26/10/2025
LDH: "นักสืบแห่งเซลล์" สัญญาณเตือนภัยเมื่อร่างกายกำลังพัง!
เคยสงสัยไหมคะว่า เวลาเราป่วยหนักๆ หรือสงสัยว่าอวัยวะภายในเสียหาย หมอถึงต้องสั่งตรวจเลือดที่ชื่อ LDH (Lactate Dehydrogenase)?
LDH ไม่ใช่ตัวก่อโรคค่ะ แต่มันคือ "เอนไซม์" (Enzyme) ที่มีชีวิตชีวา ทำงานอย่างแข็งขันอยู่ "ภายใน" เซลล์เกือบทุกชนิดทั่วร่างกายของเรา ตั้งแต่สมอง หัวใจ ปอด ตับ ไต กล้ามเนื้อ ไปจนถึงเม็ดเลือดแดง
หน้าที่หลักของมันคือการเป็น "กุญแจสำคัญ" ในกระบวนการสร้างพลังงานแบบไม่ใช้ออกซิเจน (Anaerobic glycolysis) พูดง่ายๆ คือ ช่วยให้เซลล์มีพลังงานใช้ในยามคับขันที่ขาดออกซิเจนค่ะ
📌แล้วมันมาอยู่ในเลือดได้อย่างไร?
ปกติแล้ว LDH จะอยู่อย่างสงบเสงี่ยมในบ้านของมัน (คือในเซลล์) แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เซลล์ "บาดเจ็บ" "อักเสบ" หรือ "แตกตาย" (Cell injury or Necrosis) เปลือกนอกของเซลล์ (Cell membrane) จะฉีกขาด ทำให้ทุกสิ่งที่อยู่ข้างในทะลักออกมาสู่กระแสเลือด... และ LDH ก็คือหนึ่งในนั้น!
ดังนั้น ยิ่งเซลล์ตายมากเท่าไหร่ ค่า LDH ในเลือดก็จะยิ่งสูงปรี๊ดเท่านั้น มันจึงเป็น "สัญญาณเตือนภัย" (Alarm marker) ชั้นดีที่บอกเราว่า "มีบางอย่างผิดปกติร้ายแรงเกิดขึ้นกับเซลล์ในร่างกาย!"
📌กลไกระดับโมเลกุล (Pathophysiology): ทำไมเซลล์พัง LDH ถึงสูง?
ในภาวะปกติ เซลล์ของเราจะสร้างพลังงาน (ATP) ผ่านการหายใจระดับเซลล์แบบใช้ออกซิเจน (Aerobic respiration) ซึ่งให้พลังงานสูง แต่ในภาวะที่ออกซิเจนต่ำ (Hypoxia) เช่น ออกกำลังกายหนักมาก, ภาวะช็อก, หรือในเซลล์มะเร็งที่โตเร็วเกินไป (ที่เรียกว่า Warburg effect) เซลล์จะถูกบีบให้ใช้กระบวนการ Anaerobic Glycolysis แทน
▪️กลูโคส (Glucose) จะถูกย่อยสลายเป็น ไพรูเวต (Pyruvate)
▪️ ณ จุดนี้เองที่ LDH จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยเร่งปฏิกิริยาเปลี่ยน ไพรูเวต -> แลคเตท (Lactate)
▪️ กระบวนการนี้จะสร้าง NAD+ กลับคืนมา ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งยวดต่อการดำเนินกระบวนการ Glycolysis ต่อไป เพื่อให้เซลล์พอมีพลังงานประทังชีวิต
เอนไซม์ LDH พบได้ในทุกเซลล์ แต่ความเข้มข้นจะสูงมากในเซลล์ที่มีการเผาผลาญสูง เช่น หัวใจ, ตับ, กล้ามเนื้อ, ไต และ เม็ดเลือดแดง (RBCs) เมื่อเซลล์เหล่านี้เสียหายจากสาเหตุใดก็ตาม (เช่น ขาดเลือด, ติดเชื้อ, สารพิษ, มะเร็ง) เอนไซม์ LDH ที่อัดแน่นอยู่ภายในก็จะรั่วไหลออกมาสู่กระแสเลือดทันที ทำให้ระดับ LDH ที่เราตรวจวัดได้ "สูงขึ้น" ค่ะ
📌เจาะลึกไปอีกขั้น: 5 พี่น้องตระกูล LDH (Isoenzymes)
ความจริง LDH ไม่ได้มีแค่ตัวเดียว แต่เป็นครอบครัวที่มีสมาชิก 5 ชนิด (Isoenzymes) ซึ่งมีโครงสร้างต่างกันเล็กน้อย และพบในอวัยวะที่ต่างกัน:
▪️ LDH-1 (HHHH): พบมากใน หัวใจ และ เม็ดเลือดแดง
▪️ LDH-2 (HHHM): พบมากในระบบ RES (เช่น ม้าม) และเม็ดเลือดขาว
▪️ LDH-3 (HHMM): พบมากใน ปอด
▪️LDH-4 (HMMM): พบมากใน ไต และ ตับอ่อน
▪️ LDH-5 (MMMM): พบมากใน ตับ และ กล้ามเนื้อลาย
ในอดีต การแยกชนิด LDH isoenzymes จะช่วยชี้ชัดได้มากขึ้นว่าความเสียหายเกิดที่อวัยวะใด เช่น
▪️ Flipped Pattern (LDH-1 > LDH-2): เป็นสัญญาณคลาสสิกของ กล้ามเนื้อหัวใจตาย (MI) หรือ ภาวะเม็ดเลือดแดงแตกอย่างรุนแรง (Hemolysis)
▪️High LDH-5: ชี้ไปที่ โรคตับ หรือ กล้ามเนื้อสลาย (Rhabdomyolysis)
(หมายเหตุ: ปัจจุบันเรามีเอนไซม์ที่จำเพาะกว่า เช่น Troponin สำหรับหัวใจ หรือ ALT/AST สำหรับตับ การตรวจ LDH isoenzymes จึงลดความนิยมลง แต่กลไกนี้ยังคงเป็นพื้นฐานพยาธิสรีรวิทยาที่สำคัญค่ะ)
📌ข้อบ่งชี้ในการตรวจ (Indications): เมื่อไหร่ถึงต้องตรวจ LDH?
เนื่องจาก LDH เป็นตัวบ่งชี้ "การทำลายล้างเซลล์" ที่ไม่จำเพาะเจาะจง (Non-specific) หมอจึงมักใช้มันในสถานการณ์ต่อไปนี้:
▪️เพื่อประเมินความเสียหายของเนื้อเยื่อ: เมื่อสงสัยว่ามีอวัยวะใดอวัยวะหนึ่งเสียหาย แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นที่ใด
▪️เพื่อติดตามการดำเนินโรค: ใช้ติดตามดูว่าโรคที่เป็นอยู่ (เช่น มะเร็ง, โรคตับ) กำลังแย่ลงหรือดีขึ้น
▪️ เพื่อประเมินความรุนแรงของโรค: ค่า LDH ที่สูงมาก มักสัมพันธ์กับความรุนแรงของโรค เช่น ในภาวะ Sepsis, ช็อก, หรือการพยากรณ์โรคในมะเร็งบางชนิด (เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง, มะเร็งอัณฑะ)
▪️เพื่อช่วยวินิจฉัยภาวะเม็ดเลือดแดงแตก (Hemolysis): หากสงสัยภาวะโลหิตจางจากการแตกของเม็ดเลือดแดง LDH จะสูงขึ้นอย่างชัดเจน
📌การอ่านและแปลผล (Interpretation)
ค่าปกติของ LDH อาจแตกต่างกันไปในแต่ละห้องปฏิบัติการ (โดยทั่วไปประมาณ 140–280 U/L) (ขึ้นอยู่กับกลุ่มประชากร ห้องปฏิบัติการ เทคโนโลยีที่ใช้ตรวจ)
📈 ผล LDH "สูง" (Elevated LDH)
นี่คือจุดที่เราให้ความสนใจ! มันแปลว่า "มีการทำลายเซลล์เกิดขึ้น" สาเหตุมีมากมายมหาศาล ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยไปจนถึงโรคร้ายแรง:
▪️ภาวะเม็ดเลือดแดงแตก (Hemolysis): ทั้งที่แตกในร่างกาย (เช่น โรค G6PD, ธาลัสซีเมีย) หรือแตกในหลอดเลือด (In vitro) ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญ (ดูด้านล่าง)
▪️โรคหัวใจ: กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (MI)
▪️ โรคตับ: ตับอักเสบ (Hepatitis), ตับแข็ง, ตับวาย
▪️โรคกล้ามเนื้อ: กล้ามเนื้ออักเสบ, กล้ามเนื้อสลาย (Rhabdomyolysis) จากการออกกำลังกายหนักมากหรืออุบัติเหตุ
▪️ โรคมะเร็ง: โดยเฉพาะมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma), มะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukemia), และมะเร็งที่มีการแพร่กระจาย (Metastasis) ค่า LDH มักใช้เป็นตัวบอกการพยากรณ์โรค
▪️การติดเชื้อรุนแรง: ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (Sepsis), เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
▪️ ภาวะขาดออกซิเจน: ภาวะช็อก, ขาดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะ (Ischemia)
▪️ อื่นๆ: โรคไต, การบาดเจ็บรุนแรง, ยาบางชนิด
📉 ผล LDH "ต่ำ" (Low LDH)
พบน้อยมาก และมักไม่ค่อยมีความสำคัญทางคลินิกค่ะ อาจพบได้ในคนที่บริโภควิตามิน C ปริมาณสูงมากๆ หรือในผู้ป่วยโรคทางพันธุกรรมที่หายากมากซึ่งขาดเอนไซม์ LDH
📌ข้อจำกัด (Limitations)
นี่คือส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับชาวแล็บและบุคลากรทางการแพทย์ค่ะ
▪️ ความไม่จำเพาะเจาะจง (Non-specific): นี่คือข้อจำกัดหลัก! LDH สูง บอกได้แค่ว่า "มีเซลล์ตาย" แต่บอกไม่ได้ว่า "ที่ไหน" หรือ "เพราะอะไร" มันจึงเหมือน "สัญญาณไฟเตือน (Check Engine Light)" ของรถยนต์ ที่ต้องไปตรวจเช็กอย่างอื่น (เช่น Troponin, ALT, AST) เพื่อหาต้นตอที่แท้จริง
▪️การแตกของเม็ดเลือดแดงในหลอดทดลอง (In vitro Hemolysis): ‼️ นี่คือหายนะอันดับ 1 ‼️
➖อย่างที่บอกค่ะว่า เม็ดเลือดแดงอัดแน่นไปด้วย LDH
➖ หากกระบวนการเจาะเลือด, การขนส่ง, หรือการปั่นเลือด ทำได้ไม่ดี (เช่น เจาะเลือดยาก, เขย่าหลอดแรง, ปั่นแรงเกินไป) เม็ดเลือดแดงจะ "แตก" คาหลอดเลือด
➖ LDH จะทะลักออกมาในน้ำเหลือง (Serum/Plasma) ทำให้ผลตรวจ "สูงปลอม" (Falsely elevated) อย่างมหาศาล
➖ สิ่งนี้อาจนำไปสู่การวินิจฉัยที่ผิดพลาดและการรักษาที่ไม่จำเป็นได้เลยค่ะ นี่คือเหตุผลที่นักเทคนิคการแพทย์ต้อง "จ้อง" ดูสีของน้ำเหลือง (Hemolysis index) ก่อนรายงานผลทุกครั้ง
สรุป
LDH คือเอนไซม์ "นักสืบ" ที่มีประโยชน์มหาศาลในการประเมินภาพรวม "ความเสียหายของเซลล์" ในร่างกาย แม้จะไม่จำเพาะเจาะจง แต่ค่าที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ก็เป็น "สัญญาณเตือนภัย" ที่เราห้ามมองข้ามเด็ดขาดค่ะ
การแปลผล LDH ต้องทำอย่างระมัดระวัง โดยอาศัยประวัติ การตรวจร่างกาย และผลแล็บอื่นๆ ประกอบกันเสมอ และที่สำคัญที่สุด... ต้องแน่ใจว่าผลนั้นไม่ได้ "สูงปลอม" จากการที่เม็ดเลือดแดงแตกในหลอดทดลองนะคะ!
แหล่งอ้างอิง:
1. Cleveland Clinic. (2022, February 21). LDH (Lactate Dehydrogenase) Test. Cleveland Clinic.
2. Farhana, A., & Lappin, S. L. (2024). Biochemistry, Lactate Dehydrogenase. In StatPearls. StatPearls Publishing.
3. Lab Tests Online. (2021, December 13). Lactate Dehydrogenase (LDH). American Association for Clinical Chemistry (AACC).
#แลคเตทดีไฮโดรจีเนส #ตรวจเลือด #ค่าเลือด #ผลแล็บ #เอนไซม์ #เซลล์แตก #พยาธิสรีรวิทยา #เม็ดเลือดแดงแตก #มะเร็ง #โรคหัวใจ #โรคตับ #นักเทคนิคการแพทย์ #ห้องแล็บ #วิทยาศาสตร์การแพทย์ #สุขภาพ #ความรู้สุขภาพ