รู้ทัน กรดไหลย้อน.กระดูกและข้อ กระดูกทับเส้น กระดูกเสื่อม โทร.088-661-6349

รู้ทัน กรดไหลย้อน.กระดูกและข้อ กระดูกทับเส้น กระดูกเสื่อม โทร.088-661-6349 ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ สารสกัดจากธรรมชาติ ด้วยจุลินทรีย์ 1 แสนล้านตัว ดูแลกรดไหลย้อน ปรับสมดุลลำไส้ ต้านอนุมูลอิสระ โทร.088-661-6349

ที่ปรึกษา ดูแลปัญหากรดไหลย้อน-กระดูกและข้อ เข่าเสื่อม หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง โทรปรึกษาฟรี 088-661-6349

สัญญาณเตือนอาการ "ปวดหลัง" แบบไหน ควรรีบไปพบแพทย์อาการปวดหลังที่ควรรีบปรึกษาแพทย์ ได้แก่ อาการปวดหลังที่เป็นอยู่นาน และส...
30/11/2025

สัญญาณเตือนอาการ "ปวดหลัง" แบบไหน ควรรีบไปพบแพทย์

อาการปวดหลังที่ควรรีบปรึกษาแพทย์ ได้แก่ อาการปวดหลังที่เป็นอยู่นาน และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งมักมีอาการดังต่อไปนี้

ปวดหลังส่วนล่างเรื้อรังนานมากกว่า 3 เดือน (chronic low back pain)

มีอาการปวดรุนแรง พักหรือรับประทานยาแก้ปวดพื้นฐานแล้วไม่ดีขึ้น จนไม่สามารถทำงานหรือใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ

ปวดร้าวลงมาต้นขา ขาหรือ ลงไปปลายเท้า ข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง

มีความรู้สึกที่ผิดปกติ เช่น ชาขา เท้า หรือมีอาการแสบร้อน มีการอ่อนแรงของขา

ไม่สามารถนั่ง หรือยืนเดินนานได้ ร่วมกับปวดร้าวลงขา

อย่าชะล่าใจ สัญญาณเตือนอาการ "ปวดหลัง" แบบไหนผิดปกติ ต้องรีบพบแพทย์อาการ "ปวดหลัง" แบ่งได้เป็น 3 แบบ ตามระยะเวลารู้จัก "...
30/11/2025

อย่าชะล่าใจ สัญญาณเตือนอาการ "ปวดหลัง" แบบไหนผิดปกติ ต้องรีบพบแพทย์

อาการ "ปวดหลัง" แบ่งได้เป็น 3 แบบ ตามระยะเวลา

รู้จัก "โรคโพรงประสาทหลังตีบแคบ" พบบ่อยในผู้สูงอายุ

อันตรายกว่าที่คิด "อาการปวดหลัง" อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติ จำเป็นต้องรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง

เชื่อว่าหลายคนคงเคยประสบอาการ "ปวดหลัง" จนกลายเป็นปัญหากวนใจมาแล้ว บางคนปวดมาก บางคนปวดน้อย บางคนมีอาการเป็นวันหรือเป็นเดือน ซึ่งมีปัจจัยมาจากหลายสาเหตุ โดยทั่วไปอาการปวดหลังที่ไม่อันตราย ส่วนใหญ่หากได้พักผ่อน อาการจะดีขึ้น และไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่เมื่อมีอาการปวดที่รุนแรงหรือมีอาการนานเป็นเดือน มักส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต และเกิดจากสาเหตุที่อันตราย

อาการปวดหลัง แบ่งเป็น 3 แบบตามระยะเวลา ดังนี้

ปวดแบบเฉียบพลัน (acute) คือ มีอาการปวดต่อเนื่องน้อยกว่า 6 สัปดาห์

ปวดแบบกึ่งเฉียบพลัน (subacute) คือ มีอาการปวดหลังต่อเนื่อง 6-12 สัปดาห์

ปวดแบบเรื้อรัง (chronic) คือ มีอาการปวดหลังต่อเนื่องนานกว่า 12 สัปดาห์

อาการปวดหลังส่วนบน

อาการปวดหลังส่วนบน มักเกิดร่วมกับอาการปวดคอ ส่วนใหญ่มีสาเหตุจากการใช้ท่าทางที่ไม่เหมาะสมระหว่างวันเช่น การนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือการก้มเล่นมือถือนานๆ ซึ่งเป็นสาเหตุของ "โรคออฟฟิศชินโดรม" อาการปวดหลังส่วนบนนี้ อาจพบได้ในโรคของกระดูกต้นคอ ที่ทำให้เกิดอาการปวดคอร่วมกับอาการปวดหลังส่วนบน

อาการปวดหลังช่วงเอว หรือ อาการปวดหลังส่วนล่าง

อาการปวดหลังระดับเอว หรือ อาการปวดหลังส่วนล่าง (low back pain) เป็นอาการปวดที่พบบ่อยที่สุดของ "โรคทางออร์โธปิดิกส์" หรือ "โรคทางกระดูกและข้อ" โดยสาเหตุเกิดจาก 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ จากกล้ามเนื้อหลังและจากข้อต่อกระดูกสันหลัง โดยจะมีอาการปวดหลังบริเวณเอวต่ำกว่าขอบของซี่โครงซี่ล่างสุด จนถึงบริเวณสะโพกและก้น มีอาการมากขึ้นหรือลดลงสัมพันธ์กับท่าทางการเคลื่อนไหวหรือการทำงาน หรืออาจปวดตลอดเวลาโดยไม่สัมพันธ์กับท่าทาง บางรายอาจมีอาการปวดกลางคืนมากจนไม่สามารถนอนหลับได้ ทั้งนี้ ขึ้นกับพยาธิสภาพของโรคนั้นๆ

อาการปวดหลัง "ด้านซ้าย" หรือ "ด้านขวา"

อาการปวดหลังด้านซ้ายหรือปวดหลังด้านขวา มักมีสาเหตุจากกล้ามเนื้อหลังผิดปกติ หรือกระดูกอ่อนอักเสบ, อุบัติเหตุ, การกระแทก, การเกร็ง หรือยกของหนัก และสาเหตุอื่นๆ เช่น แน่นหน้าอกจากสาเหตุทางโรคหัวใจ, หลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องอก, กรดไหลย้อน, เยื่อหุ้มปอดอักเสบ, โรคไต, นิ่วในไต หรือปัญหาระบบทางเดินปัสสาวะ จึงแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

พฤติกรรมเสี่ยง โรคกระดูกพรุน- การสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นพฤติกรรมที่ส่งผลให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมไ...
28/11/2025

พฤติกรรมเสี่ยง โรคกระดูกพรุน

- การสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นพฤติกรรมที่ส่งผลให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้น้อยลง กระดูกได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ

- ขาดการออกกำลังกาย การออกกำลังกายจะช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น หากผู้ป่วยขาดการออกกำลังกายเป็นเวลานานจะมีโอกาสเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนได้

- ร่างกายได้รับแคลเซียมหรือวิตามินดีไม่เพียงพอ ปริมาณแคลเซียมที่อยู่ในร่างกายเป็นปัจจัยสำคัญที่มีส่วนช่วยให้มวลกระดูกมีความแข็งแรง หากร่างกายได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่น อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนได้

- การได้รับยาบางชนิดเป็นระยะเวลานาน เช่น ยาสเตียรอยด์ ยาลดกรดในกระเพาะ หรือยาป้องกันการชักบางชนิด

- น้ำหนักตัวที่น้อยเกินไป

ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดกระดูกพรุน

- เพศ เพศหญิงมักมีความเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุนมากกว่าเพศชาย เมื่อหมดประจำเดือนหรือมีการผ่าตัดรังไข่ เนื่องจากขาดฮอร์โมนเพศทำให้กระบวนการสลายกระดูกเพิ่มมากขึ้นและสูญเสียมวลกระดูกอย่างรวดเร็ว

- อายุ อายุที่เพิ่มมากขึ้น ความหนาแน่นของมวลกระดูกก็จะลดลง โดยผู้หญิงอายุมากกว่า 65 ปี และผู้ชายอายุมากกว่า 70ปี ควรได้รับการตรวจมวลกระดูก

- พันธุกรรม ครอบครัวที่ญาติใกล้ชิดหรือพ่อแม่ป่วยเป็นโรคกระดูกพรุน มีโอกาสเสี่ยงสูง

- โรคประจำตัวบางชนิด เช่น ภาวะฮอร์โมนต่ำ รูมาตอยด์ พาราไทรอยด์สูง และเบาหวาน

ปรึกษาอาการโทร.088-604-4127

🚶‍♂️⚡ปวดหลังแบบนี้ควรรีบไปพบแพทย์ได้แล้ว ⚠️😣หากคุณกำลังประสบปัญหาปวดหลังเรื้อรังที่ไม่หายขาด แม้จะกินยาคลายกล้ามเนื้อ ทา...
22/11/2025

🚶‍♂️⚡ปวดหลังแบบนี้
ควรรีบไปพบแพทย์ได้แล้ว ⚠️
😣หากคุณกำลังประสบปัญหาปวดหลังเรื้อรังที่ไม่หายขาด แม้จะกินยาคลายกล้ามเนื้อ ทายา นวดแก้อาการ หรือลองวิธีอื่นๆ แล้วก็ตาม อาการปวดหลังที่เรื้อรังเช่นนี้อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงกว่าที่คิดก็เป็นได้ค่ะ
⚠️อาการปวดหลังที่ควรไปพบแพทย์
หากคุณพบว่าตัวเองมีอาการปวดหลังเรื้อรังในแบบที่ตรงกับลักษณะใดๆ ต่อไปนี้ ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยโดยละเอียด เพราะอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่รุนแรง ดังนั้นอย่ามองข้ามอาการเหล่านี้กันนะคะ
1. ปวดหลังเรื้อรังนานเกิน 3 เดือนขึ้นไป
หากปวดหลังต่อเนื่องนานเกิน 3 เดือน และไม่มีท่าทีว่าจะหาย นั้นอาจเป็นสัญญาณของภาวะปวดหลังเรื้อรังที่ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม การปวดหลังในระยะยาวอาจเกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บหรือความผิดปกติของกระดูกสันหลังหรือกล้ามเนื้อ
2. ปวดหลังรุนแรงจนกระทบการใช้ชีวิต
อาการปวดหลังที่รุนแรงจนไม่สามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เช่น ไม่สามารถทำงาน เดิน หรือเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ อาจเป็นปัญหาสุขภาพบางอย่างที่ต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน
3. ปวดจนนอนไม่หลับ หรือปวดตั้งแต่ตื่นนอน
หากปวดหลังจนทำให้ไม่สามารถนอนหลับได้อย่างเต็มที่ หรือปวดหลังทันทีตั้งแต่ตื่นนอน นั่นอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ควรไปตรวจสอบ ไม่ควรปล่อยไว้เพราะมันส่งผลต่อทั้งคุณภาพชีวิตและสุขภาพจิตใจจากการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
4. กินยา ทายา นวดแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น
หากคุณลองทำตามวิธีต่างๆ ดังกล่าวเพื่อบรรเทาอาการปวดหลัง แต่อาการก็ไม่สามารถบรรเทาลงได้ ก็ถึงเวลาที่ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและวิธีการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
5. ไอ จาม หรือเบ่งถ่ายแล้วจะทำให้ยิ่งปวด
หากปวดหลังแบบเฉียบพลันขึ้นมาในขณะที่ไอ จาม หรือเบ่งถ่าย นัั่นแสดงว่าอาจมีการกดทับเส้นประสาทหรือปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลัง ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมต่อไป
6. มีอาการปวดร้าวลงขา ขาชาร่วมด้วย
หากคุณมีอาการร่วมอื่นๆ นอกจากอาการปวดหลัง เช่น ปวดร้าวลงขาหรือมีความรู้สึกชาตามขา นั่นอาจเป็นสัญญาณของปัญหาที่รุนแรง เช่น หมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท หรือภาวะกระดูกสันหลังเคลื่อน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา
🔍ปวดหลังเรื้อรังไม่หาย เสี่ยงโรคอะไรได้บ้าง?
1️⃣ หมอนรองกระดูกเคลื่อน
หมอนรองกระดูกเคลื่อนเป็นสาเหตุที่พบบ่อยสำหรับอาการปวดหลังเรื้อรัง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม เช่น ยกของหนักอย่างไม่ถูกวิธี เกิดจากการเคลื่อนที่ของหมอนรองกระดูกที่อยู่ระหว่างกระดูกสันหลัง ทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาทและกล้ามเนื้อโดยรอบ ส่งผลให้เกิดอาการปวดหลังตรงแถวบั้นเอวหรือกระเบนเหน็บ ร่วมกับอาการปวดร้าวลงขาข้างใดข้างหนึ่ง
2️⃣ กระดูกสันหลังเสื่อม
กระดูกสันหลังเสื่อมเป็นภาวะที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของกระดูกและหมอนรองกระดูก โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีการสึกหรอของกระดูกสันหลังอย่างเป็นธรรมชาติ การเสื่อมสภาพนี้อาจทำให้กระดูกสันหลังเสียรูปและเกิดแรงกดทับต่อเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการปวดหลังแบบขัดๆ ภายในข้อ ปวดลึก ปวดเสียว และรู้สึกข้อกระดูกฝืดเคือง
3️⃣ กระดูกสันหลังคด
กระดูกสันหลังคดเป็นภาวะที่กระดูกสันหลังโค้งผิดรูปมากกว่าปกติ จนเป็นตัว C หรือตัว S ซึ่งอาจเกิดจากการเจริญเติบโตของกระดูกไม่สมดุลหรือการนั่งทำงานในท่าที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานานๆ การที่กระดูกสันหลังคดนั้นอาจทำให้เกิดอาการปวดหลังที่รุนแรงกว่าปกติ เอวและลำตัวเบี้ยวจนเสียบุคลิก หรืออาจมีอาการปวดขาร่วมด้วยเนื่องจากแรงกดทับของเส้นประสาท
4️⃣ กระดูกสันหลังเคลื่อน
กระดูกสันหลังเคลื่อนคือภาวะที่กระดูกสันหลังเคลื่อนออกจากตำแหน่งเดิม ซึ่งมักเกิดจากการบาดเจ็บหรือการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง อาการที่พบคือปวดหลังส่วนล่าง ปวดร้าวลงสะโพก ก้น ต้นขา แต่ถ้ากระดูกเคลื่อนไปโดนเส้นประสาทจะมีอาการขาชา และขาอ่อนแรงร่วมด้วย การรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ บางรายอาจต้องการการผ่าตัดเพื่อแก้ไข
5️⃣ กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง
โรคนี้ไม่ได้เกิดหรือเกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลังโดยตรง แต่เป็นที่กล้ามเนื้อหลังโดยเฉพาะ เกิดจากการใช้งานกล้ามเนื้อหลังอย่างต่อเนื่องและไม่ถูกต้อง หรืออาจเกิดจากการบาดเจ็บในอดีตที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาการที่พบบ่อยคือปวดแบบกว้างๆ ไปทั้งแผ่นหลัง ก้มหรือแอ่นหลังไม่ได้ และจะปวดมากขึ้นเมื่อต้องทำกิจกรรมที่ต้องก้มๆ เงยๆ
🧑‍ กลุ่มเสี่ยงที่ควรระวังเป็นพิเศษ!
1. คนที่มีน้ำหนักตัวมากเกินเกณฑ์
น้ำหนักที่มากเกินไปทำให้กระดูกและกล้ามเนื้อหลังต้องรับภาระหนักมากขึ้น จึงเสี่ยงต่อการปวดหลังได้ง่ายขึ้น การลดน้ำหนักและรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้
2. ทำกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมบ่อยๆ
การยกของหนัก การก้ม หรือนั่งท่าเดิมนานๆ เป็นพฤติกรรมที่ทำให้กระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อหลังต้องทำงานหนักเกินไป ควรหลีกเลี่ยงการทำงานที่มีการใช้กล้ามเนื้อหลังอย่างหนักเกินไป และควรใช้เทคนิคที่ถูกต้องในการยกของหนัก เช่น การงอเข่าแทนการงอหลัง
3. ชอบสูบบุหรี่จัด
หลายคนอาจไม่ทราบข้อนี้ แต่การสูบบุหรี่ทำให้หมอนรองกระดูกเสียหายได้ง่ายขึ้น เนื่องจากการสูบบุหรี่ทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี ส่งผลให้การซ่อมแซมของกระดูกและกล้ามเนื้อทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร
4. ผู้สูงอายุที่กระดูกพรุน กระดูกบาง
เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกจะมีความแข็งแรงน้อยลง ทำให้เสี่ยงต่อการปวดหลังมากขึ้น จึงควรดูแลสุขภาพกระดูกด้วยการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง และการออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างกระดูก
🧘‍♂️🏃‍♀️แนวทางดูแลและป้องกัน
เพื่อป้องกันและบรรเทาอาการปวดหลังเรื้อรัง ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การนั่งในท่าที่ถูกต้อง ออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลัง
1. ออกกำลังกายให้บ่อยขึ้น
โดยเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่น โยคะ การเดินเร็ว การว่ายน้ำ เพราะสามารถช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังและลดความเสี่ยงในการปวดหลังได้
2. การปรับท่าทางในชีวิตประจำวัน
ควรหลีกเลี่ยงการนั่งก้มหน้าเป็นเวลานาน และใช้หมอนรองหลังเมื่อจำเป็น การปรับความสูงของเก้าอี้และโต๊ะทำงานให้เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญ
3. การพักผ่อนที่เพียงพอ
การนอนพักผ่อนที่เพียงพอช่วยให้กล้ามเนื้อและกระดูกได้พักฟื้นและซ่อมแซมตัวเอง ควรเลือกที่นอนที่รองรับกระดูกสันหลังได้ดี
4. การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูง เช่น นม โยเกิร์ต ปลาแซลมอน ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน
5. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
การเลิกสูบบุหรี่จะช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น และช่วยให้กระดูกและกล้ามเนื้อฟื้นฟูได้เร็วขึ้น
อย่าละเลยอาการปวดหลังที่เกิดขึ้นบ่อยๆ เพราะอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้ หากใครมีอาการปวดหลังที่เรื้อรังไม่ยอมหาย ก็ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธี อย่าลืมดูแลสุขภาพร่างกายให้ดีกันนะคะ 💪🏽🌟
#อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ #ปวดหลัง #หมอนรองกระดูกเคลื่อน #กระดูกสันหลังเสื่อม #กระดูกสันหลังคด

"ปวดคอเรื้อรัง อาจไม่ใช่แค่อาการเมื่อย! 😨รู้จัก "กระดูกคอเสื่อม" ภัยเงียบที่มาจากการใช้ชีวิตประจำวัน! ทั้งการก้ม-แหงนแรง...
18/11/2025

"ปวดคอเรื้อรัง อาจไม่ใช่แค่อาการเมื่อย! 😨

รู้จัก "กระดูกคอเสื่อม" ภัยเงียบที่มาจากการใช้ชีวิตประจำวัน! ทั้งการก้ม-แหงนแรงๆ บ่อยๆ หรือแม้แต่พฤติกรรมการใช้คอผิดท่าเป็นเวลานานๆ ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้หมอนรองกระดูกยุบตัว พังผืดหนา หรือมีกระดูกงอก จนอาจถึงขั้น
"กดทับเส้นประสาท" ได้! อย่าปล่อยไว้ รีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องก่อนที่อาการจะรุนแรงกว่าเดิม

#กระดูกคอเสื่อม #ปวดคอ #สุขภาพคอ

ปรึกษาอาการโทร.088-604-4127

โรคข้อเข่าเสื่อม ห้ามไม่ได้ แต่ชะลอได้โรคกระดูกและข้อ เป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญ โดยข้อที่เสื่อมได้มากที่สุดก็คือข้อเข่า เพ...
13/11/2025

โรคข้อเข่าเสื่อม ห้ามไม่ได้ แต่ชะลอได้

โรคกระดูกและข้อ เป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญ โดยข้อที่เสื่อมได้มากที่สุดก็คือข้อเข่า เพราะมีขนาดใหญ่และอยู่ในตำแหน่งที่รับน้ำหนักของร่างกายโดยตรง ทั้งยังทำหน้าที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ทำให้เสื่อมได้ง่าย อาการข้อเข่าเสื่อมส่งผลเสียหลายอย่าง ตั้งแต่การใช้ชีวิตประจำวันที่ยากลำบากไปจนถึงภาวะทุพพลภาพ ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หากอาการรุนแรงจนไม่สามารถใช้งานข้อเข่าได้ตามปกติ

สาเหตุของข้อเข่าเสื่อม

มีการทำลายกระดูกอ่อนในผิวข้อเรื่อย ๆ กระทั่งเข้าไปสู่ตัวกระดูกของข้อเข่า ทำเกิดอาการเสื่อม และมีอาการแสดงออกมาตั้งแต่อาการปวดไปจนถึงการใช้งานข้อเข่าได้ยากลำบาก

สาเหตุปฐมภูมิ

การใช้งานข้อเข่าค่อนข้างหนัก

อาชีพของผู้ป่วยที่ต้องใช้ข้อเข่ามาก

พฤติกรรมการใช้งานข้อเข่าในความถี่สูง เช่น นั่งยอง ๆ บ่อย นั่งพับเพียบบ่อย ขึ้นลงที่สูงบ่อย เป็นต้น

น้ำหนักตัวมาก

สาเหตุทุติยภูมิ

เคยมีอุบัติเหตุ

เคยมีภาวะติดเชื้อในข้อเข่า

เคยอักเสบจากโรครูมาตอยด์ โรคเกาต์

ความเสื่อมตามอายุ

เริ่มเสื่อมตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป

อายุ 60 ปีขึ้นไป อัตราความเสื่อมเพิ่มเป็นร้อยละ 40

อายุ 75 ปีขึ้นไป อัตราความเสื่อมเพิ่มเป็นร้อยละ 50 ขึ้นไป

ความเสื่อมขึ้นอยู่กับการใช้งานร่วมด้วย เปรียบเทียบในคนอายุเท่ากัน แต่ถ้าหากมีการใช้งานข้อเข่ามากกว่าก็เกิดอาการเสื่อมมากกว่า รวมถึงถ้าหากน้ำหนักมากกว่าในคนอายุเท่ากัน ก็อาจมีอัตราการเสื่อมของข้อเข่าที่มากกว่าด้วย

ความรุนแรงของอาการข้อเข่าเสื่อม

ระยะเริ่มต้น สามารถทำกิจวัตรได้ตามปกติ แต่ถ้าใช้งานหนักขึ้นเล็กน้อยจะเริ่มมีอาการปวด

ระยะที่สอง เริ่มทำงานหนักไม่ได้

ระยะที่สาม เริ่มทำกิจวัตรประจำวันปกติไม่ได้

ระยะที่สี่ แทบทำอะไรไม่ได้เลย รู้สึกปวดตลอดเวลา หรือต้องใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น เครื่องช่วยพยุง

ชะลออาหารข้อเข่าเสื่อมได้โดย

ควบคุมน้ำหนัก

ปรับอิริยาบถ (นั่งยอง ๆ น้อยลง หลีกเลี่ยงการนั่งพับเพียบ/ขัดสามธิ ขึ้นลงที่สูงให้น้อยลง ฯลฯ)

สร้างกล้ามเนื้อต้นขาหรือเส้นเอ็นรอบเข่าให้แข็งแรงโดยการออกกำลังกาย

ที่สำคัญหากเริ่มมีอาการให้รีบพบแพทย์ทันทีอย่าปล่อยทิ้งไว้

✨ ข้อเข่าลั่น…อย่ารอให้ถึงวันต้องผ่าตัด! ✨⚠️ “ข้อเข่าลั่น” ทุกครั้งที่ลุกนั่ง…อย่าคิดว่าเรื่องเล็ก! ⚠️เสียง “ก๊อบแก๊บ” ท...
06/11/2025

✨ ข้อเข่าลั่น…อย่ารอให้ถึงวันต้องผ่าตัด! ✨
⚠️ “ข้อเข่าลั่น” ทุกครั้งที่ลุกนั่ง…อย่าคิดว่าเรื่องเล็ก! ⚠️
เสียง “ก๊อบแก๊บ” ที่เข่า คือ สัญญาณเริ่มต้นข้อเข่าเสื่อม ❌
ผลลัพธ์ที่พิสูจน์แล้ว!
☑️ เดินลื่นขึ้นจริง
☑️ ลดเสียง “ก๊อบแก๊บ”
☑️ ข้อเข่าแข็งแรงใน 30–60 วัน*
สนใจติดต่อสอบถาม 📞 088-604-4127
ดูแลด้วยใจ สุขภาพดีไปด้วยกัน! ❤️
#กระดูกเสื่อม #กระดูกทับเส้น #ปวดหลัง #ปวดข้อ #สุขภาพดี #ชุดฟื้นฟูเริ่มต้น #สุขภาพกระดูก #ดูแลตัวเอง

🌼ข้อจำกัดของยาแผนปัจจุบันในการรักษาข้อเข่าเสื่อมถึงแม้ว่าการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยกลุ่มยา NSAIDs เป็นแนวทางการรักษาขอ...
04/11/2025

🌼ข้อจำกัดของยาแผนปัจจุบันในการรักษาข้อเข่าเสื่อม

ถึงแม้ว่าการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยกลุ่มยา NSAIDs เป็นแนวทางการรักษาของการแพทย์แผนปัจจุบันก็ตาม แต่อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วย เนื่องจากเป็นเพียงการระงับอาการไว้ชั่วคราว แต่มิได้หยุดยั้งการลุกลามของโรค และผลของการซ่อมแซมโครงสร้างข้อเข่าไม่เด่นชัด ที่สำคัญคือพิษของยาจะก่อให้เกิดอาการระคายเคืองของกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะของผู้สูงอายุซึ่งมีระบบทางเดินอาหารที่ต้านทานต่อพิษของยาน้อยลงจึงทำให้อาหารไม่ย่อย กระเพาะอาหารอักเสบหรือเป็นแผลที่กระเพาะอาหารได้ง่ายกว่า พร้อมทั้งอาจส่งผลต่อร่างกายในหลาย ๆ ด้าน เช่น เป็นพิษต่อตับทำให้เซลล์ตับตาย ตับเสื่อมสภาพ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง กระดูกพรุน เป็นต้น

ปรึกษาอาการโทร 088 604-4127

ปวดเข่าเกิดจากอะไร❓อาการปวดเข่าเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและอาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ตั้งแต่การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ การใช้งาน...
31/10/2025

ปวดเข่าเกิดจากอะไร❓

อาการปวดเข่าเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและอาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ตั้งแต่การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ การใช้งานข้อเข่าหนักเกินไป ไปจนถึงโรคข้อเสื่อมที่เกิดขึ้นตามวัย อาการปวดอาจรู้สึกได้ในหลายตำแหน่ง เช่น ด้านหน้า ด้านหลัง หรือด้านข้างของข้อเข่า รวมถึงอาจมีอาการปวดร้าวไปยังต้นขาหรือน่องก็สามารถเกิดขึ้นได้ โดยทั่วไป อาการปวดเข่าจะสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทคร่าว ๆ ดังนี้

การบาดเจ็บข้อหัวเข่าจากการใช้งานแบบเฉียบพลัน

เกิดจากแรงกระแทกหรือการบิดหมุนผิดท่า ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างข้อเข่า เช่น เอ็นไขว้หน้าหรือเอ็นไขว้หลังฉีกขาด หมอนรองกระดูกหรือผิวกระดูกอ่อนฉีกขาดเสียหาย ซึ่งจะทำให้อาการปวดมักรุนแรง เคลื่อนไหวลำบาก และอาจมีอาการบวมร่วมด้วย

นอกจากนี้ อาการบาดเจ็บแบบเฉียบพลันยังเกิดจากการใช้งานข้อเข่ามากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบของเส้นเอ็น เช่น อาการเจ็บด้านนอกข้อเข่า (IT Band Syndrome) ที่พบบ่อยในนักวิ่ง หรือเอ็นสะบ้าอักเสบที่เกิดจากแรงกดซ้ำ ๆ อาการปวดในกลุ่มนี้มักเป็นแบบเรื้อรัง และรบกวนการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน

การบาดเจ็บข้อหัวเข่าจากการใช้งานแบบเรื้อรัง

เช่น โรคเข่าเสื่อม (Osteoarthritis) เกิดจากการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนและหมอนรองกระดูก ทำให้การเคลื่อนไหวติดขัด มีเสียงดังกรอบแกรบขณะขยับข้อเข่า และอาจรู้สึกปวดมากขึ้นเมื่อเดินหรือขึ้นลงบันได ซึ่งอาการนี้พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือผู้ที่ใช้งานข้อเข่าเป็นเวลานานและมากต่อวัน เช่น แม่ค้าหรือพนักงานทำความสะอาด เป็นต้น

การอักเสบของข้อโดยเกิดจากการติดเชื้อ

ภาวะที่ข้อต่อเกิดการติดเชื้อ หรือ Septic Joint มักเกิดจากแบคทีเรีย เช่น Staphylococcus aureus และ Streptococcus spp. ทำให้ข้อปวดบวม แดงร้อน และขยับลำบาก หากปล่อยไว้อาจทำลายข้อต่อถาวร การรักษาจึงต้องใช้ยาปฏิชีวนะร่วมกับการระบายหนองออกจากข้อโดยเร็ว

การอักเสบของข้อโดยไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ

อีกสาเหตุหนึ่งที่มักทำให้เกิดอาการปวดในข้อได้คือการสะสมของสารบนหัวเข่า ซึ่งมักจะพบอยู่สองประเภท คือ

เกาต์ (Gout) : เกิดจากการสะสมของผลึกกรดยูริกในข้อ ส่งผลให้ปวด บวม และอักเสบเฉียบพลัน มักเกิดจากการกินอาหารที่มีพิวรีนสูง เช่น เครื่องในสัตว์และอาหารทะเล

เกาต์เทียม (Pseudogout) : มีอาการคล้ายกับโรคเกาต์ แต่เกิดจากผลึกแคลเซียมไพโรฟอสเฟตที่มาสะสมในข้อ โดยเฉพาะข้อเข่า อาการปวดมักเกิดขึ้นเฉียบพลันและเป็น ๆ หาย ๆ

ปรึกษาอาการโทร 088-604-4127

💡 ปวดหลังช่วงล่าง…อย่ามองข้าม!เพราะอาจเกิดจากกล้ามเนื้ออักเสบจากการนั่งนานหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทหรือการยกของผ...
26/10/2025

💡 ปวดหลังช่วงล่าง…อย่ามองข้าม!
เพราะอาจเกิดจาก

กล้ามเนื้ออักเสบจากการนั่งนาน

หมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท

หรือการยกของผิดท่า

✅ วิธีดูแลง่าย ๆ

ยืดเหยียดกล้ามเนื้อทุกวัน

หมั่นเปลี่ยนท่านั่ง-ท่ายืน

ประคบร้อนคลายกล้ามเนื้อ

นอนบนที่นอนไม่แข็งหรือนิ่มเกินไป

💙 ร่างกายดีขึ้นได้ ถ้าเริ่มดูแลตั้งแต่วันนี้!

ปรึกษาอาการโทร 088-604-4127

25/10/2025
ออฟฟิศซินโดรม โรคกระดูกคอเสื่อม โรคฮิตของคนยุคนี้โรคกระดูกคอเป็นอีกหนึ่งโรคฮิตในปัจจุบัน เกิดขึ้นได้ทั้งในผู้สูงอายุและใ...
22/10/2025

ออฟฟิศซินโดรม โรคกระดูกคอเสื่อม โรคฮิตของคนยุคนี้

โรคกระดูกคอเป็นอีกหนึ่งโรคฮิตในปัจจุบัน เกิดขึ้นได้ทั้งในผู้สูงอายุและในวัยหนุ่มสาว แม้กระทั่งในเด็กนักเรียน นักศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มมนุษย์ก้มหน้า ผู้ที่ต้องทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมีอิริยาบถอยู่ในท่าเดียวนานๆ

อาการโรคกระดูกคอเสื่อมที่สังเกตได้

ปวดต้นคอ ไหล่ สะบัก

หนักบริเวณท้ายทอย

ปวดศีรษะ เวียนหัว

ตาพร่ามัว

มือชา แขนชา

สาเหตุโรคกระดูกคอเสื่อมที่พบได้บ่อย

ภาวะกระดูกคอเสื่อม พบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป

อิริยาบถหรือท่าที่ผิดสุขลักษณะ เช่น การหนุนหมอนสูงเกินไป การทำงานในท่าเดียวนานๆ เขียนหนังสือ นั่งอ่านเอกสาร นั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ นั่งดูทีวี เป็นต้น

คอเคล็ดหรือยอก เกิดจากคอมีการเคลื่อนไหวเร็วเกินไปหรือรุนแรงเกินไป

บาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือการเล่นกีฬา

ข้ออักเสบ ซึ่งอาจทำให้กระดูกคออักเสบไปด้วย

ความเครียดทางจิตใจ ทำให้กล้ามเนื้อคอตึงเกร็งเป็นประจำ จนส่งผลกระทบต่อกระดูกคอ

ขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ปรึกษาอาการโทร 088-604-4127

ที่อยู่

98/43 แขวงลำผักชี
Nong Chok
10530

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ รู้ทัน กรดไหลย้อน.กระดูกและข้อ กระดูกทับเส้น กระดูกเสื่อม โทร.088-661-6349ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง รู้ทัน กรดไหลย้อน.กระดูกและข้อ กระดูกทับเส้น กระดูกเสื่อม โทร.088-661-6349:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram