วัดป่าธรรมวิเวก

วัดป่าธรรมวิเวก ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก วัดป่าธรรมวิเวก, สถานปฏิบัติธรรม, Nong Bua Lamphu.

ท่านใดประสงค์ร่วมบุญกับทางวัด 020-465-963-559
ธนาออมสิน วัดป่าธรรมวิเวก🙏 ติดต่อร่วมบุญ 092-460-2477
พระอาจารย์อภินันท์ สุจิตฺโต ไลน์Kot262539 ระวังมิชฉาชีพเเอบอ้างบอกบุญ บัญชีวัดเท่านั้น🙏📌😇🙏 ตั้งอยู่ บ.ยางหลวงพัฒนา
ต.กุดจิก อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
วัดป่าธรรมวิเวก (ธ)
เเต่เดิมเป็นวัดร้าง พึ่งกำลังจะบูรณะพัฒนา
โดยมี พระครูบาอภินันท์ สุจิตฺโต ได้นำพาญาติโยมทั่วสารทิศ มาช่วยกัน บูรณะ พัฒนา โดยได้เริ่มเข้ามาอยู่ วันที่5ม.ค.2564 มาเพื่อบูรณะพัฒนาวัดให้เจริญงอกงามในพระพุทธศาสนาเเละเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมสืบไป มาร่วมด้วยช่วยกัน ตอนนี้กุฏิก็ยังชำรุดทรุดโทรด ศาลาก็เช่นกัน ยังขาดเเคลนอะไรอีกหลายอย่าง จึงขอบอกบุญทุกๆท่าน
ผ่านเพจวัดป่าธรรมวิเวกนี้ ขอเจริญพร
พระอภินันท์ สุจิตฺโต
( ครูบานันท์)

ร่วมบุญบูรณะพัฒนาวัด ค่าไฟ
เลขบัญชี 405-948-3128
ธนาคารไทยพาณิชย์
ชื่อบัญชี พระอภินันท์ สิงห์คำ

บัญชีบำรุงวัด สร้างโรงครัววัดหลังใหม่
เลขบัญชี 099-1-86051-7
ธนาคารกสิกรไทย
ชื่อบัญชี พระอภินันท์ สิงห์คำ

ที่อยู่วัด สำหรับส่งของมาถวาย
วัดป่าธรรมวิเวก บ.ยางหลวงพัฒนา
ต.กุดจิก อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู 39000
065-357-4479
ไลน์kot262539
ขออนุโมทนาสาธุ ขอเจริญพร
พระอภินันท์ สุจิตฺโต วัดป่าธรรมวิเวก จ.หนองบัวลำภู

✨ขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรม ✨🪷ฉลองเจดีย์พระพุทธเจ้า๕ พระองค์🪷พิธีบวงสรวงใหญ่-สวดพุทธาภิเษก เหรียญรุ่นเเรก วัดป่าธรรมวิเวก รุ่...
03/12/2025

✨ขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรม ✨
🪷ฉลองเจดีย์พระพุทธเจ้า๕ พระองค์🪷
พิธีบวงสรวงใหญ่-สวดพุทธาภิเษก เหรียญรุ่นเเรก
วัดป่าธรรมวิเวก รุ่นบารมีเศรษฐีบุญ
🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼🌼
กำหนดการ วันที่ 31 ธันวาคม 2568
เวลา 07.30น.คณะสงฆ์ ออกรับบิณฑบาตรภายในวัด
เวลา 08.00น. ถวายภัตตาหาร เเด่คณะสงฆ์
เวลา 09.00น. ให้ผู้มาปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ เดินจงกรม
เวลา 17.09น. เริ่มพิธีบวงสรวง
👏
เวลา 21.00น. พิธีสวดพุทธาภิเษกฉลองเจดีย์
สวดพุทธาภิเสก เหรียญรุ่นเเรก วัดป่าธรรมวิเวก
(สวดตลอดคืน)
เวลา 05.00น. ดับเทียนชัย
ประธานฝ่ายสงฆ์พระอาจารย์อภินันท์ สุจิตฺโต
เจ้าภาพโต๊ะบวงสรวง คุณเอ๋ นันทวดี เขม่นกิจ
เจ้าภาพถวายนางรำ ริต้า ดิษยโสธรศิลป์ ผจก.มยุรี ขะพินิจ
นักร้องรับเชิญ คุณก๊อต จิรพัฒน์ (เจ้าของเพลงคาถาพลิกชีวิต)
หมอพราหมณ์ อ.เเจ๊ค อ.ฝ้าย บ้านเศรษฐีบุญนาคราช

นายรำ คิงส์ ดราก้อน (รำเกี้ยว)
นางรำ
ริต้า ดิษยโสธรศิลป์
สุ รุ่งธิดา เทวีมณีนาคราช
อุ้ม ฉัตรชญา
ครูก้อย ฮักฟ้อน
เนตร ภุชนุตรา
หงษ์ฟ้า นางรำนาคราช (รำเกี้ยว)
หนูนา ธิดานาคี
อลิซ ตรีทิพย์ธิดานาคราช
เอ็นดู ธิดาน้อย พระเเม่ธรณี
💐ทำบุญบัญชีวัดป่าธรรมวิเวก💐
🪷(พระอาจารย์อภินันท์ สุจิตฺโต)🪷
📍เลขบัญชี 020-465-963-559
📍ธนาคารออมสิน
📍ชื่อบัญชี วัดป่าธรรมวิเวก
🙏ขอให้เจริญในสิ่งที่ปรารถนาในธรรมด้วยเทอญ🙏

อานิสงส์โดยรวมจากการสวดพุทธาภิเษก
* ด้านจิตใจ: ช่วยให้มีสมาธิ จิตใจสงบ และช่วยให้มีความมั่นคงทางจิตใจ
* ด้านความปลอดภัย: ช่วยป้องกันภยันตรายอันตรายต่างๆ ได้แก่ ภัยพิบัติ อุบัติเหตุ และสิ่งไม่ดีชั่วร้าย
* ด้านสุขภาพ: ช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และช่วยให้การนอนหลับสบายขึ้น
* ด้านการงานและโชคลาภ: ช่วยเสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองในการงาน และเสริมดวงชะตาให้ดีขึ้น
* ด้านสิริมงคล: นำมาซึ่งสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว

อานิสงส์จากการเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก
* การทำบุญบารมี: การเข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษกเป็นการทำบุญกุศล และเป็นการเพิ่มพูนพลังบุญบารมี
* การส่งพลังจิต: การสวดภาวนาเป็นการแผ่พลังจิตให้แก่ผู้อื่นและสรรพสิ่ง ทำให้เกิดเป็นพลังงานบุญกุศล
* การได้รับพลังจากพระสงฆ์: พลังบุญกุศลจากพระสงฆ์ที่สวดภาวนา จะช่วยเสริมความเข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์ให้กับวัตถุมงคล

#อานิสงส์ของการปฏิบัติธรรม คือการพัฒนาสุขภาพจิตให้แข็งแรง ทำให้จิตใจสงบ เบิกบาน มีสติรู้เท่าทัน และลดความกังวลรวมถึงช่วยให้มองเห็นความจริงของชีวิต ทำให้เผชิญปัญหาต่างๆ ได้ดีขึ้น และในที่สุดสามารถบรรลุความหลุดพ้นจากกิเลสและความทุกข์ทั้งปวงได้

#การเข้าร่วมพิธีบวงสรวงมีอานิสงส์หลายประการ
ทั้งในด้านความเป็นสิริมงคลต่อชีวิต เช่น ความเจริญรุ่งเรือง ความมั่นคง ความสุขสงบ การอโหสิกรรม และการคุ้มครองจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ยังส่งเสริมความรักความสามัคคีในสังคมและช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน

 #ขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรมกรรมฐาน  ฉลองเจดีย์พระพุทธเจ้า๕ พระองค์พิธีบวงสรวงใหญ่-สวดพุทธาภิเสก เหรียญรุ่นเเรก วัดป่าธรรมวิเ...
01/12/2025

#ขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรมกรรมฐาน
ฉลองเจดีย์พระพุทธเจ้า๕ พระองค์
พิธีบวงสรวงใหญ่-สวดพุทธาภิเสก
เหรียญรุ่นเเรก วัดป่าธรรมวิเวก รุ่นบารมีเศรษฐีบุญ
(พระมหาจักรพรรดิ พระพุทธบุญฤทธิ์โพธิญาณ)

กำหนดการ วันที่ 31 ธันวาคม 2568
เวลา 07.30น.คณะสงฆ์ ออกรับบิณฑบาตรภายในวัด
เวลา 08.00น. ถวายภัตตาหาร เเด่คณะสงฆ์
เวลา 09.00น. ให้ผู้มาปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ เดินจงกรม
เวลา 17.09น. เริ่มพิธีบวงสรวง

เวลา 21.00น. พิธีสวดพุทธาภิเษกฉลองเจดีย์
สวดพุทธาภิเสก เหรียญรุ่นเเรก วัดป่าธรรมวิเวก
(สวดตลอดคืน) (นั่งอธิษฐานจิต ตลอดคืน)
เวลา 05.00น. ดับเทียนชัย เป็นเสร็จพิธี
เวลา 07.00น. ถวายภัตตาหารเช้า เเด่พระสงฆ์
ถวายเครื่องไทยธรรม ทอดผ้าป่าสามัคคี
พระสงฆ์อนุโมทนา เป็นเสร็จพิธี

ประธานฝ่ายสงฆ์พระอาจารย์อภินันท์ สุจิตฺโต
ประธานฝ่ายฆราวาส สจ.คำพอง เค้างิ้ว
เจ้าภาพโต๊ะบวงสรวง คุณเอ๋ นันทวดี เขม่นกิจ
นักร้องรับเชิญ คุณก๊อต จิรพัฒน์
หมอพราหมณ์ อ.เเจ๊ค อ.ฝ้าย บ้านเศรษฐีบุญนาคราช
นายรำ คิงส์ ดราก้อน (รำเกี้ยว)
นางรำ
ริต้า ดิษยโสธรศิลป์
สุ รุ่งธิดา เทวีมณีนาคราช
อุ้ม ฉัตรชญา
ครูก้อย ฮักฟ้อน
เนตร ภุชนุตรา
หงษ์ฟ้า นางรำนาคราช (รำเกี้ยว)
หนูนา ธิดานาคี
อลิซ ตรีทิพย์ธิดานาคราช
เอ็นดู ธิดาน้อย พระเเม่ธรณี

💐ทำบุญบัญชีวัดป่าธรรมวิเวก💐
🪷(พระอาจารย์อภินันท์ สุจิตฺโต)🪷
📍เลขบัญชี 020-465-963-559
📍ธนาคารออมสิน
📍ชื่อบัญชี วัดป่าธรรมวิเวก
🙏ขอให้เจริญในสิ่งที่ปรารถนาในธรรมด้วยเทอญ🙏

อานิสงส์โดยรวมจากการสวดพุทธาภิเษก
* ด้านจิตใจ: ช่วยให้มีสมาธิ จิตใจสงบ และช่วยให้มีความมั่นคงทางจิตใจ
* ด้านความปลอดภัย: ช่วยป้องกันภยันตรายอันตรายต่างๆ ได้แก่ ภัยพิบัติ อุบัติเหตุ และสิ่งไม่ดีชั่วร้าย
* ด้านสุขภาพ: ช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และช่วยให้การนอนหลับสบายขึ้น
* ด้านการงานและโชคลาภ: ช่วยเสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองในการงาน และเสริมดวงชะตาให้ดีขึ้น
* ด้านสิริมงคล: นำมาซึ่งสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว

#อานิสงส์จากการเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษก
* การทำบุญบารมี: การเข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษกเป็นการทำบุญกุศล และเป็นการเพิ่มพูนพลังบุญบารมี
* การส่งพลังจิต: การสวดภาวนาเป็นการแผ่พลังจิตให้แก่ผู้อื่นและสรรพสิ่ง ทำให้เกิดเป็นพลังงานบุญกุศล
* การได้รับพลังจากพระสงฆ์: พลังบุญกุศลจากพระสงฆ์ที่สวดภาวนา จะช่วยเสริมความเข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์ให้กับวัตถุมงคล

#อานิสงส์ของการปฏิบัติธรรม คือการพัฒนาสุขภาพจิตให้แข็งแรง ทำให้จิตใจสงบ เบิกบาน มีสติรู้เท่าทัน และลดความกังวลรวมถึงช่วยให้มองเห็นความจริงของชีวิต ทำให้เผชิญปัญหาต่างๆ ได้ดีขึ้น และในที่สุดสามารถบรรลุความหลุดพ้นจากกิเลสและความทุกข์ทั้งปวงได้

#การเข้าร่วมพิธีบวงสรวงมีอานิสงส์หลายประการ
ทั้งในด้านความเป็นสิริมงคลต่อชีวิต เช่น ความเจริญรุ่งเรือง ความมั่นคง ความสุขสงบ การอโหสิกรรม และการคุ้มครองจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ยังส่งเสริมความรักความสามัคคีในสังคมและช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน

25/11/2025

กราบถวายความอาลัยหลวงปู่คำบ่อ ฐิตปญฺโญ
หลวงปู่ละสังขาร เวลา ๙.๕๐ น.
วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๘...................................................................
หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ วัดใหม่บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย
ข้าพเจ้ามีนามเดิมที่โยมคุณตาตั้งให้ ชื่อ คำบ่อ พวงสี เกิดเมื่อวันพุธที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๗๔ เวลาประมาณ ๐๓.๐๐ น. ตรงกับวันขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะแม ณ บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายทองและนางภู่ พวงสี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด ๗ ข้าพเจ้าเป็นบุตรคนที่ ๑

ในปฐมวัย ข้าพเจ้าได้เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาที่ศาลาวัดศรีษะเกษ บ้านตาล จ.สกลนคร จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เมื่อจบแล้ว โยมบิดา-โยมมารดาจะให้บวชเป็นสามเณร จึงตอบท่านไปว่า ยังไม่บวช จะอยู่ทำงานไปอีกสักระยะหนึ่งก่อนจึงจะบวช โยมบิดา-โยมมารดาท่านก็ไม่ว่าอะไรแม้แต่คำเดียว
ท่านทั้งสองเป็นพุทธมามกะ เลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนา เพราะเชื่อว่าความดีก็มีเหตุ ความชั่วก็มีเหตุ ความดีก็เกิดจากการกระทำดีนั้น ความชั่วก็เกิดจากการกระทำชั่วนั้น ฉะนั้น ท่านทั้งสองจึงพยายามสร้างความดี ทำความดี ตามกำลังกายกำลังทรัพย์ กำลังปัญญาของท่าน จนกระทั่งท่านทั้งสองจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ
ชีวิตเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๙๕ ปีมะโรง อายุได้ ๒๑ ปี วันนั้นคุณตามาที่บ้านประมาณ ๑ ทุ่ม ท่านถามว่ากินข้าวเสร็จหรือยัง เลยบอกท่านว่ายัง ท่านเลยบอกให้รีบไปกินข้าว วันนี้จะพาไปมอบนาคที่วัดตาลนิมิต บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร แบบนี้เขาเรียกว่าแบบจู่โจมไม่ให้รู้ตัว โยมบิดา-โยมมารดาไม่บอกให้ทราบ แต่ข้าพเจ้ากลับรู้สึกดีใจ จะได้หมดหนี้บุญคุณของท่านเสียที หนี้บุญคุณของบิดามารดา ยังฝังอยู่ในจิตใจไม่หลงลืมตลอดมา
ถ้ายังไม่ได้บวชให้ท่านก่อนแล้ว ก็จะไม่แต่งงานเป็นอันขาด เพราะได้ยินญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ตาของเธอเขาดีใจมากเพราะได้หลานคนแรกเป็นผู้ชาย ท่านบอกว่าท่านได้กำไรแล้ว คำว่ากำไรคงหมายถึงความดีเท่านั้น คำพูดของท่านคำนี้จึงไม่ลืมเลือนไปจากจิตใจของข้าพเจ้าตลอดมาจนกระทั่งทุกวันนี้
อยู่ไปประมาณเดือนมีนาคม ครูบาอาจารย์อาจมองเห็นว่าจะมองว่าใกล้ไฟ มันร้อนใกล้ค้อนมันเจ็บ ท่านเลยลัดคิวบวชเป็นสามเณรให้ ท่านก็ได้จับบวชเป็นสามเณรที่โบสถ์น้ำ เรียกว่า อุทกุกเขปสีมา เป็นสามเณรจนกระทั่งเดือนเมษายนอุโบสถที่สร้างก็เสร็จ ทำพิธีพัทธสีมาแล้วทำพิธีบวช โดยมี พระมหาเถื่อน อุชุกโร เป็นพระอุปัชฌาย์, พระลี ฐิตธัมโม เป็นพระกรรมวาจารย์ และ พระโง่น โสรโย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๙๕ เวลา ๐๙.๔๕ น. ณ วัดเจริญราษฎร์ เสร็จแล้วก็เดินทางกลับมาที่วัดตาลนิมิต อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
ที่วัดตาลนิมิต ได้ช่วยทำการงานที่ครูบาอาจารย์มีความประสงค์จะทำ คือเริ่มมีการก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ขึ้น โดยมีการเลื่อยไม้เอง แต่ข้อวัตรปฏิบัติอะไรก็มิได้ขาดทุกวัน จนกระทั่งเดือนมีนาคม-เมษายนนี่แหละ มี พระอาจารย์อ่อนศรี ฐานวโร มากราบคารวะหลวงปู่ลี อโสโก ที่เป็นผู้หนึ่งที่ท่านเคารพนับถือ และเคยอยู่จำพรรษากับท่าน ท่านจึงมาชวนไปจังหวัดอุบลราชธานี ในระหว่างพรรษานี้ก็ได้ช่วยงานมีการก่อสร้างภายในวัด
จนกระทั่งออกพรรษา ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ว่าจะไปเที่ยวเขาพระวิหารกับท่านอาจารย์อ่อนศรี ฐานวโร และเพื่อนๆ พระเณร ไปด้วยกัน ๔ รูป พอมาถึงตัวจังหวัดอุบลราชธานี ได้ไปกราบลาเจ้าคณะจังหวัดแล้วพักอยู่ที่วัดสำราญนิวาส อ.วารินชำราบ ได้มาพบกับพระอาจารย์มุ่ย ณ วัดแห่งนี้ ท่านเลยชวนไปจำพรรษาจังหวัดชลบุรี ที่วัดวิเวการาม ที่ท่านอาจารย์อรุณท่านอยู่ ท่านไม่มีหมู่เพื่อนเท่าใดนัก ฉะนั้น ทุกคนก็ตกลงไปจังหวัดชลบุรีเพื่อจะอยู่จำพรรษาที่วัดวิเวการามแห่งนี้
พระพุทธเจ้าปรากฏ
ปี พ.ศ.๒๔๙๘ ได้เดินทางไปทางภาคใต้ของประเทศไทย ไปพักอยู่จังหวัดเพชรบุรี วัดอุทัยโพราม กับหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม พักอยู่ที่นี่ระยะหนึ่งเพื่อจะมีโอกาสได้ฟังโอวาทคำเตือนเกี่ยวกับธรรมวินัย ในการประพฤติปฏิบัติเพื่อแสวงหาความพ้นทุกข์ เมื่อได้โอกาสแล้วจึงได้กราบลาท่าน เดินทางต่อไปจังหวัดกระบี่ พักแรมอยู่ในป่าในจังหวัดกระบี่ประมาณ ๑ เดือน ก็เดินทางต่อไปที่จังหวัดพังงา เพื่อจะได้พบครูบาอาจารย์ มีหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี แต่ไม่ได้พบ ท่านมาประชุมงานวันบูรพาจารย์ที่วัดสุทธาวาส
อยู่จังหวัดพังงาประมาณ ๑ เดือน กับพระหลวงพ่อของ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ตกลงว่าจะอยู่กับท่านตามคำนิมนต์ของคณะศรัทธาญาติโยมที่นั่น แต่แล้วก็เป็นอนิจจังไปอีก คือเนื่องจาก ท่านพระอาจารย์มหาปิ่น ชลิโต ท่านเป็นพระผู้ใหญ่ขอร้องให้ไปอยู่กับท่านที่ อ.แม่พริก ท่านก็มองไปมุมหนึ่งของท่านเพราะอยู่ที่นี่มีแต่ผู้หญิงมาอุปถัมภ์บำรุง เช้าก็มา เย็นก็มา ค่ำก็มา เขาดีจริงๆ ท่านก็กลัว ยังงั้นนะที่ว่าภัยนี่ ภัยของนักบวชก็มียังงั้น ก็เลยตกลงว่าไปอยู่กับท่านอาจารย์มหาปิ่น ชลิโต แล้วก็ท่านอาจารย์มหาเพิ่ม รวมเป็น ๓ รูป อยู่ที่นี่นานประมาณ ๒-๓ เดือนละมัง จึงได้ไปอยู่ ต.กะไหล อ.แม่พริก
อยู่ที่ ต.กะไหล นี่เลยเป็นไข้มาลาเรียอย่างแรง จนได้กราบเรียนครูบาอาจารย์ว่า ถ้าผมตาย ให้เผาเลย ให้เผา ไม่ต้องบอกให้ทางบ้าน คือบิดามารดาของผมทราบเรื่อง เมื่อเขาทราบแล้วจะเป็นทุกข์ ไปกราบเรียนท่านว่ายังงั้น เวลาเจ็บป่วยเนี่ย ใจก็ยิ่งเร่งความพากเพียรทำให้มีกำลังใจ จนทำให้ปรากฏเห็นพระพุทธเจ้าพร้อมทั้งพระสาวกเดินมาตามหาดทรายทะเลนั้น เกิดความปีติยินดีเป็นอันมากได้เห็นพระพุทธเจ้า ไม่ได้หลับนอน ไม่โกรธเกลียดให้ใครทั้งนั้น ใจสบาย มีแต่อยากจะพูดธรรม ไม่มีเรื่องอะไรให้ใจกังวล การรักษาตามมีตามได้ ข้อวัตรปฏิบัติก็ไม่ขาดตกบกพร่องอะไร
ที่มันปรากฏขึ้นมานี่ก็เพราะจิตใจเราเองนี้มันเป็นนิมิตเพราะเราว่าเราต้องตายแน่ ไม่มีที่พึ่งอะไรนอกเหนือจากพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เลยกลายเป็นภาพนิมิตปรากฏดังกล่าว แล้วก็ไม่ได้ทักทายปราศรัยไต่ถามอะไร เราเห็นว่าเป็นพระพุทธเจ้าแล้วก็มีความเลื่อมใสศรัทธา ในนิมิตที่ปรากฏเห็นนั้นเป็นที่ซาบซึ้งถึงใจจริงๆ เกิดความเลื่อมใสศรัทธา ไม่ได้นึกถึงความเจ็บป่วย ในระยะนั้นที่ไม่ได้พักผ่อนหลับนอนหลายๆ วัน เขาจะว่ากันว่ามาลาเลียขึ้นสมองเพราะเราเป็นคนไม่พูดกลับพูดมากขึ้น ช่วงนั้นเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราชท่านมาเยี่ยมเยียนพระตั้งแต่ จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ ได้มาแวะ ก็ได้ให้การต้อนรับท่าน ไม่มีอุปสรรคอะไรเกี่ยวกับการเจ็บไข้เหมือนกับคนไม่ได้เป็นอะไร
จากนั้นแล้วจึงพาศรัทธาญาติโยมไปจังหวัดภูเก็ต รอหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ท่านมางานบูรพาจารย์ที่จังหวัดสกลนคร เพื่อจะเข้ารับฟังธรรมโอวาทของท่าน อยู่วัดไม้ขาว จังหวัดภูเก็ต จนหลวงปู่กลับจากสกลนครไปวัดไม้ขาว ได้ฟังธรรมเป็นคติเตือนใจจากท่านเป็นครั้งแรก ได้อยู่ที่วัดไม้ขาว จนกระทั่งญาติโยมจังหวัดชลบุรี ขออาราธนาให้กลับจังหวัดชลบุรีด้วยกัน ทั้งหมดที่ไปด้วยกันเลยตกลงกลับจังหวัดชลบุรีในต้นเดือนกรกฎาคม

logo
ประวัติพระเกจิ
พระธาตุศักดิ์สิทธิ์
พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์
ปาฏิหาริย์พระเครื่อง
ฆราวาสจอมขมังเวทย์
ธรรมะพระอริยสงฆ์
วัดที่สําคัญ
ค้นหา
หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ วัดใหม่บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
ประวัติพระเกจิ
27 พ.ย. 2020 12832

share tweet share
ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ วัดใหม่บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ วัดใหม่บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแห่งวัดใหม่บ้านตาล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

• ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย
ข้าพเจ้ามีนามเดิมที่โยมคุณตาตั้งให้ ชื่อ คำบ่อ พวงสี เกิดเมื่อวันพุธที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๗๔ เวลาประมาณ ๐๓.๐๐ น. ตรงกับวันขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะแม ณ บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายทองและนางภู่ พวงสี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด ๗ ข้าพเจ้าเป็นบุตรคนที่ ๑

ในปฐมวัย ข้าพเจ้าได้เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาที่ศาลาวัดศรีษะเกษ บ้านตาล จ.สกลนคร จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เมื่อจบแล้ว โยมบิดา-โยมมารดาจะให้บวชเป็นสามเณร จึงตอบท่านไปว่า ยังไม่บวช จะอยู่ทำงานไปอีกสักระยะหนึ่งก่อนจึงจะบวช โยมบิดา-โยมมารดาท่านก็ไม่ว่าอะไรแม้แต่คำเดียว

ท่านทั้งสองเป็นพุทธมามกะ เลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนา เพราะเชื่อว่าความดีก็มีเหตุ ความชั่วก็มีเหตุ ความดีก็เกิดจากการกระทำดีนั้น ความชั่วก็เกิดจากการกระทำชั่วนั้น ฉะนั้น ท่านทั้งสองจึงพยายามสร้างความดี ทำความดี ตามกำลังกายกำลังทรัพย์ กำลังปัญญาของท่าน จนกระทั่งท่านทั้งสองจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ

หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ วัดใหม่บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
• ชีวิตเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๙๕ ปีมะโรง อายุได้ ๒๑ ปี วันนั้นคุณตามาที่บ้านประมาณ ๑ ทุ่ม ท่านถามว่ากินข้าวเสร็จหรือยัง เลยบอกท่านว่ายัง ท่านเลยบอกให้รีบไปกินข้าว วันนี้จะพาไปมอบนาคที่วัดตาลนิมิต บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร แบบนี้เขาเรียกว่าแบบจู่โจมไม่ให้รู้ตัว โยมบิดา-โยมมารดาไม่บอกให้ทราบ แต่ข้าพเจ้ากลับรู้สึกดีใจ จะได้หมดหนี้บุญคุณของท่านเสียที หนี้บุญคุณของบิดามารดา ยังฝังอยู่ในจิตใจไม่หลงลืมตลอดมา
ถ้ายังไม่ได้บวชให้ท่านก่อนแล้ว ก็จะไม่แต่งงานเป็นอันขาด เพราะได้ยินญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ตาของเธอเขาดีใจมากเพราะได้หลานคนแรกเป็นผู้ชาย ท่านบอกว่าท่านได้กำไรแล้ว คำว่ากำไรคงหมายถึงความดีเท่านั้น คำพูดของท่านคำนี้จึงไม่ลืมเลือนไปจากจิตใจของข้าพเจ้าตลอดมาจนกระทั่งทุกวันนี้
อยู่ไปประมาณเดือนมีนาคม ครูบาอาจารย์อาจมองเห็นว่าจะมองว่าใกล้ไฟ มันร้อนใกล้ค้อนมันเจ็บ ท่านเลยลัดคิวบวชเป็นสามเณรให้ ท่านก็ได้จับบวชเป็นสามเณรที่โบสถ์น้ำ เรียกว่า อุทกุกเขปสีมา เป็นสามเณรจนกระทั่งเดือนเมษายนอุโบสถที่สร้างก็เสร็จ ทำพิธีพัทธสีมาแล้วทำพิธีบวช โดยมี พระมหาเถื่อน อุชุกโร เป็นพระอุปัชฌาย์, พระลี ฐิตธัมโม เป็นพระกรรมวาจารย์ และ พระโง่น โสรโย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๙๕ เวลา ๐๙.๔๕ น. ณ วัดเจริญราษฎร์ เสร็จแล้วก็เดินทางกลับมาที่วัดตาลนิมิต อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
ที่วัดตาลนิมิต ได้ช่วยทำการงานที่ครูบาอาจารย์มีความประสงค์จะทำ คือเริ่มมีการก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ขึ้น โดยมีการเลื่อยไม้เอง แต่ข้อวัตรปฏิบัติอะไรก็มิได้ขาดทุกวัน จนกระทั่งเดือนมีนาคม-เมษายนนี่แหละ มี พระอาจารย์อ่อนศรี ฐานวโร มากราบคารวะหลวงปู่ลี อโสโก ที่เป็นผู้หนึ่งที่ท่านเคารพนับถือ และเคยอยู่จำพรรษากับท่าน ท่านจึงมาชวนไปจังหวัดอุบลราชธานี ในระหว่างพรรษานี้ก็ได้ช่วยงานมีการก่อสร้างภายในวัด
จนกระทั่งออกพรรษา ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ว่าจะไปเที่ยวเขาพระวิหารกับท่านอาจารย์อ่อนศรี ฐานวโร และเพื่อนๆ พระเณร ไปด้วยกัน ๔ รูป พอมาถึงตัวจังหวัดอุบลราชธานี ได้ไปกราบลาเจ้าคณะจังหวัดแล้วพักอยู่ที่วัดสำราญนิวาส อ.วารินชำราบ ได้มาพบกับพระอาจารย์มุ่ย ณ วัดแห่งนี้ ท่านเลยชวนไปจำพรรษาจังหวัดชลบุรี ที่วัดวิเวการาม ที่ท่านอาจารย์อรุณท่านอยู่ ท่านไม่มีหมู่เพื่อนเท่าใดนัก ฉะนั้น ทุกคนก็ตกลงไปจังหวัดชลบุรีเพื่อจะอยู่จำพรรษาที่วัดวิเวการามแห่งนี้

• พระพุทธเจ้าปรากฏ
ปี พ.ศ.๒๔๙๘ ได้เดินทางไปทางภาคใต้ของประเทศไทย ไปพักอยู่จังหวัดเพชรบุรี วัดอุทัยโพราม กับหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม พักอยู่ที่นี่ระยะหนึ่งเพื่อจะมีโอกาสได้ฟังโอวาทคำเตือนเกี่ยวกับธรรมวินัย ในการประพฤติปฏิบัติเพื่อแสวงหาความพ้นทุกข์ เมื่อได้โอกาสแล้วจึงได้กราบลาท่าน เดินทางต่อไปจังหวัดกระบี่ พักแรมอยู่ในป่าในจังหวัดกระบี่ประมาณ ๑ เดือน ก็เดินทางต่อไปที่จังหวัดพังงา เพื่อจะได้พบครูบาอาจารย์ มีหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี แต่ไม่ได้พบ ท่านมาประชุมงานวันบูรพาจารย์ที่วัดสุทธาวาส
อยู่จังหวัดพังงาประมาณ ๑ เดือน กับพระหลวงพ่อของ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ตกลงว่าจะอยู่กับท่านตามคำนิมนต์ของคณะศรัทธาญาติโยมที่นั่น แต่แล้วก็เป็นอนิจจังไปอีก คือเนื่องจาก ท่านพระอาจารย์มหาปิ่น ชลิโต ท่านเป็น

กราบถวายความอาลัยหลวงปู่คำบ่อ ฐิตปญฺโญหลวงปู่ละสังขาร เวลา ๙.๕๐ น.วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๘............................
25/11/2025

กราบถวายความอาลัยหลวงปู่คำบ่อ ฐิตปญฺโญ
หลวงปู่ละสังขาร เวลา ๙.๕๐ น.
วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๘...................................................................
หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ วัดใหม่บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย
ข้าพเจ้ามีนามเดิมที่โยมคุณตาตั้งให้ ชื่อ คำบ่อ พวงสี เกิดเมื่อวันพุธที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๗๔ เวลาประมาณ ๐๓.๐๐ น. ตรงกับวันขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะแม ณ บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายทองและนางภู่ พวงสี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด ๗ ข้าพเจ้าเป็นบุตรคนที่ ๑

ในปฐมวัย ข้าพเจ้าได้เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาที่ศาลาวัดศรีษะเกษ บ้านตาล จ.สกลนคร จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เมื่อจบแล้ว โยมบิดา-โยมมารดาจะให้บวชเป็นสามเณร จึงตอบท่านไปว่า ยังไม่บวช จะอยู่ทำงานไปอีกสักระยะหนึ่งก่อนจึงจะบวช โยมบิดา-โยมมารดาท่านก็ไม่ว่าอะไรแม้แต่คำเดียว
ท่านทั้งสองเป็นพุทธมามกะ เลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนา เพราะเชื่อว่าความดีก็มีเหตุ ความชั่วก็มีเหตุ ความดีก็เกิดจากการกระทำดีนั้น ความชั่วก็เกิดจากการกระทำชั่วนั้น ฉะนั้น ท่านทั้งสองจึงพยายามสร้างความดี ทำความดี ตามกำลังกายกำลังทรัพย์ กำลังปัญญาของท่าน จนกระทั่งท่านทั้งสองจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ
ชีวิตเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๙๕ ปีมะโรง อายุได้ ๒๑ ปี วันนั้นคุณตามาที่บ้านประมาณ ๑ ทุ่ม ท่านถามว่ากินข้าวเสร็จหรือยัง เลยบอกท่านว่ายัง ท่านเลยบอกให้รีบไปกินข้าว วันนี้จะพาไปมอบนาคที่วัดตาลนิมิต บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร แบบนี้เขาเรียกว่าแบบจู่โจมไม่ให้รู้ตัว โยมบิดา-โยมมารดาไม่บอกให้ทราบ แต่ข้าพเจ้ากลับรู้สึกดีใจ จะได้หมดหนี้บุญคุณของท่านเสียที หนี้บุญคุณของบิดามารดา ยังฝังอยู่ในจิตใจไม่หลงลืมตลอดมา
ถ้ายังไม่ได้บวชให้ท่านก่อนแล้ว ก็จะไม่แต่งงานเป็นอันขาด เพราะได้ยินญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ตาของเธอเขาดีใจมากเพราะได้หลานคนแรกเป็นผู้ชาย ท่านบอกว่าท่านได้กำไรแล้ว คำว่ากำไรคงหมายถึงความดีเท่านั้น คำพูดของท่านคำนี้จึงไม่ลืมเลือนไปจากจิตใจของข้าพเจ้าตลอดมาจนกระทั่งทุกวันนี้
อยู่ไปประมาณเดือนมีนาคม ครูบาอาจารย์อาจมองเห็นว่าจะมองว่าใกล้ไฟ มันร้อนใกล้ค้อนมันเจ็บ ท่านเลยลัดคิวบวชเป็นสามเณรให้ ท่านก็ได้จับบวชเป็นสามเณรที่โบสถ์น้ำ เรียกว่า อุทกุกเขปสีมา เป็นสามเณรจนกระทั่งเดือนเมษายนอุโบสถที่สร้างก็เสร็จ ทำพิธีพัทธสีมาแล้วทำพิธีบวช โดยมี พระมหาเถื่อน อุชุกโร เป็นพระอุปัชฌาย์, พระลี ฐิตธัมโม เป็นพระกรรมวาจารย์ และ พระโง่น โสรโย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๙๕ เวลา ๐๙.๔๕ น. ณ วัดเจริญราษฎร์ เสร็จแล้วก็เดินทางกลับมาที่วัดตาลนิมิต อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
ที่วัดตาลนิมิต ได้ช่วยทำการงานที่ครูบาอาจารย์มีความประสงค์จะทำ คือเริ่มมีการก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ขึ้น โดยมีการเลื่อยไม้เอง แต่ข้อวัตรปฏิบัติอะไรก็มิได้ขาดทุกวัน จนกระทั่งเดือนมีนาคม-เมษายนนี่แหละ มี พระอาจารย์อ่อนศรี ฐานวโร มากราบคารวะหลวงปู่ลี อโสโก ที่เป็นผู้หนึ่งที่ท่านเคารพนับถือ และเคยอยู่จำพรรษากับท่าน ท่านจึงมาชวนไปจังหวัดอุบลราชธานี ในระหว่างพรรษานี้ก็ได้ช่วยงานมีการก่อสร้างภายในวัด
จนกระทั่งออกพรรษา ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ว่าจะไปเที่ยวเขาพระวิหารกับท่านอาจารย์อ่อนศรี ฐานวโร และเพื่อนๆ พระเณร ไปด้วยกัน ๔ รูป พอมาถึงตัวจังหวัดอุบลราชธานี ได้ไปกราบลาเจ้าคณะจังหวัดแล้วพักอยู่ที่วัดสำราญนิวาส อ.วารินชำราบ ได้มาพบกับพระอาจารย์มุ่ย ณ วัดแห่งนี้ ท่านเลยชวนไปจำพรรษาจังหวัดชลบุรี ที่วัดวิเวการาม ที่ท่านอาจารย์อรุณท่านอยู่ ท่านไม่มีหมู่เพื่อนเท่าใดนัก ฉะนั้น ทุกคนก็ตกลงไปจังหวัดชลบุรีเพื่อจะอยู่จำพรรษาที่วัดวิเวการามแห่งนี้
พระพุทธเจ้าปรากฏ
ปี พ.ศ.๒๔๙๘ ได้เดินทางไปทางภาคใต้ของประเทศไทย ไปพักอยู่จังหวัดเพชรบุรี วัดอุทัยโพราม กับหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม พักอยู่ที่นี่ระยะหนึ่งเพื่อจะมีโอกาสได้ฟังโอวาทคำเตือนเกี่ยวกับธรรมวินัย ในการประพฤติปฏิบัติเพื่อแสวงหาความพ้นทุกข์ เมื่อได้โอกาสแล้วจึงได้กราบลาท่าน เดินทางต่อไปจังหวัดกระบี่ พักแรมอยู่ในป่าในจังหวัดกระบี่ประมาณ ๑ เดือน ก็เดินทางต่อไปที่จังหวัดพังงา เพื่อจะได้พบครูบาอาจารย์ มีหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี แต่ไม่ได้พบ ท่านมาประชุมงานวันบูรพาจารย์ที่วัดสุทธาวาส
อยู่จังหวัดพังงาประมาณ ๑ เดือน กับพระหลวงพ่อของ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ตกลงว่าจะอยู่กับท่านตามคำนิมนต์ของคณะศรัทธาญาติโยมที่นั่น แต่แล้วก็เป็นอนิจจังไปอีก คือเนื่องจาก ท่านพระอาจารย์มหาปิ่น ชลิโต ท่านเป็นพระผู้ใหญ่ขอร้องให้ไปอยู่กับท่านที่ อ.แม่พริก ท่านก็มองไปมุมหนึ่งของท่านเพราะอยู่ที่นี่มีแต่ผู้หญิงมาอุปถัมภ์บำรุง เช้าก็มา เย็นก็มา ค่ำก็มา เขาดีจริงๆ ท่านก็กลัว ยังงั้นนะที่ว่าภัยนี่ ภัยของนักบวชก็มียังงั้น ก็เลยตกลงว่าไปอยู่กับท่านอาจารย์มหาปิ่น ชลิโต แล้วก็ท่านอาจารย์มหาเพิ่ม รวมเป็น ๓ รูป อยู่ที่นี่นานประมาณ ๒-๓ เดือนละมัง จึงได้ไปอยู่ ต.กะไหล อ.แม่พริก
อยู่ที่ ต.กะไหล นี่เลยเป็นไข้มาลาเรียอย่างแรง จนได้กราบเรียนครูบาอาจารย์ว่า ถ้าผมตาย ให้เผาเลย ให้เผา ไม่ต้องบอกให้ทางบ้าน คือบิดามารดาของผมทราบเรื่อง เมื่อเขาทราบแล้วจะเป็นทุกข์ ไปกราบเรียนท่านว่ายังงั้น เวลาเจ็บป่วยเนี่ย ใจก็ยิ่งเร่งความพากเพียรทำให้มีกำลังใจ จนทำให้ปรากฏเห็นพระพุทธเจ้าพร้อมทั้งพระสาวกเดินมาตามหาดทรายทะเลนั้น เกิดความปีติยินดีเป็นอันมากได้เห็นพระพุทธเจ้า ไม่ได้หลับนอน ไม่โกรธเกลียดให้ใครทั้งนั้น ใจสบาย มีแต่อยากจะพูดธรรม ไม่มีเรื่องอะไรให้ใจกังวล การรักษาตามมีตามได้ ข้อวัตรปฏิบัติก็ไม่ขาดตกบกพร่องอะไร
ที่มันปรากฏขึ้นมานี่ก็เพราะจิตใจเราเองนี้มันเป็นนิมิตเพราะเราว่าเราต้องตายแน่ ไม่มีที่พึ่งอะไรนอกเหนือจากพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เลยกลายเป็นภาพนิมิตปรากฏดังกล่าว แล้วก็ไม่ได้ทักทายปราศรัยไต่ถามอะไร เราเห็นว่าเป็นพระพุทธเจ้าแล้วก็มีความเลื่อมใสศรัทธา ในนิมิตที่ปรากฏเห็นนั้นเป็นที่ซาบซึ้งถึงใจจริงๆ เกิดความเลื่อมใสศรัทธา ไม่ได้นึกถึงความเจ็บป่วย ในระยะนั้นที่ไม่ได้พักผ่อนหลับนอนหลายๆ วัน เขาจะว่ากันว่ามาลาเลียขึ้นสมองเพราะเราเป็นคนไม่พูดกลับพูดมากขึ้น ช่วงนั้นเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราชท่านมาเยี่ยมเยียนพระตั้งแต่ จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ ได้มาแวะ ก็ได้ให้การต้อนรับท่าน ไม่มีอุปสรรคอะไรเกี่ยวกับการเจ็บไข้เหมือนกับคนไม่ได้เป็นอะไร
จากนั้นแล้วจึงพาศรัทธาญาติโยมไปจังหวัดภูเก็ต รอหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ท่านมางานบูรพาจารย์ที่จังหวัดสกลนคร เพื่อจะเข้ารับฟังธรรมโอวาทของท่าน อยู่วัดไม้ขาว จังหวัดภูเก็ต จนหลวงปู่กลับจากสกลนครไปวัดไม้ขาว ได้ฟังธรรมเป็นคติเตือนใจจากท่านเป็นครั้งแรก ได้อยู่ที่วัดไม้ขาว จนกระทั่งญาติโยมจังหวัดชลบุรี ขออาราธนาให้กลับจังหวัดชลบุรีด้วยกัน ทั้งหมดที่ไปด้วยกันเลยตกลงกลับจังหวัดชลบุรีในต้นเดือนกรกฎาคม

logo
ประวัติพระเกจิ
พระธาตุศักดิ์สิทธิ์
พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์
ปาฏิหาริย์พระเครื่อง
ฆราวาสจอมขมังเวทย์
ธรรมะพระอริยสงฆ์
วัดที่สําคัญ
ค้นหา
หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ วัดใหม่บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
ประวัติพระเกจิ
27 พ.ย. 2020 12832

share tweet share
ประวัติและปฏิปทา หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ วัดใหม่บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ วัดใหม่บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแห่งวัดใหม่บ้านตาล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

• ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย
ข้าพเจ้ามีนามเดิมที่โยมคุณตาตั้งให้ ชื่อ คำบ่อ พวงสี เกิดเมื่อวันพุธที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๗๔ เวลาประมาณ ๐๓.๐๐ น. ตรงกับวันขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะแม ณ บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายทองและนางภู่ พวงสี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด ๗ ข้าพเจ้าเป็นบุตรคนที่ ๑

ในปฐมวัย ข้าพเจ้าได้เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาที่ศาลาวัดศรีษะเกษ บ้านตาล จ.สกลนคร จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เมื่อจบแล้ว โยมบิดา-โยมมารดาจะให้บวชเป็นสามเณร จึงตอบท่านไปว่า ยังไม่บวช จะอยู่ทำงานไปอีกสักระยะหนึ่งก่อนจึงจะบวช โยมบิดา-โยมมารดาท่านก็ไม่ว่าอะไรแม้แต่คำเดียว

ท่านทั้งสองเป็นพุทธมามกะ เลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนา เพราะเชื่อว่าความดีก็มีเหตุ ความชั่วก็มีเหตุ ความดีก็เกิดจากการกระทำดีนั้น ความชั่วก็เกิดจากการกระทำชั่วนั้น ฉะนั้น ท่านทั้งสองจึงพยายามสร้างความดี ทำความดี ตามกำลังกายกำลังทรัพย์ กำลังปัญญาของท่าน จนกระทั่งท่านทั้งสองจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ

หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ วัดใหม่บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
• ชีวิตเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๙๕ ปีมะโรง อายุได้ ๒๑ ปี วันนั้นคุณตามาที่บ้านประมาณ ๑ ทุ่ม ท่านถามว่ากินข้าวเสร็จหรือยัง เลยบอกท่านว่ายัง ท่านเลยบอกให้รีบไปกินข้าว วันนี้จะพาไปมอบนาคที่วัดตาลนิมิต บ้านตาล ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร แบบนี้เขาเรียกว่าแบบจู่โจมไม่ให้รู้ตัว โยมบิดา-โยมมารดาไม่บอกให้ทราบ แต่ข้าพเจ้ากลับรู้สึกดีใจ จะได้หมดหนี้บุญคุณของท่านเสียที หนี้บุญคุณของบิดามารดา ยังฝังอยู่ในจิตใจไม่หลงลืมตลอดมา
ถ้ายังไม่ได้บวชให้ท่านก่อนแล้ว ก็จะไม่แต่งงานเป็นอันขาด เพราะได้ยินญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ตาของเธอเขาดีใจมากเพราะได้หลานคนแรกเป็นผู้ชาย ท่านบอกว่าท่านได้กำไรแล้ว คำว่ากำไรคงหมายถึงความดีเท่านั้น คำพูดของท่านคำนี้จึงไม่ลืมเลือนไปจากจิตใจของข้าพเจ้าตลอดมาจนกระทั่งทุกวันนี้
อยู่ไปประมาณเดือนมีนาคม ครูบาอาจารย์อาจมองเห็นว่าจะมองว่าใกล้ไฟ มันร้อนใกล้ค้อนมันเจ็บ ท่านเลยลัดคิวบวชเป็นสามเณรให้ ท่านก็ได้จับบวชเป็นสามเณรที่โบสถ์น้ำ เรียกว่า อุทกุกเขปสีมา เป็นสามเณรจนกระทั่งเดือนเมษายนอุโบสถที่สร้างก็เสร็จ ทำพิธีพัทธสีมาแล้วทำพิธีบวช โดยมี พระมหาเถื่อน อุชุกโร เป็นพระอุปัชฌาย์, พระลี ฐิตธัมโม เป็นพระกรรมวาจารย์ และ พระโง่น โสรโย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๙๕ เวลา ๐๙.๔๕ น. ณ วัดเจริญราษฎร์ เสร็จแล้วก็เดินทางกลับมาที่วัดตาลนิมิต อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
ที่วัดตาลนิมิต ได้ช่วยทำการงานที่ครูบาอาจารย์มีความประสงค์จะทำ คือเริ่มมีการก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ขึ้น โดยมีการเลื่อยไม้เอง แต่ข้อวัตรปฏิบัติอะไรก็มิได้ขาดทุกวัน จนกระทั่งเดือนมีนาคม-เมษายนนี่แหละ มี พระอาจารย์อ่อนศรี ฐานวโร มากราบคารวะหลวงปู่ลี อโสโก ที่เป็นผู้หนึ่งที่ท่านเคารพนับถือ และเคยอยู่จำพรรษากับท่าน ท่านจึงมาชวนไปจังหวัดอุบลราชธานี ในระหว่างพรรษานี้ก็ได้ช่วยงานมีการก่อสร้างภายในวัด
จนกระทั่งออกพรรษา ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ว่าจะไปเที่ยวเขาพระวิหารกับท่านอาจารย์อ่อนศรี ฐานวโร และเพื่อนๆ พระเณร ไปด้วยกัน ๔ รูป พอมาถึงตัวจังหวัดอุบลราชธานี ได้ไปกราบลาเจ้าคณะจังหวัดแล้วพักอยู่ที่วัดสำราญนิวาส อ.วารินชำราบ ได้มาพบกับพระอาจารย์มุ่ย ณ วัดแห่งนี้ ท่านเลยชวนไปจำพรรษาจังหวัดชลบุรี ที่วัดวิเวการาม ที่ท่านอาจารย์อรุณท่านอยู่ ท่านไม่มีหมู่เพื่อนเท่าใดนัก ฉะนั้น ทุกคนก็ตกลงไปจังหวัดชลบุรีเพื่อจะอยู่จำพรรษาที่วัดวิเวการามแห่งนี้

• พระพุทธเจ้าปรากฏ
ปี พ.ศ.๒๔๙๘ ได้เดินทางไปทางภาคใต้ของประเทศไทย ไปพักอยู่จังหวัดเพชรบุรี วัดอุทัยโพราม กับหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม พักอยู่ที่นี่ระยะหนึ่งเพื่อจะมีโอกาสได้ฟังโอวาทคำเตือนเกี่ยวกับธรรมวินัย ในการประพฤติปฏิบัติเพื่อแสวงหาความพ้นทุกข์ เมื่อได้โอกาสแล้วจึงได้กราบลาท่าน เดินทางต่อไปจังหวัดกระบี่ พักแรมอยู่ในป่าในจังหวัดกระบี่ประมาณ ๑ เดือน ก็เดินทางต่อไปที่จังหวัดพังงา เพื่อจะได้พบครูบาอาจารย์ มีหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี แต่ไม่ได้พบ ท่านมาประชุมงานวันบูรพาจารย์ที่วัดสุทธาวาส
อยู่จังหวัดพังงาประมาณ ๑ เดือน กับพระหลวงพ่อของ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ตกลงว่าจะอยู่กับท่านตามคำนิมนต์ของคณะศรัทธาญาติโยมที่นั่น แต่แล้วก็เป็นอนิจจังไปอีก คือเนื่องจาก ท่านพระอาจารย์มหาปิ่น ชลิโต ท่านเป็น

 #สร้างด้วยศรัทธา  #บารมีเศรษฐีบุญ      พระพุทธบุญฤทธิ์โพธิญาณ (พระมหาจักรพรรดิ)งานสวดมนต์ ข้ามปี ฉลองเจดีย์พระพุทธเจ้า ...
24/11/2025

#สร้างด้วยศรัทธา #บารมีเศรษฐีบุญ
พระพุทธบุญฤทธิ์โพธิญาณ (พระมหาจักรพรรดิ)
งานสวดมนต์ ข้ามปี ฉลองเจดีย์พระพุทธเจ้า 5 พระองค์
รุ่น๑ วัดป่าธรรมวิเวก หนองบัวลำภู
จำนวนจัดสร้าง 2,662 เหรียญ

🙏 สนใจติดต่อจองบูชา ทักเฟส👇
พระชวัลวิชญ์ แสนสวัสดิ์ไพบูลย์ ครูบาไนท์

23/11/2025

กฎวัด ข้อปฏิบัติ ข้อห้าม ในการนำสินค้ามาขายภายในบริเวณ
วัดป่าธรรมวิเวก (วังพญานาค)
1.ห้ามนำสินค้ามาขาย ก่อนได้รับอนุญาติ
2.ห้ามนำของมึนเมาสิ่งเสพติดเเละสิ่งผิดกฎหมายมาขาย ทุกชนิด
3.ผู้ที่จะนำสินค้ามาขายทุกวัน ต้องเสียค่าบำรุงวัด 500บาท (15วัน) หรือ เดือนละ 1,000บาท
4ผู้ที่จะนำสินค้ามาขายภายในวัด(ไม่ประจำ)
เช่นวันเว้นวัน หรือ เสาร์ อาทิตย์
ต้องเสียค่าบำรุงวัด วันละ 50 บาท
5. ห้ามส่งเสียงดังและสร้างความวุ่นวายภายในวัด
6.ห้ามเดินขายสินค้าภายในวัด
7.ต้องขายสินค้าในบริเวณสถานที่ ที่ทางวัดจัดเตรียมให้เท่านั้น กรณีโยกย้ายต้องแจ้งคณะกรรมการวัดและเจ้าอาวาสให้รับรู้รับทราบเพื่อป้องกันความวุ่นวายภายในวัด
8. ต้องดูแลรักษาความสะอาดช่วยกันภายในบริเวณขายสินค้าเเละบริเวณวัด
9. ห้ามนำอาหารต่างๆมาทำในโรงครัววัด อาจก่อเกิดความวุ่นวาย ภายในวัดได้
10.ห้ามหยิบหรือยืมสิ่งของต่างๆภายในวัด
11.ให้นำอาหารน้ำดื่มหรือสิ่งของส่วนตัวมาเองทางวัดไม่มีบริการ
12.ถ้าเกิดเหตุทะเลาะวิวาทภายในวัดทางวัดจะปรับ 10,000 บาทถึง 30,000 บาทและห้ามนำสินค้ามาขายตลอดชีวิต
13.ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามกฎของทางวัด ปรับ 10,000บาท
เเละดำเนินคดีตามข้อกฎหมาย
14.ก่อนนำสินค้ามาขาย ต้องเเสดงบัตรประชาชนหรือเอกสารทุกครั้ง เเก่เจ้าอาวาส กรรมการวัด เเละผู้ที่ได้รับมอบหมาย
15.ต้องจอดรถให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
16.ทุกครั้งที่นำสินค้ามาขาย ต้องเเจ้งทะเบียนรถ ให้กับเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมาย
17.กรณี จ่ายค่าบำรุงวัด ต้องจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ หรือคณะกรรมการวัด ที่ได้รับมอบหมาย
18.กรุณาเเต่งกายให้สุภาพ เรียบร้อย
19.ห้ามปิดหน้า ปิดตา อันจะเป็นการก่อเกิดให้ผู้เที่ยวชมวัด หวาดระเเวงเเละสับสน
20.ห้ามขยายพื้นที่ขายสินค้า เกินขอบเขต ที่ทางวัดจัดหาให้
21.ห้ามนำ ดอกไม้ ธูปเทียน ธูปมงคล พานบายศรี
วัตถุมงคล ต่างๆ มาขายภายในวัด
22.ห้ามขายสินค้าเเพงเกินไป ราคาต้องเหมาะสมกับสินค้าที่ขาย
23.ห้ามขับรถเร็ว ภายในวัด อันเป็นอันตรายเเก่ผู้เที่ยวชมวัด เเละ ผู้สัญจรไปมา
24.ห้ามนำสินค้าหมดอายุ มาขายภายในวัด อาจทำให้เป็นอันตราย เเก่ผู้ที่รับประทาน เเละผู้ที่ซื้อสินค้า
25.ผู้ที่นำสินค้ามาขายภานในวัด ต้องมีสติ เป็นปกติ ไม่มึนเมา ไม่ฉุนเฉียว ไม่โมโห โทโส เเก่ผู้นำสินค้ามาขายเเละผู้มาเที่ยวชมวัด ซึ่งอาจทำให้ก่อเกิดความวุ่นวายรำคาญได้
26.ห้ามตั้งตนเป็นอาจารย์ใบ้หวย หรือ เป็นร่างทรง
27.ห้ามเปิด สำนักหมอดู ทำนายทายทัก ดูดวง
หลอกลวงใดๆ ต่างๆ อันก่อให้เกิดความเสียหายภายในวัด
28.ผู้ใดขโมยสิ่งของต่างๆ ภายในวัด จับได้ ทางวัดจะดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขอให้ทุกๆท่านจงปฏิบัติตามกฏอย่างเคร่งคัด
เเละขออนุโมทนาเเละขอบคุณที่ทุกท่านปฏิบัติ
ตามกฏวัดเเละข้อปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความสงบสุข
ความเรียบร้อยภายในวัด อันจะเป็นบุญ เป็นกุศล
ให้ทุกท่านสืบไป เเละ ไม่เป็นบาป เป็นกรรมติดตัวไปตลอดกาล
(พระอภินันท์ สุจิตฺโต)
(เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมวิเวก)
23 พ.ย. 2568

ที่อยู่

Nong Bua Lamphu
39000

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ วัดป่าธรรมวิเวกผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram