ปากนครคลินิก - PakNaKhonClinic

ปากนครคลินิก - PakNaKhonClinic คลินิกสุขภาพระดับปฐมภูมิ
รักษาโรค? GPRS พิกัด ที่ 8.472998, 100.054614

10/12/2014

Inbox ที่ส่งเข้ามาสอบถาม ปัญหา สุขภาพ ความงาม สิวจะค่อยๆ ตอบให้นะครับ !!

MeRRy CHRisTMaS
10/12/2014

MeRRy CHRisTMaS

.. สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ ..
12/04/2014

.. สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ ..

หลักการรักษาสิวการรักษาสิวจะต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว และจะต้องแยกชนิดของสิว ระดับความรุนแรงของสิว และการใช้ยา...
11/01/2014

หลักการรักษาสิว

การรักษาสิวจะต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว และจะต้องแยกชนิดของสิว ระดับความรุนแรงของสิว และการใช้ยาอย่างถูกต้อง

หลีกเลี่ยงภาวะที่ทำให้หน้าชื้นเช่น sauna การทำงานในครัว
งดใช้เครื่องสำอางที่ทำให้เกิดสิว เครื่องสำอางที่เพิ่มความมัน หรือเลือกเครื่องสำอางที่ถูกกับผิวหน้า
งายาหรือครีมทาก่อนนอน
ห้ามบีบหรือแกะสิวโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้สิวลุกลาม
อาหารสามารถรับประทานได้แต่ก็ควรจะหลีกเลี่ยงอาหารที่มัน และหวานและก็อย่ารับมากจนอ้วน
ห้ามถูหน้าแรงๆในขณะล้างหน้า ล้างหน้าวันละ 2 ครั้งและใช้ผ้าซับเบาๆ
คนที่หน้ามันให้ล้างหน้าด้วยสบู่อย่างน้อยวันละ 4 ครั้ง
การเลือกยาทาสิวขึ้นกับชนิดของสิวซึ่งควรจะปรึกษาแพทย์
การเลือกรับประทานยาขึ้นกับแพทย์ที่ดูแล
หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดด
การรักษาสิวแบบอ่อน

สิวที่เป็นไม่มากมักจะรักษาด้วยยาทาเพียงอย่างเดียวและมีข้อควรปฏิบัติดังนี้

ล้างหน้าวันละสองครั้งด้วยสบู่อ่อนด้วยน้ำ
ทายาสิวใหทั่วบริเวณที่เป็นสิส
ให้ทายาบางๆก่อนนอน และทาในตอนเช้า
ในช่วง2-4 สัปดาห์แรกอาจจะทำให้หน้าจะแห้ง
ทาครีมบำรุงผิวหรือครีมที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวหนัง เลือกชนิดที่ไม่มีไขมั
หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีไขมัน ยากันแสง
ใช้เวลาเป็นสัปดาห์กว่าจะเห็นผล
หากเกิดอาการระคายเคืองให้ปรึกษาแพทย์

05/01/2014
05/01/2014

รู้เรื่องสิวและความจริงเกี่ยวกับสิว รวมถึงการดูแลและรักษาสิวอย่างถูกวิธี
สิวคือะไร? สิว ( Acne,Pimple,Papilla ) คือตุ่มเม็ดเล็กๆ ที่ขึ้นตามผิวหนังบางส่วนของร่างกาย เกิดขึ้นเพราะผิวหนังมีการอุดตันอยู่ใต้รูขุมขนจากหัวสิว โคมิโดน (Comedone) ซึ่งสามารถอักเสบได้ง่ายหากมีตัวกระตุ้นเพิ่มเติม เช่น แบคทีเรีย หรือ ฝุ่นละอองในอากาศ เครื่องสำอางบางชนิด โดยเฉพาะส่วนที่เป็นผิวอ่อน พบมากบริเวณใบหน้า ต้นคอ หน้าอก แผ่นหลัง ไหล่ หรือต้นแขน มักเป็นในวัยรุ่นขึ้นไป แต่ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะวัยรุ่นเท่านั้น ผู้ใหญ่อายุ 20 - 40 ปีหรือมากกว่านี้ก็พบได้ ในรายที่เป็นชนิดรุนแรง อาจมีอาการเจ็บปวดในจุดที่เป็นสิว แม้ว่าสิวจะไม่ใช่โรคที่ทำให้ถึงกับเสียชีวิตหรือพิการ แต่ก็อาจทิ้งร่องรอยของแผลเป็นบนใบหน้าอาจมีหนองหรือเป็นไตสีขาว อาจทำให้เสียบุคคลิกได้ เป็นสิวอักเสบมากๆอาจทำให้ใบหน้าเละไม่น่ามองได้
สิวจะเป็นเฉพาะบริเวณที่มีต่อมไขมันเท่านั้น ดังนั้นบริเวณที่มีต่อมไขมันมากเช่น ใบหน้า หน้าอก และแผ่นหลัง จึงเป็นสิวบ่อยกว่าที่อื่น การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในวัยรุ่นโดยเฉพาะฮอร์โมนแอนโดรเจนและเทสโทสเตอโรนเป็นตัวทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ต่อมไขมัน เพราะต่อมไขมันอยู่ภายใต้อิทธิพลของฮอร์โมนเพศ สิวมีที่มาส่วนใหญ่มาจากภายในร่างกาย(มากกว่า 90%)เกิดจากฮอร์โมนภายในร่างกายเปลี่ยนแปลง โดยจะเป็นสิวเริ่มตั้งแต่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ขึ้นไป ส่วนใครจะได้รับผลกระทบมากหรือน้อยนั้น(เป็นสิวมากหรือน้อย) ยังขึ้นอยู่กับยีนพันธุกรรมที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษเป็นตัวควบคุม การแก้ไขปัญหาสิวจะไม่จบเพียงครั้งเดียว ต้องแก้ไขและกำจัดสิวในแต่ละครั้งที่เกิดขึ้นไปเรื่อยๆจนกว่าภาวะฮอร์โมนในร่างกายเสื่อมสภาพลงไปเรื่อยๆเมื่ออายุมากขึ้น สิวก็จะลดลงตามไปด้วยจนสิวหมดสภาพไปในที่สุดเมื่อเข้าสู่วัยชราภาพ
การแก้ปัญหาเรื่องสิวทำได้ใน 2 ลักษณะ คือ
1 ) กำจัดสิวเมื่อเกิดสิวขึ้นในแต่ละครั้ง ซึ่งก็คือการรักษาสิวที่เกิดขึ้นตามส่วนต่างๆของร่างกาย
2 ) การป้องกันไว้ก่อนการเกิดสิว เมื่อทำการรักษาสิวให้หายปกติแล้ว สิวมีโอกาสเกิดย้อนกลับมาอีกได้ นอกจากมีการป้องกันการเกิดสิวไว้ในเบื้องต้น ซึ่งสามารถทำได้

Happy New Year 2014
31/12/2013

Happy New Year 2014

รับส่วนลดค่ายา 5% สำหรับสมาชิกแฟนเพจ
22/12/2013

รับส่วนลดค่ายา 5% สำหรับสมาชิกแฟนเพจ

กระทรวงสาธารณสุข เตือนักท่องเที่ยว ชาวนา ทำงานกลางทุ่งหญ้า กางเต็นท์ท้าลมหนาวในป่า ระวัง "ไรอ่อน" กัดในร่มผ้า เสี่ยงเป็น...
22/12/2013

กระทรวงสาธารณสุข เตือนักท่องเที่ยว ชาวนา ทำงานกลางทุ่งหญ้า กางเต็นท์ท้าลมหนาวในป่า ระวัง "ไรอ่อน" กัดในร่มผ้า เสี่ยงเป็น "โรคสครับไทฟัส" เผยปีนี้พบป่วยแล้ว 9,729 ราย เสียชีวิต 7 ราย
ในช่วงฤดูหนาวประชาชนมักนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น สูดอากาศ และชมความงามธรรมชาติจำนวนมาก สำหรับเรื่องที่เป็นห่วงและต้องเน้นย้ำให้ประชาชนที่ชื่นชอบการเที่ยวป่าก็คือ การระมัดระวังตัวไรอ่อน (chigger) กัด ซึ่งมักเกิดขึ้นโดยบังเอิญไรชนิดนี้ทำให้เกิดโรคเรียกว่าโรคสครับไทฟัส (Scrub typhus) หรือไข้รากสาดใหญ่โดยตัวไรอ่อนจะอาศัยอยู่ในขนของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก เช่น หนู กระแต กระจ้อน เมื่อกัดคนจะปล่อยเชื้อที่เรียกว่า ริกเก็ตเซีย (Rickettsia) เข้าสู่คน อวัยวะที่ตัวไรอ่อนมักจะเข้าไปกัดคือ ในบริเวณร่มผ้า เช่น อวัยวะสืบพันธุ์ ขาหนีบ เอว ลำตัวบริเวณใต้ราวนม รักแร้ ซึ่งมักพบมากในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว

"หลังถูกไรอ่อนกัดประมาณ 10-12 วัน จะมีอาการป่วยคือ มีไข้สูง ตัวร้อนจัด หนาวสั่น ปวดศีรษะบริเวณขมับและหน้าผากอย่างรุนแรง อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตัว ปวดกระบอกตา มีอาการไอแห้งๆ ผู้ป่วยร้อยละ 30-40 จะพบแผลคล้ายถูกบุหรี่จี้ (eschar) ที่บริเวณที่ถูกไรอ่อนกัด ลักษณะมีสีแดงคล้ำเป็นรอยบุ๋ม ไม่คัน ซึ่งถือว่าเป็นลักษณะเฉพาะของโรคนี้ผู้ป่วยร้อยละ 20 อาจมีอาการแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดอักเสบ สมองอักเสบ อาจเสียชีวิตได้ โดยพื้นที่ที่พบผู้ป่วยโรคสครับไทฟัสมากที่สุดได้แก่ ภาคเหนือ รองลงมา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ"
ขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่มียารักษาให้หายได้ จึงแนะนำให้ประชาชนที่จะไปท่องเที่ยวตั้งแคมป์ไฟ กางเต็นท์นอนในป่า ควรทำบริเวณค่ายพักให้โล่งเตียน หลีกเลี่ยงการนั่งและนอนบนพื้นหญ้า บริเวณพุ่มไม้ ป่าละเมาะ แต่งกายให้มิดชิด ควรใส่รองเท้า สวมถุงเท้าหุ้มปลายขากางเกง ใส่เสื้อแขนยาวปิดคอ และเหน็บชายเสื้อเข้าในกางเกง ทายาป้องกันแมลงกัดตามแขนขา การทาครั้งหนึ่งจะออกฤทธิ์ป้องกันได้นาน 4 ชั่วโมง และให้รีบอาบน้ำให้สะอาดหลังออกจากป่า ซักเสื้อผ้าที่สวมใส่ซักให้สะอาดทันทีไรอ่อนมีขนาดเท่าปลายเข็มหมุด มีสีส้มอมแดง มองเห็นด้วยตาเปล่า อาศัยอยู่ตามพื้นดินบริเวณที่ชุ่มชื้น มีใบไม้ ใบหญ้า ปกคลุม ไรอ่อนจะต้องกินน้ำเลี้ยงเซลล์ของสัตว์หรือคน จึงจะเจริญเติบโตเป็นไรแก่ ในปีนี้ตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม ทั่วประเทศมีรายงานผู้ป่วยโรคสครับไทฟัส 9,729 ราย เสียชีวิต 7 ราย ภาคเหนือมีผู้ป่วยมากที่สุด 5,229 ราย ส่วนใหญ่มักจะเป็นจังหวัดที่มีป่าเขา รองลงมาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3,121 ราย ภาคใต้ 1,204 ราย และภาคกลาง 175 ราย ผู้ป่วยเกือบร้อยละ 90 อาศัยในเขตชนบท ทั้งนี้หลังกลับจากท่องเที่ยวภายใน 2 สัปดาห์ หากมีอาการป่วย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เราพบว่าปัญหาผิวที่พบบ่อย คือ ผิวมันและมีสิว ที่มีคำกล่าวว่า สิวเป็นเรื่องธรรมชาตินั้นมีส่วนถูก ...
24/07/2013

เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เราพบว่าปัญหาผิวที่พบบ่อย คือ ผิวมันและมีสิว ที่มีคำกล่าวว่า สิวเป็นเรื่องธรรมชาตินั้นมีส่วนถูก เนื่องจากการเกิดสิวนั้นมาจากการอุดตันในรูขุมขนจากการสร้างเคราติน (Keratin) ที่ผิดปกติ เกิดเป็นโคมิโดน (Comedone) และผลจากฮอร์โมนเพศชายที่เพิ่มขึ้นในวัยนี้ กระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันให้ขยายขนาดและผลิตไขมัน (Sebum) ออกมา แบคทีเรียที่อยู่ในรูขุมขนก็เพิ่มจำนวนขึ้นมาย่อยไขมัน เกิดเป็นกรดไขมันที่ทำให้เกิดสิวอักเสบ ความรุนแรงของสิวในแต่ละคนไม่เท่ากันขึ้นกับกรรมพันธุ์และฮอร์โมนเพศชาย เพราะฉะนั้น จะเห็นว่าสิวไม่ได้เกิดจากความสกปรกแต่เพียงอย่างเดียว แต่มีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย การล้างหน้าบ่อยๆ จึงไม่ได้เป็นการรักษาสิว ในทางตรงกันข้ามยิ่งล้างหน้าจะยิ่งทำให้มีการผลิตไขมันออกมาทดแทน ทำให้รูขุมขนอุดตันมากขึ้นด้วย ดังนั้น จึงควรล้างหน้าไม่เกิน 2 3 ครั้งต่อวันก็สะอาดเพียงพอแล้ว

สำหรับการรักษาสิวนั้น มีทั้งการทายาและรับประทานยา ขึ้นกับความรุนแรง ถ้ามีแค่สิวอุดตัน ไม่อักเสบ สามารถใช้ยาทาได้ แต่ถ้าสิวอักเสบมาก ต้องรับประทานยาแก้อักเสบ ถ้ามีสิวอักเสบรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อลดโอกาสเกิดแผลเป็นจากสิว หลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะสิว เพราะทำให้เกิดรอยหลุมสิว ซึ่งยากที่จะรักษาให้ผิวกลับมาเรียบดังเดิม

สธ.กำชับทุกจังหวัด เข้มข้นการควบคุมการแพร่ระบาดของไข้เลือดออก ใช้มาตรการ 3-3-1 รายงานโรคหลังพบผู้ป่วย 3 ชม., ส่ง อสม.กำจ...
23/07/2013

สธ.กำชับทุกจังหวัด เข้มข้นการควบคุมการแพร่ระบาดของไข้เลือดออก ใช้มาตรการ 3-3-1 รายงานโรคหลังพบผู้ป่วย 3 ชม., ส่ง อสม.กำจัดยุงใน 3 ชม. และลงควบคุมโรคภายใน 1 วัน

เมื่อวันที่ 19 ก.ค.56 นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงมาตรการป้องกันควบคุมไข้เลือดออก ภายหลังประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้วางมาตรการต่างๆ ในการป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกอย่างเต็มรูปแบบและเต็มที่ โดยในระยะนี้จะเร่งรัดประสิทธิภาพการทำงานของพื้นที่

โดยเฉพาะในจุดที่วอร์รูมไข้เลือดออกส่วนกลาง ได้วิเคราะห์ปัญหาสัปดาห์ต่อสัปดาห์ เพื่อให้ผู้บริหารในจังหวัดติดตามแก้ไขให้ตรงจุด เน้นควบคุมไม่ให้โรคแพร่ระบาดเพิ่มในพื้นที่ที่พบผู้ป่วยไข้เลือดออก โดยใช้มาตรการ 3-3-1 คือ หลังโรงพยาบาลพบผู้ป่วย ให้รายงานโรคให้หน่วยควบคุมโรคของพื้นที่ภายใน 3 ชั่วโมง และให้หน่วยควบคุมโรคกำชับให้ อสม.ลงกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายที่บ้าน ชุมชนผู้ป่วยภายใน 3 ชั่วโมง และส่งทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วหรือเอสอาร์อาร์ที ลงพื้นที่ควบคุมโรคภายใน 1 วัน เพื่อจำกัดวงแพร่ระบาดได้รวดเร็วขึ้น โดยมีต้นแบบที่จังหวัดนครพนมนำมาใช้ ทำให้สามารถควบคุมโรคได้ดีขึ้น

ที่น่าเป็นห่วงขณะนี้ คือพื้นที่พิเศษ ที่โรงเรียน โรงพยาบาล ผลสำรวจล่าสุดพบมีโรงเรียนร้อยละ 45 และโรงพยาบาลร้อยละ 29 ยังมีลูกน้ำยุงลาย ได้กำชับให้ทุกจังหวัดเร่งทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ลดจำนวนยุงลาย ซึ่งเป็นตัวการแพร่เชื้อโรคไข้เลือดออกอย่างต่อเนื่อง หากทุกภาคส่วน ทั้งที่บ้าน โรงเรียน วัด ศาสนสถาน ที่ทำงาน ร่วมมือกัน โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มั่นใจว่าจะลดจำนวนการป่วยของประชาชนได้อย่างแน่นอน

ทั่วประเทศมีผู้ป่วยไข้เลือดออกเพิ่มขึ้น 6,000 กว่าราย เสียชีวิต 2 ราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนที่เพิ่มขึ้น 8,000 กว่าราย แนวโน้มเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น การระบาดชะลอตัวช้าลง จะต้องรักษาระดับความเข้มข้นในการป้องกันและควบคุมโรคต่อเนื่องไปอีกทุกพื้นที่ เนื่องจากยุงลายบินได้ไกลในรัศมี 50-100 เมตร จากแหล่งที่อยู่ ต้องทำลายลูกน้ำยุงลายทุก 7 วัน อย่าให้ยุงเกิด

ทั้งนี้ ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 16 กรกฎาคม 2556 มีผู้ป่วยรวม 73,902 ราย เสียชีวิต 73 ราย จังหวัดที่มีผู้ป่วยสะสมสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ เชียงใหม่ กทม. สงขลา เชียงราย นครราชสีมา นครศรีธรรมราช เพชรบูรณ์ ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด และนครพนม ที่น่าห่วงคือ ในกลุ่มผู้เสียชีวิต 2 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นวัยทำงาน อายุ 36-37 ปี เป็นชาย 1 ราย หญิง 1 ราย จึงขอย้ำเตือนประชาชนในช่วงนี้ หากป่วยเป็นไข้สูงลอย กินยาลดไข้แล้วไข้ไม่ลด หน้าแดง ปวดศีรษะมาก หากอาการไข้ไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน อย่านิ่งนอนใจ ขอให้รีบไปพบแพทย์ใกล้บ้าน เพื่อรับการตรวจรักษาโดยละเอียดต่อไป

สาธารณสุขเผย มีผู้เสพหน้าใหม่จำนวนมากเริ่มจากดื่มสุราและสูบบุหรี่ มีทั้งเยาวชนและวัยแรงงาน เร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชน...
22/07/2013

สาธารณสุขเผย มีผู้เสพหน้าใหม่จำนวนมากเริ่มจากดื่มสุราและสูบบุหรี่ มีทั้งเยาวชนและวัยแรงงาน เร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนรู้ถึงโทษของยาเสพติด โดยจัดกิจกรรมให้เยาวชนเข้าร่วม

จากการ ประชุมวิชาการยาเสพติดแห่งชาติครั้งที่ 14 หัวข้อ “วิชาการยาเสพติดสู่อาเซียน : สร้างเครือข่ายสร้างคุณภาพ” พบว่า ในปี 2555 มีผู้เข้ารับการบำบัดยาเสพติดทั่วประเทศประมาณ 5.6 แสนคน แต่สิ่งที่น่าห่วงคือผู้เข้ารับการบำบัดกว่าครึ่งเป็นผู้เสพติดรายใหม่ และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน โดยในระยะเวลา 6 ปี พบเด็กอายุ 7-11 ปี เข้ารับการบำบัดเพิ่มขึ้น 5 เท่า จาก 18 ราย ในปี 2550 เป็น 90 ราย ในปี 2555 ส่วนอายุ 12-17 ปี เพิ่มขึ้น 6 เท่าจาก 7,800 ราย เป็น 46,000 ราย

ดังนั้น การแก้ปัญหาในปี 2556 สธ.จะได้เน้นการสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดกับกลุ่มเด็กและเยาวชน โดยจะขยายฐานการให้ ความรู้ตั้งแต่อายุ 7-19 ปี กับเด็กทั้งในและนอกระบบการศึกษา เพื่อให้เยาวชนรู้เท่าทันพิษภัยยาเสพติด ซึ่งจะใช้กิจกรรม เช่น โซเชียลมีเดียมาเป็นสื่อกลาง รวมถึงการให้ความรู้เรื่องบุหรี่และเหล้าเนื่องจากเป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่การใช้ยาเสพติด โดยพบว่ากลุ่มเยาวชนที่เข้ารับการบำบัดร้อยละ 80-90 มีประวัติสูบบุหรี่และดื่มสุรามาก่อน และมักจะเสพกันเป็นกลุ่ม

ที่อยู่

134 M. 1 T. Paknakhon A. Muang
Nakorn Si Thamarat
80000

เบอร์โทรศัพท์

0829598217

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ปากนครคลินิก - PakNaKhonClinicผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง ปากนครคลินิก - PakNaKhonClinic:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram