คลินิกหมอขวัญสุดา

คลินิกหมอขวัญสุดา คลินิกเฉพาะทางสูตินรีเวชกรรม
- ฝากครรภ์ ทำคลอด โรคสตรี คลินิกอำเภอ พนัสนิคม : ฝากครรภ์ อัลตราซาว โรคสตรี
โดย สูตินรีแพทย์ประจำโรงพยาบาลพนัสนิคม

27/08/2025

จุทาทิพย์ บุญคีรี
ให้เบอร์ติดต่อไม่ได้
รบกวนติดต่อกลับ
/admin

20/08/2025

พัชรินทร์ จินดา
ให้เบอร์ติดต่อไม่ได้
รบกวนติดต่อกลับ
/admin

สุขสันต์วันแม่นะคะ  #เมื่อเป็นแม่คิดถึงเรานะคะปล.วันนี้ร้านเปิดปกติค่ะ
12/08/2025

สุขสันต์วันแม่นะคะ #เมื่อเป็นแม่คิดถึงเรานะคะ
ปล.วันนี้ร้านเปิดปกติค่ะ

28/07/2025

นิศาชล คำเนตร
ให้เบอร์ติดต่อไม่ได้
รบกวนติดต่อกลับ
/admin

คลินิกปิดทำการ วันพฤหัสที่10-เสาร์ที่12 กรกฎาคมและจะเปิดทำการปกติวันอาทิตย์ที่ 13 ขออภัยในความไม่สะดวก/ADMIN
03/07/2025

คลินิกปิดทำการ วันพฤหัสที่10-เสาร์ที่12 กรกฎาคม

และจะเปิดทำการปกติวันอาทิตย์ที่ 13
ขออภัยในความไม่สะดวก
/ADMIN

03/07/2025

อย่าทักว่าท้องเล็กเลยนะ… มันไม่ใช่คำทักที่แสดงความห่วงใยที่ดี

“เธอท้องเหรอ? ทำไมท้องเล็กจัง!”
“7 เดือนแล้วเหรอ? ไม่เห็นเหมือนเลย ตัวเล็กมาก!”

ประโยคเหล่านี้…ใครหลายคนอาจพูดด้วยความหวังดี หรือแค่พูดไปโดยไม่คิดอะไร
แต่รู้ไหม สำหรับแม่ท้องบางคน มันคือ ความเครียดที่ไม่ควรถูกฝากไว้เลยครับ

แม้ว่าคุณแม่จะไปฝากครรภ์สม่ำเสมอ ได้ยินเสียงหัวใจลูกชัด ขนาดมดลูกปกติ น้ำหนักลูกตามเกณฑ์ทุกครั้ง

แต่แค่คำว่า “ทำไมท้องเล็กจัง?” ก็อาจทำให้เธอกลับมาคิดมาก เครียด กังวลว่า

“ลูกเราไม่แข็งแรงรึเปล่า?”
“เราดูแลไม่ดีหรือเปล่า?”
“คนอื่นคิดว่าเราท้องไม่ปกติไหม?”

🧠 สิ่งที่คนท้องเจอ ไม่ได้อยู่แค่ในร่างกาย

แต่ยังรวมถึง ความกังวล ความคาดหวัง และคำพูดของคนรอบข้างแม้คำพูดจะดูธรรมดา แต่ในใจแม่บางคน มันกระทบลึกมากกว่าที่คิดครับ

💡 จริง ๆ แล้ว “ขนาดของท้อง” ไม่ใช่ตัวชี้วัดสุขภาพของลูก
• รูปร่างคุณแม่แต่ละคนต่างกัน
• ตำแหน่งมดลูกและทารกในครรภ์ก็มีผล
• แม่บางคนเป็นคนตัวเล็ก มีกล้ามหน้าท้องดี ทำให้ท้องดูไม่ป่อง
• หรือบางคนท้องแฝดก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องตัวใหญ่มาก

❤️ สิ่งที่แม่ท้องต้องการจากคนรอบข้าง

ไม่ใช่คำวินิจฉัยจากสายตา
แต่คือ คำถามที่ห่วงใย คำพูดที่เข้าใจ และความเคารพในร่างกายและความรู้สึกของเธอ

01/07/2025

*** สรุป วัคซีน RSV ในไทย ***

"Nirsevimab (Beyfortus)"

>> ไม่ใช่วัคซีน แต่เป็น "ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป" (passive immunity)

กลไกการทำงานคือการให้แอนติบอดีที่พร้อมใช้งานเข้าสู่ร่างกายโดยตรง แอนติบอดีนี้จะไปจับกับโปรตีน F (fusion protein) บนผิวของเชื้อไวรัส RSV

ป้องกันโรคในระบบทางเดินหายใจส่วนล่างที่เกิดจากการติดเชื้อ RSV
ในทารกแรกเกิดและทารกในช่วงฤดูกาลระบาดของ RSV
ควรให้ยาก่อนหรือในช่วงฤดูกาลระบาดของเชื้อ RSV
(มิถุนายนถึงตุลาคมในประเทศไทย)

สำหรับทารกที่เกิดในช่วงฤดูระบาด สามารถให้ยาได้ไม่นานหลังคลอด
(อายุ แรกเกิด ถึง 12เดือน และ หลัง12 เดือน-24เดือน ในกลุ่มเสี่ยง)

ฤดูกาลระบาดแรก (อายุ 0-12 เดือน):
เด็กสุขภาพดี: แนะนำให้ฉีดในทารกทุกรายที่มีอายุต่ำกว่า 8 เดือน
และอาจพิจารณาให้ในทารกอายุ 8-12 เดือน
**เด็กกลุ่มเสี่ยงสูง** : แนะนำอย่างยิ่งให้ฉีดในทารกกลุ่มเสี่ยงในขวบปีแรก

ฤดูกาลระบาดที่สอง (อายุ 12-24 เดือน):
**เด็กกลุ่มเสี่ยงสูง** : แนะนำให้ฉีดในเด็กอายุ 12-19 เดือนที่มีปัจจัยเสี่ยงสูง และอาจพิจารณาให้ในเด็กกลุ่มเสี่ยงอายุ 19-24 เดือน

(คำแนะนำนี้ แนวทางการให้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป Nirsevimab" จากราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย (รวกท.) เป็นหลัก)

ประสิทธิภาพ >>

ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ RSV ที่ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล
ได้ 79.5%

ลดความเสี่ยงของการนอนโรงพยาบาลจากการติดเชื้อ RSV
ในระบบทางเดินหายใจส่วนล่างได้ 83.2%

ลดความรุนแรงของโรคที่ต้องรักษาใน ICU และ/หรือ
ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจได้ 75.3%

ค่าใช้จ่ายของยาหนึ่งเข็ม (100 mg) มีราคาค่อนข้างสูง คือ
ประมาณ 17,000 - 19,000 บาท ต้องลองค้นหาเพิ่มเติมนะครับ
ส่วนเข็มที่ 2 กรณีเสี่ยงสูง ก็ฉีดไป 200 mg ราคาก็ คูณสอง ครับ

***********

"Abrysvo" (RSVpreF Bivalent Recombinant Vaccine)

สำหรับการป้องกันโรคทางเดินหายใจส่วนล่างที่เกิดจากเชื้อ RSV
ในผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป วัคซีนนี้ ยังมีข้อบ่งชี้คือใช้สำหรับผู้สูงอายุและใช้สำหรับหญิงตั้งครรภ์

ตัวนี้ขอเน้น "หญิงตั้งครรภ์" นั่นคือ
เมื่อแม่ ตั้งครรภ์ ได้รับวัคซีน ร่างกายของแม่จะสร้างแอนติบอดี ต่อเชื้อในระดับสูง ซึ่งแอนติบอดีเหล่านี้จะถูกส่งผ่านรกไปยังทารกในครรภ์

กระบวนการนี้ทำให้ทารกแรกเกิดมีภูมิคุ้มกันแบบรับมา (passive immunity) ในระดับสูงตั้งแต่วันแรกของชีวิต ซึ่งจะช่วยปกป้องทารกใน "ช่วง 2-3 เดือน" แรกอันเป็นช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงสูงสุดต่อการเกิดโรค RSV ที่รุนแรง

ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเพียงครั้งเดียว ระหว่างอายุครรภ์ 24 ถึง 36 สัปดาห์

ประสิทธิภาพ >>>
ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคทางเดินหายใจส่วนล่างจากเชื้อ RSV ที่มีความรุนแรงในทารกได้ถึง "81.8%" ในช่วง 90 วันแรกหลังคลอด

และประสิทธิภาพในการป้องกันโรครุนแรงอยู่ที่ 69.4% จนถึงอายุ 6 เดือน

ราคา >> ต้องศึกษาจาก รพ.ที่ให้บริการ

***********

"Arexvy" (Adjuvanted RSVPreF3 Recombinant Vaccine)

สำหรับการป้องกันโรคทางเดินหายใจส่วนล่างที่เกิดจาก
เชื้อ RSV ในผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป (ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงอายุ 50-59 ปี)

ฉีดเข้ากล้ามเนื้อขนาด 0.5 มิลลิลิตร เพียงครั้งเดียว

ประสิทธิภาพ >>
สามารถป้องกันโรคทางเดินหายใจส่วนล่างได้ประมาณ 82%
และป้องกันโรคที่รุนแรงได้ถึง 94%

ราคา >> ต้องศึกษาจาก รพ.ที่ให้บริการ

*******************************

ทั้ง 3 ชนิดที่เขียน ได้ผ่าน "อย.ไทย" "มีใช้จริง"
จะเห็นว่ามีเพียง 1 ชนิด ที่ให้ได้ในเด็ก อายุไม่เกิน 24 เดือน
นั่นคือ "Nirsevimab (Beyfortus)"

ส่วนอีก 2 ชนิด ไม่สามารถให้ในเด็กได้

คุณแม่ตั้งครรภ์อาจพิจารณา "Abrysvo" ช่วงอายุครรภ์ 24-36 สัปดาห์

ซึ่งการบริหารวัคซีนชนิดต่างๆ ดังกล่าว
ก็เป็นตามที่เขียนข้างต้น
คุณผู้ปกครอง "ต้องตัดสินใจด้วยตนเอง"
หลังได้รับข้อมูลอย่างรอบด้าน

#หมอจิรรุจน์

ปล. ที่เขียนนี้เป็นแค่ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น หากอยากรู้ข้อมูลเชิงลึกของวัคซีนแต่ละตัวต้อง สืบค้นกันเองเพิ่มเติม และสอบถามแพทย์ผู้ ให้วัคซีน ด้วยนะครับ

คลินิกปิดทำการ วันจันทร์ที2และอังคารที่3และจะเปิดทำการปกติวันพุธที่ 4 ขออภัยในความไม่สะดวก/ADMIN
28/05/2025

คลินิกปิดทำการ วันจันทร์ที2และอังคารที่3
และจะเปิดทำการปกติวันพุธที่ 4
ขออภัยในความไม่สะดวก
/ADMIN

26/05/2025

AYE MU SAN
ให้เบอร์ติดต่อไม่ได้
รบกวนติดต่อกลับ
/admin

15/05/2025

คุณ จิตรสุภา ทองมา
ให้เบอร์ติดต่อไม่ได้
รบกวนติดต่อกลับ
/admin

คลินิกปิดทำการ อาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568ขออภัยในความไม่สะดวก/ADMIN
30/04/2025

คลินิกปิดทำการ อาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568
ขออภัยในความไม่สะดวก
/ADMIN

25/04/2025

พาราเซตามอล (acetaminophen) น่าจะคือยาลดไข้และบรรเทาอาการปวดที่ใช้กันมากที่สุดในหญิงตั้งครรภ์ — แล้วมันปลอดภัยจริงไหม?

••••••••

เหตุผลที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ไม่ใช่แค่หาซื้อง่ายตามร้านสะดวกซื้อ แต่เพราะ

• ลดไข้ได้อย่างปลอดภัย และความจริงก็คือว่าถ้าปล่อยไข้ให้ขึ้นสูงอาจส่งผลร้ายต่อทารก

• บรรเทาอาการปวดระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น ปวดศีรษะ ปวดหลังได้ดี

• ไม่เพิ่มความเสี่ยงแท้งหรือปิดหลอดเลือดหัวใจทารกก่อนกำหนดเหมือนยา NSAIDs (เช่น ไอบูโพรเฟน) โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกินยา NSAIDS ช่วงสองเดือนท้ายของการท้อง

••••••••

แต่ไม่ใช่ว่าปลอดภัยโดยไม่ต้องคำนึงถึงอะไรเลยนะครับ ต้องกินตามขนาดที่แนะนำเท่านั้น

ขนาดยาที่แนะนำ (สำหรับหญิงตั้งครรภ์)

• 500–1,000 มก. ต่อครั้ง ทุก 4–6 ชั่วโมง เมื่อจำเป็น

• ต้องไม่เกิน 3,000–4,000 มก./วัน (ขึ้นกับน้ำหนักตัวและแนวทางปฏิบัติ)

• ให้ใช้ขนาดยาต่ำที่สุดเท่าที่ได้ผล และ ใช้ในช่วงเวลาสั้นที่สุด

••••••••••

#อย่าใช้ยาต่อเนื่องเด็ดขาด

“ใช้ต่อเนื่อง” หมายถึงอะไร?

• ใช้ทุกวันเป็นประจำ เกิน 2–4 สัปดาห์ โดยเฉพาะในขนาดสูง

• งานวิจัยบางชิ้นพบความเชื่อมโยงกับ ADHD และออทิซึม ในทารก ซึ่งมักเกิดในกรณีใช้เป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง

• ดังนั้นความเสี่ยงดูเหมือนจะ ขึ้นอยู่กับขนาดและระยะเวลา

••••••••

องค์กรชั้นนำว่ายังไง?

• ACOG (อเมริกา): ยังถือว่าใช้ได้ปลอดภัย ถ้าใช้อย่างเหมาะสม

• NHS (อังกฤษ): ปลอดภัยกว่ายา NSAIDS

• FDA (สหรัฐฯ): ยังไม่ห้ามใช้ แต่แนะนำให้ติดตามข้อมูลวิจัยต่อเนื่อง

• EMA และ ESMO (ยุโรป): แนวทางคล้ายกัน — ใช้ด้วยความระมัดระวังแต่ยังไม่ห้าม

••••••••

คำแนะนำสำหรับคุณแม่
• ใช้พาราเซตามอล เมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้นครับ

• ถ้าจำเป็นต้องใช้ต่อเนื่องหลายวัน ควรปรึกษาสูติแพทย์ก่อนเสมอเพื่อหาสาเหตุอื่นที่เจ็บป่วยไม่หาย

• หลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกับยาอื่นโดยไม่ได้รับคำแนะนำ

• อย่าใช้เกินขนาดที่กำหนดในแต่ละวัน

••••••••

ที่อยู่

29/18 ม. 11 ต. ไร่หลักทอง
Phanat Nikhom
20140

เวลาทำการ

จันทร์ 17:00 - 20:00
อังคาร 17:00 - 20:00
พุธ 17:00 - 20:00
พฤหัสบดี 17:00 - 20:00
อาทิตย์ 17:00 - 20:00

เบอร์โทรศัพท์

+66945528460

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ คลินิกหมอขวัญสุดาผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

ประเภท

); }) .always(function() { gettingMore = false; }); } map._clearMarkers = function() { markersLayer.clearLayers(); } }); }, 4000); });