09/09/2025
วัคซีน RSV (Respiratory Syncytial Virus) สำหรับหญิงตั้งครรภ์เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีนี้ เพราะ RSV เป็นสาเหตุสำคัญของโรคทางเดินหายใจรุนแรงในทารกแรกเกิดและเด็กเล็ก โดยเฉพาะการติดเชื้อที่ปอดและหลอดลม (bronchiolitis, pneumonia)
---
หลักการ
วัคซีน RSV สำหรับหญิงตั้งครรภ์ถูกออกแบบมาเพื่อ สร้างภูมิคุ้มกันในแม่และถ่ายทอดแอนติบอดีผ่านทางรกไปยังทารก
เด็กแรกเกิดจึงได้รับภูมิคุ้มกันแบบ passive immunity ในช่วงแรกของชีวิตที่ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง
---
วัคซีนที่มีการศึกษา
1. Abrysvo® (Pfizer, RSVpreF vaccine)
อนุมัติในหลายประเทศรวมทั้งสหรัฐฯ และยุโรปสำหรับหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 24–36 สัปดาห์
การฉีด 1 เข็มช่วยลดการเข้ารักษาในโรงพยาบาลจาก RSV ของทารกในช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอด ได้อย่างมีนัยสำคัญ
2. Nirsevimab (monoclonal antibody, ไม่ใช่วัคซีน)
ใช้ในทารกหลังคลอดโดยตรง เป็นการให้แอนติบอดีสำเร็จรูปเพื่อป้องกัน RSV ได้ยาวนาน 5 เดือน
มักใช้เสริมในทารกที่ไม่ได้รับภูมิจากแม่หรือในกลุ่มเสี่ยงสูง
---
ประโยชน์สำหรับหญิงตั้งครรภ์
ลดความเสี่ยงที่ทารกจะป่วยหนักจาก RSV ในช่วง ฤดูกาล RSV (มักเป็นปลายฝนต้นหนาว)
ลดภาระการเข้ารักษาในโรงพยาบาลและภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะหายใจล้มเหลว
ไม่เพิ่มความเสี่ยงการตั้งครรภ์ผิดปกติ เช่น คลอดก่อนกำหนด หรือทารกเจริญเติบโตช้า จากข้อมูลการศึกษาใหญ่จนถึงปัจจุบัน
---
ความปลอดภัย
งานวิจัยขนาดใหญ่ (phase 3 trial) พบว่า ปลอดภัยทั้งต่อแม่และทารก
อาการข้างเคียงที่พบได้: ปวดบริเวณฉีด, อ่อนเพลีย, ปวดกล้ามเนื้อ คล้ายวัคซีนทั่วไป
ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเพิ่มการแท้ง คลอดก่อนกำหนด หรือทารกเสียชีวิต
---
คำแนะนำแนวทางสากล
ACOG (American College of Obstetricians and Gynecologists) และ CDC (สหรัฐฯ) แนะนำให้เสนอวัคซีน RSV ให้หญิงตั้งครรภ์ที่อยู่ในช่วง 32–36 สัปดาห์ ของการตั้งครรภ์
ควรฉีดในฤดูการระบาดของ RSV เพื่อให้ทารกได้รับภูมิครอบคลุมช่วงแรกหลังคลอด
---
สถานการณ์ในประเทศไทย
วัคซีนนี้ ยังไม่ใช้แพร่หลายในไทย (ข้อมูล ณ ปี 2025) และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของ อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา)
--