22/10/2025
Case Alert: ผู้ป่วยติดเตียงใช้ digoxin — ญาติขอซื้อ “มะขามแขก”
ทำไม “มะขามแขก”(senna) ถึงเสี่ยงในผู้ป่วยที่ใช้ digoxin?
1) กลไก Herb–Drug Interaction (หลัก ๆ 3 ทาง)
✅Pharmacodynamic: สารกลุ่ม stimulant laxatives (anthraquinones) ใน senna ทำให้ สูญเสียโพแทสเซียม (K⁺) → เพิ่มความไวของกล้ามเนื้อหัวใจต่อ digoxin แม้ระดับยาไม่สูง ก็เกิดพิษได้ง่ายขึ้น
📌Pharmacokinetic (ดูดซึม): การเร่งการเคลื่อนไหวลำไส้/ท้องเสียทำให้ การดูดซึม digoxin แปรปรวน → ประสิทธิผล/ความเป็นพิษ คาดเดาไม่ได้
📌Pharmacokinetic (ขับออก): ภาวะ ขาดน้ำ ลดการไหลเวียนไต ในผู้สูงอายุ/ติดเตียง อาจ ลดการขับ digoxin → ระดับยา สูงขึ้น
แนวทางการดูแลอาการท้องผูกที่ “ปลอดภัยกว่า” สำหรับผู้ใช้ digoxin
📍ปรับพฤติกรรม: น้ำดื่มเพียงพอ ถ้าไม่มีข้อห้ามจากแพทย์, ไฟเบอร์ละลายน้ำ ปรับช้า ๆ, เปลี่ยนท่าทาง/นวดท้องในผู้ติดเตียง
#ยาทางเลือกแรก:
✅Osmotic laxatives: lactulose หรือ PEG 3350 → ไม่ทำให้ K⁺ ต่ำ; เริ่มขนาดต่ำ ปรับตามผล
Stool softener: docusate (ถ้ามี)
ต้องใช้ไฟเบอร์ (psyllium): ให้ แยกเวลา 2–4 ชม. จาก digoxin
❎หลีกเลี่ยง/ใช้ด้วยความระวัง: senna/bisacodyl เสี่ยง K⁺ ต่ำ, แมกนีเซียมไฮดรอกไซด์/ยาลดกรดอะลูมิเนียม ลดการดูดซึม digoxin
#“สัญญาณอันตราย” ที่ให้ผู้ดูแลเฝ้าระวัง (จาก checklist)
🖌ด้านอาการผู้ป่วย: เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน เห็นภาพเหลือง/มัว เวียนศีรษะ หน้ามืด ใจเต้นช้า/ไม่สม่ำเสมอ อ่อนเพลียผิดปกติ กล้ามเนื้ออ่อนแรง
🖌ที่ผู้ดูแลสังเกตได้: ซึมลง/ไม่สนใจอาหาร อาเจียนซ้ำ ๆ เดิน/นั่งแล้วโคลงเคลง เป็นลม หัวใจเต้นช้า เหงื่อออกมากผิดปกติ
พบอาการข้างต้น หยุดยาระบาย/งด digoxin ชั่วคราวหากได้รับคำสั่งแพทย์มาก่อนหน้าหรือแนวทางเฉพาะ, แล้ว ส่งต่อฉุกเฉิน/ติดต่อแพทย์ทันที
จ้ดทำโดย นศภ. สรรเสริญ อุดมวัจนศักดิ์
นักศึกษา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยลัยศิลปากร