สถานที่ผลิตยาแผนโบราณ ขวัญเมืองโอสถ ( หมอชาลี ขวัญเมือง )

สถานที่ผลิตยาแผนโบราณ ขวัญเมืองโอสถ ( หมอชาลี   ขวัญเมือง ) -มีสมุนไพรจำหน่าย -รับตรวจวิเคราะห์?

27/10/2022

รายการคิดได้ไง ตอน ธาตุเจ้าเรือน ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย อ.ร้องกวาง จ.แพร่

27/04/2022

น้องวิรักษ์เป็นมะเร็งระยะที่ 4 เป็นมะเล็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งกินดูกสันหลังใส่ท่ออาหารทางสายยาง รอวันสิ้นใจอาการหนักมากนืกว่าไม่รอด มีคนแนะนำให้มาเอายารักษามะเร็งเต้านมทีหมอชาลี ขวัญเมือง หลังจากทานยาไป 6 ชุดอาการดีฃื้นจนหายปกติ วันนี้ 27 เมษายน 2565 จึงมารดน้ำดำหัวที่รักษาให้จนหาย

เคสผู้ป่วยล่าสุด,เป็นมะเร็งตับ,ไตเรื้อรัง,ลูกหมากโต,ลิ้นหัวใจรั่ว,ความดัน,เบาหวาน, ตอนนี้กำลังรักษาอยู่(ใครมีปัญหาสุขภาพ...
20/01/2022

เคสผู้ป่วยล่าสุด,เป็นมะเร็งตับ,ไตเรื้อรัง,ลูกหมากโต,ลิ้นหัวใจรั่ว,ความดัน,เบาหวาน, ตอนนี้กำลังรักษาอยู่
(ใครมีปัญหาสุขภาพสามรถติอต่อเบอร์หมอได้เลยนะครับ 0861966354)

ผู้ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายท้องมาน,ความดัน,ปอดอักเสบ,ทานยาไป32ชุด อาการหายเป็นปกติ(ใครมีปัญหาสุขภาพสามรถติอต่อเบอร์หมอไ...
20/01/2022

ผู้ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายท้องมาน,ความดัน,ปอดอักเสบ,ทานยาไป32ชุด อาการหายเป็นปกติ(ใครมีปัญหาสุขภาพสามรถติอต่อเบอร์หมอได้เลยนะครับ 0861966354)

แชมพูสมุนไพร โสภา ผลิตจากสมุนไพรแท้ๆ• ช่วยทำให้ผมนุ่มเนียน• หวีทรงง่าย• แก้อาการคันศรีษะเนื่องจากผิวหนังอักเสบ• ขจัดรังแ...
06/02/2020

แชมพูสมุนไพร โสภา ผลิตจากสมุนไพรแท้ๆ
• ช่วยทำให้ผมนุ่มเนียน
• หวีทรงง่าย
• แก้อาการคันศรีษะเนื่องจากผิวหนังอักเสบ
• ขจัดรังแค ทำให้ไข่เหาฝ่อ
• ป้องกันเส้นผมแตกปลายง่าย
(ขอบคุณออเดอร์ที่สั่งมานะครับใครสนใจสั่งได้นะครับ ขวดละ 100 บาท )

แซมพูสมุนไพร โสภา-ช่วยทำให้ผมนุ่มเนียนหวีเข้าทรงง่าย-แก้อาการคันศรีษะ เนื่องจากผิวหนังอักเสบ-ขจัดรังแค ทำให้ไข่เหาฝ่อ-ป้...
20/08/2019

แซมพูสมุนไพร โสภา
-ช่วยทำให้ผมนุ่มเนียนหวีเข้าทรงง่าย
-แก้อาการคันศรีษะ เนื่องจากผิวหนังอักเสบ
-ขจัดรังแค ทำให้ไข่เหาฝ่อ
-ป้องกันเส้นผมแตกปลาย
สอบถามได้ที่เบอร์ 0841436392

สรรพคุณของมะตูม1 ผลแก่แต่ไม่สุกใช้รับประทานเป็นยาบำรุงร่างกาย รักษาธาตุ บำรุงธาตุไฟ2 ผลสุกสามารถนำมาใช้เป็นยาระบายได้3 ช...
21/04/2019

สรรพคุณของมะตูม
1 ผลแก่แต่ไม่สุกใช้รับประทานเป็นยาบำรุงร่างกาย รักษาธาตุ บำรุงธาตุไฟ
2 ผลสุกสามารถนำมาใช้เป็นยาระบายได้
3 ช่วยรักษาอาการท้องร่วง ท้องเดิน โรคลำไส้
4 ใช้รักษาอาการท้องผูกเรื้อรังได้
5 ใบสดนำมาคั้นเอาน้ำ ใช้แก้หวัด
6 เปลือกรากและลำต้นจะช่วยแก้อาการไข้จับสั่น
แก้ลม แก้มูกเลือด
7 ช่วยรักษาอาการหลอดลมอักเสบ

ปอกะบิด ชื่อวิทยาศาสตร์ Helicteres isora L. จัดอยู่ในวงศ์ชบา (MALVACEAE) และวงศ์สำโรง (STERCULIACEAE) และอยู่ในวงศ์ย่อย ...
04/04/2019

ปอกะบิด ชื่อวิทยาศาสตร์ Helicteres isora L. จัดอยู่ในวงศ์ชบา (MALVACEAE) และวงศ์สำโรง (STERCULIACEAE) และอยู่ในวงศ์ย่อย HELICTEROIDEAE

สมุนไพรปอกะบิด มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ปอทับ (เชียงใหม่), มะบิด (ภาคเหนือ), ข้าวจี่ (ลาว), ปอบิด เป็นต้น ซึ่งในบ้านเราสามารถพบปอกะบิดได้ทั่วไปทางภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามป่าเบญจพรรณแล้ง ป่าเต็งรัง หรือที่รกร้างว่างเปล่า

ปอกะบิด เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 1-2 เมตร ลักษณะของลำต้นดูกลมเรียวอ่อนคล้ายเถา เปลือกนอกมีสีเทา และมีดอกปอกะบิด รวมไปถึงฝักปอกะบิดหรือส่วนของผลปอกะบิดจะเป็นฝักกลมบิดเป็นเกลียว มีความยาวประมาณ 2-3 นิ้ว ผลอ่อนมีสีเขียวเมื่อแก่จะเป็นสีดำแห้งด้าน และยังถือว่าเป็นพืชสมุนไพรที่สามารถรักษาโรคได้หลายชนิด

สมุนไพรปอกะบิดสรรพคุณปอกะบิดปอกะบิด สรรพคุณ
ประโยชน์ของปอกะบิด
ช่วยบำรุงกำลัง (แก่น)
ใช้เป็นยาบำรุงธาตุ ด้วยการใช้รากนำมาต้มเอาน้ำดื่ม หรือจะใช้เปลือกต้นนำมาต้มเป็นยารับประทาน (ราก,เปลือกต้น)
แก้อาการลงแดง ด้วยการใช้ผลแห้งประมาณ 10 กรัมนำมาต้มเอาน้ำดื่มแก้อาการ (ฝักแห้ง)
ช่วยแก้เสมหะ ด้วยการใช้รากนำมาต้มเอาน้ำดื่ม หรือจะใช้ผลแห้งประมาณ 10 กรัมนำมาต้มเอาน้ำดื่มแก้อาการ (ราก, แก่น, ผลแห้ง)
ช่วยแก้ธาตุพิการ (ราก, เปลือก)
ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ด้วยการใช้รากนำมาต้มเอาน้ำดื่ม (ราก)
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิต (ราก)
ช่วยรักษาโรคลำไส้ในเด็ก (ฝัก)
ช่วยบำรุงน้ำเหลือง แก้น้ำเหลืองเสีย (แก่น)
ช่วยแก้อาการปวดท้อง (ฝัก)
แก้โรคบิด ด้วยการใช้รากนำมาต้มเอาน้ำดื่ม หรือจะใช้เปลือกต้นนำมาต้มเป็นยารับประทาน (ราก, เปลือกต้น, ฝัก)
แก้อาการท้องร่วง ด้วยการใช้รากนำมาต้มเอาน้ำดื่ม หรือจะใช้เปลือกต้นนำมาต้มเป็นยารับประทาน (ราก, เปลือกต้น)
ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ด้วยการใช้ผลแห้งประมาณ 10 กรัมนำมาต้มเอาน้ำดื่มแก้อาการ (ฝักแห้ง)
ประโยชน์ปอกะบิดใช้เป็นยาฝาดสมาน (ฝัก)
ช่วยรักษาแผล อาการอักเสบเรื้อรังในกระเพาะอาหาร ด้วยการใช้ผลแห้งประมาณ 10 กรัมนำมาต้มเอาน้ำดื่มแก้อาการ (ฝักแห้ง)
ใช้แก้อาการปวดเคล็ดบวม ด้วยการใช้รากนำมาต้มเอาน้ำดื่ม หรือจะใช้ผลแห้งประมาณ 10 กรัมนำมาต้มเอาน้ำดื่มแก้อาการ (ราก, ฝักแห้ง)


สรรพคุณของปอกะบิด
ปล.สรรพคุณปอกะบิดในส่วนนี้เป็นของผู้จำหน่ายปอกะบิดเกลียวทอง ที่มีการกล่าวอ้างสรรพคุณต่าง ๆ แต่ยังไม่มีแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้มายืนยัน ควรใช้วิจารณญาณ

ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยรักษาโรคเบาหวาน
ช่วยลดความโลหิต
ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
มีส่วนในการช่วยลดน้ำหนัก
ช่วยรักษาอาการไมเกรน
ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้
ช่วยรักษาโรคไทรอยด์
ช่วยบำรุงตับและไต
ช่วยบรรเทาอาการของโรคไต
ช่วยป้องกันการเกิดและช่วยแก้โรคเหน็บชาตามปลายมือปลายเท้า
ปอกะบิดเกลียวทอง สรรพคุณช่วยแก้อาการนิ้วล็อก
ช่วยรักษาโรคเกาต์ อาการปวดข้อ ปวดหลัง ปวดเข่า
ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวระบบภายในมดลูกของสตรี
วิธีกินปอกะบิดเกลียวทอง ปอกะบิดอย่างแรกให้นำฝักปอกะบิดไปต้มในน้ำร้อน 25 ฝักต่อน้ำ 1.5 ลิตร ใช้เวลาต้มประมาณ 20 นาที แล้วเอาน้ำมาดื่มเป็นชา โดยดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น (ฝักปอกะบิดที่นำไปต้ม สามารถต้มได้ถึง 4 ครั้งหรือจนกว่าสีจะจางแล้วค่อยเปลี่ยน) สำหรับราคาที่มีจำหน่ายก็กิโลกรัมละประมาณ 500 บาทขึ้นไป

มีงานศึกษาวิจัยที่สรุปว่า สารสกัดจากผลปอกะบิดสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูทดลอง และช่วยป้องกันไม่ให้ระดับไขมันสูงขึ้นได้จริง แม้ว่าผลการทดลองจะสรุปว่ามันสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ แต่ก็ยังไม่เพียงที่จะระบุขนาดในการใช้ และยังไม่สามารถนำมาใช้ทดแทนยารักษาโรคเบาหวานได้จริง และจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องความเป็นพิษ ทั้งนี้มีสมุนไพรจำนวนไม่น้อยที่มีพบว่ามีความเป็นพิษต่อตับและไต หากขนาดการใช้ไม่ถูกต้องหรือเหมาสม ซึ่งในกรณีที่ยังไม่มีข้อมูลครบเช่นนี้ การนำมาใช้ก็อาจจะเป็นอันตรายต่อตับและไตได้

ดังนั้น ผู้ที่ใช้สมุนไพรชนิดนี้อยู่หรือผู้ที่คิดจะลองใช้ ควรตรวจภาวะการทำงานของตับและไตอย่างสม่ำเสมอทุก ๆ 3 เดือน และสำหรับผู้ที่มีประวัติหรือแม้แต่คนในครอบครัวเคยมีประวัติเป็นโรคตับและไตห้ามรับประทาน


แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, เว็บไซต์องค์การสวนพฤกษศาสตร์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, เว็บไซต์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ถ้าพูดถึงกระเจี๊ยบแดง หลายคนคงนึกไปถึงน้ำกระเจี๊ยบสีแดง ๆ รสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน ดื่มแล้วชื่นใจ แล้วเคยสงสัยถึงสรรพคุณกระ...
02/04/2019

ถ้าพูดถึงกระเจี๊ยบแดง หลายคนคงนึกไปถึงน้ำกระเจี๊ยบสีแดง ๆ รสชาติอมเปรี้ยวอมหวาน ดื่มแล้วชื่นใจ แล้วเคยสงสัยถึงสรรพคุณกระเจี๊ยบกันบ้างไหมคะว่า กระเจี๊ยบ สรรพคุณดีต่อสุขภาพยังไงบ้าง ถ้ายังไม่ทราบก็มารู้จักประโยชน์ของกระเจี๊ยบแดงกันเลย

กระเจี๊ยบ สมุนไพรไทยสีแดงแรงฤทธิ์

กระเจี๊ยบแดงมีชื่อทางวิทยาศาตร์ว่า Hibiscus sabdaiffa L. ชื่อภาษาอังกฤษของกระเจี๊ยบแดงคือ Jamaica sorrel หรือ Roselle ส่วนในบ้านเราเรียกกันทั้งกระเจี๊ยบแดง กระเจี๊ยบ กระเจี๊ยบเปรี้ยว ผักเก็งเค็ง ส้มเก็งเค็ง ส้มตะเลงเครง ส้มปู เป็นต้น

ถิ่นกำเนิดของกระเจี๊ยบแดงอยู่ในแถบแอฟริกาตะวันตก จากนั้นได้มีการนำกระเจี๊ยบแดงมาปลูกในประเทศแถบเส้นศูนย์สูตรทั่วไป ต้นกระเจี๊ยบจะชอบแดดจัดและจะเติบโตได้ดีในดินที่มีความชุ่มชื้นพอเหมาะ ดังนั้นกระเจี๊ยบจึงปลูกในบ้านเราได้สบาย ๆ กลายเป็นพืชสมุนไพรที่หาง่ายมาก ๆ

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของกระเจี๊ยบแดงจะเป็นไม้พุ่ม ความสูงของต้นประมาณ 1-2 เมตร กิ่งก้านของต้นมีสีม่วงแดง มีขนตามกิ่งและก้านรำไร ใบกระเจี๊ยบเป็นใบเดี่ยว รูปทรงไข่หรือรูปนิ้วมือ ขนาดใบกว้างกระมาณ 7-12 เซนติเมตร ยาว 8-15 เซนติเมตร ขอบใบจัก

ส่วนดอกกระเจี๊ยบมีสีเหลือง กลางดอกมีสีม่วงอมแดง ขนาดความดอกกว้างประมาณ 4-5 เซนติเมตร ดอกกระเจี๊ยบจะออกเดี่ยวหรือดอกคู่ตามซอกใบ ในดอกกระเจี๊ยบมีเกสรตัวผู้เชื่อมกันเป็นหลอด ผลเผ็นผลแห้ง แตกได้ มีกลีบเลี้ยงสีแดงฉ่ำน้ำหุ้มไว้

กระเจี๊ยบแดง

คุณค่าทางโภชนาการของกระเจี๊ยบแดง

ตารางแสดงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารไทยจากกองโภชนาการ กรมอนามัย แสดงคุณค่าทางโภชนการของใบกระเจี๊ยบในปริมาณ 100 กรัม ดังนี้

พลังงาน 48 กิโลแคลอรี

น้ำ 87.9 กรัม

โปรตีน 1.7 กรัม

ไขมัน 0.1 กรัม

คาร์โบไฮเดรต 10.1 กรัม

ไฟเบอร์ 1.3 กรัม

เถ้า 0.2 กรัม

แคลเซียม 9 มิลลิกรัม

ฟอสฟอรัส 4 มิลลิกรัม

เหล็ก 0.8 มิลลิกรัม

ไทอะมีน 0.11 มิลลิกรัม

ไรโบฟลาวิน 0.24 มิลลิกรัม

ไนอะซิน 4.5 มิลลิกรัม

วิตามินซี 44 มิลลิกรัม

กระเจี๊ยบแดง

สรรพคุณของกระเจี๊ยบแดง

คราวนี้เรามาดูสรรพคุณของกระเจี๊ยบแดงกันบ้างดีกว่า กระเจี๊ยบแดง สรรพคุณจะแรงฤทธิ์เหมือนสีที่แจ่มจรัสไหม ตามมาดูกันค่ะ

1. ลดไข้

ในกระเจี๊ยบมีสารพฤกษเคมีที่สำคัญ คือ สารต้านอนุมูลอิสระทั้งสารในกลุ่มฟีนอลิก สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ และสารในกลุ่มแอนโธไซยานิน ซึ่งจากข้อมูลทางวิชาการแสดงให้เห็นว่า สารพฤกษเคมีดังกล่าวมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ลดไข้ และต้านการอักเสบ นอกจากนี้วิตามินซีในกระเจี๊ยบยังมีส่วนช่วยเสริมความแข็งแรงให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายด้วยนะคะ

กระเจี๊ยบแดง

2. แก้ไอ ละลายเสมหะ

ในตำรับยาแผนโบราณพบว่าใบกระเจี๊ยบมีฤทธิ์แก้ไอ ละลายเสมหะ ขับเมือกมันในลำคอให้ไหลลงสู่ทวารหนัก ทั้งยังช่วยแก้โรคพยาธิตัวจี๊ดได้อีกต่างหาก

3. ขับปัสสาวะ

จากการศึกษาให้ผู้ป่วยดื่มน้ำสกัดกลีบเลี้ยงของกระเจี๊ยบแดง พบว่า กระเจี๊ยบแดงมีฤทธิ์ขับปัสสาวะได้ดี โดยในการทดลองได้ใช้กลีบเลี้ยงกระเจี๊ยบแดงตากแห้ง บดเป็นผง 3 กรัม ชงน้ำเดือด 1 ถ้วยแก้ว หรือประมาณ 300 มิลลิลิตร ให้ผู้ป่วยดื่มวันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 1 ปี ส่วนในตำราพื้นบ้าน แนะนำให้นำกลีบเลี้ยงของกระเจี๊ยบแดงมาชงกับน้ำร้อนดื่มเป็นยาขับปัสสาวะได้

4. แก้กระหาย ให้ร่างกายสดชื่น

กระเจี๊ยบแดง

ดอกกระเจี๊ยบมีรสเปรี้ยว เพราะมีวิตามินซี และกรดซิตริก จึงช่วยขับน้ำลายและแก้กระหาย โดยนำดอกกระเจี๊ยบตากแห้ง ต้มในน้ำเดือดเป็นน้ำกระเจี๊ยบหอมหวานชื่นใจ

5. รักษาแผลในกระเพาะอาหาร

ดอกกระเจี๊ยบมีสรรพคุณต้านการอักเสบ และมีสรรพคุณช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร หล่อลื่นลำไส้ และเป็นยาระบายอ่อน ๆ

6. ลดไขมันในเลือด

ส่วนเมล็ดของกระเจี๊ยบแดงมีสรรพคุณช่วยลดไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือด โดยนำเมล็ดกระเจี๊ยบตากแห้งมาบดให้เป็นผง จากนั้นนำมาชงกับน้ำร้อนหรือต้มน้ำดื่ม ช่วยลดไขมันในเลือด บำรุงเลือด ขับน้ำดี แก้ปัสสาวะขัด

- 10 สมุนไพรพื้นบ้านลดไขมันในเลือด อาหารเป็นยาคู่ครัวไทย

7. ป้องกันโรคหัวใจ

กระเจี๊ยบแดง

สารแอนโธไซยานินที่ทำให้กลีบเลี้ยงของดอกกระเจี๊ยบมีสีแดง เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยทำให้เลือดไม่หนืด ช่วยลดไขมันเลวในเส้นเลือด จึงป้องกันไม่ให้หลอดเลือดแข็งตัว ป้องกันหัวใจขาดเลือด และลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ โดยนิยมนำกระเจี๊ยบแดงไปต้มกับพุทราจีน เพื่อบำรุงหัวใจ

- น้ำกระเจี๊ยบพุทราจีน สองเพื่อนซี้คู่หูสมุนไพรคู่สุขภาพ

8. รักษาแผล

ใบของกระเจี๊ยบมีสรรพคุณในการต้านอาการอักเสบ จากตำรับยาแผนโบราณจะพบว่ามีการนำใบสดของกระเจี๊ยบแดง ล้างให้สะอาด และตำให้ละเอียด จากนั้นนำมาประคบฝีหรือต้มใบแล้วนำน้ำต้มใบมาล้างแผล ก็จะช่วยบรรเทาอาการแผลให้หายเร็วขึ้น นอกจากนี้ ใบยังมีวิตามินเอ สามารถทานบำรุงสายตาได้

9. ป้องกันโลหิตจาง

กระเจี๊ยบแดงมีธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญของฮีโมโกลบิน อีกทั้งความเป็นกรดของสารพฤกษเคมีในดอกกระเจี๊ยบแดงยังช่วยเพิ่มการดูดซึมและการกระจายแร่ธาตุต่าง ๆ ในร่างกาย ส่งผลให้กระเจี๊ยบแดงช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางได้

10. ลดน้ำตาลในเลือด

กระเจี๊ยบแดง

จากการศึกษากับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ได้รับชากระเจี๊ยบแดง 3 กรัม ชงกับน้ำร้อน 150 มิลลิลิตร ติดต่อกันเป็นเวลา 1 เดือน พบว่า ระดับน้ำตาลในเลือดของอาสาสมัครลดลงสูงสุดจาก 162.1 เป็น 112.5 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร จากกลไกทางชีวภาพของสารพฤกษเคมีที่ช่วยลดการย่อยและการดูดซึมน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวและโมเลกุลคู่ผ่านการยับยั้งเอนไซม์แอลฟา-อะไมเลส แลแอลฟา-กลูโคซิเดส

- 15 สมุนไพรรักษาเบาหวาน บำรุงสุขภาพก็ได้ ลดน้ำตาลก็ดีไม่เบา

11. ลดความดันโลหิต

จากการศึกษาทางคลินิกในอาสาสมัครที่มีความเสี่ยงภาวะความดันโลหิตสูง โดยให้อาสาสมัครดื่มชากระเจี๊ยบแดง 1.25 กรัม ชงกับน้ำร้อน 240 มิลลิลิตร วันละ 3 ครั้ง ติดต่อกันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ พบว่า ความดันโลหิตของอาสาสมัครลดลง 7.2 มิลลิเมตรปรอท (ขณะหัวใจบีบตัว) และ 3.1 มิลลิเมตรปรอท (ขณะหัวใจคลายตัว)

12. ปกป้องไต

การศึกษาในคลินิกที่ให้อาสาสมัครดื่มน้ำกระเจี๊ยบแดง 24 กรัมต่อวัน พบว่า สารพฤกษเคมีในกระเจี๊ยบแดงมีส่วนช่วยขับครีเอตินิน กรดยูริก ซิเตรต ทราเทรต แคลเซียม โพแทสเซียม และฟอสเฟต และในข้อมูลสัตว์ทดลองยังพบว่า กรดของสารพฤกษเคมีในดอกกระเจี๊ยบแดงขนาด 750 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม สามารถป้องกันและยับยั้งการพัฒนาของก้อนนิ่วได้ ทว่าผลการยับยั้งนิ่วในคนยังต้องศึกษากันต่อไป

13. ฆ่าเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ

มีการศึกษาที่ยืนยันว่า กระเจี๊ยบแดงมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ โดยสารในกระเจี๊ยบแดงจะทำให้ปัสสาวะเป็นกรดจึงช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะได้

กระเจี๊ยบแดง

ข้อควรระวังของกระเจี๊ยบแดง

โทษและความเป็นพิษของกระเจี๊ยบแดงก็มีเหมือนกันนะคะ โดยจากการศึกษาพบว่า สารสกัดดอกกระเจี๊ยบแดงในปริมาณที่มากเกินไปมีผลต่อการสร้างอสุจิและจำนวนอสุจิที่ลดลง จึงไม่ควรกินกระเจี๊ยบแดงในปริมาณมาก หรือติดต่อกันเป็นระยะเวลานานเกินไป

นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่มีการทำงานของไตบกพร่องก็ไม่ควรทานกระเจี๊ยบแดง รวมทั้งสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการกินกระเจี๊ยบแดงติดต่อกันเป็นเวลานานเช่นกันค่ะ เพราะผลการศึกษาในหนูทดลองพบว่า อาจทำให้ลูกหนูเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ช้าลง

ส่วนกระเจี๊ยบแดงที่ถูกใช้มากที่สุดก็เป็นกลีบเลี้ยงหรือที่หลายคนเข้าใจว่าเป็นส่วนดอกของกระเจี๊ยบนั่นเองค่ะ และนอกจากทำน้ำกระเจี๊ยบดื่มแก้กระหายแล้ว เรายังสามารถนำยอดและใบอ่อนของกระเจี๊ยบมาปรุงอาหาร หรือคั้นเอาสีแดงของกลีบดอกมาแต่งสีอาหารได้ด้วยนะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กองโภชนาการ กรมอนามัย, ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์, โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ, ศูนย์การศึกษาต่อเนื่องทางเภสัชศาสตร์, สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยบูรพา, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

สมุนไพรว่านชักมดลูก14 สรรพคุณของว่านชักมดลูก ประโยชน์ในการรักษาโรค1. ว่านชักมดลูกมีสรรพคุณช่วยรักษาอาการต่างๆ ของผู้หญิง...
01/04/2019

สมุนไพรว่านชักมดลูก
14 สรรพคุณของว่านชักมดลูก ประโยชน์ในการรักษาโรค
1. ว่านชักมดลูกมีสรรพคุณช่วยรักษาอาการต่างๆ ของผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นแก้อาการประจำเดือนมาไม่ปกติ บรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรงให้ดีขึ้น รวมถึงช่วยแก้อาการตกขาวได้

2. ประโยชน์ของว่านชักมดลูกช่วยรักษาอาการมดลูกทรุดตัวไม่เข้าที่ ทำให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น และกระชับช่องคลอดภายในของผู้หญิง กระชับหน้าท้องที่หย่อนคล้อยหลังคลอดลูก และยังทำให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้นด้วย

3. ว่านชักมดลูกมีฤทธิ์ช่วยรักษาซีสต์และเนื้องอกภายในช่องคลอด ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งในช่องคลอดหรือในมดลูกได้ และยังช่วยดับกลิ่นภายในช่องคลอดให้หายไป ช่วยเพิ่มน้ำหล่อลื่นในช่องคลอดของผู้หญิงได้

4. ว่านชักมดลูกมีประโยชน์ต่ออารมณ์ของผู้หญิงที่มักจะแปรปรวน อาทิ ฉุนเฉียวง่าย โกรธง่าย จิตใจหดหู่และอ่อนไหวง่ายให้หายไป ทำให้มีอารมณ์สดใส จิตใจเข้มแข็งขึ้น

5. สรรพคุณของว่านชักมดลูกทางด้านอารมณ์ทางเพศ โดยว่านชักมดลูกสามารถช่วยให้ผู้หญิงที่อารมณ์ทางเพศหายไปกลับมามีเช่นเดิม ทำให้อารมณ์ทางเพศสมบูรณ์

6. ว่านชักมดลูกมีสรรพคุณดูแลเต้านม โดยว่านชักมดลูกช่วยเสริมหรือขยายหน้าอกของผู้หญิง ช่วยให้เต่งตึง ไม่เหี่ยวย่น

7. ว่านชักมดลูกมีสรรพคุณดูแลผิวสวย โดยว่านชักมดลูกช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส มีเลือดฝาด และลบเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ ฝ้า รอยแผลเป็นให้หาย

8. ประโยชน์ของว่านชักมดลูกกับวัยทอง โดยว่านชักมดลูกมีฤทธิ์ช่วยแก้อาการผิดปกติต่างๆ ที่เกิดกับผู้หญิงในวัยทองได้ เช่น อาการร้อนวูบวาบ นอนไม่ค่อยหลับ ปวดหัวบ่อย มีอาการซึมเศร้า หลงลืมง่าย จอประสาทตาเสื่อมเร็ว ฯลฯ

9. ว่านชักมดลูกมีสารต้านอนุมูลอยู่มาก จึงช่วยป้องกันอนุมูลอิสระที่จะเข้าไปในร่างกายทำให้เซลล์ภายในเสื่อม และมีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบต่างๆ

10. ประโยชน์ของว่านชักมดลูกกับระบบเลือด ว่านชักมดลูกจะช่วยบำรุงหัวใจและซ่อมแซมระบบหลอดเลือด ช่วยให้เลือดแข็งตัวได้เร็ว และยังมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อของเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวได้

11. ว่านชักมดลูกมีคุณสมบัติช่วยดูแลตับและไต และมีส่วนสำคัญในการนำพาไขมันจากเนื้อเยื่อต่างๆ เข้าไปในตับ รวมทั้งช่วยทำให้ระบบการขับสารพิษทำงานดีขึ้น ลดการสร้างสารเคมีที่จะก่อให้เกิดพิษต่อร่างกาย

12. สรรพคุณของว่านหางจระเข้ช่วยบำรุงกระดูก โดยว่านชักมดลูกสามารถลดการสูญเสียของแคลเซียมได้ดี จึงช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน

13. ว่านชักมดลูกมีสรรพคุณทางยาที่ใช้แก้พิษเพราะอาหารไม่ย่อย ช่วยดับกลิ่นปากและกลิ่นตัว

14. ว่านชักมดลูกใช้บรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร และรักษาโรคไส้เลื่อนได้ (สามารถสอบถามเพิ่มเติมมาทางเพจได้นะครับ หรือ เบอร์ 0861966354)้

ที่อยู่

44 ม. 5 ต. ร้องเข็ม อ. ร้องกวาง
Prae
54140

เวลาทำการ

จันทร์ 08:00 - 18:00
อังคาร 08:00 - 18:00
พุธ 08:00 - 18:00
พฤหัสบดี 08:00 - 18:00
ศุกร์ 08:00 - 18:00
เสาร์ 08:00 - 18:00
อาทิตย์ 08:00 - 18:00

เบอร์โทรศัพท์

+66861966354

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สถานที่ผลิตยาแผนโบราณ ขวัญเมืองโอสถ ( หมอชาลี ขวัญเมือง )ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram