สุขภาพดีมีความสุข

สุขภาพดีมีความสุข จำหน่ายผลิตภัณฑ์ ดูแลสุขภาพแบบครบวงจร สินค้ามี อย.ถูกต้องตามกฎหมาย จำหน่ายโดย

ตาแห้งเป็นโรคตาที่เกิดจากระบบต่อมน้ำตาทำงานผิดปกติ ทำให้มีปริมาณน้ำตาไม่เพียงพอที่จะความชุ่มชื้นแก่ดวงตา ส่งผลให้เกิดอาก...
18/01/2018

ตาแห้งเป็นโรคตาที่เกิดจากระบบต่อมน้ำตาทำงานผิดปกติ ทำให้มีปริมาณน้ำตาไม่เพียงพอที่จะความชุ่มชื้นแก่ดวงตา ส่งผลให้เกิดอาการดังต่อไปนี้
คันตา แสบตา ระคายเคืองตา
รู้สึกเหมือนมีฝุ่นอยู่ในตา
แพ้แสง แพ้ลม
บริเวณตาขาวมีสีแดงจากการอักเสบ
ตามัวในบางขณะ
รู้สึกไม่สบายตาเมื่อตื่นนอน

การรักษาอาการตาแห้ง และนวดเปลือกตา infographic

สาเหตุของการเกิดโรคตาแห้ง เกิดจากหลายปัจจัยเช่น ต่อมไขมันเปลือกตาทำงานผิดปกติ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ภูมิแพ้ที่ตา จ้องคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน เป็นต้น
ถ้าปล่อยเอาไว้โดยไม่รักษาอาจจะก่อให้เกิดอาการอื่น ๆ ตามมา เบื้องต้นแพทย์จะตรวจวินิจฉัยถึงสาเหตุและดำเนินการรักษาตามอาการของผู้ป่วย เช่น
การใช้น้ำตาเทียมเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา
การใช้ยาหยอดตากลุ่มสเตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบของผิวนัยน์ตาหรือผิวเยื่อบุตา
การนวดและทำความสะอาดเปลือกตา

👉หากคุณมีอาการ..คิดช้า หลงๆ ลืมๆ สมองไม่โปร่งตื้อๆ มึนงง สมาธิสั้นในเด็ก พูดติดอ่าง ไมเกรน อัลไซเมอร์ ตาบอดจากอุบัติเหตุ...
05/01/2018

👉หากคุณมีอาการ..คิดช้า หลงๆ ลืมๆ สมองไม่โปร่งตื้อๆ มึนงง สมาธิสั้นในเด็ก พูดติดอ่าง ไมเกรน อัลไซเมอร์ ตาบอดจากอุบัติเหตุ หูดับ อัมพฤกษ์ อัมพาต อยากเรียนเก่ง เรียนดี
💡มาติดหลอดไฟให้สมองกัน💡
ด้วยอาหารสมอง 🐳อเลอไทด์💦
ดูแลบำรุงสมองได้ง่ายๆ เพื่อให้สมองกลับมาสดใสอีกครั้ง!!

เพิ่มพลังความจำ ทำงานมีประสิทธิภาพ
"อเลอไทด์ ALERTIDE" ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุง สมองและระบบประสาท

🍃ดูแลสมอง..กับนวัตกรรมใหม่ที่ไม่เคยสัมผัส🍃

👉👉เหมาะสำหรับ
💫ผู้ที่ต้องการบำรุง ฟื้นฟู ดูแลสมอง
💫ผู้ที่มีอาการสมาธิสั้น จำยาก ลืมง่าย
💫ผู้ที่อยู่ในวัยศึกษา เล่าเรียน ผลการเรียนไม่ดี
💫วัยทำงานซึ่งใช้สมองเยอะ ทำให้สมองล้า
💫ผู้ที่วิตกกังวัล เครียด ไมเกรน เป็น โรคซึมเศร้า
💫ผู้ที่มีสภาวะความจำเสื่อม หรือเสื่อมจากอายุที่มาก
💫ผู้ที่มีสภาวะอาการ อัลไซเมอร์ สูญเสียความทรงจำ
💫ผู้ที่อยู่ในสภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาต ตาบอด สูญเสียการฟังเสียงเนื่องจากอุบัติเหตุ นำ้ในหูไม่เท่ากัน
ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ สมองเบลอ ไม่ปลอดโปร่ง
**ทานได้ทุกเพศ ทุกวัย หญิงตั้งครรภ์ก็ทานได้**

🌿ส่วนประกอบสำคัญ🌿
1.Bacopa สารสกัดพืชพรมมิ
2.Soy Protein Isolate สารสกัดโปรตีนจากถั่วเหลือง
3.Choline Bitartrate โคลีน ไบทาร์เทรต
4.Fish Oil น้ำมันปลา
5.L-Tyrosine แอล-ไทโรซีน
6.L-Theanine แอล-ธีอะนีน
7.L-Cysteine แอล-ซีสเตอีน
8.Beta Glucan เบต้า-กลูแคน
9.Taurine ทอริน
10.วิตามิน บี1 บี6 บี12

✳✳✳สรรพคุณ✳✳✳
➡ช่วยฟื้นฟูความจำและบำรุงสมองสร้างความจำ
➡ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
➡ช่วยขจัดสารพิษจากตับ
➡ต้านเซลล์มะเร็ง ลดความเสี่ยงของการเป็นโรค
➡ช่วยส่งเสริมการทำงานของต่อมหมวกไต ต่อมใต้สมอง
➡บำบัดรักษาการอักเสบของเส้นประสาทในสมอง
➡ช่วยบำรุงประสาทและสมองช่วย
➡เพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้
➡ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
➡เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในเม็ดเลือดขาว
➡ช่วยกระตุ้นการหลั่งโกร๊ธฮอร์โมน
➡ช่วยแก้ไขอารมณ์ ซึมเศร้า
➡ช่วยฟื้นฟูความจำ
➡ช่วยป้องกันสมองและตับจากการถูกทำลายจากการดื่มแอลกอฮอล์ ยา และการสูบบุหรี่
➡ช่วยผ่อนคลายความเครียด
➡ทำให้สมาธิดีขึ้น คิดอ่านได้ดีขึ้น
➡เพิ่มคุณภาพการหลับ ช่วยให้นอนหลับได้สนิทขึ้น
➡ช่วยป้องกัน มะเร็งต่างๆ ลดอาการภูมิแพ้และไข้หวัด
➡ช่วยให้มีสมาธิในการเรียน การทำงาน จดจ่อกับสิ่งนั้นๆได้นานยิ่งขึ้น
➡ช่วยเรื่องติดอ่าง
➡ช่วยเรื่องสมาธิสั้นในเด็ก

ท่านที่มีปัญหาเกี่ยวกับสมองและความจำติดต่อได้เลยนะคะ
สินค้าพร้อมส่ง ของแท้100%
🚩เลขที่ อย. 10-1-06045-1-0040
✔รับรองฮาลาล
💊ขนาดบรรจุ 30 เม็ด
💡อเลอไทด์ -alertide💡 , บำรุงสมอง , ลดภาวะเสี่ยงความจำเสื่อม , อัลไซเมอร์ , สมาธิสั้น , เห็นผลชัดเจน

🎀สนใจสั่งซื้อหรือสอบถาม🎀
📞โทร. 061-575-1348
https://line.me/R/ti/p/%40ydj6322m

30/12/2017

มีปัญหาด้านสายตากิน #ดีคอนแทค เพื่อสุขภาพดวงตา ของเรา
โทร 061-575-1348
https://line.me/R/ti/p/%40ydj6322m

ดีท็อกตับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Green-L (Liver Support)วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด (เม็ด 1,000 mg.) วันละ 1 ค...
30/12/2017

ดีท็อกตับ
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Green-L (Liver Support)
วิธีรับประทาน : รับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด (เม็ด 1,000 mg.) วันละ 1 ครั้ง
ตับเป็นอวัยวะที่มีหน้าที่สำคัญมากกว่า 500 อย่าง เป็นอวัยวะที่ทำงานตลอดเวลา ไม่เคยพักเลย (เช่นเดียวกับสมอง หัวใจ และปอด) ทำหน้าที่กำจัดสารพิษต่างๆ ในอาหารทุกคำ ยาทุกเม็ด ที่เรากินล้วนมีสิ่งที่ตับต้องกำจัดทั้งสิ้น

Product Benefit
• บำรุงตับ
• กำจัดความเป็นพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกาย
• ต้านอนุมูลอิสระ ลดการทำลายเซลล์ตับจากสารพิษ

ข้อมูลส่วนประกอบสำคัญ

1. Artichoke powder อาร์ติโช๊ค (Cynara scolymus) เป็นพืชที่นิยมปลูกในต่างประเทศ เฉพาะภูเขาสูงมากกว่า 1,500 เมตร เท่านั้น ปี 2513 นักวิทยาศาสตร์ชาวยุโรป ได้ค้นพบสารไซนาริน ” มีคุณค่าทางอาหาร และยา นำมาบริโภคสด หรือปรุงอาหารได้ทุกส่วน หรือนำมาสกัดสารไซนาริน(Synarin) รับประทานเพื่อบำรุงรักษาสุขภาพได้ดี” ในยุคโบราณอาร์ติโช๊คเป็นอาหาร และยารักษาโรคของชาวอียิปต์ ชาวกรีก และชาวโรมัน และเป็นเมนูอาหารที่สำคัญในทุกงานเลี้ยงของกรุงโรม นอกจากจะเป็นอาหารเสริม แล้วยังมีสรรพคุณทางยา ดังนี้
1. ช่วยบำรุง กระตุ้นการทำงานของตับ ซึ่งตับเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย ทำหน้าที่ในการสกัดสารพิษ หรือสิ่งแปลกปลอมออกจากกระแสโลหิต สร้างน้ำดีและน้ำย่อย และเปลี่ยนแปลงหรือสร้างสารอาหาร ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย
2. กระตุ้น การสร้างน้ำดีของตับ ทำให้มีประสิทธิภาพในการลดไขมัน (Chloresteral) ในเลือด ช่วยให้ระบบหลอดเลือดและหัวใจทำงานดี ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน
3. เสริมสร้างการทำงานของถุงน้ำดี ช่วยสร้างน้ำดีป้องกันถุงน้ำดีอักเสบ ซึ่งมักเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีไขมันมาก ทำให้ระบบการย่อยอาหารดี ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ มีแก๊สในกระเพาะอาหารมาก
4. ช่วยป้องกันตับอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคดีซ่าน และโรคตับแข็ง (Cirrhosis) ในประเทศบราซิล อาร์ติโช๊ค เป็นยาสมุนไพรพื้นฐาน ที่ใช้รักษาอาการเจ็บป่วยของตับ และโรคอื่นหลายโรค ได้อย่างกว้างขวาง เช่น โรคโลหิตจาง เบาหวาน ไข้ รักษาบาดแผล และเกาส์

2. Rosehip extract อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ มีวิตามินซีสูงกว่าผลไม้ตระกูลส้มถึง 20 เท่า วิตามินซีช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวกระจ่างใส ช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ ฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวจากการทำลายของแสงแดด และมลภาวะแวดล้อม และป้องกันการอักเสบของสิว วิตามินเอ ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื่นเนียนนุ่มไม่หยาบกร้าน และช่วยลดเลือนจุดด่างดำให้ดูจางลง มี Omega 3, 6 และ 9 ช่วยทำให้ผิวแข็งแรง เปล่งปลั่ง อ่อนนุ่ม ปิวพรรณอ่อนเยาว์ และดูมีน้ำมีนวลอยู่เสมอ สำหรับสรรพคุณ ทางการรักษาได้มีการวิจัยการทดลองได้ผลแล้วว่า การทานโรสฮิปนั้นในคนไข้โรคข้อเสื่อม และข้ออักเสบรูมาตอยด์ สามารถลดการปวดได้ถึง 82% ใน 3 สัปดาห์ ผลกุหลาบมีประสิทธิภาพดีในการรักษาโรคท้องร่วง และการติดเชื้อโดยเฉพาะการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ ช่วยให้ตับไตแข็งแรง วิตามินซีจากผลกุหลาบช่วยป้องกันและรักษาไข้หวัด บรรเทาอาการปวดศีรษะ ซึ่งชาวนิวซีแลนด์มีชื่อเสียงมากในการทำน้ำเชื่อมจากผลกุหลาบ ให้เด็กๆรับประทานในหน้าหนาวเพื่อป้องกันไข้หวัด นอกจากนี้ยังช่วยให้ระบบการหมุนเวียนของโลหิตดีขึ้น

3. Green tea extract สารสกัดชาเขียว อุดมไปด้วย สารโพลีฟีนอลที่ชื่อว่า EGCC (Epigallo Catechin) มีคุณสมบัติในการล้างพิษ คือ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรงสูง (Superpowerful antioxidant) ทำให้ช่วยป้องกันการก่อตัวของอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ทั้งยังเพิ่มความชุ่มชื่นและความเปล่งปลั่งให้กับผิวหน้า และช่วยลดร่องรอยความอ่อนล้าของผิวรอบดวงตา และยังลดการบวมของเปลือกตาและถุงใต้ตา ผิวจะนุ่มนวลและดูสดชื่นขึ้น และช่วยออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง และสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์
สรรพคุณของชาเขียว
-ชาเขียวถูกนำมาใช้ในการรักษาตั้งแต่โรคปวดศีรษะไปจนถึงโรคซึ่มเศร้า ซึ่งในประเทศจีนมีการใช้ชาเขียวเป็นยามามากกว่า 4,000 ปีแล้ว
-แก้เมาเหล้า ทำให้สร่างเมา
-ช่วยแก้หวัด แก้ร้อนใน ช่วยขับเหงื่อ ขับสารพิษตกค้าง
-ช่วยให้ผ่อนคลายอารมณ์ สงบประสาท ระบายความร้อนจากศีรษะและเบ้าตา ทำให้สดชื่น ตาสว่าง ไม่ง่วงนอน และช่วยทำให้หายใจสดชื่น
-ช่วยแก้อาการกระหายน้ำ ระบายความร้อนออกจากปอด และช่วยขับเสมหะ
-ช่วยแก้บิด ท้องร่วง ท้องเสีย
-ช่วยเพิ่มแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ จึงสามารถช่วยล้างสารพิษและกำจัดพิษในลำไส้ได้
-ช่วยป้องกันตับจากพิษและโรคอื่น ๆ
-ช่วยป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
-ชาเขียวมีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ ต้านเชื้อจุลินทรีย์ในลำไส้ ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส ต้านเชื้อ Botulinus และเชื้อ Staphylococcus
-ช่วยขับปัสสาวะ ป้องกันนิ่วในถุงน้ำดีและในไต

4. L-Cysteine HCl anhydrous แอล-ซีสเตอีน(L-Cysteine) เป็น กรดอะมิโน ชนิดหนึ่งที่เป็นสารตั้งต้นในการการสร้าง กลูต้าไธโอนให้กับร่างกายโดยจะทำงานร่วมกันกับ ไกลซีนและกรดกลูตามิกที่มีมากในของร่างกายเรา และสารที่จะสั่งให้เกิดการฟอร์มพันธะเป็นกลูต้าไธโอนได้นั้นคือ กลุ่มวิตามินซี หรือแคลเซี่ยม แอสคอร์เบต สร้างขึ้นที่ตับ แอล-ซีสเตอีนมีคุณสมบัติยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์ไทซิเนสไม่ให้สามารถเปลี่ยนเป็นโดปาควินโนน ซึ่งมีผลทำให้สร้างเม็ดสีน้อยลง จึงทำให้มีผิวขาวขึ้นได้ ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ต้านการเสื่อมของเซลล์ผิว
หน้าที่สำคัญของแอล-ซีสเทอีน
- Detoxification การขจัดสารพิษ ด้วยร่างกายสร้าง Glutathione ซึ่งจะเป็นตัวที่ผลิตเอนไซม์ในร่างกาย โดยเฉพาะ Glutathione-S-transferase ที่ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกายโดยทำการเปลี่ยนสารพิษ ชนิดที่ไม่ละลายในน้ำ เช่น โลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง ให้เป็นสารที่ละลายในน้ำได้ดีขึ้น ทำให้ง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย
- Antioxidants ช่วยป้องกันสมองและตับจากการถูกทำลายจากการดื่มแอลกฮอลล์, ยา และการสูบบุหรี่ โดยจะเข้าไปช่วยต่อต้านสารพิษ สร้างสารแอนตี้ออกซิเดนซ์โดยทำงานร่วมกันกับ Vitamin C ซ่อมแซมสารพันธุกรรมที่อาจกลายเป็นมะเร็งได้ และนอกจากนี้ยังช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทซิเนส (Tisanes) ไม่ให้เปลี่ยนเป็น โดปาควินโนน (Dopaquinone) จึงมีผลทำให้สร้างเม็ดสีน้อยลง ทำให้มีผิวขาว ฝ้า กระ จุดด่างดำ ลดเลือนลง ชะลอปฏิกริยาแห่งวัยของร่างกาย (การแก่ของเซลล์) ส่งผลให้ผิวเนียนเรียบ เปล่งปลั่ง นอกจากนั้นยังช่วยเสริมสร้างการซ่อมแซมผิวไหม้, ช่วยการเผาผลาญไขมัน เสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ลดภาวะกล้ามเนื้อวาย

5. Alfalfa extract อัลฟาฟ่า จัดเป็นพืชจำพวกที่มีฝักหรือพืชตระกูลถั่ว ใบเลี้ยงคู่และมีระบบรากที่มหัศจรรย์มาก ในบางพื้นที่ระบบรากของอัลฟาฟ่าสามารถชอนไชลงไปในดินถึงกว่า 130 ฟุต จึงทำให้สามารถหาอาหารได้มีประสิทธิภาพมากกว่าพืชชนิดอื่น ๆ อีกทั้งระบบการป้องกันตัวเอง หรือป้องกันสารพิษในเซลล์ของพืชอัลฟาฟ่าก็ดีกว่าพืชชนิดต่าง ๆ ชาวอาหรับโบราณรู้จักใช้ประโยชน์จากอัลฟาฟ่ามาตั้งแต่ 2,000 ปี ก่อนคริสตกาล โดยใช้เป็นพืชเลี้ยงสัตว์และใช้ใบมาตากแห้งชงเป็นชาบริโภค จึงถูกขนานนามให้เป็น AL-FAS-FAH-SHA หรือ “ราชาแห่งอาหารทั้งมวล” ประโยชน์จากต้นอัลฟาฟ่า มักได้จากส่วนใบและลำต้น ซึ่งได้ถูกนำไปใช้สำหรับบำบัดอาการปวดข้อและอักเสบต่าง ๆ เช่น ปวดข้อ จนกระทั่งถึงความผิดปกติในระบบทางเดินอาหารและเซลล์ในตับถูกทำลาย นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า อัลฟาฟ่า ยังสามารถช่วยให้เลือดสะอาดขึ้น
สรรพคุณของอัลฟัลฟ่า
-อัลฟัลฟ่ามีสารแคโรทีนและอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสารที่ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมเซลล์ ต่าง ๆ ภายในร่างกาย จึงเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งที่ต้องการฟื้นฟูเซลล์ที่ถูกทำลาย ช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ และช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
-สารไฟโตเอสโตรเจนมีบทบาทสำคัญในการช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โดยสารที่จัดเป็นสารประเภทไฟโตรเอสโตรเจนที่มีอยู่ในอัลฟัลฟ่าได้แก่ Isoflavones, Coumestans และสาร Lignans แต่อย่างไรก็ดีการเพิ่มการบริโภคอาหารที่สารดังกล่าวจะสามารถช่วยป้องกันโรคมะเร็งในร่างกายได้เป็นอย่างดี
-สารซาโปนินที่พบในอัลฟัลฟ่า มีลักษณะเหมือนกันกับที่พบในรากโสม ซึ่งมันมีสรรพคุณช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทและช่วยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานได้อย่างเหมาะสมและเป็นปกติ[3]
-อัลฟัลฟ่ามีเบตาแคโรทีนสูง ซึ่งเป็นตัวช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันโรคของร่างกาย ช่วยทำให้ผิวหนังและเยื่อบุผิวหนังมีสุขภาพดี[3]
-ช่วยลดความดันโลหิต ลดปัญหาเส้นเลือดหัวใจตีบ
-ช่วยลดระดับน้ำตาลและปรับระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน

สนใจ/สั่งซื้อ061-575-1348

#กรีนแอล #ดีท๊อกซ์ตับเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบดื่ม
#ดีท๊อกซ์ #ดีท๊อกซ์ตับ

30/12/2017

วัยทองในผู้หญิง โดยอาการที่เกิดขึ้นคนส่วนใหญมักเรียกว่า “ เลือดจะไปลมจะมา” ซึ่งเกิดจากภาวะการถดถอยของการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มาจากรังไข่ ส่วนมากจะเกิดในช่วงอายุ 40 - 55 ปี ซึ่งภาวะการถดถอยของฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงอย่างรวดเร็วนี้ ร่างกายจึงต้องมีการปรับสภาพของฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป เพราะฉะนั้น การปรับสภาพกับฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป จึงส่งผลกระทบต่างๆ ตามมา ตัวอย่าง เช่น อาการร้อนหนาววูบวาบ อารมณ์หงุดหงิดง่าย นอนหลับยากขึ้น ซึ่งอาการดังกล่าวจะกินเวลา 1 - 4 ปี ซึ่งอาการดังกล่าวจะแตกต่างกันไปแล้วแต่บุคคล และเมื่อใดก็ตามที่ประจำเดือนขาดหายเกิน 12 เดือนติดต่อกันขึ้นไป หรืออาจเรียกได้ว่าวัยหมดประจำเดือน โดยเฉลี่ยอยู่ที่อายุ 50 ปี ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สร้างจากรังไข่นั้น จะหยุดสร้างหรือสร้างน้อยมาก ซึ่งสภาวะหลังจากการหยุดสร้างนี้ร่างกายจะปรับสภาพกับฮอร์โมนที่เปลี่ยนไปได้แล้ว จะส่งผลให้อาการวัยทองเหมือนจะดีขึ้น แต่อาการซ่อนเร้นบางอย่างที่เป็นภัยเงียบ เช่น ภาวะโรคกระดูกพรุน ผิวหนังแห้งกร้าน อาการหลงๆ ลืมๆ ก็ยังคงดำเนินต่อไปและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆตามอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาการต่างๆเหล่านี้ที่ผู้คนทั่วไปคิดว่าเกิดจากความชราภาพตามธรรมชาตินั่นเอง

16 อาการวัยทองที่ควรรู้
1.อาการร้อนหนาววูบวาบ อาการร้อนหนาววูบวาบในผู้หญิงที่มีอาการวัยทองจะมีลักษณะอาการร้อนบริเวณลำตัวส่วนบนและใบหน้าขึ้นมาทันทีทันใด สามารถเกิดขึ้นได้ 2-3 ครั้งต่อวัน ระยะเวลาโดยเฉลี่ยประมาณ 1-5 นาที หรือบางรายพบได้ถึง 50 ครั้งต่อวัน

2.เหงื่อออกมากผิดปกติ เหงื่อออกมากผิดปกติเป็นภาวะหนึ่งที่เกิดหลังจากมีอาการร้อนหนาววูบวาบบริเวณร่างกายส่วนบนและใบหน้าในผู้หญิงที่มีอาการวัยทอง โดยจะมีเหงื่อออกมากผิดปกติ และในบางรายพบว่ามีอาการหนาวสั่นตามมาได้อีกด้วย ซึ่งอาการหนาวสั่นมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืน และส่งผลต่อการนอนหลับได้อีกด้วย แต่หากเกิดอาการนี้ในระหว่างวัน การที่เหงื่อออกมากผิดปกติ จะส่งผลกระทบต่อกลิ่นตัวเพิ่มขึ้นด้วย

3.ภาวะนอนไม่หลับ ภาวะนอนไม่หลับในผู้หญิงที่มีอาการวัยทอง สามารถมีอาการได้ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยในบางรายอายุเพิ่งก้าวเข้าสู่ 30 ก็สามารถมีอาการนอนไม่หลับได้ รูปแบบอาการนอนไม่หลับจะแตกต่างกันไปแล้วแต่กรณี เช่น บางรายอาจรู้สึกนอนไม่หลับเลยจนสว่าง หรือบางรายอาจนอนหลับๆ ตื่นๆ หลายรอบในแต่ละคืน ซึ่งอาการทั้งหมดจะให้ทำสมองไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ จึงส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมอย่างมากและส่งผลให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมาได้

4.อารมณ์แปรปรวน อารมณ์แปรปรวนในผู้หญิงที่มีอาการวัยทองนั้น เป็นภาวะที่เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีผลต่อการผลิตสารสื่อประสาทในระบบประสาทส่วนกลางที่ชื่อว่า เซโรโทนิน (serotonin) ซึ่งเซโรโทรนินที่ผลิตขึ้นนั้นจะไปทำหน้าที่ควบคุมเกี่ยวกับทางด้านอารมณ์ ความก้าวร้าว ความซึมเศร้า การนอนหลับ เมื่อฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงจะส่งผลให้ระดับเซโรโทนินลดลงตาม จึงทำให้เกิดอารมณ์ ความก้าวร้าวมีเพิ่มมากขึ้น หรือมีอารมณ์แปรปรวนนั้นเอง คนทั่วไปมักเข้าใจและชอบเปรียบเทียบคนที่มีอารมณ์แปรปรวนนี้ว่า คนวัยทอง

5.อาการเวียนศรีษะ อาการเวียนศรีษะเป็นอาการหนึ่งที่มีผลมาจากภาวะการนอนไม่หลับในผู้หญิงที่มีอาการวัยทอง ส่งผลให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการเวียนศรีษะระหว่างวันได้

6.ผิวหนังแห้งกร้านเป็นขุย เมื่อฮอร์โมนเอสโตรเจนผลิตได้ลดลง คอลลาเจนใต้ผิวก็จะผลิตลดลงด้วย ส่งผลให้ผิวบาง สูญเสียความชุ่มชื้นที่ผิวได้ง่าย ทำให้ผิวแห้งกร้าน โดยบางรายผิวจะมีลักษณะเป็นขุยๆแตกแห้ง หรือบางรายมีอาการคันตามผิวหนัง บางครั้งอาจมีอาการคันได้ และนานๆ ไป ก็จะมีโอกาสเป็นฝ้า กระและรอยเหี่ยวย่นตามมานั้นเอง

7.เล็บเปราะบาง เนื่องจากสุขภาพของเล็บถือว่ามีความสัมพันธ์กับสุขภาพของผิวโดยตรง เมื่อผิวแห้งกร้านไม่ชุ่มชื่น จึงส่งผลการะทบให้เล็บแห้งและเปราะบางได้ในที่สุด

8.ผมร่วงง่าย ผมร่วงง่ายในผู้หญิงที่มีอาการวัยทอง มีสาเหตุมาจากการที่รากผมหรือขน จะฝังตัวอยู่ในชั้นหนังแท้ ที่มีคอลลาเจนเป็นโครงสร้างในการยึดเกาะ การที่สร้างคอลลาเจนที่ผิวหนังในชั้นหนังแท้ มีการสร้างลดลง ทำให้โครงสร้างการยึดเกาะหรือคอลลาเจนลดลง จึงส่งผลให้เส้นผมอ่อนแอและหลุดล่วงได้ง่ายตามมา

9.ช่องคลอดแห้งและความต้องการทางเพศที่ลดลง เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีอิทธิพลต่อความชุ่มชื้น ความอวบอิ่ม ความหยืดหยุ่นของช่องคลอด และนอกจากนั้นก็ยังมีอิทธิพลต่อการทำงานของต่อมบาร์โธลิน (Bartholin gland) ซึ่งต่อมนี้มีหน้าที่หลักในการสร้างสารคัดหลั่งในช่องคลอด ดังนั้นเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยทองการผลิตสารคัดหลั่งดังกล่าวก็จะลดลง ส่งผลให้เกิดอาการระคายเคืองในขณะมีเพศสัมพันธ์ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีปัจจัยแวดล้อมหลายๆอย่าง เช่น วัยที่เพิ่มมากขึ้น อารมณ์ สุขภาพโดยรวม ก็มีผลต่อความต้องการทางเพศที่ลดลงตามมาด้วย

10.ประจำเดือนมาผิดปกติ อาการประจำเดือนมาผิดปกติหรือมาไม่สม่ำเสมอในหญิงที่มีอาการวัยทอง เป็นอาการหนึ่งที่พบห็นได้ชัดเจน โดยช่วงแรกจะเกิดอายุประมาณ 40-45 ปี เป็นช่วงที่ประจำเดือนมาเร็วขึ้นกว่าปกติ อาจเลื่อนจากรอบ 1 เดือนต่อครั้ง มาเป็น 3 สัปดาห์ต่อครั้ง และในช่วงถัดมาที่อายุ 45 ปีขึ้นไป รอบประจำเดือนจะเริ่มมาห่างขึ้น คือ 2-3 เดือน ต่อครั้ง และท้ายที่สุดในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป จะเป็นช่วงหมดประจำเดือน ประจำเดือนจะไม่มาติดต่อกันตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป

11.อาการหลงลืมง่าย อาการหลงๆ ลืมๆ จะพบมากขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยทอง ความจำระยะสั้นจะเริ่มเสื่อมถอยลง เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนไปมีผลต่อสมองของเรา ทำให้การหลั่งสารสื่อประสาทที่เกี่ยวกับความจำลดลง จึงส่งผลต่อความจำระยะสั้น สำหรับความจำระยะยาวเซลล์สมองจะค่อยๆถูกทำลายลง ไปเรื่อยๆ จนสุดท้าย จะส่งผลต่อความจำระยะยาว หรือที่เรียกว่าโรคอัลไซเมอร์นั้นเอง

12.โรคกระดูกพรุน เมื่อเข้าสู่วัยทอง ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงทำให้ไปมีผลต่อการสลายมากกว่าการสร้างแคลเซียมในกระดูก จึงเป็นที่มาของภาวะกระดูกเปราะบาง แตกหักง่าย สำหรับผู้หญิงที่เข้าสู่วัยทองจะสังเกตุเห็นได้ชัดเจนว่า จะมีการโก่งงอของหลังเพิ่มมากขึ้นตามวัยที่มากขึ้น

13.ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและปวดตามข้อและกระดูก สำหรับผู้ก้าวเข้าสู่วัยทองบางรายอาจจะมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือ ปวดตามข้อและกระดูกได้ง่าย แต่สาเหตุยังไม่ทราบเป็นที่แน่ชัด แต่คาดว่าอาจจะมีความสัมพันธ์โดยตรงกับภาวะการสลายตัวของกระดูกที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันในวัยช่วงวัยใกล้หมดประจำเดือน

14.อาการเหมือนมีไฟฟ้าช๊อตตามร่างกาย เกิดจากการที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงอย่างรวดเร็ว ไปมีผลต่อระบบประสาทในส่วนของไฮโปทาลามัสทำงานแปรปรวน จึงส่งผลให้เกิดอาการดังกล่าวขึ้นได้ ส่วนมากจะเกิดขึ้นก่อนช่วงอาการร้อนวูบวาบ

15.กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ภาวะกลั้นปัจสาวะไม่อยู่ในผู้หญิงที่มีอาการวัยทองเกิดจากเยื่อบุในท่อปัสสาวะขาดความยืดหยุ่น มีสาเหตุเนื่องมาจากฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงไป มีผลต่อการสร้างความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิวและเยื้อบุในท่อปัสสาวะของคนเรา

16.คลอเลสเตอรอลสูง คลอเลสเตอรอลสูงเป็นปัญหาอย่างมากแก่ผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปโดยทั่วไปแล้วคลอเลสเตอรอลสูงมีหลายๆปัจจัยแต่การลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คลอเลสเตอรอลสูงขึ้นได้เช่นกัน ทั้งนี้เหตุผลก็คือ คลอเลสเตอรอลคือสารตั้งต้นในการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน เมื่อฮอร์โมนเอสโตเจนผลิตลดลง สารตั้งต้นคลอเลสเตอรอลก็ถูกเผาผลาญลดลงเช่นเดียวกัน

Wishing you and your family health, happiness, peace and prosperity this holiday season and in the coming New Year. May ...
25/12/2017

Wishing you and your family health, happiness, peace and prosperity
this holiday season and in the coming New Year.
May the magic of Christmas fill your heart all year long.

ขอให้คุณและครอบครัวจงแข็งแรง มีความสุข สงบ และรุ่งเรือง เนื่องในวันคริสต์มาสและปีใหม่
ขอให้เวทมนตร์แห่งวันคริสต์มาสอยู่กับคุณไปตลอดทั้งปีเลย

สุขภาพกายสุขภาพใจวิธีแก้และยับยั้งอาการ ปากแห้ง ปากลอก ปากแตกง่าย ปากเป็นขุยสุขภาพกายสุขภาพใจวิธีแก้และยับยั้งอาการ ปากแ...
24/12/2017

สุขภาพกายสุขภาพใจวิธีแก้และยับยั้งอาการ ปากแห้ง ปากลอก ปากแตกง่าย ปากเป็นขุย
สุขภาพกายสุขภาพใจวิธีแก้และยับยั้งอาการ ปากแห้ง ปากลอก ปากแตกง่าย ปากเป็นขุย

วิธีแก้และยับยั้งอาการ ปากแห้ง ปากลอก ปากแตกง่าย ปากเป็นขุย
ปากแห้ง, ริมฝีปากแห้ง, ปากลอก, ปากลอกเป็นแผ่น, ปากลอกเป็นขุย, ปากแห้งลอก, วิธีแก้ปากแห้ง, ลิปสติกสำหรับคนปากแห้ง

เชื่อแน่ว่าสาวๆ ทั้งหลายปรารถนาปากสวยอิ่มเอิบ น่ามอง น่าสัมผัสเป็นแน่แท้ ถ้าอยากให้เรียวปากสวยคุณสาวๆ ก็ต้องบำรุงดูแลรักษาปากของตัวเองให้รอดพ้นจากอาการ ปากแห้ง ปากลอก ปากแตกง่าย ปากเป็นขุย เหล่านี้คืออาการที่ไม่เป็นที่พิศมัยของใครหรอกใช่มั้ย


ถ้าอย่างนั้นเราจะยับยั้งอาการต่างๆ ที่ไม่ควรปรากฎบนริมฝีปากของเราได้อย่างไรบ้างมาดูกันค่ะ

วิธียับยั้งไม่ให้เกิดอาการ ริมฝีปากแห้ง ปากลอก ปากแตกง่าย ปากเป็นขุย
หยุดพฤติกรรมเสี่ยงที่เคยชิน อย่างเช่นการเลียปาก เม้มปาก แกะปาก
หลีกเลี่ยงสภาวะแวดล้อมที่มีผลโดยตรงต่อริมฝีปากคุณ อย่างเช่น อย่าปล่อยให้เรียวปากของคุณสาวๆ โดนแสงแดดตรงๆ โดยไม่มีสิ่งใดปกป้อง หรืออากาศหนาวก็ทำร้ายปากอย่างร้ายการด้วยเช่นเดียวกัน
ไม่สัมผัสโดยตรงกับสารที่เสี่ยงให้ปากแห้ง เช่น ยาสีฟัน ลิปสติกสีเข้ม (ปริมาณเม็ดสีของลิปสติกสีเข้มจะมากกว่าลิปสติกสีอ่อน) เลี่ยงการใช้งานลิปสติกสีเข้มไปก่อนนะคะถ้าเรียวปากคุณยังไม่พร้อมรับมือ
ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยปกติแล้วร่างกายของเราต้องการน้ำประมาณ 8-10 แก้วต่อวันนะคะ น้ำจะเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังตลอดจนทำให้ริมฝีปากอิ่มเอิบแต่งตึง สำหรับใครที่ดื่มน้ำน้อยจะมีความเสี่ยงมากกว่าคนที่ดื่มน้ำเยอะในหลายๆ เรื่องเลยนะคะ ดื่มไปเถอะค่ะมันดีต่อตัวคุณเองในหลายๆ ด้านจริงๆ
มาถึงวิธีรักษากันต่อเลยนะคะ เมื่อปากแห้งแตก ปากลอกเป็นขุย เราต้องทำอย่างไรบ้าง

วิธีรักษาอาการ ริมฝีปากแห้ง ปากลอก ปากเป็นขุย
เลิกเลียริมฝีปากด้วยน้ำลายอย่างเด็ดขาด
ห้ามแกะห้ามลอกริมฝีปากออกมาเป็นแผ่นๆ ห้ามมากๆ
ทาลิปบาล์ม (Lip Balm) เพื่อเพิ่มความชุ่นชื้นให้เรียวปาก
ทาว่านหางจระเข้ หรือใครอยากได้แบบพกพาไปไหนมาไหนได้แบบสะดวกหน่อยก็แนะนำ อโลเวร่าเจล หลอดสีเขียวขาว (ALOE GEL) ซึ่งเป็นว่านหางจระเข้ 100%
น้ำผึ้งแท้ ด้วยคุณสมบัติพิเศษในน้ำผึ้งแท้ที่เป็นยาฆ่าเชื้ออ่อนๆ ในตัวเอง มันจึงนำมาใช้รักษาอาการแตกของริมฝีปาก ริมฝีปากแห้ง หรือริมฝีปากลอกได้ดี วิธีใช้ก็ง่ายดายมากๆ แค่ใช้สำลีหรือคอตตอนบัดจุ่มลงไปในน้ำผึ้งแท้แล้วนำมาทาเบาๆ ให้ทั่วริมฝีปากทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วค่อยเช็ดออกเบาๆ
น้ำเกลือ หากปากเป็นขุย ให้คุณใช้สำลีแผ่นซับน้ำเกลือให้ชุ่ม แล้วนำไปคาบโดยแม้มปากเบาๆ เสร็จแล้วเช็ดให้ทั่วริมฝีปาก ขุยต่างๆ ที่ลอกก็จะหลุดออกมา
อย่าลืมบำรุงรักษาดูแลริมฝีปากของคุณให้สุขภาพดี ดูนุ่ม ชุ่มชื่น น่ามอง น่าหลงไหลกันนะคะ

โรคภูมิแพ้ตา         โรคภูมิแพ้ตา อาการของภูมิแพ้อย่างหนึ่งโรคภูมิแพ้ของตานั้น เป็นอาการของภูมิแพ้อย่างหนึ่ง สามารถเกิดไ...
24/12/2017

โรคภูมิแพ้ตา

โรคภูมิแพ้ตา อาการของภูมิแพ้อย่างหนึ่ง
โรคภูมิแพ้ของตานั้น เป็นอาการของภูมิแพ้อย่างหนึ่ง สามารถเกิดได้แทบทุกส่วนของดวงตา ตั้งแต่ เปลือกตา หนังตา ไปจนถึงเยื่อบุตาขาว และกระจกตาครับ ท่อน้ำตาและต่อมน้ำตาก็สามารถมี อาการแพ้เกิดขึ้นได้เช่นกัน แต่โดยมากแล้ว อาการที่เป็นกันมาก มักจะเกิดกับเยื่อบุตาขาวเป็นส่วน ใหญ่โดยมากแล้ว

ผู้ที่เป็นภูมิแพ้ตา มักจะเป็นผู้ที่มีอาการของโรคภูมิแพ้อื่นๆ อยู่แล้ว เช่น แพ้อากาศ แพ้อาหาร เป็นต้น โดยอาการมักจะแสดงออกในระบบอื่นด้วย เช่น มีอาการของลมพิษ หรือผื่นคันตามผิวหนัง คัดจมูก มีน้ำมูกใส แต่ก็มีไม่น้อย ที่ผู้ป่วยมีอาการปรากฏที่ตาเพียงอย่างเดียว ส่วนมากแล้วภูมิแพ้ที่เกิดกับดวงตา มักมองกันหลายอย่างรวมกัน ดังต่อไปนี้ครับ คันตามาก อาจมีอาการหนังตา หรือเปลือกตาบวมร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้ (โดยมากแล้ว อาการเปลือกตาบวม มักเป็นจากการแพ้ในระบบอื่นที่ส่งผลถึงดวงตามากกว่าเป็น อาการแพ้ของตาเอง เช่น แพ้ยา)
มักมีขี้ตาเยอะมาก โดยเฉพาะในเวลาตื่นนอนตอนเช้า ผู้ป่วยหลายรายจะบอกว่า มีขี้ตาเยอะมาก ขนาดลืมตาไม่ขึ้นทีเดียว ขี้ตาจากภูมิแพ้ตานั้น จะมีลักษณะเป็นสีขาวขุ่น หรือเหลืองอ่อนๆ หากมีอาการติดเชื้อของดวงตาร่วมด้วย ขี้ตาจะเป็นสีเขียว

เยื่อบุตาขาวอาจมีสีแดงเรื่อๆ ได้ จนถึงแดงก่ำ บางรายที่เป็นมาก อาจมีอาการปวดตาร่วมด้วยได้ครับ ในรายที่อาการแพ้เป็นอย่างรุนแรง อาจทำให้การมองเห็นของคนไข้แย่งลง มีตามัวกระจกตาเกิดเป็นแผล และอาจถึงตาบอดได้ หาก.ปล่อยทิ้งเอาไว้ไม่ได้รับการรักษา

ดังนั้น จะเห็นได้ว่า อาการของภูมิแพ้ตา มีได้ตั้งแต่เล็กน้อย ไปจนถึงขั้นรุนแรงครับ ส่วนสาเหตุของภูมิแพ้ตานั้น เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุเหมือนกับโรคภูมิแพ้อื่นๆ เช่น เกิด จากการแพ้ยาปฏิชีวนะ แพ้ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ เป็นต้น

🎀 ผิวหน้าแห้งลอกเป็นขุย🎀ปัญหาหน้าลอก หน้าแห้ง หน้าเป็นขุย มีสาเหตุมาจากหลายๆอย่าง แต่หลักๆนั้นมาจากการการที่ผิวของเราอยู...
24/12/2017

🎀 ผิวหน้าแห้งลอกเป็นขุย🎀

ปัญหาหน้าลอก หน้าแห้ง หน้าเป็นขุย มีสาเหตุมาจากหลายๆอย่าง แต่หลักๆนั้นมาจากการการที่ผิวของเราอยู่ในสภาวะขาดน้ำ จนกระทั่งส่งผลให้ผิวมีสภาพแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื่น เมื่อเซลล์ผิวชั้นนอกเสื่อมสภาพลง สุดท้ายผิวหน้าก็จะค่อยๆหลุดลอกจนเป็นขุยในที่สุดค่ะ

นอกจากสาเหตุที่กล่าวมาข้างต้นแล้วนั้น ปัญหาผิวหน้าลอกเป็นขุยยังมีสาเหตุมาจากการที่เรามีอาการเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิว อยู่ในพื้นที่อากาศแห้งโดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว รวมไปถึงการล้างหน้าที่บ่อยจนเกินไปอีกด้วยค่ะ

วันนี้เบ็ดเตล็ดไอเดียขอแนะนำวิธีแก้อาการผิวหน้าลอกเป็นขุยด้วยวิธีง่ายๆ ซึ่งคุณเองก็สามารถทำได้และที่สำคัญคือเน้นประหยัด แต่ได้ผลลัพท์ที่ดีค่ะ

เมื่อรู้ว่าผิวแห้ง และหน้าเริ่มลอกแล้วต้องทำอย่างไร?

ขั้นตอนที่ 1 ก่อนที่ภายนอกจะดูดีนั้น ภายในของเราก็ต้องดีด้วยเช่นกันค่ะ สิ่งแรกที่อยากแนะนำมากๆ และอยากให้รีบทำเลยซะตั้งแต่ตอนนี้ก็คือ การดื่มน้ำให้มากๆค่ะ โดยเฉพาะคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในห้องแอร์หรืออยู่ในที่อากาศเย็นและแห้ง ห้ามลืมดื่มน้ำอย่างเด็ดขาด!!

ขั้นตอนที่ 2 หน้าแห้งจนลอกเป็นขุยต้องหยุด!!

2.1 ล้างหน้าบ่อย และห้ามล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น
2.2 สครับหน้า ขัดหน้า
2.3 ใช้เครื่องสำอางค์หรือครีมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

ขั้นตอนที่ 3 หน้าแห้งจนลอกเป็นขุยต้องรีบทำ!!

3.1 ดื่มน้ำเยอะๆ ประมาณวันละ 8 แก้วต่อวัน
3.2 เน้นทานอาหารจำพวกธัญพืชไม่ขัดสี เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามิน A และ B และหมั่นรับประทานผักและผลไม้เป็นประจำ
3.3 ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน และเหมาะสำหรับคนผิวหน้าแห้ง
3.4 หมั่นฉีดพ่นสเปรย์น้ำแร่ลงบนใบหน้า เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับใบหน้า แถมยังช่วยลดอาการหน้าลอกให้ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ
3.5 ใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสำหรับสภาพผิวแห้ง เนื่องจากคนที่ผิวแห้งนั้นจะไวต่อแสงแดดมาก เพื่อป้องกันผิวไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื้นไปมากกว่านี้ ดังนั้นเมื่อทาครีมบำรุงผิวหน้าที่มีความอ่อนโยนต่อสภาพผิวแห้งของเราแล้ว แนะนำว่าต้องห้ามลืมทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้งค่ะ

ขั้นตอนสุดท้ายประทินผิวแห้ง แก้ผิวหน้าลอกเป็นขุย ด้วยสูตรสมุนไพร ไร้สารเคมีจ้า!!

สูตรที่ 1 น้ำผึ้ง การพอกหน้าด้วยน้ำผึ้งจะช่วยบำรุงผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ ชุ่มชื่น และนุ่มนวล แถมน้ำผึ้งยังช่วยบำรุงรักษาผิวหน้าที่แห้งแตกลอกเป็นขุยได้อีกด้วยค่ะ ซึ่งวิธีทำก็ง่ายมากๆ เพียงแค่นำไข่แดง 1 ฟองไปผสมกับน้ำผึ้งผสม 1 ช้อน คนให้เข้ากันแล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นค่ะ

สูตรที่ 2 ใบเตยหอม + ใบบัวบก + น้ำผึ้ง เพียงแค่นำใบเตยหอมไปคั้นกับน้ำให้ได้ 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นก็นำเอาใบบัวบกไปคั้นกับน้ำให้ได้ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วนั้นส่วนผสมทั้งสองไปผสมกับน้ำผึ้งประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ เมื่อได้แล้วก็นำมาทาให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น

สูตรที่ 3 มะเขือเทศ + แตงกวา + นมสด นำส่วมผสมทั้งหมดมาปั่นให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น จะช่วยทำให้ผิวกลับมานุ่มชุ่มชื้นมากขึ้นค่ะ

สูตรที่ 4 ว่านหางจระเข้ เพียงแค่นำเอาใบว่านหางจระเข้มาปอกเปลือกจนได้วุ้นหรือน้ำเมือกใสๆ จากนั้นนำไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วค่อยนำมาพอกให้ทั่วไปหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที วุ้นจากว่านหางจระเข้จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว และช่วยลดอาการผิวลอกผิวแห้งได้ ค่ะ

สูตรที่ 5 นมสด สูตรนี้สำหรับคนที่ไม่ชอบความยุ่งยากในการเตรียมผสมใดๆ เพียงแค่คุณนำเอานมสดทาบริเวณผิวที่แห้งลอกเป็นประจำทุกวัน จากนั้นผิวก็จะค่อยๆหายลอกและกลับมาชุ่มชื่น และเนียนนุ่มอีกครั้งค่ะ

23/12/2017

"ต า ต ้อ" เป็นกลุ่มของโรคตา "ต้ อ" ที่มีลักษณะแตกต่างกัน อย่างไร

#โรคต้อลม (Pinguecular)

มีลักษณะเป็นเยื่อสีขาวหรือขาวเหลืองบริเวณตาขาวข้าง ๆ ตาดำ เกิดจากการถูกสิ่งระคายเคืองต่อเยื่อบุตา (เช่น ลม ฝุ่น แสงแดด) มาเป็นเวลานาน มักทำให้มีอาการเคืองตาง่าย ไม่ทำให้ตามัวหรือบอด

#โรคต้อเนื้อ (Pterygium)

โรคต้อเนื้อเป็นโรคที่ต่อเนื่องมาจากโรคต ้อลม แต่เยื่อบุตาลามเข้ามาถึงบริเวณกระจกตาดำ (cornea) เป็นลักษณะคล้ายเนื้อเยื่อสีขาวออกแดงบริเวณกระจกตาด้านหัวตาหรือหางตา เกิดจากการถูกสิ่งระคายเคืองมาเป็นเวลานานหลายปี ทำให้มีอาการเคืองตาและตาแดงบริเวณต้อเนื้อ เมื่อถูกสิ่งระคายเคือง ไม่ทำให้ตามัวหรือบอด

#โรคต้อกระจก (Cataract)

โรคต้อกระจกเป็นโรคที่เกิดจากการขุ่นของเลนส์แก้วตา (lens) ในลูกตา ทำให้การมองเห็นภาพมีลักษณะคล้ายเป็นหมอกหรือควันขาว ๆ บัง มักเป็นจากการเสื่อมสภาพของเลนส์ตาตามอายุ แต่อาจเป็นตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดหลังอุบัติเหตุต่อดวงตาก็ได้ มักทำให้ตามัวมากขึ้นเรื่อยจนอาจมองไม่เห็นในที่สุดถ้าไม่ได้รับการรักษา

#โรคต้อหิน (Glaucoma)

ต้ อหินเป็นโรคที่มีความดันในลูกตาสูงจากการระบายออกของน้ำเลี้ยงในลูกตา (aqueous) น้อยผิดปกติ ทำให้ลูกตาแข็งขึ้น จนกระทั่งกดขั้วประสาทตา (optic disc) ทำให้มีการเสียของลานสายตาการมองเห็น จนกระทั่งตาบอดสนิทได้ในที่สุด


ปรึกษา สอบถามเพิ่มเติม
โทร 061-575-1348
http://bit.ly/2Bovg7e

"ทุกปัญหาดวงตา มีทางออก"บ้านเก่ายังต้องซ่อม!!  👀 ดวงตามีเพียงคู่เดียวของท่านซ่อมบ้างตาแดง แสบตา เคืองตา ตาแห้ง แพ้แสง น้...
21/12/2017

"ทุกปัญหาดวงตา มีทางออก"

บ้านเก่ายังต้องซ่อม!! 👀 ดวงตามีเพียงคู่เดียวของท่านซ่อมบ้าง
ตาแดง แสบตา เคืองตา ตาแห้ง แพ้แสง น้ำตาไหล เบลอ ตาพล่ามัว มีจุดดำๆ ลอยไปลอยมา มองเห็นคล้ายสายฟ้าแลบ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังประสบปัญหา "เกี่ยวกับดวงตา" ดีคอนแทค dcontact ช่วยได้มาก

ขนาดบรรจุ 1 กล่อง 30 แคปซูล
สินค้าพร้อมส่ง ของแท้
#มีปัญหาดวงตานึกถึงดีคอนแทค
💓ติดต่อโทร 061-575-1348
http://bit.ly/2Bovg7e

อาการปวดศีรษะไมเกรน เป็นอาการปวดศีรษะที่พบได้บ่อยเป็นอันดับ 2 รองจากอาการปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อเกร็ง (Tension type headac...
19/12/2017

อาการปวดศีรษะไมเกรน เป็นอาการปวดศีรษะที่พบได้บ่อยเป็นอันดับ 2 รองจากอาการปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อเกร็ง (Tension type headache) พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 2-3 เท่า มักเริ่มมีอาการครั้งแรกตอนช่วงวัยรุ่นถึงวัยกลางคน ปวดศีรษะไมเกรนสามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

ไมเกรนที่ไม่มีอาการเตือน (Migraine without aura) พบมากที่สุดในกลุ่มที่มีอาการปวดศีรษะไมเกรน

ไมเกรนที่มีอาการเตือน (Migraine with aura) อาการเตือนที่พบบ่อย ได้แก่ การมองเห็นผิดปกติ โดยจะเห็นแสงเป็นเส้นซิกแซกคล้ายฟันเลื่อย อาจจะมีหรือไม่มีสี หรือเห็นภาพมืดไปเป็นบางส่วน หรือมองเห็นภาพไม่ชัด หลับตาแล้วยังเห็นได้อยู่ หรือเห็นภาพบิดเบี้ยว ซึ่งอาการผิดปกติของการมองเห็นจะเคลื่อนที่อย่างช้าๆ อาการเตือนอื่นๆ เช่น อาการชาที่มือ-แขน หรือชารอบปาก, ไม่สามารถพูดได้ชั่วคราวหรือนึกชื่อไม่ออก, หรือมีอาการอ่อนแรงของแขน-ขาซีกหนึ่งของร่างกาย เป็นต้น

สาเหตุของปวดศีรษะไมเกรน

อาการปวดศีรษะไมเกรน เกิดจากความผิดปกติของระบบไฟฟ้าที่ผิวสมอง ทำให้สมองเกิดการกระตุ้นได้ง่ายและไวกว่าคนปกติ หลังจากสมองถูกกระตุ้นแล้ว จะเกิดกระแสไฟฟ้าวิ่งไปตามผิวของสมองอย่างช้าๆ (ทำเกิดอาการการเตือนขึ้นมา) กระแสไฟฟ้าที่เกิดขึ้นนี้ทำให้การไหลเวียนของเลือดในสมองเปลี่ยนแปลงไป และยังไปกระตุ้นเส้นประสาทสมอง ทำให้เกิดการหลั่งสารสื่อประสาทบางชนิด มีผลทำให้หลอดเลือดสมองเกิดการขยายตัวและเกิดการอักเสบขึ้น เป็นผลทำให้มีอาการปวดศีรษะในที่สุด



ถ้าไม่ได้รับการรักษาหรือได้รับการรักษาช้า จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของระบบรับความเจ็บปวดในสมอง ทำให้มีอาการปวดศีรษะที่รุนแรงขึ้น ความถี่ของการปวดศีรษะเพิ่มมากขึ้น, ไม่ตอบสนองต่อยาแก้ปวด, อาจพบอาการเจ็บแปล๊บๆ ที่บริเวณรอบกระบอกตาหรือหนังศีรษะได้ และพบความผิดปกติของสมองจากการตรวจด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า (พบสมองฝ่อเล็กลง และมีการเปลี่ยนแปลงของเนื้อสมองสีขาว)


อาการปวดศีรษะไมเกรน

ลักษณะอาการปวดศีรษะที่จำเพาะกับปวดศีรษะไมเกรน คือ จะมีอาการปวดศีรษะข้างเดียว อาจย้ายข้างได้ แต่มักเป็นทีละข้าง ลักษณะการปวดเป็นแบบตุ้บๆ (คล้ายเส้นเลือดเต้น) ความรุนแรงของอาการปวดจะรุนแรงปานกลางถึงรุนแรงมาก การทำกิจวัตรทั่วไป เช่น การเดินหรือขึ้นบันได จะทำให้อาการปวดศีรษะเป็นมากขึ้น อาการจะดีขึ้นถ้าได้พักผ่อนอยู่นิ่งๆในห้องที่มืดและเย็น ถ้าไม่ได้รับการรักษาหรือได้รับรักษาไม่เหมาะสม อาการปวดศีรษะจะเป็นอยู่นาน 4-72 ชั่วโมง

อาการร่วมอื่นๆที่พบร่วมกับอาการปวดศีรษะ คือ อาการคลื่นไส้ หรืออาเจียน มีอาการไวต่อแสง ไม่อยากเห็นแสงจ้า และไม่อยากได้ยินเสียงดัง

ในผู้ป่วยบางรายจะพบว่ามีสิ่งกระตุ้น ที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนขึ้นมา เช่น ภาวะเครียด, การอดนอน, การนอนและตื่นที่ไม่เป็นเวลา, ช่วงที่เป็นประจำเดือน, กลิ่นหรือควัน, การเปลี่ยนแปลงของอากาศ หรือ ความร้อน, แสงแดด, อาหารบางชนิด (อาหารหมักดอง, ชีส, ไวน์) ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยควรสังเกตและพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นนั้น

ที่อยู่

242 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงแสนแสบ
Min Buri
10510

เบอร์โทรศัพท์

0615751348

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สุขภาพดีมีความสุขผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง สุขภาพดีมีความสุข:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram