Panaosod ปานะโอสถ รับผลิตและพัฒนา ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ตามมาตรฐานการผลิต
ISO 22000:2018, GMP Pic/s, HACCP และHalal

ปานะโอสถ กว่า 80 ปี แห่งความมุ่งมั่นในการพัฒนา และผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ตามมาตรฐานการผลิต ISO 9001:2015, GMP Pic/s, HACCP และHalal ภายใต้การรับรองของสำนักคณะกรรมการอาหารและยา หรือ (อย.) จากกระทรวงสาธารณสุข

"เราจะดูแลกัน"

เสด็จสู่สวรรคาลัย สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริห...
25/10/2025

เสด็จสู่สวรรคาลัย สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์

น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหารและพนักงาน
บริษัท ปานะโอสถ จำกัด

จริงไหม “สารสกัดไทย” มีศักยภาพสูงที่จะกลายเป็น สินค้าใหม่ของอนาคต เพราะหลายปัจจัยมาประกอบกัน ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโล...
30/09/2025

จริงไหม “สารสกัดไทย” มีศักยภาพสูงที่จะกลายเป็น สินค้าใหม่ของอนาคต เพราะหลายปัจจัยมาประกอบกัน ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และกระแสผู้บริโภคทั่วโลก ผมขอเล่าเป็นประเด็นชัด ๆ ดังนี้:

1. แนวโน้มตลาดโลก

ตลาด nutraceuticals, functional food, cosmeceuticals และ ยาใหม่จากสารธรรมชาติ กำลังโตอย่างต่อเนื่อง

ผู้บริโภคทั่วโลกหันมาเน้น ความปลอดภัย ความเป็นธรรมชาติ และคุณภาพชีวิต มากกว่าของสังเคราะห์ราคาถูก

ประเทศคู่แข่งอย่างจีน อินเดีย เวียดนาม ลงทุนด้าน สารสกัดพืชสมุนไพร หนักมาก ซึ่งสะท้อนว่าตลาดนี้อนาคตยาวไกล

2. จุดแข็งของไทย

ไทยเป็น ประเทศ biodiversity hotspot มีพืชสมุนไพรกว่า 1,800 ชนิด ที่ใช้ทางการแพทย์ได้

มีพืชเศรษฐกิจที่ทั้งโลกต้องการ เช่น กระชายดำ ขมิ้นชัน มะขามป้อม ลำไย ฟ้าทะลายโจร

ภาครัฐ-เอกชนเริ่มสนับสนุนให้เกิด API (Active Pharmaceutical Ingredients) และสิทธิบัตรจากสมุนไพรไทย

3. การวิจัยและเทคโนโลยี

สถาบันวิจัยไทย เช่น สภาบันวิจัยจุฬาภรณ์, ม.มหิดล, ม.เชียงใหม่ ทำวิจัยต่อยอดได้ระดับสากล

มีเทคโนโลยี extraction, purification, fermentation, nano delivery system ที่ทำให้สารสกัดไทยคุณภาพใกล้เคียงหรือเหนือกว่าต่างประเทศ

การยกระดับจาก “สมุนไพรพื้นบ้าน” → “สารสำคัญมาตรฐาน” → “API ยาระดับโลก” กำลังเป็นเส้นทางจริง

4. โอกาสในอนาคต

อุตสาหกรรมยา: ไทยสามารถพัฒนายาสามัญและยาชีววัตถุที่ใช้สารสกัดไทยเป็น API ลดการนำเข้า

เครื่องสำอางและสกินแคร์: ผู้บริโภคต่างชาติสนใจ “Thai Natural Extract” เพราะ exotic และมีงานวิจัยรองรับ

อาหารเสริมและ functional food: สารต้านอนุมูลอิสระจากผลไม้ไทย, สารต้านการอักเสบ, สารเสริมภูมิคุ้มกัน มีดีมานด์สูง

การส่งออก: หากสร้างแบรนด์ “Thai Extract = คุณภาพ + วิจัยจริง” จะเพิ่มมูลค่าได้มหาศาล

✅ ดังนั้น คำตอบคือ จริง — สารสกัดไทยคือสินค้าใหม่ที่กำลังจะเติบโตในอนาคต
แต่ปัจจัยสำคัญคือ มาตรฐาน คุณภาพ การวิจัย และการสร้างแบรนด์ ถ้าไทยทำได้ครบ เราจะไม่ใช่แค่ผู้ผลิต “วัตถุดิบ” ราคาถูก แต่เป็นผู้สร้าง “นวัตกรรมมูลค่าสูง” ที่โลกต้องการ

 #ปานะโอสถ : ฝันที่เป็นจริงของอุตสาหกรรมสารสกัดไทยจากวันวาน…ที่สมุนไพรเป็นเพียง “ยาพื้นบ้าน”วันนี้ ปานะโอสถ กำลังทำให้สิ...
30/09/2025

#ปานะโอสถ : ฝันที่เป็นจริงของอุตสาหกรรมสารสกัดไทย

จากวันวาน…ที่สมุนไพรเป็นเพียง “ยาพื้นบ้าน”
วันนี้ ปานะโอสถ กำลังทำให้สิ่งนั้นกลายเป็น นวัตกรรมสารสกัดที่ออกฤทธิ์ทางยา
ด้วยการจับมือกับนักวิจัยระดับประเทศ และใช้เทคโนโลยีการสกัดที่ล้ำสมัย

สิ่งที่เคยอยู่ในครัวเรือน
วันนี้ถูกแปรรูปเป็นสารสกัดมาตรฐานสากล
พร้อมเข้าสู่วงการแพทย์และอุตสาหกรรมยา

ไม่ใช่เพียงการต่อยอดเกษตร แต่คือการสร้าง เศรษฐกิจมูลค่าสูง
ให้เกษตรกรไทยได้เห็นผลผลิตของตนเองเดินทางไกล
จากไร่นา → สู่ห้องแล็บ → สู่โรงงานผลิต → ถึงมือแพทย์ และผู้ป่วยที่ต้องการการรักษา

#ปานะโอสถเชื่อว่า
“จากพื้นบ้าน สู่วงการแพทย์” ไม่ใช่แค่สโลแกน
แต่คือภารกิจที่จะยกระดับภูมิปัญญาไทยสู่โลกสากล

นี่คือฝันที่เรากำลังทำให้เป็นจริง—
เพื่อให้สมุนไพรไทยไม่ใช่เพียงของพื้นบ้าน
แต่กลายเป็น ขุมพลังการแพทย์ของอนาคต

พฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่เปลี่ยนไปมากจากอดีต1. คุณภาพมาก่อนราคาคนรุ่นใหม่จำนวนมากไม่ได้มองแค่ “ถูกที่สุด” อีกต่อไป แต่เน...
21/09/2025

พฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่เปลี่ยนไปมากจากอดีต

1. คุณภาพมาก่อนราคา

คนรุ่นใหม่จำนวนมากไม่ได้มองแค่ “ถูกที่สุด” อีกต่อไป แต่เน้น ความคุ้มค่า (Value for Money)

เขายอมจ่ายแพงขึ้น ถ้าเชื่อว่าได้สินค้าที่ดีจริง ใช้แล้วปลอดภัย หรือช่วยแก้ปัญหาได้จริง

2. ความโปร่งใสและความจริงใจ

แบรนด์ที่บอกเล่าแค่โฆษณาเกินจริง เริ่มถูกตั้งคำถาม

แต่ถ้าสินค้ามีคุณภาพ และกล้าบอกแหล่งที่มา มาตรฐานการผลิต คนรุ่นใหม่จะยอมจ่าย

3. คุณค่าที่มากกว่าสินค้า

ไม่ใช่แค่ใช้ได้ดี แต่ยังรวมถึง ความยั่งยืน (sustainability), จริยธรรม (ethics) และ เรื่องราว (storytelling)

เช่น ของกินที่ออร์แกนิก สกินแคร์ที่ไม่ทดลองกับสัตว์ หรือเสื้อผ้าที่เป็นแฟชั่นรักษ์โลก

4. ผลกระทบต่อธุรกิจ

แบรนด์ที่ยังแข่งแค่ราคา จะเหนื่อย เพราะตลาดออนไลน์และสินค้าจีนถูกๆ มีเต็มไปหมด

แต่ถ้าเน้นคุณภาพ และสร้างความน่าเชื่อถือ จะได้ลูกค้ากลุ่มที่ ซื้อซ้ำ + บอกต่อ

 #สารสกัดAPI (Active Pharmaceutical Ingredient)ความหมายAPI หรือ Active Pharmaceutical Ingredient คือ  #สารออกฤทธิ์ทางยา ...
19/09/2025

#สารสกัดAPI (Active Pharmaceutical Ingredient)

ความหมาย
API หรือ Active Pharmaceutical Ingredient คือ #สารออกฤทธิ์ทางยา ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพโดยตรงต่อร่างกายมนุษย์หรือสัตว์ ใช้เพื่อการรักษา ป้องกัน หรือวินิจฉัยโรค โดย API ถือเป็น “หัวใจของยา” เนื่องจากเป็นองค์ประกอบหลักที่ทำให้เกิดฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา

ในเชิงโครงสร้างผลิตภัณฑ์ยา 1 ชนิด ประกอบด้วย:
API = สารออกฤทธิ์หลัก
Excipients = สารประกอบเฉื่อยที่ช่วยพา API เข้าสู่ร่างกาย เช่น สารยึดเกาะ สารทำให้แตกตัว สารเคลือบเม็ดยา

ประเภทของ API
1. Synthetic APIs – สังเคราะห์ทางเคมีในห้องปฏิบัติการ เช่น Aspirin, Paracetamol

2. Biological APIs – ได้จากสิ่งมีชีวิต เช่น โปรตีน เปปไทด์ แอนติบอดี วัคซีน

3. Natural Extract-derived APIs – สกัดจากสมุนไพรหรือพืช เช่น
Andrographolide จาก ฟ้าทะลายโจร
Colchicine จาก ดอกลิลลี่ฤาษี
Ellagic acid / Corilagin จาก เมล็ดลำไย

กระบวนการผลิต API
1. การสกัด (Extraction) – ใช้ตัวทำละลายหรือเทคนิคแยกสารออกจากวัตถุดิบธรรมชาติ

2. การทำให้บริสุทธิ์ (Purification) – เช่น การตกผลึก (crystallization), HPLC, chromatography

3. การระบุและยืนยันโครงสร้าง (Characterization) – ใช้เทคนิค NMR, Mass spectrometry, IR, UV-Vis

4. การตรวจสอบคุณภาพ (Quality Control) – ต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากล เช่น GMP, ICH, FDA ครอบคลุมเรื่องความบริสุทธิ์ ปริมาณสารสำคัญ สารปนเปื้อน ความคงตัว

5. การขึ้นทะเบียนยา (Drug Registration) – ต้องมีข้อมูล CMC (Chemistry, Manufacturing and Control), Pre-clinical, Clinical trial เพื่อยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัย

#ความสำคัญในเชิงอุตสาหกรรม
ความมั่นคงทางยา (Drug Security) : ประเทศที่ผลิต API ได้เองจะลดการพึ่งพาการนำเข้า

#ความสามารถในการแข่งขัน : API เป็นสินค้ามูลค่าสูง สามารถส่งออกในรูปแบบสารบริสุทธิ์

การต่อยอดนวัตกรรม : API จากสมุนไพรไทยสามารถต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรมยา, เวชสำอาง และโภชนเภสัช (nutraceuticals)

ศักยภาพของไทย : ปัจจุบันมีงานวิจัยพัฒนา API จากสมุนไพรท้องถิ่น เช่น สารสกัดด้วยน้ำจากฟ้าทะลายโจร สารสกัดด้วยน้ำจากดอกลำไย ซึ่งกำลังเข้าสู่ขั้นตอนการพัฒนายา

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้
Paracetamol (acetaminophen) → API สำหรับบรรเทาปวด ลดไข้

Andrographolide จากฟ้าทะลายโจร → พัฒนาเป็น API ต้านไวรัส ไข้หวัด

Ellagic acid จากเมล็ดลำไย → ศึกษาเป็น API ต้านการอักเสบและมะเร็ง

📌 สรุป: สารสกัด API คือ “สารออกฤทธิ์บริสุทธิ์” ที่ผ่านกระบวนการสกัด แยก วิเคราะห์ และควบคุมคุณภาพในระดับอุตสาหกรรมยา เพื่อใช้เป็นตัวยาหลัก โดยมีบทบาทสำคัญต่อ ความมั่นคงทางยา นวัตกรรม และเศรษฐกิจสุขภาพ

#ปานะโอสถ
#ความร่วมมือการถ่ายทอดเทคโนโลยยีจากสถาบันวิจัย..
#สารสกัดด้วยน้ำจากฟ้าทะลายโจร
#สารสกัดด้วยน้ำจากดอกลำไย

 #โอกาสเติบโตของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในปัจจุบันถือว่าน่าสนใจมาก และมีปัจจัยสนับสนุนหลายด้านที่ทำให้ตลาดนี้ขยายตัวได้ต่อเน...
01/09/2025

#โอกาสเติบโตของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ในปัจจุบันถือว่าน่าสนใจมาก และมีปัจจัยสนับสนุนหลายด้านที่ทำให้ตลาดนี้ขยายตัวได้ต่อเนื่อง ผมสรุปให้เป็นหัวข้อหลักๆ ดังนี้ครับ:

1. ปัจจัยบวกที่สนับสนุนการเติบโต

เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่: คนใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ต้องการเสริมภูมิคุ้มกัน ชะลอวัย และดูแลรูปร่าง โดยเฉพาะหลังโควิด คนหันมาให้ความสำคัญกับการป้องกันโรค

สังคมสูงวัย (Aging Society): ประเทศไทยและทั่วโลกเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ความต้องการผลิตภัณฑ์บำรุงข้อ กระดูก สมอง และผิวพรรณจะเพิ่มสูงขึ้น

เทคโนโลยีการสกัดและนวัตกรรมใหม่: เช่น นาโนเอนแคปซูเลชัน (Nano-encapsulation), การใช้สารออกฤทธิ์จากสมุนไพรไทย (ฟ้าทะลายโจร, ลำไย, ขมิ้นชัน ฯลฯ) ที่ทำให้สินค้ามีจุดขายแตกต่าง

การส่งออก: ตลาดอาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และตะวันออกกลาง มีการเติบโตสูง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ผูกกับ "Herbal / Natural Extracts"

2. โอกาสทางการตลาด

เจาะกลุ่มเฉพาะ (Niche Market)
เช่น เสริมอาหารสำหรับผิวแพ้ง่าย, ผลิตภัณฑ์บำรุงสมองวัยทำงาน, วิตามินสำหรับคนดื่มกาแฟ/นอนดึก, หรือสูตรเฉพาะกลุ่ม 45+ ที่คุณเองเคยสนใจ

การสร้างแบรนด์ไทยที่มีสิทธิบัตร
หากสามารถสร้างจุดขายว่า "มาตรฐานสูง นวัตกรรมไทย สิทธิบัตรของคนไทย" จะช่วยยกระดับจากตลาดราคาถูกที่แข่งขันกันรุนแรง

Omni-channel Marketing
การขายผ่านออนไลน์, Live commerce, และแพลตฟอร์มสุขภาพ (เช่น Shopee Health, Lazada Wellness) ทำให้แบรนด์เล็กก็เข้าถึงลูกค้าได้กว้าง

3. ความท้าทาย

การแข่งขันสูง: ทั้งจากแบรนด์ไทยที่เน้นราคาถูก และแบรนด์ต่างประเทศที่เน้นพรีเมียม

กฎระเบียบ อย.: ต้องมีงานวิจัยและข้อมูลความปลอดภัยรองรับ ไม่เช่นนั้นจะถูกจัดเป็น “อวดอ้างเกินจริง” ได้ง่าย

ผู้บริโภคระวังมากขึ้น: หลังจากเคยมีข่าวฉลากไม่ตรงจริง, สินค้าไม่ได้มาตรฐาน จึงต้องสร้าง “Trust & Transparency” ให้ชัดเจน

4. ทิศทางที่น่าจับตา

Personalized Nutrition: ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ออกแบบเฉพาะบุคคล เช่น ผลตรวจ DNA, ผลตรวจสุขภาพ

Sustainability & Clean Label: ผู้บริโภคมองหาสินค้าที่มีแหล่งที่มาชัดเจน, ปลอดสารตกค้าง, บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Functional Beverages & Foods: ไม่ใช่แค่แคปซูลหรือผง แต่รวมถึงกาแฟ, ชา, น้ำผลไม้ที่ผสมสารสกัดออกฤทธิ์ทางชีวภาพ

👉 โดยรวม ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยัง เติบโตต่อเนื่องปีละ 5–8% ในไทย และมากกว่านี้ในเอเชีย โดยถ้าใครสามารถสร้าง “นวัตกรรม + ความน่าเชื่อถือ + การสื่อสารตรงใจ” ก็มีโอกาสก้าวขึ้นเป็นผู้นำได้ครับ

01/09/2025

✅ สรุปสิ่งที่ต้องรู้ก่อนทำสินค้า OEM

1. ตลาดและลูกค้าเป้าหมาย – ต้องรู้ว่าจะขายให้ใคร และเขาต้องการอะไร

2. กฎหมายและมาตรฐาน – อย., GMP, ISO ต้องถูกต้อง

3. โรงงานผู้ผลิต – เลือกที่น่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ และบริการครบ

4. สูตรและวัตถุดิบ – จะใช้สูตรโรงงานหรือพัฒนาของตัวเอง ต้องมีความปลอดภัยและงานวิจัยรองรับ

5. ต้นทุนและ MOQ – คำนวณต้นทุนต่อหน่วย, ปริมาณขั้นต่ำ, กำไรที่คาดหวัง

6. บรรจุภัณฑ์และดีไซน์ – ต้องสวย ตรงกลุ่มเป้าหมาย และข้อมูลครบตามกฎหมาย

7. การตลาดและช่องทางขาย – วางแผนโปรโมทให้ชัดเจน สร้างจุดขายแตกต่าง

8. ธุรกิจและแบรนด์ – จดทะเบียนบริษัท, เครื่องหมายการค้า เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

สั้น ๆ คือ:
รู้ตลาด → เลือกโรงงานที่ได้มาตรฐาน → คิดสูตรและต้นทุน → จัดการบรรจุภัณฑ์ → ทำการตลาด → สร้างแบรนด์ให้แข็งแรง

#ปานะโอสถ


/pics

 #รู้ไหม..ทำไมสินค้าคุณภาพของคนไทยถึงขายดีในต่างประเทศแต่ไม่โตในบ้านเรา?ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการไทยจำนวนไม่น...
16/08/2025

#รู้ไหม..ทำไมสินค้าคุณภาพของคนไทยถึงขายดีในต่างประเทศแต่ไม่โตในบ้านเรา?

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการไทยจำนวนไม่น้อยพัฒนาสินค้าให้มีมาตรฐานสูงขึ้น ทั้งด้านคุณภาพวัตถุดิบ การควบคุมกระบวนการผลิต และการออกแบบบรรจุภัณฑ์อย่างทันสมัย หลายรายได้มาตรฐานสากลทั้ง GMP, ISO ไปจนถึง Organic Certified และ Fair Trade เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในตลาดโลก

ผลลัพธ์คือ สินค้าไทยหลายชนิดได้รับการยอมรับในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องสำอาง สมุนไพร ผลไม้แปรรูป หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์สุขภาพ แต่คำถามคือ ทำไมในบ้านเราเอง สินค้าเหล่านี้กลับไม่ได้รับความนิยมในวงกว้างเหมือนในต่างแดน?

ปรากฏการณ์ “ของดีต้องไปขายเมืองนอก”

ภาพที่เราเห็นอยู่บ่อย ๆ คือ สินค้าไทยเกรดพรีเมียมถูกส่งออกไปขายในญี่ปุ่น ยุโรป หรืออเมริกา ในราคาที่สูงและผู้บริโภคยอมจ่าย ขณะที่สินค้าแบบเดียวกันวางขายในไทย กลับเจอลูกค้าต่อรองราคาอย่างหนัก หรือแทบไม่มีคนกล้าซื้อ

ในขณะเดียวกัน ตลาดในประเทศกลับเต็มไปด้วยสินค้านำเข้าจากจีน ที่เข้ามาแข่งด้วย “ราคา” มากกว่าคุณภาพ คนจำนวนมากเลือกซื้อของถูก แม้จะรู้ว่าอาจไม่ได้มาตรฐานนักก็ตาม นี่จึงกลายเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการไทยที่อยากสร้างฐานลูกค้าในประเทศ

ทำไมคนไทยถึงเลือกของถูก?

1. พฤติกรรมผู้บริโภคเน้นราคามากกว่าคุณภาพ
สำหรับคนจำนวนมาก “ถูกกว่า” มักชนะ “ดีกว่า” โดยเฉพาะในสภาวะเศรษฐกิจตึงตัว

2. การตลาดของสินค้าคุณภาพยังไม่ชัดเจน
ผู้ประกอบการไทยจำนวนมากเก่งเรื่องการผลิต แต่ยังไม่เก่งเรื่องการเล่าเรื่องและสร้างแบรนด์ ลูกค้าเลยไม่เห็นความแตกต่างระหว่างของดีจริงกับของราคาถูก

3. ความเชื่อฝังใจว่า ‘ของนอกดีกว่า’
แม้สินค้าจะทำโดยคนไทย แต่ถ้าไม่มีแบรนด์หรือไม่ใช่สินค้านำเข้า ก็ถูกมองว่าคุณค่าน้อยกว่า

4. ขาดการให้ความรู้เรื่องมาตรฐานสินค้า
ลูกค้าส่วนหนึ่งยังไม่เข้าใจว่ามาตรฐานที่ผู้ประกอบการมี เช่น Organic, GMP หรือ ISO บ่งบอกถึงความปลอดภัยและคุณภาพที่เหนือกว่าของถูกอย่างไร

โอกาสที่ซ่อนอยู่
แม้จะดูเหมือนเป็นข้อเสีย แต่จริง ๆ แล้วนี่คือโอกาสใหญ่สำหรับผู้ประกอบการไทย

ตลาดต่างประเทศเปิดกว้างและยอมจ่ายแพงเพื่อคุณภาพ → ผู้ประกอบการที่ผลิตของดีจะมีพื้นที่ให้เติบโตเสมอ

ตลาดในประเทศเริ่มเปลี่ยน → คนไทยรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานและคนรักสุขภาพ เริ่มสนใจเรื่องความปลอดภัย คุณภาพ และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

สังคมออนไลน์ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูล → ลูกค้าสามารถตรวจสอบมาตรฐาน รีวิว และเรื่องราวของสินค้าได้ง่าย หากเรานำเสนอถูกวิธี ก็สามารถสร้างฐานลูกค้าในไทยได้

กลยุทธ์ “หาลูกค้า” สำหรับผู้ประกอบการไทย

1. เล่าเรื่องคุณภาพ (Storytelling)
อย่าขายแค่ “สินค้า” แต่ให้เล่าเรื่อง “ที่มา” เช่น วัตถุดิบปลูกโดยเกษตรอินทรีย์ที่ไม่ใช้สารเคมี การผลิตที่ควบคุมทุกขั้นตอน เรื่องราวเหล่านี้สร้างคุณค่าที่ของถูกทำไม่ได้

2. เจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market)
ไม่จำเป็นต้องแข่งกับสินค้าราคาถูกที่ขายกันทั่วไป แต่เลือกเจาะตลาดเฉพาะ เช่น คนรักสุขภาพ คนใส่ใจสิ่งแวดล้อม หรือผู้บริโภคที่ชอบสินค้าท้องถิ่นคุณภาพสูง

3. สร้างแบรนด์ให้แข็งแรง
แบรนด์คือ “เกราะป้องกันราคา” เมื่อคนเชื่อมั่นในแบรนด์ พวกเขาจะซื้อเพราะคุณค่า ไม่ใช่เพราะราคาถูกที่สุด

4. ใช้ช่องทางออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ
โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ E-commerce และ Marketplace สามารถเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศได้อย่างรวดเร็ว อย่าขายแค่สินค้า แต่ใช้คอนเทนต์ให้ความรู้ รีวิวจากผู้ใช้จริง และเนื้อหาเชิงคุณค่าเพื่อสร้างความเชื่อมั่น

5. สร้างความเชื่อมั่นผ่านมาตรฐานและรีวิว
แสดงให้ลูกค้าเห็นว่าได้มาตรฐานจริง มีใบรับรอง มีเสียงจากผู้บริโภคที่ใช้จริง นี่คือหลักฐานที่ของราคาถูกไม่สามารถลอกเลียนแบบ

บทสรุป
คนไทยมีศักยภาพผลิตสินค้าที่ดีไม่แพ้ชาติใด แต่ความท้าทายคือการทำให้คนไทยเอง “เห็นคุณค่า” ของสิ่งที่เราผลิต ไม่ใช่มองแค่ราคาป้าย การสร้างการรับรู้ (Awareness) การเล่าเรื่อง (Storytelling) และการสร้างแบรนด์ (Branding) จึงเป็นหัวใจสำคัญ

วันนี้แม้คนไทยจำนวนมากยังเลือกซื้อของถูก แต่แนวโน้มผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนไป ใครเริ่มสร้างแบรนด์และสื่อสารคุณค่าของสินค้าให้ชัดเจนตั้งแต่วันนี้ จะได้เปรียบในวันข้างหน้า เมื่อผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับคุณภาพและมาตรฐานมากกว่าราคา

ท้ายที่สุด การขายสินค้าไม่ได้อยู่ที่ว่า “ใครถูกกว่า” แต่จะอยู่ที่ว่า “ใครทำให้ลูกค้าเห็นคุณค่ามากกว่า”

#ปานะโอสถ

 #รู้ไหม..จุดอ่อนของการทำตลาดเครื่องสำอางไทยมีหลายด้าน ซึ่งบางข้อเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างและบางข้อเป็นเรื่องกลยุทธ์ของผู้ป...
09/08/2025

#รู้ไหม..จุดอ่อนของการทำตลาดเครื่องสำอางไทยมีหลายด้าน ซึ่งบางข้อเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างและบางข้อเป็นเรื่องกลยุทธ์ของผู้ประกอบการเอง ผมสรุปให้เป็นหัวข้อหลัก ๆ ดังนี้

1. ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของแบรนด์
แบรนด์ไทยหลายรายยังขาดการสร้างเอกลักษณ์ชัดเจน (Brand Identity)

มีภาพจำว่า “ของไทย = ราคาถูก คุณภาพกลาง” ทำให้ขายในตลาดพรีเมียมยาก
การโฆษณาเกินจริงหรือไม่โปร่งใสทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่มไม่มั่นใจ

2. การควบคุมคุณภาพและมาตรฐาน
ผู้ผลิตบางรายยังไม่ผ่านมาตรฐานสากล (GMP, ISO, HALAL, ECOCERT ฯลฯ)

การตรวจสอบคุณภาพไม่สม่ำเสมอ ทำให้สินค้าบางล็อตคุณภาพไม่คงที่
ปัญหาส่วนผสมปลอมปนหรือใช้สารต้องห้ามยังพบอยู่

3. การพึ่งพาการตลาดระยะสั้น
เน้นขายไวตามกระแส เช่น ผ่าน Influencer หรือไลฟ์สด โดยไม่สร้างฐานลูกค้าประจำ

ไม่ค่อยลงทุนใน R&D พัฒนาสูตรหรือเทคโนโลยีใหม่ ทำให้สินค้าขาดความแตกต่าง
ขาดกลยุทธ์ระยะยาวในการสร้างแบรนด์ให้เติบโตและอยู่รอด

4. ข้อจำกัดด้านการขยายตลาดต่างประเทศ
ขาดความรู้เรื่องกฎระเบียบในแต่ละประเทศ (เช่น อย. ต่างประเทศ, ภาษีนำเข้า, เอกสารรับรอง)
การสื่อสารภาษาและการออกแบบบรรจุภัณฑ์ไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคต่างชาติ

#ขาดพันธมิตรด้านการจัดจำหน่ายในตลาดเป้าหมาย

5. การแข่งขันรุนแรงในประเทศ
ตลาดในประเทศมีสินค้าหลากหลายเกินไป (อิ่มตัว) ทำให้ต้องตัดราคากันเอง

การเลียนแบบสูตรและบรรจุภัณฑ์เกิดขึ้นง่าย ขาดการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา

6. พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนเร็ว
ผู้บริโภคไทยเปลี่ยนตามกระแสโซเชียลอย่างรวดเร็ว ทำให้สินค้าที่ไม่อัปเดตหลุดตลาดง่าย

ให้ความสำคัญกับรีวิวและกระแสออนไลน์มากกว่าความภักดีต่อแบรนด์

🌿 #รู้ไหม.. สารออกฤทธิ์ทางยาจากพืช (Plant-based Active Ingredients)คือสารสำคัญที่ได้จาก พืช สมุนไพร หรือพืชพื้นบ้านซึ่งม...
30/07/2025

🌿 #รู้ไหม.. สารออกฤทธิ์ทางยาจากพืช (Plant-based Active Ingredients)

คือสารสำคัญที่ได้จาก พืช สมุนไพร หรือพืชพื้นบ้าน
ซึ่งมีฤทธิ์ต่อร่างกาย เช่น ต้านการอักเสบ ฆ่าเชื้อ ลดน้ำตาลในเลือด หรือบำรุงระบบต่างๆ
เป็นฐานสำคัญของการแพทย์แผนโบราณ และปัจจุบันยังใช้ในเวชสำอาง อาหารเสริม และยาร่วมสมัย

✅ ตัวอย่างสารออกฤทธิ์ทางยาจากพืช (ที่มีการศึกษาและใช้งานจริง)

#พืชที่พบสารออกฤทธิ์ทางยา
ฟ้าทะลายโจร แอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ต้านไวรัส เสริมภูมิคุ้มกัน ลดอักเสบ

ขมิ้นชัน เคอร์คูมิน (Curcumin) ต้านอนุมูลอิสระ ลดอักเสบ บำรุงตับ

กระชายขาว พินอสโตบิน (Pinostrobin) ต้านเชื้อไวรัส เสริมระบบทางเดินหายใจ

บัวบก ไตรเทอร์พีนอยด์ (Asiaticoside) สมานแผล บำรุงสมอง ต้านการอักเสบ

มะระขี้นก ชาแรนติน (Charantin) ลดน้ำตาลในเลือด

อบเชย ซินนามาลดีไฮด์
(Cinnamaldehyde) กระตุ้นการเผาผลาญ ลดระดับน้ำตาล

ถั่งเช่า คอร์ไดเซปิน (Cordycepin) เพิ่มภูมิคุ้มกัน เสริมสมรรถภาพ

✅ จุดเด่นของสารออกฤทธิ์จากพืช

มาจากธรรมชาติ ปลอดภัย (ถ้าใช้ในปริมาณที่เหมาะสม)

สามารถพัฒนาเป็นอาหารเสริม เวชสำอาง หรือยาแผนปัจจุบันได้

สกัดได้ทั้งแบบน้ำ (Water-based), แอลกอฮอล์, หรือแบบ Supercritical CO₂

❗ ต้องระวัง
บางสารอาจมีผลข้างเคียง ถ้าใช้เกินขนาด

คุณภาพสารสกัดขึ้นอยู่กับวิธีสกัด และวัตถุดิบ (สายพันธุ์ / อายุ / แหล่งปลูก)

ต้องควบคุมมาตรฐาน เช่น ปริมาณสารออกฤทธิ์ ความปลอดเชื้อ ฯลฯ

 #รู้ไหมการสกัดแบบ Supercritical Fluid Extraction (SFE) หรือที่เรียกทั่วไปว่า “การสกัดด้วยก๊าซในภาวะวิกฤตยวัฏภาค” เป็นเท...
30/07/2025

#รู้ไหมการสกัดแบบ Supercritical Fluid Extraction (SFE) หรือที่เรียกทั่วไปว่า “การสกัดด้วยก๊าซในภาวะวิกฤตยวัฏภาค” เป็นเทคนิคที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงมาก โดยเฉพาะในการสกัดสารสำคัญจากพืช สมุนไพร หรือวัตถุดิบธรรมชาติต่างๆ

✅ จุดเด่นของ การสกัดแบบ Supercritical

1. ใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂)
อยู่ในสภาวะที่เรียกว่า “Supercritical” (ระหว่างของเหลวและก๊าซ)
มีคุณสมบัติซึมผ่านวัตถุดิบได้เหมือนก๊าซ แต่สามารถละลายสารได้เหมือนของเหลว

2. สกัดได้สารที่บริสุทธิ์ ปลอดภัย
ไม่มีสารเคมีตกค้าง
ไม่มีการใช้แอลกอฮอล์หรือตัวทำละลาย
เหมาะกับผลิตภัณฑ์อาหาร ยา เวชสำอาง

3. อุณหภูมิต่ำ ไม่ทำลายสารออกฤทธิ์
รักษาคุณค่าทางชีวภาพของสารสกัดไว้ได้ดี เช่น กลิ่น สี สารต้านอนุมูลอิสระ

4. เลือกสกัดเฉพาะสารที่ต้องการได้
ปรับความดันและอุณหภูมิ เพื่อแยกสารสำคัญเฉพาะออกมา เช่น น้ำมันหอมระเหย, สารแคโรทีน, สารโพลีฟีนอล

5. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ก๊าซ CO₂ ที่ใช้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

ไม่มีของเสียพิษ

💡 เหมาะกับใคร?

#โรงงานผลิต
#สารสกัดพรีเมียม

ธุรกิจอาหารเสริม / สมุนไพร / เวชสำอาง
ผู้ต้องการ สารสกัดบริสุทธิ์ ปลอดภัย ระดับ Food Grade หรือ Pharma Grade

📌 สรุปสั้น:

> Supercritical CO₂ Extraction = การสกัดระดับสูง ที่บริสุทธิ์ ปลอดภัย และรักษาคุณภาพธรรมชาติได้ดีที่สุด

 #รู้ไหมการผลิตสารสกัดจากน้ำ (Water-Based Extraction)เพื่ออุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม และสุขภาพ✅ ปลอดภัย ไร้สารตกค้าง✅ ไ...
30/07/2025

#รู้ไหมการผลิตสารสกัดจากน้ำ (Water-Based Extraction)
เพื่ออุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม และสุขภาพ

✅ ปลอดภัย ไร้สารตกค้าง
✅ ไม่ใช้น้ำมัน ไม่ใช้แอลกอฮอล์
✅ คงคุณค่าธรรมชาติได้สูงสุด
✅ ได้มาตรฐานการผลิตระดับสากล (GMP / ISO / HACCP)

เรามุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมที่ "ปลอดภัย มีคุณภาพ และยั่งยืน"
เพื่อตอบโจทย์โลกยุคใหม่ ที่ผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้นทุกวัน

เราไม่ได้แค่ “ผลิต” สารสกัด
แต่เราสร้าง “คุณภาพ” ที่ตรวจสอบได้ และ “ความเชื่อมั่น” ที่จับต้องได้

> 🌱 จากธรรมชาติ...
ผ่านนวัตกรรม...
สู่ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ

#สารสกัดจากน้ำ #นวัตกรรมธรรมชาติ #ปลอดภัยไร้สารตกค้าง #โรงงานมาตรฐาน #บริษัทสารสกัด #ธุรกิจเพื่อสุขภาพ

ที่อยู่

Phanat Nikhom

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 17:00
อังคาร 09:00 - 17:00
พุธ 09:00 - 17:00
พฤหัสบดี 09:00 - 17:00
ศุกร์ 09:00 - 17:00

เบอร์โทรศัพท์

+66623137733

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Panaosodผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง Panaosod:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram

Our Story

บริษัท ปานะโอสถ จำกัด กว่า 80 ปี แห่งความมุ่งมั่นในการผลิตและจำหน่ายยาและอาหารเสริมจากสมุนไพรธรรมชาติให้ได้มาตรฐานสูงสุดจนเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและส่งออกต่างประเทศ ด้วยตำหรับยาสมุนไพรที่ได้รับการค้นคว้า วิจัย ทดลอง สั่งสมเป็นประสบการณ์อันยาวนานของหมอเพลิน อุชุวัฒน์ จากการปรุงยาแผนโบราณแบบดั้งเดิมจนกระทั่งเข้าสู่ระบบการผลิต ด้วยเครื่องจักรอันทันสมัย เพื่อตอบรับความต้องการของตลาดยุคใหม่ ในระบบการแพทย์แผนทางเลือก ที่เน้นคุณค่าของภูมิปัญญาไทยที่ใช้สมุนไพรจากธรรมชาติ บริษัท ปานะโอสถ จำกัด ผลิตยาที่ทันสมัยถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP Pic/s ขั้นสูง ภายใต้การรับรองของสำนักคณะกรรมการอาหารและยา หรือ (อย. ) จากกระทรวงสาธารณสุข ที่ให้การอนุมัติขึ้นทะเบียนยาแผนโบราณ และยาสามัญประจำบ้านกว่า 40 ตำหรับ ไว้บริการแก่ลูกค้าภายใต้ผลิตภัณฑ์ตราปานะ หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆของลูกค้าตามความต้องการ สะดวกในการพกพาและรับประทาน ตอบสนองต่อค่านิยมการบริโภคของคนรุ่นใหม่ บริษัท ปานะโอสถ จำกัด มุ่งมั่น จริงจัง ซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ ที่จะผลิตยาสมุนไพรธรรมชาติ ทุกกรัม ทุกเม็ด ทุกกล่อง ให้มีคุณภาพมาตรฐานสูงสุดในการบำรุงรักษาร่างกาย โดยปราศจากสารเคมีเจือปน มีความสะอาด ปลอดภัย ผ่านกรรมวิธีการฆ่าเชื้อด้วยรังสีแกรมม่า ตามหลักมาตรฐานสากล เพื่อเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค และผู้จัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ สนใจหรือต้องการข้อมูลโทร 087-5388484