หมอปุณ กระดูกและข้อ

หมอปุณ กระดูกและข้อ หมอผ่าตัดกระดูกทั่วไป เน้นเรื่องกระดูกเด็ก มีหมวกหมอทั่วไปสวมอยู่ด้วย

🦴 การดูแลหลังผ่าตัดกระดูกต้นแขนหักส่วนกลางค่อนปลาย (Distal Diaphyseal Humerus Fracture)วันนี้เรามาพูดถึงการดูแลผู้ป่วยหล...
01/12/2025

🦴 การดูแลหลังผ่าตัดกระดูกต้นแขนหักส่วนกลางค่อนปลาย (Distal Diaphyseal Humerus Fracture)

วันนี้เรามาพูดถึงการดูแลผู้ป่วยหลังการผ่าตัดรักษา กระดูกต้นแขนหักส่วนกลางค่อนปลาย (Distal Diaphyseal Humerus Fracture) ซึ่งเป็นรอยหักที่มีการเคลื่อนที่ของกระดูกและผิดรูปอย่างมาก

ในกรณีนี้ การผ่าตัดด้วยการใส่ แผ่นเหล็กดามกระดูกที่เข้ารูปกับกระดูกต้นแขนส่วนปลาย (Contoured Distal Humerus Plate) ถือเป็นแนวทางมาตรฐานที่ให้ความมั่นคงสูงสุด ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้กระดูกสมานในตำแหน่งที่เหมาะสม และช่วย ลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะข้อศอกติด (Elbow Stiffness) ในระยะยาวครับ

🩺 ความระมัดระวังในระหว่างผ่าตัด: เส้นประสาทเรเดียส (Radial Nerve)
การบาดเจ็บในบริเวณกระดูกต้นแขน (Humerus) มีความเสี่ยงสูงต่อการบาดเจ็บของ เส้นประสาทเรเดียส (Radial Nerve) ซึ่งเป็นเส้นประสาทที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการ กระดกข้อมือ (Wrist Extension) และ นิ้วมือ (Finger Extension)
* ทางทีมแพทย์ได้ให้ความระมัดระวังสูงสุดในการผ่าตัด เพื่อ หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บต่อเส้นประสาทเรเดียส ซึ่งหากเกิดการบาดเจ็บอาจทำให้เกิดภาวะ ข้อมือตก (Wrist Drop) ได้ครับ

* การผ่าตัดในเคสนี้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดย ไม่มีภาวะเส้นประสาทเรเดียสช้ำ (Radial Nerve Palsy) เกิดขึ้นหลังการผ่าตัด 😊

🩹 การจัดการความเจ็บปวดและการเริ่มขยับข้อต่อหลังผ่าตัด
เป็นเรื่องปกติที่ผู้ป่วยจะมี อาการเจ็บปวด หลังผ่าตัด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ ขยับข้อศอกและแขนได้ไม่สะดวกนัก ในช่วงแรก

1. การจัดการความเจ็บปวด (Pain Management)
* ใช้ยาแก้ปวดตามคำสั่งแพทย์: การควบคุมความเจ็บปวดให้ได้ดีที่สุดมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเริ่มทำกายภาพบำบัดได้เร็วขึ้น
* ประคบเย็น: การประคบเย็นบริเวณรอบแผลผ่าตัด (ตามคำแนะนำของแพทย์) สามารถช่วยลดอาการปวด บวม และการอักเสบได้

2. การฟื้นฟูการเคลื่อนไหว (Rehabilitation)
* รอแผลหายก่อน: การเริ่มทำกายภาพบำบัดอย่างจริงจังจะทำได้ดีขึ้นเมื่อ แผลผ่าตัดหายดีแล้ว (มักใช้เวลาประมาณ 10-14 วัน หรือตามคำแนะนำของแพทย์) เนื่องจากแผลที่ยังไม่หายดีจะจำกัดการเคลื่อนไหวและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
* การเคลื่อนไหวเบื้องต้น: ถึงแม้จะเจ็บปวด แต่ควรเริ่ม ขยับนิ้วมือและไหล่ ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันข้อติด และรักษากล้ามเนื้อไม่ให้ฝ่อลีบ
* เป้าหมายหลัก: ป้องกันข้อศอกติด: เมื่ออาการปวดลดลงและได้รับอนุญาตจากแพทย์แล้ว การเริ่มทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูพิสัยการเคลื่อนไหวของข้อศอก (Range of Motion - ROM) เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เนื่องจากกระดูกต้นแขนหักส่วนปลายมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิด พังผืดข้อศอก (Elbow Contracture)

คำแนะนำ: ผู้ป่วยควรปรึกษานักกายภาพบำบัดเพื่อออกแบบโปรแกรมการฟื้นฟูที่เหมาะสมกับสภาพกระดูกที่ยึดตรึงด้วยแผ่นเหล็ก เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการฟื้นฟูการเคลื่อนไหวและการป้องกันความเสียหายต่อการซ่อมแซมกระดูกครับ

การติดตามผลการรักษาและ X-ray เป็นระยะมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อยืนยันการสมานตัวของกระดูก

เราขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์ และกลับมาใช้งานแขนได้ตามปกติโดยเร็วครับ💪

#กระดูกต้นแขนหัก

#ข้อศอกติด

#การผ่าตัดดามเหล็ก
#ศัลยกรรมกระดูก

👨‍⚕️👍เคสการบาดเจ็บของ กระดูกข้อมือ ที่ต้องอาศัยความระมัดระวังในการดูแลรักษาอย่างยิ่งครับ แม้ว่าอาการปวดจะดูไม่รุนแรง แต่...
30/11/2025

👨‍⚕️👍เคสการบาดเจ็บของ กระดูกข้อมือ ที่ต้องอาศัยความระมัดระวังในการดูแลรักษาอย่างยิ่งครับ แม้ว่าอาการปวดจะดูไม่รุนแรง แต่กระดูกที่หักในตำแหน่งนี้มีข้อควรพิจารณาพิเศษครับ

🦴 กระดูก Scaphoid หักในเด็ก (Scaphoid Fracture)
📌 ข้อมูลการบาดเจ็บ
* ผู้ป่วย: เด็กอายุ 14 ปี
* สาเหตุ: ล้มมือยันพื้น (Fall onto an Outstretched Hand - FOOSH)
* อาการ: เจ็บปวด บวม ขยับข้อมือและนิ้วโป้งได้จำกัด แต่ความรุนแรงของอาการปวดไม่มาก
* การวินิจฉัย (จากเอกซเรย์): Fx distal pole scaphoid nondisplaced
* ตำแหน่ง: กระดูกหักที่บริเวณ ขั้วปลาย (Distal Pole) ของกระดูกสะแคฟฟอยด์ (Scaphoid Bone)
* ชนิด: ไม่เคลื่อนที่ (Non-displaced)

💡 ทำไมต้องกังวลกับกระดูก Scaphoid?
กระดูก Scaphoid เป็นกระดูกเล็ก ๆ ในข้อมือที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเคลื่อนไหว ปัญหาหลัก คือการที่กระดูกนี้มี การไหลเวียนเลือดที่จำกัดและเป็นแบบย้อนกลับ (Retrograde Blood Supply)
* ความเสี่ยงที่ Distal Pole: แม้ว่าการหักที่ขั้วปลาย (Distal Pole) จะมีการไหลเวียนเลือดที่ดีกว่าการหักที่ขั้วใกล้ (Proximal Pole) แต่ก็ยังมีความเสี่ยง ที่กระดูกจะ ไม่ติด (Nonunion) ได้ หากการรักษาหรือการเข้าเฝือกไม่ถูกต้อง

🩹 แนวทางการรักษาและการใส่เฝือก
ในกรณีที่กระดูกหักแบบ ไม่เคลื่อนที่ ที่ขั้วปลาย การรักษาด้วยวิธี ไม่ผ่าตัด คือมาตรฐานครับ
* การเข้าเฝือก (Immobilization):
* ชนิดเฝือก: การใส่เฝือกชนิด Short Arm Cast with Thumb Spica เป็นสิ่งที่ถูกต้องครับ
* เฝือกจะจำกัดการเคลื่อนไหวของข้อมือและ รวมถึงข้อนิ้วโป้ง (Thumb) เพื่อให้กระดูกสะแคฟฟอยด์ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่
* ระยะเวลาการใส่เฝือก:
* โดยทั่วไป กระดูกหักที่ Distal Pole มักใช้เวลาสมานตัว สั้นกว่า ส่วนอื่น ๆ
* คาดการณ์ระยะเวลาการใส่เฝือกประมาณ 6-8 สัปดาห์ แต่อาจขยายไปถึง 12 สัปดาห์ได้หากการสมานตัวล่าช้า

⏱️ การติดตามอาการและขั้นตอนเพิ่มเติม
เนื่องจากมีความเสี่ยงของการไม่ติดของกระดูกสะแคฟฟอยด์ การติดตามอาการต้องเข้มงวดเป็นพิเศษครับ
* เอกซเรย์ซ้ำ (Repeat X-rays):
* ภายใน 2-4 สัปดาห์แรก: เพื่อยืนยันว่ากระดูกยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมและไม่เกิดการเคลื่อนที่ในเฝือก
* ทุก 4 สัปดาห์: จนกว่าจะเห็นสัญญาณที่ชัดเจนของการสมานกระดูก (Union)

* การประเมินการสมานกระดูก (Assessing Union):
* การดูด้วยภาพเอกซเรย์อาจจะตัดสินยากในบางครั้ง
* หากหลังจาก 8-12 สัปดาห์แล้ว เอกซเรย์ยังไม่ชัดเจน แพทย์อาจพิจารณาทำ CT Scan หรือ MRI เพื่อยืนยันอย่างชัดเจนว่ากระดูกได้สมานกันสนิทแล้ว (Gold Standard)
* การจัดการเมื่อกระดูกไม่ติด (Nonunion Management):
* หากยืนยันว่ากระดูกไม่ติดจริง (Nonunion) แพทย์อาจพิจารณาการรักษาเพิ่มเติม เช่น การผ่าตัดจัดกระดูกและใส่กระดูกปลูก (Bone Grafting) เพื่อกระตุ้นให้กระดูกติดกัน ซึ่งจะต้องมีการติดตามและประเมินอย่างละเอียดถี่ถ้วน

* กายภาพบำบัด (Rehabilitation):
* หลังถอดเฝือก การทำกายภาพบำบัด มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะข้อมือจะตึงและกล้ามเนื้อจะอ่อนแรงลง การฟื้นฟูการเคลื่อนไหว (Range of Motion) และความแข็งแรงจึงจำเป็นเพื่อให้เด็กกลับไปใช้ข้อมือได้อย่างเต็มที่

โดยสรุป การรักษาด้วยเฝือกสำหรับเคสนี้ถือเป็นทางเลือกที่ถูกต้องและดีที่สุดครับ แต่ต้องย้ำว่า การปฏิบัติตัวในเฝือกอย่างเคร่งครัดและการติดตามเอกซเรย์ตามนัดคือปัจจัยชี้ขาด ที่จะทำให้กระดูกติดสมบูรณ์ครับ 🙏

#กระดูกสะแคฟฟอยด์หัก #กระดูกข้อมือเด็ก #การเข้าเฝือก #ศัลยกรรมกระดูก

🦵 การดูแลหลังผ่าตัดดามกระดูกหน้าแข้งหัก (Oblique Tibial Fracture) ด้วยแผ่นเหล็ก LCPวันนี้เรามาติดตามความคืบหน้าของเคส กร...
29/11/2025

🦵 การดูแลหลังผ่าตัดดามกระดูกหน้าแข้งหัก (Oblique Tibial Fracture) ด้วยแผ่นเหล็ก LCP

วันนี้เรามาติดตามความคืบหน้าของเคส กระดูกหน้าแข้ง (Tibia) หักแบบเฉียง (Oblique Fracture) ซึ่งแม้ผู้ป่วยจะมีอาการปวดไม่มากนัก แต่ตามแนวทางการรักษามาตรฐานในปัจจุบัน การผ่าตัดเพื่อสร้างความมั่นคงของกระดูกถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้กระดูกสามารถสมานตัวได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว

ในเคสนี้ ได้มีการผ่าตัด ดามกระดูกด้วยแผ่นเหล็กชนิดล็อคได้ (Locking Compression Plate - LCP) โดยใช้เหล็กยาว เพื่อให้เกิดความแข็งแรงและมั่นคงสูงสุด

🛡️ แนวทางการดูแลหลังผ่าตัด (Post-Operative Care)
การดูแลหลังการผ่าตัดเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากต่อความสำเร็จของการรักษา และการกลับไปใช้งานขาได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

1. การดูแลแผลและลดอาการบวม
* ดูแลแผลผ่าตัด: รักษาความสะอาดและแห้งของแผลผ่าตัดอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของแพทย์และพยาบาล เพื่อ ป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายที่สุด
* ลดอาการบวม: ควร ยกขาสูง เหนือระดับหัวใจ (Elevate the leg) โดยเฉพาะในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด และอาจใช้การประคบเย็นตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อลดอาการบวมและปวด

2. การบริหารร่างกายและกายภาพบำบัด
การเริ่มบริหารร่างกายแต่เนิ่น ๆ เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกัน ภาวะข้อติด (Joint Stiffness) และเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
* ช่วงแรก (ภายใน 1-3 วัน หลังผ่าตัด):
* ฝึกขยับข้อเท้า: กระดกข้อเท้าขึ้นลง และหมุนข้อเท้าเป็นวงกลมเบาๆ ทำซ้ำหลายครั้งต่อวัน เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และ ป้องกันภาวะลิ่มเลือดอุดตัน (Deep Vein Thrombosis - DVT)
* เกร็งกล้ามเนื้อต้นขา (Quadriceps Setting): เกร็งกล้ามเนื้อด้านหน้าต้นขา โดยพยายามกดเข่าลงกับที่นอน ค้างไว้ 5-10 วินาที แล้วคลาย ทำซ้ำเพื่อรักษาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
* เมื่อแผลหายดีแล้ว: เริ่มทำกายภาพบำบัดตามคำแนะนำของนักกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อฟื้นฟูพิสัยการเคลื่อนไหวของข้อเข่าและข้อเท้าให้กลับมาเป็นปกติ

🚶 แนวทางการเดินและการลงน้ำหนัก (Weight-Bearing Protocol)
เนื่องจากกระดูกหน้าแข้งเป็นกระดูกรับน้ำหนักหลัก และการหักแบบเฉียง (Oblique) แม้จะดามด้วย LCP แล้ว แต่ยังต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อให้เวลากระดูกสมานตัวอย่างสมบูรณ์

* Non-Weight Bearing (งดลงน้ำหนัก):
* ช่วงเวลา: โดยทั่วไปประมาณ 6-12 สัปดาห์แรก หลังการผ่าตัด (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับชนิดของกระดูกหักและความแข็งแรงของการยึดตรึง)
* การปฏิบัติ: ผู้ป่วยจะต้อง งดลงน้ำหนักที่ขาข้างที่ผ่าตัดโดยสิ้นเชิง ในการเดิน ให้ใช้ ไม้ค้ำยัน (Crutches) หรือ โครงช่วยเดิน (Walker) โดยให้ขาข้างที่ผ่าตัดแตะพื้นเบาๆ เพื่อทรงตัวเท่านั้น (Touch-Down Weight Bearing) หรือไม่แตะเลย
* เหตุผล: เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแรงกระทำต่อบริเวณกระดูกที่หักมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เหล็กดามเสียหาย หรือกระดูกเคลื่อนที่ได้

* Partial Weight Bearing (ลงน้ำหนักบางส่วน):
* ช่วงเวลา: เมื่อแพทย์ตรวจ X-ray แล้วพบว่า มีวี่แววของการสร้างกระดูกใหม่ (Callus Formation) ที่ดีแล้ว (มักเกิดขึ้นหลัง 6-12 สัปดาห์)
* การปฏิบัติ: ค่อยๆ เริ่มลงน้ำหนักเพิ่มขึ้นทีละน้อย โดยเริ่มจาก 25% ของน้ำหนักตัว แล้วค่อยๆ เพิ่มเป็น 50% และ 75% ตามที่แพทย์อนุญาต โดยยังคงใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน

* Full Weight Bearing (ลงน้ำหนักเต็มที่):
* ช่วงเวลา: เมื่อแพทย์ยืนยันจากการ X-ray ว่า กระดูกสมานตัวสมบูรณ์แล้ว (Bony Union) ซึ่งมักใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน หรืออาจนานกว่านั้นในบางราย
* การปฏิบัติ: สามารถเลิกใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน และเริ่มเดินลงน้ำหนักเต็มที่ได้

📌 สิ่งที่ต้องจำ: การลงน้ำหนักจะต้องเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์ผู้รักษาและนักกายภาพบำบัดเท่านั้น ห้ามเร่งรัดการลงน้ำหนักเองโดยเด็ดขาดครับ

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการปวดที่เพิ่มขึ้น มีไข้ หรือแผลผ่าตัดมีสิ่งผิดปกติ ควรรีบมาพบแพทย์ก่อนวันนัดนะครับ

ขอให้ผู้ป่วยทุกท่านฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วครับ/ค่ะ 💪

#กระดูกหัก
#กระดูกหน้าแข้งหัก


#การผ่าตัดกระดูก
#หลังผ่าตัด
#กายภาพบำบัด
#กระดูกและข้อ

✨ ข้อศอกกระแทก: กรณีศึกษากระดูกร้าวที่คอเรเดียส (Radial Neck Fracture) ✨การบาดเจ็บที่ ข้อศอก ซึ่งเป็นข้อต่อที่มีความสำคั...
26/11/2025

✨ ข้อศอกกระแทก: กรณีศึกษากระดูกร้าวที่คอเรเดียส (Radial Neck Fracture) ✨

การบาดเจ็บที่ ข้อศอก ซึ่งเป็นข้อต่อที่มีความสำคัญต่อการใช้งานแขนของเรามากครับ
🔎 กระดูกร้าวที่คอเรเดียส (Radial Neck Fracture)

ผู้ป่วยหญิงอายุ 39 ปีรายนี้ประสบอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ล้ม และมีข้อศอกกระแทกอย่างรุนแรง

สิ่งที่เราต้องพิจารณาคือ:
* อาการเบื้องต้น: ผู้ป่วยมีอาการ ขยับข้อศอกได้ไม่ค่อยดี และมีอาการปวด
* ผลการตรวจร่างกาย: พบว่าการหมุนปลายแขน (Forearm Rotation หรือ Pronation/Supination) ยังสามารถทำได้ในทุกทิศทาง แต่ทำได้อย่างจำกัด ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่ากระดูกที่หักอาจจะไม่มีการเคลื่อนที่ (Non-displaced) หรือเคลื่อนที่เพียงเล็กน้อย

* ผลเอกซเรย์: ยืนยันว่ามี กระดูกร้าวบริเวณคอเรเดียส (Radial Neck) ซึ่งเป็นส่วนของกระดูกแขนท่อนนอก (Radius) ที่อยู่ใกล้ข้อศอก

กระดูกร้าวที่คอเรเดียส นี้ หากไม่มีการเคลื่อนที่ของกระดูกหักมากนัก จะถือว่าเป็นชนิดที่ค่อนข้างดีในการพยากรณ์โรค เพราะการที่กระดูกไม่เคลื่อนที่มากจะช่วยรักษาความมั่นคงของข้อศอกไว้ได้

🛠️ การดูแลรักษา: เน้นการฟื้นฟูการเคลื่อนไหว (Early Mobilization)
ในกรณีที่กระดูกร้าวไม่มีการเคลื่อนที่ของชิ้นกระดูกมากนัก หลักการรักษาที่สำคัญคือ:
* ลดการเคลื่อนไหวในช่วงแรก: เพื่อลดอาการปวดและให้กระดูกมีโอกาสเริ่มสมานตัว โดยอาจใช้การ ใส่เฝือก หรือ การใช้ผ้าคล้องแขน (Sling) เพื่อพักการใช้งานในช่วงสั้นๆ
* เริ่มขยับเมื่ออาการปวดลดลง: จุดมุ่งหมายหลักของการรักษาการบาดเจ็บรอบข้อศอกคือ การป้องกันภาวะข้อติด (Elbow Stiffness)
* เมื่ออาการปวดทุเลาลงแล้ว แพทย์จะแนะนำให้ เริ่มขยับข้อศอกเบาๆ โดยเร็วที่สุด (Early Active Range of Motion Exercises)
* ในเคสนี้ การที่ผู้ป่วยสามารถหมุนปลายแขนได้ทุกทิศทางตั้งแต่ต้น ยิ่งเป็นการสนับสนุนให้เราสามารถเริ่มการขยับข้อศอกได้เร็วยิ่งขึ้น เพื่อรักษาองศาการเคลื่อนไหวที่สมบูรณ์ไว้

✅ ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
การรักษาด้วยการจำกัดการเคลื่อนไหวในช่วงสั้นๆ และตามด้วยการฟื้นฟูการเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสม ทำให้:
* กระดูกสามารถหายได้อย่างดีเยี่ยม โดยไม่มีการสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวที่สำคัญ
* ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างรวดเร็ว

ข้อศอก เป็นข้อต่อที่มีแนวโน้มที่จะ ติด (Stiff) ได้ง่าย หากต้องใส่เฝือกนานเกินไป ดังนั้น การวินิจฉัยที่ถูกต้อง และการเริ่มการกายภาพบำบัดอย่างเหมาะสมในช่วงเวลาที่ถูกต้อง จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผลลัพธ์การรักษาในระยะยาวครับ 💪

ตัวอย่างของการบาดเจ็บและการรักษาที่พบได้บ่อยและเป็นไปตามหลักการมาตรฐานในเวชปฏิบัติศัลยกรรมกระดูกเด็กครับ🔎 การวินิจฉัยและ...
24/11/2025

ตัวอย่างของการบาดเจ็บและการรักษาที่พบได้บ่อยและเป็นไปตามหลักการมาตรฐานในเวชปฏิบัติศัลยกรรมกระดูกเด็กครับ

🔎 การวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องตามหลักการ
1. ลักษณะการบาดเจ็บ (The Fracture)
* ผู้ป่วย: เด็กอายุ 11 ปี
* การวินิจฉัย: Fx DER metaphyseal extraarticular (Distal Radius Fracture, Metaphyseal, Extra-articular)
* ตำแหน่ง: เป็นกระดูกหักบริเวณ ปลายกระดูกเรเดียส (Distal Radius) ซึ่งเป็นจุดที่พบบ่อยที่สุดในการบาดเจ็บที่ข้อมือ
* ชนิด: Metaphyseal คือหักในส่วนที่อยู่ถัดจากแผ่นสร้างกระดูก (Growth Plate หรือ Physis) ซึ่งหมายถึงกระดูกส่วนที่กำลังเติบโต
* Extraarticular คือรอยหัก ไม่ได้ลามเข้าสู่ผิวข้อ (Joint Surface) ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีมาก เพราะลดความเสี่ยงของข้อเสื่อมในระยะยาว

* สาเหตุ: การเล่นโกล์รับบอลกระแทก เป็นกลไกที่ทำให้เกิดแรงกดตามแกน (Axial Loading) และการบิด (Torsion) ซึ่งมักนำไปสู่กระดูกหักชนิดนี้

2. การรักษาที่เหมาะสม (Closed Reduction)
เมื่อข้อมือผิดรูป (Displaced/Deformed) ในกระดูกหักของเด็ก การรักษาหลักคือการจัดกระดูกให้เข้าที่โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งเรียกว่า การจัดกระดูกแบบปิด (Closed Reduction)

* วิธีการที่ใช้: ฉีดยาให้หลับเล็กน้อยและมีการดึงกระดูกให้เข้าที่ (Closed Reduction under Sedation)
* นี่คือมาตรฐานในการรักษาครับ เพราะเด็กจะมีความรู้สึกเจ็บปวดและกลัวมาก การให้ยาที่ทำให้สงบและระงับปวด (Sedation/Analgesia) จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว แพทย์สามารถจัดกระดูกได้นุ่มนวลและเข้าที่ได้ง่ายขึ้น
* การดมยาสลบ (General Anesthesia) เป็นทางเลือกสำรอง หากการจัดกระดูกซับซ้อน หรือผู้ป่วยไม่ให้ความร่วมมือจริง ๆ ซึ่งจะให้ความมั่นใจว่ากระดูกจะเข้าที่ได้สมบูรณ์ที่สุด

* 3. ผลการรักษา (Good Alignment)
* ผลลัพธ์จากเอกซเรย์: "ดูแนวกระโดดสวยงามดีเป็นที่น่าพอใจ"
* นี่คือเป้าหมายสูงสุดของการจัดกระดูกแบบปิดครับ เมื่อจัดกระดูกเข้าที่แล้ว จะต้องใส่เฝือกเพื่อคงตำแหน่งที่จัดไว้ให้กระดูกสมานตัวในแนวที่ถูกต้อง
* การที่แนวแกน (Alignment) ของกระดูกกลับมาสวยงามเป็นที่น่าพอใจ หมายความว่า ไม่ต้องเสี่ยงกับการผ่าตัด (Surgery) และมีโอกาสสูงที่ข้อมือจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ

🌟 การดูแลและพยากรณ์โรคในเด็ก
พยากรณ์โรค (Prognosis) ของเคสนี้ถือว่าดีมากครับ โดยมีข้อพิจารณาเพิ่มเติมดังนี้:

* การใส่เฝือก (Casting): หลังจัดกระดูก แพทย์จะใส่เฝือกให้ผู้ป่วยไว้ประมาณ 4-6 สัปดาห์ เพื่อให้กระดูกสมานตัว
* การติดตามผล: การเอกซเรย์ซ้ำในสัปดาห์แรกหลังจัดกระดูกมีความสำคัญมาก เพื่อให้แน่ใจว่ากระดูกไม่เคลื่อนที่ซ้ำในเฝือก (Secondary Displacement)
* ศักยภาพในการปรับรูป (Remodeling Potential): สิ่งที่พิเศษในเด็กคือ กระดูกมีศักยภาพในการปรับรูป (Remodeling) สูงมาก หากยังมีมุมเอียงเหลืออยู่เล็กน้อย ร่างกายของเด็กจะค่อย ๆ ปรับแก้ความผิดรูปนั้นให้ตรงขึ้นได้เองตามธรรมชาติในขณะที่กระดูกยังเติบโตอยู่ (ซึ่งเป็นข้อดีที่ผู้ใหญ่ไม่มี)
* การกลับไปเล่นกีฬา: โดยทั่วไป หลังถอดเฝือกและทำกายภาพบำบัดฟื้นฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแล้ว เด็กสามารถกลับไปเล่นบอลหรือเป็นโกล์ได้ตามปกติครับ

🌟 "อย่าทนปวดนาน... ทางเลือกในการรักษาที่ช่วยให้กลับมาใช้ชีวิตได้ดีอีกครั้ง" 🌟: ผู้ป่วยหญิงอายุ 78 ปี เข้ารับการรักษาด้วย...
23/11/2025

🌟 "อย่าทนปวดนาน... ทางเลือกในการรักษาที่ช่วยให้กลับมาใช้ชีวิตได้ดีอีกครั้ง" 🌟
: ผู้ป่วยหญิงอายุ 78 ปี เข้ารับการรักษาด้วยภาวะ ข้อเข่าขวาเสื่อม (Right Knee Osteoarthritis)

* อาการก่อนการรักษา: ผู้ป่วยมีอาการปวดข้อเข่ามาเป็นระยะเวลานาน ทำให้ การเดินทำได้ไม่ไกล และมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตประจำวัน ญาติจึงตัดสินใจพามาพบแพทย์เพื่อขอรับการรักษาด้วยการผ่าตัด เปลี่ยนข้อเข่าเทียมทั้งหมด (Total Knee Arthroplasty - TKA)

: การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมเป็นการรักษาที่ได้ผลดีเยี่ยมและเป็นมาตรฐานสำหรับการรักษาข้อเข่าเสื่อมระยะรุนแรง โดยเป็นการนำผิวข้อที่สึกหรอออก แล้วแทนที่ด้วยข้อเข่าเทียม ซึ่งจะช่วย ลดอาการปวด และ เพิ่มการใช้งานของข้อเข่า ให้กลับมาดีขึ้นอย่างชัดเจน

✨ ผลลัพธ์หลังการผ่าตัด และการดูแลรักษา ✨
* อุปกรณ์ที่ใช้: ในเคสนี้ เราได้เลือกใช้ข้อเข่าเทียมคุณภาพสูง Zimmer รุ่น NexGen ซึ่งเป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับการยอมรับและมีผลการใช้งานในระยะยาวที่ดีเยี่ยมทั่วโลก
* ผลลัพธ์จากภาพถ่ายรังสี (Film): ท่านจะเห็นได้จากภาพประกอบว่า แนวแกนของขาหลังผ่าตัดมีความสมดุลและสวยงาม ตำแหน่งของข้อเข่าเทียมวางได้เหมาะสมตามหลักศัลยกรรมกระดูก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ข้อเข่าเทียมสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยาวนาน

* การผ่าตัด TKA แบบดั้งเดิม (Conventional Technique) นั้น ยังคงเป็นมาตรฐานการรักษาที่ มีประสิทธิภาพสูง และให้ผลลัพธ์ที่ดีมาอย่างยาวนาน หากศัลยแพทย์มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง สามารถวางแผนและกำหนดแนวแกนได้อย่างแม่นยำด้วยเครื่องมือแบบมาตรฐานก็สามารถให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมเทียบเท่าได้ การไม่ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์หลายครั้ง อาจช่วยในเรื่องของ ความรวดเร็วในการผ่าตัด และ ความคุ้มค่าด้านค่าใช้จ่าย โดยที่ยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยและผลลัพธ์ทางการรักษาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

💖 การดูแลหลังการผ่าตัดสำหรับผู้สูงอายุ 💖
สำหรับผู้ป่วยสูงอายุ การฟื้นฟูร่างกายหลังการผ่าตัดมีความสำคัญอย่างยิ่ง

* การกายภาพบำบัด (Physiotherapy): ต้องทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอตามคำแนะนำ เพื่อให้ข้อเข่ากลับมางอเหยียดได้ดีและกล้ามเนื้อแข็งแรง

* การเดินและการใช้ชีวิต: ควรใช้เครื่องช่วยเดินในช่วงแรก และค่อยๆ เพิ่มกิจกรรมตามความสามารถ โดยเน้นกิจกรรมที่มีแรงกระแทกต่ำ (Low-impact activities) เช่น การเดินในระยะที่เหมาะสม

* การติดตามผล: มาพบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินผลการรักษาและตรวจดูความเรียบร้อยของข้อเข่าเทียมอย่างสม่ำเสมอ
เรียนรู้และทำความเข้าใจโรคข้อเข่าเสื่อม เพื่อให้คุณไม่พลาดโอกาสในการกลับไปใช้ชีวิตที่ปราศจากความปวดอีกครั้ง
หากท่านหรือคนในครอบครัวมีอาการปวดข้อเข่าเรื้อรัง อย่าปล่อยทิ้งไว้จนอาการรุนแรงเกินไป สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดได้ครับ

#ข้อเข่าเสื่อม #ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า #สุขภาพผู้สูงอายุ

อาการปวดสะโพกเรื้อรัง ไม่ใช่เรื่อง "ปกติ" ในวัยเด็ก: ทำความรู้จักกับภาวะ SCFE "อาการปวด" ในเด็ก เริ่มจะวัยรุ่น ไม่ควรมอง...
21/11/2025

อาการปวดสะโพกเรื้อรัง ไม่ใช่เรื่อง "ปกติ" ในวัยเด็ก: ทำความรู้จักกับภาวะ SCFE

"อาการปวด" ในเด็ก เริ่มจะวัยรุ่น ไม่ควรมองข้าม นะครับ

📌 ภาวะ SCFE คืออะไร?
SCFE (Slipped Capital Femoral Epiphysis) หรือ ภาวะกระดูกหัวสะโพกเลื่อน
เป็นภาวะที่ส่วนหัวของกระดูกต้นขา (Femoral Head) เกิดการเลื่อนหลุดออกจากส่วนคอของกระดูกต้นขาที่บริเวณแผ่นการเจริญเติบโต (Growth Plate) มักเกิดขึ้นในเด็กช่วงวัยก่อนและเข้าสู่วัยรุ่น (ประมาณ 10-16 ปี) ครับ

🚶‍♂️ อาการที่พบบ่อย
เคสล่าสุดที่เราดูแล เป็นเด็กชายอายุ 12 ปี
น้องมีอาการ ปวดสะโพกเรื้อรังมานานร่วมเดือน ซึ่งในบางครั้งภาพเอกซเรย์เริ่มต้นอาจยังไม่ชัดเจนนัก
แต่เมื่อมีการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด ก็พบว่าเข้าได้กับภาวะ SCFE ครับ

🛠️ การรักษาภาวะ SCFE
ในกรณีที่วินิจฉัยได้ชัดเจนและมีอาการปวดรบกวนการใช้ชีวิตอย่างมาก การรักษามาตรฐานคือ การผ่าตัดยึดตรึง (Surgical Stabilization)

ดังภาพประกอบที่ทุกท่านเห็น (ก่อนและหลังการรักษา)
เราได้ใส่ สกรู (Screw) เข้าไปยึดตรึงบริเวณหัวกระดูกต้นขาที่เลื่อนให้เข้าที่และคงที่ ซึ่งจะช่วยให้ข้อสะโพกมีความนิ่ง

ผลลัพธ์ที่ได้คือ: ข้อสะโพกมีการขยับได้ดีขึ้นอย่างมาก และที่สำคัญที่สุดคือ อาการปวดลดลง ครับ 🙏

💡 การดูแลเพิ่มเติมหลังการผ่าตัด
เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุดและป้องกันภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว ขอแนะนำการดูแลเพิ่มเติม ดังนี้ครับ:
* 1. การจำกัดการลงน้ำหนัก: ในช่วงแรกหลังการผ่าตัด (ตามคำแนะนำของแพทย์) ต้องงดการลงน้ำหนัก ที่ขาข้างที่ผ่าตัดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สกรูทำงานได้เต็มที่ และให้กระดูกมีโอกาสสมานตัว
* 2. การทำกายภาพบำบัด (Physical Therapy): เมื่อได้รับอนุญาตจากแพทย์ ควรเริ่มต้นทำกายภาพบำบัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อฟื้นฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และองศาการเคลื่อนไหวของข้อสะโพก
* 3. การติดตามผลอย่างต่อเนื่อง: เนื่องจากภาวะ SCFE มีโอกาสเกิดขึ้นกับสะโพกอีกข้างได้ (ประมาณ 20-40%) จึงควรกลับมาตรวจติดตามผลตามนัด เพื่อเฝ้าระวังและประเมินความสมบูรณ์ของการรักษา

🩺 สรุปและข้อคิด:
SCFE เป็นภาวะที่ต้องอาศัยการวินิจฉัยที่แม่นยำและรวดเร็ว
หากบุตรหลานของท่านมีอาการปวดสะโพกหรือปวดเข่าแบบเรื้อรัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยรุ่นที่กำลังเจริญเติบโต ไม่ควรนิ่งนอนใจ นะครับ
การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงทีครับ
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ 🙏

👩‍⚕️ 🩺เมื่อข้อเท้าพลิกซ้ำ: การรักษาการบาดเจ็บข้อเท้าที่ซับซ้อนและมีประวัติการรักษาเดิมเคสผ่าตัดข้อเท้าที่ต้องอาศัยการวาง...
19/11/2025

👩‍⚕️ 🩺
เมื่อข้อเท้าพลิกซ้ำ: การรักษาการบาดเจ็บข้อเท้าที่ซับซ้อนและมีประวัติการรักษาเดิม

เคสผ่าตัดข้อเท้าที่ต้องอาศัยการวางแผนอย่างละเอียด เนื่องจากผู้ป่วยมีประวัติการบาดเจ็บและการผ่าตัดซ้ำซ้อนมาก่อนครับ

📌 ข้อมูลผู้ป่วยและอาการบาดเจ็บใหม่
ผู้ป่วยหญิงอายุ 50 กว่าปี มีประวัติเคยผ่าตัดกระดูกตาตุ่มด้านนอก (Lateral Malleolus) เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว และมีแผ่นเหล็กชุดเดิมยังคงค้างอยู่ในร่างกาย

ล่าสุด ผู้ป่วยประสบอุบัติเหตุ เดินพลาดท่าข้อเท้าพลิก ทำให้เกิดการบาดเจ็บและมีกระดูกหักเพิ่มเติมครับ

🔎 การวินิจฉัยที่ละเอียดกว่าที่คิด
จากการประเมินเริ่มต้น (เอกซเรย์) เราสันนิษฐานว่ามีการหักของกระดูกตาตุ่มด้านนอกและด้านใน แต่เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนและทำการ CT Scan (เอกซเรย์คอมพิวเตอร์) เพื่อดูโครงสร้างสามมิติ
ก็พบว่ามีความเสียหายที่ซับซ้อนกว่าที่เห็น นั่นคือ มีกระดูกตาตุ่มด้านหลัง (Posterior Malleolus) แตก ร่วมด้วยครับ

การหักแบบสามส่วนนี้ (ตาตุ่มด้านนอก, ด้านใน, ด้านหลัง) ถือเป็นการบาดเจ็บที่ค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งต้องอาศัยการผ่าตัดที่แม่นยำเพื่อคืนความมั่นคงของข้อเท้า

🛠️ แผนการผ่าตัดที่ซับซ้อน
เนื่องจากเป็นการบาดเจ็บที่ซับซ้อนและมีเหล็กชุดเก่าอยู่ การผ่าตัดจึงต้องมีการดำเนินการหลายขั้นตอน ดังนี้ครับ:

* * นำเหล็กชุดเดิมออก (Removal of old hardware): เพื่อเคลียร์พื้นที่และลดโอกาสการติดเชื้อหรือปัญหาในอนาคต
* * ใส่เหล็กแผ่นใหม่ (New Plate Fixation): เพื่อยึดกระดูกตาตุ่มด้านนอกที่หักใหม่
* * ใส่สกรูยึดด้านหลัง: เพื่อตรึงกระดูกตาตุ่มด้านหลังที่แตกกลับเข้าที่ ซึ่งมีความสำคัญต่อความมั่นคงของข้อเท้าในการรับน้ำหนัก
* * ใส่สกรูยึดด้านในตาตุ่ม: เพื่อรักษาและยึดกระดูกตาตุ่มด้านใน

⚠️ การดูแลหลังการผ่าตัดและข้อควรระวัง
เนื่องจากการบาดเจ็บที่รุนแรงและซับซ้อน การผ่าตัดบริเวณข้อเท้าและขาในลักษณะนี้ มักส่งผลให้เกิดอาการบวมมากได้ง่าย
* อาการบวมและตุ่มน้ำเลือด: หลังผ่าตัด บริเวณที่บวมอาจมีตุ่มน้ำใสหรือตุ่มน้ำเลือด (Blisters) เกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาของผิวหนังต่อการบาดเจ็บและความบวมที่รุนแรง

* การป้องกันการติดเชื้อ: ต้องดูแลแผลผ่าตัดอย่างใกล้ชิดและเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเคสที่มีการใส่เหล็กหลายจุด
* การลดบวม: สิ่งสำคัญที่สุดในช่วงแรก คือ การยกเท้าให้สูงกว่าระดับหัวใจ (Elevation) อยู่เสมอ เพื่อช่วยลดอาการบวม ลดความเสี่ยงของการเกิดตุ่มน้ำ และเร่งกระบวนการหายของแผล

🩺 สรุปและข้อคิด:
การบาดเจ็บข้อเท้าที่ดูเหมือนธรรมดา อาจมีความเสียหายซ่อนอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีประวัติการบาดเจ็บซ้ำ
การประเมินด้วย CT Scan ช่วยให้เราเห็นภาพรวมทั้งหมด นำไปสู่การวางแผนผ่าตัดที่ครอบคลุม เพื่อฟื้นฟูข้อเท้าให้กลับมามั่นคงที่สุดครับ
🙏

👨‍⚕️✨เคสการบาดเจ็บที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ นั่นคือ กระดูกข้อมือหัก ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ง่ายจากการลื่นล้มมือยันพ...
18/11/2025

👨‍⚕️✨เคสการบาดเจ็บที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ นั่นคือ กระดูกข้อมือหัก ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ง่ายจากการลื่นล้มมือยันพื้นครับ

🦴 การบาดเจ็บกระดูกข้อมือ: Distal Radius Fracture
📌 ข้อมูลเบื้องต้นของเคส
* ผู้ป่วย: หญิง อายุ 56 ปี
* สาเหตุ: ลื่นล้มมือยันพื้น

* การวินิจฉัย (จากภาพเอกซเรย์):
* Fx der Volar angulation: หมายถึง มีกระดูกหักบริเวณปลายกระดูกเรเดียส (Distal Radius Fracture) และมีมุมเอียงไปทางด้านฝ่ามือเล็กน้อย
* Minimal displaced: การเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนกระดูกหักมีน้อยมาก (Minimal Displacement)
* Dorsal Comminution: มีการแตกหักย่อย ๆ (Comminution) ที่บริเวณด้านหลังของข้อมือ

⚖️ ทางเลือกในการรักษา
สำหรับกระดูกข้อมือหักชนิดนี้ ซึ่งมีการเคลื่อนที่ของกระดูกน้อย (Minimal Displaced) และกระดูกยังค่อนข้างมั่นคง ทางเลือกในการรักษามี 2 แนวทางหลักครับ:

* การรักษาโดยไม่ผ่าตัด (Nonoperative Treatment): การใส่เฝือก (Cast Immobilization)

* การรักษาโดยการผ่าตัด (Operative Treatment): การจัดกระดูกและยึดด้วยเหล็กดาม (Open Reduction and Internal Fixation - ORIF) หรือการใช้ลวด/ตรึงภายนอก (K-wires/External Fixation)
เนื่องจากเคสนี้มีการเคลื่อนที่น้อย และผู้ป่วยเลือกวิธีการรักษาแบบไม่ผ่าตัด การใส่เฝือกจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง

🩹 แนวทางการดูแลรักษาด้วยการใส่เฝือก
* การจัดกระดูก (Reduction): แม้จะมีการเคลื่อนที่น้อย แต่แพทย์อาจทำการจัดกระดูกเล็กน้อยให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดก่อนการใส่เฝือก
* การเข้าเฝือก (Casting): ใส่เฝือกแบบจำกัดการเคลื่อนไหวของข้อมือและข้อศอก (เช่น Short Arm Cast หรือ Long Arm Cast ตามดุลยพินิจของแพทย์)
* การติดตามอาการ (Follow-up): นี่คือหัวใจสำคัญของการรักษาด้วยเฝือกครับ
* จะต้องมีการเอกซเรย์ซ้ำ ในช่วง 7-10 วันแรกหลังใส่เฝือก เนื่องจากความบวมยุบตัวลงอาจทำให้ชิ้นส่วนกระดูกที่หักเคลื่อนที่จากตำแหน่งเดิมได้ (Secondary Displacement)
* หากกระดูกยังคงอยู่ในตำแหน่งที่ดี แพทย์จะนัดติดตามผลเป็นระยะจนกว่ากระดูกจะสมานกัน
* ระยะเวลา: โดยทั่วไป กระดูกข้อมือหักจะใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์ ในการสมานตัวเบื้องต้น แต่แพทย์จะประเมินจากภาพเอกซเรย์ก่อนถอดเฝือกจริง

💡 ข้อแนะนำสำหรับผู้ป่วยที่ใส่เฝือก
* ยกแขนสูง: พยายามยกแขนข้างที่ใส่เฝือกให้อยู่สูงกว่าระดับหัวใจ โดยเฉพาะในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เพื่อช่วยลดอาการบวมและปวด
* ขยับนิ้วมือ: ควรขยับนิ้วมือข้างที่ใส่เฝือกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและป้องกันข้อนิ้วยึดติด
* ดูแลเฝือก: ระวังไม่ให้เฝือกเปียกหรือเสียหาย หากเฝือกหลวมหรือแน่นเกินไปจนมีอาการปวด ชา หรือนิ้วมือซีด ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
* การกายภาพบำบัด: หลังถอดเฝือก ข้อข้อมืออาจมีการยึดติดเล็กน้อย การทำกายภาพบำบัด เพื่อฟื้นฟูช่วงการเคลื่อนไหวของข้อมือจะมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้กลับมาใช้งานได้เต็มที่ครับ

ขอให้คุณผู้หญิงอายุ 56 ปี หายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็วครับ การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ 🙏

#กระดูกข้อมือหัก #การใส่เฝือก #อุบัติเหตุในผู้สูงอายุ #ศัลยกรรมกระดูก
#ศัลยกรรมกระดูกและข้อ

👨‍⚕️🩺อีกหนึ่งการบาดเจ็บที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบในการวินิจฉัยและการดูแลรักษาในกลุ่มเด็กเล็กครับ นั่นคือ ภาวะกระดูกหักบ...
16/11/2025

👨‍⚕️🩺อีกหนึ่งการบาดเจ็บที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบในการวินิจฉัยและการดูแลรักษาในกลุ่มเด็กเล็กครับ นั่นคือ ภาวะกระดูกหักบริเวณปุ่มกระดูกข้อศอกด้านนอก (Lateral Humeral Condyle Fracture) ในเด็กอายุ 3 ขวบ

⚠️ กระดูกปุ่มข้อศอกด้านนอกหักในเด็ก (Lateral Condyle Fracture)

🔎 ความท้าทายในการวินิจฉัย
เคสนี้เป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงความท้าทายของการบาดเจ็บในเด็กครับ

* อาการที่ไม่รุนแรง: แม้จะมีอาการเจ็บไม่มากนัก แต่การบาดเจ็บนี้มีความน่ากังวลสูง
* การมองเห็นในภาพเอกซเรย์: ในเด็กเล็กอายุ 3 ขวบ บริเวณกระดูกส่วนนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นกระดูกอ่อน (Cartilage) ทำให้มองเห็นส่วนที่เป็นกระดูกหักชัดเจนได้ยากในภาพเอกซเรย์ทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่กระดูกไม่ได้มีการเคลื่อนที่ (Non-displaced) แพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์อาจมองข้ามรอยร้าวนี้ไปได้ง่าย ซึ่งอาจนำไปสู่การรักษาที่ล่าช้าและผลลัพธ์ที่ไม่ดีในระยะยาว

> ข้อควรระวังสำคัญ: การบาดเจ็บนี้เป็น Intra-articular Fracture (กระดูกหักที่ลามเข้าสู่ข้อต่อ) ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เช่น กระดูกไม่ติด (Nonunion) หรือ ข้อศอกผิดรูป (Cubitus Valgus/Varus Deformity)

🩹 แนวทางการรักษาเบื้องต้น
ในกรณีที่ภาพเอกซเรย์แสดงให้เห็นว่ากระดูกแตกร้าวแต่ ไม่มีการขยับออกจากตำแหน่งเดิม (Non-displaced หรือ Minimally Displaced < 2 mm) การรักษาเบื้องต้นที่แนะนำคือ:

* การเข้าเฝือก (Nonoperative Management): ทำการเข้าเฝือกชนิดยาวเหนือข้อศอก (Above-Elbow Cast) เพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของข้อศอก

* การติดตามอย่างใกล้ชิด (Close Follow-up): นี่คือหัวใจสำคัญของการรักษาแบบไม่ผ่าตัดสำหรับกระดูกหักชนิดนี้ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่กระดูกจะเคลื่อนที่ภายหลังการเข้าเฝือกได้ (Delayed Displacement)

* จะต้องมีการนัดตรวจและถ่ายเอกซเรย์ซ้ำเป็นระยะ (เช่น ทุกสัปดาห์ใน 3 สัปดาห์แรก) เพื่อตรวจสอบว่ากระดูกยังคงอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่

* ระยะเวลาการเข้าเฝือก: จะคงการเข้าเฝือกไว้จนกว่าจะมั่นใจว่ากระดูกสมานกันดีแล้ว (Union) ซึ่งมักใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์

🌟 การฟื้นฟูหลังการรักษา
* การเอาเฝือกออก: เมื่อแพทย์ยืนยันด้วยภาพเอกซเรย์ว่ากระดูกติดสนิทและแข็งแรงดีแล้ว จึงจะทำการถอดเฝือก

* การกายภาพบำบัด: หลังถอดเฝือกแล้ว อาจมีการจำกัดการเคลื่อนไหวของข้อศอกอยู่บ้าง จึงควรเริ่มการทำกายภาพบำบัดเบาๆ เพื่อค่อยๆ เพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวของข้อศอก (Range of Motion) อย่างค่อยเป็นค่อยไป ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
ขอให้ทุกท่านตระหนักว่า แม้การบาดเจ็บจะดูเล็กน้อย แต่การวินิจฉัยที่แม่นยำและการติดตามอาการที่สม่ำเสมอ คือกุญแจสำคัญสู่ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาวสำหรับข้อศอกของลูกน้อยครับ 🙏

หากท่านมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระดูกหักในเด็ก หรือต้องการสอบถามเรื่องการดูแลระหว่างเข้าเฝือก สามารถคอมเมนต์ไว้ได้เลยครับ

#กระดูกปุ่มข้อศอกหัก #กระดูกหักในเด็ก #ศัลยกรรมกระดูกเด็ก #การดูแลข้อศอก

กรณีผู้ป่วยหญิงอายุ 27 ปี ประสบอุบัติเหตุรถชน ถูกกระแทกจนเกิด กระดูกสันหลังส่วนอกยุบตัวที่ระดับ T10 (T10 compression fra...
14/11/2025

กรณีผู้ป่วยหญิงอายุ 27 ปี ประสบอุบัติเหตุรถชน ถูกกระแทกจนเกิด กระดูกสันหลังส่วนอกยุบตัวที่ระดับ T10 (T10 compression fracture) โดยมีมุมโก่ง 20 องศา และมีอาการปวดหลังมากจนไม่สามารถนั่งได้

ในทางการแพทย์สมัยใหม่ สำหรับกระดูกสันหลังยุบตัวที่ไม่รุนแรงมาก ไม่มีอาการทางระบบประสาท (เช่น ขาอ่อนแรง ชา หรือควบคุมการขับถ่ายไม่ได้) และมีมุมโก่งงอไม่มาก มักจะแนะนำการรักษาแบบไม่ผ่าตัดเป็นหลักก่อน

การรักษาแบบประคับประคองเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยที่ไม่อยากผ่าตัด

นี่คือคำแนะนำการรักษาแบบไม่ผ่าตัดและการดูแลตนเองที่สำคัญ ซึ่งผู้ป่วยควรปรึกษาและปฏิบัติตามแผนการรักษาของแพทย์เจ้าของไข้อย่างเคร่งครัด:

แนวทางการรักษาแบบไม่ผ่าตัดและการดูแลตนเอง
1. การจัดการความปวดและการพัก
* ยาบรรเทาอาการปวด: แพทย์จะสั่งยาแก้ปวด (เช่น ยาในกลุ่ม NSAIDs หรือยาที่แรงขึ้นตามความเหมาะสม) และ/หรือยาคลายกล้ามเนื้อ เพื่อควบคุมอาการปวดที่รุนแรง
* หลีกเลี่ยงการนอนติดเตียง: การนอนพักบนเตียงนานเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ลิ่มเลือดในขา กล้ามเนื้ออ่อนแรง และกระดูกพรุนได้ ผู้ป่วยควรพยายามลุกขึ้นเคลื่อนไหวร่างกายอย่างช้า ๆ และสั้น ๆ เท่าที่ความเจ็บปวดจะอนุญาต โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
* การประคบ: อาจใช้การประคบเย็นในช่วงเฉียบพลัน และเปลี่ยนเป็นการประคบร้อนเมื่ออาการปวดทุเลาลงแล้ว เพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อ

2. การใช้อุปกรณ์พยุงหลัง (Back Brace/Corset)
* วัตถุประสงค์: แพทย์มักจะแนะนำให้ใช้เสื้อเกราะพยุงหลัง (เช่น TLSO - ThoracoLumbar Sacral Orthosis) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อ จำกัดการเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลัง บริเวณที่บาดเจ็บ เพื่อช่วยให้กระดูกที่แตกได้มีเวลาในการสมานตัวและป้องกันไม่ให้มุมโก่งงอแย่ลง
* การปฏิบัติ: ต้องใส่เสื้อเกราะตลอดเวลาที่ตื่น (อาจยกเว้นตอนนอนตามคำแนะนำแพทย์) เป็นระยะเวลาประมาณ 4–12 สัปดาห์ หรือจนกว่าแพทย์จะประเมินว่ากระดูกเริ่มสมานตัวและอาการปวดดีขึ้น

3. การปรับเปลี่ยนกิจกรรม (Activity Modification)
* กิจกรรมที่ต้องห้าม: ผู้ป่วยต้อง หลีกเลี่ยง กิจกรรมที่เพิ่มแรงกดหรือการเคลื่อนไหวต่อกระดูกสันหลัง ได้แก่
* การงอตัว (Bending): โดยเฉพาะการงอไปด้านหน้า
* การบิดตัว (Twisting): การหันหรือเอี้ยวตัว
* การยกของหนัก (Lifting): ห้ามยกของหนักโดยเด็ดขาด
* กิจกรรมที่แนะนำ: ให้เน้นกิจกรรมที่มีแรงกระแทกต่ำ (Low-Impact) เพื่อรักษาสภาพร่างกายและกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการซ่อมแซมกระดูก
* การเดิน: เริ่มต้นด้วยการเดินระยะสั้น ๆ ในบ้าน และค่อย ๆ เพิ่มระยะทางเมื่ออาการปวดลดลง
* การนั่ง: เนื่องจากผู้ป่วยมีอาการปวดจนนั่งไม่ได้ อาจจะต้องใช้การ นอนราบเป็นหลัก ในช่วงแรก เมื่ออาการทุเลาแล้วจึงค่อย ๆ ฝึกนั่ง โดยใช้เก้าอี้ที่มีพนักพิงสูงและตรง และใส่เสื้อเกราะพยุงหลังตลอดเวลาที่นั่ง

4. กายภาพบำบัด (Physical Therapy)
* ช่วงแรก: มักจะยังไม่เริ่มทำกายภาพบำบัดที่เน้นการออกแรงในช่วงแรกของการบาดเจ็บ เพื่อไม่ให้เกิดแรงกดต่อกระดูก
* ช่วงฟื้นตัว: เมื่ออาการปวดลดลงและกระดูกเริ่มสมานตัวแล้ว กายภาพบำบัดมีความสำคัญมาก เพื่อช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core muscles) และกล้ามเนื้อรอบกระดูกสันหลัง เพื่อเป็นเกราะป้องกันและพยุงกระดูกสันหลังในระยะยาว

5. การติดตามผล (Follow-up)
* ผู้ป่วยต้องไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อ ประเมินอาการปวดและการถ่ายภาพรังสี (X-ray) เป็นระยะ เพื่อให้มั่นใจว่ากระดูกกำลังสมานตัวและมุมโก่งงอ (Kyphosis) ไม่ได้แย่ลง หากอาการทรุดลงหรือมุมโก่งงอเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แพทย์อาจจะต้องพิจารณาทางเลือกการผ่าตัดอีกครั้ง

โดยสรุปแล้ว แม้ว่าอาการปวดจะรุนแรง แต่การแตกยุบตัวที่ 20 องศาและไม่มีอาการทางระบบประสาท มักจะสามารถรักษาแบบไม่ผ่าตัดได้สำเร็จ โดยเน้นที่การจำกัดการเคลื่อนไหวด้วยเสื้อเกราะ การจัดการความปวด และการเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลตนเอง

👨‍⚕️✨การบาดเจ็บในเด็กเล็กครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่มักจะมีความกังวลสูง🩺 การบาดเจ็บกระดูกนิ้วมือในเด็กเล็ก (Phala...
12/11/2025

👨‍⚕️✨การบาดเจ็บในเด็กเล็กครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่มักจะมีความกังวลสูง

🩺 การบาดเจ็บกระดูกนิ้วมือในเด็กเล็ก (Phalangeal Fracture in Toddlers)
📌 ข้อมูลเบื้องต้นของเคส
* ผู้ป่วย: เด็กชาย/หญิง อายุประมาณ 1 ปีเศษ
* อาการ: มีอาการเจ็บและบวมที่นิ้วกลาง มาประมาณ 10 วัน

* ประวัติ: คุณแม่พาไปตรวจและเอกซเรย์จากโรงพยาบาลอื่น แต่ยังมีความไม่แน่ใจในผลการวินิจฉัยและการรักษาต่อเนื่อง

🔍 ผลการประเมินและการวินิจฉัย
จากการพิจารณาภาพเอกซเรย์ที่นำมาปรึกษา พบว่ามี ลักษณะของกระดูกหัก บริเวณนิ้วกลาง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่พบบ่อยในการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในเด็กวัยนี้
สิ่งที่น่าสนใจคือแม้จะผ่านมา 10 วันแล้ว แต่กระบวนการซ่อมแซมของร่างกายเด็กทำงานได้ดีมาก
* พบมีการสร้างกระดูกอ่อน (Callus Formation) และการเชื่อมต่อของกระดูก (Union) เริ่มต้นขึ้นแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่ากระดูกกำลังเข้าสู่กระบวนการสมานตัวเอง
* จากการตรวจร่างกาย: ยังคงมีการบวมอยู่บ้าง (Swelling) ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ยังคงมีอยู่ แม้กระดูกจะเริ่มเชื่อมแล้วก็ตาม

🩹 การดูแลรักษาในภาวะนี้
สำหรับกระดูกหักในเด็กเล็ก โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่มีการเคลื่อนที่ของกระดูกมากนัก หรือกระดูกเริ่มสมานกันเองแล้วตามธรรมชาติ การรักษาโดยการผ่าตัดมักจะไม่จำเป็นครับ
* การดูแลหลัก: เน้นการดูแลให้กระดูกที่กำลังสมานตัวนั้นอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม
* การรอคอยและการติดตาม (Watchful Waiting): ให้เวลาแก่ร่างกายในการซ่อมแซมตัวเอง ซึ่งในเด็กเล็กนั้น ศักยภาพในการสมานกระดูก (Healing Potential) นั้นสูงมาก และมักจะหายเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว
* ระยะเวลาการฟื้นตัว: โดยทั่วไปในเด็กวัยนี้ การสมานของกระดูกมักจะใช้เวลาไม่นาน ภายในไม่กี่สัปดาห์ กระดูกก็จะแข็งแรงและสามารถกลับมาใช้งานนิ้วมือได้อย่างสมบูรณ์
* สิ่งที่ต้องทำเพิ่มเติมในตอนนี้: คือการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และอาจมีการจำกัดการเคลื่อนไหว (Immobilization) ในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ตามความเหมาะสม เพื่อให้การสมานกระดูกเป็นไปอย่างราบรื่น และลดอาการบวม

🌟 สรุปและข้อคิด
กระดูกหักในเด็กเป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่ในหลายกรณีโดยเฉพาะกระดูกนิ้วมือ ร่างกายของเด็กมีความสามารถในการฟื้นฟูที่น่าทึ่งครับ
สิ่งที่สำคัญคือการวินิจฉัยที่ถูกต้อง และการให้การดูแลรักษาที่เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องรีบเร่งการรักษาด้วยวิธีการที่รุนแรง หากการสมานของกระดูกดำเนินไปในทิศทางที่ดี

คุณแม่ไม่ต้องกังวลจนเกินไปครับ เราจะติดตามอาการและประเมินพัฒนาการของการสมานกระดูกอย่างสม่ำเสมอ จนกว่าเด็กจะกลับมาใช้งานนิ้วมือได้ตามปกติครับ 🙏

#กระดูกหักในเด็ก #กระดูกนิ้วมือ #กุมารศัลยกรรมกระดูก #ศัลยกรรมกระดูก #คุณหมอให้ความรู้

ที่อยู่

Sukumvit
Pattaya
20150

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ หมอปุณ กระดูกและข้อผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง หมอปุณ กระดูกและข้อ:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram