ศูนย์สร้างภูมิสมดุลดวงตา โทร. 089-986-1792

ศูนย์สร้างภูมิสมดุลดวงตา โทร. 089-986-1792 ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์งานวิจัย สารสกัดจากธรรมชาติทางเลือกใหม่ในการดูแลสุขภาพล่าสุด

👉10  อาหารกินแล้วช่วยให้คุณมีสุขภาพดวงตาที่ดีขึ้นการนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานๆ  หรือแม้แต่พฤติกรรมการใช้ส...
24/02/2020

👉10 อาหารกินแล้วช่วยให้คุณมีสุขภาพดวงตาที่ดีขึ้น

การนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานๆ หรือแม้แต่พฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนแทบจะตลอดเวลา ทำงานท่ามกลางฝุ่นละออง ควัน แสงแดดจ้า แสงไฟจ้า ไอความร้อน ล้วนเป็นสิ่งทำลายดวงตาของคุณให้เสื่อมลงเร็วขึ้น และเสื่อมก่อนวัยอันควรอีกด้วย

การอยู่กับหน้าจอนานๆ มีผลเสียต่อสายตาของเราอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะหน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าจอสมาร์ทโฟน หน้าจอโทรทัศน์ ล้วนแล้วแต่มีรังสีหรือแสงสีฟ้าเข้าสู่ดวงตาได้และมีผลต่อการทำให้เกิดกลุ่มอาการทางตาได้ ซึ่งทำให้ปวดตา ตาแห้ง เกิดการระคายเคือง หากไม่มีการปรับพฤติกรรมการใช้งานสายตา เช่น มีการพักสายตาบ่อยๆ หรือใส่แว่นกรองแสงสีฟ้า ก็อาจทำให้กระจกตาอักเสบได้

👉อาหารที่ควรรับประทานเพื่อดูแลสุขภาพดวงตาของคุณมีดังนี้

🍒1. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เป็นกลุ่มผลไม้รสเปรี้ยวฉ่ำอมหวาน เป็นแหล่งของวิตามินซีมหาศาล เช่น โกจิเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ มัลเบอร์รี่(ลูกหม่อนของไทย) เป็นต้น

ผลไม้เหล่านี้มีสารสำคัญอย่างสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยบำรุงสายตาโดยตรง ช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ดวงตาถูกทำลาย ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความเสื่อมของจอประสาทตาและลดการเกิดต้อกระจกได้

🥦2. ผักใบเขียว

ผักใบเขียว เช่น ผักบุ้ง ตำลึง กวางตุ้ง คะน้า ฯลฯ ผักเหล่านี้ล้วนอุดมไปด้วยสารสำคัญอย่าง ลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอย่างหนึ่ง จากการศึกษาพบว่าช่วยลดความเสื่อมของจอประสาทตาและการเกิดต้อกระจกได้

🥚3. ไข่

ไข่แดงเป็นแหล่งของสารอาหารลูทีน และซีแซนทีน รวมไปถึง ซิงค์ ด้วย ทั้งหมดนี้ช่วยลดความเสี่ยงของการเสื่อมของจอประสาทตา ทำให้เซลล์ต่างๆ ในดวงตาแข็งแรงอยู่เสมอ

🥕4. แครอท

เป็นผักหัวใต้ดินที่มีคุณประโยชน์อันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ แครอท ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารบำรุงสายตาชั้นเยี่ยม อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ และลูทีน ช่วยดูแลสุขภาพดวงตาของคุณให้สดใสแข็งแรงอยู่เสมอ ช่วยบำรุงกระจกตา ป้องกันไม่ให้เซลล์ดวงตาถูกทำลายจากแสงแดดและรังสีอันตรายต่างๆ ช่วยส่งเสริมการทำงานของจอประสาทตา ไม่ให้เสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร

🥑5. อะโวคาโด

มาต่อกันที่ผลไม้รสนุ่มนวลอย่าง อะโวคาโด เจ้านี้มีประโยชน์ในการบำรุงสายตามากๆ เลย เพราะมีสารอาหารจำเป็น เช่น ลูทีน เบต้าแคโรทีน วิตามินบี 6 และวิตามินซี โดยจะช่วยบำรุงสายตา ป้องกันอาการตาฝ่าฟาง ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพดวงตาที่ร่วงโรยไปตามวัย

6. อัลมอนด์

ในอัลมอนด์อุดมไปด้วยวิตามินอี ซึ่งผลการวิจัยพบว่าช่วยชะลอความเสื่อมของจอประสาทตา แค่ทานวันละหนึ่งฝ่ามือ ก็ได้รับวิตามินอีถึงครึ่งหนึ่งของปริมาณที่แนะนำต่อวันแล้ว

🐟7. ปลาที่มีไขมันสูง

จากการศึกษาทางการแพทย์ทั้งในและต่างประเทศ พบว่า ปลาที่มีไขมันประเภทดีอยู่จำนวนมาก เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลาแอนโชวี่ ปลาเทราต์ ปลาสวาย ฯลฯ
ปลาพวกนี้อุดมไปด้วยกรดไขมัน DHA ซึ่งเป็นกรดไขมันที่พบได้มากในเรตินาของดวงตา ดังนั้นมันจึงตรงเข้าไปซ่อมแซมดวงตาของเราให้กลับมาสดใส มีน้ำหล่อลื่นเพียงพอ และยังช่วยห่างไกลจากโรคตาแห้งอีกด้วย

🌶8. พริกหยวก

มีปริมาณวิตามินเอและวิตามินซีสูง วิตามินเอเป็นวิตามินที่มีสรรพคุณในการดูแลและปกป้องสายตาจากการถูกทำลาย วิตามินซีช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคต้อกระจกกับดวงตาได้

นอกจากนั้นยังมีลูทีน วิตามินบี 6 และเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยชะลอการเสื่อมของจอประสาทตาได้เป็นอย่างดี

9. มันเทศ

วิตามินเอที่มีอยู่ในมันเทศ มีส่วนช่วยบำรุงสายตา ป้องกันต้อกระจก ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม ป้องกันโรคตาแห้งได้ ป้องกันการติดเชื้อที่ดวงตา ซึ่งจะนำไปสู่อาการตาอักเสบ ที่สำคัญมันเทศยังเต็มไปด้วยไฟเบอร์ซึ่งดีต่อการลดน้ำหนักมาก รับประทานแล้วได้ประโยชน์ 2 ต่อ คือช่วยบำรุงสายตาและทำให้หุ่นสวยในคราวเดียว

10. ดอกอัญชัน

ดอกอัญชัน ซึ่งจัดเป็นสมุนไพรบำรุงสายตาด้วยการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในเส้นเลือดฝอยของดวงตา ช่วยให้ดวงตาปรับการเปลี่ยนแปลงของแสงและปรับปรุงการมองเห็น

ส่วนสารสีน้ำเงินในอัญชันนั้นสามารถป้องกันต้อกระจกและต้อหินได้ และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย

การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือหน้าจอมือถือเป็นเวลานาน ย่อมมีผลเสียต่อสุขภาพของดวงตาอย่างแน่นอน แต่หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้ได้จริงๆ เพราะความจำเป็นในเรื่องงาน เราควรรู้จักการพักสายตาระหว่างวันบ้าง

รวมทั้งรับประทานอาหารที่แนะนำไว้ข้างต้น อาหารเหล่านี้จะช่วยบำรุง และชะลอความของดวงคุณลงได้ และป้องกันความเสื่อมของดวงตาก่อนวัยอันควร อาหารเหล่านี้สามารถช่วยป้องกันแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ มือถือ แสงจากโทรทัศน์ และแสงจาก UV ได้ แถมยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในเส้นเลือดฝอยที่มาเลี้ยงดวงตาทำให้มีประสิทธิภาพในการมองเห็นดีมากยิ่งขึ้นค่ะ รีบๆ หามารับประทานกันนะคะ

27/12/2018


https://www.youtube.com/channel/UCBrcRt7scwPT3khbRoLHoiA?sub_confirmation=1

#ภูมิสมดุล ในความหมายของงานวิจัย ภูมิบำบัด คือ...
การทำงานของกลุ่มเม็ดเลือดขาวผู้ช่วย ( Th cell ) ทำหน้าที่อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป
ซึ่งประกอบด้วยความมีประสิทธิภาพของเม็ดเลือดขาว Th-1,Th-2,Th-17,Tleg
ด้วยการหลั่งสารกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้เม็ดเลือดขาวกลุ่มอื่นทำงาน โดยเฉพาะเม็ดเลือดขาวนักฆ่า จัดการกับสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ออกจากร่างกาย

เม็ดเลือดขาวกลุ่ม Th cell มีความสำคัญมากต่อระบบภูมิคุ้มกัน เพราะถ้าไม่มี หรือมีน้อยเกินไป หรือมีมากเกินไป จะทำให้เม็ดเลือดขาวกลุ่มอื่นไม่สามารถทำงานได้ หรือทำงานมากเกินไป ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการทำงานของเซลล์ จนอวัยวะถูกทำลาย ปัญหาของโรคร้ายแรงจะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน

การทำให้เม็ดเลือดขาวในกลุ่ม Th cell (Th-1,Th-2,Th-17,Tleg) ที่เสียสมดุล ให้กลับมาสู่สภาวะสมดุลดังเดิม กลับมาสู่การทำงานสื่อสารช่วยบอกเม็ดเลือดขาวนักฆ่า ให้ทำงานถูกต้องแม่นยำ ดังเดิม ในปัจจุบันนี้ทำได้ด้วยวิธีเดียวเท่านั้น ที่ปลอดภัยที่สุด เห็นผลที่สุด และเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับแล้วในวงการวิทยาศาสตร์การแพทย์ทั่วโลก
นั่นก็คือ การรับประทานสารอาหารสกัดจากพืช 5 ชนิด ผลงานวิจัยของคณะนักวิจัย ภูมิบำบัด เพียงรับประทานตามสูตรในการปรับสมดุลในแต่ละสาเหตุของการเสียสมดุลของระบบ Th cell ตามสัดส่วนปริมาณที่เหมาะสม เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ระบบการทำงานของ Th cell กลับมาทำงานเต็มประสิทธิภาพดังเดิมได้อย่างรวดเร็ว ภายใน 15 วัน

ทุกปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการเสียสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน จึงสามารถเลือกวิธีการ สร้างภูมิสมดุล ด้วย สารอาหารสกัดสูตรเฉพาะของงานวิจัยภูมิบำบัด เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยให้ดีขึ้นกว่าเดิม จนลดขบวนการรักษา และหยุดการรักษาได้ในที่สุด เพราะผลเลือดที่ดีขึ้น สุขภาพที่แข็งแรงขึ้นนั่นเอง
เป็นวิธีการให้สารอาหารเซลล์เพื่อให้เซลล์แข็งแรง ควบคู่กับการรักษาแผนปัจจุบัน บทสรุปที่ดีที่สุดในการรักษาโรคแบบองค์รวม
.........................................................................................
ปรึกษาปัญหาสุขภาพเพิ่มเติมและสั่งซื้อผลิตภัณฑ์งานวิจัยได้ที่:

📱 089-986-1792

🌺 LINE ID:0899861792

หรือ กดลิงค์ด้านล่างเพื่อรับข้อมูลงานวิจัยที่เป็นประโยชน์
https://line.me/R/ti/p/%40lqn4114z

🌺 ศึกษาเคสผู้ป่วยที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์งานวิจัยเพิ่มเติมได้ที่:
https://www.youtube.com/channel/UCBrcRt7scwPT3khbRoLHoiA?sub_confirmation=1

🌺 page: ศูนย์สร้างภูมิสมดุลดวงตา โทร. 089-986-1792
หรือกดลิงค์
www.facebook.com/eyes.careness

🌺 สมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์งานวิจัย กดลิงค์ด้านล่าง
http://www.bim100club-system.com/?ref=Kanlaya

🌺ต้อหิน (Glaucoma)เป็นโรคของดวงตาชนิดหนึ่งที่เกิดจากความเสื่อมของเส้นประสาทตา หรือเส้นประสาทตาถูกทำลาย โดยเป็นเส้นประสาท...
20/12/2018

🌺ต้อหิน (Glaucoma)

เป็นโรคของดวงตาชนิดหนึ่งที่เกิดจากความเสื่อมของเส้นประสาทตา หรือเส้นประสาทตาถูกทำลาย โดยเป็นเส้นประสาทที่เชื่อมระหว่างตากับสมอง ปัจจัยหลักมาจากความดันในลูกตาสูง ซึ่งเกิดจากการระบายน้ำออกของลูกตามีการอุดตันและเสื่อมสภาพ ทำให้ระบายน้ำออกจากลูกตาได้ไม่ดีพอ ส่งผลให้ความดันภายในลูกตาเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ จนทำลายประสาทตาในที่สุด

🌺ต้อหินสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย และมีอุบัติการณ์เพิ่มขึ้นตามอายุ แต่จะเกิดขึ้นบ่อยในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีประวัติของคนในครอบครัวเป็นต้อหิน หรือผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน เป็นต้น นอกจากนั้น องค์กรอนามัยโลก (WHO) ยังระบุว่า ต้อหินเป็นสาเหตุสำคัญของการสูญเสียการมองเห็นของคนทั่วโลกเป็นอันดับ 2 รองจากต้อกระจก พบผู้ป่วยโรคต้อหินทั่วโลกถึง 70 ล้านคน โดยเกือบ 10% ของผู้ป่วยหรือประมาณ 6.7 ล้านคน ต้องตาบอด หรือสูญเสียการมองเห็นอย่างสิ้นเชิง ในประเทศไทย ข้อมูลจากสถิติสาธารณสุข ปี 2555 พบผู้ป่วยโรคต้อหินทั่วประเทศ จำนวน 17,687 ราย

ถึงแม้ว่าต้อหินจะเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็สามารถป้องกันและควบคุมการสูญเสียของการมองเห็นได้

🌺อาการของต้อหิน

โดยทั่วไป ต้อหินจะไม่มีอาการ หรือสัญญาณปรากฏเด่นชัดในตอนแรก และจะเกิดอาการแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของต้อหิน

🌺สาเหตุของต้อหิน

ในตาของเรานั้นจะมีน้ำหล่อเลี้ยงที่เรียกว่า aqueous humor ซึ่งถูกผลิตขึ้นโดยเนื้อเยื้อที่เรียกว่า ciliary body โดยน้ำหล่อเลี้ยงที่ถูกสร้างขึ้นมาจะไหลเวียนสู่ช่องหน้าลูกตา (anterior chamber) ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงเลนส์ กระจกตา และหลังจากนั้นจะถูกดูดซึมผ่านออกจากลูกตาไปทางมุมตา (angle) โดยมุมตาจะมีโครงสร้างลักษณะคล้ายตะแกรง ที่เรียกว่า trabecular meshwork ซึ่งจะอยู่บริเวณขอบของม่านตา เมื่อน้ำหล่อเลี้ยงตาที่ผลิตขึ้น และการระบายออกของน้ำในตามีความสมดุล ก็จะทำให้ความดันตาอยู่ในระดับปกติ
ต้อหินมีสาเหตุมาจากจอประสาทตามีความเสื่อมหรือถูกทำลาย โดยประสาทตาจะเสื่อมลงทีละน้อย และเกิดจุดบอดขึ้นที่ลานสายตา มักมีสาเหตุสำคัญมาจากความดันในตาสูงอันเนื่องมาจากการไหลเวียนเข้าและออกของน้ำหล่อเลี้ยงในลูกตาไม่สมดุล เกิดการอุดตันบริเวณทางออกของช่องระบายน้ำหล่อเลี้ยงลูกตา ซึ่งทำให้มีการสร้างน้ำหล่อเลี้ยงลูกตามากขึ้นแต่การไหลออกช้าลง ทำให้ความดันในตาสูงขึ้น อาจเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ หรือเฉียบพลัน ขึ้นอยู่กับชนิดของโรคต้อหิน

🌺ต้อลม (Pinguecula) เป็นโรคทางดวงตาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงจากเนื้อเยื่อปกติกลายเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงที่เยื่อบุตาขาว ท...
20/12/2018

🌺ต้อลม (Pinguecula)

เป็นโรคทางดวงตาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงจากเนื้อเยื่อปกติกลายเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงที่เยื่อบุตาขาว ทำให้มีการระคายเคืองของดวงตาร่วมด้วย
ต้อลมสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า มีลักษณะเป็นตุ่มนูนหรือแผ่นบาง ๆ สีหลือง โดยส่วนมากมีรูปร่างเป็นรูปสามเหลี่ยม มักพบอยู่บริเวณตาขาวที่ใกล้กระจกตาตรงส่วนหัวตามากกว่าหางตา และยังสามารถเจริญเติบโตจนเข้าไปสู่กระจกตาได้ ในกรณีที่เกิดการลุกลามเข้าไปในกระจกตาจะถูกเรียกว่า โรคต้อเนื้อ

🌺อาการของต้อลม

โรคต้อลมส่วนมากมักทำให้ดวงตาเกิดการระคายเคือง แต่ละคนอาจมีอาการที่แตกต่างกันออกไป บางรายอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย แต่ในบางรายก็อาจเกิดอาการรุนแรง ซึ่งอาการที่สังเกตได้มีดังนี้

👉มีแผ่นหรือตุ่มนูนขนาดเล็กสีเหลืองเกิดขึ้นภายในตาขาว
👉อาการตาแห้ง เคืองตา แสบตา
👉มีความรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งติดอยู่ในดวงตา เช่น เม็ดทราย หรือเศษผง
👉อาการคันตา ทำให้ตาแดงและอักเสบในบางราย
👉ตาบวมและมีอาการเจ็บตา

โดยทั่วไปโรคต้อมักไม่ก่ออาการ ยกเว้นถ้ามีการอักเสบเกิดขึ้นหรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์หรือจักษุแพทย์เมื่อพบอาการต่อไปนี้

👉ขนาดของก้อนเนื้อที่เป็นต้อลมมีขนาด รูปร่าง หรือสีที่เปลี่ยนแปลงไป
👉มีของเหลวสีเหลืองไหลออกจากดวงตา อาจจะข้างเดียวหรือทั้ง 2 ข้าง
👉เปลือกหรือผิวบริเวณรอบดวงตาบวมแดง
👉อาการแย่ลงเรื่อย ๆ แม้ได้รับการรักษา
👉มีปัญหาในการมองเห็นเพิ่มมากขึ้น

🌺สาเหตุของโรคต้อลม

ยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดต้อลมที่แน่ชัด แต่พบว่ามีปัจจัยสำคัญในการพัฒนาโรคมาจากการโดนแสงแดดหรือรังสีอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์เป็นเวลานาน บ่อย ๆ หรือเกิดการระคายเคืองดวงตา เช่น อาการตาแห้ง ดวงตาสัมผัสกับสภาพแวดล้อมภายนอกอย่าง ลม ฝุ่นละออง ทำให้เนื้อเยื่อปกติของดวงตามีการเปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นแผ่นหรือตุ่มนูน ๆ บริเวณตาขาว เนื่องจากมีการสะสมของโปรตีน ไขมัน หรือแคลเซียม

โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่จะเกิดขึ้นบ่อยในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป อาชีพบางอาชีพที่มีความเสี่ยงสูงจากการอยู่ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง ช่างเชื่อมโลหะ

🌺วุ้นตาเสื่อม (Eye Floaters) เป็นภาวะที่ทำให้มองเห็นจุดเล็ก ๆ ลอยผ่านไปมา โดยจะมีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกันไป เช่น จุดด...
20/12/2018

🌺วุ้นตาเสื่อม (Eye Floaters)

เป็นภาวะที่ทำให้มองเห็นจุดเล็ก ๆ ลอยผ่านไปมา โดยจะมีรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกันไป เช่น จุดดำเล็ก ๆ หรือวงใหญ่ ๆ คล้ายเมฆ ซึ่งผู้ป่วยอาจพบว่าเกิดเป็นจุดขนาดเล็กหลาย ๆ จุดพร้อมกัน หรือมีเพียงจุดขนาดใหญ่เกิดขึ้นเพียง 1 หรือ 2 จุด และจะสามารถสังเกตได้ชัดเจนเมื่อมองไปที่ที่มีพื้นหลังสีสว่าง

🌺อาการวุ้นตาเสื่อม อาการวุ้นตาเสื่อมที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่

👉จุดที่เกิดขึ้นสามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายรูปแบบ ได้แก่ จุดสีดำหรือสีเทา เป็นเส้นเกลียว ใยแมงมุม หรือวงแหวน
👉เมื่อเคลื่อนไหวดวงตา จุดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก็จะเคลื่อนที่ด้วยเช่นกัน แต่หากตั้งใจที่จะมองไปยังจุดดังกล่าว ก็จะหายไปจากการมองเห็นอย่างรวดเร็ว
👉จุดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจะสังเกตได้ชัดเจนเมื่อไปยังพื้นผิวที่เป็นสีพื้นและสว่าง เช่น ท้องฟ้าหรือกำแพงสีขาว
เมื่อใดที่ควรพบแพทย์?
👉พบว่ามีอาการวุ้นตาเสื่อมมากผิดปกติ
👉เกิดจุดใหม่หรือมีการวุ้นตาเสื่อมเกิดขึ้นใหม่อย่างกะทันหัน
👉เห็นแสงวาบ
👉สูญเสียการมองเห็นที่บริเวณรอบข้าง
👉เจ็บตา

นอกจากนั้น อาการเหล่านี้อาจเกิดจากประสาทตาฉีกขาด โดยอาจเกิดขึ้นพร้อมกับจอตาลอก ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายและควรพบแพทย์โดยเร็ว

🌺สาเหตุของวุ้นตาเสื่อม สาเหตุของวุ้นตาเสื่อมเกิดจากเศษเนื้อตาย (Debris) ที่ลอยอยู่ในวุ้นตา โดยวุ้นตามีลักษณะใสคล้ายเจลลี่ที่อยู่บริเวณตรงกลางของลูกตา และในภาวะปกติ น้ำวุ้นตาเป็นน้ำใส ไม่มีสี และมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก เมื่อวุ้นตาหรือน้ำวุ้นตาเสื่อมจะทำให้เกิดเศษเนื้อตายตกตะกอน อาจเป็นอณูเล็ก ๆ เป็นจุดเดียว หลายจุด เป็นวงหรือเป็นเส้น โดยหากอณูเหล่านี้ถูกแสงจากข้างหน้าดวงตา จะทำให้เกิดเป็นเงาทอดไปยังจอตา หรืออณูเหล่านี้อาจก่อให้เกิดการหักเหของแสงที่ผ่านมาจากส่วนหน้าดวงตาและกระจายไปตกที่จอตาส่วนต่างๆ ทำให้เกิดการรับรู้ว่ามีจุดมืดเกิดขึ้น และเนื่องจากอณูเหล่านี้อยู่ในน้ำวุ้นซึ่งเป็นน้ำ จึงมีการเคลื่อนไหวตามการขยับของลูกตา ทำให้รับรู้ว่ามีบางสิ่งลอยไปมา

นอกจากนั้น สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้วุ้นตาเสื่อมเกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งของเหลวที่คล้ายวุ้นในลูกตาก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาหรือเกิดกระบวนการที่ทำให้วุ้นดังกล่าวหลุดจากผิวของลูกตาไป แต่ส่วนใหญ่จะไมก่อให้เกิดปัญหาใด ๆ และไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษา
สาเหตุอื่น ๆ ได้แก่

👉การอักเสบที่ด้านหลังดวงตาหรือยูเวียอักเสบ (Posterior Uveitis) ซึ่งอาจมีสาเหตุจากการติดเชื้อหรือโรคที่เกิดการอักเสบ
👉เลือดออกในตา เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การบาดเจ็บ และปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือด
👉จอประสาทตาฉีกขาดหรือจาตาลอก แต่จะพบได้น้อยมาก และเป็นภาวะที่ต้องได้รับการรักษาโดยเร็ว เพราะอาจทำให้สูญเสียการมองเห็นได้
ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงให้วุ้นตาอักเสบ ได้แก่

👉ผู้ที่มีอายุ 50 ปี ขึ้นไป
👉ผู้ที่มีสายตายสั้น
👉ผู้ที่มีแผลหรือเกิดการบาดเจ็บที่ดวงตา
👉ภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดต้อกระจก
👉ภาวะเบาหวานขึ้นจอตา (Diabetic Retinopathy)
👉การอักเสบของดวงตา

🌺เยื่อบุตาอักเสบ (Conjuctivitis)คือ ภาวะที่เยื่อบุตาเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ ซึ่งเยื่อบุตาเป็นเยื่อเมือกใสที่คลุมตาขาวแ...
20/12/2018

🌺เยื่อบุตาอักเสบ (Conjuctivitis)

คือ ภาวะที่เยื่อบุตาเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อ ซึ่งเยื่อบุตาเป็นเยื่อเมือกใสที่คลุมตาขาวและบุด้านในของเปลือกตา สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากไวรัส แบคทีเรีย หรือสารก่อภูมิแพ้ ทำให้เกิดอาการ เช่น ตาแดง แสบตา คันตา หรือระคายเคือง และการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุ ในบางกรณีอาจไม่จำเป็นต้องรับการรักษาโดยแพทย์ เพราะหายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์ หรือบรรเทาอาการด้วยวิธีประคบเย็นหรือใช้น้ำตาเทียม

🌺อาการเยื่อบุตาอักเสบ

อาการเยื่อบุตาอักเสบแตกต่างกันออกไปตามสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบ อาการที่เกิดขึ้นมีดังต่อไปนี้

👉ตาแดงที่ตาขาวหรือเปลือกตาด้านใน
👉คันตา แสบตา
👉ตามัว
👉เยื่อบุตาบวม
👉มีการผลิตน้ำตามากขึ้นกว่าปกติ
👉ตาแฉะ หรือน้ำตาไหล
👉รู้สึกมีเม็ดเล็ก ๆ อยู่ในตา
👉ตาไวต่อแสง
👉มีขี้ตาสีเหลืองที่เปลือกตาหรือขนตา ซึ่งอาจทำให้ลืมตาได้ลำบากในเวลาตื่นนอนตอนเช้า
👉เยื่อบุตาอักเสบที่มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัส อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ไข้ อาการหวัด หรือการติดเชื้อเกี่ยวกับการหายใจ
👉เยื่อบุตาอักเสบที่มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย มักจะมีอาการที่ตาข้างใดข้างหนึ่งและแพร่เชื้อไปยังตาอีกข้าง ทำให้ขี้ตามีสีเหลืองหรือเขียว และบางรายอาจพบว่าเกิดขึ้นพร้อมกับการติดเชื้อในหู
👉เยื่อบุตาอักเสบที่มีสาเหตุจากการแพ้ มักมีอาการ เช่น คันตา น้ำตาไหล หรือตาบวม
👉ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์แล้วใส่ไม่เข้าที่หรือรู้สึกไม่สบายตา
หากพบว่าเกิดอาการใดอาการหนึ่งในข้างต้น ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาอย่างทันท่วงที และป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่น

🌺สาเหตุของเยื่อบุตาอักเสบ

เยื่อบุตาอักเสบเกิดจากการอักเสบหรือติดเชื้อของเยื่อบุตา ซึ่งมีสาเหตุสำคัญ ได้แก่ เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้ นอกจากนั้น มีสาเหตุจากสารเคมี คอนแทคเลนส์ สิ่งแปลกปลอมที่เข้าตา เชื้อรา หรือมลพิษในอากาศ

🌺ต้อกระจก (Cataracts) เป็นโรคที่เลนส์แก้วตามีความขุ่นมัวจนกระทบต่อการมองเห็น เมื่อจอประสาทตารับภาพได้ไม่ชัดเจน ผู้ป่วยจึ...
20/12/2018

🌺ต้อกระจก (Cataracts) เป็นโรคที่เลนส์แก้วตามีความขุ่นมัวจนกระทบต่อการมองเห็น เมื่อจอประสาทตารับภาพได้ไม่ชัดเจน ผู้ป่วยจึงมองเห็นภาพต่าง ๆ อย่างพร่ามัว โรคต้อกระจกนี้ไม่ได้ทำให้มีอาการเจ็บหรือระคายเคืองใด ๆ ที่ตา โดยอาจเกิดกับตาข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง และไม่อาจแพร่กระจายจากตาข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่งได้

🌺อาการของโรคต้อกระจก

โรคต้อกระจกนั้นยากที่จะสังเกตได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม เนื่องจากต้องใช้เวลาหลายปีกว่าอาการของต้อกระจกจะเพิ่มมากขึ้นจนกระทบต่อการมองเห็น โดยผู้ป่วยมักมีอาการดังนี้

✔มองเห็นได้ไม่ชัดเจน ภาพเบลอ หรือพร่ามัว
✔ต้องใช้แสงสว่างมากขึ้นในการอ่านหนังสือหรือกิจกรรมที่ต้องใช้สายตา
✔ดวงตามองเห็นในที่ที่มีแสงสลัวได้ดีกว่าแสงจ้า แพ้แสงจ้า
✔มองเห็นเป็นภาพซ้อน
✔มองภาพเป็นสีเหลืองหรือสีซีดจางลง
✔มองเห็นเป็นวงแหวนรอบแสงไฟหรือหลอดไฟ

🌺ผู้ป่วยอาจเข้าใจว่าความพร่ามัวเกิดจากระดับสายตาที่มีปัญหา เช่น สายตาสั้น และนำไปสู่การเปลี่ยนแว่นตาหรือคอนแท็คเลนส์บ่อย ๆ

🌺สาเหตุของโรคต้อกระจก

เลนส์แก้วตาของคนเราประกอบด้วยน้ำและโปรตีนเป็นส่วนมาก ปกติโปรตีนเหล่านี้จะเรียงตัวเป็นระเบียบทำให้แสงผ่านเข้าสู่เลนส์ได้ และเลนส์มีลักษณะใส ต้อกระจกเกิดจากการที่โปรตีนในเลนส์แก้วตาสะสมเป็นกลุ่มปกคลุมพื้นที่ในบริเวณแก้วตาจนทำให้เลนส์ขุ่นมัวขึ้นเรื่อย ๆ จนเสียการมองเห็นไปอย่างช้าๆ

 https://www.youtube.com/channel/UCBrcRt7scwPT3khbRoLHoiA?sub_confirmation=1🌺ต้อเนื้อ (Pterygium)หรือต้อลิ้นหมา เป็นโรคเ...
20/12/2018



https://www.youtube.com/channel/UCBrcRt7scwPT3khbRoLHoiA?sub_confirmation=1

🌺ต้อเนื้อ (Pterygium)

หรือต้อลิ้นหมา เป็นโรคเกี่ยวกับดวงตาที่อาจเกิดขึ้นหลังจากเป็นต้อลม มักพบเป็นแผ่นเนื้อสีขาวเหลืองหรือสีชมพู รูปทรงคล้ายสามเหลี่ยม เกิดขึ้นบริเวณเยื่อบุตายื่นเข้าไปในตาดำ แม้ต้อเนื้อไม่ค่อยก่อให้เกิดปัญหาใด ๆ และอาจไม่จำเป็นต้องรักษา แต่หากต้อเนื้อมีขนาดใหญ่หรือหนาขึ้นเข้าไปบังตาดำ อาจต้องผ่าตัดออก เพราะจะส่งผลต่อการมองเห็นของผู้ป่วยได้

🌺อาการต้อเนื้อ

โรคต้อเนื้ออาจไม่แสดงอาการใด ๆ หรือมักเป็นอาการที่ไม่รุนแรง เช่น ระคายเคือง รู้สึกแสบหรือคันที่ดวงตา แต่หากต้อเนื้อมีขนาดใหญ่หรือหนาขึ้นจนคลุมบริเวณกระจกตา อาจส่งผลต่อการมองเห็น เพราะอาจกระทบต่อความโค้งของตาดำ ทำให้รู้สึกว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในดวงตา และทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถสวมใส่คอนแทคเลนส์ ได้ตามปกติ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์หากสงสัยเกี่ยวกับอาการที่เป็นอยู่ และรีบไปแพทย์โดยด่วน หากมีอาการระคายเคืองดวงตามากขึ้น น้ำตาไหลมากผิดปกติ หรือรู้สึกเจ็บตาอย่างรุนแรง

🌺สาเหตุต้อเนื้อ

แม้ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดต้อเนื้อ แต่มีหลายปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ที่เผชิญกับรังสีอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์เป็นเวลานาน ผู้ที่มีอาการตาแห้ง รวมถึงผู้ที่ระคายเคืองตาจากลม ฝุ่น ควัน มลพิษ หรือทราย เช่น ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง ชาวนา ชาวประมง และผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้แนวของเส้นศูนย์สูตร โดยโรคต้อเนื้อมักเกิดขึ้นในเพศชายที่อายุระหว่าง 20-40 ปี และผู้ที่มีผิวขาวหรือตาสีอ่อนก็อาจเสี่ยงต่อการเกิดต้อเนื้อได้เช่นกัน
.........................................................................................
ปรึกษาปัญหาสุขภาพเพิ่มเติมและสั่งซื้อผลิตภัณฑ์งานวิจัยได้ที่:

📱 089-986-1792

🌺 LINE ID:0899861792

หรือ กดลิงค์ด้านล่างเพื่อรับข้อมูลงานวิจัยที่เป็นประโยชน์
https://line.me/R/ti/p/%40lqn4114z

🌺 ศึกษาเคสผู้ป่วยที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์งานวิจัยเพิ่มเติมได้ที่:
https://www.youtube.com/channel/UCBrcRt7scwPT3khbRoLHoiA?sub_confirmation=1

🌺 page: ศูนย์สร้างภูมิสมดุลดวงตา โทร. 089-986-1792
หรือกดลิงค์
www.facebook.com/eyes.careness

🌺 สมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์งานวิจัย กดลิงค์ด้านล่าง
http://www.bim100club-system.com/?ref=Kanlaya

08/11/2018



https://www.youtube.com/channel/UCBrcRt7scwPT3khbRoLHoiA?sub_confirmation=1

คุณณัชร วรดานฤทธิ์
ผู้เคยมีปัญหาสุขภาพด้านดวงตา “วุ้นน้ำตาเสื่อม” ด้วยวัยเพียง 24 ปี ณ ขณะนั้น

เกิดจากการใช้งานสายตาทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นเวลา มากกว่า วันล่ะ 12 ชั่วโมง ต่อวัน โดยไม่มีการหยุดพักสายตา ในระหว่างวันเลย จึงทำให้ความเสื่อม ของตามาเยือน ก่อนวัยอันสมควร

อาการแรกเริ่ม คือเกิดความตึงของกล้ามเนื้อตาทำให้มีอาการกระตุกที่ตาบ่อยครั้ง และมีอาการมองเห็นเป็นจุดดำๆ ลอยไปมาตลอดเวลา เมื่อมีการเคลื่อนย้ายสายตา มีอาการตาแห้งอยู่ตลอดเวลา ต้องใช้น้ำตาเทียมหยอดเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับดวงตา ทุกๆ 2 ชั่วโมง

จึงได้ค้นพบกับนวัตกรรมงานวิจัย ภูมิคุ้มกันบำบัดและได้ทดลองใช้ดูแลสายตา การมองเห็นจึงดีขึ้น ตาไม่แห้ง จุดดำๆ ค่อยๆ จางลง จนไม่ทันได้สังเกตว่า อาการดังกล่าวที่เคยเป็น ได้หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่

…………………………………………………………
ปรึกษาปัญหาสุขภาพและสั่งซื้อผลิตภัณฑ์งานวิจัยได้ที่:

📱 โทร. 089-986-1792

🌺 LINE ID: 0899861792
หรือ กดลิงค์ด้านล่างเพื่อรับข้อมูลงานวิจัยที่เป็นประโยชน์
https://line.me/R/ti/p/%40lqn4114z

🌺 ศึกษาเคสผู้ป่วยที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์งานวิจัยเพิ่มเติมได้ที่:
https://www.youtube.com/channel/UCBrcRt7scwPT3khbRoLHoiA?sub_confirmation=1

สั่งซื้อผลิตภัณฑ์งานวิจัยได้ที่
"ภูมิสมดุลดวงตา" กรุณากดลิงก์ด้านล่าง หรือค้นหา ID "" ที่ LINE หรือ LINE@ (กรุณาใส่ "@" ด้วย) แล้วเพิ่มเป็นเพื่อนของคุณ
https://line.me/R/ti/p/%40lqn4114z

สมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์งานวิจัย กดลิงค์ด้านล่าง
http://www.bim100club-system.com/?ref=Kanlaya

08/11/2018



https://www.youtube.com/channel/UCBrcRt7scwPT3khbRoLHoiA?sub_confirmation=1

รายการ ใส่ใจ ไกลโรค ตอน น้ำวุ้นตาเสื่อม ให้ความรู้ โดยท่าน ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา หัวหน้าคณะนักวิจัย OPERATION BIM

…………………………………………………………
ปรึกษาปัญหาสุขภาพและสั่งซื้อผลิตภัณฑ์งานวิจัยได้ที่:

📱 โทร. 089-986-1792

🌺 LINE ID: 0899861792
หรือ กดลิงค์ด้านล่างเพื่อรับข้อมูลงานวิจัยที่เป็นประโยชน์
https://line.me/R/ti/p/%40lqn4114z

🌺 ศึกษาเคสผู้ป่วยที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์งานวิจัยเพิ่มเติมได้ที่:
https://www.youtube.com/channel/UCBrcRt7scwPT3khbRoLHoiA?sub_confirmation=1

สั่งซื้อผลิตภัณฑ์งานวิจัยได้ที่
"ภูมิสมดุลดวงตา" กรุณากดลิงก์ด้านล่าง หรือค้นหา ID "" ที่ LINE หรือ LINE@ (กรุณาใส่ "@" ด้วย) แล้วเพิ่มเป็นเพื่อนของคุณ
https://line.me/R/ti/p/%40lqn4114z

สมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์งานวิจัย กดลิงค์ด้านล่าง
http://www.bim100club-system.com/?ref=Kanlaya

ที่อยู่

Nakhon Ratchasima
30000

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ศูนย์สร้างภูมิสมดุลดวงตา โทร. 089-986-1792ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram