เภสัชในชุมชน " ข่วงยา "

เภสัชในชุมชน " ข่วงยา " ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก เภสัชในชุมชน " ข่วงยา ", Nan.

Favipiravir
24/03/2020

Favipiravir

สถานการณ์ COVID-19
12/03/2020

สถานการณ์ COVID-19

ผู้ร้ายตัวแรกก็โดน...ข้อหาเป็นต้นเหตุก่อโรค
15/07/2018

ผู้ร้ายตัวแรกก็โดน...ข้อหาเป็นต้นเหตุก่อโรค

เรียบร้อยฉบับราชกิจจานุเบกษา
ประกาศแบน“ไขมันทรานส์”
ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย
------------------------------------
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ 388 พ.ศ. 2561
เรื่อง กําหนดอาหารที่ห้ามผลิต นําเข้า หรือจําหน่าย
โดยปรากฏหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่า กรดไขมันทรานส์ (Trans Fatty Acids) จากน้ํามันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially Hydrogenated Oils) ส่งผลต่อการ เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง และมาตรา 6 (8) แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้น้ํามันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนและอาหารที่มีน้ํามันที่ผ่าน กระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนเป็นส่วนประกอบ เป็นอาหารที่ห้ามผลิต นําเข้า หรือจําหน่าย
ข้อ 2 ประกาศฉบับนี้ ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวัน นับแต่วันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๑
ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

----------------------
“ไขมันทรานส์” คือ
----------------------
ไขมันที่ผ่านกระบวนการเพิ่มอะตอมไฮโดรเจนเข้าไปในโมเลกุล ทำให้คุณสมบัติของไขมันเปลี่ยนแปลงไป โดยจะแข็งตัวมีทรงมากขึ้น มีการเปลี่ยนแปลง เสื่อมเสีย เหม็นหืนช้าลง ดังนั้นจึงทำให้ไขมันทรานส์สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานโดยไม่เหม็นหืน ไม่เป็นไข ทนความร้อนได้สูงและมีรสชาติใกล้เคียงกับไขมันจากสัตว์ แต่จะมีราคาที่ถูกกว่าบรรดาผู้ประกอบกิจการอาหารต่าง ๆ จึงมักนิยมนำไขมันทรานส์มาใช้ประกอบอาหารมากมาย เพื่อประโยชน์ในการลดต้นทุนการผลิตลง เช่น กลุ่มอาหารฟาสต์ฟูดที่ใช้เป็นน้ำมันสำหรับทอดไก่ มันฝรั่ง โดนัท หรือการนำมาใช้ในการประกอบกิจการเบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว ครีมเทียมและวิปปิ้งครีม ดังนั้น อุตสาหกรรมอาหารจึงนิยมใช้ผสมในอาหารและขนม

----------------------
ผลร้ายจากไขมันทรานส์
----------------------
ไขมันทรานส์จัดเป็นไขมันชนิดที่อันตรายสูงสุดต่อสุขภาพ เนื่องด้วยตัวไขมันทรานส์เองสามารถเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL-cholesterol) ได้ หากบริโภคไขมันทรานส์ในปริมาณ 4% ของพลังงานหรือมากกว่านั้น อีกทั้งหากร่างกายได้รับไขมันทรานส์ปริมาณประมาณ 5-6% ของพลังงานทั้งหมด ระดับคอเลสเตอรอลชนิดดีในร่างกายก็จะลดลงด้วย
ฉะนั้นเมื่อคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL-cholesterol) ในร่างกายเพิ่มมากขึ้น คอเลสเตอรอลก็จะเกาะติดผนังหลอดเลือดแดงได้สะดวกขึ้น ทำให้หลอดเลือดแดงแข็งและตีบตัน ก่อเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจนั่นเอง

----------------------
โรคจากไขมันทรานส์
----------------------
– โรคอ้วนลงพุง
– เสี่ยงต่อโรคภัยต่างๆ ทั้งโรคหัวใจ, เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง ตลอดจนไขมันอุดตันในเส้นเลือดและหลอดเลือด
– ทำให้เกิดภาวะความจำเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ได้มากกว่าผู้ที่ไม่รับประทานอาหารไขมันทรานส์
– เสี่ยงต่อการเกิดอาการจอประสาทตาเสื่อม
– ทำให้นิ่วในถุงน้ำดีอักเสบ
– อาจทำให้ผู้หญิงอยู่ในภาวะมีบุตรได้ยากขึ้น

----------------------
ไขมันทรานส์มีในอาหารประเภทใดบ้าง
----------------------
– แฮมเบอร์เกอร์
– โดนัท
– ขนมขบเคี้ยวต่างๆ
– เฟรนซ์ฟรายส์
– คุกกี้
– เนยขาว, เนยเทียม
– ครีมเทียม
– เค้ก
– แคร็กเกอร์
– วิปครีม
– นักเก็ต
– ไก่ทอด, หมูทอด
– อาหารประเภททอดๆ ที่ต้องใช้น้ำมันหรือไขมันทั้งหลาย

----------------------
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2558 องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (U.S. Food and Drug Administration (FDA)) ได้ระบุว่าน้ำมันซึ่งผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (partially hydrogenated oils (PHOs)) ซึ่งเป็นแหล่งใหญ่ของไขมันทรานส์สังเคราะห์ไม่ปลอดภัยในการผลิตอาหาร และให้เวลา 3 ปีแก่ผู้ผลิตอาหารในการกำจัดไม่ให้ผลิตภัณฑ์ใช้ PHOs
การตัดสินใจของ FDA ครั้งนี้ได้รับการคาดหวังว่าจะช่วยลดโรคหลอดเลือดหัวใจและป้องกันชาวอเมริกันหลายพันคนจากการตายด้วยโรคหัวใจวายในแต่ละปี ข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก ทำให้หลายคนสนใจไขมันทรานส์ขึ้นมาทันที
การขจัด PHOs ครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะไม่พบไขมันทรานส์ในอาหารอีกต่อไป ยังมีไขมันทรานส์ในรูปที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติพบได้ในเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนม และไขมันทรานส์ยังพบได้ในระดับเล็กน้อยในน้ำมันที่ใช้เป็นอาหารชนิดอื่น เนื่องจากหลีกเลี่ยงไม่ได้เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการผลิต นอกจากนี้หลังจาก 3 ปี ถ้าผู้ผลิตรายใดต้องการใช้ PHOs ในการผลิตอาหารต้องขออนุญาตจาก FDA ก่อน
อ้างอิง
-http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/166/5.PDF
- https://healthgossip.co/what-is-trans-fat/
- https://www.nstda.or.th/th/nstda-knowledge/1788-trans-fat
- https://health.kapook.com/view123545.html
- https://www.เกร็ดความรู้.net/ไขมันทรานส์/

เหยื่อการตลาด ทาสโปรโมชั่น

คุณทำงานหนักเกินไป...รึเปล่า...??
06/04/2018

คุณทำงานหนักเกินไป...รึเปล่า...??

หนุ่มสาวที่ทำงานหนักอย่างแท้จริงมักไม่เคยบ่น แต่อะไรคือสัญญาณจากภายในและรอบข้าง ว่าคุณกำลังเผาไหม้ตัว....

ที่อยู่

Nan
55120

เบอร์โทรศัพท์

0835784265

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ เภสัชในชุมชน " ข่วงยา "ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram