ร้านแว่นตา พิษณุโลก by "Optica"

ร้านแว่นตา พิษณุโลก by "Optica" ตรวจวัดสายตา แก้ไขปัญหาสายตาโดยนักทัศนมาตรและจักษุแพทย์

สาเหตุที่อาจทำให้ใส่แว่นไม่ได้การใส่แว่นแล้วรู้สึกไม่สบายตา ปวดหัว หรือภาพบิดเบือน ทั้งที่วัดค่าสายตามาแล้ว อาจเกิดจากปั...
25/09/2025

สาเหตุที่อาจทำให้ใส่แว่นไม่ได้

การใส่แว่นแล้วรู้สึกไม่สบายตา ปวดหัว หรือภาพบิดเบือน ทั้งที่วัดค่าสายตามาแล้ว อาจเกิดจากปัจจัยเหล่านี้

• ค่าสายตาที่วัดมาไม่ถูกต้อง: การวัดค่าสายตาที่ผิดพลาดเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด อาจเกิดจากการวัดค่าสายตาไม่ละเอียดพอและไม่ได้ใช้ค่าสายตาที่เหมาะสม

• ค่าสายตาที่สูงเกินไป: ผู้ที่มีค่าสายตาสั้นหรือยาวมาก อาจรู้สึกไม่สบายตาเมื่อได้รับค่าสายตาที่ถูกต้อง 100% ตั้งแต่แรก สมองและดวงตาต้องใช้เวลาปรับตัว

• การมองเห็นสองตาที่ไม่สมดุล: ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ค่าสายตาเพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดจากดวงตาสองข้างทำงานร่วมกันไม่สมดุล (เช่น ตาเหล่แฝง) ทำให้เกิดอาการปวดตา ปวดหัว แม้จะใส่แว่นด้วยค่าสายตาที่ถูกต้องแล้ว

• การไม่ชินกับเลนส์: โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่เปลี่ยนค่าสายตามาก, เปลี่ยนชนิดเลนส์ (เช่น จากเลนส์ชั้นเดียวเป็นโปรเกรสซีฟ), หรือเปลี่ยนจากเลนส์หนาไปเป็นเลนส์ย่อบาง อาจใช้เวลาปรับตัว 1-2 สัปดาห์

• ตำแหน่งของเลนส์ไม่ถูกต้อง: แม้ค่าสายตาจะถูกต้อง แต่หากตำแหน่งของเลนส์ไม่ตรงกับกึ่งกลางรูม่านตา (PD), ไม่ได้ปรับมุมของกรอบแว่น หรือไม่ได้ปรับระยะห่างระหว่างเลนส์กับกระจกตา ก็อาจทำให้ภาพบิดเบือนได้

วิธีการแก้ไขและสิ่งที่ควรทำ

1. ให้เวลาปรับตัว: ลองใส่แว่นใหม่ในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ดวงตาและสมองได้มีโอกาสปรับตัว หากอาการดีขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจเป็นเพียงเรื่องของการปรับตัว

3. ตรวจซ้ำอย่างละเอียด: ผู้เชี่ยวชาญจะทำการตรวจวัดสายตาซ้ำอีกครั้ง เพื่อยืนยันว่าค่าสายตาถูกต้องหรือไม่ และอาจมีการทดสอบเพิ่มเติมในเรื่องการทำงานร่วมกันของดวงตาสองข้าง

4. ทดลองแก้ไข: หากพบว่าค่าสายตาถูกต้องแล้ว แต่ยังใส่ไม่ได้ อาจมีการลดค่าสายตาลงเล็กน้อยเพื่อความสบายตาในระยะแรก และนัดผู้ป่วยมาเปลี่ยนเป็นค่าที่ถูกต้องเมื่อปรับตัวได้แล้ว

5. ตรวจเช็กจุดประกอบแว่น: ผู้เชี่ยวชาญจะตรวจสอบว่าจุดศูนย์กลางของเลนส์ตรงกับรูม่านตาของคุณหรือไม่ และปรับดัดกรอบแว่นให้พอดีกับใบหน้าของคุณมากที่สุด

สิ่งสำคัญที่สุดคือการสื่อสารกับนักทัศนมาตรครับ อย่าปล่อยให้ปัญหานี้ค้างคาอยู่ หากคุณรู้สึกไม่สบายตาจากการใส่แว่นใหม่ การกลับไปปรึกษานักทัศนมาตรคือทางออกที่ดีที่สุดครับ

#ร้านแว่น #แว่นตา #แว่นเด็ก #แว่นตาพิษณุโลก #พิษณุโลก #ทัศนมาตร #แว่น #สายตา #วัดสายตา #ตัดแว่น #สายตายาวสูงวัย #สายตายาวตามอายุ #แว่นprogressive #แว่นออโต้ #แว่นสายตาสั้น #สายตาสั้น #ตรวจวัดสายตาแม่นยำ #เลนส์คุณภาพสูง #เลนส์สองชั้น #เลนส์บลู #เลนส์โปรเกรสซีฟ #เลนโปรเกรสซีฟ #เลนส์หลายระยะ

ร้านแว่นตาปิดทำการ 1 วัน ขออภัยในความไม่สะดวกครับ
24/09/2025

ร้านแว่นตาปิดทำการ 1 วัน ขออภัยในความไม่สะดวกครับ

หลายคนใช้เวลาอยู่กับสมาร์ทโฟนเฉลี่ยวันละ 4.5 ชั่วโมง หรือเช็กโทรศัพท์ถึง 144 ครั้งต่อวัน! แต่การใช้งานที่มากขนาดนี้ ทำให...
18/09/2025

หลายคนใช้เวลาอยู่กับสมาร์ทโฟนเฉลี่ยวันละ 4.5 ชั่วโมง หรือเช็กโทรศัพท์ถึง 144 ครั้งต่อวัน! แต่การใช้งานที่มากขนาดนี้ ทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า "ดิจิทัลอายสเตรน" (Digital Eye Strain) หรืออาการตาล้าจากหน้าจอ

บทความจาก All About Vision ได้สรุปผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นไว้ดังนี้ครับ:
https://www.allaboutvision.com/conditions/computer-vision-syndrome/digital-eye-strain/do-phones-damage-your-eyesight/

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับดวงตาของคุณ
• อาการตาล้า: เป็นอาการชั่วคราวที่พบบ่อยที่สุด เมื่อใช้สายตาเพ่งจอเป็นเวลานานๆ ทำให้เกิดอาการตาแห้ง ระคายเคือง ปวดศีรษะ และมองเห็นภาพเบลอได้ครับ

• ความเสี่ยงต่อตาแห้ง: เมื่อเราจดจ่ออยู่กับหน้าจอ เราจะกะพริบตาน้อยลง ทำให้ฟิล์มน้ำตาที่เคลือบดวงตาอยู่แห้งเร็วกว่าปกติ

• อาจเกี่ยวข้องกับภาวะสายตาสั้น: แม้จะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ยืนยันว่ามือถือทำให้สายตาเสียหายถาวร แต่การใช้หน้าจอมากเกินไปก็ถือเป็นปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะในเด็กและวัยรุ่น

5 วิธีง่ายๆ ที่ช่วยปกป้องดวงตาคุณจากสมาร์ทโฟน

1. ใช้กฎ 20-20-20: ทุกๆ 20 นาทีที่จ้องจอ ให้พักสายตา 20 วินาที โดยมองไปที่วัตถุที่อยู่ห่างออกไป 20 ฟุต (ประมาณ 6 เมตร)
2. กะพริบตาบ่อยๆ: ตั้งใจกะพริบตาให้บ่อยขึ้น เพื่อช่วยให้ดวงตาชุ่มชื้นตลอดเวลา
3. ปรับความสว่างหน้าจอ: ปรับความสว่างของหน้าจอให้พอดีกับสภาพแวดล้อม อย่าให้สว่างจ้าเกินไป
4. ลองใช้ตัวกรองแสงสีฟ้า (Blue Light Filter): ตัวกรองแสงสีฟ้าทั้งจากซอฟต์แวร์และเลนส์แว่นตา อาจช่วยลดความไม่สบายตาได้
5. หาเวลาพักสายตาจากจอ: ลองหาเวลาทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่ต้องใช้หน้าจอ เช่น อ่านหนังสือแบบเล่ม หรือเล่นเกมกระดาน

หากคุณมีอาการตาล้า หรืออาการที่เกี่ยวกับสายตาแล้วไม่ดีขึ้น ควรปรึกษานักทัศนมาตรหรือจักษุแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับคำแนะนำที่ถูกต้องครับ

#ร้านแว่น #แว่นตา #แว่นเด็ก #แว่นตาพิษณุโลก #พิษณุโลก #ทัศนมาตร #แว่น #สายตา #วัดสายตา #ตัดแว่น #สายตายาวสูงวัย #สายตายาวตามอายุ #แว่นprogressive #แว่นออโต้ #แว่นสายตาสั้น #สายตาสั้น #ตรวจวัดสายตาแม่นยำ #เลนส์คุณภาพสูง #เลนส์สองชั้น #เลนส์บลู #เลนส์โปรเกรสซีฟ #เลนโปรเกรสซีฟ #เลนส์หลายระยะ #ตามัว #แว่นควบคุมสายตาสั้น #ต้อกระจก

Emmetropia คือ ภาวะที่สายตาอยู่ในระดับปกติอย่างสมบูรณ์ ครับ หรือเรียกง่ายๆ ว่า "สายตาดีเยี่ยม" นั่นเองในภาวะนี้ แสงจากวั...
11/09/2025

Emmetropia คือ ภาวะที่สายตาอยู่ในระดับปกติอย่างสมบูรณ์ ครับ หรือเรียกง่ายๆ ว่า "สายตาดีเยี่ยม" นั่นเอง

ในภาวะนี้ แสงจากวัตถุที่อยู่ไกลมากๆ (ระยะอนันต์) จะถูกหักเหโดยกระจกตาและเลนส์แก้วตาได้อย่างพอดิบพอดี และไปรวมโฟกัสเป็นจุดเดียวบนจอประสาทตา (Retina) อย่างแม่นยำ ทำให้เกิดภาพที่คมชัดที่สุด โดยที่กล้ามเนื้อตาไม่ต้องทำงานหนักเพื่อปรับโฟกัสเลยแม้แต่น้อย

องค์ประกอบที่ทำให้เกิด Emmetropia
การที่ดวงตาจะอยู่ในภาวะ Emmetropia ได้นั้น จะต้องมีความสมดุลที่ลงตัวระหว่าง 3 องค์ประกอบหลัก:
1. ความยาวของลูกตา: ลูกตาต้องมีขนาดที่พอดี ไม่สั้นหรือยาวจนเกินไป
2. ความโค้งของกระจกตา: กระจกตาต้องมีความโค้งที่เหมาะสมในการรวมแสง
3. กำลังการหักเหของเลนส์แก้วตา: เลนส์แก้วตาต้องมีกำลังหักเหแสงที่ถูกต้อง
เมื่อทั้งสามอย่างนี้ทำงานร่วมกันอย่างสมบูรณ์แบบ ก็จะได้สายตาปกติที่สมบูรณ์แบบที่สุด

Emmetropia VS Ametropia
เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น เรามาดูความแตกต่างกับภาวะตรงข้ามกัน
• Emmetropia (สายตาปกติ): แสงรวมโฟกัส "บน" จอประสาทตาพอดี
• Ametropia (สายตาผิดปกติ): แสงรวมโฟกัส "ไม่ตรง" กับจอประสาทตา

ซึ่งได้แก่:
o สายตาสั้น (Myopia): แสงรวมโฟกัส "ก่อน" ถึงจอประสาทตา
o สายตายาว (Hyperopia): แสงรวมโฟกัส "เลย" จอประสาทตาไป
o สายตาเอียง (Astigmatism): แสงไม่สามารถรวมโฟกัสเป็นจุดเดียวได้

แล้วทำไม Emmetropia ถึงสำคัญ?
การมีภาวะ Emmetropia หมายถึงการที่คุณสามารถมองเห็นโลกได้อย่างชัดเจนและเป็นธรรมชาติที่สุดโดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ช่วยใดๆ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดในการดูแลสุขภาพสายตาของทุกคนครับ
หากใครมีภาวะสายตาผิดปกติ อย่าเพิ่งท้อนะครับ! ในปัจจุบันมีเลนส์แว่นตาและคอนแทคเลนส์ที่ทันสมัยมากมายที่ช่วยแก้ไขสายตาให้ใกล้เคียงกับ Emmetropia มากที่สุด ทำให้คุณกลับมามองเห็นได้ชัดเจนอีกครั้ง

#ร้านแว่น #แว่นตา #แว่นเด็ก #แว่นตาพิษณุโลก #พิษณุโลก #ทัศนมาตร #แว่น #สายตา #วัดสายตา #ตัดแว่น #สายตายาวสูงวัย #สายตายาวตามอายุ #แว่นprogressive #แว่นออโต้ #แว่นสายตาสั้น #สายตาสั้น #ตรวจวัดสายตาแม่นยำ #เลนส์คุณภาพสูง #เลนส์สองชั้น #เลนส์บลู #เลนส์โปรเกรสซีฟ #เลนโปรเกรสซีฟ #เลนส์หลายระยะ #ตามัว #แสงสีฟ้า #สุขภาพตา #แว่นทำงาน

ฝ้าหรือไอบนเลนส์แว่นตาเกิดจาก การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้นที่แตกต่างกันอย่างรวดเร็วเมื่อคุณอยู่ในที่ที่อากาศร้อน...
04/09/2025

ฝ้าหรือไอบนเลนส์แว่นตาเกิดจาก การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้นที่แตกต่างกันอย่างรวดเร็ว

เมื่อคุณอยู่ในที่ที่อากาศร้อนชื้น แล้วย้ายไปในที่ที่อากาศเย็น (เช่น เข้าห้องแอร์) ไอน้ำในอากาศรอบตัวจะไปเกาะบนผิวหน้าเลนส์ที่เย็นกว่า แล้วควบแน่นกลายเป็นละอองน้ำเล็กๆ ที่มองเห็นเป็นฝ้าขาวขุ่นนั่นเองครับ

อุณหภูมิที่แตกต่าง + ความชื้นในอากาศ = ฝ้าบนเลนส์

เคล็ดลับจัดการ "ฝ้า" บนเลนส์แว่นตา
1. รอให้ปรับอุณหภูมิ: วิธีที่ง่ายที่สุดคือปล่อยให้แว่นตาปรับอุณหภูมิให้เท่ากับอุณหภูมิห้องสักครู่ ฝ้าก็จะหายไปเอง

2. ใช้ผ้าเช็ดแว่นไมโครไฟเบอร์: หากต้องการให้ฝ้าหายไปเร็วขึ้น ให้ใช้ผ้าเช็ดแว่นไมโครไฟเบอร์ที่สะอาดและแห้งเช็ดเบาๆ ที่ผิวเลนส์ ห้ามใช้ชายเสื้อหรือกระดาษทิชชู เพราะอาจทำให้เลนส์เป็นรอยได้

3. ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี: หากเลนส์แว่นตาของคุณสกปรก ก็อาจเป็นสาเหตุให้ฝ้าเกาะตัวได้ง่ายขึ้น หมั่นล้างแว่นตาด้วยน้ำสะอาดและน้ำยาทำความสะอาดแว่นโดยเฉพาะ แล้วเช็ดให้แห้งเสมอ

4. ใช้สารป้องกันการเกิดฝ้า (Anti-Fog): มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นสเปรย์หรือผ้าเช็ดแว่นที่มีสารเคลือบป้องกันการเกิดฝ้าโดยเฉพาะ ช่วยลดการเกาะตัวของไอน้ำบนเลนส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทางออกที่เหนือกว่า: "เลนส์เคลือบสารป้องกันฝ้า"
สำหรับผู้ที่เจอปัญหาฝ้าบ่อยๆ และต้องการทางออกที่ถาวรและสะดวกสบายมากขึ้น ลองพิจารณาเลนส์ที่ มีการเคลือบสารป้องกันฝ้า (Anti-Fog Coating)

• คุณสมบัติ: สารเคลือบชนิดนี้จะช่วยลดแรงตึงผิวของน้ำ ทำให้ไอน้ำที่มาเกาะบนเลนส์ไม่จับตัวเป็นละอองฝ้า แต่จะกระจายตัวเป็นแผ่นฟิล์มบางๆ ที่มองเห็นได้ยาก ทำให้เลนส์ใสอยู่เสมอ

• ข้อดี: ไม่ต้องเสียเวลามานั่งเช็ดแว่นบ่อยๆ สะดวกสบาย เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ต้องเปลี่ยนสถานที่เข้า-ออกบ่อยๆ หรือผู้ที่ใส่แว่นขณะทำกิจกรรมที่มีไอน้ำ เช่น ทำอาหาร ออกกำลังกาย หรือใส่หน้ากากอนามัย

ปัญหาเรื่องฝ้าบนเลนส์แว่นตาเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ครับ ลองเลือกวิธีที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณดูนะครับ! ถ้าสนใจเลนส์เคลือบสารป้องกันฝ้า ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้เลยครับ

#ร้านแว่น #แว่นตา #แว่นเด็ก #แว่นตาพิษณุโลก #พิษณุโลก #ทัศนมาตร #แว่น #สายตา #วัดสายตา #ตัดแว่น #สายตายาวสูงวัย #สายตายาวตามอายุ #แว่นprogressive #แว่นออโต้ #แว่นสายตาสั้น #สายตาสั้น #ตรวจวัดสายตาแม่นยำ #เลนส์คุณภาพสูง #เลนส์สองชั้น #เลนส์บลู #เลนส์โปรเกรสซีฟ #เลนโปรเกรสซีฟ #เลนส์หลายระยะ #ตามัว #แว่นควบคุมสายตาสั้น #แว่นกันฝ้า

กรอบแว่นเจาะ คืออะไร?กรอบแว่นเจาะ คือแว่นตาที่ ไม่มีขอบกรอบโลหะหรือพลาสติกมาล้อมรอบเลนส์ ครับ! เลนส์จะถูกเจาะรูเล็กๆ แล้...
28/08/2025

กรอบแว่นเจาะ คืออะไร?

กรอบแว่นเจาะ คือแว่นตาที่ ไม่มีขอบกรอบโลหะหรือพลาสติกมาล้อมรอบเลนส์ ครับ! เลนส์จะถูกเจาะรูเล็กๆ แล้วยึดติดโดยตรงกับขาแว่นและสะพานจมูก (ส่วนที่พาดบนจมูก) ด้วยน็อตหรือสกรู ทำให้ดูโปร่ง โล่งสบายตามากๆ

ทำไมหลายคนถึงหลงรักกรอบแว่นเจาะ?

1. เบาหวิว ใส่สบาย ☁️
o นี่คือข้อดีอันดับหนึ่งเลยครับ เพราะไม่มีน้ำหนักจากกรอบมาเพิ่ม ทำให้แว่นมีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ใส่ได้ตลอดวันโดยไม่รู้สึกหนักจมูกหรือกดทับใบหน้า เหมาะกับคนที่ต้องใส่แว่นนานๆ

2. ลุคสะอาดตา มินิมอล ดูดีมีระดับ
o ด้วยความที่ไร้ขอบ ทำให้แว่นดูกลมกลืนไปกับใบหน้า ไม่แย่งซีนเครื่องหน้าหรือทรงผม ดูเรียบหรู คลาสสิก เหมาะกับทุกสไตล์ และทุกรูปหน้า

3. มุมมองกว้างขวาง ไม่มีอะไรมาบัง!
o ไม่ต้องกังวลว่าขอบกรอบจะมาบดบังการมองเห็นด้านข้างอีกต่อไป ให้คุณมีลานสายตาที่กว้างและเป็นธรรมชาติ

4. โชว์ความสวยของเลนส์ย่อบาง 💎
o เหมาะมากกับเลนส์ย่อบาง (High-Index Lenses) ที่มีขอบบางอยู่แล้ว เมื่อใส่กับกรอบเจาะ ยิ่งทำให้แว่นดูบางเบา สวยงามยิ่งขึ้น

ข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ
• เรื่องความทนทาน: เนื่องจากเลนส์ถูกเจาะโดยตรง จึงอาจมีความเสี่ยงที่จะแตกบริเวณรูเจาะได้ง่ายกว่ากรอบที่มีขอบล้อมรอบ ดังนั้น เลนส์ที่ใช้กับกรอบเจาะมักจะต้องเป็นวัสดุที่ทนทานต่อแรงกระแทกสูง

• การดูแลรักษา: ควรใช้ความระมัดระวังในการใส่ ถอด หรือทำความสะอาดมากกว่าแว่นแบบมีกรอบ เพื่อป้องกันการคลายตัวของน็อตหรือความเสียหายที่จุดยึด

• ไม่เหมาะกับไลฟ์สไตล์สมบุกสมบัน: ถ้าคุณเป็นคนทำกิจกรรมหนักๆ หรือเสี่ยงต่อการกระแทกบ่อยๆ อาจจะต้องพิจารณากรอบแว่นแบบเต็มขอบที่ทนทานกว่า

หากคุณกำลังมองหาแว่นตาที่ให้ความรู้สึกเบาสบาย มีสไตล์ และดูดี กรอบแว่นเจาะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ลองปรึกษากับทางเราเพื่อเลือกกรอบและเลนส์ที่เหมาะสมกับคุณที่สุดดูนะครับ

#ร้านแว่น #แว่นตา #แว่นเด็ก #แว่นตาพิษณุโลก #พิษณุโลก #ทัศนมาตร #แว่น #สายตา #วัดสายตา #ตัดแว่น #สายตายาวสูงวัย #สายตายาวตามอายุ #แว่นprogressive #แว่นออโต้ #แว่นสายตาสั้น #สายตาสั้น #ตรวจวัดสายตาแม่นยำ #เลนส์คุณภาพสูง #เลนส์สองชั้น #เลนส์บลู #เลนส์โปรเกรสซีฟ #เลนโปรเกรสซีฟ #เลนส์หลายระยะ #ตามัว #แว่นควบคุมสายตาสั้น #ต้อกระจก

สัญญาณทั่วไปที่พบในผู้ใหญ่- มองเห็นไม่ชัดเจน หรือภาพพร่ามัว: โดยเฉพาะเมื่อมองในระยะไกล หรือมองใกล้- ต้องหรี่ตาบ่อยๆ: เพื...
21/08/2025

สัญญาณทั่วไปที่พบในผู้ใหญ่

- มองเห็นไม่ชัดเจน หรือภาพพร่ามัว: โดยเฉพาะเมื่อมองในระยะไกล หรือมองใกล้
- ต้องหรี่ตาบ่อยๆ: เพื่อพยายามมองให้ชัดขึ้น
- ตาล้า หรือปวดตา: โดยเฉพาะหลังจากทำกิจกรรมที่ต้องใช้สายตามากๆ เช่น อ่านหนังสือ หรือจ้องหน้าจอ คอมพิวเตอร์นานๆ
- ปวดศีรษะ: โดยเฉพาะหลังจากการใช้งานสายตาหนักๆ
- มองเห็นตอนกลางคืนลำบาก: หรือมีแสงฟุ้งกระจายรอบดวงไฟ
- จำหน้าคนจากระยะไกลไม่ได้: หรือมองเห็นภาพซ้อน
- ตาแฉะ หรือมีน้ำตาไหลบ่อยๆ

สัญญาณที่ควรสังเกตในเด็ก

- หรี่ตา หรือเอียงคอ/บังตาข้างเดียว: เมื่อพยายามมองอะไรบางอย่าง
- นั่งใกล้ทีวีมากเกินไป: หรือถือหน้าจอใกล้ๆ ตามากผิดปกติ
- ขยี้ตาบ่อยๆ
- บ่นปวดศีรษะ หรือปวดตา
- มีปัญหาในการเรียน: โดยเฉพาะวิชาที่ต้องอ่านหรือใช้สายตามากๆ

อาการเหล่านี้มักเกิดจากภาวะสายตาผิดปกติ (Refractive Errors) เช่น สายตาสั้น (Myopia), สายตายาว (Hyperopia), สายตาเอียง (Astigmatism) และสายตายาวตามวัย (Presbyopia)

ทำไมการตรวจสุขภาพตาเป็นสิ่งสำคัญ?

การตรวจสุขภาพตาเป็นประจำมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ใช่แค่เพื่อตัดแว่นเท่านั้น แต่ยังรวมถึง

- ตรวจหาและแก้ไขปัญหาสายตา: เพื่อให้การมองเห็นของคุณคมชัดและสบายตาที่สุด
- ตรวจคัดกรองโรคตา: เช่น ต้อหิน, ต้อกระจก, หรือโรคเบาหวานขึ้นจอประสาทตา ซึ่งบางโรคอาจไม่มีอาการในระยะแรก แต่หากตรวจพบเร็วก็จะรักษาได้ทันท่วงที

คำแนะนำ:
- ผู้ใหญ่: ควรตรวจสุขภาพตาปีละครั้ง
- เด็กเล็ก: ควรเริ่มตรวจสายตาตั้งแต่ 6-12 เดือน และตรวจต่อเนื่องตามคำแนะนำของจักษุแพทย์
- หากสังเกตเห็นอาการผิดปกติที่ดวงตา ควรปรึกษาจักษุแพทย์ หรือนักทัศนมาตรทันที!

อย่าปล่อยให้สัญญาณเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ผ่านไปนะครับ การดูแลสายตาตั้งแต่เนิ่นๆ คือการลงทุนเพื่อการมองเห็นที่ดีในระยะยาวของคุณครับ

#ร้านแว่น #แว่นตา #แว่นเด็ก #แว่นตาพิษณุโลก #พิษณุโลก #ทัศนมาตร #แว่น #สายตา #วัดสายตา #ตัดแว่น #สายตายาวสูงวัย #สายตายาวตามอายุ #แว่นprogressive #แว่นออโต้ #แว่นสายตาสั้น #สายตาสั้น #ตรวจวัดสายตาแม่นยำ #เลนส์คุณภาพสูง #เลนส์สองชั้น #เลนส์บลู #เลนส์โปรเกรสซีฟ #เลนโปรเกรสซีฟ #เลนส์หลายระยะ #ตามัว #แว่นควบคุมสายตาสั้น #ต้อกระจก

เปิดประสบการณ์ใหม่ของการมองเห็น ด้วย "เลนส์ VisuPro" ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์วัยทำงานโดยเฉพาะ!เราเข้าใจดีว่าในแต่ละวัน ดวงตา...
14/08/2025

เปิดประสบการณ์ใหม่ของการมองเห็น ด้วย "เลนส์ VisuPro" ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์วัยทำงานโดยเฉพาะ!

เราเข้าใจดีว่าในแต่ละวัน ดวงตาของคุณต้องรับมือกับกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ การอ่านเอกสาร การประชุม ไปจนถึงการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป VisuPro จึงถูกพัฒนาขึ้นมา 2 รุ่น เพื่อให้คุณเลือกสิ่งที่เหมาะกับคุณที่สุด:

1. VisuPro All day – เพื่อการมองเห็นที่สมบูรณ์แบบในทุกกิจกรรม
o ตอบโจทย์: ผู้ที่ต้องการความคมชัดและสบายตาในทุกๆ โซนการมองเห็น ตั้งแต่ระยะใกล้ ระยะกลาง ไปจนถึงระยะไกล

o คุณสมบัติเด่น:
 เทคโนโลยีล้ำหน้า: มอบการมองเห็นที่ดีที่สุดในทุกมุมมอง ไม่ว่าคุณจะทำกิจกรรมใด
 รองรับค่าสายตาหลากหลาย: ออกแบบมาเพื่อรองรับค่าสายตาที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคลได้อย่างลงตัว
o เหมาะสำหรับ: คนที่ใช้ชีวิตประจำวันหลากหลายรูปแบบ ต้องการเลนส์เดียวที่ครอบคลุมทุกการใช้งานอย่างราบรื่น

2. VisuPro Flex – เพื่อนแท้ของคนยุคดิจิทัล และสายใช้งานระยะใกล้-กลาง
o ตอบโจทย์: ผู้ที่เน้นการใช้งานระยะใกล้เป็นพิเศษ และใช้หน้าจอดิจิทัลตลอดวัน แต่ก็ยังต้องการการมองเห็นระยะกลาง-ไกลที่ชัดเจน

o คุณสมบัติเด่น:
 คมชัดเป็นพิเศษสำหรับระยะใกล้และหน้าจอ: มอบความสบายตาอย่างไม่มีใครเทียบเมื่อคุณต้องอ่านหนังสือ ทำงานกับเอกสาร หรือจ้องคอมพิวเตอร์และมือถือนานๆ
 ยังคงแก้ไขระยะกลาง-ไกล: แม้จะเน้นระยะใกล้ แต่ก็ยังคงความสามารถในการมองระยะกลางและไกล (ไม่ไกลมากเท่า All day) ได้อย่างชัดเจน
o เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ทำงานหน้าจอเป็นหลัก นักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่ต้องเพ่งระยะใกล้เป็นเวลานานๆ ในแต่ละวัน

#ร้านแว่น #แว่นตา #แว่นเด็ก #แว่นตาพิษณุโลก #พิษณุโลก #ทัศนมาตร #แว่น #สายตา #วัดสายตา #ตัดแว่น #สายตายาวสูงวัย #สายตายาวตามอายุ #แว่นprogressive #แว่นออโต้ #แว่นสายตาสั้น #สายตาสั้น #ตรวจวัดสายตาแม่นยำ #เลนส์คุณภาพสูง #เลนส์สองชั้น #เลนส์บลู #ต้อเนื้อ #เลนส์โปรเกรสซีฟ #เลนโปรเกรสซีฟ #เลนส์หลายระยะ #ตามัว #แสงสีฟ้า #สุขภาพตา

เลนส์ Office Lens คือเลนส์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับ การมองเห็นในระยะทำงาน ครับ โดยเฉพาะระยะใกล้ (เช่น อ่านหนังสือ, ใช้ม...
07/08/2025

เลนส์ Office Lens คือเลนส์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับ การมองเห็นในระยะทำงาน ครับ โดยเฉพาะระยะใกล้ (เช่น อ่านหนังสือ, ใช้มือถือ) และระยะกลาง (เช่น มองจอคอมพิวเตอร์, คุยกับเพื่อนร่วมงานฝั่งตรงข้ามโต๊ะ)

ลักษณะพิเศษ: เลนส์ชนิดนี้จะมีการไล่ระดับค่าสายตาจากระยะใกล้ไปยังระยะกลาง ทำให้มีช่วงการมองเห็นที่กว้างและสบายตากว่าเลนส์โปรเกรสซีฟทั่วไปในระยะทำงาน แต่จะไม่ครอบคลุมการมองเห็นระยะไกลมากๆ นะครับ

ประโยชน์ที่คุณจะได้รับจาก Office Lens

1. สบายตาในระยะทำงาน: คุณสามารถมองจอคอมพิวเตอร์ สลับไปอ่านเอกสาร หรือมองเพื่อนร่วมงานที่อยู่ใกล้ๆ ได้อย่างต่อเนื่องและสบายตา โดยไม่ต้องขยับศีรษะหรือถอดแว่นบ่อยๆ

2. ลดอาการตาล้าและปวดตา: ด้วยการออกแบบที่ลดภาระการเพ่งของกล้ามเนื้อตาในระยะกลางและใกล้ ทำให้ลดอาการปวดตา ปวดหัว และตาล้าจากการทำงานหน้าจอเป็นเวลานาน

3. ช่วงการมองเห็นระยะกลางที่กว้าง: แตกต่างจากเลนส์โปรเกรสซีฟที่ช่วงมองกลางอาจจะแคบ เลนส์ Office Lens มีช่วงการมองเห็นระยะกลางที่กว้างกว่า ทำให้ใช้งานในออฟฟิศ หรือห้องทำงานได้อย่างคล่องตัว

4. ปรับตัวง่ายกว่าโปรเกรสซีฟ: สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการใส่แว่นโปรเกรสซีฟ เลนส์ Office Lens อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะมีช่วงการมองที่จำเพาะเจาะจง ทำให้ปรับตัวได้ง่ายกว่า

Office Lens เหมาะสำหรับใคร?
• ผู้ที่ต้องทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานหลายชั่วโมงต่อวัน
• ผู้ที่ต้องมองสลับไปมาระหว่างเอกสาร จอคอมพิวเตอร์ และบุคคลในระยะใกล้ถึงกลาง
• ผู้ที่เริ่มมีปัญหาสายตายาวตามวัย (Presbyopia) และต้องการแว่นสำหรับใช้งานในออฟฟิศโดยเฉพาะ
• ผู้ที่รู้สึกตาล้า ปวดตา ปวดหัวจากการทำงานหน้าจอ
• ผู้ที่ต้องการทางเลือกที่สบายตาสำหรับระยะทำงาน มากกว่าแว่นอ่านหนังสือทั่วไป

ข้อควรทราบ: เลนส์ Office Lens ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการขับรถหรือมองระยะไกลมากๆ นะครับ หากคุณต้องการแว่นตาที่มองได้ทุกระยะจริงๆ เลนส์โปรเกรสซีฟยังคงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด

หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา (นักทัศนมาตร) เพื่อพิจารณาว่าเลนส์ Office Lens จะเป็นทางออกที่ใช่สำหรับไลฟ์สไตล์การทำงานของคุณหรือไม่นะครับ

#ร้านแว่น #แว่นตา #แว่นเด็ก #แว่นตาพิษณุโลก #พิษณุโลก #ทัศนมาตร #แว่น #สายตา #วัดสายตา #ตัดแว่น #สายตายาวสูงวัย #สายตายาวตามอายุ #แว่นprogressive #แว่นออโต้ #แว่นสายตาสั้น #สายตาสั้น #ตรวจวัดสายตาแม่นยำ #เลนส์คุณภาพสูง #เลนส์สองชั้น #เลนส์บลู #เลนส์โปรเกรสซีฟ #เลนโปรเกรสซีฟ #เลนส์หลายระยะ #ตามัว #แสงสีฟ้า #สุขภาพตา #แว่นทำงาน

ในปัจจุบัน การผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตา (Cataract Surgery) เป็นวิธีเดียวที่สามารถรักษาต้อกระจกให้หายขาดและทำให้การมองเห็น...
31/07/2025

ในปัจจุบัน การผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตา (Cataract Surgery) เป็นวิธีเดียวที่สามารถรักษาต้อกระจกให้หายขาดและทำให้การมองเห็นกลับมาดีขึ้นได้ครับ

• หลักการผ่าตัด: จักษุแพทย์จะใช้เทคนิคที่เรียกว่า Phacoemulsification (การสลายต้อด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง) โดยจะทำแผลขนาดเล็กมากที่กระจกตา สอดเครื่องมือเข้าไปสลายเลนส์ที่ขุ่นมัวให้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วดูดออกมา จากนั้นจะใส่ เลนส์แก้วตาเทียม (Intraocular Lens - IOL) ซึ่งทำจากวัสดุสังเคราะห์ที่เข้ากันได้กับร่างกาย เข้าไปแทนที่ในตำแหน่งเดิมของเลนส์ธรรมชาติ

• ประเภทของเลนส์แก้วตาเทียม: มีหลายชนิดให้เลือก เช่น

o Monofocal IOL: เลนส์ที่มองเห็นชัดเจนเพียงระยะเดียว (มักตั้งให้ชัดที่ระยะไกล) ผู้ป่วยอาจยังต้องใช้แว่นอ่านหนังสือ

o Multifocal IOL / Extended Depth of Focus (EDOF) IOL: เลนส์ที่ช่วยให้มองเห็นได้หลายระยะ (ไกล-กลาง-ใกล้) ลดการพึ่งพาแว่นตาหลังผ่าตัด

• ผลลัพธ์หลังผ่าตัด: ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะกลับมามองเห็นได้ชัดเจนขึ้นอย่างรวดเร็ว และใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้นมาก

การป้องกันและดูแลดวงตา
แม้ว่าต้อกระจกส่วนใหญ่จะเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้นและป้องกันได้ยากทั้งหมด แต่การดูแลดวงตาก็สามารถช่วยชะลอการเกิด หรือลดความรุนแรงของต้อกระจกได้:

• สวมแว่นกันแดดที่ได้มาตรฐาน: เลือกแว่นที่สามารถป้องกันรังสี UV-A และ UV-B ได้ 99-100% เมื่ออยู่กลางแจ้ง

• ควบคุมโรคประจำตัว: โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน ควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นผักผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น วิตามินซี, วิตามินอี, ลูทีน, ซีแซนทีน (พบมากในผักใบเขียวเข้ม ผลไม้สีส้ม/เหลือง)

• เลิกสูบบุหรี่และจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์

• ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ: โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรเข้ารับการตรวจตาอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อตรวจหาความผิดปกติและโรคตาต่างๆ ในระยะเริ่มต้น

หากคุณหรือคนใกล้ชิดเริ่มมีอาการที่สงสัยว่าเป็นต้อกระจก อย่าลังเลที่จะปรึกษาจักษุแพทย์นะครับ การตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้องและรับการรักษาที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสม จะช่วยรักษาสภาพการมองเห็นที่ดีไว้ได้ และคืนคุณภาพชีวิตให้คุณอีกครั้งครับ

#ร้านแว่น #แว่นตา #แว่นเด็ก #แว่นตาพิษณุโลก #พิษณุโลก #ทัศนมาตร #แว่น #สายตา #วัดสายตา #ตัดแว่น #สายตายาวสูงวัย #สายตายาวตามอายุ #แว่นprogressive #แว่นออโต้ #แว่นสายตาสั้น #สายตาสั้น #ตรวจวัดสายตาแม่นยำ #เลนส์คุณภาพสูง #เลนส์สองชั้น #เลนส์บลู #เลนส์โปรเกรสซีฟ #เลนโปรเกรสซีฟ #เลนส์หลายระยะ #ตามัว #แว่นควบคุมสายตาสั้น #ต้อกระจก

อาการและสัญญาณบ่งชี้ในโรคต่อกระจกอาการของต้อกระจกมักจะค่อยเป็นค่อยไปและไม่มีความเจ็บปวดในระยะแรกๆ แต่จะสังเกตเห็นการเปลี...
24/07/2025

อาการและสัญญาณบ่งชี้ในโรคต่อกระจก

อาการของต้อกระจกมักจะค่อยเป็นค่อยไปและไม่มีความเจ็บปวดในระยะแรกๆ แต่จะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของการมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปครับ

• การมองเห็นลดลง: เริ่มมองเห็นไม่ชัดเจน รู้สึกภาพมัวลงเรื่อยๆ เหมือนมีหมอกหรือควันมาบังตลอดเวลา

• แสงฟุ้ง / แสงจ้า: มีอาการแพ้แสง เห็นแสงจ้าเป็นวง หรือมีแสงฟุ้งกระจายรอบดวงไฟ โดยเฉพาะในเวลากลางคืน

• สีซีดจาง: การรับรู้สีสันผิดเพี้ยนไป ดูซีดจางลง ไม่สดใสเหมือนเดิม

• มองเห็นภาพซ้อน: ในบางรายอาจมีอาการเห็นภาพซ้อนในตาข้างเดียว

• การมองเห็นกลางคืนแย่ลง: มองเห็นได้ยากขึ้นในที่แสงน้อย หรือเวลากลางคืน โดยเฉพาะการขับรถ

• ค่าสายตาเปลี่ยนแปลงบ่อย: ต้องเปลี่ยนแว่นบ่อยขึ้นเนื่องจากค่าสายตาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติมนอกจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น
นอกจากอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักแล้ว ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่ทำให้เกิดต้อกระจกได้แก่

• รังสีอัลตราไวโอเลต (UV): การได้รับรังสี UV จากแสงแดดเป็นเวลานาน โดยไม่มีการป้องกันที่เหมาะสม (เช่น ไม่ใส่แว่นกันแดด) เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ

• โรคเบาหวาน: ผู้ป่วยเบาหวานมีแนวโน้มที่จะเกิดต้อกระจกเร็วขึ้นและรุนแรงกว่าคนทั่วไป

• การใช้ยาสเตียรอยด์: ทั้งชนิดกิน หยอด หรือพ่น เป็นเวลานาน อาจเป็นสาเหตุให้เกิดต้อกระจกชนิด Posterior Subcapsular ได้

• การได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา: การกระทบกระเทือน หรือการบาดเจ็บรุนแรงที่ดวงตา

• การอักเสบในลูกตา: เช่น โรคม่านตาอักเสบ

• การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์: เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจก

• ภาวะขาดสารอาหารบางชนิด: เช่น วิตามินอี

• ต้อกระจกแต่กำเนิด (Congenital Cataract): เกิดขึ้นตั้งแต่เด็กแรกเกิด ซึ่งอาจเกิดจากพันธุกรรม หรือการติดเชื้อบางชนิดขณะตั้งครรภ์ของมารดา

ไว้ครั้งหน้าผมทัศนมาตรจะมาให้ความรู้เรื่องต้อกระจกกันอีกสักนิดนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่ยังอ่านจนถึงตอนนี้ครับ ขอบคุณครับ

#ร้านแว่น #แว่นตา #แว่นเด็ก #แว่นตาพิษณุโลก #พิษณุโลก #ทัศนมาตร #แว่น #สายตา #วัดสายตา #ตัดแว่น #สายตายาวสูงวัย #สายตายาวตามอายุ #แว่นprogressive #แว่นออโต้ #แว่นสายตาสั้น #สายตาสั้น #ตรวจวัดสายตาแม่นยำ #เลนส์คุณภาพสูง #เลนส์สองชั้น #เลนส์บลู #เลนส์โปรเกรสซีฟ #เลนโปรเกรสซีฟ #เลนส์หลายระยะ #ตามัว #แว่นควบคุมสายตาสั้น #ต้อกระจก

ต้อกระจก คืออะไร? และแบ่งเป็นอะไรได้บ้างต้อกระจกคือภาวะที่ เลนส์แก้วตาธรรมชาติ ซึ่งปกติจะมีลักษณะโปร่งใสและยืดหยุ่น ทำหน...
17/07/2025

ต้อกระจก คืออะไร? และแบ่งเป็นอะไรได้บ้าง

ต้อกระจกคือภาวะที่ เลนส์แก้วตาธรรมชาติ ซึ่งปกติจะมีลักษณะโปร่งใสและยืดหยุ่น ทำหน้าที่รวมแสงให้ไปตกกระทบที่จอประสาทตา เมื่อเลนส์ขุ่นมัวไม่โปร่งแสงเหมือนเดิม สาเหตุหลักเกิดจากการเสื่อมสภาพของโปรตีนและน้ำในเลนส์แก้วตาที่จับตัวกันเป็นกลุ่มก้อน
เมื่อเลนส์ขุ่นมัว แสงก็จะผ่านเข้าไปถึงจอประสาทตาได้น้อยลงหรือถูกหักเหผิดเพี้ยนไป ทำให้ภาพที่มองเห็นไม่คมชัด คล้ายกับการมองผ่านม่านหมอก กระจกฝ้า หรือหน้าต่างที่สกปรกครับ

ประเภทของต้อกระจก (ตามตำแหน่งที่เกิดความขุ่นมัว)

ความขุ่นมัวของเลนส์แก้วตาอาจเกิดขึ้นได้หลายตำแหน่ง ซึ่งส่งผลต่ออาการและการดำเนินของโรคที่แตกต่างกันไป

1. ต้อกระจกที่เกิดที่แกนกลางเลนส์ (Nuclear Cataract):

o ลักษณะ: ความขุ่นมัวเกิดขึ้นที่ส่วนกลางของเลนส์
o อาการ: มักทำให้มองไกลแย่ลง แต่บางรายอาจรู้สึกว่ามองใกล้ชัดขึ้นได้ชั่วคราว (second sight) เพราะเลนส์ที่ขุ่นมัวอาจมีการเปลี่ยนแปลงกำลังหักเหของแสงคล้ายคนสายตาสั้น อาการแย่ลงเมื่อแสงจ้าหรือกลางวัน แต่กลางคืนอาจมองเห็นดีขึ้นเล็กน้อย (เพราะรูม่านตาขยาย แสงผ่านส่วนที่ไม่ขุ่นมากนัก)

2. ต้อกระจกที่เกิดที่เปลือกเลนส์ (Cortical Cataract):

o ลักษณะ: ความขุ่นมัวเริ่มจากขอบนอกของเลนส์ แล้วค่อยๆ ลามเข้ามาตรงกลาง คล้ายซี่ล้อรถ
o อาการ: มักทำให้มีแสงฟุ้งกระจาย (glare) หรือเห็นแสงจ้าเป็นวงรอบๆ ดวงไฟ โดยเฉพาะเวลากลางคืน หรือในที่มืด มักจะกระทบต่อการขับรถเวลากลางคืนมาก

3. ต้อกระจกที่เกิดที่ใต้เยื่อหุ้มเลนส์ด้านหลัง (Posterior Subcapsular Cataract):

o ลักษณะ: ความขุ่นมัวเกิดเป็นจุดเล็กๆ อยู่ใต้เยื่อหุ้มเลนส์ด้านหลัง มักจะอยู่บริเวณกึ่งกลางของแนวการมองเห็น
o อาการ: เป็นชนิดที่รบกวนการมองเห็นมากที่สุด แม้ต้อกระจกจะไม่ใหญ่มากก็ตาม โดยเฉพาะในที่สว่างจ้า หรือเวลาอ่านหนังสือ เพราะรูม่านตาจะหดตัว ทำให้แสงผ่านบริเวณที่ขุ่นโดยตรง มักพบในผู้ป่วยเบาหวาน หรือผู้ที่ใช้ยาสเตียรอยด์เป็นเวลานาน

ไว้ครั้งหน้าจะมาเพิ่มเติมความรู้เกี่ยวกับต้อกระจกให้อีกนะครับ หากสนใจตรวจวัดสายตา เช็คการมองเห็นสามารถสอบถามได้ทางแชทหรือเข้ามาที่ร้านเราได้เลยนะครับ

#ร้านแว่น #แว่นตา #แว่นเด็ก #แว่นตาพิษณุโลก #พิษณุโลก #ทัศนมาตร #แว่น #สายตา #วัดสายตา #ตัดแว่น #สายตายาวสูงวัย #สายตายาวตามอายุ #แว่นprogressive #แว่นออโต้ #แว่นสายตาสั้น #สายตาสั้น #ตรวจวัดสายตาแม่นยำ #เลนส์คุณภาพสูง #เลนส์สองชั้น #เลนส์บลู #เลนส์โปรเกรสซีฟ #เลนโปรเกรสซีฟ #เลนส์หลายระยะ #ตามัว #แว่นควบคุมสายตาสั้น #ต้อกระจก

ที่อยู่

โครงการต้นเงิน 261/65 ถ. บรมไตรโลกนารถ ต. ในเมือง
Phitsanulok
65000

เวลาทำการ

จันทร์ 08:15 - 17:00
อังคาร 08:15 - 17:00
พุธ 08:15 - 17:00
พฤหัสบดี 08:15 - 17:00
ศุกร์ 08:15 - 17:00
อาทิตย์ 08:15 - 17:00

เบอร์โทรศัพท์

+66640430307

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ ร้านแว่นตา พิษณุโลก by "Optica"ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง ร้านแว่นตา พิษณุโลก by "Optica":

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram