Medical Engineering Ltd.

Medical Engineering Ltd. All about Medical Technology

Medical 4.0 บจก. วิศวกรรมการแพทย์

13/12/2025
28/11/2025
สวีเดนพิมพ์ผิวหนัง 3 มิติที่มี “หลอดเลือด” ได้จริง ทางเลือกใหม่ของการรักษาแผลไฟไหม้และบาดเจ็บรุนแรงทีมนักวิจัยจาก Linköp...
17/11/2025

สวีเดนพิมพ์ผิวหนัง 3 มิติที่มี “หลอดเลือด” ได้จริง ทางเลือกใหม่ของการรักษาแผลไฟไหม้และบาดเจ็บรุนแรง

ทีมนักวิจัยจาก Linköping University ในสวีเดนประกาศความสำเร็จสำคัญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู: พัฒนา ผิวหนังเทียม 3D-printed ที่มีโครงสร้างหลอดเลือดภายในได้จริง ซึ่งช่วยให้ชิ้นเนื้อรอดชีวิตและเชื่อมต่อกับการไหลเวียนเลือดของร่างกาย จุดเปลี่ยนที่อาจยกระดับการรักษาผู้ป่วยแผลไฟไหม้ลึกและการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อในอนาคต

การปลูกถ่ายผิวหนังแบบดั้งเดิมมักให้เฉพาะชั้นผิวหนังกำพร้า (epidermis) เท่านั้น แต่ไม่สามารถสร้างชั้นหนังแท้ที่มีหลอดเลือดและเส้นประสาทได้ ส่งผลให้เนื้อเยื่อขาดสารอาหาร เกิดการเน่าตาย และ..

ผิวหนัง 3 มิติที่มี “หลอดเลือด” ได้จริง ทางเลือกใหม่ของการรักษาแผลไฟไหม้และบาดเจ็บรุนแรง
https://kdcsolution.co.th/tech/3d-bioprinting/

สวีเดนพิมพ์ผิวหนัง 3 มิติที่มี “หลอดเลือด” ได้จริง ทางเลือกใหม่ของการรักษาแผลไฟไหม้และบาดเจ็บรุนแรง

ทีมนักวิจัยจาก Linköping University ในสวีเดนประกาศความสำเร็จสำคัญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู: พัฒนา ผิวหนังเทียม 3D-printed ที่มีโครงสร้างหลอดเลือดภายในได้จริง ซึ่งช่วยให้ชิ้นเนื้อรอดชีวิตและเชื่อมต่อกับการไหลเวียนเลือดของร่างกาย จุดเปลี่ยนที่อาจยกระดับการรักษาผู้ป่วยแผลไฟไหม้ลึกและการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อในอนาคต

การปลูกถ่ายผิวหนังแบบดั้งเดิมมักให้เฉพาะชั้นผิวหนังกำพร้า (epidermis) เท่านั้น แต่ไม่สามารถสร้างชั้นหนังแท้ที่มีหลอดเลือดและเส้นประสาทได้ ส่งผลให้เนื้อเยื่อขาดสารอาหาร เกิดการเน่าตาย และ..

✨ อ่านต่อในคอมเมนต์

#ทางเลือกใหม่ของการรักษา
#เคดีซีโซลูชั่น

'ไมโครโรบ็อต' แคปซูลจิ๋ว ความหวังในการรักษาโรคเส้นเลือดสมองตีบแคปซูลจิ๋ว ที่ชื่อว่า “ไมโครโรบ็อต” อาจกลายเป็นเครื่องมือใ...
17/11/2025

'ไมโครโรบ็อต' แคปซูลจิ๋ว ความหวังในการรักษาโรคเส้นเลือดสมองตีบ
แคปซูลจิ๋ว ที่ชื่อว่า “ไมโครโรบ็อต” อาจกลายเป็นเครื่องมือใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการสลายการอุดตันของลิ่มเลือดในเส้นเลือดสมอง ที่นำไปสู่อาการหลอดเลือดสมองตีบ
ทีมนักวิจัยด้านโรโบติกส์จาก ETH Zurich ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำเสนองานศึกษาตีพิมพ์ในวารสาร Science ว่า พวกเขาได้ออกแบบแคปซูลเจลละลายน้ำ ภายในบรรจุยาสลายลิ่มเลือด และอนุภาคนาโนออกไซด์ของเหล็กในปริมาณพอเหมาะ ใช้สนามแม่เหล็กส่งมันไปยังตำแหน่งที่มีการอุดตันของลิ่มเลือดในเส้นเลือดสมองได้
ทีมวิจัยระบุว่า การรักษาโรคหลอดเลือดสมองในปัจจุบัน ใช้การฉีดยาละลายลิ่มเลือด ซึ่งต้องใช้ในปริมาณสูงเพื่อทำให้มีตัวยาเพียงพอไปถึงตำแหน่งที่ต้องการ กระบวนการรักษาเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น เกิดการตกเลือดภายใน
การทดสอบ ไมโครโรบ็อต ทำโดยการใช้สายสวนฉีดไมโครโรบ็อตเข้าไปในแบบจำลองหลอดเลือดมนุษย์และสัตว์ที่ทำจากซิลิโคน โดยใช้สายสวนพิเศษที่มีลวดนำทางภายในและตัวหนีบโพลิเมอร์ที่เปิดออกเพื่อปล่อยไมโครโรบ็อต
แบรดลีย์ เนลสัน หนึ่งในทีมวิจัยบอกว่า ความเร็วของการไหลเวียนของเลือดในระบบหลอดเลือดแดงของมนุษย์แตกต่างกันมากในแต่ละตำแหน่ง ในบางตำแหน่งมีการไหลของเลือดด้วยความเร็วสูงมาก ทำให้การนำทางไมโครโรบ็อตมีความซับซ้อนมากตามไปด้วย
ระบบนำทางของไมโครโรบ็อต จึงต้องอาศัยหลายกลยุทธ์ เพื่อให้เคลื่อนผ่านหลอดเลือดทุกส่วนในศีรษะได้ ทีมวิจัยใช้สนามแม่เหล็กแบบหมุนเพียงหนึ่งชุด และสามารถบังคับไมโครโรบ็อตได้อย่างแม่นยำด้วยความเร็วสูงสุด 4 มิลลิเมตรต่อวินาที
กลยุทธ์อีกแบบหนึ่ง ทีมวิจัยใช้ความเข้มของสนามแม่เหล็กเพื่อดึงไมโครโรบ็อตให้เคลื่อนไปสวนทิศของแรงดันเลือดที่สูงกว่า ซึ่งบางกรณีอาจมีความเร็วสูงถึง 20 เซนติเมตรต่อวินาที แต่นักวิจัยระบุว่า ระดับความเข้มของสนามแม่เหล็กที่ใช้นั้นไม่มีผลเสียต่อร่างกาย
ทีมวิจัยของ ETH Zurich ยังเติมอนุภาคนาโนของแทนทาลัมลงไปเพื่อให้สามารถติดตามการรักษาด้วยการเอ็กซเรย์ได้ ซึ่งพวกเขาใช้เวลาหลายปีในการปรับสัดส่วนของส่วนผสม ถึงตอนนี้ทีมวิจัยได้ไมโครโรบ็อตที่สามารถนำทางได้ที่น่าเชื่อถือผ่านเส้นเลือดและหลอดเลือดทั้งหมดราว 360 เส้นในร่างกายมนุษย์
หลังประสบความสำเร็จในการสาธิตในห้องแล็ป ทีมนักวิจัยเริ่มนำไปทดลองในหมู ซึ่งพบว่า ร้อยละ 95 ของการทดลอง ไมโครโรบ็อตสามารถส่งยาละลายลิ่มเลือดไปถึงตำแหน่งที่ถูกต้อง นอกจากนี้กระบวนการยังให้ผลลัพธ์ที่ดีในการทดลองในน้ำไขสันหลังของแกะ บ่งชี้ว่า นวัตกรรมใหม่นี้อาจใช้ได้กับการรักษาทางการแพทย์รูปแบบอื่นๆ อีกมาก

