กัลยาคลินิกการแพทย์แผนไทย

กัลยาคลินิกการแพทย์แผนไทย มองโรคแบบแผนไทย รักษาไข้แบบองค์รวม

ทางแพทย์แผนไทย
๑. กัลยาคลินิกการแพทย์แผนไทย เลขที่ใบอนุญาต 12108000964
๒. แพทย์แผนไทยประจำคลินิก พท.ว. กัลยา โชติธาดา เลขที่ 23685
๓. เภสัชกรรมไทยประจำคลินิก พท.ภ. กัลยา​ โชติธาดา เลขที่ 29978

การศึกษา
๑. ปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
๒. ปริญญาตรี บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต

การทำงาน
ข้าราชการรัฐสภาสามัญ ตำแหน่งนายช่างพิมพ์ ระดับอาวุโส

07/11/2025

ก้อนแข็งใต้นิ้วด้านฝ่ามือ (หน่อโจว) 🫷
🥹หลังจากนวดมานับสิบปี ใต้นิ้วชี้ขวาก็มีก้อนแข็งเป็นไต อ.สุวัฒน์บอกว่าเป็นหน่อโจว และให้ท่ารักษาแบบไม่ต้องนวด ไอเรารึก็ดีใจว่าน่าจะไม่เจ็บ ปรากฎว่าเจ็บโคตรไปทั้งร่าง
🖐️วิธีแก้ดูจากคลิป คือใช้ฝ่ามือวางราบ ตัวอยู่ในท่าเหมือนคลาน ยกตัวให้สันหลังตรง จากนั้นโย้ตัวไปด้านหน้าจนข้อมือพับให้ได้ 45 องศา แขนตรง เข่าขนานจากพื้น โย้แล้วค้างไว้ราว 3 วิแล้วดึงตัวกลับ แล้วทำต่อ ครั้งแรกที่ทำคือแข็งกว่านี้มาก เจ็บน้ำตาแทบไหล ทำได้แปบเดียว จะตึงตั้งแต่นิ้ว ข้อมือ แขน มาไหล่ ทำทุกวันสัก 3 นาทีจะค่อย ๆ เล็กลง รวมถึงพังผืดรัดข้อมือก็จะคลายลง แต่ต้องโย้ตัวไปมาด้วย
🤷นอกจากลดหน่อโจวแล้วถ้าทำประจำ จะไม่ปวดคอบ่าไหล่เลย ลองดูนะคะ แต่บอกก่อนว่าเจ็บมากกกกก 😭 ด้วยความรักและปรารถนาดีจาก #กัลยาคลินิกการแพทย์แผนไทย
รูปก้อนแข็งใต้นิ้วอยู่ในคอมเมนต์ค่ะ
#ก้อนแข็งใต้นิ้ว
#คอบ่าไหล่
#นวดรักษา
#หน่อโจว

ธ สถิตในดวงใจตราบนิจนิรันดร์น้อมศิระกราน กราบแทบพระยุคลบาทด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ข้าพระพุท...
25/10/2025

ธ สถิตในดวงใจตราบนิจนิรันดร์

น้อมศิระกราน กราบแทบพระยุคลบาท
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

ข้าพระพุทธเจ้า กัลยาคลินิกการแพทย์แผนไทย 🫸🫷

🥹 สรุปรวมเรื่องบัตรทอง เห็นภาพ เข้าใจง่ายสุด2️⃣0️⃣0️⃣ และสำหรับคลินิกแพทย์แผนไทยบางแห่งที่สามารถนวดรักษาคนไข้ได้ในงบ 200...
21/10/2025

🥹 สรุปรวมเรื่องบัตรทอง เห็นภาพ เข้าใจง่ายสุด
2️⃣0️⃣0️⃣ และสำหรับคลินิกแพทย์แผนไทยบางแห่งที่สามารถนวดรักษาคนไข้ได้ในงบ 200 บาท/ต่อครั้ง ได้เงินเชื่อ และอาจไม่ได้รับเงินบางส่วนเพราะผิดกติกาที่ปรับเปลี่ยนตลอดของ สปสช. เอง
💆 คลินิกแพทย์แผนไทยบางแห่งที่ว่านี้รักษาได้ในงบ 200 บาทมากกว่าครึ่งชั่วโมง งงใจมากว่าต้นทุนเท่าไหร่ (ของเราทั่วไปนวดชั่วโมงละ 600 บาทและจะปรับขึ้นอีก) ราคาใกล้เคียงกับร้านนวดเพื่อสุขภาพ รึต้องการไปแข่งขันกับเขากันแน่ แต่ที่แน่ ๆ คือยังแขวะคลินิกเราที่มีต้นทุนของเรา
🥱 ส่วนตัวคิดว่าคลินิกแบบนี้คุณภาพในการรักษาได้ยาก เพราะติดกับดักต้นทุน เน้นปริมาณคนไข้มากกว่า ระยะยาวคลินิกแบบนี้จะเป็นกึ่ง ๆ ร้านนวดเพื่อสุขภาพค่ะ รักษาแบบขอไปที ความน่าเชื่อถือด้านรักษาลดลงแน่นอน เน้นเบิก สปสช. ให้มากที่สุดจนถึงวันที่จะเบิกไม่ได้
😘 ขอสรุปว่า คลินิกมีหน้าที่รักษาคนไข้ แตกต่างจากร้านวดเพื่อสุขภาพชัดเจน คือรักษาสาเหตุของโรค ส่วนมากจะหนักจนนวดเพื่อสุขภาพไม่หาย มีวิธีนวดที่ต่างกัน เรียนมา 3 ปีเรื่องการรักษาต้องนำมาใช้จริง (ไม่รวมหาประสบการณ์การนวดเพิ่ม) แม้แต่แพทย์แผนไทยเอง แต่ละคนก็นวดต่างกัน ขึ้นอยู่กับการหาความรู้ การฝึกฝน ทักษะที่มี เราควรรู้ศักยภาพเรา และทำในสิ่งที่ควรทำ ไม่ใช่ทำตนให้ครบคุณสมบัติในการเบิกเงินเท่านั้นค่ะ ด้วยความรักและปรารถนาดีจาก #กัลยาคลินิกการแพทย์แผนไทย
#สปสช
#บัตรทอง
#นวดรักษา
#คลินิกบัตรทอง
#ดราม่าบัตรทอง

💣 สรุปดราม่า "บัตรทอง/สปสช.” — เรื่องใหญ่ที่คนไทยยังไม่รู้ตัว

ตอนนี้…
🏥 โรงพยาบาลทั่วประเทศกำลังขาดทุน
👩‍⚕️ หมอ–พยาบาลใน รพ.รัฐ ทำงานหนักแต่ไม่ได้รับเงิน
❗️และที่น่ากังวลที่สุด — ประชาชนกำลังจะไม่มีที่รักษา

ทั้งหมดนี้ เริ่มต้นจากหน่วยงานที่ชื่อว่า
"สปสช. (สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ)"
หรือที่คนคุ้นกันในชื่อ "ระบบบัตรทอง"

วันนี้จะพาอ่านเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ
ฉบับที่คนไม่มีพื้นฐานก็เข้าใจได้

เพราะนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของหมอ
แต่คือ เรื่องของคนไทยเกือบทั้งประเทศ ที่พึ่งพาระบบนี้อยู่ทุกวัน 🩺

==================
🔴 บัตรทองคืออะไร? สปสช.คือใคร?
🔴 ปัญหาหลักของระบบตอนนี้
🔴 แล้วโรงพยาบาลได้เงินจากสปสช.ยังไง?
🔴 ยังไม่จบ… “กฎ 3%” ที่เอาเปรียบสุดๆ
🔴 โรงพยาบาลรัฐ “ขาดทุน-ติดลบ” หนักขึ้นทุกไตรมาส
🔴 หมอ-พยาบาล ทำงานแล้วไม่ได้เงิน
🔴 แล้วประชาชนล่ะ? ได้รับผลกระทบไหม?
🔴 ตัวอย่างชัดๆ โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โดนเล่นงานจาก “การเปลี่ยนกติกาย้อนหลัง”!
🔴 คำพูดสวยหรูของสปสช. = ฉากบังหน้า
==================

🔴 บัตรทองคืออะไร? สปสช.คือใคร?

1.บัตรทอง คือสิทธิรักษาฟรีสำหรับคนไทยประมาณ 48 ล้านคน
หรือ >70% ของประชากรทั้งประเทศ
(คนที่ไม่ได้เป็นข้าราชการ และไม่ได้อยู่ในประกันสังคม)

2.เงินทั้งหมดที่ใช้ดูแลระบบบัตรทองนี้ มาจากภาษีของประชาชน
รวมแล้วมากกว่า 200,000 ล้านบาทต่อปี

เงินก้อนนี้… ไม่ได้ไปที่โรงพยาบาลโดยตรง
แต่ส่งไปให้ "สปสช." เป็นคนถือเงินไว้
และเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะจ่ายให้โรงพยาบาลเท่าไรและเมื่อไหร่

3.สรุปง่ายๆ คือ
โรงพยาบาล = คนทำงานจริง รักษาคนไข้จริง ใช้ของจริงๆ
สปสช. = คนถือกระเป๋าเงินใบใหญ่ ค่อยทยอยจ่ายให้ทีหลัง
จะเร็ว จะช้า จะให้ครบหรือไม่ก็แล้วแต่เขา
และปัญหาทั้งหมด… ก็กำลังเริ่มต้นจากตรงนี้

——————

🔴 ปัญหาหลักของระบบตอนนี้

4.โรงพยาบาลทุกแห่งในระบบบัตรทองต้องทำหน้าที่ออกเงิน “รักษาคนไข้ไปก่อน”
ทั้งค่ายา ค่าหัตถการ เครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์การแพทย์ทุกอย่าง
แล้วค่อยไป “เบิกเงินคืนทีหลัง” จากสปสช.

แต่สิ่งที่โรงพยาบาลเจอซ้ำแล้วซ้ำเล่า คือ
• 💸 ได้เงินช้า
• 💸 ได้ไม่ครบ
• 💸 บางครั้งโดนเปลี่ยนกฎกติกากลางทาง แล้วโดนเรียกเงินคืน

5.ลองนึกภาพตามง่ายๆ

มีเพื่อนมาบอกคุณว่า
“ช่วยไปซื้อข้าวกล่องให้หน่อย เดี๋ยวกลับมาเราจ่ายให้”
คุณก็ใจดีควักเงินซื้อให้ราคา 80 บาท

พอคุณเอาข้าวให้เพื่อน
เพื่อนบอกว่า “เอ้อ… ไว้ค่อยจ่ายวันหลังนะ”

ผ่านไปหลายเดือน… เพื่อนคนนั้นกลับมาบอกว่า
“เอ่อ… ตอนนั้นที่ให้ไปซื้ออะ ขอจ่ายให้แค่ 20 บาทนะ”

😓 คุณขาดทุนไป 60 บาททันที

ตอนนี้… โรงพยาบาลหลายแห่งทั่วประเทศ
กำลังเจอสถานการณ์แบบนี้
แต่ไม่ใช่เรื่องข้าวกล่อง…
มันคือชีวิตของคนไข้จริงๆ ที่ต้องแลกมา

——————

🔴 แล้วโรงพยาบาลได้เงินจากสปสช.ยังไง?

6.อย่าเพิ่งตกใจถ้าเห็นคำว่า “DRG”, “RW” หรือ “AdjRW”
มันคือระบบคิดเงินของสปสช.ง่ายๆ แบบนี้เลยครับ 👇

ระบบนี้คือการ “คิดคะแนน” ให้กับโรคแต่ละโรค
• โรคหนัก รักษายาก = ได้คะแนนเยอะ
• โรคเบา รักษาง่าย = ได้คะแนนน้อย

จากนั้น…
คะแนนนี้จะถูกเอาไปคูณกับ “ค่าเงินต่อคะแนน” ที่สปสช.เป็นคนกำหนด
= เงินที่โรงพยาบาลจะได้รับ

📌 ตัวอย่างให้เห็นภาพ
สมมติ เคสหนึ่งได้ 2 คะแนน
ถ้าสปสช.กำหนดให้ “1 คะแนน = 8,350 บาท”
โรงพยาบาลก็จะได้เงินคืน 16,700 บาท

7.แต่ปัญหาคือ…
กลางปีที่ผ่านมา สปสช.แอบลดค่าเงินต่อคะแนนลงเหลือ 7800 บาท
โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้าใดๆ

และที่เลวร้ายยิ่งกว่าคือ…
💥 เรียกเก็บเงินคืนย้อนหลัง จากโรงพยาบาลทั้งหมด
แม้แต่เคสที่รักษาเสร็จไปแล้วและได้เงินไปแล้วตามราคาที่เคยตกลงกันไว้

ยกตัวอย่างเช่น
รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น ถูกสปสช.เรียกเงินคืนมากถึง 34 ล้านบาท
ทั้งที่รักษาคนไข้ตามกติกาทุกอย่าง แทนที่จะได้เบิกเงินได้ กลับกลายเป็นติดหนี้ให้สปสช. แทน

8.ลองนึกภาพตามดูนะครับ

คุณทำงานมา 10 เดือน ได้เงินเดือนเดือนละ 20,000 บาท
รวมแล้วคุณได้รับเงินไปแล้วทั้งหมด 200,000 บาท

แต่วันหนึ่ง ฝ่ายบัญชีเรียกคุณไปบอกว่า…
“ขอโทษด้วยนะ เราเพิ่งรู้ว่าเงินบริษัทไม่พอ
เราจะขอลดเงินเดือนคุณลงเหลือแค่ 10,000 บาทต่อเดือน
และเงิน 10 เดือนที่จ่ายไปแล้ว — ขอปรับลดย้อนหลังด้วยนะ
จาก 20,000 เหลือแค่ 10,000
งั้นช่วยคืนเงินเรามา 100,000 บาทด้วยนะ…”

แถมยังบอกว่า
“อีก 2 เดือนสุดท้าย เราจะจ่ายให้ตามอัตราใหม่ เดือนละ 10,000 บาท
รวมแล้วคุณจะได้เงินเพิ่มอีกแค่ 20,000 บาท”

สรุปคือ
• คุณจะได้เพิ่มอีกแค่ 20,000
• แต่ต้องคืนบริษัท 100,000
• เท่ากับคุณกลายเป็น “หนี้บริษัท” ทันที 80,000 บาท❗️
ทั้งที่คุณทำงานครบทุกวัน ไม่มีอะไรผิดเลย

แบบนี้… แฟร์ไหมครับ?

🏥 ตอนนี้โรงพยาบาลทั่วประเทศ กำลังเจอแบบนี้

ทั้งหมดนี้ เพราะอะไร?

เพราะสปสช.บริหารเงินไม่พอ
พอเงินใกล้หมด ก็เลยลดค่าเงินต่อคะแนน
เพื่อ “จ่ายให้น้อยลง” กับทุกโรงพยาบาล
แม้จะเป็นเคสที่รักษาไปแล้วก็ตาม

——————

🔴 ยังไม่จบ… “กฎ 3%” ที่เอาเปรียบสุดๆ

9.สปสช.มีกฎว่าจะสุ่มตรวจเวชระเบียนคนไข้ (เอกสารการรักษา)
อย่างน้อย 3% ของจำนวนทั้งหมด
เพื่อดูว่า… หมอ “กรอกเอกสารถูกไหม?” ให้ “คะแนนโรค” ตามจริงหรือเปล่า?

10.ถ้าหมอรักษาคนไข้จริงแต่เอกสารกรอกไม่ครบ เช่น ลืมเซ็นชื่อหรือพิมพ์ผิดนิดเดียว สปสช.จะหักคะแนนออกทันทีแล้วก็เรียกเงินคืนจากโรงพยาบาล

📌 ปัญหาใหญ่คือ…
สปสช.ไม่ได้หักแค่ “เคสที่ตรวจเจอ” เท่านั้น
แต่จะเอาผลการตรวจแค่ 3%
→ ไปคูณกับ 100% ทั้งหมดเลย!

สมมุติว่า…
โรงพยาบาลมีคนไข้ 100 คน
สปสช. ตรวจแค่ 3 คน (ตามกฎ 3%)

แล้วเจอว่าจาก 3 คน
หมอลงคะแนนไว้รวม 100 คะแนน
แต่สปสช.หักออกเหลือ 50 คะแนน
→ แปลว่าโดนหักคะแนนไปครึ่งนึงใน 3 เคสนี้

💣 ทีนี้ สปสช.จะสั่งหักเงินอีก 97 เคสที่เหลือทั้งหมดด้วย!
แม้ไม่ได้เปิดดูเอกสารเลยสักใบ

💥 เหมือนคุณส่งการบ้าน 100 ชิ้น
ครูสุ่มดูแค่ 3 ชิ้น เจอสะกดผิดไปนิดนึง
แล้วครูบอกว่าผิดทั้งหมด!
→ ตัดเกรดตกทั้งร้อยชิ้น โดยไม่เปิดดูอีก 97 ชิ้นเลย

11. มาดูตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้น
– โรงพยาบาลผ่าตัดคนไข้โรคต่อมลูกหมากโต ใช้เงินไปไปประมาณ 15,000 บาท
– แพทย์ลงข้อมูลว่าเป็นการผ่าตัด ได้คะแนน 1.5 คะแนน
→ ซึ่งหมายถึงควรได้เงินคืน = 1.5 × 8,350 = 12,525 บาท

– แต่เมื่อถูกสุ่มตรวจ สปสช.หาเรื่องบอกว่าการวินิจฉัยแบบนี้ ให้แต้มแค่ 0.5 เท่านั้น
แปลว่าเบิกเงินได้เพียง = 0.5 × 8,350 = 4,175 บาท

โรงพยาบาลลงทุน 15,000 บาท แต่เบิกได้แค่ 4175 บาท ในเคสนี้
ทั้งที่ผ่าตัดจริง ใช้ทรัพยากรจริง แต่ต้องขาดทุน

——————

🔴 โรงพยาบาลรัฐ “ขาดทุน-ติดลบ” หนักขึ้นทุกไตรมาส

12.ปัญหาที่เลวร้ายที่สุดของระบบนี้ก็คือ…
โรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศเริ่ม “ขาดทุน” และ “เงินบำรุงติดลบ” เพิ่มขึ้น

จากรายงานล่าสุด ไตรมาส3 ปี 2568 พบว่า
มีโรงพยาบาลมากถึง 326 แห่ง ที่เงินบำรุงติดลบ รวมกันกว่า 8,200 ล้านบาท
และจำนวนโรงพยาบาลที่เข้าสู่ภาวะขาดสภาพคล่องกำลังเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว 📉
• ไตรมาสแรก: ขาดทุน 4,200 ล้านบาท (195 แห่ง)
• ไตรมาสสอง: ขาดทุน 5,700 ล้านบาท (218 แห่ง)
• ไตรมาสสาม: ขาดทุน 8,200 ล้านบาท (326 แห่ง)

❗️คำถามคือ… ถ้าไม่มีเงินพอจ่ายค่าอุปกรณ์การแพทย์ ค่ายา ค่าตอบแทนบุคลากร
แล้วโรงพยาบาลจะรักษาคนไข้ได้อย่างไร?

——————

🔴 หมอ-พยาบาล “ทำงานแล้วไม่ได้เงิน”

13. ลองคิดดูว่า ถ้าคุณทำงานหนัก อดหลับอดนอน เพื่อดูแลชีวิตคนไข้
แต่พอถึงสิ้นเดือน กลับไม่มีเงินเดือนให้คุณ…

นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับหมอ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ
เพราะโรงพยาบาลไม่มีเงินพอจะจ่าย เพราะสปสช.ไม่ยอมจ่าย หรือจ่ายช้า

💢 บางคนต้องรอเงิน 6 เดือน – 1 ปี ถึงจะได้เงินค่าตอบแทน
และบางครั้ง… รอไปทั้งปี สุดท้ายก็ไม่ได้จ่ายเพราะโรงพยาบาลไม่มีเงินเหลือ

หมอ-พยาบาลคือด่านหน้าของระบบรักษา
แต่กำลังถูกทำให้ “หมดแรง หมดศรัทธา” ด้วยระบบที่ไม่ยุติธรรมแบบนี้

——————

🔴 แล้วประชาชนล่ะ? ได้รับผลกระทบไหม?

14. ได้รับแน่นอนครับและกำลังเกิดขึ้นแล้วทั่วประเทศ

• 🛑 หลายโรงพยาบาลหยุดให้บริการบางอย่างหรือไม่รับผู้ป่วยเพิ่ม เพราะ “เงินไม่พอรักษา”
→ ประชาชนต้องเดินทางไปโรงพยาบาลที่ไกลกว่า เสียค่าใช้จ่ายเองเพิ่มขึ้น

• 💊 ยาที่เคยได้ครั้งละ 2-3 เดือน → ถูกลดเหลือแค่ 1 สัปดาห์
เพราะโรงพยาบาลไม่สามารถสต๊อกยาได้เหมือนเดิม

• 🚫 ยาดีๆ ยานอกบัญชี ยาที่จำเป็นบางตัว… เริ่มหายไปจากระบบ
เพราะ รพ.ไม่มีเงินพอจะสั่งเข้าคลัง

• ❤️‍🔥 ผู้ป่วยโรครุนแรงบางราย อาจไม่ได้รับการรักษาอย่างเต็มที่
เช่น คนไข้หัวใจตีบ 3 เส้น
หมอจำเป็นต้อง “เลือกทำแค่ 1 เส้น” เพราะเบิกได้แค่ครั้งเดียว
อีก 2 เส้นที่เหลือ… ต้องรอให้ “เกือบตายอีกรอบ” ถึงจะได้สิทธิ์อีกครั้ง

⚠️ นี่ไม่ใช่ “นิยายดราม่า” แต่คือสิ่งที่ “กำลังเกิดขึ้นจริง”
ในโรงพยาบาลหลายแห่งในประเทศไทย — และอาจกำลังเกิดกับคุณ หรือคนที่คุณรัก

——————

🔴 ตัวอย่างชัดๆ โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โดนเล่นงานจาก “การเปลี่ยนกติกาย้อนหลัง”!

15.เริ่มจากคำขอร้อง → กลายเป็นขาดทุน 78 ล้าน!

📌 มี.ค. 2567 — สปสช. ขอให้ “รพ.มงกุฎวัฒนะ” ช่วยรับผู้ป่วยบัตรทองกว่า 200,000 คน
📌 รพ.ตกลงช่วยเต็มที่ เพราะสปสช.บอกว่าจะจ่ายเงินตามตารางค่ารักษา (Fee Schedule)

💥 แต่เรื่องกลับไม่เป็นแบบนั้น…
– รพ.รักษาคนไข้ไปเรียบร้อย
– สปสช. ค้างจ่ายค่ารักษา 40 ล้านบาท
– ต่อมา “เปลี่ยนกติกากลางปี” โดยเอาระบบใหม่ (ระบบแต้ม) มาใช้ย้อนหลัง

ผลคือ…
✅ เดิมจะต้องได้เงิน 40 ล้าน
❌ ไม่ได้เงินคืน แถมต้องกลายเป็นติดหนี้สปสช. 38 ล้านบาทแทน!

📉 สรุป ช่วยรักษาคน → กลายเป็นขาดทุน 78 ล้านบาท!

16. หยุดรับบริการผู้ป่วยนอกบัตรทองชั่วคราว
📍 ล่าสุด พล.ต.นพ. เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนา ออกแถลงการณ์ว่า
– วันที่ 16 ตุลาคม 2568 โรงพยาบาลจำเป็นต้องหยุดให้บริการผู้ป่วยนอกสิทธิบัตรทอง แบบชั่วคราวจนกว่าสปสช.จะเคลียร์หนี้
– การหยุดนี้ ไม่ใช่เพราะโรงพยาบาลอยากถอนตัวจากระบบ แต่เพราะแบกรับภาระทางการเงินไม่ไหวแล้ว

🗣 ผอ.โรงพยาบาลกล่าวว่า
– “ระบบนี้ไม่ได้เป็นแค่ความผิดพลาดทางเทคนิค แต่เป็นระบบที่ไร้ธรรมาภิบาลอย่างสิ้นเชิง”

✅ ผลที่เกิดขึ้นคือ ผู้ป่วยบัตรทองกว่า 47,000 คน ที่เคยใช้บริการที่นี่แบบผู้ป่วยนอก (OPD) ถูกส่งผลกระทบทันที ต้องมองหาทางเลือกอื่น หรือจ่ายเองไปก่อน

——————

🔴 คำพูดสวยหรูของสปสช. = ฉากบังหน้า

17.สปสช.มักพูดว่า
“เราทำตามกฎหมาย” “เราควบคุมงบเพื่อประชาชน” “เราทำเพื่อคนไข้”

แต่ความจริงคือ…
สปสช.กำลังใช้คำว่าประชาชนบังหน้า
เพื่อกดดันโรงพยาบาลให้แบกรับภาระเองทั้งหมด
และจ่ายเงินคืนให้รพ.น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
โดยไม่สนใจว่ารพ. จะอยู่รอดหรือไม่?

เราจึงมักจะเห็นว่ารพ. ต้องเปิดรับบริจาคอยู่เรื่อยๆ
เพื่อความอยู่รอดและจะรักษาคนไข้ต่อไป

18. ถ้าปล่อยไว้แบบนี้…สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ
• หมอท้อ พยาบาลลาออก
• โรงพยาบาลขาดงบ เครื่องมือเสื่อม ยาขาดแคลน
• และสุดท้าย… ประชาชนไม่มีที่รักษา

==================

📌 นี่ไม่ใช่เรื่องของหมอหรือโรงพยาบาล
แต่มันคือเรื่องของคนไทยทุกคน

สปสช.ถือเงิน 2 แสนล้านบาทไว้ในมือ
แต่ถ้าไม่มีความโปร่งใสและไม่ยุติธรรม
เราทุกคนคือผู้ที่ต้องจ่ายแทน

อยากให้ทุกคนอ่านเรื่องนี้แล้วถามตัวเองว่า
“สิทธิ์รักษาฟรีของเรายังปลอดภัยอยู่ไหม?”

อยากให้โพสต์นี้ “พูดแทนหมอและพยาบาล”
ที่ไม่มีเวลาออกมาอธิบาย
และพูดแทนประชาชนทุกคนที่ไม่รู้ว่ากำลังเสียสิทธิ์ไปทีละน้อย 🩺

ฝากแชร์โพสต์นี้ให้คนอื่นได้รู้ทันระบบที่กำลังพัง — ก่อนจะสายเกินไป

ปอดกับการนวด 🫁🫀เมื่อวานมีคนไข้หญิงคนหนึ่งเธอปวดสีข้างเวลาไอมาก เมื่อเราซักประวัติตรวจร่างกายก็บอกว่าปอดมีปัญหา เธอบอกว่า...
14/10/2025

ปอดกับการนวด 🫁
🫀เมื่อวานมีคนไข้หญิงคนหนึ่งเธอปวดสีข้างเวลาไอมาก เมื่อเราซักประวัติตรวจร่างกายก็บอกว่าปอดมีปัญหา เธอบอกว่ารู้ได้ไง คุณหมอบอกมีฝ้าที่ปอดขวา ไม่แน่ใจว่าเป็นน้ำหรือหนอง นอนแทบไม่ได้มาหลายเดือนแล้ว ตื่นทุกครึ่งชั่วโมง ร่างกายจึงผอม กล้ามเนื้อเหลว ไม่มีแรง เจ็บหัวใจด้วย เจ็บหน้าอกและคิดว่าตัวเองเป็นมะเร็งด้วย
💆งานนี้นวดคร่า เรายืดกล้ามเนื้อที่ตึง อันที่จริงคือเกือบทั้งร่างนั่นแหละ เพียงแต่เน้นด้านขวา คลายกันยันร่องซี่โครง เมื่อปอดอยู่ตรงกลาง มีกระดูกซี่โครงโอบไว้ทั้งหน้าและหลัง ต้องนวดกันทั้งด้านหน้าและหลังเช่นกัน
😪ระหว่างนวด สัญญาณดี ๆ ก็เกิดขึ้น เธอเริ่มมีน้ำมูกตีขึ้น ลมออกรูจมูกซ้ายจนร้อน สักพักก็ขวาเริ่มมีน้ำมูก ... นี่คือสัญญาณที่ดียังไง ... ดีพราะมันเริ่มโล่งแล้วลมจึงออก ลมผลักดันให้ระบบต่าง ๆ ทำงาน ของเสียถูกนำไปกำจัด หน่วยซ่อมแซมเดินทางแบบด่วน ๆ ระดับน้อยกว่าวินาที สารอาหารตามไปติด ๆ เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้องเนอะ
🌬️เธอเริ่มมีน้ำมูกมากขึ้น เสลดก็มา ผายลมก็มี หูโล่ง ตาใสสว่างขึ้น ตอนนี้เราถามว่าลองไอดูว่าเจ็บเหมือนเดิมไหน แล้วหน้าอกเจ็บไหม เธอลองไอแต่คราวนี้เจ็บน้อยลงมาก เหลือราว 30% หน้าอกแทบไม่เจ็บเลย อาการมะเร็งหายไปล่ะ 🤣 ไม่ช่ายยยยย แค่กล้ามเนื้อตึงเฉย ๆ ไม่ใช่มะเร็งค่ะคนไข้
💪เรานวดไม่ได้รักษาปอดอักเสบนะคะ แต่นวดคลายกล้ามเนื้อที่ตึงให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การซ่อมแซม การรักษา การหล่อเลี้ยงนั้นร่างกายทำงานได้ดีในระดับนึงเลย ถ้าเป็นไม่มากก็อาจหายได้ ถ้าเป็นมากจะฟื้นตัวดีขึ้น
😁นี่คืออีกหนึ่งวันของแพทย์แผนไทยค่ะ ด้วยความรักและปรารถนาดีจาก #กัลยาคลินิกการแพทย์แผนไทย

#ไอ
#โรคปอด
#ปอดมีฝ้า
#นวดรักษา
#ปอดอักเสบ
ที่มาภาพ https://health.kapook.com/view65120.html

ธ สถิตในดวงใจ ตราบนิจนิรันดร์๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๘วันนวมินทรมหาราชพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพ...
13/10/2025

ธ สถิตในดวงใจ ตราบนิจนิรันดร์
๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๘

วันนวมินทรมหาราช
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร

ด้วยรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
เป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อมอันหาที่สุดมิได้

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า #กัลยาคลินิกการแพทย์แผนไทย 🫸🫷🥹

คุณหมอเขียนดีมาก เข้าใจง่าย 👍♥️
10/10/2025

คุณหมอเขียนดีมาก เข้าใจง่าย 👍♥️

ออกกำลังกายทุกวันนะคะ เปลี่ยนกล้ามเนื้อที่ฝ่อ แถมเต็มไปด้วยไขมันแทรกทั่วเซลล์อย่างกับวากิว ให้กลายเป็นเตาเผาน้ำตาลและไขมันขนาดใหญ่ พร้อมส่งฮอร์โมนช่วยทั้งร่าง


เรื่องที่มั่นใจว่าทุกคนทราบดีแน่ๆ ว่า ถ้าไม่ออกกำลังกาย แถมชีวิตประจำวันก็นั่งๆ นอนๆ (Sedentary lifestyle) กล้ามเนื้อจะฝ่อ ออกแรงได้น้อย

แต่เชื่อว่าทุกคนไม่รู้ว่า มันจะหนักแบบในภาพค่ะ ใช่ค่ะ มันไม่ใช่แค่ฝ่อ แต่เซลล์กล้ามเนื้อที่ควรจะมีแต่โปรตีนแท้ๆ กลับเต็มไปด้วย ‘คลังเก็บไขมัน’ (Lipid droplet) กระจัดกระจายทั่วเซลล์

ขวางการทำงานกล้ามเนื้อ ขวางปฏิกิริยาเคมีต่างๆ โดยเฉพาะวงจรสัญญาณอินซูลิน บางครั้งก็เก็บไม่อยู่ เพราะกรดไขมันยังทะลักเข้าเซลล์มาเรื่อยๆ สุดท้ายรั่วออกมานอกคลัง เปลี่ยนเป็นสารพิษทำให้ใยกล้ามเนื้ออักเสบอ่อนๆ (Lipotoxicity)


กล้ามเนื้อที่อยู่ในสภาพนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องออกแรงได้น้อย/ล้าไว แต่เราจะสูญเสีย ‘แหล่งสูบน้ำตาลออกจากเลือด’ ไปกว่า 50-70% เลย ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงลอยอยู่ได้นานมาก เกิดพิษต่ออวัยวะต่างๆ ได้ง่ายมาก

แถมไมโตคอนเดรียในเซลล์ก็มีจำนวนน้อย โครงสร้างเสียหายยับเยินจากพิษของไขมัน ผลคือการเผาผลาญไขมันก็ยิ่งแย่ไปอีก ขาดเตาเผาไขมัน ทำให้ที่อ้วนอยู่แล้ว ก็ยิ่งอ้วนง่ายขึ้น


และที่น่าเสียดายที่สุดคือ ขาดแหล่งสร้างฮอร์โมนดีๆ ของร่างกายไป ไม่ว่าจะเป็น
✔️ IL-6, IL-15 ที่คอยเพิ่มเม็ดเลือดขาว Treg ต้านอักเสบ
✔️ ฮอร์โมน Irisin ที่ช่วยเพิ่มสาร BDNF ในสมองเร่งการฟื้นฟู
✔️ Lactate ที่คอยให้แบคทีเรียในลำไส้ใช้เป็นอาหาร เพื่อเติบโตดูแลเรา
✔️ Myonectin ที่ช่วยให้หัวใจอึดทนต่อการขาดเลือดได้ดี


🔮 หรือสรุปก็คือ เสียทั้งกำลัง เสียทั้งแหล่งเคลียร์น้ำตาล เสียทั้งเตาเผาไขมัน และเสียเครือข่ายฮอร์โมน อวัยวะต่างๆ ศักยภาพหายตามมาเป็นลูกโซ่


ดังนั้นลุกมาออกกำลังกาย กู้อาณาจักรกล้ามเนื้อให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งเถอะค่ะ เพราะการออกกำลังกายถือการแก้ตรงจุดเลยค่ะ

เพราะยิ่งออกยิ่งเป็นการซ้อมให้กล้ามเนื้ออยู่ในสภาพ ‘พลังงานต่ำ’ เซนเซอร์วัดพลังงานชื่อ AMPK จะรับรู้ทันที และรีบเปิดมาตรการหาพลังงานมาทดแทน นั่นคือบีบให้กล้ามเนื้อต้องสลายไขมันที่ฝังอยู่ในตัวมาใช้

ซึ่งถ้ากระตุ้นรุนแรงมากพอ กล้ามเนื้อจะใช้วิธีสลายไขมัน ด้วยวิธีพิเศษที่เอาทั้งคลังไขมันปาเข้าถุงย่อยเลย เรียกกลไกนี้ว่า Lipophagy ซึ่งเปิดใช้งานได้สองวิธีหลักๆ เท่านั้นคือ ออกกำลังกายในระดับปานกลาง กับ Fasting


ยังไม่จบเท่านั้น กล้ามเนื้อที่ถูกซ้อมให้ stress จากตอนออกกำลังกาย จะส่งสัญญาณไปเพิ่มการสร้างไมโตคอนเดรีย เพิ่มการซ่อมแซม เพิ่มการรีไซเคิลตัวที่เสียหายมากๆ

สุดท้ายกล้ามเนื้อก็จะเต็มไปด้วยไมโตคอนเดรีย ที่พร้อมไล่เผาผลาญไขมันที่สะสมในตัวเอง และเมื่อเผาหมดแล้ว ก็เผาไขมันในร่างต่อไป เพื่อลดน้ำหนัก

และเซลล์กล้ามเนื้อที่ไร้ไขมันฝังกล้าม ก็กลับมาอีกครั้ง ไม่เกิด stress อีกต่อไป ตอบสนองต่ออินซูลินได้ดี กลับมาเป็นป้อมปราการคอยดูดน้ำตาลเข้าเซลล์ ไม่ให้น้ำตาลมันสูงลอย

แถมยังสร้างสารพัดฮอร์โมนป้องกันโรคสารพัดค่ะ


วันนี้ไม่ออก พรุ่งนี้ก็ต้องออกอยู่ดี เลี่ยงไม่ได้หรอกค่ะ
แต่ถ้าออกวันนี้ มันก็จะเริ่มต้นที่วันนี้เลย
ถ้าไม่ออก มันก็จะผ่านไปเรื่อยๆ แว้บเดียวก็ 1 ปี 5 ปี 10 ปีแล้ว

เริ่มเลยค่ะ แค่ 30 นาทีเท่านี้เอง

🤔ปวดไม่มีที่มา  💔ขนาดปวดใจมองไม่เห็นแต่มันรู้ว่าใครทำให้ปวดเนอะ แต่อันนี้ไม่มีที่มามองไม่เห็นอีกกลับดันปวด 😬เอาเรื่อง😫เค...
08/10/2025

🤔ปวดไม่มีที่มา
💔ขนาดปวดใจมองไม่เห็นแต่มันรู้ว่าใครทำให้ปวดเนอะ แต่อันนี้ไม่มีที่มามองไม่เห็นอีกกลับดันปวด 😬เอาเรื่อง
😫เคยเห็นไหมคะ ผู้สูงอายุบอกปวดเมื่อยไปทั้งตัวเลย หรือผู้ป่วยบางท่านก็ชี้ชัดไม่ได้ว่าปวดตรงไหนกันแน่ แบบนี้แพทย์แผนไทยจะทำยังไง
😱ถ้าซักประวัติแล้วไม่พบ หรือพบว่าไม่เป็นที่กล้ามเนื้อ เอ็น พังผืด กระดูกร้าวแตกหักเคลื่อน ลมก็เคลื่อนได้แต่ยังปวดแบบหาสาเหตุไม่ได้ หรือปวดมากกว่าอาการที่เห็นภายนอก นอกจากด้านจิตใจแล้วก็ยังมีบางสิ่งที่ทำให้ปวดแบบหาสาเหตุไม่ได้เหมือนกันนะเออ
😈สิ่งนี้มีอยู่ในทุกคน เมื่อทำงานมากไปจะทำให้ปวดแบบระบุตำแหน่งไม่ได้ เช่น ปวดแขนทั้งแขน จับดูก็ไม่แข็งไม่ตึงมากนัก หรือถ้าทำงานน้อยไปก็มีอาการอีกนั่นแหละ อย่างคนที่ลุกขึ้นยืนแล้วขาสั่น ๆ ต้องหาที่จับก่อน
🥹สิ่งที่ว่านี้คือเจ้าไขมันนี่เอง ฟังดูอาจไม่ค่อยคุ้นว่ามันส่งผลให้มีอาการแบบนี้ด้วยเหรอ ทำไมเราไม่ค่อยปวดพุงตรงที่มันไปกองอยู่มาก ๆ หรือมีคนบ่นว่าชั้นปวดผิวส้ม (ไขมันที่เป็นคลื่น) เหลือเกินอะไรอย่างงี้
😫เจ้าไขมันนี้มีอยู่ 2 แบบ คือแบบสีน้ำตาลและสีขาว อยู่ในร่างกายชั้นตื้น ๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ เวลามันทำงานมากไปจะปวดไปทั่ว ๆ เช่น ทั้งแขน ทั้งขา ทั้งบ่าอะไรงี้
🫨พอเรานวดแขนทั้งแขนจะไม่หายปวด เว้นแต่เราไปแก้เป็น เปลี่ยนพลังงานในร่างกายจากติดขัดเป็นคลายตัว หรือทำงานน้อยเป็นมีพลัง 🥱ตื่น ๆ มีเรื่องแล้ว นวดไม่นานเท่าไหร่อาจรู้สึกร้อน แล้วอาการปวดจะเบาลงมาก หรืออาการสั่นลดลง ร่างกายทำงานปกติขึ้น
😤บางทีก็หมั่นไส้นะ ไปกองเป็นจุด ๆ ให้เราอ้วน แล้วยังจะทำให้ปวดแบบหลอน ๆ อีก อย่างคนที่เป็นเบาหวาน ความดัน ไต มะเร็ง พวกโรคเรื้อรังทั้งหลายแหล่จะพบบ่อยเลยค่ะ วันนี้ก็มาเล่าให้ฟังเท่านี้ก่อนนะคะ ♥️ ด้วยความรักและปรารถนาดีจาก #กัลยาคลินิกการแพทย์แผนไทย
#ไขมัน
#โรคเรื้อรัง
#นวดรักษา
#ปวดเมื่อย
#ปวดไม่มีสาเหตุ

04/10/2025

ความรู้ เรื่องการทำคลอด 👍🫄

ตรวจระบบประสาทด้วยตัวเอง
03/10/2025

ตรวจระบบประสาทด้วยตัวเอง

🧒🧔ระบบสืบพันธุ์ : ปัสสาวะหลายคนอาจจะงงว่า ทำไมถึงว่าปัสสาวะคือระบบสืบพันธุ์ ... ขอตอบคร่า 👋 เพศหญิงกระเพาะปัสสาวะอยู่เหน...
25/09/2025

🧒🧔ระบบสืบพันธุ์ : ปัสสาวะ
หลายคนอาจจะงงว่า ทำไมถึงว่าปัสสาวะคือระบบสืบพันธุ์ ... ขอตอบคร่า 👋 เพศหญิงกระเพาะปัสสาวะอยู่เหนือมดลูก ท่อปัสสาวะก็อยู่ตรงอวัยวะเพศ อยู่เหนือช่องคลอดค่ะ
💧ส่วนเพศชายแนบแน่นกว่านั้น เพราะปัสสาวะกับอสุจิใช้ช่องเดียว ลึกเข้าไปมีต่อมลูกหมาก ที่เป็นเหมือนคลังอาหารให้ตัวอ่อนอสุจิ ดันมีท่อปัสสาวะผ่านตรงกลางพอดิบพอดี ฉะนั้นต่อมลูกหมากมีปัญหาปุ๊บ กระทบสองส่วนนี้เลย
การดูแลรักษาเรื่องปัสสาวะ ก็ช่วยเรื่องเพศไปด้วย แม้ไม่ทั้งหมดก็เรียก 2️⃣ in 1️⃣ ได้นะ
👍ส่วนภาพที่เห็นคือจาวตาล ซึ่งเป็นสมุนไพรสำคัญในเรื่องการรักษานิ่วในกระเพาะปัสสาวะ พอฉี่ดีต่อมลูกหมาก (ในชาย) จะไม่อักเสบ น้องจิก็ได้อาหารปกติ ต่อมลูกหมากไม่บวม เรื่องเพศก็ดีตาม
🧑‍🦳ส่วนหญิงการฉี่เล็ด ฉี่กระปริดกระปรอยน้อยลง ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ไม่ต้องใส่ให้รำคาญ เกิดผื่นแผล แต่ทั้งสองเพศควรออกกำลังกายเพื่อสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่ควบคุมการฉี่ด้วย
🧍ว่าแล้วก็นึกขึ้นมาได้ ว่าเคยจะลงภาพท่าบริหารเรื่องนี้ ขอติดไว้ก่อนอีกนะคะ แล้วจะลงวันหลัง
🫓 #ในภาพจะบรรยายเกี่ยวกับการทำยา มาอ่านกันได้ค่ะเผื่อสนใจ อันนี้เป็นเพียงขั้นตอนหนึ่ง ถ้าท่านทำเองจะรักษาอาการเริ่มต้นได้ และไม่ต้องเมื่อยทำ แค่กินจาวตาลสดครั้งละลูก เคี้ยวกินสองเวลาเช้าเย็น สักอาทิตย์นึงก็ช่วยได้ถ้าเป็นไม่มาก แต่ถ้าไม่หายก็ควรพบแพทย์ เพราะมียาอื่นประกอบด้วย แถมต้องงดอาหารทุกชนิด กินได้แค่อาหารที่กำหนด ต้องนวดรักษา มีท่าบริหารเฉพาะอีก ถึงมีคนรักษาน้อยเพราะยากกว่าการโยนยาเข้าปากมากนัก ด้วยความรักและปรารถนาดีจาก #กัลยาคลินิกการแพทย์แผนไทย

ที่อยู่

927/3 กัลยาคลินิกการแพทย์แผนไทย ถ. สามัคคี ต. ท่าทราย อ. เมือง นนทบุรี
Muang Nonta Buri
11000

เวลาทำการ

จันทร์ 18:00 - 21:00
อังคาร 18:00 - 21:00
พุธ 18:00 - 21:00
พฤหัสบดี 18:00 - 21:00
ศุกร์ 18:00 - 21:00
อาทิตย์ 09:00 - 17:00

เบอร์โทรศัพท์

+66809063492

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ กัลยาคลินิกการแพทย์แผนไทยผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง กัลยาคลินิกการแพทย์แผนไทย:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

ประเภท