28/10/2025
ไข้กาฬหลังแอ่น เจอได้ไม่เยอะแต่อันตรายมาก เด็กๆ หลายคนมีโอกาสเสียชีวิต
สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ซึ่งปัจจุบันมีประสิทธิภาพสูงครับ
เมื่อไม่นานมานี้ ได้เขียนให้ข้อมูลเกี่ยวกับ 'ไข้กาฬหลังแอ่น' และ 'วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น' ไปแล้วว่าโรคมีความรุนแรงที่คาดเดาได้ยาก และอันตรายจนทำให้พิการและถึงแก่ชีวิตได้อย่างรวดเร็ว [1,2] โดยมีคุณพ่อคุณแม่สงสัยว่า โรคที่ร้ายแรงขนาดนี้ แบคทีเรียที่ก่อโรคมันอยู่ที่ไหน และติดโรคได้อย่างไร ... วันนี้มาขอขยายความ
ไข้กาฬหลังแอ่น (Meningococcal Disease) คือโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชื่อ ไนซีเรีย เมนิงไจทิดิส (𝘕𝘦𝘪𝘴𝘴𝘦𝘳𝘪𝘢 𝘮𝘦𝘯𝘪𝘯𝘨𝘪𝘵𝘪𝘥𝘪𝘴) หากอ้างอิงข้อมูลตาม CDC (ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค) สหรัฐอเมริการะบุว่า ไข้กาฬหลังแอ่นคือโรคที่มีความรุนแรง การติดเชื้อมีความรุนแรงสูงจนพิการและเสียชีวิตได้ [3,4]
ทุกคนสามารถเป็นโรคไข้กาฬหลังแอ่นได้ ย้ำว่า ทุกคนติดเชื้อได้ แต่มี 'กลุ่มเสี่ยง' บางกลุ่มที่จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเกิดอาการรุนแรงได้มากกว่า โดยเฉพาะเด็กทารก - 2 ปี (เสี่ยงที่สุด) [5], วัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้น (16-23 ปี) [6] ซึ่งวิธีป้องกันนอกจากการดูแลตัวเองให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำมูกน้ำลายของผู้ป่วยและลดการอยู่ในที่แออัดคนเยอะ หรือที่ที่มีการระบาดของโรคแล้ว [7] การรับวัคซีนป้องกันโรคไข้กาฬหลังแอ่นก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง [5]
สำหรับแบคทีเรีย 𝘕𝘦𝘪𝘴𝘴𝘦𝘳𝘪𝘢 𝘮𝘦𝘯𝘪𝘯𝘨𝘪𝘵𝘪𝘥𝘪𝘴 เป็นเชื้อที่พบได้ในช่องคอของมนุษย์ พบว่าคนปกติราว 1 ใน 10 พบเชื้อนี้อยู่ในช่องคอโดยเฉพาะวัยผู้ใหญ่ตอนต้นที่อาจมีเชื้อที่ช่องคอ แต่ไม่มีอาการ และสามารถแพร่เชื้อต่อให้คนรอบข้างและกลุ่มเสี่ยงได้ [8] ในประเทศไทยพบสายพันธุ์ B มากที่สุด [5]
อาการ - ไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ จากนั้นอาการจะค่อย ๆ รุนแรงขึ้น [2] สำหรับเด็ก* จะเริ่มงอแงมาก ร้องไห้ผิดปกติ กินไม่ได้ ซึมลง ภายใน 9-12 ชั่วโมง ต่อมาอาจติดเชื้อในกระแสเลือด [9,12] อาจมีจ้ำเลือดตามผิวหนัง และอาจมีสีดำคล้ำเพราะการขาดเลือด หากเกิดการขาดเลือดที่ปลายอวัยวะก็อาจต้องตัดแขน/ขาทิ้ง หรือบางรายทิ้งเป็นแผลเป็นได้ เชื้อแบคทีเรียอาจลุกลามเข้าสู่ระบบประสาทเกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ผู้ป่วยอาจเข้าสู่ภาวะช็อค ชัก การทำงานของอวัยวะล้มเหลว [2,4] และถึงแก่ชีวิตได้อย่างรวดเร็วใน 24 ชม. ได้เลย [1]
หากรอด ก็อาจกลายเป็นผู้พิการทางร่างกาย และ/หรือทางสมอง พัฒนาการล่าช้า ปัญหาทางพฤติกรรมและการเรียนรู้ เป็นโรคลมชักได้ [8,10]
การป้องกัน - หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่ง น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย/พาหะ [7] และการรับวัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น เพื่อลดความเสี่ยงที่ลูกจะติดเชื้อ จนอาจเสียชีวิต หรือพิการ สำหรับวัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน โดยบ้านไหนที่มีทารกและเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี สามารถรับวัคซีนเพื่อป้องกันได้ เพราะนี่คือกลุ่มที่เสี่ยงที่สุด และอาจขยายไปจนถึงช่วงวัยทารก - 5 ปี เพราะวัยอนุบาลเป็นวัยที่พบจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุด สำหรับเด็กโต/เด็กวัยรุ่นที่ไปเรียนต่างประเทศ (บางประเทศมีอัตราการติดเชื้อสูงกว่าไทยมาก) หรือเรียนโรงเรียนนานาชาติก็ยังเป็นอีกกลุ่มเสี่ยงที่สามารถป้องกันได้เช่นกัน [5,11]
ปัจจุบันสมาคมโรคติดเชื้อเด็กแห่งประเทศไทย ได้เพิ่มวัคซีนไข้กาฬหลังแอ่นเป็นหนึ่งในวัคชีนที่อาจให้เสริม ขยายอายุครอบคลุมถึง 18 ปี [5] อย่าให้ลูกของคุณต้องเป็นเคสรุนแรงถึงชีวิตรายถัดไป ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับโรคไข้กาฬหลังแอ่น วิธีป้องกัน และวัคซีน
*อายุ >1 ปี และ 1-4 ปี
#โรคไข้กาฬหลังแอ่น
#เพจเลี้ยงลูกตามใจหมอ
Non-Promotional Material | NP-TH-MNU-SMP-250021 | Sep 2025
เอกสารอ้างอิง :
1. Apicella, M. A., et al. (2025). Epidemiology of Neisseria meningitidis infection. In UpToDate. Wolters Kluwer
2. American Academy of Pediatrics. (2021). Red Book (32nd ed., pp. 519-532.)
3. CDC. (2024, February 1). About Meningococcal Disease. Retrieved September 9, 2025, from https://www.cdc.gov/meningococcal/about/index.html
4. Mbaeyi, S. A., et al. (2021). Meningococcal disease. In Epidemiology and prevention of vaccine-preventable diseases (14th ed.). CDC.
5. PIDST. (2025). Recommendations for meningococcal vaccination in Thai children and adolescents. PIDST
6. CDC. (2024, February 1). Risk Factors for Meningococcal Disease. Retrieved September 9, 2025, from https://www.cdc.gov/meningococcal/risk-factors/index.html
7. Department of Disease Control. (2023). Annual epidemiological surveillance report 2023 (pp. 26-30.)
8. Pace, D., et al. (2012). Meningococcal disease: Clinical presentation and sequelae. Vaccine, 30S, B3-9.
9. Thompson, M., et al. (2006). Clinical recognition of meningococcal disease in children and adolescents. Lancet, 367, 397-403.
10. Lucas, M. J., et al. (2016). Neurological sequelae of bacterial meningitis. Journal of Infection, 73(1), 18–87.
11. Memish, Z.A., et al. (2010). Invasive meningococcal disease and travel. Journal of infection and public health, 3, 143-151.
12. NHS. (2023, April). Meningococcal Disease - Don't Wait, Take Action - HE2417. Retrieved September 9, 2025, from https://healthed.govt.nz/products/meningococcal-disease-dont-wait-take-action