Ruen Dhammasiri เรือนธรรมศิริ

Ruen Dhammasiri เรือนธรรมศิริ สัมผัสคุณค่าและมนต์เสน่ห์แห่งว่าน?

เพราะสุขภาพที่ดีไม่ได้หมายความถึงสุขภาพทางกายเพียงอย่างเดียว แต่ยังหมายรวมไปถึงจิตใจ อารมณ์ และจิตวิญญาณด้วย เรือนธรรมศิริจึงได้นำแนวคิดการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเพื่อสร้างความสมดุล ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และจิตวิญญาณมาใช้ ผ่านการนำศาสตร์และศิลป์แห่งว่านไทยตามความเชื่อเรื่องพุทธคุณและสรรพคุณทางยาของไทยแต่โบราณ มาผสมผสานกับองค์ความรู้แนวร่วมสมัยของการดูแลสุขภาพด้วยสปา เพื่อนำความรู้สึกกลับเข้าสู่ภายในตนเอง ที่จะช่วยฟื้นฟูร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ กลับสู่สภาวะสมดุลตามธรรมชาติ

🧡นางคำ ออกดอก🌹 เป็นสัณญานฤดูแช่ว่านสดกำลังจะหมดลง 😄✅ใครลงคอร์ส หลังพฤษภาคม จะเป็นกลิ่นสมุนไพรแห้ง แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้แช...
03/05/2025

🧡นางคำ ออกดอก🌹 เป็นสัณญานฤดูแช่ว่านสดกำลังจะหมดลง 😄
✅ใครลงคอร์ส หลังพฤษภาคม จะเป็นกลิ่นสมุนไพรแห้ง แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้แช่เด้อ 👄💟💐
#แช่ว่านกระชับผิวขจัดหนังกำพร้าปรับสมดุลต้านอนุมูลอิสระลดการอักเสบผิวแน่นแข็งแรง

ชุดแช่เท้า 999 แบ่งใช้ได้ 30 ครั้ง
08/04/2025

ชุดแช่เท้า 999
แบ่งใช้ได้ 30 ครั้ง

ว่าน หอมหวล ชวนหลงไหลว่านคนไทย ที่ใครๆ ลืมแล้ว #ของดีที่ควรจำจำ
06/04/2025

ว่าน หอมหวล ชวนหลงไหล
ว่านคนไทย ที่ใครๆ ลืมแล้ว
#ของดีที่ควรจำจำ

สปาว่าน สร้างคุณค่าความดีเด่นของไทย จากสมัยโบราณ สืบสานถึงปัจจุบัน เสกสรรสุขภาพ #เรือนธรรมศิริ
03/04/2025

สปาว่าน สร้างคุณค่าความดีเด่นของไทย จากสมัยโบราณ สืบสานถึงปัจจุบัน เสกสรรสุขภาพ
#เรือนธรรมศิริ

🫰สวัสดีวันพฤหัสบดีมีควาสุข❤️ทุกวัน🌹
03/04/2025

🫰สวัสดีวันพฤหัสบดีมีควาสุข❤️ทุกวัน🌹

13/09/2024
เราทำอะไรกับธรรมชาติธรรมชาติทำเช่นเดียวกัน
05/06/2024

เราทำอะไรกับธรรมชาติ
ธรรมชาติทำเช่นเดียวกัน

07/07/2023
กินอาหารอายุสั้นอายุเราจะยาว กินอาหารอายุยาวชีวิตเราจะสั้น นะคะ :)
02/07/2017

กินอาหารอายุสั้นอายุเราจะยาว กินอาหารอายุยาวชีวิตเราจะสั้น นะคะ :)

ที่ผ่านมาแอดมินแชร์โพสเกี่ยวกับสารเคมีที่อยู่ในอาหารลงเพจไปหลายโพสเลย วันนี้อยากย้อนกลับมาพูดถึงสาร BPA ที่อยู่ตามอาหารกระป๋องอีกครั้ง อาหารกระป๋องสะดวกกินแต่ไม่สะดวกต่อสุขภาพเสียเลยเนอะ! เอาไว้เป็นทางเลือกสุดท้ายดีกว่า 😁
**************************************************

อาหารกระป๋อง เป็นนวัตกรรมที่ทำให้ชีวิตของพวกเราสุขสบายขึ้น(หมอเองก็กินยามจำเป็น) แต่ในความสะดวกสบายนี้ อาจมีบางสิ่งที่เราไม่ต้องการแฝงมาค่ะ

งานวิจัยจากทีมสแดนฟอร์ด ซึ่งตีพิมพ์ใน Environmental Research เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาพบว่า คนที่รับประทานอาหารกระป๋องเป็นประจำ จะตรวจพบสารที่เรียกว่า BPA ถูกขับออกมาในปัสสาวะมากขึ้น ยิ่งรับประทานมาก ก็ยิ่งมีสาร BPA มากขึ้นตาม โดยเฉพาะอาหารกระป๋องประเภทซุป จะมีสาร BPA ปนเปื้อนอยู่มากกว่าอาหารกระป๋องประเภทอื่นๆ

สาร BPA เป็นสารที่มีการใช้กันมากในบรรจุภัณฑ์หลายประเภท ทั้งพลาสติก ขวดนม ไปจนถึงเคลือบด้านในของกระป๋องบรรจุอาหาร แต่ระยะหลัง มีหลายงานวิจัยที่พบว่า เจ้าสาร BPA นี้ สัมพันธ์กับการเกิดโรคเบาหวาน หลอดเลือดหัวใจ และอื่นๆอีกมากมาย ที่ไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพ ในปัจจุบัน หลายๆประเทศในยุโรปมีการตื่นตัวและจำกัดการใช้สารนี้มากขึ้น

สำหรับประเทศไทยเราเอง หมอไม่ทราบข้อมูลของสาร BPA จากอาหารกระป๋องไทย แต่จากงานวิจัยในอเมริกานี้ หากเป็นไปได้ เราเก็บอาหารกระป๋องไว้หงายการ์ดกินเฉพาะยามจำเป็น น่าจะเป็นทางเลือกของสุขภาพที่ดีกว่าค่ะ

พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล (หมอผิง)
Twitter, Instagram:

Ref: http://stanmed.stanford.edu/2016fall/upfront/eating-some-canned-foods-increases-your-exposure-to-BPA.html

20/03/2017

[ ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับสุขภาพ ]

บางเรื่องสุขภาพที่เรารู้กันมาอาจไม่ใช่เรื่องจริง หรือเป็นความเข้าใจผิดไปก็ได้
ลองมาดูสิว่า 10 เรื่องต่อไปนี้ คุณเคยเข้าใจอะไรผิดมาบ้างหรือเปล่า

1. ชาเขียวเพื่อสุขภาพ

ความเชื่อนี้ฮิตที่สุดเมื่อหลายปีก่อน ถึงขั้นทำให้ทำอะไรก็ต้องเอาชาเขียวมาเป็นส่วนประกอบ ไม่เว้นแม้กระทั่งผ้าอนามัย ปัจจุบันก็ยังคงความฮิตต่อเนื่อง แม้ว่ากระแสจะน้อยลงก็ตาม แต่นั่นก็ทำให้คนไทยเคยชินกับการกินชาเขียวแทนการดื่มน้ำอัดลม หรือน้ำอื่น ๆ

โดยความเชื่อนี้ คือในชาเขียวจะมี Cathechin ที่มี EGCG อันเป็นสารตัวเอกในการต้านอนุมูลอิสระ และสามารถยับยั้งการเกิดมะเร็งต่าง ๆ ได้ สาร Cathechin ที่ว่านั้นไม่ได้มีเฉพาะชาเขียวเท่านั้น ชาดำ หรือชาจีนก็มีเช่นกัน แต่อาจจะไม่มากเท่าชาเขียว และนั่นทำให้ชาเขียวกลายเป็นทุกคำตอบของสุขภาพไป

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ระดับความเข้มข้นของ EGCG ที่สามารถจัดการกับมะเร็งได้นั้น จะเทียบเท่าการดื่มชาเขียวแบบเข้มข้นไม่ผสมน้ำตาลวันละอย่างต่ำ 10 แก้ว ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันมะเร็งได้แล้ว ของแถมที่ตามมาก็คือ เจ้าสาร Tannin ที่เป็นสาเหตุของการเกิดอาการท้องผูก และนั่นทำให้ไม่ต้องคิดต่อเลยว่า ชาเขียวที่มีน้ำตาลผสมอยู่นั้น จะสามารถช่วยดูแลสุขภาพของเราให้ยืนยาวปราศจากโรคต่าง ๆ ได้อย่างไร


2. เดินลงดีต่อเข่ามากกว่าเดินขึ้น

เวลาที่จะให้เลือกระหว่างเดินลงบันไดกับเดินขึ้นบันได หลายคนคงจะเลือกเดินลงบันไดมากกว่า หนึ่งเพราะไม่ต้องรู้สึกเหนื่อยมาก และสองทำให้ไม่ปวดขา ปวดเข่าเวลาเดินอีกด้วย

ความเชื่อนี้อาจจะไม่จริงแล้ว เมื่อผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยทั้งไทยและต่าง ประเทศเห็นตรงกันว่า การเดินลงทางลาดชันรวมไปถึงบันไดนั้น จะทำให้ความเครียดเกิดขึ้นที่ข้อ และตัวกระดูกอ่อนของเข่ามากกว่าการเดินขึ้น รวมทั้งมีโอกาสสร้างความบาดเจ็บได้มากกว่า และที่เราคิดว่าการเดินขึ้น น่าจะทำร้ายเข่ามากกว่านั้น เป็นเพราะเวลาที่เราเดินขึ้น เราจะล้าและปวดกล้ามเนื้อมากกว่าเวลาเดินลงนั่นเองครับ


3. กระดูกพรุนต้องกินแคลเซียม

ความเชื่อนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความเชื่อที่ว่า กระดูกของร่างกายมนุษย์เรานั้นมี แคลเซียมเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนั้นเมื่อเกิดภาวะกระดูกพรุน ก็เลยคิดว่าการกินแคลเซียมเข้าไปมาก ๆ จะช่วยทำให้กระดูกแข็งแรงได้

แต่ในความเป็นจริงนั้น การกินแคลเซียมเสริมเข้าไปในร่างกายอย่างเดียว อาจจะไม่ใช่คำตอบของการแก้ปัญหา เพราะการเสริมกระดูกของร่างกายมนุษย์เรานั้นมันมีกลไก และความซับซ้อนหลายอย่าง เช่น อัตราส่วนแคลเซียมต่อแมกนีเซียมที่ใช้ในการดูดซึม เพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด รวมไปถึงการใช้วิตามินดีให้พอเพียงกับปริมาณแคลเซียมที่ได้รับเพิ่มมา เพราะหากมีวิตามินดีไม่มากพอ ร่างกายก็ไม่อาจดูดซึมแคลเซียมที่ได้รับเพิ่มไปใช้ได้อยู่ดี

ดังนั้นการกินแคลเซียมเสริมเข้าไปในร่างกายนั้น ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของการแก้ไขโรคกระดูกพรุนอย่างแน่นอน แต่การออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ และต่อเนื่อง มีโอกาสทำให้ร่างกายได้รับความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนน้อยลง และหากสงสัยว่า มีอาการเริ่มต้นของภาวะกระดูกพรุน ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกจะดีกว่า


4. ซาวน่า ยิ่งอบนานยิ่งสุขภาพดี

ความเชื่อนี้ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะทุกครั้งที่เราออกจากห้องซาวน่าแล้ว น้ำหนักจะลดลงไปหลายขีด แล้วก็จะรู้สึกสบายตัวเป็นอย่างมาก เลยกลายเป็นความเชื่อที่ว่ายิ่งนานยิ่งดี แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีคนเคยเกือบเสียชีวิตเพราะนั่งในห้องซาวน่านานจนเป็นลมไปเลยก็มี ดังนั้นความเชื่อนี้เห็นทีจะไม่ถูกต้อง

การอบซาวน่าหรืออบสมุนไพรที่จะให้ได้ประโยชน์จริงนั้น ชาวฟินแลนด์ต้นตำรับเขาระบุไว้ว่า ต้องเป็นการอบร้อนสลับเย็น โดยอบร้อนเป็นเวลาประมาณ 3-5 นาที จากนั้นก็ลุกออกไปแช่น้ำเย็นประมาณ 1-2 นาที โดยทำสลับกัน 3 รอบ การทำแบบนี้จะส่งผลให้ร่างกายได้รับการกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้ดี เลือดลมเดินสะดวก และรู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย


5. น้ำตาล ของหวาน ช่วยให้สดชื่น

เวลาที่เรารู้สึกเหนื่อย กระหาย อ่อนเพลียนั้น การดื่มน้ำหวาน หรือกินของหวาน ๆ เข้าไปจะทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นได้ ความคิดแบบนี้มีหลาย ๆ คนที่เชื่อเช่นนั้น และให้ความหวานเป็นทางออกของชีวิตเสมอ ๆ

แต่ในความเป็นจริงแล้ว การกินของหวานหรือดื่มน้ำหวาน นอกจากจะไม่ช่วยให้หายจากอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรงแล้ว ยังจะทำให้ร่างกายเรายิ่งแย่ลงไปอีกด้วย เพราะเมื่อเรารับน้ำตาลเข้าไปในร่างกาย ร่างกายก็จำเป็นต้องใช้วิตามินบีร่วมในการเผาผลาญเสมอ ๆ และเมื่อไรที่วิตามินบีหมด ร่างกายก็จะเข้าสู่ภาวะพร่องวิตามินบี ผลที่ตามมาก็คือเหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรงนั่นเอง ดังนั้นใครที่อยากสดชื่น ลองเปลี่ยนมาเป็นน้ำสะอาด ๆ สักแก้วน่าจะช่วยได้ดีกว่าเยอะ


6. ปวดหัว ตัวร้อน ต้องพาราฯ

เคยสังเกตไหมครับว่า ทุกครั้งที่เราไปพบแพทย์ ด้วยอาการไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ยาอย่างหนึ่งที่เรามักจะได้กลับมาเสมอ ๆ ก็คือ ยาพาราเซทามอล บางคนเป็นหวัด บางคนเป็นไข้ แต่หลังจากที่กินยาชนิดนี้ลงไปแล้ว อาการที่เป็นก็ดีขึ้น และทำให้เรารู้สึกดีขึ้น ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงแล้วร่างกายเรากำลังโดนหลอกอยู่ เพราะการกินยาพาราฯ เข้าไปนั้น ไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุด

ก่อนอื่นต้องขออธิบายง่าย ๆ ก่อนว่า ร่างกายของมนุษย์ทุกคนนั้น มีสารชนิดหนึ่งที่สามารถต่อสู้กับโรคภัยต่าง ๆ ที่เข้ามากล้ำกรายร่างกายเราอยู่แล้ว นั่นก็คือ เม็ดเลือดขาว และเมื่อเราเจ็บป่วย เม็ดเลือดขาวก็จะต่อสู้แทนเราทุก ๆ ครั้ง และจะทำงานได้ดีในอุณหภูมิที่สูงกว่าอุณหภูมิร่างกาย

หมายความง่าย ๆ ก็คือเวลาที่เราตัวร้อนนั้น สาเหตุก็เนื่องมาจากเม็ดเลือดขาวกำลังต่อสู้อยู่ และกำลังจะเอาชนะเชื้อโรคต่าง ๆ ที่บุกเข้าไป แต่เมื่อเรากินยาพาราเซทามอลเข้าไป ร่างกายก็ปรับอุณหภูมิเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งเป็นภาวะที่เชื้อโรคชื่นชอบ ทำให้เม็ดเลือดขาวเสียเปรียบ ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ โรคที่เป็นอยู่ก็แค่ถูกกดทับไว้เท่านั้น แทนที่ร่างกายจะแข็งแรงเร็วขึ้น กลับกลายเป็นเลี้ยงไข้ไปแทน

นอกจากนี้ ยังมีผลข้างเคียงจากยาพาราเซทามอลนี้อีก เพราะส่งผลรุนแรงต่อตับ ดังนั้นไม่ควรกินติดต่อกันเกิน 5 วัน วิธีที่ดีที่สุดในการแก้ตัวร้อนก็คือ การเช็ดตัว เพราะจะช่วยทำให้ร่างกายถูกกระตุ้น และทำงานได้มีประสิทธิภาพที่สุด ส่วนอาหารปวดหัวพักผ่อนให้เพียงพอแค่นี้อาการก็ดีขึ้นเอง อย่าถึงขั้นต้องกินยาเลยครับ


7. อาหารเสริมรักษาโรค

ถ้าลองอ่านสลากข้างขวดของอาหารเสริมทุกขวดดี ๆ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า มีการเขียนระบุไว้ว่า "ไม่มีผลต่อการรักษาโรค" เพราะอาหารเสริมก็คืออาหารเสริม ไม่ใช่ยาที่จะทำหน้าที่เข้าไปรักษาโรคใด ๆ ได้ อาหารเสริมนั้นเป็นเพียงตัวช่วยที่ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารต่าง ๆ ที่ขาดในรูปแบบที่รวดเร็วและสะดวกเท่านั้น แต่ไม่สามารถรักษาโรคนั้น ๆ ที่เป็นได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์

การกินอาหารเสริมยังทำให้ผู้คนหลงผิดคิดว่า ไม่จำเป็นต้องห่วงสุขภาพ ละเลยต่อการกินอาหารที่ดี รวมไปถึงไม่ออกกำลังกาย เพราะแม้อาหารเสริมระดับเทพก็คงไม่สามารถช่วยเยียวยาใด ๆ ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นการกินอาหารดี ๆ ผักสด ผลไม้สด ข้าวกล้อง รวมทั้งออกกำลังกายเป็นประจำ ก็ทำให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุอย่างพอเพียงแล้ว หากแต่ถ้าทำไม่ได้ การรู้จักใช้อาหารเสริมเป็นส่วนช่วยเพิ่มก็เป็นเรื่องที่ดี


8. ดื่มน้ำมาก ๆ ดีต่อสุขภาพแน่นอน

ความเชื่อนี้ทำให้คนจำนวนไม่น้อย ดื่มน้ำกันละทีเป็นลิตร ๆ บางคนยิ่งรู้ว่ายิ่งดื่มยิ่งดีต่อสุขภาพ ก็ดื่มวันละหลายขวด หลายลิตร เรียกกันว่าดื่มกันลิตรต่อลิตรเลยทีเดียว

การดื่มน้ำเยอะเกินไปแบบนี้เมื่อสะสมเป็นเวลานานเข้า ร่างกายก็จะเกิดอาการปัสสาวะมาก มีสีใส มือเท้าเย็น ทำให้ร่างกายรู้สึกหนาวง่าย นานวันเข้าก็เกิดเป็นอาการสะสมที่เรียกว่าอ่อนเพลียเรื้อรัง ขาอ่อนแรง และมีสิทธิ์ที่จะหย่อนสมรรถภาพทางเพศสูงอีกด้วย

เหตุผลง่าย ๆ ที่ทำให้เป็นเช่นนี้ เพราะเวลาดื่มน้ำเข้าไปมาก ๆ นั้น ไตก็จะทำหน้าที่คัดกรองสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเก็บไว้ เช่น เกลือแร่ แต่เมื่อเราดื่มน้ำเข้าไปมากเกินความจำเป็น ก็ทำให้ไตทำงานมากขึ้น เมื่อผ่านช่วงเวลาสะสมนานเข้า ก็กลายเป็นอาการ "พร่องพลังไต" นั่นเอง

แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะพร่องพลังไตกันหมด เพราะแม้ในมื้ออาหารที่เรากินเข้าไปในแต่ละมื้อจะมีน้ำอยู่แล้ว และเราก็กินน้ำอยู่ตลอดทั้งวัน แต่ร่างกายเราก็มีการขับถ่ายของเสียประเภทน้ำออกทางเหงื่อ ปัสสาวะ แถมยังใช้ในกระบวนการต่าง ๆ ของร่างกายอยู่แล้ว ดังนั้นหากไม่ดื่มน้ำเลย หรือดื่มน้ำน้อยไปก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพเช่นกัน

ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ อย่ารอให้หิวกระหายน้ำ แล้วค่อยดื่มน้ำ แต่ควรจิบน้ำอยู่เป็นประจำตลอดทั้งวัน ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องไปเข้าห้องน้ำบ่อย หรือจะทำให้ไตทำงานหนัก เพราะการดื่มน้ำสะอาด ๆ เป็นประจำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว มีผลทำให้ผิวเรามีสุขภาพดี รวมไปถึงร่างกายเราก็สุขภาพดีอีกด้วย


9.กินไขมันแย่ ตายผ่อนส่ง

เป็นอีกหนึ่งความเชื่อที่หลาย ๆ คนคิด และยืนยันในการเลือกกินอาหารไร้มัน เพราะจะทำให้น้ำหนักขึ้น แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดของสิ่งที่ไขมันมีอย่างแน่นอน เพราะนอกจากความอ้วนแล้ว ไขมันยังมีประโยชน์ในส่วนของเป็นสารประกอบพื้นฐานในเยื่อหุ้มเซลล์ ช่วยสร้างเนื้อเยื่อของสมองและเส้นประสาท และมีความสำคัญในการทำให้เซลล์ เนื้อเยื่อ ต่อม และอวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้ตามปกติ แถมยังเป็นตัวช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพ และให้พลังงานที่เสถียรกับ ร่างกายในระยะยาว

ไขมันยังเป็นตัวที่ช่วยในเรื่องของการละลายวิตามิน A, D, E, K ซึ่งมักจะพบมากในพวกถั่วเปลือกแข็งต่าง ๆ เช่น อัลมอลด์ วอลนัท เมล็ดธัญพืชต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งอาหารจำพวกปลาที่มีไขมันสูงก็มีประโยชน์ เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า หรือผลไม้อย่าง อะโวคาโด้ มะกอก ก็มีกรดไขมันตัวดีที่นำไปใช้ และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายด้วยเช่นกัน


10. กินผลไม้เยอะ ๆ มีประโยชน์

ความเชื่อนี้เกือบจริง เพราะผลไม้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์และมีวิตามิน แถมมีกากใยอีกต่างหาก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าการกินผลไม้ชนิดเดียวกันมาก ๆ ต่อเนื่องยาวนานจะมีประโยชน์

อย่างเช่น ถ้าเรากินทุเรียนหลังอาหารเย็นทุกวัน คุณคิดว่าจะทำให้สุขภาพดีขึ้นไหม เพราะในผลไม้นั้นมีน้ำตาลฟรุกโตสเป็นสารให้ความหวานหลัก ซึ่งมีโอกาสส่งผลให้ผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน มีอาการน้ำตาลในเลือดสูง หรือแม้กระทั่งผู้ป่วยโรคหัวใจหรือความดันโลหิตสูงก็ตาม ผลไม้บางชนิดก็ไม่เหมาะด้วยเช่นกัน

ที่มา : health.kapook.com

มาออกบูธที่คุนหมิง กับ Ispira Facial Soap
15/06/2016

มาออกบูธที่คุนหมิง กับ Ispira Facial Soap

อากาศร้อนๆ ปรับสายตามามองอะไรที่เย็นสบาย หายเหนื่อย สดชื่นทั้งวันกับสีชมพูนะคะ.
19/04/2016

อากาศร้อนๆ ปรับสายตามามองอะไรที่เย็นสบาย หายเหนื่อย สดชื่นทั้งวันกับสีชมพูนะคะ.

ที่อยู่

Maha Chai

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Ruen Dhammasiri เรือนธรรมศิริผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ การปฏิบัติ

ส่งข้อความของคุณถึง Ruen Dhammasiri เรือนธรรมศิริ:

แชร์

Share on Facebook Share on Twitter Share on LinkedIn
Share on Pinterest Share on Reddit Share via Email
Share on WhatsApp Share on Instagram Share on Telegram