11/02/2022
🥰เรื่องราว สาระดีๆ มีมาแบ่งปันกันค่ะ 😍
#คุณสมบัติของโยคี
ผู้ฝึกโยคะมาเป็นเวลานาน
1. นิ่ง เหมือนทิ้งสมอ
คำว่านิ่งไม่ได้หมายความว่า ขยับน้อย แต่หมายถึง #อารมณ์ที่นิ่ง หนักแน่น ไม่ไหลไปตามกระแสน้ำ
เปรียบเสมือนเรือที่มีสมอถ่วงตอนเทียบท่า มันจะไม่ไหลแบบไร้ทิศทาง
หากอารมณ์ไร้สมอถ่วง มันจะถูกลากจูงง่าย ถูกกระตุ้นจากภายนอกได้ง่าย เช่น #ถูกยั่วยุทางอารมณ์ ทำให้โกรธเกลียดง่าย
อย่างที่มีข่าวการเมือง จิตที่ไม่มีสมอถ่วง จะทำให้มีอารมณ์สุดโต่ง ซ้ายจัด ขวาจัด มีความคิดรุนแรง ก้าวร้าว ลงไม้ลงมือกับคนเห็นต่าง
ไม่ใช่เขาเป็นคนไม่ดี แต่เป็นเพราะ #ไม่มีตัวฉุดอารมณ์ให้อยู่ในความพอดิบพอดี
2. เป็นคนใจเย็น
คำขวัญที่ครูใช้ในคลาสเสมอคือ
#คนใจเย็นทำอะไรก็ง่ายไปหมด
เพราะคนใจเย็นจะไม่ค่อยมีความวิตกกังวล (หากมีมากจะเป็นวิตกจริต) #คนใจเย็นจะมองเห็นโอกาสมากกว่าเห็นปัญหา
คนใจเย็น เมื่อเห็น และพบเจอปัญหา จะเห็นเท่าที่มันเป็น จะไม่เห็นปัญหาใหญ่เกินจริง
ซึ่งถ้าเทียบกับคนใจร้อน จะขยายปัญหาให้ใหญ่ขึ้น ตีโพยตีพาย และหวาดกลัว ไม่กล้าตัดสินใจ ประหม่าง่าย
และเมื่อคิดทำสิ่งใด ก็จะเห็นว่า สิ่งนั้น #ยากเกินกว่าความเป็นจริง
#คนใจเย็นจะเป็นที่รัก ไม่ค่อยบ่น ไม่จู้จี้ จุกจิก รอคอยได้ ไม่ใช่สายวีน อาหารมาช้ารอได้ รออะไรนานได้
รถติดไม่โวยวาย ไม่เหวี่ยงวีน ไลน์แล้วเขายังไม่อ่านก็ไม่เสียอารมณ์ นี่คือเสน่ห์ของคนใจเย็น
3. ไม่ค่อยเหนื่อย
ตรงนี้มาจากการหายใจที่ลึก ยาว ทำให้ปอดได้รับออกซิเจนเต็มที่ ระบบการหายใจดี เลือดสูบฉีดไปทั่วร่างกาย
การหายใจเข้าออก แต่ละครั้ง มีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึง #ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเหนื่อยง่าย หายใจไม่อิ่ม
และผลจากการที่ไม่ค่อยเหนื่อยนี้เอง ทำให้ไม่เครียด และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อารมณ์ดี สดชื่น ตลอดทั้งวัน ไม่ค่อยอ่อนเพลีย มาจาการถูกฝึกให้นั่งในท่าที่สมดุล
#เน้นยืดตัวขึ้นขยายกล้ามเนื้อระหว่างซี่โครง ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง ช่วยให้ปอดทำงานได้ดี การหายใจแต่ละครั้ง มีประสิทธิภาพ หายใจลึกตลอดเวลา ไม่เหนื่อยง่าย
4. ระเบียบร่างกายดี บุคลิกดี
ผู้ที่ฝึกโยคะอย่างถูกวิธี จะมี #บุคลิกท่าทางที่สง่าผ่าเผย จะอกตั้งหลังตรง ไม่ยืนแอ่นหลัง แอ่นเข่า
ไม่เดินลากขา ไม่ไหลห่อ หลังค่อม เพราะการฝึกโยคะจะฝึกให้เรา รู้ตัวทั่วพร้อม #กายและจิตเป็นหนึ่งเดียว
การรู้ตัวทั่วพร้อม ทำให้รู้ตัวเวลานั่งไม่สบายตัวอย่างไร รู้สึกว่าคอตึง ก้มคอมากเกินไป แหงนคอมากเกินไป
จะรู้สึกได้ถึงแรงที่มากระทำต่อข้อต่อ ตั้งแต่คอ กระดูกสันหลัง ทำให้ส่งสัญญาณเตือนให้เราปรับเข้าสู่ท่วงท่าที่เหมาะสม ไม่นั่ง หลังงุ้มงอ
เมื่ออยู่ในท่าที่ไม่เหมาะสม จะรู้สึกได้ถึงความไม่ปกติ และจะเปลี่ยนท่าทางให้กลับสู่ปกติได้อย่างรวดเร็ว
5. Down to earth เรียบง่าย
#ผู้ที่ฝึกโยคะ อย่างถูกต้องจะมีวิถีคิดแบบโยคี คือ มีความเรียบง่าย ไม่ยึดติดแบรนด์เนม
อยู่ง่าย กินง่าย เพราะขณะฝึก เราจะโฟกัสที่ร่างกายและจิตใจ ซึ่งเป็นตัวแกนหลัง เป็นหัวใจสำคัญ #เป็นแก่นแท้ของชีวิต เราจะไม่ปล่อยให้จิตนั้น หลงใหลกับสิ่งเร้าภายนอก
ผู้ที่ฝึกถึงขั้นนี้ จะใช้เบาะโยคะยี่ห้อไหนก็ได้ ราคาเท่าไหร่ก็ได้ จะรับรู้ว่าเสื้อผ้าโยคะนั้นไม่มีจริง #ชุดอะไรก็ใส่ฝึกโยคะได้ จะรับรู้ได้ถึงความสมถะ ความสันโดษ
เมื่อไม่ยึดติดสินค้าแบรนด์เนม หรือการใช้จ่ายที่เกินกำลัง ตรงนี้ ไม่ใช่เพียงส่งผลดีต่อการใช้ชีวิตให้มีความสุขเรียบง่าย
ยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ไม่ทำให้มีหนี้สินพะรุงพะรังให้ต้องลำบากอีกด้วย
6. มีความอ่อนน้อม ถ่อมตน รู้บุญคุณ
ตรงนี้ได้มาจาก #การบูชาพระอาทิตย์ บทบูชาครูอาจารย์ ฝึกให้ระลึกถึงบุญคุณของดวงอาทิตย์ที่หล่อเลี้ยงทุกสรรพชีวิตบนผืนโลก
#บูชาในสิ่งที่ควรบูชา
ซึ่งการรู้จักบูชา (ในสมัยนี้หายากมาก) มันจะส่งผลดีต่อผู้บูชา คือ จะช่วย #ลดอัตตาความเป็นตัวตน ที่คิดว่าตัวกู ของกู กูยิ่งใหญ่ กูสำคัญกว่าใคร
หรือรู้สึกหลงว่าตนรู้ดีอยู่แล้ว เก่งอยู่แล้ว เป็นชาที่มีน้ำเต็มแก้ว ไม่มีโอกาสได้พัฒนาตนเองให้ดีกว่าเดิม
เมื่อเราบูชาสิ่งอื่น ทำให้ไม่รู้สึกว่าตัวเองยิ่งใหญ่เกินจริง ฝึกให้อ่อนน้อม และซาบซึ้งถึงสิ่งที่ให้คุณค่า อย่างดวงอาทิตย์ แม่น้ำ ธรรมชาติ ป่าเขา (เหมือนที่คนโบราณต้องขอขมาพระแม่คงคา)
ทำให้เรามีจิตใจอ่อนโยน และให้เกียรติผู้อื่น คนที่ให้เกียรติผู้อื่น จะทำให้อยู่ในสังคมได้อย่างเป็นที่รัก และมีความสุข
7. มีจิตใจสงบ
คนที่ฝึกโยคะ นอกจากฝึกให้หายใจลึกแล้ว ยังฝึกให้ #คลื่นสมองมีความถี่รอบต่ำ ทำให้รู้สึกสงบ ร่มเย็น สบาย
แม้อยู่ท่ามกลางปัญหาที่วุ่นวาย ก็จะมีความสงบ ไม่ขี้ตกใจ หรือทำให้แตกตื่นได้
โยคะจึงช่วยบรรเทาในผู้ป่วยแพนิก โรคประสาทวิตกกังวล โรคย้ำคิดย้ำทำ โรคในตระกูลโฟเบีย ไบโพลาร์ และโรคซึมเศร้า
8. มีสมาธิดี
อันนี้แน่นอน เพราในขณะฝึก ครูจะย้ำเสมอว่า อย่าส่งจิตออกนอก จิตและกายต้องเป็นหนึ่งเดียว การมีสมาธิดี ส่งผลให้ทำงานออกมาได้ดี
และยังมีชีวิตที่ปลอดภัย เช่น #ขับรถมีสมาธิ ใช้เรื่องจักร ของมีคมอย่างมีสมาธิ เดินขึ้นบันไดมีสมาธิ ไม่ค่อยหกล้ม ไม่ค่อยบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ และยังทำให้ #ไม่เสียทรัพย์จากการลืมข้าวของ อยู่บ่อย ๆ
9. มีสุขภาพกายดี
แน่นอนว่าการรู้ตัวทั่วพร้อมทำให้เราสามารถดูแลร่างกายได้อย่างถูกหลัก เช่น เรารู้ว่านั่งนาน หลังเริ่มรู้สึกตึงแข็ง เราก็จะเปลี่ยนท่าก่อนที่จะเข้าสู่ระยะปวด
การรู้ตัวทั่วพร้อมและมีสมาธิ ทำให้เรารู้ว่า ต้องกินข้าวแค่ไหนดี ไม่กินเยอะไป ไม่กินน้อยไป ดื่มน้ำแค่ไหนกำลังดี ไม่ปล่อยขาดน้ำ ไม่ดื่มน้ำเยอะเกินไปจนทำให้โซเดียมต่ำ
เมื่อรู้ตัวทั่วพร้อมทำให้รู้ว่า #เราต้องเคลื่อนไหวสม่ำเสมอ เป็นระยะ ๆ ให้เกิดการโคจรไหลเวียนดี ฟังร่างกายตัวเอง
#รู้ว่าเมื่อไหร่ควรกินเมื่อไหร่ควรเข้านอน องค์ประกอบทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้เรามีสุขภาพกายที่ดี
10. มีสุขภาพจิตดี
คนหายใจลึก ช้า แน่นอนอยู่แล้วว่านอกจากจะลดความดันโลหิตเลือดแล้ว ยังส่งผลให้จิตใจนั้น ผ่อนคลาย อ่อนโยน
ความนิ่ง การฝึกสมาธิ ทำให้เรา #ห่างไกลจากโรคทางอารมณ์หลายโรค อันได้แก่ โรคเครียดสะสม โรคประสาทวิตกกังวล โรคย้ำคิดย้ำทำ โรคแพนิก โรคในกลุ่มโฟเบีย โรคไบโพลาร์ และโรคซึมเศร้า
ที่กล่าวมาทั้งหมด นี้ การฝึกโยคะจะช่วยลดอาการได้มาก ถ้าหากเกิดจากสารเคมีในสมอง ก็จะช่วยให้สบายใจ สงบ ร่มเย็น #ลดอารมณ์เชิงลบ และช่วยให้การรักษาง่ายขึ้น
หากต้องกินยาจิตเวช ก็จะกินแค่ระยะสั้น ๆ สามารถจบการรักษา หายได้เร็วกว่าคนที่ไม่ได้ฝึกโยคะ และฝึกลมหายใจ
และนี่คือทั้งหมดของผู้ที่ฝึกโยคะอย่างถูกวิธี แสดงว่า หากเราฝึกโยคะมานานแล้ว เรายังไม่มีคุณสมบัติดังที่กล่าวมานี้ ยังคงอารมณ์เสียง่าย หงุดหงิดง่าย
เครียดง่าย ใจร้อน แสดงว่า เรายังฝึกโยคะไม่ถูกวิธี ให้ทำความเข้าใจโยคะเสียใหม่ แล้วเริ่มต้นใหม่ยังไม่สายจร้า
รักคนที่ทนอ่านค่ะ