน ต้องคอยจดจ่อเข้าออกโรงพยาบาลเพื่อเข้าคิวฟอกไตทุก 3 วัน ภายหลังฟอกไตจะอ่อนเพลียมาก
ท่านทั้งหลายคงเคยได้ยินคำว่า “ดื้อยา” สาเหตุ ของการดื้อยาเพราะร่างกายไม่รับจึงต่อต้านยา ซึ่งเป็นเคมี ที่มนุษย์ทำขึ้นจึงต้องเพิ่มปริมาณยา อยู่เรื่อยๆ ผู้ป่วยทุกคนเรียกหาหมอที่เก่งที่สุด มารักษาตัวเอง
ขอเรียนว่าไม่ต้องเดินทางไปหาให้ไกล
หรอกครับ หมอที่เก่งที่สุดในโลกได้แก่หมอร่างกาย ของท่านเอง
ถึงเวลาแล้วครับที่ต้องให้หมอร่างกายรักษา ตัวเอง ผลดีของหมอร่างกายคือ
1. ไม่มีการดื้อยา
2. หายป่วย (หายขาด) เพราะหมอร่างกายใช้ธรรมชาติช่วยชีวิต ไม่ใช้ยาเคมีที่มนุษย์ทำขึ้น หากแต่เป็นพฤกษะเคมี (Phyto chemical) ในใบไม้และผักสดนั่นเอง
วิธีการรักษาของหมอร่างกาย ด้วยการที่ร่างกาย จะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ออกมาระหว่างเวลา 22.00 น. – 02.00 น. ในขณะที่เราหลับลึก (หลับๆตื่นๆ จะไม่หลั่ง) แล้วโกรทฮอร์โมนจะนำเอ็นไซม์ (Enzyme โปรตีนในพืช) และพฤกษะเคมี (Phyto chemical) จากใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนไปซ่อมอวัยวะทุกส่วนที่เสื่อมให้เป็นปกติ
ปกติคนเราจะมีเอ็นไซม์ (Enzyme) อยู่ในร่างกายโดยธรรมชาติ แต่เมื่ออายุ 30 ปีล่วงแล้ว เอ็นไซม์ค่อยๆลดน้อยถอยลง ไม่พอที่จะซ่อมแซมอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย จึงจำเป็นต้องกินใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่าน ความร้อนเข้าไปในร่างกาย เป็นเครื่องมือหรือ เป็นยาให้หมอร่างกายทำการรักษา ทำไมต้อง ไม่ผ่านความร้อนเพราะความร้อนไม่ว่าเกิดจาก การลวกหรือโดนแสงแดดทำให้เอ็นไซม์ (Enzyme) หายหมด
อย่างไรก็ตามหากใบไม้สดและผักสดนำไปแช่ ตู้เย็น แม้ต่อมาใบไม้จะช้ำบ้างก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ควรแช่ไว้เกิน 1 สัปดาห์ หากท่านนำใบไม้หรือผักสดไปลวกก่อนนำมาปั่นจะเหลือแต่ซากใบไม้และซากผักไม่มีเอ็นไซม์ (Enzyme)ใช้รักษาไม่ได้ครับ
คำถามต่อไปมีว่าใบไม้และผักสดชนิดไหนที่กินได้ คำตอบส่วนใหญ่กินได้ยกเว้นใบไม้พิษ ห้ามนำมาปั่นได้แก่ใบยี่โถ,ใบลั่นทม, ใบชวนชม, ใบลำโพง, ใบรำเพย, ใบตำแย, ใบหมามุ่ย, ใบตีนเป็ดหรือพญาสัตบรรณ ใบสาวน้อยประแป้ง (ประเภทว่าน) และใบรัก (ยังมีอีก แต่คนทั่วไปมักไม่รู้จัก)
กล่าวโดยสรุปใบไม้แปลกๆพิสดารไม่ควรนำมาปั่น
วิธีการทำ
นำใบไม้หลายๆชนิดใส่ในโถปั่นเกือบเต็มโถปั่น
ใส่น้ำ 600 ซีซี (ขนาดขวดน้ำดื่มขนาดกลาง) ปั่นให้ละเอียดใช้เวลาน้อย เพราะปั่นนานความร้อนจากเครื่องออกมาผสมกับน้ำปั่น จะกรองกากทิ้งหรือกินทั้งกากก็แล้วแต่ถนัด แต่การกินทั้งกากจะขับถ่ายได้ดีกว่า (คนที่ท้องผูก ลองกิน เช้า – เย็น 1,200 ซีซี อาจถ่ายวันละ 3 ครั้งครับ
ข้อสังเกตุ ใบไม้ที่มีรสขมจะมีประสิทธิภาพในการลดน้ำตาลได้ดีมากเช่นใบขี้เหล็ก, ใบบัวบก, ใบกระท่อมมาเลย์ (ไม่ผิดกฎหมายเพราะนอกบัญชียาเสพติด) , ใบมะระขี้นก, ใบสะเดา
ตัวอย่าง ใบไม้ที่ควรนำมาปั่น เช่น ใบบัวบก, ใบขี้เหล็ก, ใบสะเดา (ใส่ 2-3 ใบ เพราะรสขมจัด, ใบมะระขี้นก, ใบกระท่อมมาเลย์, ใบชะมวง, ใบมะม่วงหิมพานต์, ใบเตย, ใบข่อย, ใบมะรุม, ใบฝรั่ง, ใบชมพู่, ใบคึ่นฉ่าย, ใบสะระแหน่, ใบมะกรูด, ต้นตะไคร้, ใบมะยม, ใบชะพลู, ใบโหระพา, ใบกระเพรา, ใบเข็ม, ใบแสงจันทร์, ใบมะนาว, ใบมะม่วง, ใบขนุน, ใบหม่อนเบอร์รี่, ใบจิงจูฉ่าย, ใบกำแพงเมืองจีน, ใบขลูนา, ใบว่านฮ็อก, ดอกขจร (ดอกสลิด), ใบป่าโหม เป็นต้น
ใช้ 9-10 อย่างซ้ำๆทุกวันก็ได้ครับ สำหรับใบขี้เหล็กทำให้นอนหลับลึก, ใบบัวบกดีที่สุดครับ ใช้ผลไม้เช่น แอปเปิ้ลเขียว กล้วยน้ำว้าห่ามๆ มะเขือเทศสีดาผสมได้ ทำเสร็จขอให้มีรสขมนำจะดีมากครับ
ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันตัวเลวสูงและไตเสื่อม ให้กินยาที่ท่านกินอยู่แล้วร่วมกับน้ำใบไม้ปั่นต่อไป 1 สัปดาห์แล้วจึงหยุดกินยาได้ สำหรับคนที่เส้นโลหิตสมองตีบเส้นโลหิตหัวใจตีบหากกินยาขยายหลอดเลือดอยู่ให้กินไปตลอดชีวิต นอกจากนี้คนที่ไม่มีโรคประจำตัวใดๆก็สามารถกินน้ำใบไม้และผักสดปั่นได้ จะทำให้สุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง ไม่เหนื่อย ไม่เพลีย
กินไปนานๆหากรู้มึกมึน ๆ หรือ หวิว ๆ หรือวูบ แสดงว่าน้ำตาลต่ำ ให้กินน้ำผึ้งรวง 1 ช้อนแกงหรือน้ำตาลปึก 3 ช้อนชาจะหายทันทีเพราะน้ำตาลที่ไปเลี้ยงสมองจะเข้าไปสู่สมองทันทีโดยไม่ต้องให้อินซูลินนำไปครับ (สมองคนเราต้องการ 2 อย่างได้แก่น้ำตาลกับอ๊อกซิเจน) ตามหลักการแพทย์คนที่ไม่เป็นเบาหวาน ค่าน้ำตาลไม่ควรต่ำกว่า 50 ส่วนคนที่เป็นเบาหวานค่าน้ำตาลไม่ควรต่ำกว่า 70 แต่เคยทดลองมาแล้วการกินน้ำปั่นใบไม้สดและผักสดค่าน้ำตาลต่ำถึง 32 ยังปกติทุกอย่าง ถ้าน้ำตาลต่ำมากให้ลดใบไม้และผักสดลง ถ้าน้ำตาลสูงเกินไปให้เพิ่มปริมาณใบไม้และผักสดขึ้น (ทั้งนี้แต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน)
การกินน้ำปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนขอสองอย่างคือ
1) หลัง 18.00 น. ห้ามกินของหวาน (หากกินข้าวเสร็จก่อน 18.00 น. จะดีที่สุด)
2) ไม่ควรนอนเกิน 22.00 น.
ไม่ต้องกินอาหารคลีน (Clean food) สามารถกินอาหารได้ตามปกติ แต่ไม่ควรกินรสเค็ม
จัดหวานจัด ไม่ควรกินของทอดที่ใช้น้ำมันพืชเพราะจะ สะสมไขมันทรานส์ (Transfat)ไขมันตัวเลว เป็นตัวก่อโรคด้วย
โปรดคืนชีวิตให้หมอร่างกายรักษาตัวเองนะครับ โรค NCDS หายขาดทุกโรคทั้งนี้ท่านสามารถพิสูจน์ เชิงประจักษ์(Empirical)โดยการเจาะเลือดดูได้ครับ....................
พี่แดง ผ้ก ใบไม้กินได้ ตามบ้านๆ ให้เอามาปั่น แล้วก็ดื่ม พจนาว่าดีมาก น้องเขาให้พี่รงไปคุยด้วย พอบอกพี่รงเขาไม่ยอมทำ
ขอบคุณครับ ขอเรียนว่ากินน้ำปั่นใบไม้สดและผักสด ผมทำให้พจนา กินเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้เองครับ นอกจากคุมมะเร็งได้แล้ว ยังทำให้ต่อมรับรสฟื้นตัวดีขึ้นชิมรสได้เกิน 80 เปอร์เซ็นครับ หลังจาก ฉายแสงต่อมรับรสเสียไปเลยครับ miracle จริงๆครับ
โรคไตเขาไมให้กินผักสดเยอะอีก
น้องพจนา สุขภาพดีขึ้นมากหลังจากกินน้ำใบไม้จ้า
ผักที่ห้ามนำมาปั่นสดๆได้แก่ ถั่วงอก, กะหล่ำปลี, ถั่วฝักยาว, มันฝรั่ง, หน่อไม้, ผักโขม ผักเหล่านี้ควรกินสุกครับ
ผม สุรินทร์ วัตตธรรม ขอเรียนกรณีศึกษารายน้องภรรยาผมป่วยเป็นเบาหวานนานกว่า30 ปี ฉีดอินซูลินมาแล้ว11 ปี ขนาดฉีดอินซูลินสามารถคุมนำ้ตาลได้เพียง 200 เพราะไม่ได้คุมอาหารเนื่องจากฝากท้องไว้กับร้านค้าครับ
ยังมีไขมันตัวเลว(ldl) สูงมากถึงขนาด ทำบายพาสหัวใจแล้ว และไตเสื่อมหนักใกล้จะฟอกไต ตาเขียวเหมือนหมีแพนด้า
ผมห้ามไม่ให้ฟอกและแนะนำให้กินนำ้ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อนกินก่อนอาหารเช้าทุกวัน กินมาได้3 เดือนเศษ หยุดฉีดอินซูลิน และหยุดยาทั้งหมดได้ 1 เดือนเศษครับ
เมื่อวันที่ 12 เดือนที่แล้วหมอโรงพยาบาลราชวิถีนัดตรวจใหญ่ เมื่อดูผลแล็ปหมอ งง แล้วถามว่าคุณทำอย่างไรจึงกายหมดทุกโรค เขาบอกว่าพี่เขยเป็นอัยการสงขลา แนะนำให้กินนำ้ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน หมอบอกให้กินต่อไปครับ
หมอประจำบริษัทที่เขาทำงานอยู่ขอให้ช่วยจดรายการใบไม้และผักที่ใช้ปั่น เพื่อแนะนำให้ผู้ป่วยเบาหวาน มะเร็ง ไขมันสูง ความดันสูง ไตเสื่อม เป็นต้นกินด้วย
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาวัดค่านำ้ตาลได้ 100 วันนี้เวลา 06.30 น. วัดค่านำ้ตาลได้ 100 พอดีครับ ถือว่าหายแล้วนะครับ
ขอเรียนว่าท่านที่กินนำ้ปั่นใบไม้สดและผักสดที่ไม่ผ่านความร้อน ขอสิงอย่างนะครับได้แก่ ควรนอนไม่เกินสี่ทุ่ม เพราะหมอร่างกายมารักษาตั้งแต่สี่ทุ่มถึงตีสองครับ และหลังหกโมงเย็นห้ามกินของหวาน เพราะถ้ากินของหวาน อินซูลินจะหลั่งออกมานำนำ้ตาลไปใช้ ครั้นถึงเวลาสี่ทุ่มหมอร่างกายจะไม่มา คำว่าหมอร่างกายหมายถึงโกรท ฮอร์โมน( growth homone) จะไม่หลั่งออกมากระตุ้นให้เอ็นไซม์(enzyme) ทำหน้าที่ซ่อมอวัยวะทุกส่วนที่เสื่อมให้เป็นปกติ ทั้งนี้เพราะโกรท ฮอร์โมน ไม่ถูกกับอินซูลิน
อย่าลืมนะครับถ้าอินซูลินมา โกรทฮอร์โมนไม่มา เท่ากับวันนั้นกินน้ำปั่นพืชสดฟรี
ร่วมด้วยช่วยกันเพื่อให้ทุกท่านมีคุณภาพชีวิตที่ดี และประหยัดงบประมาณค่ายาและการรักษาผู้ป่วยอันเกิดจากกินน้ำตาลเกิน( โรค ncds) ได้โปรดบอกต่อนะครับ ขอบพระคุณครับ