Dboone ดีบูน ศูนย์ฟื้นฟูดูแลโรคกระดูกและข้อเสื่่อม

Dboone ดีบูน ศูนย์ฟื้นฟูดูแลโรคกระดูกและข้อเสื่่อม ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก Dboone ดีบูน ศูนย์ฟื้นฟูดูแลโรคกระดูกและข้อเสื่่อม, ร้านจำหน่ายอาหารเสริมวิตามิน, Bangkok.

☆ส่วนประกอบที่สำคัญ☆
1.คอลลาเจนจากปลาทะเล (Hydrolyed Fish Collagen)
2.สารสกัดจากเปลือกสน (Pine bark extract ) MSM
3.วิตามิน ซี (Vitamin C)
4.สารสกัดจากขมิ้น (Turmeric Extract)
5.วิตามิน ดี 3 (Vitamin D 3)
6.แคลเซียม คาร์บอเนต (Calcium Carbonate )
>>เหมาะสำหรับ
~ โรคข้อเข่าเสื่อม
~ โรคกระดูกพรุน
~ โรคข้ออักเสบ,รูมาตอย,เก๊าท์
~ โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน, กระดูกทับเส้นประสาท
~ นิ้วล็อค โรคฮิตของคนทำงาน
~ กลุ่มนักกีฬา
~ ผู้ที่ต้องการเพิ่มความสูง
~ ช่วยเรื่องความเสื่อมของอวัยวะต่างๆในร่างกาย
~ ผู้ที่ปวดเมื่อยตามกระดูก ข้อเข่า สันหลัง ไหล่บ่า คอ
~ วัยหมดประจำเดือน ขาดแคลเซียม
~ อาชีพที่ต้องยืนนาน

28/06/2017

แก้วไว้วางใจ&เลือกวิตามินที่ดีที่สุด(ดีบูน)ดูแลกระดูกของแก้วค่ะ

28/06/2017

แก้วไว้ใจ&เลือกสิ่งที่ดีที่สุด(ดีบูน)ในการดูแลกระดูกค่ะ

โรคร้าย!! รักษาผิด *** มีสิทธิ์เจ็บตัวฟรี ***"โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท"    โรคนี้มีอาการคล้ายกับ "โรคหมอนรองกระด...
05/05/2017

โรคร้าย!! รักษาผิด *** มีสิทธิ์เจ็บตัวฟรี ***

"โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท"
โรคนี้มีอาการคล้ายกับ "โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท" แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดกระดูกสันหลังยังแยกสองโรคออกได้ไม่ 100%

ผู้ที่มีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อนี้จะมีอาการปวดบริเวณสะโพกนำมาก่อน และ ค่อยๆ ลามลงขาไปจนถึงปลายเท้า หรือ ปวดบริเวณคอ บ่า ไหล่ แล้วค่อยๆลามไปถึงปลายแขน อาการรุนแรงกว่าโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเสียอีก

ซึ่งพบบ่อยว่าทั้งสองโรคสามารถเกิดร่วมกันได้เสมอ และ ต้องระวังอย่านำผู้ป่วยที่ปวดอย่างรุนแรงไปผ่าตัดเร็วเกินไปเพราะการผ่าตัดกระดูกสันหลังไม่ได้ทำให้กล้ามเนื้อเหล่านี้คลายตัวได้

ที่โชคร้ายกว่านั้น คือผู้ป่วยบางรายผลเอ็มอาร์ไอมีหมอนรองกระดูกเสื่อมหรือ ผิดปกติเพียงเล็กน้อย แต่ด้วยความปวดทำให้ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดที่กระดูกสันหลังไปแต่ไม่หายปวด!! เป็นเพราะ"กล้ามเนื้อหนีบทับเส้นประสาท"

กล้ามเนื้อของมนุษย์มีประมาณ 600 มัด ทำงานตลอดเวลาไม่มีพักจึงป่วยได้ โดยส่งสัญญาณอาการปวดร้าวตามร่างกายส่วนต่างๆเพราะปกติกล้ามเนื้อของคนจะเสื่อมลงเฉลี่ยนปีละ1%อยู่แล้ว แต่โชคร้ายแม้เอกซเรย์ หรือ เอ็มอาร์ไอ
ก็ไม่สามารถเห็นอาการป่วยของกล้ามเนื้อนี้ได้

โรคร้าย! นี้ ไม่สามารถตรวจพบโดยเครื่องมือใดๆ และเป็นโรคที่เป็น “ยาดำ” แฝงตัวอยู่ในภาวะผิดปกติของกระดูกสันหลังส่วนคอ และ ส่วนเอวได้เสมอๆ
ไม่เช่นนั้น อาจจะต้องเจ็บตัวฟรีๆ คือผ่าตัดแล้วอาการปวดยังเหมือนเดิม

***อย่าพลาด*** ติดตามกันต่อไปนะค๊ะ คุณจะได้รับประโยชน์มาก***
ทางศูนย์ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน ข้อมูล ข่าวสาร
ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพื่อสุขภาพ และ คุณภาพชีวิตที่ดีของทุกท่านค่ะ

ค้นพบวิธีธรรมชาติบำบัด ฟื้นฟู รักษาที่ต้นเหตุ ปัญหาของโรคกระดูก& ข้อเข่าเสื่อม ทับเส้นประสาท... และอื่นๆ

ขอขอบคุณทุกท่านที่เลือก
ศูนย์ฟื้นฟูโรคกระดูก และ ข้อเสื่อม (ทับเส้นประสาท)ให้เป็นการแพทย์ทางเลือก...ที่นี่เราใช้สารอาหาร &วิตามิน ที่จำเป็นต่อร่างกาย ในการฟื้นฟูบำบัดรักษา เราไม่ใช้การผ่าตัดค่ะ

ยินดีให้คำปรึกษา ฟรีค่ะ
สายด่วน 080-629-2442 , 089-002-7969
ติดตามข้อมูลคลิ๊ก https://line.me/R/ti/p/%40rgd0980j

พังผืดข้อไหล่ติดยึดแข็ง โรคใกล้ตัว พึงระวัง! ใคร  #ปวดคอ  #บ่า  #สะบัก  #ปวดร้าวชาลงแขน รีบอ่าน! เลยนะครับข้อไหล่ติด หรื...
05/05/2017

พังผืดข้อไหล่ติดยึดแข็ง โรคใกล้ตัว พึงระวัง!
ใคร #ปวดคอ #บ่า #สะบัก #ปวดร้าวชาลงแขน รีบอ่าน! เลยนะครับ
ข้อไหล่ติด หรือ ข้อไหล่ยึดติดแข็ง เป็นอีกอาการความเจ็บป่วยที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังสร้างความหงุดหงิดรำคาญใจให้แก่คนเรา
หากมองข้ามอาจ “ลุกลาม” กลายเป็นปัญหาใหญ่ต่อการเคลื่อนไหวของร่างกายได้
แม้โรคข้อไหล่ติด จะไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ภาวะที่พบได้บ่อยๆ มักเกิดได้ในกรณีที่คนไข้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่บริเวณข้อไหล่ ทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ เส้นเอ็นฉีกขาด กระทั่งกระดูกแตกหัก รวมถึงผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคไทรอยด์เป็นพิษ โรคหัวใจ ตลอดจนพฤติกรรมการทำงานที่ไม่ค่อยได้ขยับเคลื่อนไหว หรือไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เหล่านี้เป็นภาวะร่วมที่ทำ
ให้มีโอกาสเกิดภาวะข้อไหล่ยึดติดได้ง่าย
นายแพทย์ประวิทย์ สุขเจริญชัยกุล ศัลแพทย์กระดูกและข้อโรงพยาบาลสมิตติเวชศรีนครินทร์ให้ความรู้ว่า
ปกติข้อไหล่ของคนเราจะประกอบไปด้วยกระดูก 3 ส่วน ได้แก่ กระดูกไหปลาร้าสะบัก และต้นแขน มีรูปร่างเหมือนกับลูกบอลที่อยู่ในเบ้าตื้นๆ โดยบริเวณรอบๆ ลูกบอลก็จะมีเยื่อหุ้มข้อ และเส้นเอ็นกล้ามเนื้อมาปกคลุมส่วนปัญหาของข้อไหล่ยึดติด เกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อและมีการหนาตัว หรือเกิดพังผืดภายในเยื่อหุ้มข้อไหล่ ทำให้การขยับและเคลื่อนไวของข้อไม่ได้เต็มที่ มักพบได้บ่อยในคนไข้ที่มีอายุตั้งแต่ 40-60 ปีขึ้นไป และเป็นในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
อาการของโรคแบ่งได้เป็น 3 ระยะ โดยในระยะแรกจะมีอาการปวดข้อไหล่มากเมื่อมีการเคลื่อนไหวของข้อ หรือระยะเริ่มแข็งตัว(Freezing) ระยะนี้ใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ถึง 9เดือน ระยะที่สองอาการปวดจะน้อยลงแต่จะมีการเคลื่อนไหวน้อยลง เพราะมีอาการแข็งติดขัดรู้สึกไม่สบาย การใช้ชีวิตประจำวันลำบาก หรือเรียกว่า ระยะแช่แข็ง (Frozen shoulder) ระยะนี้ใช้เวลาประมาณ 4-6 เดือน ส่วนระยะที่สามอาการข้อติดขัดเริ่มดีชั้นหรือเป็นระยะน้ำแข็งเริ่ม
ละลายผู้ป่วยจะเริ่มฟื้นตัว การขยับของข้อดีขึ้นและหายไปเอง ระยะนี้ใช้เวลา 1-2 ปี
หากยังไม่ดีอาจจะพิจารณาผ่าตัดแต่ปัญหาคือ คนไข้ที่อยู่ในระยะเริ่มแรกและระยะสอง มักจะทนความเจ็บปวดไม่ไหวและยังไม่สามารถขยับและทำงานได้สะดวก จึงมักจะต้องพบแพทย์เพื่อรับการรักษาก่อนจะถึงระยะสุด
ท้ายโดยเฉพาะในระยะที่สอง แม้คนไข้จะปวดน้อยลงแต่ยังขยับไม่ได้ เพราะพังผือติดแข็ง ไม่ว่าคนไข้จะพยายามขยับเอง
หรือให้แพทย์ช่วยก็ตาม ยังไม่สามารถขยับได้ในทุกมุม ไม่ว่าองศาใด ทั้งด้านข้าง ด้านหลัง อย่างในคุณผู้หญิงจะติดตะขอเสื้อชั้นในไม่ได้ สวมเสื้อไม่ได้ หรือบางคนเอื้อมหยิบของไม่ได้ เป็นการรบกวนชีวิตประจำวันอย่างมากแนวทางการรักษาสำหรับอาการปวดในระยะแรกแพทย์จะมุ่งลดอาการของคนไข้ก่อน โดยการให้ยาต้านการอักเสบไม่ว่ากิน หรือ ฉีด เพื่อลดอาการปวดและลดพังผืดข้างใน ต่อมาในระยะที่สอง แพทย์จะพยายามให้คนไข้ขยับเคลื่อนไหวของข้อให้มากที่สุด เพื่อให้ข้อไหล่แข็งแรงโดยเน้นการทำกายภาพด้วยท่าบริหารต่างๆ
💢โดยทั่วไปแล้วเมื่อคนไข้ได้รับยา และทำกายภาพ ส่วนใหญ่คนไข้จะมีอาการดีขึ้น ยกเว้นคนไข้บางกลุ่ม เมื่อรักษาทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วยังไม่หายหรือไม่ดีขึ้น เพราะไหล่ติดมาก ก็จะต้องพิจารณาใช้วิธีการรักษาด้วยการผ่าตัดเข้ามาช่วยทั้งการผ่าตัดแบบการทำหัตถกรรม หรือการจัดข้อไหล่ เพื่อช่วยให้มีการขยับเคลื่อนไหวของข้อไหล่ได้ดีขึ้น ไปจนถึงการผ่าตัดส่องกล้อง
เพื่อเข้าไปตัดพังผืดออก จะช่วยให้คนไข้ขยับข้อไหล่ได้ดีขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่คนไข้หลังการผ่าตัด
💢อาการจะดีขึ้นประมาณ 6 สัปดาห์ ถึง 3 เดือน
ปัจจุบันคนไข้เป็นโรคข้อไหล่ติดยึดแข็งกันมากขึ้น โดยเฉพาะคนทำงานที่ใช้งานของข้อไหล่ในชีวิตประจำวันน้อย ออกกำลังกายไม่สม่ำเสมอ และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุต่างๆ แม้จะเป็นโรคไม่ร้ายแรง แต่ก็ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุขทางที่ดีที่สุดคือ ป้องกันอย่าปล่อยให้เป็นโรคข้อไหล่ติดยึดแข็งด้วยการออกำลังกาย และพยายามขยับข้อไหล่ให้มากขึ้น
cr.:เจ้าของบทความ.......................................................................
ติดต่อ ปรึกษา ฟรี....
คุณก้อย 080-629-2442 , 089-002-7969
ติดตามข้อมูลคลิ๊ก https://line.me/R/ti/p/%40rgd0980j

ข้อเข่าเสื่อม  ข้อเข่าเสื่อมพบในวัยใดบ้าง          โรคข้อเสื่อมมีความสัมพันธ์อย่างมากกับอายุ โดยทั่วไปจะพบมากในช่วงอายุ ...
05/05/2017

ข้อเข่าเสื่อม
ข้อเข่าเสื่อมพบในวัยใดบ้าง
โรคข้อเสื่อมมีความสัมพันธ์อย่างมากกับอายุ โดยทั่วไปจะพบมากในช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไปและพบสูงถึงร้อยละ 60 ในกลุ่มที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตามโรคข้อเสื่อมไม่ได้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามวัยหรือจากการสึกหรอตามธรรมชาติเสมอไป

ปรึกษาฟรี คุณก้อย 089-002-7969 , 080-629-2442
ติดตามข้อมูล คลี๊ก
https://line.me/R/ti/p/%40rgd0980j

โรคข้อเสื่อมเป็นการเปลี่ยนแปลงในเซลล์และเนื้อกระดูกอ่อนข้อต่ออย่างเป็นขั้นเป็นตอน จนทำให้โครงสร้างและการทำงานของกระดูกอ่อนเสียไป ซึ่งติดตามด้วยกระบวนการซ่อมแซมกระดูกอ่อนและปรับแต่งกระดูก การลุกลามของอาการข้อเสื่อมจึงแตกต่างกันไป บางรายเกิดการลุกลามอย่างรวดเร็วที่ข้อหนึ่ง แต่ข้ออื่นๆ กลับเป็นไปอย่างช้าๆ บางครั้งก็อาจจะดีขึ้นเอง นั่นคือ มีการซ่อมแซมให้คืนสภาพเดิมทำให้อาการปวดลดลง
โรคข้อเสื่อมมีโอกาสรักษาให้หายขาดได้หรือไม่
ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีการศึกษาวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าโรคข้อเสื่อมเกิดจากภาวะความผิดปกติที่ข้อต่อมากกว่าการสึกหรอตามวัย การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบริเวณกระดูกอ่อนข้อต่อและกระดูกเกิดขึ้นอย่างเป็นขั้นตอน หากสามารถพบความผิดปกติที่ขั้นตอนใดก็สามารถหาวิธีในการป้องกันหรือรักษาข้อเสื่อมได้ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะรักษาหรือชะลอการลุกลามของโรคข้อเสื่อมได้
ในปัจจุบันนักวิจัยได้ค้นพบยีนส์หลายตัวที่มีความสัมพันธ์กับโรคข้อเสื่อม และประเมินว่าโรคข้อเสื่อมถูกกำหนดด้วยพันธุกรรมถึงร้อยละ 60 ในอนาคตแพทย์อาจจะสามารถคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคข้อเสื่อมได้ โดยการเจาะเลือดตรวจหายีนส์ที่สัมพันธ์กับการเกิดโรค เพื่อให้ความรู้และแนะนำวิธีการป้องกันโรคแก่ผู้ป่วยแต่ละรายได้อย่างเหมาะสม
อาหารที่ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยง
ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีแคลอรีสูงซึ่งจะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสม โดยเฉพาะอาหารในกลุ่มวิตามิน เช่น วิตามินอี วิตามินซี เบตาแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยสร้างคอลลาเจน วิตามินเหล่านี้จะช่วยชะลอการลุกลามของข้อเสื่อมได้เล็กน้อย มีการศึกษาที่น่าสนใจในสหรัฐอเมริกาพบว่า ผู้ที่มีระดับวิตามินดีในเลือดต่ำจะมีความเสี่ยงต่อการลุกลามของข้อเสื่อมมากกว่าผู้ที่มีระดับวิตามินดีสูง ดังนั้น นอกจากจะต้องรับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่ในปริมาณที่เหมาะสมแล้ว ควรออกกำลังกายกลางแจ้งอย่างสม่ำเสมอด้วย

ปรึกษาฟรี คุณก้อย 089-002-7969 , 080-629-2442
ติดตามข้อมูล คลี๊ก

ออฟฟิศซินโดรม โรคฮิตของเหล่ามนุษย์เงินเดือน หากไม่อยากเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ป่วยโรคนี้ แนะนำให้รีบปรับเปลี่ยนเพื่อเลี่ยงก่อ...
29/04/2017

ออฟฟิศซินโดรม โรคฮิตของเหล่ามนุษย์เงินเดือน หากไม่อยากเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ป่วยโรคนี้ แนะนำให้รีบปรับเปลี่ยนเพื่อเลี่ยงก่อนจะสาย

รูปแบบการทำงานของสาว ๆ ยุคนี้ส่งผลต่อความเจ็บป่วยทางจิตใจและร่างกายมากทีเดียว จึงมีคนจำนวนไม่น้อยประสบปัญหาอาการปวดเรื้อรัง อันเนื่องมาจากการใช้ชีวิตที่รีบเร่ง ทำงานในพื้นที่จำกัด และชีวิตส่วนใหญ่ถูกผูกติดอยู่กับโต๊ะและจอคอมพิวเตอร์แทบตลอดเวลา พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นที่มาของอาการ "ออฟฟิศซินโดรม" นั่นเองค่ะ

ไม่ใช่เพียงแค่ขาดการเคลื่อนไหว ออฟฟิศซินโดรมยังหมายรวมไปถึงกลุ่มอาการในเรื่องของระบบทางเดินหายใจและภูมิแพ้ ผลจากการอยู่ในออฟฟิศที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เครื่องปรับอากาศที่ไม่สะอาด รวมไปถึงสารเคมีจากหมึกของเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องแฟกซ์ และเครื่องพิมพ์เอกสาร ซึ่งวนเวียนอยู่ภายในห้องทำงานอีกด้วย


ออฟฟิศซินโดรมคืออะไร

ออฟฟิศซินโดรม คือ กลุ่มอาการที่พบบ่อยในคนที่ทำงานในออฟฟิศ ซึ่งต้องนั่งทำงานตลอดเวลา แทบไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายไปไหนมาไหน ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการตึงเครียด เมื่อนั่งนาน ๆ เข้าจะก่อให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบ ปวดเมื่อยหลัง ไหล่ คอ บ่า แขน ข้อมือ บางรายปวดเกร็งอย่างรุนแรงจนหันคอ หรือก้มเงยไม่ได้เลย

ทั้งนี้ คนส่วนใหญ่มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกายแล้วคิดว่าไม่เป็นอะไร คิดว่านวด หรือทายานวดบ่อย ๆ ก็คงหาย แต่หากยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ปล่อยอาการปวดแบบนี้ทิ้งไว้นาน ๆ อาการจะยิ่งหนักขึ้น เรื้อรังไปถึงขั้นมีอาการหมอนรองกระดูกเสื่อม หรือหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทได้เลย ซึ่งจะทำให้มีอาการปวดคอ ปวดสะบัก อาจมีหินปูนหรือกระดูกงอกมาเกาะไขสันหลัง ทำให้ปวดชาที่แขน มีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อได้

สำหรับผู้ที่มีอาการหมอนรองกระดูกสันหลังคอเสื่อม มักจะปวดศีรษะ ได้ยินเสียงดังในหู ปวดกระบอกตา วิงเวียนเหมือนบ้านหมุน ยิ่งเคลื่อนไหวคอมากจะยิ่งปวด ต้องพบแพทย์เพื่อรักษา โดยต้องลดการเคลื่อนไหวของคอลง และออกกำลังกายกล้ามเนื้อบริเวณคอร่วมกับทานยาระงับปวด และทำกายภาพบำบัดเพื่อบรรเทาอาการ แต่หากมีอาการกดทับเส้นประสาทมาก แพทย์จะต้องทำการผ่าตัดเพื่อเอาหมอนรองกระดูกที่เคลื่อน หรือกระดูกงอกที่กดทับเส้นประสาทออกมา ซึ่งอาจต้องใช้โลหะดามกระดูกคอร่วมด้วย

นอกจากบริเวณหลัง คอ บ่า ไหล่ แล้ว ส่วนข้อมือก็มีโอกาสเกิดอาการปวดได้เช่นกัน เพราะต้องใช้มือในการกดคีย์บอร์ด คลิกเม้าส์ เมื่อกระดกข้อมือขึ้นลงซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน ก็ทำให้เกิดการอักเสบบริเวณเส้นเอ็น รวมทั้งเกิดภาวะพังผืดหนา ทำให้เกิดอาการชาบริเวณนิ้วและข้อมือตามมา บางคนเป็นถึงขนาดนิ้วล็อก ขยับนิ้วมือได้ลำบาก ต้องผ่าตัดรักษา
แบบไหน "ใช่" ออฟฟิศซินโดรม

มีข้อมูลยืนยันว่า อาการนี้พบบ่อยและพบมากในกลุ่มคนทำงาน โดยเฉพาะกลุ่มสาวออฟฟิศ และด้วยวิถีการทำงานในพื้นที่จำกัดและขาดการเคลื่อนไหว ทำให้เกิดอาการออฟฟิศซินโดรมขึ้นได้ไม่ยาก อยากรู้ว่าตัวเองเสี่ยงกับอาการนี้หรือไม่ ให้คุณลองสังเกตตัวเองดูว่า

มักจะนั่งทำงานติดต่อกันนาน ๆ

เพ่งจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันนานเกิน 1 ชั่วโมง

โต๊ะ-เก้าอี้ ที่ใช้นั่งทำงานไม่สะดวกสบาย

นั่งใกล้เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องแฟกซ์ หรือเครื่องพิมพ์เอกสาร

ถ้าคำตอบคือ ใช่ เพียงแค่ 1 ข้อ ก็ถือว่ามีความเสี่ยงแล้ว แต่อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ เพียงลุกขึ้นบิดตัว ขยับซ้าย-ขวา จะช่วยให้อาการดีขึ้น เพราะอาการดังกล่าวเกิดมาจากความเมื่อยล้าในการทำงาน ตำแหน่งที่มักจะเกิดอาการปวดเมื่อย คือ คอ สะบักและศีรษะ รองลงมาคือ บริเวณหลัง บางครั้งมีอาการมือชาด้วย

แต่บางคนอาจมีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ อาจรู้สึกหายใจไม่เต็มที่ หายใจไม่สะดวก อึดอัด นอกจากนี้ความเครียดจากการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากการทำงาน หรือเครียดจากร่างกายซึ่งอยู่ในท่าที่ไม่เหมาะ อุณหภูมิห้องร้อนหรือเย็นเกินไป และเลือดไหลเวียนไม่สะดวก ทำให้อาการออฟฟิศซินโดรมชัดเจนยิ่งขึ้น

อาการใกล้ตัวนี้ถ้าเป็นมาก จะก่อกวนระบบประสาทอัตโนมัติบริเวณคอและศีรษะ ทำให้ปวดเมื่อยคอ ตาพร่า หูอื้อ มึนศีรษะ หากละเลยไม่ใส่ใจอาจถึงขั้นวูบได้ ดังนั้นควรหมั่นสังเกตและใส่ใจตัวเองอย่างสม่ำเสมอค่ะ
ออฟฟิศซินโดรม...เลี่ยงได้ไม่ยาก

อาการนี้แม้จะมีวิธีการรักษา แต่ก็ทำให้เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย คงดีกว่าหากออฟฟิศซินโดรมจะไม่มากล้ำกราย เพราะฉะนั้นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมรวมถึงอุปกรณ์บางอย่าง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงกับอาการนี้ให้น้อยลง

ปรับพฤติกรรม

กะพริบตาบ่อย ๆ

ยืดเหยียดกล้ามเนื้อมือและแขนทุก ๆ 1 ชั่วโมง

พักสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ทุก ๆ 10 นาที

เปลี่ยนท่าการทำงานทุก 20 นาที

นั่งหลังตรงชิดขอบด้านในของเก้าอี้

วางข้อมือในตำแหน่งตรง ไม่บิด หรืองอข้อมือขึ้นหรือลง


ปรับอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน

1.คอมพิวเตอร์

ตั้งจอคอมพิวเตอร์และคีย์บอร์ดไว้ในแนวตรงกับหน้า

ขอบบนของจอคอมพิวเตอร์ ควรอยู่ระดับสายตา ในท่านั่งที่คุณรู้สึกสบาย

จอคอมพิวเตอร์ควรอยู่ห่างเท่ากับความยาวแขน ซึ่งเป็นระยะที่อ่านสบายตา

ควรให้จออยู่ในมุมที่เหนือกว่าระดับตาเล็กน้อย

ใช้เมาส์ โดยพักข้อศอกบนที่รองแขน และสามารถเคลื่อนไหวได้แบบไม่จำกัดพื้นที่


2.โต๊ะ-เก้าอี้

ควรปรับให้ขอบของเบาะเก้าอี้ต่ำกว่าระดับเข่า

ลองนั่งบนเก้าอี้ แล้ววางเท้าลงบนพื้น ให้ขาทำมุมประมาณ 90 องศา

ปรับพนักพิงให้รองรับกับหลังส่วนล่าง ถ้าไม่สามารถทำได้ใช้หมอนหนุนหลังส่วนล่าง

ปรับที่รองแขนให้อยู่ระดับข้อศอกและไหล่อยู่ในระดับที่ผ่อนคลาย

ปรับให้มีช่องว่างระหว่างขอบเก้าอี้กับขาด้านหลัง
ปรับที่วางคีย์บอร์ดให้อยู่ในระดับข้อศอก ทำมุม 90 องศา

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและอุปกรณ์หลักที่ต้องใช้แล้ว ควรให้ความสำคัญเรื่องออกกำลังกายด้วย โยคะเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสมมาก เพราะยืดเหยียดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ได้ดี รวมถึงการออกกำลังกายด้วยวิธีอื่น ๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของสุขภาพและกล้ามเนื้อ เพียงเท่านี้...ออฟฟิศซินโดรมไม่มากล้ำกรายให้วุ่นวายแล้วค่ะ

สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ก้อย 080-629-2442 , 089-002-7969

ที่อยู่

Bangkok
10510

เบอร์โทรศัพท์

0806292442

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Dboone ดีบูน ศูนย์ฟื้นฟูดูแลโรคกระดูกและข้อเสื่่อมผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง Dboone ดีบูน ศูนย์ฟื้นฟูดูแลโรคกระดูกและข้อเสื่่อม:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram