คลินิกแพทย์สุพจน์ ระยอง ฝากครรภ์ อัลตราซาว4มิติ วัคซีน โรคทั่วไป 038622001

คลินิกแพทย์สุพจน์ ระยอง ฝากครรภ์ อัลตราซาว4มิติ วัคซีน  โรคทั่วไป 038622001 ถนนจันทอุดม ติดโรงพยาบาลระยอง 038622001 รับฝากครรภ์ อัลตราซาวด์ วัคซีน นรีเวช โรคทั่วไป 03822001
(728)

10/10/2025

วันนี้ช่วงเย็นหมอปิดคลินิกตอน 19:00 น นะครับมีภารกิจ

07/10/2025

ผู้ที่จะฝังยาคุม หรือเอายาคุมฝังออกสามารถติดต่อได้ที่คลินิกเลยนะครับ

01/10/2025

อาการอาเจียนบ่อย ๆ ในเด็กเล็กมีหลายสาเหตุครับ ซึ่งควรพิจารณาจากอายุเด็ก ลักษณะการอาเจียน และอาการร่วมอื่น ๆ

---

🔎 สาเหตุที่พบบ่อย

1. การให้นมมากเกินไป (Overfeeding)
เด็กกินนมเร็วหรือมากเกินไป ทำให้กระเพาะยืดและอาเจียนออกมา

2. กรดไหลย้อนในทารก (Gastroesophageal Reflux)
หูรูดหลอดอาหารยังทำงานไม่สมบูรณ์ ทำให้มีการ "แหวะนม" หรืออาเจียนบ่อย แต่เด็กยังดูแข็งแรง กินได้ น้ำหนักขึ้นตามเกณฑ์

3. ติดเชื้อในทางเดินอาหาร (Gastroenteritis)
มักมีอาการไข้ ถ่ายเหลว น้ำมูกไหล หรืออาเจียนมากร่วมด้วย เสี่ยงขาดน้ำ

4. ภาวะอุดตันของทางเดินอาหารบางตำแหน่ง
เช่น

Pyloric stenosis (มักอายุ 2–8 สัปดาห์ อาเจียนพุ่งแรง ๆ หลังดูดนม)

ภาวะลำไส้อุดตัน (มีท้องอืด ถ่ายอุจจาระผิดปกติ เลือดในอุจจาระ)

5. การติดเชื้อระบบอื่น ๆ
เช่น การติดเชื้อทางเดินหายใจ ปอดอักเสบ หรือทางเดินปัสสาวะ ก็อาจทำให้เด็กอาเจียนบ่อยได้

6. สาเหตุอื่น ๆ ที่พบได้น้อยกว่า

ภาวะเลือดเป็นกรดจากโรคเมตาบอลิก

ภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูง (เช่น เนื้องอก สมองอักเสบ)

---

🩺 แนวทางการแก้ไขเบื้องต้น

จัดท่าหลังให้นม : อุ้มพาดบ่า 20–30 นาทีหลังให้นม ป้องกันกรดไหลย้อน

ลดปริมาณแต่เพิ่มความถี่ : ให้ปริมาณนมน้อยลง แต่บ่อยครั้งขึ้น

ตรวจสัญญาณขาดน้ำ : เช่น ปากแห้ง ปัสสาวะน้อย กระหม่อมบุ๋ม ซึม → ต้องรีบพบแพทย์

ให้น้ำเกลือแร่ (ORS) ถ้าอาเจียนจากการติดเชื้อและยังพอรับได้

หลีกเลี่ยงอาหารมัน หวานจัด (ในเด็กที่เริ่มอาหารเสริมแล้ว)

---

🚨 สัญญาณอันตรายที่ต้องรีบไปพบแพทย์

อาเจียนพุ่งแรง ๆ หลังดูดนมทุกครั้ง

อาเจียนมีน้ำดี (สีเขียว/เหลืองเข้ม) หรือมีเลือด

น้ำหนักไม่ขึ้น ซึม อ่อนเพลีย

มีไข้สูงหรือท้องอืดมาก

ปัสสาวะน้อย หรือมีอาการขาดน้ำ

---

👉 โดยสรุป ถ้าเป็นเพียงแค่ "แหวะนม" หรืออาเจียนเล็กน้อย เด็กแข็งแรงดี น้ำหนักขึ้นตามปกติ มักไม่อันตราย เพียงปรับพฤติกรรมการให้นมและท่าทาง แต่ถ้ามีอาการ อาเจียนพุ่ง ซึม ขาดน้ำ น้ำหนักไม่ขึ้น ควรรีบพาพบแพทย์

28/09/2025

วัคซีน RSV (Respiratory Syncytial Virus) สำหรับหญิงตั้งครรภ์ เป็นวัคซีนใหม่ที่เพิ่งได้รับการอนุมัติในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา และกำลังเริ่มนำมาใช้ในประเทศไทย จุดเด่นคือช่วยปกป้อง ทารกเล็กอายุ 0–6 เดือน ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ RSV รุนแรง

✅ ประโยชน์ในหญิงตั้งครรภ์

ถ่ายทอดภูมิคุ้มกันสู่ทารก
แอนติบอดีจากคุณแม่จะส่งผ่านทางรกไปยังลูก ทำให้เด็กแรกเกิดมีภูมิป้องกัน RSV ได้ตั้งแต่วันแรกหลังคลอด

ลดความเสี่ยงทารกป่วยรุนแรง
RSV เป็นสาเหตุหลักของ หลอดลมฝอยอักเสบ (bronchiolitis) และ ปอดอักเสบ ในทารก โดยเฉพาะอายุต่ำกว่า 6 เดือน วัคซีนช่วยลดการนอนโรงพยาบาลจาก RSV ได้อย่างมีนัยสำคัญ

ไม่เพิ่มความเสี่ยงในแม่
งานวิจัยพบว่าไม่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในแม่ตั้งครรภ์ เช่น ความดันสูง เบาหวาน หรือการคลอดก่อนกำหนด

📊 ข้อมูลจากการศึกษา

การฉีดในช่วงอายุครรภ์ 24–36 สัปดาห์

ประสิทธิภาพในการลดการนอนโรงพยาบาลจาก RSV ในทารก ≤ 6 เดือน: ประมาณ 57–70%

ลดการติดเชื้อทางเดินหายใจล่างรุนแรงในทารก: 40–50%

ความปลอดภัยใกล้เคียงกับวัคซีนอื่นที่ใช้ในหญิงตั้งครรภ์ เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่และ Tdap

🌟 ข้อดีที่เด่นชัด

ป้องกันทารกได้ทันทีหลังคลอด (ต่างจากวัคซีนเด็กที่ต้องรอฉีดหลายเดือน)

ลดภาระการนอนโรงพยาบาลและค่าใช้จ่าย

ช่วยให้พ่อแม่สบายใจในช่วง 6 เดือนแรกซึ่งเป็นช่วงวิกฤติ

⚠️ ข้อควรระวัง

ยังเป็นวัคซีนใหม่ → ราคาอาจสูง และบางประเทศยังไม่มีในสิทธิ์หลักประกัน

ต้องฉีดในช่วงเวลาที่เหมาะสมของการตั้งครรภ์

อาจมีอาการข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ปวดแขน อ่อนเพลีย มีไข้ต่ำ ๆ

👉 สรุป:
วัคซีน RSV ในคนท้องช่วยปกป้องลูกในครรภ์ตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน ลดโอกาสป่วยรุนแรงจาก RSV โดยไม่เพิ่มความเสี่ยงในแม่ เหมาะสำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่ต้องการป้องกันลูกเล็กจากการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจในช่วงวัยที่อ่อนไหวที่สุด

21/09/2025

วัคซีน rsv เป็นวัคซีนที่ฉีดในขิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 24 ถึง 36 สัปดาห์สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกตั้งแต่ 0 ถึง 6 เดือนได้สนใจติดต่อที่คลินิกเลยครับ

11/09/2025
11/09/2025

วัคซีน RSV (Respiratory Syncytial Virus) ปัจจุบัน ยังไม่มีวัคซีนที่ฉีดโดยตรงในทารกทั่วไป

แต่สิ่งที่มีอยู่และแนะนำคือ:

1. การป้องกันในทารก

Nirsevimab (Beyfortus) → เป็น monoclonal antibody ไม่ใช่วัคซีน แต่ทำงานเหมือนวัคซีนป้องกัน โดยให้ทารกแรกเกิดหรือทารกอายุต่ำกว่า 8 เดือนก่อนเข้าฤดู RSV

มีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อ RSV รุนแรงได้มากกว่า 70–80%

ใช้ได้ในทารกทั่วไป รวมทั้งทารกคลอดก่อนกำหนดหรือทารกที่มีโรคประจำตัว (เช่น โรคหัวใจ โรคปอดเรื้อรัง)

2. การป้องกันผ่านมารดา

วัคซีน RSV สำหรับหญิงตั้งครรภ์ (Abrysvo) → ฉีดในช่วงอายุครรภ์ 32–36 สัปดาห์

ช่วยให้แม่สร้างภูมิ และถ่ายทอดแอนติบอดีผ่านรกไปยังทารก ทำให้ทารกมีภูมิคุ้มกันช่วงแรกเกิด

3. วัคซีนในเด็กโต

ตอนนี้ยังไม่มีวัคซีน RSV ที่ได้รับอนุญาตให้ฉีดตรงในเด็กเล็กหรือทารกโดยตรง (ยกเว้น monoclonal antibody ที่กล่าวข้างต้น)

งานวิจัยกำลังพัฒนาอยู่ แต่ยังไม่ใช่มาตรฐานการรักษา

✅ สรุป:

ทารกแรกเกิดและทารกเล็กเหมาะสมกับการได้รับ Nirsevimab (monoclonal antibody) เพื่อป้องกัน RSV

วัคซีน RSV จริง ๆ ตอนนี้เน้นใช้ใน หญิงตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันลูกช่วงแรกเกิด

ยังไม่มีวัคซีนที่ฉีดตรงให้ทารกทั่วไปโดยตรง

09/09/2025

วัคซีน RSV (Respiratory Syncytial Virus) สำหรับหญิงตั้งครรภ์เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีนี้ เพราะ RSV เป็นสาเหตุสำคัญของโรคทางเดินหายใจรุนแรงในทารกแรกเกิดและเด็กเล็ก โดยเฉพาะการติดเชื้อที่ปอดและหลอดลม (bronchiolitis, pneumonia)

---

หลักการ

วัคซีน RSV สำหรับหญิงตั้งครรภ์ถูกออกแบบมาเพื่อ สร้างภูมิคุ้มกันในแม่และถ่ายทอดแอนติบอดีผ่านทางรกไปยังทารก

เด็กแรกเกิดจึงได้รับภูมิคุ้มกันแบบ passive immunity ในช่วงแรกของชีวิตที่ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง

---

วัคซีนที่มีการศึกษา

1. Abrysvo® (Pfizer, RSVpreF vaccine)

อนุมัติในหลายประเทศรวมทั้งสหรัฐฯ และยุโรปสำหรับหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 24–36 สัปดาห์

การฉีด 1 เข็มช่วยลดการเข้ารักษาในโรงพยาบาลจาก RSV ของทารกในช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอด ได้อย่างมีนัยสำคัญ

2. Nirsevimab (monoclonal antibody, ไม่ใช่วัคซีน)

ใช้ในทารกหลังคลอดโดยตรง เป็นการให้แอนติบอดีสำเร็จรูปเพื่อป้องกัน RSV ได้ยาวนาน 5 เดือน

มักใช้เสริมในทารกที่ไม่ได้รับภูมิจากแม่หรือในกลุ่มเสี่ยงสูง

---

ประโยชน์สำหรับหญิงตั้งครรภ์

ลดความเสี่ยงที่ทารกจะป่วยหนักจาก RSV ในช่วง ฤดูกาล RSV (มักเป็นปลายฝนต้นหนาว)

ลดภาระการเข้ารักษาในโรงพยาบาลและภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะหายใจล้มเหลว

ไม่เพิ่มความเสี่ยงการตั้งครรภ์ผิดปกติ เช่น คลอดก่อนกำหนด หรือทารกเจริญเติบโตช้า จากข้อมูลการศึกษาใหญ่จนถึงปัจจุบัน

---

ความปลอดภัย

งานวิจัยขนาดใหญ่ (phase 3 trial) พบว่า ปลอดภัยทั้งต่อแม่และทารก

อาการข้างเคียงที่พบได้: ปวดบริเวณฉีด, อ่อนเพลีย, ปวดกล้ามเนื้อ คล้ายวัคซีนทั่วไป

ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเพิ่มการแท้ง คลอดก่อนกำหนด หรือทารกเสียชีวิต

---

คำแนะนำแนวทางสากล

ACOG (American College of Obstetricians and Gynecologists) และ CDC (สหรัฐฯ) แนะนำให้เสนอวัคซีน RSV ให้หญิงตั้งครรภ์ที่อยู่ในช่วง 32–36 สัปดาห์ ของการตั้งครรภ์

ควรฉีดในฤดูการระบาดของ RSV เพื่อให้ทารกได้รับภูมิครอบคลุมช่วงแรกหลังคลอด

---

สถานการณ์ในประเทศไทย

วัคซีนนี้ ยังไม่ใช้แพร่หลายในไทย (ข้อมูล ณ ปี 2025) และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของ อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา)

--

04/09/2025

วัคซีนไข้เลือดออก (Dengue vaccine) เป็นหัวข้อที่สำคัญมากในสาธารณสุข โดยเฉพาะในประเทศเขตร้อนอย่างประเทศไทยครับ ผมสรุปความสำคัญเป็นประเด็นหลัก ๆ ดังนี้:

1. ลดอุบัติการณ์และความรุนแรงของโรค

ไข้เลือดออกเกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี (DENV) มี 4 สายพันธุ์ (DENV-1, 2, 3, 4)

การติดเชื้อครั้งที่สองต่างสายพันธุ์มักทำให้มีอาการรุนแรง เช่น Dengue hemorrhagic fever (DHF) หรือ Dengue shock syndrome (DSS)

วัคซีนช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อซ้ำที่รุนแรงได้ จึงช่วยลดการเจ็บป่วยและการเสียชีวิต

2. ลดภาระระบบสาธารณสุข

ประเทศไทยพบผู้ป่วยไข้เลือดออกปีละ แสนถึงล้านคน ในบางปี โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน

การระบาดทำให้โรงพยาบาลมีภาระหนัก ทั้งผู้ป่วยเด็กและผู้ใหญ่

การให้วัคซีนช่วยลดจำนวนผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาล ลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุข

3. การป้องกันเสริมจากมาตรการควบคุมยุง

ปัจจุบันวิธีหลักในการป้องกันไข้เลือดออก คือการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย

แต่มาตรการนี้ทำได้ยากและต้องอาศัยความร่วมมือของชุมชน

วัคซีนจึงเป็น เครื่องมือเสริมที่มีประสิทธิภาพ ในการควบคุมโรคควบคู่ไปกับการควบคุมยุง

4. การพัฒนาและข้อจำกัด

วัคซีนรุ่นแรกที่ได้รับการรับรอง เช่น Dengvaxia® (Sanofi Pasteur) มีข้อจำกัด ใช้ได้เฉพาะผู้ที่เคยติดเชื้อเดงกีแล้ว เพราะถ้าให้ในคนที่ไม่เคยติดเชื้อ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการรุนแรงหากติดเชื้อครั้งแรก

วัคซีนรุ่นใหม่ เช่น Qdenga® (TAK-003, Takeda) ได้รับอนุมัติในบางประเทศ รวมถึงไทยแล้วในปี 2023 ใช้ได้กับทั้งผู้ที่เคยติดเชื้อและไม่เคยติดเชื้อมาก่อน (ประสิทธิภาพป้องกันโรคค่อนข้างดี แต่ยังต้องติดตามผลระยะยาว)

5. ประโยชน์ในภาพรวม

ป้องกันการเจ็บป่วยและการเสียชีวิต

ลดค่าใช้จ่ายและภาระครอบครัว

ช่วยควบคุมการระบาดในระดับประเทศ

เพิ่มคุณภาพชีวิตในชุมชนที่มีการระบาดเป็นประจำ

👉 โดยสรุป: วัคซีนไข้เลือดออก มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการเสริมการควบคุมโรค ลดจำนวนผู้ป่วย ลดความรุนแรง และปกป้องประชากรในประเทศที่มีการระบาดซ้ำทุกปี เช่นประเทศไทยครับ

02/09/2025

วัคซีน RSV (Respiratory Syncytial Virus vaccine) ในหญิงตั้งครรภ์ เป็นเรื่องที่เพิ่งได้รับความสนใจมากในช่วงไม่กี่ปีนี้ครับ ✨
เพราะ RSV เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ โดยเฉพาะใน ทารกเล็ก ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นปอดอักเสบ หรือต้องนอนโรงพยาบาลได้

📌 ความสำคัญของวัคซีน RSV ในหญิงตั้งครรภ์

1. ป้องกันทารกตั้งแต่แรกคลอด

หญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับวัคซีน จะสร้าง แอนติบอดี (IgG) ต่อต้าน RSV และถ่ายทอดผ่าน รก (placenta) ไปยังทารก

ทำให้ทารกมีภูมิคุ้มกันทันทีหลังคลอด โดยไม่ต้องรอฉีดวัคซีนเอง (ซึ่งยังไม่มีวัคซีน RSV สำหรับเด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน)

2. ลดการนอนโรงพยาบาลของทารก

งานวิจัยพบว่าวัคซีน RSV ที่ฉีดในหญิงตั้งครรภ์ช่วง สัปดาห์ที่ 32–36 ของการตั้งครรภ์ สามารถลดอัตราการติดเชื้อ RSV ที่รุนแรงในทารกอายุ 0–6 เดือน ได้อย่างมีนัยสำคัญ

ลดความเสี่ยงการต้องนอนโรงพยาบาลเพราะ bronchiolitis หรือ pneumonia ที่เกิดจาก RSV

3. เสริมการป้องกันในช่วงวิกฤติ

RSV มักระบาดในฤดูฝนและฤดูหนาว

ทารกเล็ก (โดยเฉพาะอายุน้อยกว่า 6 เดือน) เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง เพราะ ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง และ ทางเดินหายใจเล็ก ทำให้เกิดการอุดกั้นง่าย

4. เสริมความปลอดภัยแก่แม่

วัคซีน RSV ที่ใช้ในหญิงตั้งครรภ์เป็น วัคซีนชนิดโปรตีน (protein-based, non-live vaccine) ไม่ใช่วัคซีนเชื้อเป็น

จากข้อมูลการศึกษา ไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้ง การคลอดก่อนกำหนด หรือทารกผิดปกติ

📊 สรุป

วัคซีน RSV ในหญิงตั้งครรภ์มีความสำคัญเพราะช่วย

✅ ส่งต่อภูมิคุ้มกันให้ทารกแรกเกิด

✅ ลดโอกาสป่วยรุนแรงและต้องนอนโรงพยาบาล

✅ ปลอดภัยต่อแม่และลูก

31/08/2025

ได้เลยครับ เรื่อง วัคซีน RSV (Respiratory Syncytial Virus) ในหญิงตั้งครรภ์ เป็นหัวข้อใหม่ที่เพิ่งเริ่มมีการใช้อย่างจริงจังเมื่อไม่นานนี้ ผมสรุปให้เป็นประเด็นสำคัญดังนี้

1. RSV คืออะไร และทำไมสำคัญในทารก

RSV เป็นเชื้อไวรัสระบบหายใจที่ทำให้เกิด ปอดอักเสบและหลอดลมฝอยอักเสบ

อันตรายที่สุดใน ทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน และ ผู้สูงอายุ

ในทารกเล็ก อาจทำให้ต้องนอนโรงพยาบาล และมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้

2. วัคซีน RSV สำหรับหญิงตั้งครรภ์

ปัจจุบันมีวัคซีน RSVpreF (Abrysvo® ของ Pfizer)

ได้รับการรับรองโดย US FDA และ EMA สำหรับใช้ในหญิงตั้งครรภ์ เพื่อให้ภูมิคุ้มกันผ่านทางรกไปสู่ทารก

จุดประสงค์คือ ป้องกันโรคทางเดินหายใจรุนแรงจาก RSV ในทารกอายุน้อยกว่า 6 เดือน

3. ช่วงเวลาที่แนะนำให้ฉีด

แนะนำฉีดในช่วง อายุครรภ์ 32 – 36 สัปดาห์

เพราะเป็นช่วงที่การส่งผ่านแอนติบอดีผ่านรกมีประสิทธิภาพสูงสุด และภูมิคุ้มกันยังคงอยู่ในทารกช่วงแรกหลังคลอด

4. ประสิทธิผล

งานวิจัยพบว่า สามารถ ลดการนอนโรงพยาบาลเพราะ RSV ในทารกแรกเกิดถึง ~80%

ลดการป่วย RSV รุนแรงในทารกอายุน้อยกว่า 6 เดือนได้อย่างมีนัยสำคัญ

5. ความปลอดภัย

จากข้อมูลการศึกษาในหญิงตั้งครรภ์กว่า 7,000 คน พบว่า ปลอดภัย ไม่เพิ่มอัตราการคลอดก่อนกำหนด หรือทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์

อาการข้างเคียงหลัก ๆ คล้ายวัคซีนทั่วไป เช่น ปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีด, อ่อนเพลีย, ปวดศีรษะ

6. ทางเลือกอื่น

ก่อนหน้านี้ยังไม่มีวัคซีน จึงใช้วิธี ให้โมโนโคลนอลแอนติบอดี (เช่น nirsevimab, palivizumab) แก่ทารกแรกเกิด แต่ค่าใช้จ่ายสูงและต้องฉีดซ้ำ

วัคซีนแม่จึงเป็นทางเลือกที่ ครอบคลุมและสะดวกกว่า

7. สถานะในประเทศไทย

ขณะนี้วัคซีน RSVpreF เพิ่งได้รับการอนุมัติในบางประเทศ (เช่น สหรัฐ, EU)

ในประเทศไทยยังอยู่ระหว่าง พิจารณาการขึ้นทะเบียนและกำหนดนโยบาย ยังไม่ได้มีใช้ทั่วไปใน รพ.รัฐ

เอกชนอาจเริ่มนำเข้าเร็ว ๆ นี้

👉 ดังนั้น สำหรับหญิงตั้งครรภ์ วัคซีน RSV จะเป็นการฉีด เพื่อปกป้องทารกหลังคลอดในช่วง 6 เดือนแรก ซึ่งเป็นช่วงเสี่ยงสูงสุด

28/08/2025

วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคมหมอปิดช่วงเช้าและช่วงเที่ยงนะครับ
เปิดตอนเย็นนะครับ

ที่อยู่

2/6 ถนนจันทอุดม
Rayong
21000

เบอร์โทรศัพท์

+66986011554

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ คลินิกแพทย์สุพจน์ ระยอง ฝากครรภ์ อัลตราซาว4มิติ วัคซีน โรคทั่วไป 038622001ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง คลินิกแพทย์สุพจน์ ระยอง ฝากครรภ์ อัลตราซาว4มิติ วัคซีน โรคทั่วไป 038622001:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram