16/11/2025
เจอบ่อยเหมือนกันครับ
แนะนำตรวจขยายม่านตา เพื่อมั่นใจว่าไม่ใช่โรคที่รุนแรง
การตรวจละเอียดแบบนี้จะใช้เวลานานหน่อยและสายตาจะมัวลงสัก4-6 ชั่วโมงหลังตรวจแนะนำ มีคนมาด้วยก็ดีครับ
เวลาทำการ
📌จันทร์-ศุกร์
เปิด 7.00-8.00 , 12.00-13.00 และ 17.00- 19.30
📌📌วันเสาร์และวันนักขัตฤกษ์
เปิด 9.00-12.00 และ 17.00- 19.30
📌📌📌วันอาทิตย์
เปิด 9.00-12.00
ติดต่อโทร 06-1915-5926 ในเวลา
👁️เห็นจุดดำลอยไปมา ไม่ใช่เรื่องเล็ก! 👀
ระวัง "วุ้นตาเสื่อม" ก่อนเกิดปัญหาใหญ่! 💢👁️🗨️
"อยู่ดีๆ ก็เห็นเหมือนมีหยากไย่หรือเส้นบางๆ ลอยไปลอยมา" หลายคนอาจเคยมีอาการแบบนี้แต่ไม่รู้ว่าเป็นความผิดปกติ จริงๆ แล้ว อาการที่เรามองเห็นนั้นอาจไม่ใช่ฝุ่นหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าตา แต่อาจเป็นสัญญาณของภาวะ "วุ้นตาเสื่อม" ก็เป็นได้ค่ะ โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุมากขึ้นหรือใช้งานดวงตาอย่างหนัก วันนี้มาทำความรู้จักกับภาวะนี้ให้มากขึ้นกันนะคะ ว่าคืออะไร มีอาการอย่างไร และแบ่งเป็นกี่ระยะ เพื่อที่เราจะได้ดูแลและรักษาได้ทันท่วงทีค่ะ 😊
👀 ภาวะวุ้นตาเสื่อมคืออะไร?
ภาวะวุ้นตาเสื่อม (Vitreous Degeneration) คือ อาการที่วุ้นในตาเสื่อมสภาพจากที่เคยมีลักษณะเป็นเจลใสๆ กลับกลายเป็นของเหลวที่หนืดน้อยลง พร้อมกับเกิดการรวมตัวกันของเส้นใยไฟเบอร์ในวุ้นตา กลายเป็นตะกอนรูปร่างต่างๆ จนไปบดบังแสงที่ผ่านเข้าสู่จอตา ทำให้เราสามารถมองเห็นเงาหรือเส้นลอยไปมาได้ค่ะ
ปกติแล้ว วุ้นในตาจะมีลักษณะเป็นเจลใส โปร่งแสง อยู่ด้านหลังของลูกตา ทำหน้าที่สำคัญในการหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อในตา และช่วยรักษาสมดุลของแรงดันภายในลูกตาให้คงที่อยู่เสมอ แต่เมื่อวุ้นตาเกิดความเสื่อมสภาพ ก็จะส่งผลให้การมองเห็นของเราเกิดปัญหาขึ้นตามมาได้ โดยสามารถแบ่งได้เป็น 2 ระยะดังนี้ค่ะ
1️⃣ ระยะเริ่มต้น: เห็นหยากไย่ เส้นลอยๆ ในระยะเริ่มต้นนี้ เราจะเริ่มมีอาการมองเห็นเส้นบางๆ คล้ายใยแมงมุม หรือหยากไย่ ลอยผ่านไปผ่านมาขณะที่กลอกตา ซึ่งเกิดจากการที่เส้นใยไฟเบอร์ภายในวุ้นตาเสื่อมสภาพและหดตัวลงค่ะ บางส่วนของวุ้นตาที่เคยเป็นเจลใส ก็เริ่มมีฝ้าขุ่นเกิดขึ้น เมื่อมีแสงผ่านเข้ามาจึงเกิดเป็นเงาสะท้อนให้เราเห็นได้
อาการนี้อาจเกิดขึ้นได้ทั้งสองข้างหรือข้างเดียวค่ะ ซึ่งมักจะไม่ได้ส่งผลอันตรายต่อการมองเห็นโดยตรง และหลายคนอาจไม่ทันสังเกตจนกว่าจะตั้งใจเพ่งหรืออยู่ในที่ที่มีแสงสว่างมาก แต่เราก็ไม่ควรละเลยนะคะ เพราะบางกรณีอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย เช่น จอประสาทตาฉีกขาด หรือจอประสาทตาเสื่อมตามมาได้ค่ะ
2️⃣ ระยะวุ้นตาแยกตัวจากจอประสาทตา: เห็นแสงวูบวาบ หรือแสงแฟลช เมื่อเข้าสู่ระยะที่วุ้นตาเสื่อมมากขึ้น วุ้นตาจะเริ่มหดตัวอย่างชัดเจน จนแยกตัวออกจากผิวจอประสาทตา ซึ่งอาจมีการดึงรั้งจอประสาทตา ทำให้เรามองเห็นแสงสว่างเป็นประกายวูบวาบ หรือแสงแฟลชเกิดขึ้นชั่วขณะค่ะ อาการนี้มักจะชัดเจนมากเวลาอยู่ในที่มืดหรือเวลากลางคืน
แม้ว่าอาการเหล่านี้สามารถหายได้เองเมื่อวุ้นตาหยุดดึงรั้งจอประสาทตาแล้ว แต่เราไม่ควรนิ่งนอนใจเด็ดขาดค่ะ เพราะถ้าวุ้นตาดึงรั้งจอประสาทตาแรงมากเกินไป อาจทำให้จอประสาทตาฉีกขาด และน้ำวุ้นตาที่เสื่อมก็อาจไหลซึมผ่านรอยขาดนี้ จนนำไปสู่ภาวะ "จอประสาทตาลอก" ซึ่งถือเป็นภาวะร้ายแรงที่สามารถทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้เลยทีเดียวค่ะ
🔎 สัญญาณของวุ้นตาเสื่อมที่ควรสังเกต
เพื่อไม่ให้ภัยเงียบดังกล่าวส่งผลเสียต่อสุขภาพดวงตาอย่างถาวร เราสามารถสังเกตอาการได้ดังนี้ค่ะ
▪️ เห็นจุดดำลอยไปมา (floaters) โดยมักจะเห็นชัดตอนมองพื้นสีขาวหรือมองท้องฟ้า
▪️ เห็นแสงฟ้าแลบ (flashes) คล้ายแสงวาบในสายตา
▪️ รู้สึกเหมือนมีม่านดำบังบางส่วนของการมองเห็น
▪️ อาการมักเกิดขึ้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ หรือเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
⚠️ ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิด "วุ้นตาเสื่อม"
▪️ อายุที่เพิ่มขึ้น พบมากในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี
▪️ สายตาสั้นมาก คนที่สายตาสั้นมากจะมีโอกาสเป็นวุ้นตาเสื่อมเร็วกว่าคนทั่วไป
▪️ การใช้สายตาหนักเป็นเวลานาน เช่น การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ มือถือ หรือแท็บเล็ตมากเกินไป
▪️ โรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ที่ส่งผลต่อสุขภาพตา
▪️ อุบัติเหตุหรือการผ่าตัดดวงตา ซึ่งอาจส่งผลให้วุ้นตาเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น
▪️ การอักเสบในวุ้นตาหรือจอตา
👁️ วิธีดูแลและป้องกัน "วุ้นตาเสื่อม"
✅ หลีกเลี่ยงใช้สายตานานเกินไป
▪️ ใช้กฎ 20-20-20 (ทุกๆ 20 นาที พักสายตา 20 วินาที มองไปไกล 20 ฟุต)
▪️ กระพริบตาให้บ่อยขึ้น ให้มีน้ำตาเคลือบตาตลอดเวลา เพื่อลดอาการตาแห้ง
▪️ หากรู้สึกระคายเคืองตา ควรหยอดน้ำตาเทียมเพื่อให้ความชุ่มชื่นแก่ดวงตา
✅ รับประทานอาหารที่ดีต่อดวงตา
▪️ อาหารที่อุดมด้วยลูทีนและซีแซนทีน เช่น ผักโขม คะน้า ข้าวโพด
▪️ อาหารที่อุดมโอเมก้า-3 เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า พืชตระกูลถั่ว ได้แก่ เมล็ดแฟลกซ์ ถั่วพีแคน ถั่วเฮเซลนัท
▪️ อาหารที่อุดมวิตามินเอ ซี อี และสังกะสี ช่วยบำรุงสายตา
✅ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของโรคที่อาจส่งผลร้ายต่อดวงตา เช่น โรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง
✅ ไปตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ
ควรตรวจเช็กสายตาและสุขภาพตาทุกปี โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการในระยะเริ่มต้น และผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
✅ หากอาการรุนแรงควรพบจักษุแพทย์
เช่น จุดดำเพิ่มขึ้น หรือเห็นแสงวาบบ่อย ควรเข้าพบแพทย์โดยด่วน โดยแพทย์อาจพิจารณาใช้การเลเซอร์เพื่อรักษาวุ้นตาเสื่อม หรือผ่าตัดวุ้นตา (Vitrectomy)
วุ้นตาเสื่อมเป็นภาวะที่เกิดขึ้นตามอายุ แต่สามารถชะลอหรือป้องกันได้ หากคุณเริ่มเห็นจุดดำลอยไปมา หรือ แสงฟ้าแลบ ก็อย่าละเลย! รีบปรับพฤติกรรมการใช้สายตา และพบแพทย์หากอาการรุนแรงขึ้น เพื่อป้องกันภาวะฉีกขาดของจอประสาทตาที่อาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นถาวร ดูแลดวงตาของคุณตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้มองเห็นโลกได้อย่างชัดเจนไปนานๆนะคะ! 👁️✨
#อย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ #วุ้นตาเสื่อม #จุดดำ #แสงฟ้าแลบ #สายตาสั้นมาก