'ไมโครโรบ็อต' แคปซูลจิ๋ว ความหวังในการรักษาโรคเส้นเลือดสมองตีบ
แคปซูลจิ๋ว ที่ชื่อว่า “ไมโครโรบ็อต” อาจกลายเป็นเครื่องมือใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการสลายการอุดตันของลิ่มเลือดในเส้นเลือดสมอง ที่นำไปสู่อาการหลอดเลือดสมองตีบ
ทีมนักวิจัยด้านโรโบติกส์จาก ETH Zurich ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำเสนองานศึกษาตีพิมพ์ในวารสาร Science ว่า พวกเขาได้ออกแบบแคปซูลเจลละลายน้ำ ภายในบรรจุยาสลายลิ่มเลือด และอนุภาคนาโนออกไซด์ของเหล็กในปริมาณพอเหมาะ ใช้สนามแม่เหล็กส่งมันไปยังตำแหน่งที่มีการอุดตันของลิ่มเลือดในเส้นเลือดสมองได้
ทีมวิจัยระบุว่า การรักษาโรคหลอดเลือดสมองในปัจจุบัน ใช้การฉีดยาละลายลิ่มเลือด ซึ่งต้องใช้ในปริมาณสูงเพื่อทำให้มีตัวยาเพียงพอไปถึงตำแหน่งที่ต้องการ กระบวนการรักษาเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น เกิดการตกเลือดภายใน
การทดสอบ ไมโครโรบ็อต ทำโดยการใช้สายสวนฉีดไมโครโรบ็อตเข้าไปในแบบจำลองหลอดเลือดมนุษย์และสัตว์ที่ทำจากซิลิโคน โดยใช้สายสวนพิเศษที่มีลวดนำทางภายในและตัวหนีบโพลิเมอร์ที่เปิดออกเพื่อปล่อยไมโครโรบ็อต
แบรดลีย์ เนลสัน หนึ่งในทีมวิจัยบอกว่า ความเร็วของการไหลเวียนของเลือดในระบบหลอดเลือดแดงของมนุษย์แตกต่างกันมากในแต่ละตำแหน่ง ในบางตำแหน่งมีการไหลของเลือดด้วยความเร็วสูงมาก ทำให้การนำทางไมโครโรบ็อตมีความซับซ้อนมากตามไปด้วย
ระบบนำทางของไมโครโรบ็อต จึงต้องอาศัยหลายกลยุทธ์ เพื่อให้เคลื่อนผ่านหลอดเลือดทุกส่วนในศีรษะได้ ทีมวิจัยใช้สนามแม่เหล็กแบบหมุนเพียงหนึ่งชุด และสามารถบังคับไมโครโรบ็อตได้อย่างแม่นยำด้วยความเร็วสูงสุด 4 มิลลิเมตรต่อวินาที
กลยุทธ์อีกแบบหนึ่ง ทีมวิจัยใช้ความเข้มของสนามแม่เหล็กเพื่อดึงไมโครโรบ็อตให้เคลื่อนไปสวนทิศของแรงดันเลือดที่สูงกว่า ซึ่งบางกรณีอาจมีความเร็วสูงถึง 20 เซนติเมตรต่อวินาที แต่นักวิจัยระบุว่า ระดับความเข้มของสนามแม่เหล็กที่ใช้นั้นไม่มีผลเสียต่อร่างกาย
ทีมวิจัยของ ETH Zurich ยังเติมอนุภาคนาโนของแทนทาลัมลงไปเพื่อให้สามารถติดตามการรักษาด้วยการเอ็กซเรย์ได้ ซึ่งพวกเขาใช้เวลาหลายปีในการปรับสัดส่วนของส่วนผสม ถึงตอนนี้ทีมวิจัยได้ไมโครโรบ็อตที่สามารถนำทางได้ที่น่าเชื่อถือผ่านเส้นเลือดและหลอดเลือดทั้งหมดราว 360 เส้นในร่างกายมนุษย์
หลังประสบความสำเร็จในการสาธิตในห้องแล็ป ทีมนักวิจัยเริ่มนำไปทดลองในหมู ซึ่งพบว่า ร้อยละ 95 ของการทดลอง ไมโครโรบ็อตสามารถส่งยาละลายลิ่มเลือดไปถึงตำแหน่งที่ถูกต้อง นอกจากนี้กระบวนการยังให้ผลลัพธ์ที่ดีในการทดลองในน้ำไขสันหลังของแกะ บ่งชี้ว่า นวัตกรรมใหม่นี้อาจใช้ได้กับการรักษาทางการแพทย์รูปแบบอื่นๆ อีกมาก
#โรคหลอดเลือดสมองตีบ #สุขภาพ #เทคโนโลยี #โรโบติกส์

South Korea developed a patch that monitors your blood without needles — diabetes detection through sweat 💉Samsung's bio...
17/11/2025

South Korea developed a patch that monitors your blood without needles — diabetes detection through sweat 💉

Samsung's biomedical division created a flexible skin patch that analyzes glucose, cortisol, and 12 other biomarkers from sweat with accuracy matching blood tests. The graphene-based sensor transmits real-time data to smartphones, eliminating finger-prick testing for diabetics.

Why does this matter? 537 million people worldwide have diabetes, requiring painful blood testing multiple times daily. This technology revolutionizes:

Painless continuous glucose monitoring
Early disease detection before symptoms appear
Stress hormone tracking for mental health
Athletic performance optimization
The patch uses microfluidic channels that collect sweat through pores, analyzing it with electrochemical sensors accurate to 97.3% compared to blood samples. Machine learning algorithms compensate for hydration levels and individual sweat chemistry variations.

South Korea's National Health Service began distributing 100,000 patches free to diabetic patients in March 2025. Data shows users maintain better glucose control due to real-time feedback, reducing dangerous hypoglycemic episodes by 68%.

The technology extends beyond diabetes—detecting dehydration, kidney dysfunction, and electrolyte imbalances in athletes and elderly populations. Future versions will monitor cancer biomarkers, potentially catching tumors months earlier than current screening.

The patch costs $2 to manufacture and lasts 14 days before replacement.

Source: Science Translational Medicine, Samsung Advanced Institute of Technology, March 2025

South Korea developed a patch that monitors your blood without needles — diabetes detection through sweat 💉

Samsung's biomedical division created a flexible skin patch that analyzes glucose, cortisol, and 12 other biomarkers from sweat with accuracy matching blood tests. The graphene-based sensor transmits real-time data to smartphones, eliminating finger-prick testing for diabetics.

Why does this matter? 537 million people worldwide have diabetes, requiring painful blood testing multiple times daily. This technology revolutionizes:

Painless continuous glucose monitoring
Early disease detection before symptoms appear
Stress hormone tracking for mental health
Athletic performance optimization
The patch uses microfluidic channels that collect sweat through pores, analyzing it with electrochemical sensors accurate to 97.3% compared to blood samples. Machine learning algorithms compensate for hydration levels and individual sweat chemistry variations.

South Korea's National Health Service began distributing 100,000 patches free to diabetic patients in March 2025. Data shows users maintain better glucose control due to real-time feedback, reducing dangerous hypoglycemic episodes by 68%.

The technology extends beyond diabetes—detecting dehydration, kidney dysfunction, and electrolyte imbalances in athletes and elderly populations. Future versions will monitor cancer biomarkers, potentially catching tumors months earlier than current screening.

The patch costs $2 to manufacture and lasts 14 days before replacement.

Source: Science Translational Medicine, Samsung Advanced Institute of Technology, March 2025

30/10/2025

Russia has announced a major medical breakthrough: the Enteromix cancer vaccine, which has shown 100% success in early-stage trials. The vaccine works by stimulating the immune system to target and destroy cancer cells directly.

Unlike chemotherapy or radiation, which harm healthy tissues along with tumors, the vaccine is designed to be highly specific, training the body to recognize and attack only cancerous cells. Early results show complete tumor elimination in trial participants.

While more extensive clinical testing is still needed, this achievement could revolutionize cancer treatment worldwide, offering a safer, more effective alternative to traditional therapies.

If future trials confirm its effectiveness, Enteromix could become one of the most important medical innovations of the century.

03/10/2025

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Oregon Health & Science University ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนเซลล์ผิวหนังของมนุษย์ให้กลายเป็นเซลล์ไข่ในห้องแล็บ และสามารถนำเซลล์ไข่นั้นไปผสมกับอสุจิจนเกิดเป็น 'ตัวอ่อน' ได้สำเร็จ นักวิจัยจึงคาดว่าเทคนิคนี้อาจกลายเป็นแนวทางใหม่ในการรักษาภาวะมีบุตรยาก และเปิดโอกาสให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถมีลูกที่เป็นสายเลือดของทั้งคู่เองจริง ๆ
นักวิจัยเริ่มจากนำ นิวเคลียสของไข่เดิมออก แล้วแทนที่ด้วย นิวเคลียสจากเซลล์ผิวหนังของมนุษย์ ซึ่งเป็นเทคนิค somatic cell nuclear transfer ที่เคยใช้โคลนสัตว์ชื่อดังอย่างแกะดอลลี่ เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่แค่โคลน แต่เพื่อสร้างไข่ที่ใช้งานได้จริง
ไข่ปกติจะมีโครโมโซมเพียงครึ่งหนึ่ง เมื่อรวมกับโครโมโซมอีก 23 จากอสุจิ จะครบ 46 นักวิจัยจึงกระตุ้นไข่ให้ลดครึ่งหนึ่งของโครโมโซมด้วย แรงกระแสไฟฟ้าและยาชื่อ roscovitine ซึ่งช่วยปรับการทำงานของเอนไซม์ที่ควบคุมการแบ่งตัวของเซลล์
ผลลัพธ์คือนักวิจัยสร้างไข่ขึ้นทั้งหมด 82 เซลล์ แล้วนำไปปฏิสนธิกับอสุจิด้วยวิธี IVF แต่มีเพียงราว 9% ที่พัฒนาเป็น blastocyst ซึ่งเป็นขั้นตอนตัวอ่อนตอนหลังไข่ปฏิสนธิ โดยเป็นกลุ่มเซลล์กลวงที่แบ่งตัวเร็ว และเป็นช่วงสำคัญที่ตัวอ่อนพร้อมฝังตัวในมดลูก

01/10/2025
รวมมาให้ดูทั้งหมดเลยว่า ตับสร้างอะไรให้กับเราบ้างเรียงแบบ A - Z เลย อ่านแล้วจะได้รักตับ ทำอะไรจะได้นึกถึงตับ🚎 Albumin (โ...
17/09/2025

รวมมาให้ดูทั้งหมดเลยว่า ตับสร้างอะไรให้กับเราบ้าง
เรียงแบบ A - Z เลย อ่านแล้วจะได้รักตับ ทำอะไรจะได้นึกถึงตับ


🚎 Albumin (โปรตีนไข่ขาว): “รถขนส่งสาธารณะประจำเลือด” ขนทุกอย่างตั้งแต่ยา, ของเสียบิลิรูบิน, กรดไขมัน, ฮอร์โมน, แคลเซียม, เหล็ก ฯลฯ ใครไม่รู้จะไปทางเลือดยังไง มาเลย ขึ้นรถเมล์สายอัลบูมิน

🚎 Alpha-fetoprotein: “อัลบูมินแห่งทารกในครรภ์” ช่วยขนส่งสารในเลือดในทารกในครรภ์

🩸 Alpha-antiplasmin: ยับยั้งการสลายลิ่มเลือด ให้ลิ่มเลือดอุดแผลได้นานขึ้น

🛡️ Alpha1-antitrypsin: ยับยั้งเอนไซม์ย่อยโปรตีน โดยเฉพาะของเม็ดเลือดขาวไม่ให้ทำงานมากไปจนชาวบ้านเดือดร้อน

🩸 Alpha2-macroglobulin: ชะลอการแข็งตัว ชะลอการสลายลิ่มเลือด ชะลอสารพัด ตัวควบคุมให้ระบบการแข็งตัวของเลือดสมดุล

📡 Angiotensinogen: สารต้นกำเนิดของสุดยอดฮอร์โมนเพิ่มความดัน นามว่า Angiotensin II

🩸Antithrombin III: ยับยั้งการหน่วยแข็งตัวของเลือดหลายตัวเลย ไม่ให้แข็งเยอะไป ตัวทำงานร่วมกับยาเฮปาริน

📡 Bile acid: กรดน้ำดี ช่วยให้ไขมันในทางเดินอาหารแตกตัว, เป็นสารกระตุ้นให้ลำไส้ใหญ่หลั่งน้ำออกมาให้ขลุกขลิก

🗑️ Bilirubin: สารของเสียที่ได้จากสลายเม็ดเลือดแดง ตับทำให้มันละลายน้ำได้ดีขึ้นแล้วขับออกทางน้ำดีสู่ลำไส้

🚎 Ceruloplasmin: ขนส่งทองแดงให้อวัยวะอื่น, ช่วยทำให้เหล็กขนส่งในเลือดได้ง่าย และไม่ให้เชื้อโรคแย่งเหล็กไปใช้

🩸Coagulation factor: หน่วยการแข็งตัวของเลือดเกือบทั้งหมดสร้างที่ตับ เราถึงสร้างลิ่มเลือดหยุดเลือดไหลได้

⚔️ Complement: ซีรี่ส์โปรตีน ‘ทุ่นระเบิ-ด’ ที่ช่วยซัพพอร์ตเม็ดเลือดขาวโคตรๆ ทั้งชงอักเสบให้แรงขึ้น ช่วยจับกิน และเจาะรูเชื้อเองได้เลย

⚔️ C-reactive protein: จับเชื้อกับโรค เหมือนเป็นเซนเซอร์ให้เม็ดเลือดขาวรู้ว่าเชื้อ แล้วมาจับกิน

🛡️ Ferritin: “รถดูดเหล็ก” คอยแย่งเหล็กในเลือดมาอยู่กับตัว เชื้อโรคจะขาดแคลนเหล็กในการใช้ชีวิตมาก

📡 FGF-21: ฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เซลล์ไขมันสร้างฮอร์โมนอีกตัวชื่อ adiponectin ทำหน้าที่ให้อินซูลินออกฤทธิ์ดีขึ้น

🛡️ Fibronectin: ช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่อ ช่วยทำให้ลิ่มเลือดแข็งแรงขึ้น

🧇 Glucose: น้ำตาลกลูโคสไงงง ตับทำหน้าที่เปลี่ยนสารอื่นๆ กลับมาเป็นน้ำตาล แจกจ่ายให้ชาวบ้านใช้งาน

🛡️ Glutathione: สร้างต้านอนุมูลอิสระตัวฉกาจ ทั้งสร้างไว้ใช้เองและแจกจ่ายให้ตัวร่างกาย (80-90% สร้างที่นี่)

🧇 Glycogen: คาร์บในรูปเก็บสำรอง เอาไว้เป็นแหล่งสร้างน้ำตาล glucose ใน 24 ชม. แรกหลังอดอาหาร

🚎 Haptoglobin: ขนฮีโมโกลบินที่รั่วมาจากเม็ดเลือดแดงให้กลับตับ (เพราะเป็นสารอันตรายมาก)

🚎 Hemoprexin: ขนฮีมที่รั่วมาจากเม็ดเลือดแดงเช่นกัน ให้กลับตับ (เพราะเป็นสารอันตรายมาก)

📡 Hepcidin: ฮอร์โมนที่ “ขังธาตุเหล็ก” ให้เก็บในเซลล์ ไม่ให้มาเพ่นพล่านตอนกำลังติดเชื้อ เพื่อตัดกำลังเชื้อโรค ที่กำลังหาเหล็ก

📡 IGF-1: ฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เนื้อเยื่อต่างๆ สร้างโปรตีนมากขึ้น ถูกกระตุ้นโดย growth hormone

🚎 IGFBP: ตัวขนส่งไอตัวข้างบน IGF-1

🧇 Ketone bodies: แหล่งอาหารยามอดอาหาร แถมยังเป็นคล้ายฮอร์โมนกระตุ้นให้หลายอวัยวะปรับตัว

⚔️ Kininogen: สารต้นกำเนิด kinin ที่เป็นตระกูลสารก่ออักเสบ ช่วยให้เม็ดเลือดขาวทำงานดีขึ้น

🚎 Lipoprotein: หน่วยขนส่งไขมันในเลือด โดยตับจะสร้างชนิด VLDL ขนไตรกลีเซอไรด์และคลอเลสเตอรอล

⚔️ LPS binding protein: จับสารชื่อ lipopolysaccharide (LPS) ที่อยู่บนเชื้อโรค เหมือนเป็นเซนเซอร์ให้เม็ดเลือดขาวรู้ว่าเชื้อ แล้วมาจับกิน

⚔️ MASP: กระตุ้นการทำงานของโปรตีนทุ่นระเบิ-ด Complement

⚔️ Mannose binding protein: จับกับโครงสร้างที่มี mannose ของเชื้อโรค แล้วกระตุ้น MASP เพื่อเปิดการทำงานโปรตีนทุ่นระเบิ-ด complement

🩸 Plasminogen: ตัวหลักในการสลายลิ่มเลือด

⚔️ Prekallikrein: ช่วยกระตุ้นการสลายลิ่มเลือด (Plasmin), กระตุ้นการสร้าง kinin ซึ่งใช้ในกระบวนการอักเสบ

🩸 Protein C: ยับยั้งการแข็งตัวของเลือด

🩸 Protein S: กระตุ้นการทำงานของ Protein C

🚎 Retinol binding protein: ขนส่ง Vitamin A ในเลือด

⚔️ Serum amyloid A: จับกับเชื้อโรค ช่วยให้เม็ดเลือดขาวจับกินได้ง่าย, ช่วยให้เม็ดเลือดขาว neutrophil มีอายุยืนขึ้น

🚎 S*x hormone binding globulin: ขนส่ง s*x hormone หลายชนิด หลักๆ คือ Testosterone, Estrogen

🚎 TBG (Thyroxine-binding globulin): ขนส่งฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือด

📡 Thrombopoietin: ฮอร์โมนกระตุ้นการสร้างเกล็ดเลือดในไขกระดูก

🚎 Transcortin: ขนส่ง steroid hormone หลายชนิดในเลือด เช่น cortisol, progesterone, aldosterone

🚎 Transferrin: ขนส่งเหล็กจากเซลล์ที่เก็บ (ตับ, ม้าม, ทางเดินอาหาร) ไปยังเซลล์ที่ต้องการใช้งาน

🚎 Transthyretin: ขนส่งฮอร์โมนไทรอยด์และ Vitamin A ในเลือด

🗑️ Urea: ของเสีย nitrogen ที่มาจากแอมโมเนียที่ได้มาจากการสลายกรดอะมิโน ไว้ขับทางไต ก่อนขับ ไตจะเอาไปใช้ทำให้น้ำปัสสาวะเข้มข้น

📡 Vitamin D: ตับเป็นขั้นที่ 2 ในการสร้างวิตามิน D

🚎 Vitamin D-binding protein: ขนส่ง Vitamin D ในเลือด


ถ้ารักตับกันขึ้นมาแล้ว
✅ ลดสุรา ถ้าเลี่ยงไม่ได้ และอยากดื่มประจำก็ขอน้อยกว่า 1-2 drink/วัน ส่วนดื่มแบบเป็นครั้งคราวบอกยาก ไม่ค่อยมีการศึกษามากพอ แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้าเริ่มมีไขมันพอกตับแล้ว งดไปก่อนเถอะ
✅ ตรวจสุขภาพสม่ำเสมอค่ะ เราไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นในร่างกายเราแล้วบ้าง ส่วนใหญ่ไขมันพอกตับมักจะมีภาวะร่วม เช่น อ้วน, ดื้ออินซูลินจนน้ำตาลเริ่มสูง
✅ ควบคุมการกิน โดยเฉพาะขนมที่มีน้ำเชื่อม high fructose corn syrup กินได้แต่ต้องจำกัด ยิ่งคุณอ้วนแล้วต้องยิ่งจำกัด ถ้าคิดจะกินก็ต้องเพิ่มการเอาออก เพิ่มการออกกำลังกาย (จะตัด จะลด จะกินบ้าง ปัญหาโลกแตก ชั่งน้ำหนักเอาเอง)
✅ เพิ่มช่วงเว้นมื้ออาหาร (Fasting) ให้ยาวขึ้น เพราะเป็นช่วงที่เกิด lipophagy อย่างน้อยในขั้นแรก ลดของระหว่างมื้อให้ได้ก่อน กินให้จบในมื้อไป
✅ หากติดไวรัสตับอักเสบ B หรือ C เรื้อรัง ตรวจติดตามเสมอค่ะ

16/09/2025
18/08/2025
15/08/2025

ที่อยู่

Sabarang
Pattani
94000

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 18:00
อังคาร 09:00 - 18:00
พุธ 09:00 - 18:00
พฤหัสบดี 09:00 - 18:00
ศุกร์ 09:00 - 18:00
เสาร์ 09:00 - 18:00
อาทิตย์ 09:00 - 18:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Medical Engineering Ltd.ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram